คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ดินสอ กับ ปากกา
2
ดินสอ กับ ปากกา
“ ที่นี่...ที่ไหน..”
เด็กหนุ่มเซย์ยืนสงสัยและแปลกใจอยู่ในสถานที่สีดำ...ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสีดำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของต่างๆนาๆ....แต่มันก็ค่อนข้างจะคุ้นตาเขามากอยู่นะ...
“ ที่นี่มัน... ”
เซย์พูดได้ยังไม่ทันขาดคำ สถานที่ก็เปลี่ยนเป็นห้องเรียนเก่าๆสีดำแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นห้องเรียนของเซย์ สถานที่เริ่มมาพร้อมกับเพื่อนๆในห้องเรียน ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนชีวิตประจำวันของเซย์ เพียงแค่มันเป็นสีดำเท่านั้นเอง
“ นี่มันเกิดอะไรขึ้น !! ”
เซย์เผยสีหน้าที่แท้จริงออกมาด้วยความหวาดกลัว คงจะเป็นเพราะเจอเรื่องน่าประหลาดไม่เหมือนในชีวิตจริงๆที่ตัวเองเป็นอยู่
“ เซย์...ทำอะไรน่ะ สีหน้าดูเศร้าๆนะ เป็นอะไรรึเปล่า ? ”
เพื่อนของเซย์เข้ามาถาม เขาเห็นเซย์งั้นหรอ ?
“ มะ...ไม่เป็นไรๆ ^^ ”
เซย์หันมายิ้มร่า ทำท่าทางเหมือนทุกที
‘โกหก’ เสียงกระซิบดังขึ้น มันทำให้เซย์ช็อคไปตามๆกัน ทั้งๆที่ไม่มีคนทำท่าทางคุยกัน มีแต่สีหน้าที่เป็นห่วงของพวกเขา เซย์พยายามหันซ้าย หันขวา หาต้นเสียงนั้น และ ได้รู้ว่าเสียงกระซิบพวกนั้นมาจากเพื่อนๆทุกคนที่เป็นห่วงเขานั่นเอง
‘ โกหก โกหก โกหก หลอกลวง ’ เสียงเหล่านั้นเริ่มทวีคูณดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างของเพื่อนๆเริ่มดำสนิทเหลือเพียงรอยฉีกยิ้มสุดแสนจะน่ากลัว
“ ไม่ !!! ”
เซย์เอามือทั้งสองข้าง แนบหูและวิ่งหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
‘จะหนีอยู่อย่างนี้หรอไง เจ้าคนหลอกลวง ’ เสียงเล็กๆได้เล็ดรอดเข้ามาในหูของเซย์ก่อนที่เสียงทุกๆอย่างจะหายไป
“ พวกเขา...เกลียดเรา ”
เซย์เข้าไปหลบห้องสมุด ลึกสุดของชั้นหมวดความรู้ทั่วไป ตัวของเด็กน้อยผู้หวาดกลัว สั่นและแข็งทื่อราวกับหินสลักไม่มีผิด
ตอนนี้ทุกสิ่งดูน่ากลัวไปหมด มันมืด เงียบ กดดันตัวเขาอย่างมาก มันใกล้จะทำให้เด็กคนนี้แทบคุมสติตัวเองไม่อยู่แล้ว
“ มีคนอยู่ในนี้ด้วยหรอเนี้ย ? ”
ชายตัวสูง ผมยาวสีดำ กับ ชุดสีขาว ตัดกับสีในสภาพแวดล้อมตอนนี้มาก เขาเหมือนพี่ชายตัวสูงที่เคยเดินไปเจอในระหว่างไปโรงเรียน...พี่ชายคนที่พูดเรื่องแปลกๆนี่เอง..เด็กหนุ่มจำได้ว่าเจอพี่ชายคนนี้ก่อนที่ตัวเองจะโดนรถยนต์ชนจนปลิว
“ พี่ชาย...ในตอนนั้น..”
เซย์ชี้นิ้วมาที่พี่ชายตัวสูงตรงหน้า
“ เจ้าหนู...รู้จักชั้นหรอ ? ”
พี่ชายตัวสูงฉีกยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาถามเด็กหนุ่มใกล้ๆ รอยยิ้มของพี่ชายคนนี้ดูน่าขนลุกมาก สายตาก็ดูน่ากลัวพอๆกัน มันทำให้เด็กหนุ่มกลัวจนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
“ ฮ่าๆๆ กลัวชั้นสินะ...ทุกคนก็เป็นอย่างนี้แหละ ”
พี่ชายตัวสูงนั่งลงข้างๆเด็กหนุ่ม และหัวเราะออกมา
“....”
เด็กหนุ่มก้มหน้าลงกอดเข่าตัวเอง
“ มีอะไรจะเล่ามะ หน้าเธอดูซีดมากเลยนะ เจ้าหนู..”
พี่ชายตัวสูงถามเด็กหนุ่มผู้หวาดกลัว
“...ไม่มีอะไรครับ...”
เซย์ตอบเหมือนทุกๆที
“ ฮ่าๆ แต่สีหน้าเธอมันสื่อไม่ตรงตามคำพูดเลยนะ ”
ดูเหมือนพี่ชายตัวสูงจะรู้นะ ว่าเซย์ไม่ได้พูดความจริง ก็เพราะสีหน้าของเขามันเริ่มบ่งบอกความจริงซะแล้ว น่ะสิ..
“ เอาเถอะ...นี่..เจ้าหนู ”
พี่ชายเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“ คะ...ครับ ”
“ รู้จัก จิตใต้สำนึกมะ ? ”
พี่ชายตัวสูงพูดเรื่องเข้าใจยากอีกแล้วสิ...แต่ความจริง เซย์เองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน
“ ไม่ครับ ”
เซย์ส่ายหน้า
“ ตัวแค่นี้ จะไปเข้าใจได้ยังไง ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่า...ชั้นจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน ”
“ครับ...” เซย์พยักหน้า ตั้งใจฟังอย่างสงบ
“ เคยมีคนบอกว่า จิตใต้สำนึกน่ะ...มันอยู่ลึกกว่าความทรงจำ เรียกกันว่า ความทรงจำส่วนลึก ให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ความทรงจำคือ ดินสอ เมื่อเขียนออกไปแล้ว ก็สามารถใช้บางลบ ลบมันออกได้ ส่วนจิตใต้สำนึก หรือ ความทรงจำส่วนลึกนั้น คือ ปากกา พอเขียนลงไปแล้ว จะใช้ยาลบ ลบยังไงก็ไม่ออก...เหมือนเธอ เธอไม่เคยที่จะใช้ดินสอเขียน...แต่เธอใช้ปากกาเขียนมันตลอด ยังไงล่ะ ”
ที่พี่ชายพูดมาทั้งหมดมีบางเรื่องที่เซย์ยังคงไม่เข้าใจอยู่
“ ผมต้องทำยังไง...”
เซย์ถาม.
“ หึ...ง่ายๆ.. ถ้าเธออยากจะลบมันก็เปลี่ยนให้มันเป็นดินสอก่อนสิ ”
เซย์ยังคงงงๆอยู่เช่นเดิมกับประโยคแปลกๆที่พี่ชายพูด..
“ ถ้าเธออยากจะลบไอ้สิ่งที่เธอกลัว เธอก็ให้มันรู้ไปเลยสิ ว่าเธอกลัวแค่ไหน...”
พี่ชายลูบหัวเซย์ก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป
“ พี่...เป็นใครกันแน่ ? ”
เซย์ลุกขึ้นถาม..
“ ชั้นหรอ...ฮ่าๆๆๆ ชั้นก็เป็นหมึกของปากกา...ที่เธอเขียนขึ้นยังไงล่ะ..”
และแล้วพี่ชายตัวสูงก็จางหายไปกับสายลม
‘หมึกปากกา...ปากกา...จิตใต้สำนึก...ของผม...’
“ จิตใต้สำนึกของผม ”
เซย์พูดขึ้น เขาเริ่มเข้าใจทุกๆอย่างแล้ว เรื่องทุกอย่างคือจิตใต้สำนึกของเขาเอง ปัญหาอยู่ที่เขาจะแก้ยังไง เขาจะออกจากที่นี่ได้ยังไง ??
‘ทำให้ปากกากลายเป็นดินสอ จะลบสิ่งที่กลัวต้องให้รู้ว่ากลัว...’
เซย์นั่งครุนคิดอยู่นานพอสมควร คิดแล้ว คิดอีก...กินเวลานับ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เซย์ก็เข้าใจในที่สุด
‘ถ้าเรากลัว เราก็บอกว่ากลัว ถ้าเราคิดมาก ก็ปรึกษาเพื่อนไงล่ะ ! จะแก้ไขปัญหา ก็ต้องพูดออกมานี่เอง..’
เซย์ลุกขึ้น...เขาพยายามรวบรวมความกล้าและความกลัวทั้งหมดที่จะกลับเข้าสู่ห้องเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหมดอีกครั้ง
“ ไปไหนมาน่ะ...เซย์ ”
เพื่อนๆเดินเข้ามารุมถาม
“ผม....” เซย์ยึกยัก หยุดพูดไปครู่นึง
‘จะโกหกอีกแล้วหรอ’ เสียงกระซิบดังงขึ้นอีกครั้ง
‘ รีบพูดออกมาสิ ยึกยักทำไม’
‘จะพูดว่า ไม่มีอะไรอีกล่ะสิ’
“ผม...ผมกลัว !!! ” เซย์ตะโกนออกมากับสีหน้าที่หวาดกลัวแบบเปิดเผย
‘เป็นอะไรน่ะ’
‘กลัวอะไรหรอ’
‘เกิดอะไรขึ้นเนี้ย’
เสียงกระซิบสงสัยออกมาทางจิตใจของเพื่อนๆ
“ผมน่ะ...กลัวเพื่อนๆ กลัวทุกคน กลัวว่าจะเกลียดผม ”
เซย์ได้เผยความจริงในใจออกมาแล้วในที่สุด
“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว มีอะไรจะเล่า รึระบาย ก็บอกมาเลย..”
เพื่อนๆต่างปลอบใจเซย์กันยกใหญ่ ในเวลาที่เหลือนั้นเซย์ได้ปลดปล่อยสิ่งที่เก็บไว้มานานแสนนานให้กับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่าลำบากใจต่างๆ เรื่องพ่อแม่...เพื่อนๆของเขาก็ให้คำปรึกษาอย่างดี เซย์ได้เรียนรู้ว่า เมื่อเกิดมีปัญหาที่แก้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ ก็ควรปรึกษาเพื่อน พ่อแม่ ไม่ควรเก็บไว้คนเดียว ถือว่ามันเป็นบทเรียนบทนึงที่เซย์ได้เข้าใจอย่างรู้ซึ้งแล้ว..
‘อย่างนี้นี่เอง’
‘อ๋อ น่าเห็นใจแฮะ’
‘สู้ๆนะ เพื่อน’
ความคิดของเพื่อนๆก็แปลเปลี่ยนไป..ตอนนี้ไม่มีใครเกลียดเซย์อีกแล้ว พวกเขาเข้าใจเซย์ทุกอย่าง ที่แปลกคือเพื่อนๆในจิตใต้สำนึกของเซย์และห้องเรียนเริ่มมีสีสัน เพื่อนๆยิ้มดูมีความสุขและพวกเขาก็จางหายไป ตอนนี้หมึกปากกาที่เซย์เขียนได้กลายเป็นดินสอที่สามารถลบได้แล้ว(ในเรื่องหนึ่ง)
“หมอคะ...หัวใจค่ะ...หัวใจของน้องเขาเริ่มเต้นนิดหน่อยแล้วค่ะ !!! ”
พยาบาลแตกตื่นวิ่งโผลออกมาหาคุณหมอที่รับผิดชอบเรื่องร่างของเด็กหนุ่มเซย์ เมื่อคุณหมอเข้ามาตรวจร่างกายของเด็กหนุ่มเซย์และรายงานให้พ่อแม่ของเขาได้ทราบ ว่า นอกจากหัวใจจะเริ่มเต้นแล้ว สีของหัวใจก็เริ่มกลายเป็นสีแดงทีละนิดเช่นกัน ยิ่งเป็นที่น่าสนใจของเหล่าแพทย์มากขึ้นไปอีก...ถือว่าเป็นเรื่องดี...
แต่เรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้ร่าเริงในความมืดมนนั้น ยังไม่จบลง...เขาต้องพบกับเรื่องราวที่ยังคงเป็นหมึกปากกาอยู่...ถึงเขาจะยังไม่รู้ แต่อีกไม่นานหรอก...
ความคิดเห็น