ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราคีกุหลาบ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 56


     

    บทนำ

    แสงแดดสีทองที่ลอดผ่านบานหน้าต่างฉลุลายสไตล์แขกมัวร์ปลุกร่างสูงโปร่งบนเตียงนอนสี่เสาให้ลืมตาตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มเชื้อชาติอเมริกันวัยสามสิบต้นๆ ผู้มีนัยน์ตาสีฟ้าดุจอัญมณีน้ำงามที่น่าหลงใหลนั้นใช้เวลาอยู่ชั่วครู่เพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับมาหลังจากที่เมื่อคืนเขา...

    ชายหนุ่มปรายตาไปมองต้นเหตุของความสนุกซึ่งนอนอยู่ข้างตัว หญิงสาวชาวไทยนั้นยังคงดำดิ่งอยู่ในนิทราแสนหวาน ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา เขาพลิกตัวมามองร่างเล็กซึ่งนอนตะแคงขดตัวมาทางเขาพอดี พิศดูผิวนวลเนียนที่อยู่นอกผ้าห่มสีครีมอ่อน ตั้งแต่ดวงหน้าเล็กซึ่งถูกปอยผมหล่นลงมาปิดบังไปบางส่วน เปลือกตาปิดสนิท ปากนิดจมูกหน่อย แก้มใสเนียน ไล่ลงมาตามแนวคาง ต้นคอที่เมื่อคืนเขาซุกไซ้แล้วสายตาไปหยุดที่เนินอกขาวที่มีร่องรอยสีแดงฝีมือของเขากระจายตัวอยู่ นัยน์ตาเขาทอแสงอ่อนลง เพราะนึกขึ้นได้ถึงความจริงที่ว่า ผู้หญิงคนนี้ยังบริสุทธิ์อยู่...จนถึงเมื่อคืน

    เธอคงจะเจ็บแน่ๆ

    มือหนาที่ยื่นไปยังหัวไหล่กลมกลึงนั้นอย่างเผลอไผลเพราะความเสน่หาที่เพิ่งก่อตัวขึ้นนั้นชะงักไปก่อนที่ปลายนิ้วจะได้แตะลงบนผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส ด้วยความจริงบางประการที่เขารับรู้มา...

    สีหน้าอ่อนโยนแปรเปลี่ยนไปเป็นขึงตึง ก่อนจะสบถออกมา

    “ผู้หญิงสารเลว!

    อารมณ์โกรธม้วนตัวพุ่งขึ้นสูงราวกับคลื่นยักษ์ซึ่งพัดเข้าหาฝั่ง ทำให้ความรู้สึกผิดที่เป็นผู้ทำลายพรหมจารีของเธอนั้นแตกกระจัดพลัดพรายหายไปหมด เหลือเพียงความโกรธเกรี้ยวจวนเจียนจะคลุ้มคลั่ง อยากจะบดขยี้ผู้หญิงที่ทำตัวเป็นคนแสนดีต่อหน้าเขาคนนี้ให้แหลกยับคามือ

    ชายหนุ่มขบกรามดังกรอด กำมือแน่น ทรวงอกสะท้อนขึ้นลงโดยแรงด้วยข่มกลั้นโทสะอย่างสุดกำลังความสามารถ ยิ่งมองท่าทางที่ไร้เดียงสาของเธอซึ่งขัดกับความเป็นจริง เขาก็รู้สึกอยากจะฉีกทึ้งความงดงามใสซื่อให้ขาดวิ่น

    ถ้ายังมองหญิงคนนี้ต่อไป เขาคงจะหมดสิ้นซึ่งความอดทน...ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นจากเตียง เดินเปลือยกายเข้าห้องน้ำไปโดยไม่คิดจะหยิบเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้มาใส่แต่อย่างใด

    เสียงประตูที่ปิดดังปังทำให้คนที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวจากความฝัน หญิงสาวขยับตัวเปลี่ยนท่า ยังอยากจะฝังตัวเองลงไปในเตียงหนานุ่มต่อ ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยสักนิด ก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อนึกได้ว่าตัวเองอยู่ในทริปท่องเที่ยว ซึ่งไม่ควรตื่นสาย ไม่งั้นจะไปเที่ยวได้ไม่ครบทุกที่ที่อยากจะไป เพียงแต่...

    ทำไมเธอปวดเมื่อยร่างกายส่วนล่างขนาดนี้นะ?

    หญิงสาวเลิกผ้าห่มขึ้นจะมองว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่น่าจะมีเมนส์ช่วงนี้และการเดินเที่ยวในพระราชวังอะลัมบราก็ไม่น่าจะสร้างความปวดเมื่อยให้เธอได้ขนาดนี้เช่นกัน

    เธออ้าปากค้างเมื่อพบว่า ตัวเองเปลือยเปล่าและตามร่างกายมีร่องรอยที่คาดว่าน่าจะเกิดจากกิจกรรมบนเตียงนอน ใบหน้าเรียวเล็กแดงก่ำแล้วเปลี่ยนเป็นซีดขาวในเวลาสั้นๆ หนังศีรษะชาหนึบ ความทรงจำของเมื่อคืนไหลย้อนกลับมา ดูเหมือนว่า เธอจะนั่งดื่มไวน์อยู่กับ...อเล็กซ์ที่ห้องอาหารด้านล่างของโรงแรม แล้วหลังจากนั้นหญิงสาวก็จำได้เพียงเลือนราง ดวงหน้าขาวเนียนขึ้นสีระเรื่ออีกคราเมื่อสิ่งที่นึกออกมีเพียง การเกี่ยวกะหวัดกันของร่างสองร่างและนัยน์ตาสีฟ้าที่น่าหลงใหลคู่นั้น แต่เมื่อคิดถึงใบหน้าของคนที่เป็น “คู่กรณี” หญิงสาวก็แทบจะอยากโขกศีรษะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป

    ไม่จริง!

    เธอนอนกับอเล็กซ์งั้นเหรอ? หัวคิ้วย่นเข้าหากันโดยอัตโนมัติพร้อมๆ กับที่ยกมือปิดปากที่ไร้เสียงของตน แต่ในหัวกลับกรีดร้องออกมาว่า นี่คือเรื่องบ้าอะไรกัน?

    เธอไม่แน่ใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง

    ถ้ามีคนมาบอกเธอก่อนหน้านี้ว่าเธอจะนอนกับอเล็กซ์ละก็ เธอคงได้หัวเราะจนฟันหัก หญิงสาวรู้ดีพอๆ กับรู้ใจตัวเองว่าเธอชอบใคร อเล็กซ์ไม่ได้ชอบเธอสักกระผีกริ้น เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว แล้วมันมาลงเอยแบบนี้ได้ยังไง

    เป็นไปไม่ได้ หญิงสาวยังคงพึมพำอย่างไม่อยากจะยอมรับความจริงอยู่ขณะที่รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเมื่อพบกับปัญหาใหญ่ที่คล้ายกับโดนก้อนหินตกลงมาใส่ศีรษะ เธออยากให้สิ่งที่เจออยู่ขณะนี้เป็นแค่เรื่องตลกของเอพริลฟูลเดย์ ไม่ก็เป็นแค่ความฝันไป

    เธอนอนกับอเล็กซ์ไม่ได้!

    เรื่องเสียตัวก็หนักพออยู่แล้ว ยังมาเจอปัญหาเพิ่มคือคนที่เธอดันพลาดไปนอนด้วยอีก เขาเป็นพี่ชายของเพื่อนรัก..อเลน! แล้วเธอจะมองหน้าอเลนได้ยังไง ไหนจะอเล็กซ์ที่เธอเผลอมามีความสัมพันธ์เกินเลยนี่อีก

    หญิงสาวยกมือเสยผมอย่างคิดไม่ตก หัวสมองตีบตัน เครียดจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี แม้แต่ท้องไส้ก็มวนไปหมด นัยน์ตากลมโตที่น้อยครั้งจะมีน้ำตานั้นเริ่มปรากฏน้ำใสๆ คลอเบ้า หัวใจคล้ายกับถูกบีบรัด เสียใจให้กับความพลาดพลั้งของตัวเอง ทิ้งเวลาไปไม่นาน หญิงสาวปาดน้ำตาที่ไหลลงมาออก ค่อยเห็นว่าที่พื้นนั้นนอกจากเสื้อผ้าของเธอแล้วยังมีเสื้อผ้าของผู้ชายอีกด้วย... เสียงน้ำกระทบพื้นที่ดังลอดมาเบาๆ ซึ่งเธอไม่ได้สนใจฟังในทีแรกนั้นทำให้เธอรู้ว่าอเล็กซ์ยังอยู่ในห้องด้วย

    เพราะยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้า เธอรีบพยายามสงบสติอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงไปแล้วให้กลับมาเข้าที่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตั้งใจจะแก้ไขสถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนนี้ แต่ทบทวนแล้วก็ยังไม่มีความคิดดีๆ เลย

    เธอไม่รู้จะมองหน้าอเล็กซ์ได้ยังไง หญิงสาวจึงคิดจะแกล้งหลับต่อไป หวังว่าอเล็กซ์จะกลับไปที่ห้องของตัวเอง แล้วเธอก็จะรีบเผ่นหนีไปก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว อเล็กซ์รู้แค่ว่าเธอชื่อ “น้ำค้าง” และข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้สำหลักสำคัญอะไร เธอจะหายไปจากชีวิตเขาตลอดกาล... อีกอย่างเธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้ชอบเธอ ดังนั้นเรื่องวันไนต์แสตนด์นี่ เขาคงไม่ใส่ใจแน่ แต่ตัวเธอคงจะทำเป็นเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ แล้วเดินทางร่วมกับเขาต่อไม่ไหว ได้แต่ลากันตรงนี้

    พอกำหนดแผนการได้ น้ำค้างก็เอนตัวลงนอนตะแคงตามเดิม ซ่อนตัวไว้ใต้ผ้าห่มจนมิดชิด และหวังว่าจะไม่มีอะไรผิดไปจากที่คิด เธอปิดเปลือกตาลงไปได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็มีเสียงเรียกเข้าเป็นเพลงโปรดดังขึ้น ซึ่งมันเป็นเสียงเรียกเข้าที่เธอตั้งไว้เป็นพิเศษสำหรับเพื่อนรัก น้ำค้างเข้าใจว่า อเลนคงจะวางสายไปหากว่าเธอไม่รับสายแต่ปรากฏว่าเสียงเพลงก็ดังอยู่นั่นแหละ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียที หญิงสาวลืมตาขึ้นมาอย่างคิดไม่ตก ร้อนใจ แต่พอมองไปที่ห้องน้ำที่ยังมีเสียงน้ำจากฝักบัวลอดมาให้ได้ยินเบาๆ เธอก็คิดว่าอเล็กซ์น่าจะยังไม่ออกมาจากในห้องน้ำตอนนี้ หากเธอรีบก็น่าจะไปกดปิดโทรศัพท์ได้ หรือเลวร้ายจริงๆ ก็เผชิญหน้ากับเขาตรงๆ แต่จะให้เขารู้ไม่ได้ว่า ใครโทรมาหาเธอ

    น้ำค้างพันตัวลวกๆ ก่อนจะก้าวเร็วๆ ไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ติดกับห้องน้ำ ขณะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ไว้ ประตูห้องน้ำก็เปิดผางออกมาเสียก่อนพร้อมด้วยร่างสูงที่มีหยดน้ำเกาะพราวทั้งตัว เขายืนเปลือยกายอยู่อย่างไม่อายฟ้าดิน อวดรูปร่างและกล้ามเนื้ออันสมส่วนสวยงามราวกับรูปปั้นเทพบุตรกรีก หญิงสาวเบิกตาค้าง เรื่องเมื่อคืนเธอก็จำไม่ค่อยได้ พอมาเห็นหุ่นกำยำล่ำสันที่ปราศจากผ้าติดตัวสักชิ้นก็ทำให้เธอไปต่อไม่ถูก ยิ่งตกใจหนักที่เห็นเขาก้าวมาหาจนเผลอถอยหลังไป ปล่อยให้โทรศัพท์ในมือถูกชายหนุ่มที่ก้าวฉับๆ เข้ามาแย่งไปอย่างง่ายดาย

    “เอ๊ะ! นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” หลังจากเหมือนโดนแช่แข็งไปหลายวินาที น้ำค้างค่อยหาเสียงตัวเองพบ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

    นัยน์ตาคมกริบมองภาพที่ปรากฏบนหน้าจอที่ขึ้นเป็นรูปชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายกับตนไม่ผิดเพี้ยนเพียงแตกต่างที่ทรงผมและรอยยิ้มละไมที่ประดับอยู่บนดวงหน้าหล่อเหลานี้เท่านั้น

    เขากดรับโทรศัพท์เพื่อยืนยันเสียงจากปลายสายอีกครั้งว่าตกลงว่าใช่คนที่เขาคิดอยู่หรือไม่

    “มิตา ทำไมเพิ่งมารับโทรศัพท์เนี่ย ทำอะไรอยู่? หรือว่าอยู่กับอเล็กซ์? เป็นยังไงมั่ง พี่ชายผม เหมือนอย่างที่ผมบอกไหม? ทำไมเงียบไปล่ะ ไม่มีอะไรจะรายงานผมหน่อยเหรอ?” เพื่อนรักของเธอนั้นถามไถ่รัวเป็นชุดตามความเคยชิน

    อเล็กซ์ไม่ทนฟังต่อไป มุมปากบิดขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะที่ไม่อาจบอกได้ว่ายิ้มเยาะใคร ตัวเองที่โง่เชื่อคนง่ายเอง หรือ “คนร้าย” ที่มีหลักฐานมัดตัว

    เขาปิดเครื่องโทรศัพท์แล้ววางลงบนมือเล็กๆ ของหญิงสาวก่อนจะกล่าวว่า “ผมเพิ่งรู้ว่าคุณมีชื่อว่ามิตา ชื่อน้ำค้างนี่เป็นชื่อปลอมเอาไว้คุยกับผมโดยเฉพาะใช่ไหมเนี่ย”

    “มะ...ไม่ใช่นะ” รมิตา หรือ มิตาที่อเลนเรียกขานนั้นเอ่ยตะกุกตะกัก ที่ความลับแตกดังโพละต่อหน้าต่อตา

    “สะใจไหมที่เห็นผมเป็นแบบนี้ คุณคุยกับอเลนลับหลังผมว่ายังไงล่ะ? ว่าแต่...ได้เงินค่าจ้างมาจากอเลนเท่าไหร่กันล่ะ?” อเล็กซ์ถามเสียงเย็น แต่อารมณ์เขาไม่ได้เย็นอย่างที่เสียงเป็น มันร้อน ระอุไปทั้งตัว เหมือนกับกำลังจะระเบิดในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

    รมิตาตามอารมณ์และความคิดของชายหนุ่มไม่ทัน “เงินค่าจ้างอะไรของคุณ?”

    “อย่ามาโกหกอีกเลยน่ะ” อเล็กซ์แผดเสียงใส่ จับไหล่บอบบางของหญิงสาวไว้แล้วเขย่าแรงๆ จนหัวสั่นหัวคลอน

    “ฉันเจ็บนะ ปล่อย!” รมิตาพยายามจะแกะมือแกร่งออกแต่ไม่สามารถทำได้

    “ทำไมต้องมาโกหกผมด้วย สนุกนักใช่ไหมที่ปั่นหัวผมเล่นน่ะ” อเล็กซ์เริ่มจะเสียการควบคุมตัวเอง เขากล่าวประโยคที่แทงใจดำตัวเองออกมา

    “ฉันไม่ได้สนุกซะหน่อย” หญิงสาวตะเบ็งเสียงใส่กลับบ้าง ขณะที่เจ็บจนหน้านิ่วเพราะแรงบีบที่ไหล่ แต่เพราะผ้าที่พันตัวไว้อยู่ในสภาพที่หลุดง่ายเหลือเกิน เธอจึงทำอะไรไม่ถนัดแล้วยิ่งไม่เข้าใจด้วยว่า ทำไมจู่ๆ อเล็กซ์ถึงได้โมโหร้ายขึ้นมา

    “ไม่สนุก? ก็เห็นอยู่ว่า คุณสมคบคิดกับอเลนมาดูน้ำหน้าผม เยาะเย้ยผม ว่าแต่คุณอยากได้อะไรล่ะ? ตำแหน่งแฟนของผมหรือว่าหวังไกลจะเป็นคุณนายคอลลินส์” อเล็กซ์เลิกคิ้ว ในแววตาเขาผุดความเจ็บปวดและเสียใจขึ้นมารางๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธขึ้ง

    “คุณเป็นบ้าอะไรขึ้นมา อเลนเขาเป็นห่วงคุณนะ ถึงให้ฉันมาดูคุณไว้น่ะ ไม่มีเรื่องเยาะเย้ยอะไรเสียหน่อย แล้วเรื่องตำแหน่งอะไรนั่น ฉันไม่ได้อยากได้เสียหน่อย” หญิงสาวพยายามชี้แจง แต่อเล็กซ์ไม่ฟัง ใบหน้าของเขาขึงตึงเต็มที่ โทสะพุ่งถึงขีดสุด

    “ผมเป็นบ้าเพราะใครกัน นี่ไม่ใช่ฝีมือพวกคุณรึไง? ผมอยู่ของผมดีๆ แต่คุณก็เข้ามารังควานผม ไม่ให้ผมอยู่อย่างสงบ คุณเข้ามาทำทีเป็นสงสารเห็นใจ แต่ท้ายสุดก็แอบหัวเราะเยาะเย้ยคนโง่อย่างผม” อเล็กซ์เว้นวรรคไปชั่วครู่ก่อนจะเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา

    "แล้วนี่อย่าลืมรายงานให้อเลนฟังด้วยล่ะว่า นอนกับผมไปแล้วเมื่อคืน"

    คำพูดส่อเสียดของเขาได้ผลดีเกินคาด รมิตาโกรธจนตัวสั่น ใบหน้าเห่อร้อนด้วยความอับอายแล้วเธอก็ตวัดฝ่ามือตบหน้าคร้ามเข้มนั้นที

    เผียะ!

    ชายหนุ่มหน้าหันไปตามแรงตบเพราะไม่ทันตั้งตัว

    "หน้าตัวเมีย" รมิตากล่าวประณามซ้ำ

    "ฉันไม่แปลกใจเลย ทำไมอเลนถึงได้แต่งงานกับเหมือนไหม ก็เพราะคุณมันเลวแบบนี้ไงล่ะ ผู้หญิงเขาถึงไม่เลือก" รมิตาตะโกนใส่หน้า ตอกความเจ็บปวดที่เหมือนกับลิ่มซึ่งยังคงค้างคาอยู่ในหัวใจของอเล็กซ์ให้จมลึกลงไปกว่าเดิม นัยน์ตาสีฟ้ากร้าวกระด้างหันกลับมาจ้องผู้หญิงสารเลวที่กล้าทำร้ายเขาและอ้างตัวเป็นคนดีต่อไป

    อเล็กซ์ยอมรับไม่ได้ เขาน่ะหรือที่เลว? ใครกันแน่ที่เลว? อเลนแย่งชิงเหมือนไหมไปจากเขาด้วยความคิดชั่วๆ จนเธอต้องยอมแต่งงานด้วย ส่วนเธอรับเงินจากอเลนเข้ามาปั่นป่วนชีวิตของเขา...

    ชายหนุ่มมีความรู้สึกอยากจะทุบทำลายโลกเน่าๆ ใบนี้ทิ้ง ทั้งตัวร้อนระอุด้วยเพลิงโทสะดั่งไฟบรรลัยกันต์ และอยากจะเผาผู้หญิงตรงหน้าให้เป็นจุณ อยากจะมอบบทลงทัณฑ์แสนโหดเหี้ยมให้เธอรู้ว่าอย่าได้มาตอแยเขาอีก

    “ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเลวแบบนี้” รมิตาพึมพำออกมายามมองอเล็กซ์ด้วยความเจ็บปวด ตั้งแต่ได้รู้จักเขา แม้จะเป็นเวลาไม่กี่วัน แต่หญิงสาวก็เชื่อมาเสมอว่าอเล็กซ์กับอเลนต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกัน อเล็กซ์ไม่น่าจะทำอย่างที่อเลนว่ามา แต่การที่เขาพูดจาหยาบคายใส่เธอเมื่อกี้ก็ทำให้ต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่ ในขณะที่อเล็กซ์นั้นรับไม่ได้กับคำพูดของอีกฝ่าย

    เลว? เธอมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าเขาเลว ในเมื่อตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ

    ได้! ในเมื่อประณามเขานัก เขาก็ยินดีจะเป็นคนแบบนั้นให้สมกับคำว่า 'เลว' ที่ได้รับมา

    มือหน้าดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ก่อนที่ริมฝีปากบางจะบดขยี้เรียวปากอิ่มนั้นอย่างดุดัน ไม่ปรานีปราศรัย รมิตาดิ้นรนอยากจะหนีไปแต่ท้ายทอยของเธอถูกตรึงเอาไว้ให้รับจุมพิตโหดร้ายจากชายที่ตัดสินใจจะเป็นซาตานไปในที่สุด

    เหมือนสัตว์ร้ายหิวโหยที่หลุดจากกรงขัง พลันพบสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ไร้ทางสู้ กรงเล็บของมันตะปบเข้าที่ร่างของเหยื่ออย่างไม่รั้งรอ มอบความทารุณโหดร้ายให้ “เหยื่อ” ที่น่าสงสาร

    รมิตากัดริมฝีปากที่รุกรานเข้ามา แต่ยิ่งเหมือนเพิ่มความโกรธให้กับอเล็กซ์ มือหนาที่เกาะกุมเธอนั้นบีบแน่นขึ้นจนหญิงสาวเจ็บ ร่างกายคล้ายถูกรัดรึงไปด้วยโซ่เหล็กที่ไม่สามารถดิ้นหลุดได้ หญิงสาวตกเป็นนักโทษไปโดยปริยาย ร่างบอบบางที่ปราศจากผ้าพันกายถูกโยนลงบนเตียงก่อนที่ร่างสูงซึ่งเปลือยเปล่าไม่ต่างกันจะตามลงมาทาบทับ เพื่อมอบบทเรียนให้เธอรู้ว่า คนเลวที่แท้จริงเป็นอย่างไร!

    “น้ำค้าง หลังจากนี้คุณจะด่าผมยังไงก็เชิญได้เลย” เสียงกระซิบแหบพร่าของปีศาจร้ายดังอยู่ชิดริมหู ส่งผลให้ร่างบางนั้นหนาวเยือกไปทั้งใจ

    ผิวเนื้อนุ่มอุ่นเสียดสีกับผิวเย็นสบายก่อให้เกิดสัมผัสรัญจวนใจ หยดน้ำบางส่วนที่ยังเกาะติดกลิ้งหล่นไปบนลำตัวของหญิงสาว รมิตารู้ว่าต้องต่อต้าน แต่ร่างกายของเธอกลับทรยศ เพียงแค่อเล็กซ์แตะไปตรงไหน ก็เสมือนนำพาไฟร้อนมาให้ รมิตาที่เหมือนขี้ผึ้งก็ละลาย ไร้เรี่ยวแรงจนไม่อาจจะต่อต้านอำนาจของเขา ได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มกระทำตามอำเภอใจ ส่วนเธอก็ถูกกระแสเชี่ยวกรากแห่งแรงปรารถนาพัดพาไป

    น้ำหยดหนึ่งไหลลงจากขอบตาลงมาเปื้อนหมอน

    นั่นเป็นความเจ็บปวดของใครกัน?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×