ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mental Black "จิต"สีดำ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ดินสอ กับ ปากกา

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 57




    2

    ดินสอ กับ ปากกา

     

    ที่นี่...ที่ไหน..

    เด็กหนุ่มเซย์ยืนสงสัยและแปลกใจอยู่ในสถานที่สีดำ...ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสีดำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของต่างๆนาๆ....แต่มันก็ค่อนข้างจะคุ้นตาเขามากอยู่นะ...

    ที่นี่มัน...

    เซย์พูดได้ยังไม่ทันขาดคำ สถานที่ก็เปลี่ยนเป็นห้องเรียนเก่าๆสีดำแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นห้องเรียนของเซย์ สถานที่เริ่มมาพร้อมกับเพื่อนๆในห้องเรียน ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนชีวิตประจำวันของเซย์ เพียงแค่มันเป็นสีดำเท่านั้นเอง

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น !! ”

    เซย์เผยสีหน้าที่แท้จริงออกมาด้วยความหวาดกลัว คงจะเป็นเพราะเจอเรื่องน่าประหลาดไม่เหมือนในชีวิตจริงๆที่ตัวเองเป็นอยู่

    เซย์...ทำอะไรน่ะ สีหน้าดูเศร้าๆนะ เป็นอะไรรึเปล่า ? ”

    เพื่อนของเซย์เข้ามาถาม เขาเห็นเซย์งั้นหรอ ?

    มะ...ไม่เป็นไรๆ ^^ ”

    เซย์หันมายิ้มร่า ทำท่าทางเหมือนทุกที

    โกหกเสียงกระซิบดังขึ้น มันทำให้เซย์ช็อคไปตามๆกัน ทั้งๆที่ไม่มีคนทำท่าทางคุยกัน มีแต่สีหน้าที่เป็นห่วงของพวกเขา เซย์พยายามหันซ้าย หันขวา หาต้นเสียงนั้น และ ได้รู้ว่าเสียงกระซิบพวกนั้นมาจากเพื่อนๆทุกคนที่เป็นห่วงเขานั่นเอง

    โกหก โกหก โกหก หลอกลวงเสียงเหล่านั้นเริ่มทวีคูณดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างของเพื่อนๆเริ่มดำสนิทเหลือเพียงรอยฉีกยิ้มสุดแสนจะน่ากลัว

    ไม่ !!! ”

    เซย์เอามือทั้งสองข้าง แนบหูและวิ่งหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

    จะหนีอยู่อย่างนี้หรอไง เจ้าคนหลอกลวงเสียงเล็กๆได้เล็ดรอดเข้ามาในหูของเซย์ก่อนที่เสียงทุกๆอย่างจะหายไป

    พวกเขา...เกลียดเรา

    เซย์เข้าไปหลบห้องสมุด ลึกสุดของชั้นหมวดความรู้ทั่วไป ตัวของเด็กน้อยผู้หวาดกลัว สั่นและแข็งทื่อราวกับหินสลักไม่มีผิด

    ตอนนี้ทุกสิ่งดูน่ากลัวไปหมด มันมืด เงียบ กดดันตัวเขาอย่างมาก มันใกล้จะทำให้เด็กคนนี้แทบคุมสติตัวเองไม่อยู่แล้ว

    มีคนอยู่ในนี้ด้วยหรอเนี้ย ? ”

    ชายตัวสูง ผมยาวสีดำ กับ ชุดสีขาว ตัดกับสีในสภาพแวดล้อมตอนนี้มาก เขาเหมือนพี่ชายตัวสูงที่เคยเดินไปเจอในระหว่างไปโรงเรียน...พี่ชายคนที่พูดเรื่องแปลกๆนี่เอง..เด็กหนุ่มจำได้ว่าเจอพี่ชายคนนี้ก่อนที่ตัวเองจะโดนรถยนต์ชนจนปลิว

    พี่ชาย...ในตอนนั้น..

    เซย์ชี้นิ้วมาที่พี่ชายตัวสูงตรงหน้า

    เจ้าหนู...รู้จักชั้นหรอ ? ”

    พี่ชายตัวสูงฉีกยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาถามเด็กหนุ่มใกล้ๆ รอยยิ้มของพี่ชายคนนี้ดูน่าขนลุกมาก สายตาก็ดูน่ากลัวพอๆกัน มันทำให้เด็กหนุ่มกลัวจนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

    ฮ่าๆๆ กลัวชั้นสินะ...ทุกคนก็เป็นอย่างนี้แหละ

    พี่ชายตัวสูงนั่งลงข้างๆเด็กหนุ่ม และหัวเราะออกมา

    ....

    เด็กหนุ่มก้มหน้าลงกอดเข่าตัวเอง

    มีอะไรจะเล่ามะ หน้าเธอดูซีดมากเลยนะ เจ้าหนู..

    พี่ชายตัวสูงถามเด็กหนุ่มผู้หวาดกลัว

    ...ไม่มีอะไรครับ...

    เซย์ตอบเหมือนทุกๆที

    ฮ่าๆ แต่สีหน้าเธอมันสื่อไม่ตรงตามคำพูดเลยนะ

    ดูเหมือนพี่ชายตัวสูงจะรู้นะ ว่าเซย์ไม่ได้พูดความจริง ก็เพราะสีหน้าของเขามันเริ่มบ่งบอกความจริงซะแล้ว น่ะสิ..

    เอาเถอะ...นี่..เจ้าหนู

    พี่ชายเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

    คะ...ครับ

    รู้จัก จิตใต้สำนึกมะ ? ”

    พี่ชายตัวสูงพูดเรื่องเข้าใจยากอีกแล้วสิ...แต่ความจริง เซย์เองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน

    ไม่ครับ

    เซย์ส่ายหน้า

    ตัวแค่นี้ จะไปเข้าใจได้ยังไง ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่า...ชั้นจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน

    ครับ... เซย์พยักหน้า ตั้งใจฟังอย่างสงบ

    เคยมีคนบอกว่า จิตใต้สำนึกน่ะ...มันอยู่ลึกกว่าความทรงจำ เรียกกันว่า ความทรงจำส่วนลึก ให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ความทรงจำคือ ดินสอ เมื่อเขียนออกไปแล้ว ก็สามารถใช้บางลบ ลบมันออกได้ ส่วนจิตใต้สำนึก หรือ ความทรงจำส่วนลึกนั้น คือ ปากกา พอเขียนลงไปแล้ว จะใช้ยาลบ ลบยังไงก็ไม่ออก...เหมือนเธอ เธอไม่เคยที่จะใช้ดินสอเขียน...แต่เธอใช้ปากกาเขียนมันตลอด ยังไงล่ะ

    ที่พี่ชายพูดมาทั้งหมดมีบางเรื่องที่เซย์ยังคงไม่เข้าใจอยู่

    ผมต้องทำยังไง...

    เซย์ถาม.

    หึ...ง่ายๆ.. ถ้าเธออยากจะลบมันก็เปลี่ยนให้มันเป็นดินสอก่อนสิ

    เซย์ยังคงงงๆอยู่เช่นเดิมกับประโยคแปลกๆที่พี่ชายพูด..

    ถ้าเธออยากจะลบไอ้สิ่งที่เธอกลัว เธอก็ให้มันรู้ไปเลยสิ ว่าเธอกลัวแค่ไหน...

    พี่ชายลูบหัวเซย์ก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป

    พี่...เป็นใครกันแน่ ? ”

    เซย์ลุกขึ้นถาม..

    ชั้นหรอ...ฮ่าๆๆๆ ชั้นก็เป็นหมึกของปากกา...ที่เธอเขียนขึ้นยังไงล่ะ..

    และแล้วพี่ชายตัวสูงก็จางหายไปกับสายลม

    หมึกปากกา...ปากกา...จิตใต้สำนึก...ของผม...

    จิตใต้สำนึกของผม

    เซย์พูดขึ้น เขาเริ่มเข้าใจทุกๆอย่างแล้ว เรื่องทุกอย่างคือจิตใต้สำนึกของเขาเอง ปัญหาอยู่ที่เขาจะแก้ยังไง เขาจะออกจากที่นี่ได้ยังไง ??

    ทำให้ปากกากลายเป็นดินสอ จะลบสิ่งที่กลัวต้องให้รู้ว่ากลัว...

    เซย์นั่งครุนคิดอยู่นานพอสมควร คิดแล้ว คิดอีก...กินเวลานับ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เซย์ก็เข้าใจในที่สุด

    ถ้าเรากลัว เราก็บอกว่ากลัว ถ้าเราคิดมาก ก็ปรึกษาเพื่อนไงล่ะ ! จะแก้ไขปัญหา ก็ต้องพูดออกมานี่เอง..

    เซย์ลุกขึ้น...เขาพยายามรวบรวมความกล้าและความกลัวทั้งหมดที่จะกลับเข้าสู่ห้องเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหมดอีกครั้ง

    ไปไหนมาน่ะ...เซย์

    เพื่อนๆเดินเข้ามารุมถาม

    ผม.... เซย์ยึกยัก หยุดพูดไปครู่นึง

    จะโกหกอีกแล้วหรอ เสียงกระซิบดังงขึ้นอีกครั้ง

    รีบพูดออกมาสิ ยึกยักทำไม

    จะพูดว่า ไม่มีอะไรอีกล่ะสิ

    ผม...ผมกลัว !!! ” เซย์ตะโกนออกมากับสีหน้าที่หวาดกลัวแบบเปิดเผย

    เป็นอะไรน่ะ

    กลัวอะไรหรอ

    เกิดอะไรขึ้นเนี้ย

    เสียงกระซิบสงสัยออกมาทางจิตใจของเพื่อนๆ

    ผมน่ะ...กลัวเพื่อนๆ กลัวทุกคน กลัวว่าจะเกลียดผม

    เซย์ได้เผยความจริงในใจออกมาแล้วในที่สุด

    ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว มีอะไรจะเล่า รึระบาย ก็บอกมาเลย..

    เพื่อนๆต่างปลอบใจเซย์กันยกใหญ่ ในเวลาที่เหลือนั้นเซย์ได้ปลดปล่อยสิ่งที่เก็บไว้มานานแสนนานให้กับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่าลำบากใจต่างๆ เรื่องพ่อแม่...เพื่อนๆของเขาก็ให้คำปรึกษาอย่างดี เซย์ได้เรียนรู้ว่า เมื่อเกิดมีปัญหาที่แก้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ ก็ควรปรึกษาเพื่อน พ่อแม่ ไม่ควรเก็บไว้คนเดียว ถือว่ามันเป็นบทเรียนบทนึงที่เซย์ได้เข้าใจอย่างรู้ซึ้งแล้ว..

    อย่างนี้นี่เอง

    อ๋อ น่าเห็นใจแฮะ

    สู้ๆนะ เพื่อน

    ความคิดของเพื่อนๆก็แปลเปลี่ยนไป..ตอนนี้ไม่มีใครเกลียดเซย์อีกแล้ว พวกเขาเข้าใจเซย์ทุกอย่าง ที่แปลกคือเพื่อนๆในจิตใต้สำนึกของเซย์และห้องเรียนเริ่มมีสีสัน เพื่อนๆยิ้มดูมีความสุขและพวกเขาก็จางหายไป ตอนนี้หมึกปากกาที่เซย์เขียนได้กลายเป็นดินสอที่สามารถลบได้แล้ว(ในเรื่องหนึ่ง)

    หมอคะ...หัวใจค่ะ...หัวใจของน้องเขาเริ่มเต้นนิดหน่อยแล้วค่ะ !!! ”

    พยาบาลแตกตื่นวิ่งโผลออกมาหาคุณหมอที่รับผิดชอบเรื่องร่างของเด็กหนุ่มเซย์ เมื่อคุณหมอเข้ามาตรวจร่างกายของเด็กหนุ่มเซย์และรายงานให้พ่อแม่ของเขาได้ทราบ ว่า นอกจากหัวใจจะเริ่มเต้นแล้ว สีของหัวใจก็เริ่มกลายเป็นสีแดงทีละนิดเช่นกัน ยิ่งเป็นที่น่าสนใจของเหล่าแพทย์มากขึ้นไปอีก...ถือว่าเป็นเรื่องดี...

                    แต่เรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้ร่าเริงในความมืดมนนั้น ยังไม่จบลง...เขาต้องพบกับเรื่องราวที่ยังคงเป็นหมึกปากกาอยู่...ถึงเขาจะยังไม่รู้ แต่อีกไม่นานหรอก...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×