ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายหิมะ

    ลำดับตอนที่ #2 : ฝันร้ายของเจ้าหญิง

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 59


    Bestfellow  Friendly

     

    ดาบคมกริบฟันลงบนร่างของพระราชาและพระราชินีอย่างไม่ปรานีทันที  เมื่อนายทหารใหญ่เป็นกบฏผู้บุกรุกนำทหารเข้ามายึดอำนาจอย่างบ้าคลั่ง!

     

    หนีเร็ว! องค์หญิง  มือแข็งแรงคว้ามือเรียวของเจ้าหญิงที่ยืนหน้าซีดด้วยความช็อค! วิ่งไปทันที   อีกมือถือดาบฟาดฟันศัตรูอย่างคล่องแคล่วเป็นอย่างดี  เพื่อปกป้องเจ้าหญิงอย่างสุดชีวิต  ด้วยฝีมือ  ประสบการณ์ในสนามรบ  และความสามารถเป็นเลิศ  จึงฝ่าวงล้อมของเหล่าทหารกบฏออกไปจนได้  แต่ทว่าได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย

     

    จับองค์หญิงมาให้ได้!  เสียงนั้นตะโกนไล่หลังมา

     

    ไม่มีทางไอ้สารเลว  องครักษ์หนุ่มสบถ  กัดฟันกรามกรอด  พาเจ้าหญิงขึ้นม้าคู่ใจ  ควบหายไปในฝุ่นตลบ

     

    บีวาร์  เจ้าเป็นไงบ้าง  เจ้าหญิงเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง  เมื่อมองเห็นเลือดสีแดงเข้มไหลเป็นทางมาตามแขนของทหารหนุ่มที่กำลังควบม้าอยู่นั้น

     

    “ข้า...ไม่เป็นไร...อย่าห่วงเลย...องค์หญิง  เสียงนั้นแหบพร่าพูดออกมาอย่างยากลำบาก

     

    ข้าจะควบม้าเอง  บีวาร์ เจ้าเกาะข้าไว้ให้ดี  เจ้าหญิงดึงมือของทหารหนุ่มมาเกาะไว้ที่เอวของตน  แล้วแย่งบังเหียรมาบังคับเสียเอง   เธอรู้ดีว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ลำตัวเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์มากมาย  แต่ไม่ว่าเขาจะบาดเจ็บสักเพียงใด  ก็ไม่เคยมีถ้อยคำที่ทำให้เจ้าหญิงต้องห่วงกังวลแม้แต่น้อย   ความอดทน  เข้มแข็ง  และเสียสละของทหารคนสนิท  ทำให้เจ้าหญิงไม่อาจมัวหวาดกลัว  อ่อนแอ  และเศร้าโศกเสียใจกับความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง   ดวงตาสีเขียวมรกตเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น  มองเห็นป่าทึบข้างหน้า  ดูน่าจะใช้เป็นที่หลบภัยได้

     

    เจ้าหญิงหามร่างสูงใหญ่ของนายทหารหนุ่มเข้าไปพักในถ้ำแห่งหนึ่งอย่างทุลักทุเล

     

    ถ้าข้าฝึกเพลงดาบบ้าง  ไม่เอาแต่หนีไปอ่านหนังสือ  ข้าคงเก่งกว่านี้  และไม่ทำให้เจ้าลำบากเพราะข้าถึงเพียงนี้ เจ้าหญิงตำหนิตนเอง  สายตามองทหารหนุ่มด้วยความห่วงใยเหลือประมาณ  เพราะเขาเป็นมากกว่าองครักษ์ประจำตัว  แต่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย  เป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลปกป้องคุ้มครองมาตลอด

     

    เจ้าต้องไม่เป็นอะไรนะ บีวาร์  มือขององครักษ์หนุ่มถูกมือของเจ้าหญิงกุมไว้ตลอดเวลาด้วยความห่วงใยที่สุด 

     

    ===============

     

    เจ้าหญิงในร่างบุรุษชุดเทาพลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย  ทันทีที่ไข้จากพิษร้อนของตะขาบลดลง  พิษเย็นเริ่มแผลงฤทธิ์  ความรู้สึกหนาวสะท้านเกาะกุมไปทั่วร่าง  เกาะกินเข้าไปถึงกระดูก  ไอร้อนจากตัวเจ้าชายที่กำลังไข้ขึ้นนอนหมดสติอยู่ข้าง ทำให้เจ้าหญิงเข้าไปซุกตัวหาความอบอุ่น

     

    รุ่งขึ้นแสงสีทองจับขอบฟ้าด้านตะวันออก  คนชุดเทาเริ่มรู้สึกตัว  เปลือกตาค่อย ลืมขึ้นอย่างช้า พยายามลำดับความคิด  ระหว่างความฝันกับความจริงที่เกิดขึ้น

     

    ฝันไป…” 

     

    ภาพเหตุการณ์ที่พระบิดาและพระมารดาถูกฆ่าตายจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว  แต่เจ้าหญิงยังคงฝันร้ายถึงเหตุการณ์นั้น ๆ เสมอ  เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้เอง  ยังไม่อาจลืมเลือนมันได้เลย

     

    นี่เราหลับไปนานแค่ไหนกัน…” 

     

    เจ้าหญิงลืมตาขึ้นมองทุกสิ่งรอบตัวอย่างเต็มตา  เธอกระพริบตาถี่   หมวดคิ้วอย่างตกอกตกใจ  เมื่อเงยหน้าเจอคางเหลี่ยมของชายหนุ่ม   และมองเห็นตัวเองซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของบุรุษผมสีเทา

     

    ตายแล้ว!! 

     

    แล้วอุทานขึ้นมาในใจ  ก่อนจะค่อย ยกแขนของเจ้าชายที่วางพาดขวางลำตัวอยู่ออกไป  ราวกับว่ากลัวคนที่นอนอยู่จะตื่นและล็อคตัวเธอเอาไว้  รีบลุกขึ้นถอยตัวเองออกห่าง  พลางสำรวจเสื้อผ้าและร่างกายอย่างรวดเร็ว  ทุกอย่างปกติดี  ยกเว้นแขนเสื้อด้านซ้ายที่ถูกคมเขี้ยวตะขาบถากนั้นฉีกขาด   แล้วคายหญ้าที่อมไว้ตลอดคืนทิ้งไป  หันกลับมามองร่างชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งบนพื้น  ค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าไปมองบุรุษผมเทาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ  มองเห็นริมฝีปากของเขามีรอยเลือดแห้งเกรอะกรังอยู่

     

    หรือว่าเจ้าดูดพิษให้ข้า  เลยได้รับพิษไปด้วย  หญิงสาวขมวดคิ้ว  พลางค่อย เอื้อมมือแตะแขนชายหนุ่มอย่างกังวลใจในความเป็นความตายของเขา

     

    ตายล่ะตัวร้อนเป็นไฟเลย  ดวงตาสีมรกตเบิกกว้าง  สีหน้าตกใจ

     

    แล้วคิดอะไรบางอย่างได้  รีบไปเด็ดหญ้าริมลำธารมาขยี้เค้นเอาน้ำออกมาป้อนให้บุรุษหนุ่มผมเทาทันที

     

    ============= 

     

    แสงสว่างพร่ามัวเริ่มแจ่มชัดขึ้นเรื่อย   ก่อนมองเห็นชัดเจนเป็นใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่มร่างเล็กบอบบางคนนั้น  มือนุ่ม เสยผมสีเทาที่ปรกหน้าขึ้นไปบรรจงเช็ดหน้าผาก  ใบหน้า  ตลอดจนลำคอและแขนให้  เพื่อบรรเทาความร้อนภายในร่างกาย

     

    เจ้าต้องไม่เป็นอะไรเพราะข้าไปอีกคนนะ  เจ้าหญิงพูดกับตัวเองด้วยความหวัง  ในใจนึกเป็นห่วงบีวาร์องครักษ์คู่ใจ  รู้ดีว่าเขาต้องเป็นห่วงเธออย่างมากมายที่แอบออกมาเดินเล่น  และหายไปนานเช่นนี้

     

    คนชุดเทาคลี่ยิ้ม  เมื่อเห็นชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว  ขยับริมฝีปากจะพูดออกไปอย่างดีใจ  แต่แล้วสติก็กลับมาทัน  เกือบลืมตัว  ว่าขณะนี้ปลอมตัวเป็นชายอยู่  แล้วรีบทำเสียงต่ำ เล็กน้อยก่อนจะพูดออกไป

     

    เจ้าเป็นยังไงบ้าง

     

    เจ้าชายแรร์เน็สยันตัวเองลุกขึ้นมานั่งอย่างช้า   แล้วลำดับเหตุการณ์ต่าง ที่เกิดขึ้น  มองหน้าคนถาม ภาพตอนที่ก้มลงดูดพิษจากแขนของคนชุดเทาปรากฏขึ้นในสมอง  มีบางสิ่งที่ค้างคาใจ    ต้องรู้ให้ได้ว่าสิ่งที่เข้าใจนั้นเป็นความจริงหรือเป็นเรื่องบังเอิญที่ตาฝาด

     

    แขนเจ้าล่ะเป็นไงบ้าง  พลางเอื้อมมือดึงแขนของคนชุดเทาข้างที่บาดเจ็บขึ้นมาดู พร้อมกับโน้มตัวเข้ามามองใกล้ ๆ

     

    คนชุดเทาตกใจ แต่จะขยับตัวหนีก็ไม่ทันซะแล้ว 

     

    นี่เจ้า!! เจ้าชายผมสีเทามองดูแขนนั้นอย่างตกใจ  ดวงตาสีสนิมเหล็กเบิกกว้าง

     

    แผลนั้นไม่มีอะไรผิดปกติ  แผลเริ่มแห้งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง   แต่สะดุดเจอกับอะไรบางอย่างบางอย่างที่ไม่อยากให้เป็นจริง  แต่แล้วมันก็เป็นอย่างที่คิดไว้  ไม่ได้ตาฝาด  รีบดึงแขนเสื้อของคนชุดเทาลงมาปิดบาดแผลนั้นเอาไว้ทันที   แล้วมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดที่จะล่วงรู้บางสิ่งบางอย่างบนแขนนั้น   มองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า  สายตานั้นบ่งบอกถึงความหนักใจบางอย่าง   ก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างยากลำบาก 

     

    เจ้าชายแปลกใจที่กำลังไม่คืนกลับมาเต็มที่  ราวกับมีบางสิ่งสะกัดกั้นพละกำลังเอาไว้  ทุกครั้งที่พละกำลังถูกใช้ไปเมื่อได้พักผ่อนเต็มที่  หลังจากตื่นขึ้นพละกำลังจะคืนกลับมาเต็มที่ทันที   แต่ครั้งนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่   พิษตะขาบช่างร้ายแรงนัก

     

    คนชุดเทารู้สึกงง   ว่าแขนของเธอมีอะไรผิดปกติ  สีหน้าคนผมสีเทาจึงเปลี่ยนไป  ดูกังวลและหนักใจไม่น้อยเลยแล้วขยับตัวจะเข้าไปช่วยพยุงตัวชายหนุ่มเมื่อเห็นเขายังยืนขึ้นได้ไม่มั่นคงนัก และดูยังไม่หายดี

     

    ไม่ต้องออกไปอย่าเข้ามาใกล้ข้า!  เขาตะโกนเสียงดัง  แล้วใช้ดาบยันพื้นเพื่อลุกขึ้นยืน 

     

    เจ้าหญิงผงะด้วยความตกใจ  ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายต้องตะโกนเสียงดังใส่   ทั้ง ที่เธอปรารถนาดีอยากจะช่วยเหลือ  ได้แต่มองบุรุษหนุ่มพยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง

     

     ให้ข้าได้ช่วยเจ้านะ  ที่เจ้าเป็นอย่างนี้เพราะช่วยข้า เจ้าหญิงได้แต่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าชายที่เดินซวนเซเปะปะไปมา  จนเกือบจะล้มแล้วล้มอีก  และก่อนที่จะล้มลงจริง จึงรีบเข้าไปช่วยประคองไว้

     

    ข้าบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเข้ามา!  เจ้าชายดุเสียงเข้ม

     

    เจ้าหญิงหน้าเสียและตกใจ  เพราะอุณหภูมิร้อนจัดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเย็นจัดราวกับน้ำแข็ง  ทุกส่วนที่สัมผัสร่างกายของเจ้าชายที่เย็นจัดขณะนี้จะไม่สามารถขยับออกหรือเคลื่อนไหวได้เลย

     

    เกิดอะไรขึ้น! เจ้าหญิงหน้าซีดลงทันที เมื่อต้องถูกดูดติดอยู่กับชายหนุ่ม

     

    เมื่อกี๊เจ้าตะโกนเสียงดังเพื่อไม่ให้เข้ามาใกล้  เพราะเหตุนี้เองหรือ  เธอนึกถึงสาเหตุของการตะโกนเสียงดังใส่

     

    ดวงตาสีสนิมเหล็กจ้องหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า  เพิ่งได้มีโอกาสเพ่งพิจใบหน้านั้นอย่างใกล้ชิดและชัดเจนอย่างนี้  ผิวหน้าละเอียดอ่อนนั้นเป็นสีชมพู  แม้จะถูกปกปิดด้วยขี้ดินความสกปรกมอมแมมไปบ้างก็ตาม  แววตาสีมรกตเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาอย่างที่ไม่เคยเห็นแววตาแบบนี้ของใครมาก่อน  ดวงตา  จมูก  และริมฝีปากประกอบกันได้รูปอย่างพอเหมาะพอดี  ผมตรงแค่ต้นคอสีดำขลับผิวหน้าให้พริ้มเพราคมคาย  ถ้าเป็นชายต้องหล่อเหลาราวกับเทพบุตร  ถ้าเป็นหญิงต้องงดงามดั่งนางฟ้าบนสรวงสวรรค์

     

    เจ้าเป็นหญิงหรือชายกันแน่  เจ้าชายบังเกิดความสงสัยอย่างมากมาย  ผิวที่ละเอียดอ่อนและอ่อนนุ่ม รูปร่างที่บอบบางน่าจะเป็นของอิสตรีมากกว่าบุรุษเพศ

     

    หรือเพราะยังเด็กอยู่นะ  ได้แต่คิดสงสัยอยู่อย่างนั้น

     

    ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองบุรุษที่อยู่ตรงหน้าเช่นกัน  ผมสีเทาเข้มหยักโศกยาวสยายอยู่ด้านหลังทำให้ใบหน้าเยือกเย็นของเจ้าชายเพิ่มความเย็นชามากขึ้น  คางเหลี่ยมรับกับใบหน้าที่เสริมให้ดูสง่างามน่าเกรงขาม  แฝงพลังอำนาจเร้นลับ  ดวงตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นเต็มไปด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวอย่างชายชาตรี

     

    ความเย็นในตัวเจ้าชายค่อย ลดลง  เจ้าชายดึงมือเจ้าหญิงที่ช่วยพยุงตัวออก  เมื่อพละกำลังค่อย กลับคืนมามากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว   ก่อนเลี่ยงเดินไปนั่งลงริมแม่น้ำ

     

    เจ้าคือผู้อ่านคาถาจริง   เจ้าชายได้แต่ครุ่นคิด  ปานแดงรูปดาวที่ต้นแขนซ้ายของคนชุดเทาคือสัญลักษณ์ของผู้อ่านคาถา

     

    ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้เร็วที่สุด    ความคิดหนึ่งพุ่งปราดเข้ามาในสมอง   พร้อมกับกระชับดาบในมืออย่างเตรียมพร้อม

     

    เจ้าหญิงเดินตามไปนั่งลงข้าง

     

    ข้าอยากจะขอบคุณเจ้า  ที่ได้ช่วยข้าจากตะขาบยักษ์จนทำให้เจ้าต้องได้รับบาดเจ็บเพราะข้า  เจ้าหญิงพูดพลางใช้ภาษามือประกอบ  พร้อมกับทำท่าทางต่าง   ก่อนจะค้อมตัวโค้งคำนับให้อย่างอ่อนน้อมที่สุดด้วยความขอบคุณจากใจจริง

     

    เมื่อเห็นกิริยานอบน้อมของคนชุดเทาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ ปราศจากการเสแสร้ง  มือที่จับดาบหมายประหารชีวิตกลับยกไม่ขึ้น

     

    เจ้าชายแรร์เน็ส  มองคนตรงหน้าพยายามทำท่าทางต่าง ประกอบ  เพื่อให้เข้าใจความหมาย  นึกขำที่เขาและเธอต้องใช้ภาษาใบ้คุยกันซะแล้ว  มีรอยยิ้มซ่อนอยู่ในใบหน้าเรียบเฉยนั้น

     

    เจ้าชื่ออะไรเหรอ  ข้าชื่อ  เฟรนลี่  นะ  เจ้าหญิงเบสเฟลโล่  เฟรนลี่   แนะนำตัว  พร้อมกับชี้ที่ตัวเอง และเน้นคำซ้ำสองสามครั้ง  แล้วชี้มาที่ตัวเจ้าชาย

     

    บุรุษผมเทาหมวดคิ้วย่น  พยายามทำความเข้าใจ 

    เจ้าถามชื่อข้าเหรอ  ข้าชื่อ  แรร์เน็ส  เจ้าชายเรียว   แรร์เน็ส  แนะนำตัว

     

    แมลงตัวน้อยบินมาเกาะแขนเจ้าชาย  แต่ทว่าถูกบุรุษหนุ่มเป่าจนตัวปลิวออกจากแขนอันแข็งแกร่งนั้น  แต่ไม่วายบินกลับมาใหม่  ทีนี้ใช้ปากเจาะเพื่อดูดเลือดของเจ้าชายอีกต่างหาก  มืออันแข็งแรงยกขึ้นหมายปลิดชีวิตแมลงที่บังอาจมาขโมยเลือดโดยไม่ได้รับอนุญาติ   แต่มือนั้นยังไม่ทันตบลงบนร่างของแมลงน้อย  ถูกมือของเจ้าหญิงรั้งไว้อย่างทันท่วงที

     

    ได้โปรดเถิด  มันขอเลือดท่านนิดเดียว  ท่านจะเอาชีวิต  ประหารมันเชียวหรือ   ท่านแค่เจ็บ คัน เล็กน้อยเท่านั้นเอง  มันถูกกำหนดมาให้ต้องกินเลือดเป็นอาหารนะ  ถ้ามันถูกกำหนดมาให้กินน้ำหวาน  มันคงไปกินแล้ว  ไม่มาทำร้ายท่านเช่นนี้หรอก   อภัยให้มันเถอะนะ  ได้มั้ย…”

     

    เจ้าชายมองหน้าเจ้าหญิง  ไม่เข้าใจว่ากำลังพูดอะไร  แต่กลับไม่กล้าตบร่างแมลงน้อยให้แหลกเละไปคามือตามที่ได้ตั้งใจไว้แต่แรก

     

    เจ้าแมลงน้อยบินมาเกาะที่แขนเจ้าหญิงแทน  และใช้ปากเจาะดูดเลือดอย่างกระหาย  เจ้าหญิงเฟรนลี่ขยับแขนไล่แมลงตัวนั้นอย่างปราณี

     

    อยู่ เจ้าหญิงก็สะดุ้ง  เนื่องจากรู้สึกเจ็บจี๊ดที่เท้า  รีบมองดู  มองเห็นมดตัวสีแดงกำลังกัดอย่างหัวทิ่มหัวตำ  ก้นโด่งชี้ขึ้นฟ้า

     

    นิ้วเรียวของเจ้าหญิงค่อย บรรจงหยิบมดน้อยออกไปปล่อยบนต้นไม้เล็ก ที่ขึ้นริมน้ำอย่างใจเย็น

     

    เจ้าชายได้แต่มองอย่างทึ่งในความเมตตากรุณานั้นอย่างไม่น่าเชื่อ  เพราะในชีวิตของเจ้าชายผ่านการรบฟาดฟันศัตรูมานับไม่ถ้วน  ผู้ไม่ประสงค์ดี  และคิดทำร้ายก่อนจะต้องได้รับบทลงโทษอย่างสาสมที่สุดเสมอ 

     

    อยู่ เจ้าชายก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นที่แขนด้วยเช่นกัน  รีบมองดูอย่างรวดเร็ว  มือไวกว่านั้นรีบควานหาเจ้าวายร้ายอย่างทันท่วงที  ทั้งที่ยังมองไม่เห็นตัว  เมื่อคลำหาเจอนิ้วอันแข็งแรงนั้นบีบเจ้ามดแดงชะตาขาดจนแหลกคามือขาดเป็นสองท่อน

     

    เจ้าหญิงมีสีหน้าเหยเกเล็กน้อย  เจ้าฆ่ามันทำไม   มันทำผิดจนมีโทษถึงตายงั้นหรือ   ท่านคิดว่าท่านเป็นใคร  ถึงมีสิทธิ์ประหารชีวิตใครก็ได้  หรือเพราะท่านตัวโตกว่า  แข็งแรงกว่า  ถึงประหารชีวิตผู้อ่อนแอกว่าได้  เจ้าหญิงยิงคำถามเป็นพรวนใส่เจ้าชายทันที

     

    เจ้าชายทำหน้าเจื่อน   ไม่รู้เหมือนกัน  ทำไมถึงรู้สึกเหมือนทำผิดแล้วกำลังโดนตำหนิงั้นแหละ  แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อไป   ร่างของมดน้อยที่ขาดสองท่อน แต่ละส่วนนั้นขยับและเคลื่อนไหว  เกิดการแบ่งตัว  และขยายตัวใหญ่ขึ้น 

     

    เจ้าชายรีบคว้ามือเจ้าหญิงที่นั่งงงอยู่นั้นไปยืนตั้งหลักอีกด้านหนึ่งทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×