ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #1 : ผิดนัด

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 66


    ตอนที่ 1  ผิดนัด

                    ใบหน้าของหนุ่มหล่อค่อย ๆ คลี่ยิ้มด้วยความดีใจหลังจากที่เดินหาน้องรหัสพบแล้ว เธอนั่งอยู่ตรงม้าหินหน้าคณะบริหาร  เขาก้มลงมองกล่องของขวัญสีทองผูกด้วยริบบิ้นสีแดงสดในมือแล้วเอาซ่อนไว้ด้านหลัง สายตาของหนุ่มรุ่นพี่หยุดอยู่ที่น้องรหัสหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาญี่ปุ่น เธอเหมือนนางฟ้าที่ทำให้เขาต้องมองตาค้างอยู่อย่างนั้น ลมพัดปอยผมของเธอละไปตามแก้มขาวละมุน  ดวงตากลมโตเป็นประกายเหมือนดวงดาวกำลังมองตามดอกชมพูพันทิพย์ปลิดปลิวไปตามสายลม หญิงสาวยื่นมือออกไปคอยรับดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงมาไว้ในอุ้งมือ  รอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากทำให้โลกนี้ดูหวานเหมือนรอยยิ้มของเธอ  ทุกอากัปกิริยานั้น  ทำให้เขาไม่อาจละสายตาจากเธอได้เลย 

    สองเท้าของชายหนุ่มก้าวเดินเข้าไปหารุ่นน้องหน้าใสซึ่งตอนนี้กำลังนั่งก้มหน้าก้มตามองมือถือในมือด้วยใจจดจ่อ มือข้างหนึ่งกำลังม้วนผมตนเองเล่น  เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอคุยกับไอ้หนุ่มที่ไหนอยู่รึเปล่า? เลิกเรียนแล้วเป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ อยากจะชวนสาวน้อยไปดูหนังด้วยกันสักเรื่อง ที่สำคัญวันนี้เป็นวันพิเศษของเธอด้วย  เขาอาจจะเคยจีบสาว ๆ มาหลายคน แต่กลับรู้สึกไม่มั่นใจตัวเองเหมือนทุกครั้ง

                    "แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับน้องปริม"  ปกป้องนำกล่องที่อยู่ด้านหลัง ยื่นให้พร้อมรอยยิ้มสวย

                    ปริมาเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มรุ่นพี่สุดหล่อ ก่อนจะยิ้มตอบเมื่อมองเห็นกล่องสีทองตรงหน้า อดแปลกใจไม่น้อยที่เขาจำวันเกิดของเธอได้ด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยบอกเขาเลย  เธอกลายเป็นที่อิจฉาของบรรดาสาว ๆ หลายคนที่ได้เป็นน้องรหัสของเขา  และยังได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี  โดยเฉพาะเรื่องเรียนติดปัญหาตรงไหนถามเขาได้ตลอด  ซึ่งเขาสามารถอธิบายได้หมดและเข้าใจง่าย สมกับตำแหน่งนิสิตดีเด่นและได้คะแนนสูงสุดของคณะบริหาร

                    "ขอบคุณมากเลยค่ะ พี่ป้อง"  น้องรหัสส่งยิ้มให้พร้อมกับยื่นมือรับกล่องของขวัญจากหนุ่มหล่อลูกชายคนโตของเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในจังหวัด  และยังดังที่สุดในมหาลัยตอนนี้

                    ปกป้องมองใบหน้าสวยของน้องรหัส เขาแอบหลงรักลักยิ้มบุ๋มข้างแก้มใสนั้นตั้งแต่แรกเห็น  รอยยิ้มที่เหมือนดอกไม้บานยามเช้า

                    "น้องปริมทำไรอยู่ครับ อย่าบอกนะว่าคุยกับหนุ่มๆ อยู่" พี่รหัสแกล้งแหย่รุ่นน้องเบา ๆ อย่างอยากรู้ว่าเธอมีแฟนหรือยัง หรือคุยกับใครอยู่รึเปล่า? พลางย่อตัวลงนั่งข้างสาวบัญชี สายตาแอบมองไปยังมือถือของอีกฝ่ายอย่างสนใจจนคอยื่นคอยาว เมื่อเจอสายตาของเธอหันมามอง จึงอมยิ้มแหย ๆ รีบหดลำคอกลับที่ตั้ง

                    "ไม่มีหรอกค่ะ ไม่ว่างขนาดนั้น ปริมกำลังหัดทำเว็บไซด์ขายของ ไปเจอเว็บฟรีมา เว็บนี้ลงสินค้าได้ไม่จำกัดด้วยนะคะ" น้องรหัสขยับตัวเล็กน้อยเมื่อหนุ่มหล่อเข้ามานั่งประชิดตัว จนแขนของเขาแทบจะชนกับไหล่ของเธอแล้ว  ทุกครั้งที่พบกันเขาชอบมานั่งคุยด้วยเป็นเวลานานสองนาน  และระหว่างนั้นจะมีแต่สาว ๆ แวะเวียนมาทักทายเขาเสมอ เรียกได้ว่าเขาเป็นหนุ่มฮอตมากของคณะบริหาร ขนาดปรีเปรมเพื่อนซี้ของเธอยังแอบปลื้มหนุ่มหล่อคนนี้ไปกับเขาด้วย

                    ชายหนุ่มรู้สึกหน้าชายังไงไม่รู้ เหมือนกำลังโดนต่อว่าทางอ้อม เพราะเขามีสาวๆ อยากคุยด้วยมากมายตามประสาหนุ่มเนื้อหอมที่ทั้งหล่อทั้งฐานะดีและเรียนเก่ง แต่รู้สึกโล่งใจกับคำตอบของคนที่นั่งข้าง ๆ อย่างน้อยเธอยังไม่ได้คุยกับหนุ่มหน้าไหนอยู่ แอบซ่อนยิ้มเอาไว้ในสีหน้า

                    "ไหนดูบ้างสิ ทำเว็บเสร็จแล้วเหรอ เก่งจังเลย"  พี่รหัสพูดพลางโน้มตัวเข้าไปใกล้อีกนิด

                    "ทำง่ายมากค่ะ เป็นเว็บสำเร็จรูป เราก็ลงสินค้า เบอร์โทรติดต่อ บัญชีธนาคาร เลือกเทมตกแต่งได้ด้วย มีตั้งหลายแบบเลยนะคะ พี่ป้องช่วยดูว่าเป็นยังไงบ้างคะ"  คนพูดยื่นมือถือในมือให้อีกฝ่ายดูผลงาน

                    ปกป้องมองเว็บในโทรศัพท์มือถือของน้องรหัส เธอเลือกสีเป็นโทนสีชมพู มีลวดลายเป็นรูปสตรอว์เบอร์รี่

                    "เว็บน่ารักจังครับ" เขารับโทรศัพท์มือถือจากน้องรหัสมาดู  แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนออกแบบ  ช่างน่ารักเหมือนคนทำเลย

                    "แล้วจะลงสินค้าอะไรบ้าง" เขามองรุ่นน้องมีหัวการค้าไม่เบาเลย รู้สึกทึ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาเสียแล้ว  แม้ว่าจะแต่งตัวเรียบง่ายธรรมดามาก  แต่ทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้  ทุกอย่างที่เป็นเธอดูน่ารักไปหมด  อยากจะทำความรู้จักกับน้องรหัสให้มากกว่านี้

                    "ลงแล้วค่ะ ทดลองลงน้ำหมักชีวภาพค่ะ ที่บ้านทำใช้อยู่แล้ว"  น้องรหัสรับมือถือคืนจากรุ่นพี่

                    "งั้นวันนี้ต้อง...." เขายังพูดไม่ทันจบ มีเสียงโทรศัพท์ของปริมาดังขึ้นเสียก่อน

                    "สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ หา... โอนเงินให้แล้วเหรอคะ โอนค่าอะไรคะ" ปริมารู้สึกงงไปหมด แต่คำตอบถัดมาทำให้แทบไม่เชื่อหูตัวเองเลย น้ำหมักชีวภาพที่เธอลงขายเล่นๆ ทดสอบเว็บ มีคนต้องการซื้อจริงๆ แถมโอนเงินมาให้แล้วด้วย

                    รุ่นน้องหันมามองพี่รหัสด้วยรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้น

                    "พี่ป้อง! ขายได้แล้วค่ะ คนที่โทรมาเมื่อกี้ บอกว่าโอนเงินให้แล้ว"  เธอโพล่งบอกเขาอย่างดีอกดีใจและเซอร์ไพร้สสุด ๆ

                    "ขายอะไรได้ครับ?" ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างงุนงงไม่แพ้กัน

                    "น้ำหมักชีวภาพค่ะ"  หญิงสาวยิ้มแก้มปริจนหน้าบานเป็นกระด้ง

                    "แบบนี้ต้องฉลองกันหน่อยแล้ว พี่เลี้ยงเอง อยากกินไรล่ะ แถมดูหนังสักเรื่องให้ด้วย" เขามองใบหน้าของรุ่นน้องที่มีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้านั้น ยิ่งทำให้น่ารักน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นอีก ได้โอกาสเหมาะที่จะชวนเธอไปกินข้าวดูหนังด้วยกันแล้ว

                    "ขอบคุณพี่ป้องมากๆ เลยนะคะ เสียดายจัง ไว้โอกาสหน้านะ วันนี้พี่ปรามบอกว่าจะมารับค่ะ"

                    คำตอบนั้นทำให้ใบหน้าของหนุ่มหน้ามนที่มีรอยยิ้มพราวจนมองเห็นเขี้ยวเสน่ห์จางลงทันที ปกป้องหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้รับคำตอบเช่นนี้ ทำไมนะการจะได้ไปทานข้าวกับน้องรหัสสองต่อสองมันช่างยากเย็นเหลือเกิน ที่ผ่านมามีแต่สาวๆ อยากให้เขาพาไปเลี้ยงทั้งนั้น

                    "เย็นมากแล้วนะ พี่ปรามจะมารับกี่โมงครับ" เขามองสายแดดหลังเหลี่ยมของมุมตึกอ่อนแสงลงมากแล้ว

                    "พี่ป้องไม่ต้องรอนะคะ เดี๋ยวปริมโทรถามพี่ปรามก่อนว่าใกล้ถึงรึยัง?" มือน้อย ๆ ของหญิงสาว รีบกดโทรศัพท์โทรหาพี่ชายทันที แต่ทว่าปลายสายยังไม่ยอมรับสาย

                    คนโทรทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ลุกขึ้นเดินกดโทรศัพท์ไปมาอีกหลายครั้งก็ยังไม่ยอมรับสาย จนรู้สึกอดหัวเสียไม่ได้

                    ‘อะไรกันเนี่ย!! ก็บอกว่าจะมารับนี่นา ทำไมไม่รับสาย!  ในที่สุดก็ต้องกดวางสายไปโดยปริยาย  ในใจอดคิดไม่ได้ว่า พี่ชายมีงานยุ่งอะไรนักหนา  หรือว่าเพื่อนซี้ตัวดีของพี่ชายมีปัญหาอีกแล้ว  เธอรู้สึกเบื่อเพื่อนพี่ชายคนนี้มาก  บ่อยครั้งที่พี่ของเธอต้องออกไปข้างนอกกับเพื่อนคนนี้จนกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ

                    เมื่อปริมาหมุนตัวกลับมาที่โต๊ะม้าหิน  ยังเห็นพี่รหัสของเธอยังนั่งรออยู่ที่เดิม

                    "แล้วพี่ปรามจะมารับหรือเปล่าครับ" หนุ่มรุ่นพี่จ้องหน้าน้องรหัสด้วยความเป็นห่วง ถ้าเย็นกว่านี้รถออกจากมหาลัยจะทิ้งช่วงนานอาจจะหารถกลับยาก

                    "อ้าว! ปริมยังไม่กลับอีกเหรอ" กลุ่มเพื่อนๆ สองสามคนเดินผ่านมา

                    "พี่ปรามบอกว่าจะมารับ แต่ยังมาไม่ถึงจ้ะ" คนถูกถามตอบเสียงอ่อยอย่างไม่มั่นใจเช่นกัน

                    "เย็นมากแล้วน้า กลับกับพวกเราเหอะ" ปรีเปรมรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน  สายตาเหลือบมองไปที่รุ่นพี่สุดหล่อ

                    "นั่นสิ เย็นมากแล้วนะ เดี๋ยวหารถยาก" เพื่อนอีกคนสนับสนุน พลางดึงแขนเพื่อนเบา ๆ ให้เก็บของไปด้วยกัน

                    "เดี๋ยวพี่ไปส่งพวกเราเอง" ปกป้องขยับตัวลุกขึ้นเตรียมพร้อม

                    "ปริมเก็บของเร็วเข้า พี่ป้องจะไปส่ง  ดูสิ! ฝนทำท่าจะตก เมฆดำก้อนใหญ่มาแล้ว"  เพื่อนซี้รีบเร่งคนที่ทำใจเย็นเป็นทองไม่รู้ร้อน  มองเห็นเมฆดำทะมึนก้อนมหึงมาบดบังแสงอาทิตย์ยามเย็น  ลมเริ่มพัดแรงขึ้นหอบฝุ่นและใบไม้ปลิวไปในอากาศ

                    ปรีเปรมหันไปมองหน้าหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความดีใจ เธอแอบปลื้มรุ่นพี่คนนี้มานานแล้วอย่างเงียบ ๆ ไม่กล้าคิดอะไร  ไม่กล้าหวังอยากให้เขามาสนใจ มันคงเป็นไปไม่ได้  เพราะรู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่คนสวยแถมยังอ้วนอีกต่างหาก แค่ได้แอบมองรุ่นพี่คนนี้ก็ดีใจมากแล้ว  เขาทั้งหล่อทั้งน่ารักทั้งใจดีสุด ๆ เวลาต้องไปไหนด้วยกันยังเป็นสายเปย์อีกด้วย  เพื่อนรักต้องชวนเธอไปเป็นเพื่อนตลอดถ้าจะไปไหนมาไหนกับพี่รหัสคนนี้  หลายครั้งที่เขามาชวนไปไหนด้วยกันและขอให้เธอชวนปริมาไปด้วย 

    แต่ทว่าเพื่อนซี้ของเธอไม่เคยแสดงอาการว่าสนใจพ่อหนุ่มหล่อคนนี้เอาเสียเลย  ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหน้าไหนที่เข้ามาจีบก็ไม่เคยสนใจ  แถมยังมีท่าทีแอบรำคาญ  พอพ่อกับแม่ของเพื่อนรักแยกทางกัน ยิ่งอคติกับผู้ชายเข้าไปกันใหญ่  เคยบอกกับเธอว่าตั้งใจจะขึ้นคาน อยากจะโสดตลอดชีวิต  ให้เธอเลิกทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักได้แล้ว  ใจอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้กลัวจะไม่มีใครดูแล  แต่เพื่อนกลับบอกว่า ดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาดูแลทั้งนั้น

                    ปริมารีบเก็บของและยอมไปกับรุ่นพี่แต่โดยดี เพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้ไปด้วยกันตามลำพัง ที่สำคัญมีปรีเปรมและเพื่อน ๆ ไปด้วย  อดมองหน้าเพื่อนสาวไม่ได้ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว  หลายครั้งที่ต้องยอมไปกับพี่รหัสสุดหล่อเพราะเพื่อนขอร้อง ทนลูกอ้อนของเพื่อนไม่ไหว

                    เมื่อเดินไปถึงรถเก๋งสีแดงคันงามของรุ่นพี่  บรรดาเพื่อน ๆ ต่างเข้าไปนั่งเบาะหลังกันหมด ทำให้ปริมาต้องนั่งหน้าคู่ไปกับคนขับ

                    “หนาวรึเปล่าครับ ใส่เสื้อของพี่ได้นะ”  ปกป้องหยิบเสื้อจากพนักเก้าอี้คนขับส่งให้

                    “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่หนาวค่ะ แต่...ปรีเปรมน่าจะหนาว” 

                    มือที่ยื่นเสื้อแจ๊กเก็ตให้น้องรหัสชะงักเล็กน้อย  ก่อนจะหันไปยื่นให้ปรีเปรมที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังแทน

                    “ไขมันของเธอไม่เคยช่วยอะไรได้เลยเหรอจ๊ะ”  เพื่อนคนหนึ่งอดแซวเพื่อนร่างท้วมไม่ได้ที่มีนิสัยขี้หนาว

                    “ขอบคุณมากค่ะ พี่ป้อง แล้วฉันจะซักมาคืนพี่นะ”

                    ปรีเปรมรับเสื้อจากมือรุ่นพี่มาใส่ด้วยความขอบคุณ  เสื้อของเขาอุ่นและหอมมาก  แม้ว่าเธอจะอ้วน แต่รุ่นพี่คนนี้ไม่เคยเรียกเธอว่า ยัยอ้วนเหมือนคนอื่น ๆ  แม้จะรู้ดีว่า เขาดีกับเธอ เลี้ยงขนมเธอเพราะปริมา  แต่ก็อดปลื้มใจในความมีน้ำใจที่เขามีต่อเธอไม่ได้อยู่ดี

     

                    ********************

                    เสียงฟ้าร้องครืนครางเป็นระยะ  แสงฟ้าแลปแปลบปลาบยังสว่างวาบติดต่อกันอยู่บนท้องฟ้า ฝนยังคงตกพรำ ๆ อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะซาลงบ้างแล้ว  เสียงอึ่งอ่างร้องระงมไปทั่ว

                    ลูกบิดประตูถูกเปิดออก หยดน้ำจากชุดนักศึกษาอันเปียกโชกหยดลงบนพื้นหน้าประตู อีกมือกอดถุงผ้าใส่หนังสือไว้แนบอกกลัวว่าจะเปียก หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างแปลกใจที่ประตูบ้านไม่ได้ล็อกเหมือนเคย เธอสาวเท้าพาร่างอันเปียกปอนของตนเองเข้าบ้าน แล้วกดล็อกประตู สายตากวาดมองไปรอบๆ ข้าวของภายในทุกอย่างดูปกติดี ยกเว้นหลอดไฟที่เปิดสว่างอยู่ก่อนแล้ว มองนาฬิกาที่ผนังห้องบอกเวลาสามทุ่มเศษ

                    "พี่ปราม! ปริมกลับมาแล้ว" เธอคิดว่าพี่ชายคงกลับมาถึงก่อน อดน้อยใจไม่ได้ที่เขาผิดสัญญาว่าจะไปรับเธอที่มหาลัยกลับบ้านด้วยกันแถมฝนดันตกอีก มองสภาพของตนเองจึงต้องกลายเป็นลูกหมาตกน้ำขนาดนี้ เธอไม่เข้าใจว่าเขามีงานด่วนอะไรนักหนา  ต้องเป็นเพื่อนตัวดีเจ้าปัญหาคนนั้นแน่ ๆ  ที่ทำให้พี่ชายต้องผิดนัดกับเธอ

                    “ตายแล้ว!!"           

                    เมื่อนึกขึ้นได้ สองมือรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเร็วที่สุด  แล้วรีบเช็ดด้วยผ้าแห้ง  มองเครื่องสื่อสารในมืออย่างกังวลว่าจะเป็นอะไรหรือไม่  กังวลว่าเครื่องอาจจะช็อตถึงตัวเครื่องแม้จะไม่ได้โดนน้ำแต่ต้องอยู่กับเสื้อผ้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน  เพราะต้องเดินตากฝนมากว่าจะถึงบ้านได้ สาวบัญชีเอาหนังสือที่ชื้นออกมาวางผึ่ง พร้อมกับกล่องของขวัญสีทอง แล้วเดินเลี้ยวออกจากห้องรับแขกเพื่อจะขึ้นบันไดไปห้องของตนเองที่อยู่ด้านบน

                    เท้าที่ก้าวไปข้างหน้าถอยหลังกลับทันทีอย่างตกใจสุดขีด

                    เมื่อมองเห็นชายหนุ่มผมยาวยืนสยายผมกระเซอะกระเซิงอยู่ตรงหน้า  กลิ่นเหล้าหึ่งโชยคลุ้งมาจากตัวเขา  เสื้อเชิ้ตสีขาวปล่อยชายอยู่ด้านนอกของกางเกงยีนสีซีด แววตาเลื่อนลอยนั้นจ้องมองมาที่เธอ  เขากำลังเดินโซเซเข้ามาหาอย่างช้า ๆ  ปริมากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มือไม้เย็นไปหมด และเกร็งกำมือแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว  ลำคอตีบตันจนพูดไม่ออกด้วยความตกใจกลัวอย่างมาก  สองเท้าค่อย ๆ เดินถอยหลัง  มองหนุ่มขี้เมาตรงหน้าอย่างอกสั่นขวัญหาย  หัวใจกำลังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ หัวสมองรู้สึกสับสนไปหมด  เธอจะทำอย่างไรดี  แต่ยังไม่ทันคิดอะไรออก   เท้าของเธอก็ลื่นไถล เนื่องจากหยดน้ำจากชุดอันเปียกโชกซึ่งนองอยู่บนพื้น  ขณะเดียวกับที่ชายแปลกหน้าคนนั้นโผเข้ามาหาเธอเช่นกัน

                    ไม่.........!!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×