คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [Short Fic] ดวงฤทัยทรงกลด (Judal x Sinbad ft. Jafar x Sinbad)
สำหรับสาวกเมไจ (โดยเฉพาะสาวก Allsinbad)
วันนี้ กระผม นาย ฮิคาริ ยู มาพร้อม Shortfic magi เรื่องใหม่
ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้กระผมด้วยนะคร๊าฟ
[Short Fic] ดวงฤทัยทรงกลด [Judal x Sinbad ft. Jafar x Sinbad]
ประเทศซินเดรียเป็นประเทศหมู่เกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของดินแดนอนารยะ ถูกสร้างขึ้นโดยราชาผู้พิชิตเจ็ดคาบมหาสมุทร ซินแบด ช่วงเวลาของที่นี้ ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข และสนุกสนาน ผู้คน ณ ที่นี้ต่างใจดี มีเมตตา สมกับเป็นประเทศในอุดมคติ แต่ช่วงเวลาแสนสุขก็มักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ซินครับ ช่วงนี้พวกอัลซาเมนดูเงียบๆผิดปกติไปนะครับ” จาฟาลเดินเข้ามาในห้องทำงานของซินแบด คำพูดของจาฟาลเรียกความสนใจให้ซินแบดผละออกจากระดาษเอกสาร ลุกขึ้นยื่นหันมองไปยังจาฟาล
“นั้นสินะ ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปได้ก็คงจะดี” ซินแบดเดินไปยังหน้าต่าง ใบหน้าเหม่อลอยจ้องมองไปยังข้างหน้า ดวงตาสีทองสดใสแลดูเศร้าสร้อย ภายในใจของซินแบดคิดอยู่เสมอว่า หากทุกอย่างที่ผ่านมา คือ ความฝัน และทุกๆวันมีแต่ความสงบสุขแบบนี้ มันจะดีแค่ไหนกันนะ...
ภายนอกบาเรียที่ใช้ป้องกันการบุกรุกของศัตรูที่ยามูฮะไรสร้างขึ้น มีร่างผอมบางของจูดัลลอยตัวอยู่ ดวงตาสีแดงฉานจ้องมองไปยังเบื้องล่าง มองเห็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับของซินแบด ใบหน้าของเขาแสยะยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก มือขวาก็ยกไม้คทาเวทย์ขึ้นมา สร้างเวทย์น้ำแข็งขึ้น ก่อนจะใช้มันเข้าโจมตีบาเรียจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องจากไม่อาจต้านทานพลังอันแข็งแกร่งของจูดัลได้ ร่างผอมบางลอยตัวลงมายังลานกว้างหน้าพระราชวัง ซึ่งไม่กี่วินาทีต่อมารอบตัวของจูดัลก็ถูกล้อมรอบไปด้วยทหารนับยี่สิบของซินเดรีย
“เจ้าคนบุกรุก! เจ้าถูกจับไว้แล้ว!!”
“คนอ่อนแออย่างพวกแก ฉันไม่มีธุระด้วย หลบไป!” จูดัลชักสีหน้ารำคาญ มือขวาก็ยกไม้คทาเวทย์ขึ้นร่ายเวทย์มนตร์ ซัดใส่พวกทหารที่ขวางอยู่หน้าทางเข้าพระราชวัง จนเกิดเสียงดังตูมสะหนั่นหวั่นไหว และเสียงนี้ก็ไปสะกิดให้ซินแบดที่เหม่อลอย และจาฟาลที่กำลังจะพูดอะไรออกมาให้สนใจ ซินแบดหันตัวกลับไปหาจาฟาลด้วยสีหน้าตื่นตะหนก พยายามที่จะเรียกสติของตัวเองคืนมา เมื่อจิตใจเริ่มสงบแล้ว ซินแบดก็สั่งการให้จาฟาลไปเรียกเหล่าขุนพลไปรวมตัวกันยังที่เกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเดินตรงไปยังลานกว้าง ซึ่งทันทีที่ซินแบดเดินไปถึง เขาก็ต้องหน้าซีดลงทันที เมื่อเห็นร่างผอมบางของจูดัลยื่นอยู่ตรงกลางวงล้อมของเหล่าทหาร
“ไง เจ้าโง่!”
“จูดัล!!!”
ซินแบดถึงกลับเข่าอ่อน จนไม่สามารถสั่งการอะไรทหารได้ ร่างสูงของซินแบดทรุดลงนั่งไปกับพื้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันช่วยร้ายของจูดัลไปสะกิดความทรงจำที่ซินแบดอยากลืมให้ฉายขึ้นซ้ำอีกครั้งในความทรงจำ ดวงตาสีทองที่เคยเปล่งประกายสว่างไสวของซินแบดกลับถูกเคล้าคลอไปด้วยน้ำตา
จูดัลเดินตรงเข้าไปหาซินแบดท่ามกลางสายตาโกรธแค้นของเหล่าทหารที่โดนทำร้าย แต่เจ้าตัวก็หาสนใจไม่ ร่างผอมบางเดินเข้าประชิดตัวซินแบด เชยคางของซินแบดให้เหงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา ใบหน้าของจูดัลเต็มไปด้วยความพึ่งพอใจ เมื่อเห็นดวงตาที่สว่างไสวถูกเคล้าคลอไปด้วยน้ำตา ซินแบดที่ไม่เคยแสดงสีหน้าอ่อนแอให้เห็น กลับต้องมาร้องไห้เพราะเห็นใบหน้าเขา ช่างเป็นอะไรที่ดูแล้วรู้สึกดีจนต้องหัวเราะออกมา “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดูสิ! ราชาผู้ยิ่งใหญ่ของพวกแกถึงกับร้องไห้เข่าอ่อนเพราะเห็นหน้าฉัน ช่างเป็นราชาที่แสนจะโง่และอ่อนแอจริงๆ” คำพูดของจูดัลไปสะกิดต่อมโมโหของเหล่าทหารซินเดรียให้ลุกโฉนขึ้นมา แต่ละคนจับด้ามหอกของตนเองขึ้นหมายจะเข้าไปทำร้ายจูดัล แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นเหล่าขุนพลเดินเข้ามา
“อย่าเอามือสกปรกของนาย มาแตะต้องซิน” จาฟาลกระชากมือของจูดัลที่เชยคางซินแบดอยู่ออกไป ดวงตาสีดำที่เปรียบดังอสรพิษจับจ้องมองไปที่จูดัลดั่งงูที่รอจังหวะจะตะครุบเหยื่อ มือของจาฟาลหยิบเชือกสีแดง ซึ่งเป็นภาชนะบริวารของตนขึ้นมาถือไว้ ลำตัวตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่จูดัล ส่วนจูดัล เมื่อมือถูกผลักออกก็จ้องมองไปยังซินแบดที่ถูกล้อมหน้าล้อมหลังไปด้วยเหล่าขุนพล ก่อนจะหันไปมองจาฟาลที่กระชากมือเขาออก ดวงตาของจาฟาลที่จับจ้องมายังเขาราวกับนักฆ่า ใบหน้าของจูดัลถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มอันน่าหวาดกลัวทันทีที่เห็นจาฟาลปกป้องซินแบดอย่างหวงแหน “เศษขยะอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉัน”
“ว่าไงน่ะ!!!” จาฟาลจะกระโจนพุ่งเข้าโจมตีจูดัล แต่ก็ถูกซินแบดที่ลุกขึ้นยืน ยืดแขนออกไปห้ามไม่ให้จาฟาลกระโจนเข้าโจมตีจูดัล และนั้นก็สร้างความประหลาดใจให้กับจาฟาล จนเขาอดที่จะตวาดซินแบดเสียงดังมิได้
“ซิน!”
“ฮาฮ่าฮ้า มีแรงลุกขึ้นยืนแล้วหรือไงซินแบด นึกว่าจะกลัวฉันจนลุกไม่ขึ้นซะอีก”
“แก๊!!!” “หยุด! จาฟาลปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันจัดการเอง” “แต่! ซิน!...” ดวงตาสีทองที่แสนจะน่าหวั่นเกรงของซินแบด ทำให้จาฟาลที่ตั้งท่าโต้แย้งสงบลงทันที ร่างสูงของซินแบดเดินเข้าไปประชันหน้ากับจูดัล
“จูดัลมีธุระอะไรก็ว่ามา”
“ฉันมาหานายต้องมีธุระอะไรด้วยเหรอ ซินแบด” ซินแบดชักสีหน้าไม่พอใจกับคำพูดของจูดัล แต่ร่างผอมบางก็หาสนใจไม่ แถมยังเดินเข้าไปใกล้ซินแบดในระยะประชิด “ฮาฮ่าฮ้า ฉันล้อเล่น อย่าแสดงสีหน้าแบบนั้นออกมาสิซินแบด วันนี้ที่ฉันมาก็แค่อยากจะบอกนายว่า นายมีชะตากรรมที่จะต้องยกประเทศนี้ให้ฉัน”
“หมายความว่ายังไง!!!” ซินแบดตวาดเสียงใสจูดัล มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น ดวงตาสีทองอร่ามจ้องมองจูดัลอย่างขุ่นเคือง
“ประเทศนี้ ซินเดรีย ต้องตกเป็นของฉัน ถ้าไม่อย่างนั้น...” จูดัลยกไม้คทาขึ้นสร้างเวทย์น้ำแข็งที่ใหญ่โตมโหฬาร ซึ่งมีอนุภาคที่จะสามารถทำลายประเทศๆหนึ่งให้ย่อยยับได้ ผู้คนที่อยู่ในประเทศซินเดรียต่างหันไปมองก้อนน้ำแข็งนั้น
ซินแบดเหงยหน้าขึ้นมองน้ำแข็งก้อน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเพลิงแห่งความพิโรธ แต่ก็สงบใจไว้ เพราะว่าเขายังมีภาชนะโลหะที่สามารถต่อกรกับจูดัลได้ “ถ้านายจะปล่อยมันลงมา ฉันก็จะใช้พลังทั้งหมดที่ฉันมีทุ่มสุดตัวไม่ให้นายทำลายประเทศนี้ได้!”
“อ่า นั้นสินะ นายยังมีภาชนะโลหะอยู่ ถ้างั้นแบบนี้ก็คงไม่ได้ผล” จูดัลสลายเวทย์มนตร์ลง ดวงตาสีแดงฉานของจูดัลจับจ้องไปซินแบดเหมือนคิดอะไรสักอย่าง ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ “แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้นายคงจะคุกเข่าอ้อนวอนฉันเป็นแน่ ถ้าฉันบอกเรื่องราวความสัมพันธ์ทั้งหมดของฉันกับนาย และความลับที่นายไม่เคยบอกใครออกไปนายจะทำยังไงกันนะ ซินแบด”
“ยะ...หยุดนะ! จูดัล! ห้ามนายพูดเรื่องนั้นออกมา!” ร่างกายที่สั่นสะท้านไปด้วยความโกรธและความกลัวของซินแบด สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าขุนพล แต่มีเพียงความคนเดียวที่รู้สึกกังวลกับท่าทางเหล่านั้นของซินแบด นั้นก็คือจาฟาล ร่างเล็กครางเรียกซินแบดออกมาอย่างแผ่วเบา “ซิน...”
“ถ้าไม่อยากให้พูด ก็ยกประเทศนี้ให้ฉันสิ ว่าไงล่ะซินแบด จะยกประเทศนี้ให้กับฉัน หรือจะให้ฉันพูดมันออกมาก็ได้นะ แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าคนที่ได้ฟังจะรู้สึกยังไงที่มีราชาเป็น...” จูดัลพยายามไล่ต้อนซินแบดให้จนมุม และดูเหมือนว่าจะได้ผล เมื่อซินแบดเอ่ยลั่นวาจาที่ทำให้ทุกคนตกใจ “ฉันตกลง!” “ซิน/ราชา!!!” เหล่าขุนพลมองไปยังซินแบดที่ยืนตัวสั่นไปทั่วร่าง ใบหน้าที่แสนจะเจ็บใจบวกกับมือที่ถูกกำไว้แน่นจนเลือดไหลออกมาซิบๆ ทำให้เหล่าขุนพลต่างรู้ว่าที่พวกเขาได้ยินไม่ใช่เพราะหูฝาด แต่ท่าทางเหล่านั้นของซินแบดกลับสร้างร้อยยิ้มที่แลดูมีความสุขให้กับจูดัล ก่อนที่ร่างผอมบางจะหันไปประกาศให้ชาวเมืองรับรู้ว่า ประเทศนี้ตกเป็นของเขาแล้ว เสียงหัวเราะอันน่าหวาดกลัวของจูดัล ทำให้ประเทศที่เคยมีแต่รอยยิ้มตกอยู่ในความหวาดกลัว
หลังจากที่ซินแบดตกลงยกมอบประเทศซินเดรียให้กับจูดัล จู่ๆร่างของซินแบดก็ลงล้มตัวลงไปกองอยู่กับพื้น สร้างความตื่นตะหนกใจให้กับเหล่าทหารและขุนพล จาฟาลเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ วิ่งถลาเข้าไปหาร่างซินแบดที่นอนอยู่กับเพื่อน ก่อนจะตะโกนเรียกให้มัสรูลเข้ามาช่วยอุ้มซินแบดเข้าไปยังห้องนอน ระหว่างที่มัสรูลอุ้มซินแบดเข้าไปในพระราชวัง จาฟาลก็หันมามองหน้าจูดัลด้วยสีหน้าเครียดแค้น แต่ร่างผอมก็หาสนใจไม่ เพราะดวงตาสีแดงฉานของจูดัลจับจ้องมองไปยังร่างที่สลบไสลของซินแบดด้วยแววตาและท่าทางที่แสนจะยากที่จะคาดเดาได้ จาฟาลที่เห็นเป็นเช่นนั้นก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ แล้วเดินตามมัสรูลไป
“ซิน เป็นยังไงบ้างครับ” หลังจากที่มัสรูลอุ้มซินแบดเข้ามาในห้อง แล้ววางบนเตียงนอน จาฟาลก็เป็นฝ่ายคอยนั่งเฝ้าซินแบด จนซินแบดลืมตาตื่นขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี้” ใบหน้ามึนงงของซินแบด ทำให้จาฟาลส่ายหัวไปมาอย่างระอา
“ซิน จำได้มั้ยครับ ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“จะเกิดอะไรซะอีกล่ะ จู่ๆเสียงอะไรก็ไม่รู้ดังตูมขึ้น จากนั้นฉันก็เดินไปยังลานกว้าง เห็นจูดัลบุกรุกเข้ามา แล้วก็ขู่จะทำลายประเทศ ฉันก็เลย... ก็เลย...” เสียงของซินแบดแผ่วเบาลงเรื่อยๆ หลังจากนั่งนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ร่างของซินแบดสั่นเทาไปด้วยความเสียใจที่มิอาจช่วยประเทศของเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของจูดัลได้เลย สีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บใจของซินแบด ทำให้จาฟาลถอดหายใจออกมา “แล้วทำไมซิน ถึงยกประเทศนี้ให้กับจูดัลละครับ ซินมีเรื่องอะไรปิดบังพวกผมอยู่ใช่มั้ย” คำถามของจาฟาลสร้างความอึดอัดใจให้แก่ซินแบด ร่างสูงแกล้งตีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ หันมองไปทางโน้นทีทางนี้ทีอย่างวอกแวก ท่าทางทีไม่ยอมบอกอะไรของซินแบด สร้างความไม่สบอารมณ์ให้แก่จาฟาล ร่างเล็กจับตัวของซินแบดที่แสดงท่าทางลุกลี้ลุกลนให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา ดวงตาของจาฟาลจ้องไปยังดวงตาสีทองสว่างไสวของซินแบดอย่างหาคำตอบ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร เพราะจู่ๆจูดัลก็พรวดพราดเปิดประตูเข้ามา
“ใครอนุญาตให้นายเข้ามา!!” น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความไม่พอใจของจาฟาล จูดัลก็หาสนใจไม่ ร่างผอมบางเดินตรงไปหาซินแบดที่นั่งอยู่บนเตียง สีหน้าท่าทางที่ไม่สามารถเดาอะไรได้ของจูดัล ทำให้ซินแบดไม่สามารถทำอะไรได้ถูก และการที่จูดัลเมินคำพูดของจาฟาล ร่างเล็กจึงได้แต่กำหมัดแน่นอย่างคับแค้นใจ เพราะถ้าเกิดเขาบุ่มบ่ามทำอะไรเข้า ซินแบดอาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้
“มานี่ ฉันจะออกไปข้างนอก” จูดัลจับแขนซินแบดกระชากให้ร่างสูงลุกขึ้นมาจากเตียง จากนั้นก็พยายามลากซินแบดออกไปข้างนอกกับเขา แต่ก็ถูจาฟาลที่ยื่นอยู่ขวางเอาไว้
“ทำไมซินต้องไปกับแกด้วย!”
“ก็ถ้าเจ้าโง่นี้ไม่ไปกับฉัน ฉันอาจจะทำอะไรขึ้นกลางเมืองก็ได้” เป็นครั้งแรกที่จูดัลเอ่ยปากตอบจาฟาล ร่างเล็กถึงกับตะลึงงึงงังค้างตึ่ง ซึ่งกว่าจาฟาลจะรู้ตัวอีกทีจูดัลก็พาซินแบดออกไปเสียแล้ว...
“ปะ... ปล่อย... ปล่อยได้แล้ว! ฉันเดินเองได้!” ซินแบดพยายามสะบัดมือของจูดัลที่จับแขนเอาไว้ให้หลุด แต่ก็ไม่ยอมหลุดสักที ร่างสูงจึงหันมาใช้คำพูดในการบอกให้จูดัลปล่อยแขนของเขาแทน
“เลิกดิ้น แล้วก็เดินตามดีๆ ไม่ได้หรือไง” จูดัลหันมาต่อว่าซินแบดที่ตอนนี้สีหน้าของคนที่เป็นถึงราชาเจ็ดคาบมหาสมุทรกำลังไม่พอใจเขาเสียเต็มประดา “ก็ปล่อยฉันสิจูดัล ฉันจะได้เดินดีๆ”
“ฮาฮ่าฮ้า ถ้าฉันปล่อยนาย แล้วเกิดฉันหลงทางขึ้นมา ประเทศนี้จะเป็นยังไงนายไม่สนสินะซินแบด”
“จูดัล!” เสียงตะโกนอันทรงพลังและใบหน้าที่แสดงถึงความขุ่นเคืองของซินแบด จูดัลจำใจปล่อยแขนซินแบดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทันทีที่จูดัลปล่อยแขนซินแบด ร่างสูงจ้ำอ่าวเดินหนีจูดัลไปอย่างไม่สนใจไยดี ร้อนลนถึงจูดัลที่ต้องวิ่งตามซินแบดไป
ตลอดเวลาที่จูดัลเดินตามซินแบดที่ออกมาเดินเที่ยวนอกพระราชวังกัน สีหน้ายิ้มแย้มและใบหน้าที่อิ่มเอมไปด้วยความสุขของซินแบด เผลอให้จูดัลยิ้มตามไปด้วยหลายๆครั้ง ความเป็นธรรมชาติของซินแบดกำลังซึมซาบเข้ามาในตัวจูดัลอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น ตัวตนของซินแบดนี้แหละที่คอยฉุดดึงเขาไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้ จนกระทั่งตกเย็น ซินแบดก็พาจูดัลแวะเข้าร้านเหล้าที่ซินแบดเข้ามาดื่มเป็นประจำ ร่างสูงเดินตรงดิ่งไปนั่งอยู่ตรงหน้าเคาเตอร์อย่างที่เคยทำ แต่วันนี้ต่างไปจากเดิมตรงที่ว่ามีจูดัลห้อยตามมานั่งติดๆ
“ท่านราชา วันนี้พาใครมาด้วยเหรอครับ” มาสเตอร์หรือเจ้าของร้านเอ่ยถามซินแบดอย่างสนิทสนม ซินแบดถึงกับสะดุ้งกับคำถามของเจ้าของร้าน แต่จูดัลกลับรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมากับท่าทีที่สนิทสนมของเจ้าของร้านหน้าวอกกับเจ้าราชาโง่ของเขา
“ใครกัน!!! คนแปลกหน้าต่างหากล่ะ ยูยะ!” ซินแบดขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน และแน่นอนว่าท่าทางแบบนั้นของซินแบด ทำให้เจ้าของร้านหรือยูยะ อมยิ้มออกมา เพราะซินแบดเป็นพวกเจ้าเล่ห์ แต่แก้ตัวไม่ได้เรื่อง ส่วนจูดัลเมื่อเห็นทั้งสองคนหยอกล้อกันอย่างเป็นธรรมชาติ ก็ได้แต่ตบโต๊ะดังปัง เรียกความสนใจให้ซินแบดและยูยะหันไปมอง
“อะ... อ่า จะรับอะไรดีครับ” ยูยะถามจูดัลด้วยสียงสั่นๆ แต่สายตาขวางๆที่ให้แทนคำตอบนี้สิที่ทำให้ยูยะถึงกลับหัวหดอยู่ในกระดอง ก่อนจะหันไปถามซินแบด “ท่านราชาจะรับอะไรล่ะครับ”
“เอาเหมือนเดิมนะ ยูยะ” จากนั้นไม่นาน แก้วเหล้าที่ซินแบดสั่งก็ได้ตามที่ปรารถนา เจ้าตัวก็คว้าแก้วขึ้นมาดื่มใส่ปากรวดเดียวจนหมดแก้ว แล้วก็ขอเติมอีกเรื่อยๆ โดยมีสายตาที่เป็นห่วงซินแบดมองมาอย่างเงียบๆ แต่พอถึงแก้วที่ 4 ซินแบดก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะพร้อมกับบ่นออก ซึ่งแต่ละคำพูดที่ซินแบดพูดออกมาก็ไปสะกิดต่อมโมโหของจูดัลให้ทำงาน
‘เจ้าจูดัลน่าโมโหชะมัด! นิสัยก็ไม่ดี ทั่งๆที่น่าตาก็ออกจะสวย แต่กลับนิสัยโหดร้ายชะมัด ครั้งแรก... ครั้งแรกของฉันทั่งๆที่ควรจะเป็นของคนที่ฉันรักแท้ๆกลับโดยเจ้านั้นแย่งไปอย่างหน้าตาเชย ฮึก... ทั่งๆที่ตั้งใจจะมอบให้กับจาฟาลแท้ๆ เจ้านั้นมัน... ฮึก... เจ้านั้นมัน...’
แล้วคำพูดอะไรต่อมิอะไรที่ทำให้เขาอารมณ์เข้าสู่จุดเดือด ซินแบดก็ดูเหมือนจะหยิบยกขึ้นมา ถึงจะรู้ว่าที่ซินแบดพูดมาทั้งหมดจะมาเพราะความเมาก็เถอะ แต่มันก็สุดจะทน ร่างผอมบางกระชากร่างของซินแบดขึ้นมา ก่อนจะฉุดกระชากลากถูซินแบดกลับพระราชวัง โดยมีสายตาห่วงใยปนกังวลของยูยะมองไปยังซินแบดที่เมาไม่รู้เรื่องรู้ราว
หลังจากที่จูดัลลากซินแบดออกมาจากร้านเหล้าแห่งนั้น ความเจ็ดปวดที่ได้รับจากแขน ทำให้ซินแบดสร่างเมาในชั่วพริบตา ตลอดทางซินแบดพยายามสะบัดมือของจูดัลให้หลุดก็ไม่ยอมหลุดสักที จนกระทั่งมาถึงยังห้องนอน จูดัลผลักซินแบดให้เข้ไป ก่อนจะหันมาปิดประตูดังปัง ซินแบดที่ทำท่าจะต่อว่าจูดัลก็ต้องถอยหลังหนีจูดัลทันทีที่ร่างผอมบางหันกลับมามอง ดวงตาสีแดงของจูดัลจับจ้องมาที่เขาอย่างกระหายเลือด
“จูดัล! คิดจะทำอะไรของนายนะ!!!” ซินแบดจ้องมองที่จูดัลอย่างหวาดกลัว ดวงตาคู่นั้นของจูดัลที่เหมือนกับดวงตาในอดีตที่จูดัลมองมาที่เขา ทำให้ร่างกายซินแบดสั่นไหว เพราะคิดได้ว่าหากดวงตาของจูดัลเป็นแบบนี้สิ่งที่จะตามคืออะไร และด้วยสัญชาตญาณของซินแบด เขารีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำเพื่อจะหนีจากจูดัล แต่ก็ถูกร่างผอมบางไล่ตามทัน ก่อนจะจับตัวซินแบดทุ่มลงไปบนเตียง ตามด้วยร่างของจูดัลที่ขึ้นคร่อมเขาเอาไว้ ดวงตาสีทองของซินแบดสบเข้ากับดวงตาสีแดงฉานของจูดัลที่มองมายังเขาด้วยแววตากระหาย
Cut
3 วัน นับจากวันที่จูดัลลากตัวซินแบดออกไป จาฟาลก็ไม่ได้เจอซินแบดอีกเลย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในตัวเมือง ทำให้เขาและเหล่าขุนพลต้องออกไปแก้ไขปัญหากันไม่ได้หลับได้นอน พอแก้ปัญหาเสร็จแล้วเขาก็รีบตรงไปยังห้องซินแบดอย่างนึกเป็นห่วง ร่างเล็กเอื้อมมือเคาะประตูอย่างมีมารยาท
“ซิน ซินครับ ตื่นหรือยังครับ”
“จาฟาล!” เสียงตกใจอันแหบแห้งของซินแบดดังเล็ดลอดออกมาจากหลังประตู และด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินนั้น จาฟาลรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก
“ซิน! เป็นอะไรนะครับ! ทำไมเสียงถึงเป็นอย่างนั้น!” จาฟาลเอ่ยถามซินแบดอย่างเป็นห่วง แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่า จาฟาลอึดอัดใจ ความเป็นห่วงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “ซิน! ผมขอเข้าไปนะ” ร่างเล็กเอื้อมมือไปผลักประตูให้เปิดออก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเล็ดลอดของซินแบดดังออกมา “ยะ อย่า เข้ามานะ!” เสียงอันสั่นเทาของซินแบด ยิ่งทำให้จาฟาลเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น ร่างเล็กผลักประตูบานใหญ่ให้เปิดออก โดยไม่สนใจคำสั่งห้าม และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไป.....ซินแบดเบื้องหน้าหนีจาฟาลที่ต้องมาเห็นสภาพเขาอย่างหนี น้ำตาที่แห้งเหือดหายกลับไหลรินมาไม่ขาดสาย ดวงใจที่มีแต่ความเป็นห่วงซินแบดของจาฟาลถูกแทนที่ด้วยความโกรธแค้นที่มีต่อจูดัลที่บังอาจมาทำให้ซินแบดแปดเปื้อน ร่างเล็กหยิบเชือกสีแดงซึ่งเป็นภาชนะบริวารของเขาขึ้นมาตั้งท่าพร้อมกระโจนใส่จูดัลได้ทุกเมื่อ
“ฮาฮ่าฮ้า เป็นไงบ้างล่ะซินแบด การที่ถูกคนที่ตัวเองหลงรักเห็นว่าตัวเองกำลังมีอะไรกับคนอื่นนะ มันน่าสนุกดีใช่มั้ยล่ะ ฮาฮ่าฮ้า” จูดัลหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ซินแบดก็ได้แต่ปิดหูปิดตา เพื่อที่จะไม่ได้ยิน หรือเห็นอะไรอีก แต่คำพูดขอจูดัลกลับไปสะกิดต่อมโมโหของจาฟาลให้ลุกโชน
“แก๊!!!”
ก่อนที่จาฟาลจะตะโจนเข้าใส่จูดัล เสียงแตกสลายของบาเรียที่ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกรอบโดยจูดัลก็ดังขึ้นสนั่น ทั้งจูดัล จาฟาล และก็ซินแบด ต่างพากันยุติ ใบหน้าของจูดัลเขร่งขรึมขึ้นมาอย่างผิดวิสัย
“มากันแล้วเหรอ” คำพูดที่จูดัลบ่นออกมาเบาๆ สร้างความสงสัยให้แก่ซินแบด แต่ไม่ทันที่ซินแบดจะได้ถามอะไร ...... แล้วก็ลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า พอเสร็จแล้วก็เหาะออกไปทางหน้าต่างโดยที่ไม่สนใจอะไร
“ซิน!” จาฟาลร้องห้ามซินแบดที่ลุกออกจากเตียงด้วยท่าทีมึนงง ร่างกายของซินแบดสั่นด้วยความเจ็บไปทั่งตัว และทำท่าเหมือนจะล้มให้ได้ เดือดร้อนจาฟาลต้องเข้าไปช่วยพยุง
“ซิน จะลุกขึ้นทำไมกันนะครับ”
“ฉันจะตามจูดัลไป” คำตอบของซินแบด ทำให้จาฟาลไม่พอใจ จนเผลอตวาดเสียงดังใส่ซินแบด “ซินจะตามไอ้คนพรรค์นั้นไปทำไมกันครับ!!”
“ก็เจ้าหมอนั้นต้องรู้อะไรเกี่ยวกับการที่บาเรียพังแน่ๆ ฉันจะตามหมอนั้นไป”
“ซิน~” ร่างเล็กส่งเสียงอ่อยๆอย่างเป็นห่วง แต่ร่างสูงหาสนใจไม่ หน่ำซ้ำยังสะบัดแขนเขาเดินไปหยิบเสื้อผ้าอย่างกระโพรกกระเพรก เป็นภาพที่เห็นแล้วช่วยรู้สึกสงสาร จาฟาลเลยจัดการหยิบเสื้อผ้ามาใส่ให้ แถมของดีก็ คือ รอยยิ้มที่มอบให้เป็นคำขอบคุณนี้แหละที่ทำให้เขาอยากจะทำอะไรเพื่อซินแบดไม่มีวันหยุด
หลังจากที่ซินแบดแต่งตัวเสร็จทั้งเขาและจาฟาลก็รีบเดินมายังล่างกว้าง พอมาถึงก็เห็นจูดัลลอยตัวเผชิญหน้าอยู่กับพวกอัลซาเมนก็ประหลาดใจ วูบหนึ่งซินแบดเห็นจูดัลเหลือบตามองมาที่เขาอย่างเป็นห่วง ก่อนจะหันไปสนใจพวกคนของอัลซาเมน
“ไง จูดัล ตอนนี้รู้สึกเปลี่ยนใจอยากจะกลับมาเป็นพวกเดียวกับเราอีกครั้งหรือยัง” จูดัลไม่ตอบอะไร ร่างผอมบางตั้งท่าเตรียมจะกระโจนเข้าใส่
“จะว่ายังไงดีล่ะ ถึงกับคิดทรยศพวกเรา เพื่อช่วยเหลือสิ่งแปลกประหลาดของโลกอย่างซินแบด เพียงเพราะความรัก เจ้าคิดดีแล้วเหรอ จูดัล” คำพูดของพวกคนของอัลซาเมน สร้างเสียงอื้ออึ่งไปทั่วบริเวณลานกว้าง พวกคนของอัลซาเมนก้มลงมองซินแบดที่มองไปยังจูดัลอย่างไม่เชื่อที่เขาพูดมา ทำเอาเขาหัวเราะสะใจจูดัลออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮาฮ่าฮ้า อ๋อ ยังงี้นี้เอง เจ้าซินแบดคงยังไม่รู้ความในใจของเจ้าสินะ แล้วยังโดนเขาเกลียดอีก น่าสงสารจังนะ จูดัล”
“หุบปาก!!!” จูดัลเป็นฝ่ายเปิดฉากการต่อสู้ก่อน ทั้งคู่ต่างสู้กันได้อย่างคู่คี่ ไม่สิดูเหมือนว่าจูดัลจะเสียเปรียบ จนได้รับบาดแผลมาไม่น้อย ในจังหวะสุดท้ายจูดัลตัดสินใจรวบรวมพลังทั้งหมดสร้างมหาเวทย์น้ำแข็งขึ้นมา ก่นจะใช้มันโจมตีพวกคนของอัลซาเมนนั้น จนร่างกายแหลกละเอียด และก่อนที่จะสลายหายไป ก็หลุดประโยคหนึ่งขึ้นมา “พวกเราจะไม่หยุดแค่นี้หรอกนะ จูดัล ทั้งซินแบด ทั้งโลกจะต้องถูกความมืดมิดเข้าครอบงำ”
ส่วนจูดัลร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หน่ำซ้ำยังใช้พลังมหาเวทย์มหาศาล ก็หล่นตุบลงมายังลานกว้าง ร่างที่ไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจก็อ่อนลงเรื่อยๆ ถูกโอบกอดด้วยอ้อมแขนอันอบอุ่นของซินแบด หยดน้ำตาของซินแบดหยดลงบนใบหน้าเขาหยดแล้วหยดเหล่า
“เจ้าบ้า! เจ้าบ้าจูดัล! อย่าเป็นอะไรไปนะ” เสียงสะอึกสะอื้นและท่าทางเป็นห่วงเขาของซินแบด ทำให้จูดัลเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ห้ามตายนะ เจ้าบ้า! ห้ามทุกอย่างเลยนะ ห้าม! ห้าม! ห้าม! หะ...” เสียงซินแบดที่ตะโกนต่อว่าเขาเริ่มเบาลงเรื่อยๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดไปทั้งหมด
............................................................
......................................................
...........................................
.....................................
................................
.......................
..................
..............
........
.....
...
..
.
2 อาทิตย์ ผ่านไป
หลังจากวันที่จูดัลเอาชนะคนของพวกอัลซาเมน ทุกอย่างในประเทศซินเดรียก็ดูจะสงบลงเรื่อยๆตามมา ความสุข สงบ สบายค่อยๆกลับมาอีกครั้ง จะมีก็แต่เสียงโหวกเหวกโวยวายภายในพระราชวังซินเดรียที่ดังขึ้นได้ทุกวัน
“เจ้าบ้า! ฟังนะ นายอยู่ที่นี้ต้องรักษากฎของที่นี้ด้วยเข้าใจมั้ย” เสียงจาฟาลที่อารมณ์ฉุนกึกดังขึ้น ระหว่างทางที่ซินแบดเดินออกมาเดินเล่น หลังจากที่ทำงานเสร็จเหนื่อยๆ เรียกความสนใจให้ซินแบดเดินไปดู
“อะไร! ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน!” เสียงอันคุ้นเคยที่เดี๋ยวนี้ได้ยินประจำ ทำเอาซินแบดอมยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กเอาแต่ใจของทั้งสองฝ่าย
“ทำอะไรกันอยู่เหรอ”
“ซิน!!/เจ้าโง่!!” จาฟาลและจูดัลเอ่ยขึ้นมาอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆซินแบดก็โผล้มาแบบไม่ให้ซุ้มให้เสียง
“เป็นไง หลงรักฉันแล้วสินะ!” นั้นเป็นคำพูดที่เดี๋ยวนี้เขาจะได้ยินหลุดออกมาจากปากจูดัล ทุกครั้งที่ร่างสูงเจอะเจอเขา มันทำให้เขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์นั้นที่จู่ๆจูดัลก็ไร้การตอบสนองอะไร ทำเอาเขาตกอกตกใจเสียแย่ ตัวเขาในตอนนั้นร้องไห้ฟูมฟายใหญ่เลย ถึงขนาดพูดว่า ‘ถ้านายฟื้น ฉันอาจจะหลงรักนายก็ได้’ แล้วจู่ๆจูดัลก็ลุกพรวดขึ้นมา เล่นเอาตกใจกลัวกันทั้งลานกว้าง หลังจากนั้นจูดัลก็ต้องพักรักษาตั้งอาทิตย์กว่าถึงหายเป็นปกติ จนมีแรงมายื่นเถียงกับจาฟาลได้
“หยุด! นายกับฉัน ต้องสลับวันกันจีบซินสิ ไม่ใช่นายจีบซินได้ทุกวัน”
“ฉันไม่นับเศษขยะเป็นคู่แข่ง” คำตอบของจูดัล เล่นเอาจาฟาลจุกถึงลิ้นปี่ จาฟาลพยายามตอบโต้คืน แต่ก็โดนจูดัลตอกกลับมาได้ทุกครั้ง แล้วก็กลายเป็นการทะเลาะกันย่อมๆที่ทำให้ซินแบดอมยิ้มได้ ร่างสูงมองไปที่จูดัลที่เดี๋ยวนี้นิสัยของจูดัลเริ่มดีขึ้นมาบางนิดหนึ่ง พลางคิดในใจว่า ดวงอาทิตย์ที่เคยส่องแสงสีดำตลอดเวลา กำลังมีแสงเล็ดลอดออกมาดั่งดวงอาทิตย์ที่ถูกดวงจันทร์บดบัง แต่ก็ยังมีแสงที่แสดงถึงความอบอุ่นมาให้เห็น......
จบบริบูรณ์
ความคิดเห็น