คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จะให้ไปส่งก็ได้นะ!
ตอนที่ 2 จะให้ไปส่งก็ได้นะ!
ปริมาลื่นไถลเซไปชนกับโซฟารับแขก รีบพลิกตัวหลบร่างของหนุ่มขี้เมาที่เดินหน้าเข้ามาหา ก่อนที่น้ำเหลว ๆ จะพุ่งกระฉูดออกมาจากปากของหนุ่มผมยาวกระฉอกลงบนพื้นกระจายไปทั่ว เธออยากจะบ้าตาย! มันวันซวยอะไรของเธอเนี่ย! หญิงสาวมองซ้ายมองขวารีบคว้าไม้กวาดตรงมุมห้องมาไว้ในมือเพื่อป้องกันตนเอง แล้วพยายามตั้งสติ
แขกไม่ได้รับเชิญเงยหน้าขึ้นมามอง น้ำเหลว ๆ ที่พุ่งออกมาไหลยืดอยู่ตามริมฝีปากนั้น เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดของเขาเปื้อนอ้วกเต็มไปหมด
“ขะ...ขอโทษ... หะ..ห้อง...น้ำไปทางไหน...” หนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก พูดอ้อแอ้สลับกับอาการสะอึก พลางยื่นมือมาข้างหน้า
“ไปทางโน้น!” ปริมาชี้ปลายไม้กวาดไปยังประตูบ้าน
“ออกไป!” เธอตะหวาดไล่หนุ่มขี้เมาเสียงดัง สองมือจับไม้กวาดแน่น ถ้ากล้าเข้ามาหวดไม่ยั้งแน่!
“ออกไปจากบ้านของฉัน! เดี๋ยวนี้!” สองมือหวดด้ามไม้กวาดลงกับพื้นถี่ยิบขู่ชายแปลกหน้า
“ได้ยินมั้ย? ออกไป!”
“ปริม!” ปรามรีบเดินมายังห้องรับแขกว่าเกิดอะไรขึ้น! เมื่อได้ยินเสียงน้องสาวโหวกเหวกโวยวายลั่นบ้าน
“ใจเย็น! เพื่อนพี่เอง ชื่อปฏิการ” เขารีบยกมือห้ามน้องสาว และบอกสถานะของหนุ่มผมยาว
หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความงงสุดขีด เมื่อไอ้ขี้เมาตรงหน้าดันกลายเป็นเพื่อนพี่ชายของเธอเอง!
“เพื่อนพี่เหรอ!!” เธอโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ทำไมพี่ชายถึงเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้ได้
“พี่ขอโทษนะ ที่วันนี้ไม่ได้ไปรับ พี่ไปงานแต่งงานของพ่อปฏิการตอนเช้า กะว่าเสร็จงานแล้วจะแวะไปรับปริม แล้วปฏิการมันเอาแต่กินเหล้าจนเมาโวยวายในงานเลี้ยง พี่เลยต้องพามันมาที่บ้านให้สงบสติอารมณ์ก่อน” เขาแจงสาเหตุที่ผิดนัดกับน้องสาว
ปริมาหันไปมองหน้าไอ้ขี้เมา แล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง ที่แท้ก็เป็นไอ้ขี้เมาคนนี้เองหรือ? ที่ทำให้พี่ของเธอต้องออกจากบ้านไปดึก ๆ ดื่น ๆ บ่อย ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ไอ้หมอนี่เอง! ที่ชอบมารบกวนพี่ชายของเธอ แล้ววันนี้ยังทำให้พี่ชายต้องผิดนัดกับเธออีก
“พี่เห็นเพื่อนดีกว่าน้องเหรอคะ” น้ำเสียงนั้นน้อยใจอยู่ไม่น้อย หญิงสาวส่ายหัว พลางถอนหายใจ
“ไม่ใช่อย่างนั้น... แล้วพี่โทรหาทำไมติดต่อปริมไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น! เป็นอะไรรึเปล่า?” เขามองน้องคนเดียวด้วยสายตาขอโทษที่ต้องผิดคำพูดกับเธอ
“ฝนตกหนักมาก ปริมเลยปิดเครื่อง” น้ำเสียงห้วนนั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างยิ่ง
“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมากินโจ๊กร้อน ๆ นะ” เขารู้ดีว่าทางเข้าบ้านนั้นลำบากขนาดไหน ถ้าฝนตกขึ้นมา ที่สำคัญไม่มีรถสองแถวเข้ามาได้ เธอคงต้องเดินตากฝนมาตั้งไกลกว่าจะถึงบ้าน
“ปริมไม่หิวค่ะ” คนเป็นน้องรีบเดินออกจากห้องนั้นไปทันที
ปรามมองตามหลังน้องสาวไปด้วยความรู้สึกผิด แล้วหันกลับมามองเพื่อนตัวปัญหาอย่างกลุ้มใจ ปกติปฏิการไม่ใช่คนขี้เหล้าเมายาแบบนี้ หลังจากพ่อเลิกกับแม่แล้วแต่งงานใหม่ทำไมกลับกลายเป็นคนขี้เมา มีปัญหากินแต่เหล้าแบบนี้ไปได้ จะประชดชีวิตอะไรนักหนา ครอบครัวที่หย่าร้างกันมีเยอะแยะถมเถไป เขาส่ายหัวกับสภาพเมาหัวราน้ำของเพื่อนรักเหลือเกิน
*********************
เช้าวันใหม่ แดดยามเช้าทักทายขอบฟ้าอย่างสดชื่นแจ่มใส เสียงนกเล็ก ๆ กำลังส่งเสียงคุยกันเจื้อยแจ้ว
“ก๊อก ๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ปริมาละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์มองไปที่ต้นกำเหนิดเสียง
“ปริม กินข้าวได้แล้วจ้า” เสียงพี่ชายตะโกนเรียกน้องสาวอยู่หน้าประตูห้องนอนของยามเช้า
เงียบกริบ....คนที่อยู่ในห้องยังไม่ยอมตอบ
“พี่ขอโทษ พี่สำนึกผิดแล้ว” เมื่อยังไม่มีเสียงตอบกลับจากคนในห้องจึงพูดต่อไป
“เช้านี้พี่ทำข้าวต้มต้มยำที่ปริมชอบด้วยนะ ไม่สนเหรอ เดี๋ยวเย็นหมดน้า...” ปรามยังพยายามง้อน้องสาว แต่ทว่ายังไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาเหมือนเดิม
“พี่จะยืนรอตรงนี้ จนกว่าปริมจะออกมากินข้าวเช้าด้วยกันนะ”
เสียงพี่ชายของเธอเงียบไปแล้ว ปริมามองข้อความไลน์พีซีบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
“จะส่งของได้เมื่อไหร่ ทำไมโทรไม่ติดครับ” ลูกค้ารายแรกที่ขายได้จากเว็บไซต์ส่งข้อความมาถาม
ปริมาเพิ่งนึกได้เธอปิดเครื่องไว้ยังไม่ได้เปิดเลย ที่สำคัญยังไม่กล้าเข้าไปตอบ เพราะยังไม่รู้จะส่งของให้ลูกค้าได้อย่างไร น้ำหมักชีวภาพนั้นมีน้ำหนักไม่น้อย อาจจะหกซึมออกมาได้ ยังไม่รู้จะแพ็ควิธีไหนดี เธอไม่มีสมาธิที่จะคิดจะทำอะไร เพราะใจหนึ่งก็กังวลเป็นห่วงพี่ชาย ถ้าเธอไม่ออกไปกินข้าว เขาก็จะยืนรออยู่อย่างนั้น ไม่ยอมกินข้าวเช่นกันจึงตัดสินใจไปเติมอาหารให้สมองก่อน
เมื่อเปิดประตูออกไป มองเห็นพี่ชายยังยืนรออยู่หน้าห้อง
“ดีกันนะ” ชายหนุ่มยกนิ้วก้อยมาตรงหน้าคนขี้น้อยใจ
ปริมามองหน้าพี่ชาย ก่อนจะค่อย ๆ ยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวก้อยกับเขา หลังจากที่พ่อกับแม่หย่ากัน แล้วต่อมาแม่ก็เสียชีวิต เธอเหลือพี่ชายแค่คนเดียว ถ้าไม่พูดกับเขาแล้วจะพูดกับใครได้
“ไปกินข้าวกัน วันนี้พี่ทำสุดฝีมือเลยนะ” ปรามยกมือกอดคอน้องสาว เขารู้ว่าดีว่าวิธีนี้จะทำให้คนขี้น้อยใจต้องยอมออกมาแน่นอน เพราะเธอรักและเป็นห่วงเขามาก
“แล้วให้คะแนนพี่ด้วยนะ ว่าอร่อยแค่ไหน เต็มสิบจะได้กี่คะแนนเอ่ย...”
“ได้ค่ะ” รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏบนใบหน้านั้น เธอจะโกรธพี่ชายได้อย่างไร น่ารักขนาดนี้
รอยยิ้มบนใบหน้าของปริมาค่อย ๆ เลือนหายไป เมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหาร มองเห็นไอ้หนุ่มขี้เมานั่งอยู่ด้วย เธอมองเขาด้วยสายตาของคำถาม
‘ทำไมหมอนี่ยังไม่กลับอีกวะ!’ สาวบัญชีรู้สึกข้องใจขึ้นมาทันที
ปฏิการละสายตาจากโทรศัพท์มือถือในมือ เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะจึงเงยหน้าขึ้นมองไปยังที่มาของเสียงนั้น มองเห็นปรามเดินเข้ามากับน้องสาว รอยยิ้มที่กำลังยิ้มให้พี่ชายก่อนจะหันมามองหน้าแขกแปลกหน้า รอยยิ้มของเธอน่ารักสดใสเหมือนดอกไม้กำลังผลิบานทำให้เขาตะลึงงันไปชั่ววินาที แต่ทว่าพอเธอมองเห็นหน้าของเขาเท่านั้น รอยยิ้มแสนน่ารักนั้นก็จางหายไปทันทีกลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าบูดบึ้งเข้ามาแทนที่ เหมือนกำลังโกรธใครมานาน
“ปริม นี่ปฏิการ เพื่อนพี่เอง” ปรามแนะนำเพื่อนซี้ให้น้องสาวคนเดียวรู้จักอย่างเป็นทางการ
“ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้ตกใจเมื่อคืนนี้” หนุ่มผมยาวเอ่ยขึ้น ที่เป็นเหตุให้เจ้าของบ้านอกสั่นขวัญหาย มองน้องสาวเพื่อนอย่างนึกไม่ถึงว่า จะหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ หน้ากลมผมม้าเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่น แต่ดูจากสีหน้าและแววตาของเธอคงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
“ทำไมยังไม่กลับอีกล่ะ” ปริมาตวัดสายตามองเขาอย่างเบื่อขี้หน้าเต็มที แม้เวลานี้ไอ้ขี้เมาจะดูดีกว่าเมื่อคืนราวกับเป็นคนละคน ผมยาวถูกรวบไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย เผยให้เห็นต่างหูเงินข้างหนึ่ง บ่งบอกถึงรสนิยมความเป็นศิลปินของชายหนุ่ม แม้เขาจะดูดีแค่ไหน หล่อเหลาราวกับพระเอกซีรีส์เกาหลีก็ไม่ปาน แต่ก็ไม่อาจเตะตาของสาวเจ้าของบ้านได้เลย
“นายควรรีบกลับบ้านได้แล้ว!”
คำตอบนั้น ทำให้ปฏิการต้องวางช้อนข้าวต้มในมือลงอย่างกะทันหัน! จ้องมองฝ่ายตรงข้ามประกาศศึกกับเขาต่อหน้าต่อตา แสดงออกว่าไม่พอใจเขาอย่างมาก อดแปลกใจไม่ได้เพราะเคยมีแต่สาว ๆ ที่ต้องตกตะลึงในความหล่อของเขาทั้งนั้น แต่เธอหาเป็นเช่นนั้นไม่! คำก็ไล่กลับบ้าน สองคำก็ไล่เขากลับบ้าน หนุ่มผมยาวชันข้อศอกกับพื้นโต๊ะอาหาร ยกมือข้างหนึ่งมาจับที่ปลายคางตนเองทำทีเป็นกำลังใช้สมองอย่างครุ่นคิด เมื่ออีกฝ่ายตอบมาแบบนี้ คนอย่างเขามีหรือจะยอม
“อืม...ที่นี่...บรรยากาศดี...คงอีกซักพักนะ ต้องขอพักผ่อนเดินเที่ยวชมซักหน่อย” ชายหนุ่มตอบลอยหน้าลอยตาอดกวนประสาทเธอไม่ได้ อุตส่าห์ขอโทษ คนอะไร! ไม่รู้จักการให้อภัยบ้างเลย ริมฝีปากบางอมชมพูระเรื่อนั้นค่อยๆ เหยียดตัวโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก
คำตอบนั้น กับรอยยิ้มกวนโอ๊ยของหนุ่มขี้เมา ทำให้น้องสาวเจ้าของบ้านหัวร้อนขึ้นมาทันควัน
“ไม่มีบ้านจะกลับหรือไง!”
“ปริมทานข้าวเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด” เสียงพี่ชายปรามเบา ๆ พลางยกมือแตะแขนน้องสาว
“ปรามที่นี่สวยมาก ให้น้องแกพาข้าเที่ยวชมหน่อยนะ” หนุ่มผมยาวยังคงยิ้มกวนบาทาและกวนประสาทแม่สาวชาวสวนไม่เลิก
ปริมาหันขวับไปหาพี่ชายทันที
“พี่ปราม! ต้องให้เขากลับวันนี้เลยนะคะ” เธอเน้นเสียงดังลั่นอย่างไม่พอใจที่จะต้องอยู่ร่วมชายคากับคนแปลกหน้าอย่างเขา
“เดี๋ยวข้าพาแกเดินเที่ยวเอง เติมข้าวต้มหน่อยนะ” ปรามหันไปตบบ่าเพื่อนซี้ แล้วตักข้าวต้มเติมให้ จะได้หุบปากเสียที ปกติเพื่อนเป็นคนขี้เกรงใจ แต่บางทีก็ปากเสียชอบกวนประสาท ถึงได้มีเรื่องไม่ลงรอยกับพ่อเป็นประจำ ถ้าใครเอาเรื่องก็ไม่ยอมใครง่าย ๆ เช่นกัน
หนุ่มผมยาวจึงสงบคำลงก้มหน้าก้มตากินข้าวเงียบ ๆ ไม่อยากทำให้เพื่อนรักลำบากใจ
ปรามมองน้องสาวกินข้าวต้มต้มยำที่เขาตักให้จนหมดชามแล้ว
“เป็นไง อร่อยมั้ย? ให้กี่คะแนนเอ่ย?”
“ศูนย์ค่ะ” สาวบัญชีรู้สึกรำคาญไอ้หนุ่มขี้เมาเอามาก ๆ จนพาลมาถึงพี่ชายด้วย
“เติมอีกนะ” ปรามตักข้าวต้มให้น้องสาวเพิ่ม
ปรามยื่นซองสีขาวไปตรงหน้าคนหน้างอ
“พ่อฝากมาให้ ช่วยค่าเทอมจ้ะ”
“ปริมเลี้ยงตัวเองได้แล้ว พี่ช่วยเอาไปคืนด้วยค่ะ” หญิงสาวเลื่อนซองขาวไปตรงหน้าพี่ชาย เคยพูดอย่างชัดเจนหลายครั้งแล้ว ว่าจะไม่รับเงินช่วยเหลือใด ๆ จากบิดาอีก เมื่อพ่อหย่ากับแม่ไปแต่งงานใหม่ เขาก็ไม่ใช่พ่อของเธออีกต่อไป เธอเกลียดคนที่ทำให้แม่ของเธอต้องเสียใจ คนที่จะเรียกว่า พ่อ ต้องไม่ใช่คนหลายใจ ต้องไม่ใช่คนแบบนี้
ปฏิการมองหน้าน้องสาวเพื่อน ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ อายุเพียงแค่นี้พึ่งตัวเองได้โดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ได้แล้วหรือ? อดทึ่งเธอไม่ได้เช่นกัน
“แล้วเว็บที่ปริมทำไปถึงไหนแล้วล่ะ” ปรามมองหน้าน้องสาวที่เครียดขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึงบิดา เขาจึงต้องเปลี่ยนเรื่อง เพื่อให้บรรยากาศคลี่คลายลง
“ทำเสร็จแล้วค่ะ ลองเอาน้ำหมักชีวภาพไปลงขาย ตอนนี้ขายได้ตั้งสิบสองขวดค่ะ ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีมาแล้วด้วย ปริมงงมาก ๆ เลยค่ะ ว่ามันขายได้!” สีหน้าเอาเรื่องเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มตื่นเต้นทันทีทันใด เธออยากจะเล่าให้พี่ชายฟังตั้งแต่เมื่อคืน ถ้าไม่มีคนขี้เมามาเกะกะวุ่นวายในบ้าน
“ไหนเว็บอะไร ให้พี่ดูหน่อยซิ” ปรามมองน้องสาวอย่างทึ่ง เธอมีหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก ทำโน่นทำนี่ไปขายมาตลอดจนไม่ต้องขอเงินใครเรียนหนังสืออีกเลย
ปริมารีบลุกขึ้นไปหยิบมือถือที่วางผึ่งไว้ที่ห้องรับแขก แล้วกดเปิดเครื่องโชว์เว็บไซต์สำเร็จรูปที่เธอทำเองกับมือ ให้พี่ชายดู
“กล่องของขวัญของใครเหรอ” ปรามมองเห็นกล่องสีทองผูกด้วยริบบิ้นสีแดงสดวางอยู่บนโต๊ะข้างหนังสือของเธอ
“ของขวัญจากพี่รหัสค่ะ”
“พี่รหัส...ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ” ปรามอดสงสัยไม่ได้
“ผู้ชายค่ะ”
ปรามขมวดคิ้ว “ใช่คนที่โทรมาหาบ่อย ๆ โทรเช้าโทรเย็นหรือเปล่า?” พี่รหัสสุดหล่อของน้องสาวให้ของน้องของเขาบ่อยมาก
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”
เสียงโทรศัพท์ของปริมาดังขึ้น บนหน้าจอขึ้นชื่อว่า ปกป้อง เขาส่งโทรศัพท์ให้น้องสาวรับสาย ยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็โทรมาแล้ว มองน้องสาวยิ้มแหย ๆ ยื่นมือมารับโทรศัพท์
“พี่ป้อง ตอนนี้ยังไม่สะดวกคุย ยุ่งอยู่ค่ะ” ปริมารีบบอกคนโทรมาก่อนจะวางสาย
ปฏิการมองแม่สาวน้อยตุ๊กตาญี่ปุ่น เธอมีหนุ่ม ๆ สนใจโทรเช้าโทรเย็นขนาดนี้เชียวหรือ?
“สนใจไหมคนนี้” พี่ชายแกล้งถามแหย่น้องสาวเล่น
“ไม่สนค่ะ ผู้ชายส่วนใหญ่มีแต่ไร้สาระขี้เหล้าเมายา”
หนุ่มผมยาวสะดุ้ง! แทบสำลักข้าวต้ม เธอกำลังเหน็บแนมเขาอยู่ใช่ไหม?
“คนนี้เรียนเก่งไม่ใช่เหรอ?” น้องสาวเคยโม้ให้ฟังว่า พี่รหัสเรียนเก่งอธิบายเรื่องเรียนได้ดีมากรู้ทุกเรื่อง เป็นนิสิตดีเด่น ได้คะแนนสูงสุดของคณะบริหาร
“ปริมขี้เกียจไปต่อคิวแย่งกับสาว ๆ ที่ตามพี่ป้องเยอะแยะเต็มไปหมด ทุกวันนี้ก็ถูกสาว ๆ เหล่จะแย่แล้ว”
“คงไม่ไปนัดตบใครอีกนะ” เขาแอบแซวถึงวีรกรรมสมัยเรียนมัธยมไม่ได้ มีรุ่นพี่มาหาเรื่อง น้องสาวของเขาก็นัดตบให้มันรู้เรื่องไปเลย จนทางโรงเรียนต้องเรียกเขาไปพบในฐานะผู้ปกครอง
“โธ่! พี่ปราม...ไม่แล้วค่ะ พี่ปรามช่วยดูเว็บของปริมหน่อยค่ะว่าใช้ได้รึเปล่าคะ” คนเป็นน้องรีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือให้พี่ชายดู
ปรามหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะรับโทรศัพท์ของน้องสาวตัวแสบมาดู เรื่องไม่ยอมใครเจ้าทิฐิมานะเป็นที่หนึ่ง
“น้องเราเก่งจัง” เขามองเว็บไซด์โทนสีหวานในโทรศัพท์มือถือของน้องสาว
“แต่มีปัญหาว่า จะส่งยังไงดีคะ ขนส่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับส่งน้ำหมัก และจำกัดกิโล ราคาก็แพงด้วยค่ะ”
“เขาอยู่แถวไหนล่ะ ไหนพี่ดูซิ” เมื่อมองเห็นที่อยู่ของลูกค้า จึงหันไปมองปฏิการ
“แกไปส่งให้หน่อยได้ป่าว อยู่ใกล้ ๆ บ้านแกเลยว่ะ” เขารีบโยนงานเพื่อการสมานฉันให้เพื่อนรักทันที
“พี่ปรามไม่ต้องรบกวนเขาหรอกค่ะ” ปริมารีบพูดปฏิเสธอย่างไวไม่อยากข้องเกี่ยวกับไอ้หนุ่มขี้เมาใด ๆ ทั้งสิ้น
โทรศัพท์ของปริมาดังขึ้น ลูกค้ารายแรกของเธอโทรเข้ามา
“ส่งของวันนี้ได้รึเปล่าครับ พรุ่งนี้ผมจะไม่อยู่บ้าน”
“ขะ ค่ะ ได้ค่ะ” ปริมาจำเป็นต้องรับปากลูกค้าไปก่อน แม้ว่าจะยังคิดไม่ตกว่าจะส่งของให้ด้วยวิธีไหน
“ว่าไง จะให้ไปส่งก็ได้นะ” หนุ่มผมยาวหันมาลอยหน้าลอยตาถาม
“ก็ได้” เธอจำใจต้องให้เขาไปส่งให้ ทั้งที่ไม่อยากรับความช่วยเหลือใด ๆ จากผู้ชายคนนี้
“ค่าจ้างล่ะ” ปฏิการแบมือมาข้างหน้า
“นายจะคิดเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย” ปริมาตอบด้วยน้ำเสียงแข็งห้วนกลับไป
ปฏิการเลิกคิ้ว ริมฝีปากนั้นเหยียดยิ้มเล็กน้อย ก่อนแกล้งทำท่าคิดหนัก เคาะนิ้วชี้ที่ปลายคางของตัวเองเบา ๆ
“อืม...เอางี้! จ่ายเป็นค่าที่พักคืนนี้ กับค่าอาหารเย็นนะ”
หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นมาจ้องหน้าชายหนุ่มทันที นี่มันแกล้งกันชัด ๆ
ความคิดเห็น