ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายหิมะ

    ลำดับตอนที่ #7 : ทายาทผู้ถูกเลือกจากปีศาจหิมะ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 63


    เจ้าชายแห่งเรียวจ้องมองบรรยากาศรอบตัวที่อยู่ เกิดลมพัดกรรโชกมาอย่างแรง  ราวกับว่า  กำลังจะมีพายุ  เสียงลมหวีดหวิว  ปะปนกับเสียงใบไม้เสียดสีกันดังอื้ออึง  ผมสีเทาเข้มและเสื้อผ้าชุดสีขาวหม่นของเจ้าชายลู่ไปตามสายลมแรง  ต้นไม้ และกิ่งไม้ในบริเวณนั้น  โบกสะบัดซัดส่ายไปมาอย่างรุนแรงน่ากลัว   ถ้าไม่ลู่ตามแรงลม   ต้องแข็งแรงหนักแน่นดุจขุนเขา  จึงจะต้านทานพายุนี้ได้   ไม่นานนัก  ละอองสีขาวราวปุยนุ่น  ก็ค่อย ๆ โปรยปรายพร่างพรมลงมาจากฟากฟ้า

     

    เจ้าชายแรร์เน็สขมวดคิ้วยุ่งอย่างงุนงง  มองเกล็ดหิมะที่กำลังตกลงมาย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

     

    แรร์เน็ส…”   เสียงต่ำ ดังกึกก้องกังวานขึ้น  น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยพลังอำนาจ

     

    เจ้า! ปิศาจหิมะ “  เจ้าชายผมเทาเงยหน้ามองท้องฟ้ากว้าง  พลางกวาดสายตาค้นหาต้นตอที่มาของเสียง  เสียงนี้คุ้นหูของเจ้าชายมานานเหลือเกิน  ได้ยินเสียงนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มจำความได้  

     

    ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะขอบใจแรร์เน็สที่ยังจำข้าได้เสมอ  เจ้ายังไม่เคยลืมข้อเสนอของข้าใช่มั้ย”  ปิศาจหิมะถามถึงข้อเสนอที่เขาเคยขอให้เจ้าชายแรร์เน็สมาเป็นทายาท  เป็นผู้สืบทอดพลังเย็นจากเขา

     

    คำตอบของข้ายังคงเหมือนเดิม”  น้ำเสียงเจ้าชายแรร์เน็สเน้นคำหนักแน่น

     

    ถ้าข้าทำให้โลย์เดลฟื้นได้ล่ะ  เจ้าจะยอมรับพลังเย็นจากข้ามั้ย  แรร์เน็ส”  ปีศาจหิมะอดแปลกใจไม่ได้ที่เจ้าชายแห่งเรียวยังคงยืนกรานปฏิเสธที่จะเป็นทายาทของเขา  ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าชายหลายแคว้นอยากจะเป็นทายาทของเขามากมาย

     

    เจ้าชายแรร์เน็สนิ่งเงียบมองร่างไร้วิญญาณของโลย์เดลในอ้อมแขนอย่างลังเล  ใจหนึ่งอยากให้เพื่อนรักฟื้นขึ้นมาเหลือเกิน  อยากจะตอบแทนความจงรักภักดีที่เพื่อนคนนี้มีให้มาตลอดชีวิต  แม้เขาจะต้องตกเป็นทาสของปิศาจหิมะก็ตาม   แต่ใจหนึ่งยังคงเชื่อมั่นว่า  ไม่มีใครฝ่าฝืนกฏของธรรมชาติได้  ทุกอย่างต้องมีจุดจบของตัวมันเอง  ไม่อาจมีสิ่งใดคงอยู่เป็นนิจนิรันดรได้

     

    เจ้าไม่อยากให้โลย์เดลฟื้นขึ้นมาหรือไง”  ปิศาจหิมะถามย้ำเมื่อเห็นเจ้าชายยังนิ่งเงียบไม่ตอบรับใดๆ

     

    เจ้าลืมความดี  ความเสียสละขอโลย์เดลที่มีต่อเจ้าแล้วหรือ?” เสียงปิศาจหิมะยังคงพูดต่อไป

     

    เพียงเจ้ายอมรับพลังเย็นจากข้า  โลย์เดลก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว  เจ้าอย่าลังเลเลย  แรร์เน็ส

     

    เสียงที่ได้ยินสร้างความรู้สึกกดดันให้กับเจ้าชายแห่งเรียว  ความลังเล   ความสับสนวิ่งวุ่นวายอยู่ในสมอง  ถ้ายอมรับพลังเย็นจากปิศาจหิมะ  เพื่อนรักจะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งได้จริงหรือ? เจ้าชายยังคงรู้สึกไม่มั่นใจ  ว่าจะเป็นอย่างที่ปิศาจหิมะได้ให้คำมั่นไว้จริง และการเป็นทายาทปีศาจหิมะจะทำให้ตัวเขาจะมีสภาพเป็นเช่นไร  อะไรทำให้ปีศาจหิมะต้องเลือกเขาเป็นผู้สืบทอดพลังเย็นนี้

     

    เจ้าจะไม่ทำอะไรเพื่อเพื่อนรักของเจ้าเลยใช่มั้ย”  ปิศาจหิมะยังคงแค่นเสียงถามต่อไป

     

    เจ้าชายแรร์เน็สก้มหน้านิ่ง  พยายามควบคุมจิตให้อยู่ในจิต  ให้นิ่งเป็นสมาธิ  ไม่หวั่นไหวต่อเสียงที่ได้ยินจากภายนอก  ให้เป็นแค่เสียงที่ได้ยิน  เพียงแต่ไม่ใส่ใจ   ไม่สนใจ   แล้วทบทวนสิ่งที่จะต้องทำอย่างมีเหตุผล  และถูกต้องตามสัจจะธรรมที่ควรกระทำ

     

    ว่าไงแรร์เน็ส  โลย์เดลรอที่จะฟื้นขึ้นมาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเจ้า  และจงรักภักดีต่อเจ้าตลอดไปอยู่นะ

     

    เจ้าชายแห่งเรียวเงยหน้าขึ้น   ดวงตาสีสนิมเหล็กเป็นประกายคมกล้า  ไร้ความหวั่นไหวใด ๆ ในแววตานั้น

     

    ข้าไม่มีวันเป็นทาสเจ้า!!”  เจ้าชายแรร์เน็สแผดเสียงตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้า

    เลิกพูดลม แล้ง ซะทีเถอะ  เจ้าพูดมาตั้งแต่ข้ายังเด็ก  จนข้าโต  เจ้าต้องการอะไรจากข้ากันแน่!!  ทำไมเจ้าต้องเจาะจงเลือกข้า  ทำไมไม่เลือกคนอื่น

     

     

    เจ้าชายไม่เชื่อว่าปิศาจหิมะจะสามารถทำได้  ถึงทำได้จริง  ไม่อาจแน่ใจว่า  คนที่ฟื้นขึ้นมาในร่างของโลย์เดลจะเป็นโลย์เดลคนเดิมที่เคยรู้จักหรือไม่   และหากโลย์เดลฟื้นขึ้นมาจริง จะรู้สึกอย่างไร  เมื่อเพื่อนที่แสนรักเคารพศรัทธาคนนี้ก้มหน้ารับใช้ให้กับอำนาจของความชั่วร้าย  ตลอดชีวิตของโลย์เดลเขายืนเคียงข้างในการทำความดีมาตลอด 

     

    เจ้ามันขี้ขลาด  แรร์เน็ส  เสียดายที่โลย์เดลจงรักภักดีต่อเจ้ามาตลอด  เจ้ามันเห็นแก่ตัวที่สุด

     

    หุบปากของเจ้าข้าเท่านั้นที่รู้ดีว่าโลย์เดลคิดอย่างไร  เจ้าต่างหาก  หยุด! ฝันเฟื่องซะทีเถอะ  ข้าไม่มีวันก้มหัวให้กับเจ้าแน่!!”   เจ้าชายแห่งเรียวจับดาบชี้ขึ้นฟ้า   แม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยเต็มที  บาดแผลที่ปริแยกออกจากกันเลือดไหลซึมออกมาตลอดเวลา   สร้างความเจ็บปวดสุดประมาณมิได้ให้กับร่างกายของเจ้าชาย   แต่ทว่าเวลานี้เจ้าชายไม่สนใจ  บุรุษผมเทาวางร่างเพื่อนรักลงกับพื้น  กระโดดลอยตัวพุ่งขึ้นไปในอากาศ  หมุนดาบฟาดฟันตัดสายหิมะที่พร่างพรมลงมาจากท้องฟ้า

     

    แรร์เน็สเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก  ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะ!”  เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังกึกก้อง

    จะบอกอะไรให้  เจ้าจะไม่สามารถเห็นตัวตนของข้าได้  เพราะข้าถอดจิตออกมาเพื่อคุยกับเจ้าเท่านั้น

     

     

    เจ้าชายแรร์เน็สฝืนความบาดเจ็บของร่างกายได้ไม่นานก็หมดแรง  หล่นลงมากระแทกกับพื้นดินเบื้องล่าง

     

    ข้าจะให้พลังกับเจ้า  แรร์เน็ส  เจ้าบาดเจ็บมากนะ”  เสียงอันทรงพลังนั้นแฝงความเป็นห่วงอยู่กราย

     

    เจ้าชายผมเทารวบรวมกำลังทั้งหมดส่งเสียงตะโกนออกไปจนสุดเสียง

     

    ข้าไม่ต้องการ………..!!!!  และไม่รับพลังความชั่วร้ายจากเจ้า!!!” 

     

    จะรับหรือไม่รับก็ตาม  ที่เจ้ารอดมาได้จากการปราบกบฎริกเกอร์  เป็นพลังเล็กน้อยของข้าที่ให้กับเจ้า  และตอนนี้เจ้าก็ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านพลังของข้าได้   เจ้าจงยอมรับมันซะดี   ข้าจะให้พลังกับเจ้าก่อน  แล้วค่อยคิดดอกเบี้ยกับเจ้าทีหลังนะ  รอวันที่เจ้าจะยอมสยบ  ก้มหัวยอมรับข้าให้จงได้  ฮ่า ฮ่า….ฮ่า….”  เสียงหัวเราะกังวาลกึกก้องไปทั่วสารทิศ  สร้างความเจ็บปวดหัวใจให้กับเจ้าชายเหลือเกินที่ไม่อาจต่อสู้  ขัดขืนอะไรได้เลย  และทุกครั้งที่เจ้าปิศาจร้ายปรากฏตัว   มักโผล่ออกมาในเวลาที่เจ้าชายบาดเจ็บเช่นนี้เสมอ 

     

    ถ้าเจ้าต้องการใช้พลังเย็นเมื่อไหร่  จุดเปิดพลังอยู่ที่หน้าผาก และจงท่องคำว่า สปีล่า  จำไว้ว่า พลังเย็นสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ลม พายุ และหิมะ หรือน้ำแข็ง เจ้าจงเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์นะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     

    สายลมปั่นป่วน  ต้นไม้ซัดส่ายไปมาอย่างไม่มีทิศทาง  พายุหิมะเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ   พลังงานบางอย่างก่อตัวขึ้นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก 

     

    เจ้าชายแรร์เน็สพยายามใช้สติ  ความรู้สึก   กำลังทั้งหมดที่มีต่อต้านพลังงานความเย็นจัดที่แผ่ซ่านซึมเข้าร่างกายตามบาดแผลลึกฉกรรจ์ทุกบาดแผลนั้น   แต่ทว่ากำลังและความรู้สึกของเจ้าชายกำลังลดลงและอ่อนล้าเกินกว่าจะต้านทานพลังเย็นที่เปรียบเสมือนความหนาแน่นของพลังงานที่หนาแน่นกว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า  

     

    แรร์เน็ส….เจ้าเข้มแข็งและหนักแน่นกว่าที่ข้าคิดไว้  แบบนี้ข้าชอบข้าจะรอวันที่เจ้ายอมรับเป็นทายาทของข้าฮ่าฮ่าฮ่า…”

     

    =============== 

     

    เจ้าชายแห่งเรียวสะดุ้งตื่นจากความฝัน

     

    แล้วลืมตามองสิ่งที่อยู่รอบ ตัว  หายใจหอบแรง อย่างเหน็ดเหนื่อย   จิตใจรู้สึกห่อเหี่ยวเหลือเกิน   ราวกับหมดความภาคภูมิใจในตัวเองกับฝันร้ายที่เป็นจริงในอดีตซึ่งยังตามรังควานเจ้าชายอยู่เสมอ   และยังคงเสียใจกับการมีชีวิตอยู่ด้วยพลังเย็นของปิศาจหิมะ   แม้เจ้าชายจะไม่เคยใช้พลังอำนาจของปิศาจหิมะที่มอบให้มาก็ตาม  แต่ทว่าพลังเย็นนั้นส่งผลให้ร่างกายของเจ้าชายมีสมรรถภาพมากขึ้นกว่าเดิม   การเคลื่อนไหวคล่องแคล่วว่องไว  ปราดเปรียวปานสายลมพัด  รวมถึงความสามารถหลายอย่างที่เหนือคนปกติธรรมดา 

     

    เจ้าชายแรร์เน็สยันตัวเองลุกขึ้นยืน  พละกำลังกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์เต็มที่แล้ว   สายตามองไปรอบ กระท่อมร้าง

     

    เฟรนลี่!”  แปลกใจที่ไม่เห็นเธอ  กังวลใจว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเธอรึเปล่า  คิดได้ดังนั้นแล้ว  เท้าจึงเดินเร็ว ไปที่ประตูกระท่อม   แต่ยังไม่ทันเอื้อมมือเปิดประตู  ประตูกลับเปิดออกอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับรู้สึกมีบางอย่างกระแทกเข้ามาอย่างแรง  จนร่างเจ้าชายแรร์เน็สที่ยังไม่ทันตั้งตัวเซถลาถอยหลัง  มือข้างหนึ่งรีบคว้าขอบหน้าต่างเอาไว้เพื่อทรงตัว

     

    เจ้าหญิงเฟรนลี่พรวดพราดเปิดประตูเข้ามาอย่างเร็วด้วยความตกใจ  และหวาดกลัว  รู้สึกว่ามีคนไล่ตามมาห่าง   อยู่ตลอดทาง   หน้าสวยของเจ้าหญิงเฟรนลี่ปะทะแผ่นอกของเจ้าชายผมเทาอย่างจัง!

     

    แรร์เน็ส…!!”   เจ้าหญิงอุทาน  เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างสูงนั้น

    เฟรนลี่…”  เจ้าชายแห่งเรียวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ  มองเจ้าหญิงเฟรนลี่ในชุดหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา  ดูเป็นสาวน้อยน่ารักกว่าภาพที่เคยเห็นเธอเป็นเด็กหนุ่มสวมชุดสีเทาก่อนหน้านี้

     

    เจ้าฟื้นแล้วเหรอ!”  น้ำเสียงของเจ้าหญิงนั้นแสดงความดีใจเหลือเกิน  พลางจับแขนของชายหนุ่มบีบไว้อย่างแรง

     

    บุรุษผมเทานิ่งเงียบ  ตะลึงมองเจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตที่กำลังเปล่งประกายแจ่มใส  รอยยิ้มของเจ้าหญิงทำให้สิ่งหม่นหมองในหัวใจของเจ้าชายลบเลือนไปทันที   สีหน้าเครียด เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเฉยชาตามปกติ

     

    เจ้าชายแห่งเรียวถอยตัวออกห่าง  พลางจับมือของเจ้าหญิงที่ค้างอยู่บนแขนของเจ้าชายออก  แล้วละสายตาจากดวงหน้าสวยใส  หันออกไปมองนอกหน้าต่าง  ก่อนที่จะรู้สึกทำอะไรไม่ค่อยถูก  และไม่อยากให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง สังเกตได้ว่า  สีหน้าของเจ้าชายนั้นเจือด้วยสีชมพูจาง   แล้วตอนนี้

     

    หญิงสาวยืนงงไปชั่วขณะ    ราวกับทำความผิดอะไรอย่างนั้น

    เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงไปถูกเนื้อต้องตัวเขาเหรอ”  เจ้าหญิงครุ่นคิดอยู่ในใจ  “ต่อไปห้ามเผลอไปถูกเนื้อต้องตัวเขาอีกนะ  เข้าใจมั้ย!!  เฟรนลี่”  เจ้าหญิงทั้งสั่งทั้งบ่นตัวเอง

     

    เจ้าหญิงนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้  รีบเดินไปที่หน้าต่าง  มองซ้ายมองขวา

     

    แรร์เน็ส  ข้ารู้สึกเหมือนมีคนตามข้ามา”   เจ้าหญิงทำท่าทางแล้วชี้มือออกไป

     

    ดวงตาสีสนิมเหล็กกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ  ความรู้สึกสัมผัสได้ว่ามีคนตามเธอมาจริง   แต่คน นั้นกำลังเคลื่อนตัวห่างออกไป…  ห่างออกไปเจ้าชายไม่แน่ใจว่า  ใครคนนั้นจะประสงค์ดีหรือร้ายกันแน่?

     

    แรร์เน็ส………!!!”   เจ้าหญิงตะโกนเสียงหลง  เรียกชื่อเจ้าชายดังลั่น   พร้อมกับกระโดดเข้ามาเกาะแขนเจ้าชายแน่น

     

    เจ้าชายสะดุ้ง!!  หันมามองอย่างงุนงง

     

    เอามันออกไปที   เร็วเข้า!”  เสียงเจ้าหญิงร้องเสียงสั่นด้วยความตกใจกลัว   บีบแขนเจ้าชายแน่น   พลางซบหน้ากับต้นแขนของชายหนุ่มหลับตาปี๋

     

    เจ้าชายผมเทามองเห็นตุ๊กแกขนาดเขื่องตัวใหญ่สีเหลืองส้มขนาดเท่าฝ่ามือเกาะอยู่บนไหล่ของคนที่เกาะแขนของเขาแน่นแจด้วยความตกอกตกใจ   แล้วยกมือแตะไหล่ของเจ้าหญิงเบา    ตุ๊กแกยักษ์ได้รับรังสีไอเย็นจากฝ่ามือของเจ้าชายรีบกระโดดหนีไปทันทีทันใด

     

    มันไปแล้วเฟรนลี่…”   พลางตบแผ่นหลังเจ้าหญิงเบา

     

    เจ้าหญิงเฟรนลี่เงยหน้าขึ้นจากต้นแขนของเจ้าชาย  แล้วค่อย เหลือบมองไปทางหัวไหล่อย่างช้า   เมื่อมองไม่เห็นเจ้าตุ๊กแกตัวนั้นแล้ว  จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก   ก่อนหันกลับมามองหน้าเรียบเฉยของเจ้าชาย   เจ้าหญิงรีบผละมือออกจากแขนของเจ้าชายอย่างเร็วจี๋  แล้วสั่นหัวทำหน้าตาเลิกลั่กไม่รู้ไม่ชี้  ตีหน้าตาย  เหมือนจะบอกว่า 

     

    เปล่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นซักหน่อย

     

    เจ้าชายมองเจ้าหญิงอย่างรู้สึกขำอยู่ในใจ  แม้สีหน้าเรียบเฉยนั้นจะไม่มีรอยยิ้มระบายอยู่  แต่ดวงตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นดูอ่อนโยนขึ้น

     

    เจ้าหิวหรือเปล่า…”  เจ้าหญิงนึกขึ้นได้ว่า  บุรุษหนุ่มผมเทาไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายวันแล้ว ตั้งแต่หมดสติไปครั้งนั้น  เอื้อมมือดึงชายแขนเสื้อเจ้าชายเบา ก่อนจะหยิบผลไม้ที่เก็บมาส่งให้

     

    บุรุมผมเทารับผลไม้มาจากมือหญิงสาว  สายตาสังเกตเห็นรอยช้ำเขียวบนแขนของเธออยู่หลายแห่ง  แม้ร่องรอยนั้นจะจางลงไปบ้างแต่ร่องรอยความเขียวช้ำก็ยังเห็นเด่นชัดอยู่  ตามศอกปรากฏสะเก็ดแผลเป็นปื้นยาวอยู่หลายแผล  เข้าใจว่าคงเป็นแผลจากการล้มลุกคลุกคลานที่เธอช่วยหามเขาหนีเจ้ามดยักษ์   อยากจะถามคนตรงหน้าว่ายังเจ็บอยู่ไหม….  แต่ก็ไม่รู้จะถามเธออย่างไร  จึงได้แต่นิ่งเงียบ

     

    รู้มั้ยเจ้าหลับไปนานเท่าไหร่  เจ้าหลับไปนานเจ็ดวันเจ็ดคืนเชียวนะ”  เจ้าหญิงชวนคุยทำลายความเงียบงัน  พลางทำท่าทางประกอบ

    นานขนาดนั้นเชียวเหรอ?”  เจ้าชายพอเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวกำลังบอก   และไม่คิดว่าตนเองจะหลับไปนานขนาดนั้น 

     

    หญิงสาวยังคงเล่าเรื่องราวประกอบท่าทางต่อไป ทำให้บุรุษหนุ่มต้องแอบซ่อนยิ้มไว้ในสีหน้าเรียบเฉยนั้น  ในความน่ารักช่างเจรจาของเจ้าของดวงตาสีเขียวมรกต

     

    อากาศเริ่มเย็นลง  เมื่อราตรีกาลมาเยี่ยมเยือน  ท้องฟ้าสีดำนอกหน้าต่างกระท่อมร้าง  ปรากฏพระจันทร์ลอยเด่นเกือบเต็มดวงส่องแสงสีทองนวลตา

     

    พระจันทร์คืนนี้สวยจังเลยนะ  แรร์เน็ส”  เจ้าหญิงหันมาชวนเจ้าชายมองพระจันทร์กำลังขึ้นจากขอบฟ้า

     

    นั่นสิ…”  เจ้าชายพูดเสียงเบา ในลำคอ 

     

    มือหนา เอื้อมมือหยิบผ้าห่มส่งให้หญิงสาวที่นั่งข้าง   เมื่อเห็นเธอนั่งห่อตัวด้วยความหนาวเย็น

     

    แล้วเจ้าล่ะ!” พลางมองหน้าเจ้าชายด้วยคำถาม

     

    ข้าไม่หนาวหรอก  เจ้าห่มเถอะ”  เจ้าชายสั่นหัว  จะบอกสาวน้อยอย่างไรดี  ว่าตั้งแต่เขาได้รับพลังเย็นจากปิศาจหิมะ  เขาไม่เคยรู้สึกหนาว  หรือร้อนอีกเลย

     

    แน่ใจนะ?”  เธอถามย้ำอีกครั้ง  แอบดีใจอยู่ลึก หากต้องห่มผ้าห่มด้วยกันคงจะเธอไม่อยากจะนึกถึงเลย

     

    เจ้าชายพยักหน้าน้อย    เจ้าหญิงจึงคลี่ผ้าห่มคลุมให้ตัวเอง 

     

    เจ้าเชื่อมั้ยว่าข้าไม่เคยมองเห็นพระจันทร์มาก่อนเลย  ไม่เคยรู้เลยว่าพระจันทร์มีความงามขนาดนี้  ข้าเพิ่งมองเห็นพระจันทร์เป็นครั้งแรกเลยนะ“  เจ้าชายหันกลับมามองดวงหน้างามของคนที่นั่งข้าง

     

    เจ้าหญิงเฟรนลี่เอาแต่ยิ้มให้อย่างเดียว  ไม่รู้ว่าเจ้าชายพูดอะไรบ้าง  แต่ก็พยักหน้าหงึก รับรู้  เหมือนจะรู้เรื่อง  และทำตัวเป็นผู้ฟังที่แสนดี

     

    ============== 

     

    กลางดึกสงัด  เงียบสนิท  เสียงแมลงที่เคยร้องตอนหัวค่ำเงียบไปแล้ว  ลมหยุดพัด  อากาศเย็นยะเยือกขึ้นอีก  มีบางสิ่งเคลื่อนไหว   เจ้าชายแรร์เน็สรู้สึกตัวทันที  เมื่อลืมตามอง  เห็นเจ้าหญิงเฟรนลี่กำลังลุกขึ้น  ขยับตัวอย่างเบา   เดินตรงไปยังประตูกระท่อม

     

    เฟรนลี่!”  เจ้าชายส่งเสียงเรียกเธอ  แต่ผู้ถูกเรียกไม่ตอบ  กลับเดินต่อไป

     

    ชายหนุ่มลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินเร็ว ออกจากกระท่อมตามไป

    เฟรนลี่! เจ้าจะไปไหน”  แล้วรีบเข้าไปคว้าแขนเจ้าหญิงไว้

     

    หญิงสาวหันมายิ้มให้อย่างเย็นชา  แววตาสดใสคู่นั้นขมึงตึงผิดปกติ  เจ้าชายรู้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหญิง

     

    มือเรียวนั้นออกแรงผลักเจ้าชายเบา   แต่ร่างของบุรุษผมเทากลับกระเด็นไปไกลกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่อย่างแรง  ชายหนุ่มลุกขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด  กระชับดาบในมือ  กระโจนเข้าหาอีกครั้ง  แต่ก่อนที่จะถึงตัว  กลุ่มพลังรุนแรงสีม่วงเข้มซัดพุ่งตรงมายังเจ้าชาย  บุรุษผมเทาหมุนกลับตัวกลางอากาศหลบกลุ่มพลังนั้นได้ทันท่วงที   ต้นไม้ใหญ่ระเบิดเป็นเสี่ยง เมื่อถูกกลุ่มพลังสีม่วงนั้นอัดกระแทกเข้าอย่างจัง

     

    เจ้าชายแรร์เน็สพุ่งตัวอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด ถึงตัวเจ้าหญิงเฟรนลี่ภายในพริบตา  จับมือของหญิงสาวล็อคเอาไว้  เพื่อไม่ให้ปล่อยพลังงานแผลงฤทธิ์ออกมาอีก

    ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า  จงหยุด!!  แล้วออกจากร่างเฟรนลี่เดี๋ยวนี้

     

    เจ้ากล้าทำร้ายร่างหญิงสาวแสนสวยคนนี้หรือ? ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะ!”  เสียงหัวเราะแหลมเล็กราวกับเสียงของแม่มด  แสนจะบาดแก้วหูเหลือเกิน

     

    หญิงสาวยื่นหน้าสวยเข้ามาใกล้ใบหน้าของเจ้าชายอย่างรวดเร็ว  ยังผลให้เจ้าชายตกใจด้วยความคาดไม่ถึงมาก่อน   เท้าก้าวถอยหลังและปล่อยมือคนที่อยู่ตรงหน้า  จังหวะนั้นเอง  นางปิศาจซัดพลังงานสีม่วงเข้มใส่เจ้าชายทันที   บุรุษผมเทาพลิกตัวหลบอย่างว่องไวแล้วยกดาบชี้ไปยังฝ่ายตรงข้าม

     

    นางปิศาจ!”

     

    ข้าขอเตือนเจ้า  อย่าใช้ร่างของเฟรนลี่ทำในสิ่งที่ชั่วช้า”  เจ้าชายตะโกนสั่งเสียงเคร่งเครียด

     

    ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะ!”  นางปิศาจหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเสียงดังลั่นอย่างสะใจ

     

    การหอมแก้มเจ้าหรือ  ชั่วช้า  แรร์เน็ส  เมื่อกี๊เจ้าหลบทำไมเล่า…” 

     

    อย่าทำให้เธอเสียเกียรติ!”  เจ้าชายย้ำเสียงจริงจัง

     

    ข้ากลัวเจ้าเหลือเกินแล้ว  ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะ!”  นางปิศาจระเบิดเสียงหัวเราะเยาะเย้ย

     

    บอกมานะ! เจ้าจะพาเธอไปไหน

     

    เธอเป็นผู้อ่านคาถา  ใคร ก็ต้องการตัวเธอทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ”  เสียงแหบ นั้นตอบกลับมา

     

    เจ้ารู้….??”  เจ้าชายแห่งเรียวขมวดคิ้วเข้มย่นเข้าหากัน

     

    แล้วคิดว่า  มีเจ้าคนเดียวหรือไงที่รู้แรร์เน็ส”  เสียงแหบ นั้นตอบโต้กลับด้วยเสียงแข็งห้วน

     

    ลาก่อนนะ พ่อรูปหล่อ  ข้าต้องไปแล้ว

     

    หยุดนะ!”  เจ้าชายพุ่งเข้าหาร่างเจ้าหญิงเฟรนลี่ทันที 

     

    นางปิศาจในร่างเจ้าหญิงเฟรนลี่หมุนตัวหลบคมดาบในมือเจ้าชายอย่างคล่องแคล่ว  ใช้ไม้เท้ารูปทรงหงิกงอปะทะดาบสีเงินในมือเจ้าชาย  เกิดประกายไฟแปลบปลาบ  ไม้เท้าต้านดาบเงินไม่ได้หักโพละ! ตรงกึ่งกลางทันที   ปลายดาบยั้งไว้ที่ลำคอของหญิงสาว  ตัดใจฟันลงไปไม่ได้  แม้จะรู้ดีว่าเมื่อเกิดบาดแผลเลือดออก  สิ่งที่สิงอยู่จะต้องออกไปจากร่างนั้นทันที

     

    เจ้าไม่กล้าทำร้ายเธอหรอก  ข้ารู้…”  นางปิศาจแสยะยิ้ม

    หมดเวลาแล้ว   พ่อสุดหล่อ  ข้าต้องนำตัวเธอไปแล้วล่ะ เสียใจด้วยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า…”

     

    ร่างของเจ้าหญิงกำลังจะเลือนหายไปในที่สุด

     

    แย่แล้ว!” 

     

    เจ้าชายรีบโผเข้าไปกอดร่างนั้นเอาไว้  เกิดแสงสีทองสว่างวาบขึ้นจากเหรียญโลหะทรงกลมมนที่เจ้าชายสวมอยู่ที่คอ  ซึ่งเป็นเหรียญเงินที่โลย์เดลมอบให้เจ้าชายนั่นเอง  แล้วรีบถอดเหรียญนั้นสวมให้เจ้าหญิงทันที   ร่างที่กำลังพร่าเลือนไปแจ่มชัดขึ้นในฉับพลัน  แสงสีทองกระจายเป็นเส้นบางรูปวงแหวนแผ่รัศมีออกจากจุดศูนย์กลางของเหรียญเงินนั้น  วงแล้ววงเล่า  พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนของนางปิศาจร้ายที่ดังกึกก้อง 

     

    ร่างของหญิงสาวสั่นพลั่ก อยู่ครู่หนึ่งจึงสงบนิ่งลง   เกิดลำแสงสีม่วงเทาพุ่งตัวสลายไปในอากาศ   ในที่สุดนางปิศาจร้ายก็ไม่อาจทนอยู่ในร่างของเจ้าหญิงเฟรนลี่ต่อไป  ด้วยไม่สามารถต้านทานอำนาจของเหรียญเงินซึ่งสวมอยู่ที่คอของเจ้าหญิงได้

     

    เจ้าชายกอดร่างเย็นเฉียบของเจ้าหญิงไว้แน่น  ด้วยกลัวเธอจะแข็งตายเสียก่อน   อุณหภูมิในร่างกายของบุรุษหนุ่มสูงขึ้นในทันที  เมื่อสัมผัสความเย็นจากตัวเจ้าหญิง   เป็นคุณสมบัติพิเศษของพลังเย็นที่แฝงอยู่ในร่างกาย  หากกระทบความเย็นร่างกายจะจะปรับอุณหภูมิสูงขึ้นเพื่อสร้างความอบอุ่น  หากกระทบความร้อนร่างกายจะปรับอุณหภูมิให้เย็นลง  เพื่อปรับสมดุลของอุณหภูมิในร่างกายโดยอัตโนมัติ

     

     ใบหน้าของร่างเล็กในอ้อมแขนซีดขาว  เนื่องจากร่างกายปะทะความเย็นยะเยือกของอากาศ

     

    เจ้าต้องไม่เป็นอะไรนะ”   ในใจภาวนาขอให้เธอปลอดภัยตลอดเวลา

     

    สักพักใหญ่เจ้าหญิงเฟรนลี่เริ่มรู้สึกตัว  ค่อย ลืมตาขึ้นอย่างงุนงง   ว่ามันเกิดอะไรขึ้นสัมผัสได้ถึงกระแสของความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความห่วงใย  ใบหน้าสวยขยับขึ้นจากไหล่ของเจ้าชาย

     

    เฮ้ยอะไรกันเนี่ย!” เจ้าหญิงตกใจ

     

    เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าชายผมสีเทา  แทบอยากร้องกรี๊ด  แต่กลับร้องไม่ออก  รู้สึกลำคอแห้งผาก  สมองตื้อและมึนงงไปหมด  เหมือนโลกกำลังหมุนวนเคว้งไปมา

     

    ปล่อยข้านะ  แรร์เน็ส  เจ้าทำอะไร”  เสียงนั้นเบาอย่างอ่อนแรง

     

    เจ้าไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย!”  เจ้าชายดีใจที่เห็นเจ้าหญิงรู้สึกตัว  ร่างกายของเจ้าหญิงเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว  ต่างจากเมื่อครู่ที่เนื้อตัวเย็นเฉียบ

     

    ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! ได้ยินมั้ย…”  เสียงอ่อนแรงของเจ้าหญิงยืนยันคำเดิม  พลางยกมือทุบหน้าอกเจ้าชายอย่างไร้เรี่ยวแรง

     

    ข้า…”  เสียงเจ้าชายผมเทาอึกอักอยู่ในลำคอ

     

    เจ้าชายแรร์เน็สคลายอ้อมแขนออก  แต่มือยังคงประคองร่างเจ้าหญิงไว้อยู่   บุรุษผมเทาทำหน้าเจื่อน   เงอะงะชอบกล  ปั้นสีหน้าไม่ถูกไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เจ้าหญิงฟังได้อย่างไร  ไม่อยากให้เจ้าหญิงเข้าใจผิด    ทั้งยังไม่รู้ภาษาที่จะบอกกล่าวเจ้าหญิงให้เข้าใจได้อีกด้วย  สร้างความอึดอัดใจให้กับเจ้าชายอย่างมาก   แต่ในที่สุดเจ้าชายก็ทำใจ     ปล่อยเลยตามเลย  แล้วแต่เจ้าหญิงจะคิดอย่างไรก็สุดแท้แต่จะคิดก็แล้วกัน

     

    เจ้าเป็นไงบ้าง

     

    แรร์เน็สข้ารู้สึกเหนื่อยจังเลย  ทำไมไม่มีเรี่ยวแรง”  เจ้าหญิงรู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไปหมด  ราวกับไปยกของหนักมาอย่างสาหัสสากัน  ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่

     

    ข้าจะพาเจ้ากลับไปนอนนะ”  เจ้าชายอุ้มเจ้าหญิงขึ้นไว้ในอ้อมแขน  พากลับไปที่กระท่อม

     

    ผ้าห่มสีตุ่นถูกคลี่ออกเพื่อคลุมลงบนร่างของเจ้าหญิงเฟรนลี่  ดวงตาสีมรกตมองการกระทำของเจ้าชายตลอดเวลา  สีหน้าเรียบเฉยของเขาเวลานี้มีแววกังวลใจ  ดวงตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นเต็มไปด้วยความห่วงหาอาทร  ก่อนที่เจ้าชายจะละมือนั้นออกจากผ้าห่ม  เจ้าหญิงคว้ามือของเจ้าชายไว้

     

    แรร์เน็สข้าเป็นอะไร…”

     

    เจ้าชายไม่รู้ว่าเจ้าหญิงถามอะไร  และจนปัญญาที่จะอธิบายให้เข้าใจได้

     

    เจ้านอนเถอะ  ไม่ต้องกลัว  ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น  เมื่อตื่นขึ้นมาเจ้าจะรู้สึกดีขึ้นเอง   ตอนนี้เจ้าต้องพักผ่อนนะเฟรนลี่…”  มือหนา อีกข้างหนึ่งของเจ้าชายเลื่อนมากุมมือของเจ้าหญิงเอาไว้  ไม่อาจบ่งบอกเป็นถ้อยคำใดได้  จึงได้แต่ส่งผ่านสัมผัสจากความรู้สึกแทน   เจ้าชายรู้ดีว่าเจ้าหญิงมีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวร่างกายอย่างมาก  และไร้เรี่ยวแรง  เป็นเพราะนางปิศาจร้ายใช้พลังชีวิตของเจ้าหญิงทำให้สิ่งที่เจ้าหญิงไม่เคยทำมาก่อน  ร่างกายจึงเกิดอาการเหนื่อยล้า  และอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอย่างนี้

     

    เจ้าหญิงเฟรนลี่หลับตาลง   รับสัมผัสความรู้สึกผ่านมืออุ่น ของเจ้าชายที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

     

    ===============  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×