คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue: love
คู่เสน่หา – รินรณา
Prologue: love
หญิงสาวในชุดกาวน์สั้นสีขาวเดินมายังลานจอดรถของโรงพยาบาลอย่างเหนื่อยล้าไม่น้อย แต่สีหน้าของเธอนั้นกลับสดใสนั่นเพราะว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการเป็นนักศึกษาแพทย์ปีที่หก หลังจากนี้ก็มีแค่การทำรายงานส่งเท่านั้น แล้วเธอก็จะจบการศึกษาและได้เป็นคุณหมอสมความตั้งใจ ความเหน็ดเหนื่อยสาหัสที่เผชิญมาทั้งหมดจึงกลายเป็นเรื่องเล็กไปทันทีเมื่อเทียบกับความดีใจมหาศาลที่เธอมี
พชรมนหรือว่าที่แพทย์หญิงพชรมนสอดส่ายสายตามองหารถบีเอ็มดับบลิวซึ่งเป็นพาหนะประจำตัวของเธอจนเจอในที่สุด หญิงสาวเร่งฝีเท้าเดินไปหา เธอเกรงใจพี่สมพร คนขับรถหญิงที่มารอเธอตั้งสามชั่วโมงที่แล้ว แต่กว่าเธอจะทำรายงานเสร็จ แล้วก็ต้องอยู่ร่วมในงานเลี้ยงฉลองเล็กๆ ที่ทางแพทย์และพยาบาลจัดให้แสดงความยินดีกับนักศึกษาแพทย์จบใหม่ทั้งหมด เวลาก็ได้ล่วงเลยมาถึงในเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว
“ขอโทษค่ะ พี่พอลลี่ หนูทำรายงานช้าไปหน่อยแล้วก็ลืมด้วยว่าวันนี้จะมีงานฉลอง...” พอเปิดประตูรถมาได้ หญิงสาวก็ขอโทษทันที ก่อนจะอ้าปากค้างไว้เมื่อคนที่นั่งที่นั่งคนขับไม่ใช่พี่พอลลี่ สาวห้าววัยสามสิบปีเศษที่อยู่กับเธอมาตลอด
“ขึ้นมานั่งหน้า”
คำสั่งสั้นๆ นี้ทำให้หญิงสาวที่ตระเตรียมจะหลับในรถตาสว่างขึ้นมาทันที และก็ต้องเปลี่ยนไปนั่งหน้าอย่างมึนงง รู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด แต่ก็คงเพราะการอดนอนทำให้เธอปฏิบัติตามคำสั่งของเขาอย่างว่าง่าย
“คุณมานี่ได้ยัง...อุ๊บ” เมื่อขึ้นมานั่งพร้อมปิดประตูเรียบร้อยแล้ว พชรมนจึงได้หันไปตั้งคำถามก่อนจะพบกับการจู่โจมที่ร้อนแรงซึ่งเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างบอบบางของเธอถูกกระชากเข้าหาคนขับรถกิตติมศักดิ์ มือข้างหนึ่งของเขาจับเข้าที่ท้ายทอยของเธอ ป้องกันไม่ให้เหยื่อหลบหนีก่อนจะฉกริมฝีปากเข้าหา บดจูบหนักๆ ลงไปคล้ายจะลงโทษในทีที่ปล่อยให้เขารอนานถึงขนาดนี้
“เดี๋ยว...เดี๋ยว...”
พชรมนพยายามต่อต้าน มือของเธอยันแผ่นอกของเขาไว้ พยายามผลักเขาออกห่างให้มากที่สุดเท่าที่แรงเธอจะทำได้ พลันรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเพราะนอกจากจูบแล้ว คนๆ นี้ยังกัดปากของเธออีกด้วย ด้วยความโกรธที่เขาไม่ฟังเธอเลย หนำซ้ำยังมีหน้ามากัดอีก หญิงสาวเลยตอบแทนเขาด้วยการกัดริมฝีปากเขาให้บ้าง การตอบรับที่แปลกใหม่ของสาวในโอวาททำให้ชายหนุ่มหยุดการรุกรานชั่วคราว จึงเป็นจังหวะให้พชรมนได้พักหายใจ
“ที่นี่มัน...โรงพยาบาลนะ รอย”
“แล้วไง” รอย ริชาร์ด คาร์เตอร์ เอ่ยขึ้นพลางเลิกคิ้วสูง ราวกับไม่เข้าใจว่า พชรมนจะพูดทำไม
“มันไม่สมควร” หญิงสาวตวัดตาใส่เขาอย่างนึกเคืองคนตรงหน้า ที่แม้ว่าจะอยู่ในความมืดก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดลง แต่กลับกลายเป็นความเย้ายวนลึกลับที่ทำให้ผู้หญิงพร้อมจะกระโจนเข้าใส่มากกว่า และเธอก็กำลังจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย
“แต่ฉันอยากทำ” คำตอบอย่างตรงไปตรงมาของคนหน้าหนาทำให้พชรมนไปต่อไม่ถูก ดวงหน้าขาวใสขึ้นสีแดงระเรื่อทันควันกับคำพูดห่ามๆ แบบนี้ พชรมนเผลอเม้มริมฝีปากแน่น
เธอรู้อยู่แล้วว่า เขาเป็นคนยังไง ใช่ เขาไม่อาย แต่เธออายนี่นา
“หรือเธอไม่อยากจูบฉัน คาร่า” ถ้อยคำที่ตามติดมาทำให้หญิงสาวเป็นปลาสำลักน้ำ อ้าปากพะงาบๆ เพราะพูดไม่ออกไปในอึดใจแรก
“ไม่อยาก” พชรมนกระแทกเสียงใส่ทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ
ปกติเธอมักจะโอนอ่อนผ่อนตามเขาอย่างว่าง่าย แต่วันนี้มันเป็นวันที่เธอเรียนจบแน่นอนแล้ว ประโยคแรกที่เขาควรพูดกับเธอน่าจะเป็นยินดีด้วยหรืออะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับการเรียนของเธอ ไม่ใช่มาพูดกันถึงเรื่องอยากหรือไม่อยากบ้าๆ นี่
“หือ? ไม่อยาก ฉันให้สิทธิ์เธอพูดใหม่อีกครั้งนะ” เสียงของชายหนุ่มต่ำลงเล็กน้อย พชรมนรู้ว่าเขาโกรธแล้ว แต่เธอโกรธยิ่งกว่า ผู้ชายอะไรทำไมไม่รู้จักกาลเทศะเสียบ้าง ที่สำคัญเขาควรแสดงความยินดีกับเธอก่อนมากกว่า
“ไม่พูดใหม่ ตอนนี้ฉันอยากนอนที่สุด กลับบ้านแล้วนอน” พชรมนเอ่ยอย่างแน่วแน่เช่นกัน
“ได้ ฉันจะให้เธอนอนตามที่ต้องการ” รอยพยักหน้ารับ ก่อนจะกระชากหญิงสาวขึ้นมานั่งซ้อนตักเขาแล้วเริ่มซุกไซ้ไปทั่ว
“คนบ้า นี่มันในรถนะ” พชรมนยกสองมือขึ้นกระหน่ำทุบอกเขาไปมา
“อืม ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยทำในรถกันนะ คาร่า” รอยเลื่อนใบหน้าขึ้นจากซอกคอของหญิงสาวมาพูดด้วย มือข้างหนึ่งบีบเคล้นความกลมกลึงนุ่มละมุนผ่านเนื้อผ้า อีกมือก็ไม่ได้อยู่ว่างเลื่อนกระโปรงทรงเอขึ้นจนถึงสะโพก ก่อนที่มือจะไล้จากขาอ่อนเตรียมที่รุกเข้าจุดอ่อนไหวที่สุดของพชรมน แต่ก็ถูกมือเล็กนั้นคว้าจับฉุดดึงรั้งไว้อย่างสุดความสามารถ
“เดี๋ยวมีคนเห็นต่างหากเล่า” พชรมนร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว
“รถคันนี้ติดฟิล์ม” รอยตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ไม่ได้นะ” หญิงสาวยังคงปฏิเสธ
“ฉันจะทำให้เธอได้ ‘นอน’ ตามที่ขอไง หุบปากซะ คาร่า แล้วเดี๋ยวจะได้นอนหลับฝันดีทั้งคืน” มือเขาหายลับเข้าไปในแพนตี้ของเธอในที่สุด
พชรมนหน้าแดงแปร๊ดกับถ้อยคำที่แฝงนัยมามากกว่าหนึ่งและสมองก็เริ่มคิดอะไรไม่ออกนอกจากปล่อยให้เขากระทำตามใจชอบ
“ไม่เอานะ ยังไงก็ได้แต่ไม่ใช่ที่นี่นะ” หญิงสาวยอมแพ้อย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าหากช้าไปกว่านี้ เธอจะมีสภาพเปลือยเปล่าในรถ
“ไม่อยากนอนแล้วเหรอ คาร่า” หนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มยียวน
“ไม่อยากแล้วค่ะ” พชรมนส่ายศีรษะจนหางม้าสะบัด
“แล้วอยากทำอะไรล่ะตอนนี้” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยแววตากระหยิ่มยิ้มย่อง ซึ่งพชรมนเห็นว่ามันช่างน่ารังเกียจที่สุด
“อยาก...” เสียงที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปาก
“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย”
“อยาก...จูบคุณค่ะ” หญิงสาวเพิ่มระดับเสียงขึ้นมาอีกหน่อย กระดากอายกับคำพูดที่บอกความต้องการอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งเธอมักไม่ค่อยพูดเรื่องแบบนี้นัก อันที่จริงแล้วคนที่เรียกร้องเรื่องนี้มีแต่ฝ่ายชาย ส่วนเธอกลับไม่กล้าที่จะเรียกร้องอะไรมากนัก
“งั้นก็จูบสิ คาร่า”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วโน้มใบหน้าเข้าหาเขาช้าๆ ทาบริมฝีปากเข้าไปหาอย่างคุ้นเคย ลิ้นเล็กๆ ของเธอไล้เลียตั้งแต่ริมฝีปากของเขาเข้าไปในโพรงปากนั้น เกี่ยวกะหวัดลิ้นอุ่นด้วยความโหยหา รอยอาจจะสั่งเธอได้แต่สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ในตอนนี้กลับเป็นความปรารถนาจากในหัวใจล้วนๆ
จูบเขา บอกให้เขารู้ผ่านการกระทำว่าเธอรักเขามากแค่ไหน มันเป็นความเคยชินที่เธอทำเป็นประจำเพราะนอกจากช่วงเวลานี้แล้ว เธอก็ไม่สามารถเอ่ยคำว่ารักออกไปได้ เรื่องของเธอกับรอยนั้นไม่สามารถเปิดเผยให้ใครได้รู้ อาจจะเรียกได้ว่าผิดศีลธรรม เป็นเรื่องสกปรก
ทว่าสำหรับเธอแล้ว มันเป็นความรัก...เป็นรักต้องห้าม และเป็นรักฝ่ายเดียวของเธอ
ส่วนเขา...ก็คงแค่เห็นเธอเป็นที่ระบายความใคร่เท่านั้น
“เด็กดี” ชายหนุ่มที่ได้รับจุมพิตสมความปรารถนาพึมพำออกมา
“แล้วผมจะทำให้คุณหลับฝันดีเอง” รอยจุมพิตเบาๆ ลงที่หน้าผากของพชรมน ก่อนจะยินยอมปล่อยให้ลูกแกะที่ละพยศแล้วนี้กลับไปยังที่นั่งตามควร หญิงสาวมองชายหนุ่มตาละห้อยนั่นเป็นเพราะชอบสัมผัสอ่อนโยนจากเขานั่นเอง สัมผัสที่ทำให้เธอรู้สึกว่า ในซอกมุมของหัวใจเขาคงจะมีพื้นที่ให้เธอบ้าง
“มองแบบนั้นคือ...อยากจะต่อให้จบตอนนี้”
พชรมนรีบลนลานก้มหน้าหนี จึงได้เห็นสภาพตัวเองที่เสื้อโดนแกะกระดุมไปหลายเม็ด ส่วนกระโปรงก็เลิกขึ้นมากองอยู่แถวสะโพก ปิดอะไรไม่มิด เธอจึงตาลีตาลานจัดแต่งเครื่องแต่งกายของเธอให้เรียบร้อยกว่าเดิม
“ปล่อยไว้แบบนั้นก็ดีอยู่แล้ว” ชายหนุ่มที่สตาร์ตรถเอ่ยขึ้นเบาๆ
“บ้า ทะลึ่ง ลามก” หญิงสาวโต้กลับทันควัน
“เหมือนเมื่อกี้มีคนอยากจูบฉันด้วยนะ”
“ไม่พูดกับคุณแล้ว” พชรมนหันหน้าออกไปนอกรถ ตัดบทการสนทนาที่มีแต่จะทำให้เธออายหนักเข้าไปใหญ่เท่านั้น
.................................
ความคิดเห็น