ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #4 : มาทำแผลสิ!

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 66


    ตอนที่4  มาทำแผลสิ!

                   "เราจะทำ ต้มยำเห็ดฟาง  ต้องไปเก็บเห็ดก่อน"  เจ้าของสวนบ้านไร่ทะเลฝันพาเขาเดินไปยังแปลงเพาะเห็ดฟาง  ซึ่งมองเห็นเป็นแปลงสีเหลี่ยมผืนผ้ากว้างราวหนึ่งเมตร แต่ละแปลงจะคลุมด้วยฟางจนมิด  แล้วคลุมด้วยพลาสติกใสอีกทีหนึ่ง

                   หนุ่มผมยาวมองเห็ดฟางด้วยความตื่นเต้น อดเอามือถือออกมาถ่ายรูปไม่ได้  ดอกเห็ดฟางลูกกลมมนสีขาวอมเทาโผล่พ้นดินสีดำที่มีความอุ่นและชื้น

                    "อยากกินเท่าไหร่ก็เก็บเอาเลย"  ปริมาส่งถังขนาดเล็กให้เขาไว้ใส่เห็ดฟาง

                    "ถ่ายรูปให้หน่อยสิ ดอกใหญ่มาก"  เขาส่งมือถือให้เธออย่างตื่นเต้น  ก่อนหยิบเห็ดฟางดอกงามมาวางชิดแก้มขาวใสของตัวเอง ริมฝีปากบางนั้นโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มละมุนที่มุมปาก

                    ปริมารับมือถือมาถ่ายรูปให้  แอบค่อนแคะเขาอยู่ในใจ  ผู้ชายอะไรยิ้มสวยมาก  ยิ้มหวานราวกับผู้หญิงขนาดนี้

                    "นี่! ถ้าฉันมารับจ้างเก็บเห็ด เธอจะรับไหม"  ชายหนุ่มค่อย ๆ ดึงเห็ดฟางออกมาพลางสลัดดินที่ติดมาออก แล้วใส่ลงในถัง

                    "ไว้มาจริง ๆ ก่อนเถอะ"  เธอตอบอย่างไม่เชื่อว่า หนุ่มมาดสำอางค์ดูเป็นศิลปินจ๋าอย่างเขาจะมารับจ้างเธอจริง ๆ 

                    หนุ่มหน้ามนเดินตามหญิงสาวรอดซุ้มเตี้ย ๆ มองเห็นมะเขือเทศสุกสีแดงลูกใหญ่ห้อยระย้าเป็นพวงเต็มไปหมด มีทั้งพริกทั้งบวบ และมะระจีนที่เรื้อยเกาะเกี่ยวกันตามห้างร้านที่ทำจากเชือกในล่อนเป็นตาข่ายที่สูงระดับไหล่ 

                    ปริมาแอบอมยิ้มเมื่อเห็น หนุ่มมาดกวนก้มโค้งเก็บมะเขือเทศ เก็บพริก ท่าทางจะก้มจนปวดหลัง เพราะเขาตัวสูงมาก แขนขายาวเก้งก้างไปหมด เมื่อต้องอยู่ในที่แคบ ๆ แบบนี้  แม้แปลงผักจะมีอยู่หลายแปลง  แต่เธอเจตนาแกล้งให้เขาต้องมาเข้าแปลงนี้โดยเฉพาะ 

                    "พอยัง ปวดหลังจะแย่แล้ว"  ชายหนุ่มเริ่มบ่นที่ต้องก้มตัวตลอดเวลา เพราะหลังคาซุ้มนั้นเตี้ยกว่าตัวเขาเล็กน้อย

                   "ไหนบอกจะมารับจ้างไม่ใช่เหรอ?"  

                   "ถ้าเธอจ้างจริง  ทำได้อยู่แล้ว....จะให้เก็บอะไรบอกมาเลยคร้าบ..." เขาพยายามยิ้มกลบเกลื่อนแม้จะเริ่มรู้สึกเหนื่อยและร้อน  พลางยกมือขยับคอเสื้อยืดสีขาวไปมา เกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย  

                     "ต้องเก็บข่ากับตะไคร้เพิ่ม"

                   เจ้าของสวนพาเขาออกจาซุ้มมาไม่นานก็เจอแปลงปลูกตะไคร้ และข่า  

                    "หักตะไคร้มาสี่ห้าอัน อย่าให้รากมันติดมาล่ะ"  

                    ชายหนุ่มวางถังเก็บเห็ดและมะเขือเทศลงกับพื้นดิน  ย่อตัวลงข้าง ๆ โคนของต้นตะไคร้กอใหญ่

                    "เอาต้นใหญ่ ๆ อวบ ๆ นะ"  

                     อยู่ ๆ หนุ่มผมยาวสะดุ้งโหยง  รีบกระโดดออกจากโคนต้นตะไคร้ 

                     "มด...."  คนตัวสูงตะโกนลั่น  รีบวิ่งออกไปยืนห่าง ๆ  ก้มตัวปัดมดตามมือและขากางเกงออกอย่างเร็วที่สุด

                     หญิงสาวหัวเราะ   ก่อนเดินเข้าไปหาแล้วหยิบน้ำมันเขียวจากกระเป๋ากางเกงส่งให้

                     "โชคดียังไม่ทันโดนกัด"  เขามองหน้าเธอดูมีความสุขเสียจริง  นี่มันจงใจแกล้งกันใช่มั้ย?

                     "โธ่เอ๊ย! ร้องซะดังเลย  ปอดชะมัด"  เธอยื่นหน้าไปยิ้มเยาะใส่เขา

                     ปฏิการชี้นิ้วมาที่หน้าผากของหญิงสาว แล้วชี้ไปยังผมของตัวเอง

                     "มดอยู่ที่ผมเธอ"

                     สิ้นคำพูดของเขา  อีกฝ่ายรีบก้มศรีษะลง ยกมือปัดผมตัวเองเป็นพัลวัล

                     หนุ่มหน้าฉีกยิ้มกว้าง

                     "ซะเมื่อไหร่? ล้อเล่น....น้า...."  เขาเอาคืนบ้าง พลางโบกมือล้ออีกฝ่าย

                     ปริมาชักสีหน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อถูกเขาแกล้งอำบ้าง

                     "ทำงานต่อได้แล้ว หิ้วถังมาด้วย"  คนเสียหน้าหันไปสั่งเสียงห้วน แล้วเดินนำไป

                       หนุ่มหน้ามนรีบหยิบถังแล้วเดินตามไป ริมฝีปากบางนั้นเหยียดยิ้มน้อย ๆ ที่เอาคืนเธอได้

                     ทั้งคู่เดินมาถึงแปลงต้นข่าที่มีความสูงถึงหน้าอก ใบมีลักษณะแบนและยาว  ดินที่โคนต้นคลุกด้วยแกลบสีดำเพื่อให้ดินร่วนและขุดง่าย

                     ชายหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความงง เมื่อเจ้าของสวนส่งเสียมมาให้ เกิดมาเคยจับจอบจับเสียมที่ไหนเล่า!

                     "ขุดสิคะ รอไร" เมื่อเห็นเพื่อนพี่ชายยังยืนอึ้งอยู่

                     คนถูกสั่งอ้าปากค้างยังงงไม่หาย  กระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตา ขุดก็ขุด  นี่มันใช้แรงงานชัด ๆ

                     "กดที่โคนต้นแล้วงัดขึ้นมา"

    หนุ่มผมยาวทำตามคำแนะนำของเจ้าของสวน แต่พองัดดินขึ้นมา กลับไม่มีหัวต้นข่าติดออกมาด้วย ได้แต่ก้านและใบ

                  หญิงสาวหัวเราะ  เห็นท่าขุดของเขาแล้วอดขำไม่ได้  สะใจเธอจริง ๆ  หนอย...อยากกินต้มยำใช่มั้ย?

    "ออกแรงหน่อย ขุดให้ลึกอีก" 

                  ในที่สุดเขาก็ขุดเอาหัวข่าหัวใหญ่ขึ้นมาได้สำเร็จ 

    “เอาอีกหัวหนึ่ง” 

                    หา!!   คนขุดเงยหน้าขึ้นมามองคนสั่ง

                    “เร็ว ๆ เข้า ขุดอีกหัวหนึ่ง”  เธอเน้นคำ

                    หืม....!!!  ให้มันได้อย่างงี้สิ!   ว่าแล้วคนขุดก็ก้มหน้าก้มตาขุดต่ออย่างขมักเขม้น  โดยแกล้งขุดให้ดินนั้นกระเด็นไปกลบเท้าคนที่ยืนออกคำสั่งอย่างเดียว

                    “นี่!  ขุดดี ๆ สิ!”  หญิงสาวรีบก้าวถอยหลัง สะบัดดินออกจากหลังเท้าไปมา

                    ในที่สุดหัวข่าก็ถูกดึงขึ้นมจากดินจนได้  เขาเคาะดินที่ติดมาออกก่อนนำใส่ถัง  สายตาเหลือบไปเห็นต้นชะอมที่สูงเท่ากับตัวเขา 

                    “อยากกินชะอมชุบแป้งทอด  เก็บชะอมด้วยนะ”  ลูกมือหันไปบอกเจ้าของสวน

                    “ก็เก็บสิ! เดี๋ยวทำให้!”  หญิงสาวมองตามหนุ่มมาดสำอางค์ไปเก็บชะอม  เดี๋ยวก็รู้!

                    “เอาแต่ยอดนะ เดี่ยวมันจะแตกกิ่งใหม่อีก  นายรู้ไหม ปลูกครั้งเดียวเก็บได้ถึง 30ปี เลยนะ”

                    หนุ่มผมยาวหันมาทำหน้าทึ่งด้วยความประหลาดใจ  ไม่นึกว่าต้นชะอมแค่นี้จะมีอายุถึงสามสิบปีเชียว  แบบนี้กินไม่ทันก็เก็บขายได้อีก   เขาเอื้อมมือเข้าไปเด็ดยอดชะอมออกมา  กลิ่นชะอมคลุ้งไปในอากาศ  แค่กิ่งแรกก็โดนหนามตำเข้าให้ แขนของเขาถูกหนามข่วนจนเลือดออกซิบ ๆ  แต่แข็งใจเก็บต่อ ไหน ๆ ก็โดนแล้ว ต้องเก็บมากินให้สาแก่ใจ

                    “ระวัง! นะ มันมีหนาม”  เธอแกล้งตะโกนเตือนเขา  แอบอมยิ้ม คิดว่าอยากจะกินอะไรก็สั่งได้เหรอ? ให้มันรู้เสียบ้างว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น

                    “แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเล่า!”  ชายหนุ่มหันหน้ามามองหญิงสาวที่ไม่ยอมเตือนตั้งแต่แรก  ใบหน้าของเธอกำลังอมยิ้มอยู่รีบหุบทันที  นี่มันจงใจแกล้งเขาสินะ ให้ตายสิ!

                    “โดนหนามเหรอ”  เจ้าของสวนมองเขากดนิ้วตัวเองเข้าหากันเพื่อห้ามเลือด  

    "เป็นไรมั้ย?"  เธอยื่นหน้าเข้าไปดูแขนของเขา     

    "เป็นสิ! ถามได้!"  เขามองดูท่อนแขนของตัวเอง เกิดแผลถลอกหลายแผลเลย

    "มา...ทายาก่อน"  คนขี้แกล้งหยิบน้ำมันเขียวออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วใส่ยาให้ตรงบาดแผล

    "โอ๊ย!!!  จะฆ่ากันหรือไง"  เขาสะบัดแขนทันทีที่ยาโดนแผลที่หนังกำพร้าเปิดออกด้วยความแสบ

                    “ไม่ต้องทาแล้ว”  คนเจ็บขยับแขนเดินหนี  เจ็บจะแย่อยู่แล้วยังมาแกล้งอยู่ได้!  คนใจร้าย!  เขาแอบบ่นคนเดียว

     

                    **********************

     

                    ปรามมองกับข้าวตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะอาหาร  มีต้มมะระผักกาดดองของโปรดของเขาเลย  ต้มยำ  ชะอมชุปแป้งทอด  ผัดผักบุ้ง  ข้าวกล้องร้อน ๆ อยู่ในจานของแต่ละคนพร้อมรับประทานแล้ว 

                    “กับข้าวน่าทานจัง”  เขาเอ่ยชมน้องสาวที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือ  แล้วหันไปมองเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ด้านขวามือ

                    ปริมามองหนุ่มผมยาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ   สายตาสะดุดอยู่ที่เสื้อยืดที่เขาสวมอยู่  เสื้อสีฟ้าสดใส มีรูปปลาโลมากำลังยิ้มอยู่ที่กลางเสื้อด้านหน้า  เธอจำได้เสื้อตัวนี้เป็นของขวัญที่เธอซื้อให้พี่ชายนี่นา

                    “นายเอาเสื้อตัวนี้มาใส่ได้ยังไง!”  เธอโวยวายเสียงดัง  แล้วหันไปมองพี่ชาย

                    “พี่เป็นคนให้เขายืมใส่เอง”  เขาลืมคิดไปว่าน้องสาวต้องไม่พอใจแน่ ๆ

                    “พี่ปราม!”  ปริมาหน้างออย่างไม่พอใจที่พี่ชายเอาเสื้อที่เธอซื้อให้ไปให้นายกวนโอ๊ยใส่หน้าตาเฉย

                    “ขอโทษด้วยนะ  ถ้าทำให้เธอไม่พอใจ  ฉันถอดคืนให้เธอเดี๋ยวนี้เลยก็ได้นะ”   ปฏิการไม่รู้ว่าจะทำให้เธอไม่พอใจขนาดนี้

                    “ไม่ต้อง!  ข้าเป็นคนให้แกใส่เอง”  ปรามหันไปบอกเพื่อนเสียงเข้ม

                    โทรศัพท์มือถือของปรามดังขึ้น  เขากดรับสาย  แล้วยื่นโทรศัพท์ให้น้องคนเล็ก เมื่อปลายสายบอกว่าต้องการพูดกับเธอ

                    “พ่ออยากคุยกับปริม”

                    หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่ง  แล้วยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากพี่ชาย  ก่อนจะเลื่อนหน้าจอวางสาย  แล้ววางโทรศัพท์คืนให้เขาตามเดิม  เธอเคยบอกพี่ชายหลายครั้งแล้วว่าจะไม่รับโทรศัพท์จากพ่ออีก  แต่พ่อของเธอก็ไม่เคยลืมยังคงโทรมาเพื่ออวยพรวันเกิดของลูกสาวคนนี้  แม้ว่าเธอจะไม่เคยยอมรับสายแม้แต่ครั้งเดียว

                    ปฏิการมองบรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียดขึ้นมาทุกที  รีบทำลายความเงียบงันนั้น

                    “ทานข้าวกันเถอะ  ฉันหิวแล้ว” 

                    สายตามองไปที่ถ้วยต้มยำชามใหญ่สีสันน่าทานมาก กลิ่นหอมของมะนาวโชยมาแตะปลายจมูก  ไม่นึกว่าน้องสาวเพื่อนจะมีฝีมือทำอาหารขนาดนี้  ทันทีที่ตักข้าวพร้อมต้มยำเข้าปาก   ใบหน้าของชายหนุ่มเหยเก  เขาแทบสำลักเพราะมันเผ็ดมาก รสเผ็ดร้อนซีดขึ้นจมูก เกือบจะพ่นออกมาทางปากแล้ว  แต่พยายามกลืนลงไปจนได้ รีบเอามือปิดปากไว้  เขาลุกออกจากโต๊ะอาหารไปไออย่างระคายคออยู่นานมาก 

                    ปรามรีบลุกขึ้นไปช่วยลูบหลังให้เพื่อน

                    หนุ่มผมยาวกลับมานั่งที่เดิมรีบยกแก้วขึ้นน้ำดื่มอย่างรวดเร็ว  แต่ยังไม่หายเผ็ด  เขาห่อปากเป่าลมออกมาเพื่อคลายความเผ็ดร้อน  เอามือพัดถี่ยิบ   ริมฝีปากและใบหน้านั้นแดงไปจนถึงใบหูแล้ว 

                    ริมฝีปากของหญิงสาวเหยียดยิ้มอย่างขำอาการของหนุ่มจอมกวน  รีบหุบยิ้มเมื่อพี่ชายหันมามอง

                    “เผ็ดไปเหรอ...”  เธอตีหน้าตายถาม  แม้จะจงใจทำพริกหกใส่ลงไปก็ตาม

     

                    หนุ่มจอมกวนจ้องหน้าคนขี้แกล้งเขม็ง  ใบหน้าเธอนั้นซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่มิด  นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ 

                    ปรามมองหน้าเพื่อนซี้ที่มีอาการเผ็ดมาก  รีบหันไปบอกน้องสาว

                    “ปริมไปหยิบกล้วยมา” 

                    ปริมาจำใจลุกขึ้นเดินไปหยิบกล้วยที่ห้องครัวมาให้                           

                    “กล้วยแก้เผ็ดได้”  ปรามบอกเพื่อนหนุ่ม

                    เพื่อนซี้มองหน้าเพื่อนด้วยสายตาของคำถาม ราวกับไม่อยากจะเชื่อ

                    “ลูกอมไม่มีเหรอ!”  เขาต้องกินกล้วยอีกแล้วเหรอเนี่ย!

                    “ไม่มี  กินกล้วยไปก่อน”

                    ปฏิการจำใจปอกกล้วยเข้าปาก  รสหวานของกล้วยทำให้อาการเผ็ดหยุดลงทันทีราวกับปาฏิหารย์

                    “ลองกินดูบ้างมั้ยล่ะ”  เมื่อควบคุมอาการเผ็ดได้แล้ว  คนถูกแกล้งรีบลุกขึ้นตักต้มยำเอื้อมไปใส่จานข้าวของแม่ครัวตัวแสบ

                    ปริมารีบยกจานข้าวหนี

                    “ปรามลองกินดูดิ”  จานข้าวของเธอนั้นอยู่ไกลเกินกว่าแขนของเขาจะเอื้อมถึง  แต่จานของเพื่อนนั้นอยู่ใกล้กว่า

                    ปรามยกมือห้ามทันที

                    “เฮ้ย! ไม่เอา  กินอย่างอื่นดิ  ต้มมะระมั้ย?”  ปรามอดแหย่เพื่อนไม่ได้  แม้จะรู้ดีว่า เพื่อนรักไม่ชอบอาหารที่มีรสขม

                    ปรามตักชะอมชุปแป้งทอดใส่จานเพื่อน

                    สายตาของหนุ่มหน้ามนมองชะอมชุบแป้งทอดในจานตัวเองอย่างสงสัย แม่ครัวตัวแสบจะใส่อะไรอีกหรือเปล่า?  พลางพลิกชะอมทอดไปมา มองหน้าคนตักให้ตอนนี้กำลังงับชะอมชุบแป้งทอดอย่างเอร็ดอร่อย  จึงกล้าเอาเข้าปาก  รสชาติกรอบอร่อยกำลังดี  แป้งไม่หนาเกินไป และไม่อมน้ำมัน  แต่พอมองดูในจานชะอมเหลืออยู่อีกแค่ชิ้นเดียว  อะไรกันเนี่ย!!  แล้วรีบเอาซ่อมไปจิ้มชะอมชุปแป้งทอดชิ้นสุดท้าย  แต่แม่ครัวตัวดีรีบเอาซ่อมมาจิ้มไว้เช่นกัน

                    “นี่! ของฉัน! ฉันเป็นคนทำนะ!”  คนทำไม่ยอมออกแรงยื้อชะอมชุบแป้งทอดมาหาตนเอง

                    อีกฝ่ายก็ไม่ยอม  “ฉันเป็นคนเก็บนะ  ดูสิ! แผลเต็มแขนไปหมด” 

                    ปรามมองทั้งคู่อย่างขำ ๆ 

    ไอ้สองคนนี้ยังไง! เจอหน้าทีไรมีเรื่องกันได้ตลอดเลย

                    “ปริม ให้การไปเถอะน่า...”

                    หญิงสาวหันมามองหน้าพี่ชายที่เข้าข้างเพื่อนอีกแล้ว!  ทำหน้างอเป็นจวักยอมปล่อยมือจากชะอมชุบแป้งทอดอย่างเสียไม่ได้

                    ปรามมองแขนเพื่อนมีแผลขีดข่วนอยู่หลายแผล  และมีรอยปื้นแดงค่อนข้างใหญ่หนึ่งแผล

                    “ไปทำอะไรมา”

                    “ไปเก็บผักมา  โดนหนามชะอมข่วนเอา  น้องแกไม่ยอมบอกข้าเลย  แล้วก็นี่แขนบังเอิญไปชนร้านต้นมะเขือเทศ”  ปฏิการฟ้องเพื่อนซี้ให้ดูแผลเล็กแผลน้อยตามแขน

                    ปริมายิ้มเยาะเพื่อนหนุ่มของพี่ชายอย่างหมั่นไส้  แค่นี้ก็ต้องฟ้องด้วย  แผลไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย  รู้สึกรำคาญพาลกินข้าวไม่ลงแล้ว

                    “ปริมอิ่มแล้วเหรอ”  ปรามมองเห็นน้องสาวรวบช้อนไว้กลางจานที่ไม่มีเหลือแม้แต่เม็ดเดียว

                    “ถ้าอิ่มแล้ว  ไปเอากล่องทำแผลมาทำแผลให้การหน่อย  เอาน้ำมันมะพร้าวมาด้วยนะ”

                    น้องสาวหันขวับ! มองหน้าพี่ชายตัวดีด้วยสายตาของคำถาม

                    “หะ!”  ต้องเป็นคนทำแผลให้ไอ้หมอนี่ด้วยเหรอ!

                   

                   

                   

                   

                   

     

                   

     

                   

     

                   

                   

                   

                   

                   

     

                   

     

     

     

                   

                   

                   

                   

                   

                   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×