คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : มดยักษ์แห่งอำนาจความอาฆาตพยาบาท
มดยักษ์
Giant Ants
“มันอะไรกันเนี่ย!” คนชุดเทาอุทาน
มองมดยักษ์ตัวใหญ่สีแดงดังเพลิงสองตัวตรงหน้าที่ขยายตัวใหญ่ขึ้นอย่างมโหฬารจนสูงท่วมหัว เขาและเธอกลับกลายเป็นมดน้อยเสียเอง มันกำลังส่ายหัวส่งเสียงคำรามดังกึกก้อง สาวเท้าดาหน้าเข้ามาหาอย่างโกรธแค้นเต็มประดา
เจ้าชายแรร์เน็สยกดาบชี้ไปข้างหน้าขนานกับพื้นดิน สีหน้ามีแววกังวล เพราะพละกำลังยังฟื้นกลับคืนมาไม่เต็มที่ ถ้ามีการใช้กำลังต่อสู้ในขณะนี้ พละกำลังจะลดลงอีก รู้สึกหงุดหงิดกับพิษตะขาบที่คอยบั่นทอนกำลังตลอดเวลา
“เจ้าอย่าฆ่ามันนะ” คนชุดเทาไม่วายห้ามปรามด้วยเสียงร้อนรน และสัมผัสได้ว่า มันเกิดจากการแบ่งตัวของความอาฆาตพยาบาท เป็นความเคียดแค้นที่จะทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ และตามจองล้างจองผลาญกันอย่างไม่มีวันจบสิ้น ยกเว้นว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะอโหสิกรรมให้
บุรุษผมเทากระโดดลอยตัวขึ้นไปในอากาศอย่างว่องไวหลบขายาวของมดยักษ์ที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว แววตาสีแดงจัดหมายบดขยี้ร่างของชายหนุ่มให้แหลกละเอียดในพริบตา เจ้าชายกลิ้งหลบไปตามพื้นดิน เอาดาบฟันขาแต่ละข้างของมดยักษ์ให้บาดเจ็บ เพื่อไม่ให้มันเดินหรือเคลื่อนไหวได้อย่างถนัด ต่อหน้าคนชุดเทาคนนี้ ทำไมรู้สึกไม่กล้าที่จะพิฆาตฆ่าฟันมันอย่างเต็มไม้เต็มมืออย่างเคย ที่ผ่านมาศัตรูไม่เคยได้รับความปรานีใด ๆ จากเจ้าชาย
คนชุดเทาได้แต่เฝ้ามองเจ้าชายอย่างใจหายใจคว่ำด้วยความเป็นห่วง และแทบต้องหยุดหายใจเมื่อมดยักษ์อีกตัวเดินมาทางข้างหลังเจ้าชายอย่างรวดเร็วมาก เสี้ยววินาทีนั้นคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เท่าที่ทำได้คือ รีบพุ่งตัวเข้าไปขวางตัวบุรุษผมเทาเอาไว้ เจ้าชายหันกลับมาดึงร่างเล็กหลบ พร้อมกับใช้ดาบฟันหัวเจ้ามดยักษ์ขาดกระเด็นไปอย่างแม่นยำ
ศีรษะของมดยักษ์กลิ้งไปตามพื้นดิน น้ำเหลวสีหม่นพุ่งกระจายเป็นสายราวกับทำนบแตก ร่างที่ปราศจากศีรษะส่ายไปมาอย่างเจ็บปวดเหลือประมาณ ร่างที่ปราศจากหัวของมดยักษ์ตัวนั้นเกิดการแบ่งตัวอีกครั้ง
แบ่งตัวจากความอาฆาตแค้นที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
รวดเร็วปานสายฟ้าแลบก่อร่างสร้างตัวใหม่ขึ้นมาจากส่วนลำตัวที่ปราศจากศีรษะ เกิดการแบ่งตัวกลายเป็นสองตัว และส่วนหัวที่กลิ้งไปตามพื้นดินเกิดการแบ่งตัวอีกเช่นเดียวกัน รวมกันกลายเป็นสี่ตัว รวมกับตัวเดิมอีกเป็นห้าตัว
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
เจ้าชายมองมดยักษ์ดาหน้าเข้ามาพร้อมกันล้อมไว้หมดทุกด้าน พละกำลังที่กลับคืนมาถูกใช้ไปจนค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว ยิ่งเพิ่มความเครียดหนักให้กับเจ้าชาย พิษของตะขาบที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดนั้น ทำให้ต้องใช้กำลังมากขึ้นกว่าเดิม แล้วตัดสินใจรวบรวมกำลังส่วนสุดท้ายพาคนชุดเทากระโดดออกมาจากวงล้อมไปได้ ก่อนจะหมดแรงล้มลงกับพื้น หายใจหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย
“เจ้าเป็นไงบ้าง” คนชุดเทาถามด้วยความเป็นห่วงอย่างที่สุด สายตาคอยเหลือบมองฝูงเจ้ามดยักษ์กำลังเดินดาหน้าตรงมา ด้วยลำตัวอันใหญ่โตของมันทำให้มันเคลื่อนไหวได้ช้าไม่ว่องไวเท่าที่ควรจะเป็น
“เจ้า…หนี…ไป….” เจ้าชายพูดขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อนเต็มที พละกำลังลดลงจนถึงจุดวิกฤต แล้วใช้ฝ่ามือผลักคนชุดเทาให้ออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
“ไม่นะ!” เจ้าของร่างเล็กรวบรวมกำลังทั้งหมดแบกเจ้าชายขึ้นหลังอย่างยากลำบาก แล้วพาเดินไปอย่างทุลักทุเลเต็มที
“ข้าปล่อยให้เจ้าตายที่นี่ไม่ได้!” แววตาสีมรกตมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว แม้ว่ามือจะไม่เคยจับดาบ จับแต่หนังสือตำรับตำรามาตลอด แต่จิตใจไม่เคยขลาดกลัวกับสิ่งที่ต้องเผชิญหน้า
มดยักษ์ทั้งห้ายังไม่เลิกละความพยาบาท ส่ายหัวไปมาอย่างสะใจ แผดเสียงคำรามสนั่นหวั่นไหว
รี่เดินตามมาอย่างไม่ละลด ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
พื้นดินที่เต็มไปด้วยหินขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ บวกกับน้ำหนักตัวของเจ้าชายที่ไม่ใช่น้อย ๆ เพิ่มความยากลำบากหนักขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ทุกย่างก้าวที่ก้าวเท้าไปข้างหน้าเป็นไปได้ช้าและต้องระมัดระวัง ขานั้นสั่นเทาด้วยน้ำหนักที่ต้องแบกรับ และเริ่มอ่อนล้าลงไปทุกขณะ มิหนำซ้ำยังสะดุดก้อนหินขนาดเขื่อง ทำให้เสียหลักล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เงาของมดยักษ์เริ่มคลืบคลานใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที
คนชุดเทากัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดทั้งหมด พยายามฝืนความเจ็บปวดลุกขึ้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้หัวเข่าและแข้งขาจะอ่อนล้าเจ็บระบมไปหมด ทั้งยังถลอกปอกเปิดเป็นแผลเลือดออกเพราะครูดกับเหลี่ยมคมของหินน้อยใหญ่ แต่จิตใจที่มุ่งมั่นและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เมื่อยังมีลมหายใจอยู่ต้องทำต่อไปอย่างสุดความสามารถ รวบรวมแรงฮึดลากร่างเจ้าชายให้หลบเข้าไปในพุ่มไม้เท่าที่พอมีกำลังเหลืออยู่
แต่ทว่าก่อนจะถึงพุ่มไม้ใบหนานั้น มดยักษ์เดินเข้ามาประชิดตัวอย่างทันควัน การทิ้งคนอื่นเพื่อเอาตัวรอดเพียงผู้เดียว ไม่ใช่นิสัยของเจ้าหญิงเฟรนลี่ เมื่อสุดทางหนี ตายต้องตายด้วยกัน เจ้าหญิงได้แต่กอดเจ้าชายไว้ในอ้อมแขนแน่น
วินาทีนั้น!!
พละกำลังของเจ้าชายคืนกลับมาครึ่งหนึ่ง เจ้าชายพาคนชุดเทาล้มกลิ้งไปกับพื้นหลบเขี้ยวคมของมดยักษ์ที่พุ่งโถมลงมาอย่างรวดเร็ว มดยักษ์ตัวนั้นปักเขี้ยวลงกับพื้นดินเมื่อเป้าหมายกลิ้งหลบไปได้อย่างทันท่วงที เศษดินเศษหินกระจุยกระจาย ร่างเล็กถูกเหวี่ยงเข้าไปในพุ่มไม้ทันที มดยักษ์อีกตัวหนึ่งรี่เข้ามาใช้ปากแทงลงไปบนหน้าอกของเจ้าชายซึ่งยังไม่ทันตั้งตัว
“ฉึก!!!” สองเขี้ยวจมมิดลงบนแผ่นอกของบุรุษผมเทา
มดยักษ์กดหัวทิ่มลง ออกแรงแทงลึกลงไปบนหน้าอก จนทะลุแผ่นหลังของเจ้าชายไปถึงอีกด้านหนึ่งด้วยความโกรธแค้นและไม่มีวันปล่อยให้รอดชีวิตไปได้
“อ๊ากกกกกกกกกก!!!” เจ้าชายร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด
“เแรร์เน็ส…….!!!!”
คนชุดเทาแผดร้องเสียงลั่นอย่างตกใจสุดขีด
มดยักษ์ตัวอื่นต่างดาหน้ากันเข้ามาใกล้ ก่อนที่เจ้าชายจะถูกรุมทึ้งฉีกเป็นชิ้น ๆ คนชุดเทารีบวิ่งออกมาจากพุ่มไม้ นึกขึ้นได้อย่างหนึ่ง รีบไปถอนกอหญ้าริมน้ำขึ้นมาสองสามกอใหญ่ ๆ แล้ววิ่งไปหามดยักษ์อย่างไม่เกรงกลัว มดยักษ์ตัวหนึ่งพุ่งหัวลงมาทำร้ายหมายปลิดชีวิต เจ้าหญิงเหวี่ยงหญ้าใส่ปากมดยักษ์อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ ทันทีที่หญ้าเข้าปากมดยักษ์ มดยักษ์ตัวนั้นแผดเสียงดังส่ายหัวไปมา เพราะรสขม ฝาดและเฝื่อนสุด ๆ
เจ้าชายแรร์เน็สใช้ดาบแทงเข้าที่ตาของมดยักษ์ที่ปักเขี้ยวลงมาบนหน้าอกจนจมมิด มดยักษ์จึงดึงหัวขึ้นมาร้องเสียงดังอย่างเจ็บปวด เลือดแดงเข้มพุ่งทะลักออกมาจากบาดแผลบนแผ่นอกของเจ้าชายไหลเป็นสายธารเลือด เสื้อสีขาวหม่นกลายเป็นสีแดงเข้ม มือข้างหนึ่งกดแผลนั้นไว้ข่มความเจ็บปวดทรมาน กัดฟันรีบวิ่งมาหาคนชุดเทา มองซ้ายมองขวาหาทางหนีที่ปลอดภัยที่สุด หันไปมองแม่น้ำอันกว้างใหญ่
“เฟรนลี่! เจ้าว่ายน้ำเป็นรึเปล่า” แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบ เจ้าชายผลักคนชุดเทาหลบไป เมื่อเจ้ามดยักษ์ที่เหลือพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ร่างชุดเทาเซถลาล้มลงและลื่นพลัดตกลงไปในแม่น้ำ เจ้าชายยัดหญ้าที่เหลือใส่ปากมดยักษ์แล้วกลิ้งตัวหลบไป รีบหันไปมองร่างเล็กในแม่น้ำ เห็นกำลังตะเกียกตะกาย ผลุบ
ๆ โผล่
ๆ
“บ้าจริง! เจ้าว่ายน้ำไม่เป็นหรือ?” ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกเป็นห่วงคนชุดเทา
ทันใดนั้นเองเจ้าชายถูกมดยักษ์ใช้ขาตบทีเผลอ จนล้มลงกลิ้งไปกับพื้นราวกับลูกฟุตบอล มดยักษ์ต่างรวมทีมรุมแย่งกันเตะไปเตะมา พอได้จังหวะลุกขึ้นมาได้ เจ้าชายมองแม่น้ำที่อยู่ด้านหลังของมดยักษ์ ซึ่งกำลังเดินหน้ากระดานเข้ามาขวางทางไว้ เหมือนรู้ว่าเจ้าชายจะต้องหนีลงแม่น้ำ บุรุษผมเทาตัดสินใจรวบรวมกำลัง ฮึดกระโดดขึ้นไปเหยียบหัวมดยักษ์เพื่อเป็นแรงส่งพุ่งตัวลงแม่น้ำทันที
เหล่ามดยักษ์ได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างเดือดดาล แผดเสียงร้องลั่น หยุดอยู่ที่ริมแม่น้ำนั้นเอง
เลือดแดงข้นไหลออกมากระจายปนกับสายน้ำ พละกำลังลดลงถึงขีดอันตราย เจ้าชายแรร์เน็สรู้ตัวเองดีว่าจะต้องรีบขึ้นฝั่งให้เร็วที่สุด ถ้าใช้กำลังมากกว่านี้จะเกิดผลอย่างไร การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลงทุกขณะ แต่เจ้าชายกัดฟันว่ายทวนกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากค้นหาคนชุดเทาจนเจอ และไม่อาจปล่อยเธอไว้ลำพังท่ามกลางสายน้ำอันเฉียบเย็นเช่นนี้ รีบคว้าร่างที่กำลังจมดิ่งลงสู่ความเวิ้งว้างเบื้องล่างของก้นแม่น้ำเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แล้วฝืนกำลังพาขึ้นเหนือผิวน้ำอย่างเร็วที่สุด
เมื่อว่ายถึงฝั่ง เจ้าชายหยุดหายใจหอบถี่ ๆ รู้สึกเหนื่อยล้าจนแทบขาดใจ ลำคอแห้งผากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปวดกระดูกไปทั่วทั้งตัวราวกับจะแหลกละเอียด มืออันสั่นเทาข้างหนึ่งจับกอหญ้าริมตลิ่งไว้แน่น มองบรรยากาศรอบตัว ดวงตะวันกำลังลับเหลี่ยมเขาด้านตะวันตก ฟ้ามืดเร็วผิดปกติ ด้วยเมฆฝนเริ่มตั้งเค้า สายลมหวีดหวิวพัดต้นไม้ใบหญ้าเอนลู่ตามลมแรง ดินและเศษใบไม้ปลิวว่อนกระจุยกระจาย ราวกับกำลังจะมีพายุ ก่อนท้องฟ้าจะทิ้งเม็ดฝนโปรยปรายลงมาสู่พื้นดิน
กระท่อมเบื้องหน้าอยู่ไม่ไกลนัก เจ้าชายแข็งใจอุ้มคนชุดเทาขึ้นตั้งใจจะไปให้ถึงกระท่อมตรงหน้าให้ได้ แต่ทว่าเดินซวนเซไปได้ไม่กี่ก้าวก็หมดแรงทรุดลงหมดสติไปทันที
ความกังวลใจ ความห่วงใย ทำให้เจ้าชายค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง ทั้งที่เหนื่อยล้าเหลือเกิน คล้ายจิตใต้สำนึกคอยเตือนถึงภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น ร่างสูงนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้น ฝนเริ่มตกเปาะแปะ เกิดเสียงดังกระทบใบไม้ใบหญ้าเบา ๆ เจ้าชายอุ้มคนชุดเทาเดินฝ่าเม็ดฝนพร่างพรายสายบางเบาอันฉ่ำเย็น ตรงไปยังเป้าหมายที่ได้ตั้งใจไว้
ร่างเล็กบอบบางถูกวางลงกับพื้น พร้อม
ๆ กับร่างสูงนั้นล้มลงอย่างเหน็ดเหนื่อย สักครู่จึงแข็งใจลุกขึ้น หายใจเข้าแรง ๆ ยกมือเสยผมและปาดหยาดน้ำที่ไหลมาจากศีรษะและเส้นผม มองดูแผลลึกฉกรรจ์ของตัวเอง เลือดหยุดไหลแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เมื่อมองเห็นไอเย็นแผ่กระจายออกมาจากบาดแผลนั้น เกิดเป็นควันจาง ๆ ร่างกายกำลังซ่อมแซมรักษาบาดแผลนั้นด้วยตัวเอง
“เฟรนลี่! เจ้าเป็นไงบ้าง” เจ้าชายตบหน้าคนชุดเทาถี่ ๆ พลางเอามืออังลมหายใจของร่างที่นอนแน่นิ่งตรงหน้า ยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้น ได้แต่มองใบหน้าขาวซีดนั้นอย่างเป็นห่วงเป็นใย มองตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยขีดข่วน แผลถลอกปอกเปิดเขียวช้ำไปหมด แล้วปลดกระดุมที่คอเสื้อนั้นให้คลายออก ขยับให้คอเสื้อเปิดกว้างเพื่อให้การหายใจสะดวกขึ้น
ดวงตาสีสนิมเหล็กเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ หดมือกลับมาอย่างเร็วที่สุด เมื่อมองเห็นผิวขาวเนียนใต้ผ้าสีเทานั้น แล้วรีบปิดคอเสื้อไว้ เปิดไว้เพียงเล็กน้อย
================
ความคิดเห็น