ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #2 : จะให้ไปส่งก็ได้นะ!

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 67


                    ตอนที่ 2  จะให้ไปส่งก็ได้นะ!

                    ปริมาลื่นไถลเซไปชนกับโซฟารับแขก  รีบพลิกตัวหลบร่างของหนุ่มขี้เมาที่เดินหน้าเข้ามาหา ก่อนที่น้ำเหลว ๆ จะพุ่งกระฉูดออกมาจากปากของหนุ่มผมยาวกระฉอกลงบนพื้นกระจายไปทั่ว เธออยากจะบ้าตาย! มันวันซวยอะไรของเธอเนี่ย!   หญิงสาวมองซ้ายมองขวารีบคว้าไม้กวาดตรงมุมห้องมาไว้ในมือเพื่อป้องกันตนเอง แล้วพยายามตั้งสติ

                    แขกไม่ได้รับเชิญเงยหน้าขึ้นมามอง  น้ำเหลว ๆ ที่พุ่งออกมาไหลยืดอยู่ตามริมฝีปากนั้น  เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดของเขาเปื้อนอ้วกเต็มไปหมด

                    “ขะ...ขอโทษ...  หะ..ห้อง...น้ำไปทางไหน...”  หนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก พูดอ้อแอ้สลับกับอาการสะอึก พลางยื่นมือมาข้างหน้า

                    “ไปทางโน้น!”  ปริมาชี้ปลายไม้กวาดไปยังประตูบ้าน        

                    “ออกไป!”  เธอตะหวาดไล่หนุ่มขี้เมาเสียงดัง  สองมือจับไม้กวาดแน่น  ถ้ากล้าเข้ามาหวดไม่ยั้งแน่!

                    “ออกไปจากบ้านของฉัน! เดี๋ยวนี้!”  สองมือหวดด้ามไม้กวาดลงกับพื้นถี่ยิบขู่ชายแปลกหน้า

                    “ได้ยินมั้ย? ออกไป!

                    “ปริม!”  ปรามรีบเดินมายังห้องรับแขกว่าเกิดอะไรขึ้น! เมื่อได้ยินเสียงน้องสาวโหวกเหวกโวยวายลั่นบ้าน

                    “ใจเย็น! เพื่อนพี่เอง ชื่อปฏิการ” เขารีบยกมือห้ามน้องสาว และบอกสถานะของหนุ่มผมยาว

                    หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความงงสุดขีด  เมื่อไอ้ขี้เมาตรงหน้าดันกลายเป็นเพื่อนพี่ชายของเธอเอง!

                    “เพื่อนพี่เหรอ!!”  เธอโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง  ทำไมพี่ชายถึงเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้ได้

                    “พี่ขอโทษนะ ที่วันนี้ไม่ได้ไปรับ  พี่ไปงานแต่งงานของพ่อปฏิการตอนเช้า  กะว่าเสร็จงานแล้วจะแวะไปรับปริม   แล้วปฏิการมันเอาแต่กินเหล้าจนเมาโวยวายในงานเลี้ยง  พี่เลยต้องพามันมาที่บ้านให้สงบสติอารมณ์ก่อน”  เขาแจงสาเหตุที่ผิดนัดกับน้องสาว

                    ปริมาหันไปมองหน้าไอ้ขี้เมา  แล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง  ที่แท้ก็เป็นไอ้ขี้เมาคนนี้เองหรือ? ที่ทำให้พี่ของเธอต้องออกจากบ้านไปดึก ๆ ดื่น ๆ บ่อย ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า  ไอ้หมอนี่เอง! ที่ชอบมารบกวนพี่ชายของเธอ แล้ววันนี้ยังทำให้พี่ชายต้องผิดนัดกับเธออีก

                    “พี่เห็นเพื่อนดีกว่าน้องเหรอคะ”  น้ำเสียงนั้นน้อยใจอยู่ไม่น้อย  หญิงสาวส่ายหัว พลางถอนหายใจ

                    “ไม่ใช่อย่างนั้น... แล้วพี่โทรหาทำไมติดต่อปริมไม่ได้  เกิดอะไรขึ้น! เป็นอะไรรึเปล่า?”  เขามองน้องคนเดียวด้วยสายตาขอโทษที่ต้องผิดคำพูดกับเธอ

                    “ฝนตกหนักมาก  ปริมเลยปิดเครื่อง” น้ำเสียงห้วนนั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างยิ่ง

                    “รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมากินโจ๊กร้อน ๆ นะ”  เขารู้ดีว่าทางเข้าบ้านนั้นลำบากขนาดไหน ถ้าฝนตกขึ้นมา ที่สำคัญไม่มีรถสองแถวเข้ามาได้ เธอคงต้องเดินตากฝนมาตั้งไกลกว่าจะถึงบ้าน

                    “ปริมไม่หิวค่ะ”  คนเป็นน้องรีบเดินออกจากห้องนั้นไปทันที

                    ปรามมองตามหลังน้องสาวไปด้วยความรู้สึกผิด  แล้วหันกลับมามองเพื่อนตัวปัญหาอย่างกลุ้มใจ ปกติปฏิการไม่ใช่คนขี้เหล้าเมายาแบบนี้  หลังจากพ่อเลิกกับแม่แล้วแต่งงานใหม่ทำไมกลับกลายเป็นคนขี้เมา มีปัญหากินแต่เหล้าแบบนี้ไปได้  จะประชดชีวิตอะไรนักหนา  ครอบครัวที่หย่าร้างกันมีเยอะแยะถมเถไป  เขาส่ายหัวกับสภาพเมาหัวราน้ำของเพื่อนรักเหลือเกิน

     

                    *********************

     

                    เช้าวันใหม่  แดดยามเช้าทักทายขอบฟ้าอย่างสดชื่นแจ่มใส  เสียงนกเล็ก ๆ กำลังส่งเสียงคุยกันเจื้อยแจ้ว

                    “ก๊อก ๆ”  เสียงเคาะประตูดังขึ้น

                    ปริมาละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์มองไปที่ต้นกำเหนิดเสียง

                    “ปริม กินข้าวได้แล้วจ้า”  เสียงพี่ชายตะโกนเรียกน้องสาวอยู่หน้าประตูห้องนอนของยามเช้า

                    เงียบกริบ....คนที่อยู่ในห้องยังไม่ยอมตอบ

                    “พี่ขอโทษ  พี่สำนึกผิดแล้ว”  เมื่อยังไม่มีเสียงตอบกลับจากคนในห้องจึงพูดต่อไป

                    “เช้านี้พี่ทำข้าวต้มต้มยำที่ปริมชอบด้วยนะ ไม่สนเหรอ  เดี๋ยวเย็นหมดน้า...” ปรามยังพยายามง้อน้องสาว แต่ทว่ายังไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาเหมือนเดิม

                    “พี่จะยืนรอตรงนี้ จนกว่าปริมจะออกมากินข้าวเช้าด้วยกันนะ”

                    เสียงพี่ชายของเธอเงียบไปแล้ว  ปริมามองข้อความไลน์พีซีบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

                    “จะส่งของได้เมื่อไหร่ ทำไมโทรไม่ติดครับ”  ลูกค้ารายแรกที่ขายได้จากเว็บไซต์ส่งข้อความมาถาม

                    ปริมาเพิ่งนึกได้เธอปิดเครื่องไว้ยังไม่ได้เปิดเลย  ที่สำคัญยังไม่กล้าเข้าไปตอบ  เพราะยังไม่รู้จะส่งของให้ลูกค้าได้อย่างไร  น้ำหมักชีวภาพนั้นมีน้ำหนักไม่น้อย  อาจจะหกซึมออกมาได้ ยังไม่รู้จะแพ็ควิธีไหนดี  เธอไม่มีสมาธิที่จะคิดจะทำอะไร  เพราะใจหนึ่งก็กังวลเป็นห่วงพี่ชาย ถ้าเธอไม่ออกไปกินข้าว  เขาก็จะยืนรออยู่อย่างนั้น ไม่ยอมกินข้าวเช่นกันจึงตัดสินใจไปเติมอาหารให้สมองก่อน 

                    เมื่อเปิดประตูออกไป มองเห็นพี่ชายยังยืนรออยู่หน้าห้อง

                    “ดีกันนะ”  ชายหนุ่มยกนิ้วก้อยมาตรงหน้าคนขี้น้อยใจ

                    ปริมามองหน้าพี่ชาย  ก่อนจะค่อย ๆ ยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวก้อยกับเขา  หลังจากที่พ่อกับแม่หย่ากัน  แล้วต่อมาแม่ก็เสียชีวิต  เธอเหลือพี่ชายแค่คนเดียว ถ้าไม่พูดกับเขาแล้วจะพูดกับใครได้

                    “ไปกินข้าวกัน  วันนี้พี่ทำสุดฝีมือเลยนะ”  ปรามยกมือกอดคอน้องสาว  เขารู้ว่าดีว่าวิธีนี้จะทำให้คนขี้น้อยใจต้องยอมออกมาแน่นอน เพราะเธอรักและเป็นห่วงเขามาก

                    “แล้วให้คะแนนพี่ด้วยนะ ว่าอร่อยแค่ไหน  เต็มสิบจะได้กี่คะแนนเอ่ย...”

                     “ได้ค่ะ”  รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏบนใบหน้านั้น  เธอจะโกรธพี่ชายได้อย่างไร น่ารักขนาดนี้

                    รอยยิ้มบนใบหน้าของปริมาค่อย ๆ เลือนหายไป  เมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหาร  มองเห็นไอ้หนุ่มขี้เมานั่งอยู่ด้วย  เธอมองเขาด้วยสายตาของคำถาม 

    ทำไมหมอนี่ยังไม่กลับอีกวะ!’  สาวบัญชีรู้สึกข้องใจขึ้นมาทันที

    ปฏิการละสายตาจากโทรศัพท์มือถือในมือ เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะจึงเงยหน้าขึ้นมองไปยังที่มาของเสียงนั้น  มองเห็นปรามเดินเข้ามากับน้องสาว  รอยยิ้มที่กำลังยิ้มให้พี่ชายก่อนจะหันมามองหน้าแขกแปลกหน้า รอยยิ้มของเธอน่ารักสดใสเหมือนดอกไม้กำลังผลิบานทำให้เขาตะลึงงันไปชั่ววินาที  แต่ทว่าพอเธอมองเห็นหน้าของเขาเท่านั้น  รอยยิ้มแสนน่ารักนั้นก็จางหายไปทันทีกลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าบูดบึ้งเข้ามาแทนที่ เหมือนกำลังโกรธใครมานาน

                    “ปริม  นี่ปฏิการ  เพื่อนพี่เอง”  ปรามแนะนำเพื่อนซี้ให้น้องสาวคนเดียวรู้จักอย่างเป็นทางการ

                    “ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้ตกใจเมื่อคืนนี้”  หนุ่มผมยาวเอ่ยขึ้น  ที่เป็นเหตุให้เจ้าของบ้านอกสั่นขวัญหาย  มองน้องสาวเพื่อนอย่างนึกไม่ถึงว่า จะหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ หน้ากลมผมม้าเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่น แต่ดูจากสีหน้าและแววตาของเธอคงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

                    “ทำไมยังไม่กลับอีกล่ะ”  ปริมาตวัดสายตามองเขาอย่างเบื่อขี้หน้าเต็มที  แม้เวลานี้ไอ้ขี้เมาจะดูดีกว่าเมื่อคืนราวกับเป็นคนละคน  ผมยาวถูกรวบไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย  เผยให้เห็นต่างหูเงินข้างหนึ่ง  บ่งบอกถึงรสนิยมความเป็นศิลปินของชายหนุ่ม  แม้เขาจะดูดีแค่ไหน หล่อเหลาราวกับพระเอกซีรีส์เกาหลีก็ไม่ปาน  แต่ก็ไม่อาจเตะตาของสาวเจ้าของบ้านได้เลย

                    “นายควรรีบกลับบ้านได้แล้ว!

                    คำตอบนั้น  ทำให้ปฏิการต้องวางช้อนข้าวต้มในมือลงอย่างกะทันหัน!  จ้องมองฝ่ายตรงข้ามประกาศศึกกับเขาต่อหน้าต่อตา  แสดงออกว่าไม่พอใจเขาอย่างมาก  อดแปลกใจไม่ได้เพราะเคยมีแต่สาว ๆ ที่ต้องตกตะลึงในความหล่อของเขาทั้งนั้น แต่เธอหาเป็นเช่นนั้นไม่! คำก็ไล่กลับบ้าน  สองคำก็ไล่เขากลับบ้าน  หนุ่มผมยาวชันข้อศอกกับพื้นโต๊ะอาหาร  ยกมือข้างหนึ่งมาจับที่ปลายคางตนเองทำทีเป็นกำลังใช้สมองอย่างครุ่นคิด เมื่ออีกฝ่ายตอบมาแบบนี้ คนอย่างเขามีหรือจะยอม 

                    “อืม...ที่นี่...บรรยากาศดี...คงอีกซักพักนะ  ต้องขอพักผ่อนเดินเที่ยวชมซักหน่อย”  ชายหนุ่มตอบลอยหน้าลอยตาอดกวนประสาทเธอไม่ได้  อุตส่าห์ขอโทษ คนอะไร! ไม่รู้จักการให้อภัยบ้างเลย  ริมฝีปากบางอมชมพูระเรื่อนั้นค่อยๆ เหยียดตัวโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก

                    คำตอบนั้น  กับรอยยิ้มกวนโอ๊ยของหนุ่มขี้เมา  ทำให้น้องสาวเจ้าของบ้านหัวร้อนขึ้นมาทันควัน

                    “ไม่มีบ้านจะกลับหรือไง!

                    “ปริมทานข้าวเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด”  เสียงพี่ชายปรามเบา ๆ  พลางยกมือแตะแขนน้องสาว

                    “ปรามที่นี่สวยมาก  ให้น้องแกพาข้าเที่ยวชมหน่อยนะ”  หนุ่มผมยาวยังคงยิ้มกวนบาทาและกวนประสาทแม่สาวชาวสวนไม่เลิก

                    ปริมาหันขวับไปหาพี่ชายทันที             

                    “พี่ปราม!  ต้องให้เขากลับวันนี้เลยนะคะ”  เธอเน้นเสียงดังลั่นอย่างไม่พอใจที่จะต้องอยู่ร่วมชายคากับคนแปลกหน้าอย่างเขา

                    “เดี๋ยวข้าพาแกเดินเที่ยวเอง เติมข้าวต้มหน่อยนะ”  ปรามหันไปตบบ่าเพื่อนซี้ แล้วตักข้าวต้มเติมให้ จะได้หุบปากเสียที ปกติเพื่อนเป็นคนขี้เกรงใจ  แต่บางทีก็ปากเสียชอบกวนประสาท  ถึงได้มีเรื่องไม่ลงรอยกับพ่อเป็นประจำ ถ้าใครเอาเรื่องก็ไม่ยอมใครง่าย ๆ เช่นกัน

                    หนุ่มผมยาวจึงสงบคำลงก้มหน้าก้มตากินข้าวเงียบ ๆ ไม่อยากทำให้เพื่อนรักลำบากใจ

                    ปรามมองน้องสาวกินข้าวต้มต้มยำที่เขาตักให้จนหมดชามแล้ว

                    “เป็นไง อร่อยมั้ย?  ให้กี่คะแนนเอ่ย?”

                    “ศูนย์ค่ะ”  สาวบัญชีรู้สึกรำคาญไอ้หนุ่มขี้เมาเอามาก ๆ  จนพาลมาถึงพี่ชายด้วย

                    “เติมอีกนะ”  ปรามตักข้าวต้มให้น้องสาวเพิ่ม

                    ปรามยื่นซองสีขาวไปตรงหน้าคนหน้างอ

                    “พ่อฝากมาให้ ช่วยค่าเทอมจ้ะ” 

                    “ปริมเลี้ยงตัวเองได้แล้ว พี่ช่วยเอาไปคืนด้วยค่ะ”  หญิงสาวเลื่อนซองขาวไปตรงหน้าพี่ชาย  เคยพูดอย่างชัดเจนหลายครั้งแล้ว  ว่าจะไม่รับเงินช่วยเหลือใด ๆ จากบิดาอีก   เมื่อพ่อหย่ากับแม่ไปแต่งงานใหม่ เขาก็ไม่ใช่พ่อของเธออีกต่อไป เธอเกลียดคนที่ทำให้แม่ของเธอต้องเสียใจ  คนที่จะเรียกว่า พ่อ ต้องไม่ใช่คนหลายใจ  ต้องไม่ใช่คนแบบนี้

                    ปฏิการมองหน้าน้องสาวเพื่อน  ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ  อายุเพียงแค่นี้พึ่งตัวเองได้โดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ได้แล้วหรือ?  อดทึ่งเธอไม่ได้เช่นกัน

                    “แล้วเว็บที่ปริมทำไปถึงไหนแล้วล่ะ”  ปรามมองหน้าน้องสาวที่เครียดขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึงบิดา  เขาจึงต้องเปลี่ยนเรื่อง เพื่อให้บรรยากาศคลี่คลายลง

                    “ทำเสร็จแล้วค่ะ  ลองเอาน้ำหมักชีวภาพไปลงขาย  ตอนนี้ขายได้ตั้งสิบสองขวดค่ะ  ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีมาแล้วด้วย  ปริมงงมาก ๆ เลยค่ะ ว่ามันขายได้!” สีหน้าเอาเรื่องเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มตื่นเต้นทันทีทันใด เธออยากจะเล่าให้พี่ชายฟังตั้งแต่เมื่อคืน  ถ้าไม่มีคนขี้เมามาเกะกะวุ่นวายในบ้าน

                    “ไหนเว็บอะไร ให้พี่ดูหน่อยซิ”  ปรามมองน้องสาวอย่างทึ่ง  เธอมีหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก  ทำโน่นทำนี่ไปขายมาตลอดจนไม่ต้องขอเงินใครเรียนหนังสืออีกเลย  

                    ปริมารีบลุกขึ้นไปหยิบมือถือที่วางผึ่งไว้ที่ห้องรับแขก  แล้วกดเปิดเครื่องโชว์เว็บไซต์สำเร็จรูปที่เธอทำเองกับมือ ให้พี่ชายดู

                    “กล่องของขวัญของใครเหรอ”  ปรามมองเห็นกล่องสีทองผูกด้วยริบบิ้นสีแดงสดวางอยู่บนโต๊ะข้างหนังสือของเธอ

                    “ของขวัญจากพี่รหัสค่ะ”

                    “พี่รหัส...ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”  ปรามอดสงสัยไม่ได้

                    “ผู้ชายค่ะ”

                    ปรามขมวดคิ้ว “ใช่คนที่โทรมาหาบ่อย ๆ โทรเช้าโทรเย็นหรือเปล่า?”  พี่รหัสสุดหล่อของน้องสาวให้ของน้องของเขาบ่อยมาก

                    “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ” 

                    เสียงโทรศัพท์ของปริมาดังขึ้น  บนหน้าจอขึ้นชื่อว่า  ปกป้อง  เขาส่งโทรศัพท์ให้น้องสาวรับสาย  ยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็โทรมาแล้ว  มองน้องสาวยิ้มแหย ๆ ยื่นมือมารับโทรศัพท์

                    “พี่ป้อง ตอนนี้ยังไม่สะดวกคุย ยุ่งอยู่ค่ะ”  ปริมารีบบอกคนโทรมาก่อนจะวางสาย

                    ปฏิการมองแม่สาวน้อยตุ๊กตาญี่ปุ่น เธอมีหนุ่ม ๆ สนใจโทรเช้าโทรเย็นขนาดนี้เชียวหรือ?

                    “สนใจไหมคนนี้”  พี่ชายแกล้งถามแหย่น้องสาวเล่น

                    “ไม่สนค่ะ ผู้ชายส่วนใหญ่มีแต่ไร้สาระขี้เหล้าเมายา”

                    หนุ่มผมยาวสะดุ้ง! แทบสำลักข้าวต้ม  เธอกำลังเหน็บแนมเขาอยู่ใช่ไหม?

                    “คนนี้เรียนเก่งไม่ใช่เหรอ?” น้องสาวเคยโม้ให้ฟังว่า พี่รหัสเรียนเก่งอธิบายเรื่องเรียนได้ดีมากรู้ทุกเรื่อง เป็นนิสิตดีเด่น ได้คะแนนสูงสุดของคณะบริหาร

                    “ปริมขี้เกียจไปต่อคิวแย่งกับสาว ๆ ที่ตามพี่ป้องเยอะแยะเต็มไปหมด ทุกวันนี้ก็ถูกสาว ๆ เหล่จะแย่แล้ว”

    “คงไม่ไปนัดตบใครอีกนะ”  เขาแอบแซวถึงวีรกรรมสมัยเรียนมัธยมไม่ได้ มีรุ่นพี่มาหาเรื่อง น้องสาวของเขาก็นัดตบให้มันรู้เรื่องไปเลย  จนทางโรงเรียนต้องเรียกเขาไปพบในฐานะผู้ปกครอง

                    “โธ่! พี่ปราม...ไม่แล้วค่ะ พี่ปรามช่วยดูเว็บของปริมหน่อยค่ะว่าใช้ได้รึเปล่าคะ”  คนเป็นน้องรีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือให้พี่ชายดู

                    ปรามหัวเราะเบา ๆ  ก่อนจะรับโทรศัพท์ของน้องสาวตัวแสบมาดู  เรื่องไม่ยอมใครเจ้าทิฐิมานะเป็นที่หนึ่ง

                    “น้องเราเก่งจัง”  เขามองเว็บไซด์โทนสีหวานในโทรศัพท์มือถือของน้องสาว

                    “แต่มีปัญหาว่า  จะส่งยังไงดีคะ ขนส่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับส่งน้ำหมัก และจำกัดกิโล  ราคาก็แพงด้วยค่ะ”

                    “เขาอยู่แถวไหนล่ะ ไหนพี่ดูซิ”  เมื่อมองเห็นที่อยู่ของลูกค้า  จึงหันไปมองปฏิการ

                    “แกไปส่งให้หน่อยได้ป่าว  อยู่ใกล้ ๆ บ้านแกเลยว่ะ”  เขารีบโยนงานเพื่อการสมานฉันให้เพื่อนรักทันที

                    “พี่ปรามไม่ต้องรบกวนเขาหรอกค่ะ” ปริมารีบพูดปฏิเสธอย่างไวไม่อยากข้องเกี่ยวกับไอ้หนุ่มขี้เมาใด ๆ ทั้งสิ้น

                    โทรศัพท์ของปริมาดังขึ้น  ลูกค้ารายแรกของเธอโทรเข้ามา

                    “ส่งของวันนี้ได้รึเปล่าครับ  พรุ่งนี้ผมจะไม่อยู่บ้าน”

                    “ขะ ค่ะ ได้ค่ะ”  ปริมาจำเป็นต้องรับปากลูกค้าไปก่อน  แม้ว่าจะยังคิดไม่ตกว่าจะส่งของให้ด้วยวิธีไหน

                    “ว่าไง จะให้ไปส่งก็ได้นะ”  หนุ่มผมยาวหันมาลอยหน้าลอยตาถาม

                    “ก็ได้”  เธอจำใจต้องให้เขาไปส่งให้ ทั้งที่ไม่อยากรับความช่วยเหลือใด ๆ จากผู้ชายคนนี้

                    “ค่าจ้างล่ะ”  ปฏิการแบมือมาข้างหน้า

                    “นายจะคิดเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย”    ปริมาตอบด้วยน้ำเสียงแข็งห้วนกลับไป

                    ปฏิการเลิกคิ้ว ริมฝีปากนั้นเหยียดยิ้มเล็กน้อย  ก่อนแกล้งทำท่าคิดหนัก เคาะนิ้วชี้ที่ปลายคางของตัวเองเบา ๆ

                    “อืม...เอางี้จ่ายเป็นค่าที่พักคืนนี้ กับค่าอาหารเย็นนะ”

                    หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นมาจ้องหน้าชายหนุ่มทันที นี่มันแกล้งกันชัด ๆ

                   

                   

                   

     

                   

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×