ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic JackFrost x Elsa] Warming winter

    ลำดับตอนที่ #9 : 9th Hour : By Your Side

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 57


    คนเคยคุ้นเคยย่างสามขุมเข้ามาในร้านโอเค่นผ่านหน้าเอลซ่าไปโดยไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย ลูกไฟดวงโตเข้าสุมหัวใจเอลซ่า เสียงกระซิบจากที่ไหนสักแห่งเฝ้ากระซิบเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่ชายคนนั้นเข้ามาว่าเขานี่แหละคนร้าย เธอเชื่อเสียงกระซิบปริศนาจึงปรี่เข้าไปหมายคาดคั้นความจริงจากชายคนนั้น

    “ฮานส์!! นายใช่ไหมที่เป็นคนก่อเรื่อง? นายใช่ไหมที่เป็นคนทำร้ายอันนา!!”เอลซ่าตวาดใส่เสียงดังลั่นร้าน

    “ใจเย็น ๆ องค์ราชินี กรุณาอย่ามาวิวาทกันในร้านของข้าเลย”ด้วยความเกรงใจในพระเกียรติ พระยศของราชินีแห่งเอเรนเดลล์ โอเค่นจึงทำได้เพียงห้ามไม่ได้ใช้กำลัง

    “ใช่เอลซ่า ใจเย็น ๆ หน่อยสิ”แจ็คพยายามเอาน้ำแข็งเข้าลูบแต่เอลซ่าไม่สนใจ เธอสนใจเพียงผู้ชายตรงหน้าและความจริงที่เขากำลังจะสารภาพเท่านั้น

    “ไม่ยง ไม่เย็นมันแล้ว!! สารภาพมาซะว่านายเป็นคนทำก่อนที่ฉันจะสาปให้นายเป็นเรซินน้ำแข็งกลางร้าน!!”เอลซ่าตะคอกเสียงดัง ฮานส์โบกมือขอโอกาสแก้ตัวที่ไม่มีมาตั้งแต่ต้น

    ปลายน้ำแข็งแหลมพุ่งจ่อคอหอยของฮานส์ เขามีอาการหวาดกลัว เอลซ่าเพิ่มดีกรีความน่ากลัวในทวีคูณโดยการค่อย ๆ เคลื่อนหนามน้ำแข็งช้า ๆ ดูปฏิกิริยาคนโดนจู่โจมตัวสั่นติดกำแพง

    “เดี๋ยวสิเอลซ่า ข้าไม่ได้ทำร้ายอันนา ข้าเพิ่งถูกเนรเทศมาจากอาณาจักรทางทะเลใต้ จะเอาเวลาที่ไหนมาทำร้ายน้องสาวท่าน”ฮานส์พยายามแก้ตัวจนวินาทีสุดท้าย แจ็คและโอเค่นได้แต่มองไม่สามารถจะห้ามได้

    “เลิกทำตัวตอแหลเสียทีฉันสุดจะทนแล้ว ความเก่าที่นายหลอกน้องสาวฉัน ฉันยังไม่ได้ชำระเลยนะ ขอทบบัญชีรวดเดียวเลยแล้วกัน!!”เอลซ่าหมายจะปลิดชีวิตฮานส์เสียตรงนี้ แต่แจ็คดึงมือเอลซ่ากลับมาได้ทันก่อนที่เธอจะลงมือฆ่าคน ๆ หนึ่งอย่างเลือดเย็น

    “มีสติหน่อยเอลซ่า เรื่องเก่าให้มันแล้วกันไป ส่วนเรื่องใหม่เจ้ายังไม่มีหลักฐานอะไร เจ้าได้แต่กล่าวหาเขาอยู่ฝ่ายเดียวมันยุติธรรมเสียที่ไหน?”เอลซ่าคิดทบทวนเรื่องราวไปมา อันที่จริงแล้วเบาะแสเดียวที่เธอมีคือรอยเท้าของรองเท้าบู้ทชั้นเลิศที่มุ่งหน้ามายังร้านโอเค่น ซึ่งนั่นอาจจะไม่ใช่ของฮานส์ก็ได้

    “คิดดี ๆ นะเอลซ่า ตอนนี้ชายคนนี้แต่งตัวซอมซ่อเหมือนคนจรจัดไม่มีคราบเจ้าชายแห่งเกาะทางทะเลใต้สักนิด... นั่นไง รองเท้าที่เขาใส่มันบู้ทเก่าถลอกปอกเปิกเก่าไม่รู้จะเก่ายังไง เขาอาจไม่ใช่คนที่ทำร้ายน้องสาวเจ้าก็ได้”เอลซ่าตรองนานหลายนาที ก่อนตัดสินใจลดหนามน้ำแข็งลงจนมันหายไปไร้ร่องรอย ฮานส์นั่งหน้าซีดกอดตัวเองอย่างเสียขวัญ เอลซ่ามองดูเขาด้วยความสมเพชปนเวทนา

    “ฉันหมดธุระที่นี่แล้ว ขอโทษนะโอเค่นที่มาทำอะไรแบบนี้ในร้านของคุณ”เธอเอ่ยขอโทษเจ้าของร้านอย่างสุภาพ โอเค่นไม่ถือโทษโกรธเธอเขายิ้มให้ก่อนจะเข้ามาประคองฮานส์

    “แล้วก็นาย อดีตเจ้าชายฮานส์ แห่งเกาะทะเลใต้ อย่าให้ฉันรู้ว่าครั้งนี้นายตอแหลเอาตัวรอด เพราะถ้าฉันรู้ล่ะก็หัวนายหลุดจากบ่าแน่!!”เอลซ่ากระแทกส้นเดินออกจากร้านไป แจ็คตามเธอมาติด ๆ อยากพูดคุยกับเธอใจจะขาด แต่เวลานี้คงไม่เหมาะนัก

     

    ทั้งคู่เดินเท้ามาเรื่อย ๆ จนถึงปราสาท แม้จะเดินเท้าแต่ก็ใช้เวลาเพียง10นาทีเท่านั้นเพราะเอลซ่าใช้พลังน้ำแข็งสร้างถนนน้ำแข็งลื่น ๆ แล้วสเก็ตมาตามทางจนถึงปราสาท เธอตรงไปที่ห้องของอันนาเพื่อดูอาการของน้องสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ

    “อันนาเป็นอย่างไรบ้าง?”เธอเอ่ยถามเขาเป็นประโยคแรกหลังจากเข้ามาในห้อง

    “ยังไม่ฟื้นพะย่ะค่ะ แล้วก็... ที่ศีรษะมีเลือดออกด้วย”เอลซ่าตาโตเป็นไข่ห่านเมื่อเห็นว่าน้องสาวมีเลือดไหลทั้งที่ตอนแรกนั้นไม่มีแม้กระทั่งบาดแผล

    “เป็นไปไม่ได้แน่ ก็ตอนแรกมัน...”

    “คิดได้อย่างเดียวพะย่ะค่ะว่าองค์หญิงถูกลอบทำร้าย...”เอลซ่านิ่งไม่ไหวติงเป็นก้อนหิน เธอรู้สึกคิดผิดขึ้นมาที่ไม่ได้ปลิดชีวิตชายที่เจอในร้านขายของ แต่เมื่อคิดดูอีกทีเธอก็ไม่มีหลักฐานอะไรจะเอาผิดเขาอยู่ดี

    แจ็คแตะบ่าเอลซ่าเบา ๆ เขารู้ดีว่าตอนนี้เธอเสียขวัญแค่ไหนกับการได้ยินข่าวใหม่ที่ทำให้อะไร ๆ ดูเลวร้ายไปกว่าเดิม 8ชั่วโมงที่อยู่ด้วยกันนี้เธอคือคนสำคัญ คนที่เขาใส่ใจมากยิ่งกว่าใคร และเวลานี้เขาควรที่จะอยู่เคียงข้างเธอ

    “ออกไป...”

    “กระหม่อม? ออกไป??”คริสตอฟชี้ที่ตัวเขาเอง เอลซ่าพยักหน้าตอบรับ คนขายน้ำแข็งเดินคอตกออกจากห้องไปทิ้งให้เทพน้ำแข็ง ราชินีหิมะ และเจ้าหญิงผู้เคราะห์ร้ายอยู่ด้วยกัน

    “ออกไป...”

     

    “ฉันบอกให้ออกไป!!

     

    แจ็ครู้ตัวดีว่าครั้งนี้เอลซ่าไล่เขาด้วย เขาโกรธเธอไม่ลงเพราะเข้าใจดีว่าเธอรู้สึกอย่างไร เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา และถ้าให้เดาเธอคงกำลังจะร้องไห้แน่ ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ถึงขนาดต้องไล่เขาออกจากห้องหรอก

    “ต้องการไหล่ข้าเมื่อไหร่ก็เรียกนะ...”เทพแห่งความหนาวปล่อยมือจากเธอและเดินทะลุประตูห้องออกไป

    เอลซ่าปล่อยโฮออกมาชุดใหญ่ เธอทรุดลงข้าง ๆ เตียงของอันนา หยดน้ำใสไหลรินออกมาไม่ขาดสาย เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เข้มแข็งอย่างที่ใครคิด เธอเปราะบาง เธออ่อนแอ เพียงแต่สิ่งเหล่านั้นถูกฉาบทาปิดทับไว้ด้วยความเย็นชา และความแข็งกระด้าง และเมื่อสิ่งเกราะกำบังภายนอกพังทลายลงก็เหลือเพียงเนื้อแท้ภายในที่อ่อนไหวไม่ได้ต่างจากผู้หญิงคนไหนเลย

    “ตื่นสิอันนา... อย่าทิ้งพี่ไปนะ... ถ้าเธอตื่นขึ้นมาคราวนี้จะให้พี่เล่นอะไรกับเธอก็ได้ทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาหิมะหรือสเก็ตนะ จะขี่รถ วาดรูป วิ่งเล่นรอบวัง อะไรก็ได้...”

     

     

    “ตื่นมาหาพี่เถอะนะอันนา...”

     

     

    เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังก้องไปทั่วห้อง ผู้เป็นน้องสาวไม่อาจได้ยินอะไรทั้งสิ้น เธอยังคงหลับใหลเป็นเจ้าหญิงนิทราที่รอการฟื้นคืนสติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โอกาสแม้มีเพียง0.01%แต่เอลซ่าก็ยังหวัง เธอยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้อันนาฟื้น แม้กระทั่งชีวิตของเธอ

    ความเศร้าโศกนั้นทำให้เธอไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรลงไป น้ำแข็งเย็นปกคลุมไปทั่วห้อง และยิ่งเธอร้องไห้เท่าไหร่มันก็ยิ่งหนาขึ้นเท่านั้น สองหนุ่มสัมผัสได้ถึงไอเย็นภายใน แจ็คไม่รอช้าเขาทะลุไปหาเอลซ่า ทิ้งให้คริสตอฟกระแทกประตูเสียงดังเหมือคนบ้า

    “เอลซ่าเจ้าทำอะไรน่ะ?”

    “อย่ามายุ่งกับฉัน ปล่อยฉันอยู่คนเดียว...”เธอยังไม่รู้ตัว...

    “เอลซ่ามองรอบ ๆ สิเจ้ากำลังจะแช่แข็งห้องนี้นะ”แจ็คทำน้ำเสียงตื่นตระหนกเรียกความสนใจจากเอลซ่า แต่ไม่ได้ผล

    “แค่มันไม่แช่แข็งอันนาก็พอแล้วล่ะ...”

    “ปัดโธ่เอลซ่า!! เจ้าไม่คิดหรือว่าถ้าน้ำแข็งมันลามขึ้นเตียงมาได้เมื่อไหร่ น้องสาวเจ้านี่แหละจะโดนแช่แข็งเป็นอย่างสุดท้าย”คำพูดเตือนสติจากแจ็คฟรอสทำให้เอลซ่าปาดน้ำตาและละลายน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว คริสตอฟที่ออกแรงพลังประตูเหมือนคนบ้าจึงกระเด็นเข้ามาให้ห้องเต็มแรง

    “อ๊ะ ขอโทษนะที่ฉันทำให้นายเจ็บตัว”เอลซ่าเอ่ยขอโทษชายขายน้ำแข็ง

    “ไม่เป็นไรองค์ราชินี”เขาลูบศีรษะที่ปูดโนของตัวเองเบา ๆ

    “เฮ้!! คริสตอฟ คว้าก้นฉันไว้ที”โอลาฟที่กระเด็นเข้ามาด้วยตัวแยกเป็นส่วน ๆ มันพยายามจะคว้าท่อนล่างของตัวเองเอาไว้แต่ไม่สำเร็จ คริสตอฟจึงต้องทำให้มันอย่างเสียไม่ได้

    “จะว่าอะไรไหมองค์ราชินีถ้าข้าจะบอกให้ท่านไปพักผ่อนที่ห้องก่อน”เขาพูดถูก เธอเหนื่อยมาทั้งวัน ไหนจะซึมเศร้าเรื่องน้องสาวอีก เป็นวันที่หนักอีกวันหนึ่งเลยทีเดียว

    “ขอบใจนะคริสตอฟ”เธอไม่อยากจะคุยกับใครเท่าไหร่นักในตอนนี้แม้กระทั่งแจ็ค เธอสาวเท้ายาวเข้าไปในห้องของเธอก่อนล้มตัวลงบนเตียง พยายามข่มตานอนอย่างทรมาน

    เธอไม่สามารถตัดความกังวลใด ๆ ออกจากหัวได้ สิ่งสุดท้ายที่เธอคิดจะทำคือไปแช่น้ำอุ่น ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง ห้องน้ำถูกปิดมิดชิดน้ำอุ่น ๆ ค่อย ๆ ไหลออกจากก๊อก เธอปลดอาภรณ์ทีละชิ้นก่อนลงไปแช่ในอ่างน้ำทั้งตัว

    น้ำอุ่นทำให้ร่างกายผ่อนคลายและจิตใจสงบ แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ ใจของเอลซ่าไม่ได้สงบเหมือนผิวน้ำในอ่างแม้แต่น้อย หัวของเธอคิดวกวนเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องน้องสาวของเธอ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม

    “เอลซ่า เจ้าอยู่ในนี้หรือ...”

    “กรี๊ด!!

    “เฮ้ ๆ อย่าเอาน้ำร้อนมาสาดข้าสิ ตอนนี้เจ้ามองเห็นข้า น้ำนี่มันก็โดนข้าจริง ๆ นะเนี่ย”แจ็คตัวเปียกโชกไปหมด เอลซ่ามุดน้ำพยายามใช้ฟองบังร่างไม่ให้ชายหนุ่มเห็น เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ก๋ากั่นพอจะต้อนรับขับสู้กับผู้ชายที่เดินดุ่ม ๆ เข้ามาในห้องน้ำ

    “ใครใช้ให้คุณเข้ามากัน ฉันตกใจนะรู้ไหม”

    “ฮ่า ๆ ไหน ๆ ก็เปียกแล้วขออาบด้วยแล้วกันนะ”

    “กรี๊ด!! ออกป๊ายยยยย!! ก่อนตายแม่คุณไม่สอนเรื่องมารยาทอันพึงปฏิบัติต่อสตรีเพศหรือ?”เอลซ่าร้องเสียงแหวผลักไม่ให้แจ็คลงมาในอ่างเดียวกับเธอ

    “ก็สอนนะ แต่ตอนนี้มันไม่ค่อยอยากจะทำตามแค่นั้นเอง”แจ็คถอดเสื้อฮู้ดออกเผยให้เห็นผิวที่ขาวราวกับหิมะของเขา แม้จะไม่ได้มีกล้ามท้องมากมายแต่ก็ดูเป็นผู้ชายดี ไหล่ก็กว้างน่า... ซบ?

    “เอาเถอะ คุณใช้อ่างนี้แล้วกัน อย่ามาใช้อ่างเดียวกับฉันเลย”เอลซ่าเนรมิตอ่างอาบน้ำที่ทำจากน้ำแข็งพร้อมเทน้ำอุ่นใส่ลงไปในอ่างด้วย

    “ขอบใจนะ”แจ็คกระโดดลงไปในอ่าง ใช้พลังของเขาเคลื่อนอ่างน้ำแข็งเข้าไปชิดกับเอลซ่า เธอยังดำผุด ดำว่ายอยู่ในอ่างน้ำเพราะอายที่มีผู้ชายมาอาบน้ำด้วยกัน ถึงจะคนละอ่าง

    “คิดยังไงอาบน้ำแจ็ค?”

    “ไม่รู้สิ เพราะมีคนอาบด้วยมั้ง”

    “บ้า”

    “บ้าก็รักนะ”ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถพัฒนาความรักมาได้ขนาดนี้ แจ็คฟรอสผู้รักสนุกและซุกซนไม่เคยเลยที่ต้องมาพูดมุกชวนอ้วกเลี่ยน ๆ แบบนี้

    “เคยพูดกับทูธมาก่อนหรือ?”เอลซ่ายังคงเย็นชา มุกเลี่ยน ๆ ถูกแช่แข็งและโยนทิ้งลงท่อน้ำทิ้งอย่างที่ควรจะเป็น

    “เปล่า เจ้าเป็นคนแรก”

    “โอ้... เป็นเกียรติจังเลย มีเทพแห่งความหนาวมาสารภาพรัก ฮะ ๆ ๆ”เธอหัวเราะร่วน ความสนุกสนานยามได้อยู่กับแจ็คเป็นสิ่งที่ทำให้เธอลืมเรื่องเศร้าหมองไปได้ทั้งหมดโดยไม่รู้ตัว

    “บอกมาคืนนี้อยากได้กี่ครั้ง?”ฉันจะบอกรักเธอ...

    “อะไรกี่ครั้ง?”เธอดันเข้าใจผิด ไปคิดเรื่องใต้สะดือขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    “คำบอกรักไง ทะลึ่งนะเจ้าน่ะ คิดไปไหนกันล่ะ?”แจ็คปั้นสีหน้าเจ้าเล่ห์กระแซะหญิงสาวข้าง ๆ

    “ไม่รู้... ก็คุณไม่บอกฉันก่อนนี่”

    “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดลึก แต่ถ้าเจ้าอยากได้เดี๋ยวคืนนี้ข้าจัดให้ได้นะ”เอลซ่าสาดน้ำอุ่นพร้อมฟองฟูฟ่องเต็มหน้าแจ็ค เธอกดหัวเขาลงถ่วงเวลาให้ตัวเองห่อตัวด้วยผ้าขนหนูเสร็จพอดี

    “เชิญแช่น้ำ ขัดดาบตามใจชอบเลย”นับถอยหลังสู่การก้าวข้ามเรทPG

    “ใจร้ายจังเอลซ่า เจ้าคิดจะทิ้งข้าไว้ในห้องน้ำคนเดียวหรือ...”แจ็คสวมกอดเธอจากด้านหลัง เสียงกระซิบแผ่วเบาทำเอาเธอขนลุกชันไปทั้งตัว แจ็คใส่แค่กางเกงท่อนล่าง ส่วนข้างบนเปล่าเปลือย ยิ่งคิดยิ่งน่ากลัว

    “ออกไปนะแจ็ค ฉันมีผ้าขนหนูผืนเดียวเกรงใจฉันบ้าง”เธอซ่าก้มหน้าก้มตามองพื้น แจ็คซุกหน้าเข้ากับเรือนผมสีบลอนด์แพลตตินัมยาวสลวยที่ถูกปล่อยยาวยามอาบน้ำ มันทั้งนุ่มและหอม หอมเสียยิ่งกว่ามวลผกาดอกใด ๆ ที่แจ็คเคยได้ดอมดม

    “แปปเดียวนะเอลซ่า ข้าอยากอยู่แบบนี้ต่อไปซักพัก”เอลซ่าเริ่มเห็นใจเขาบ้าง เธอยืนนิ่งให้เขากอดอยู่อย่างนั้น คิดดี ๆ แล้วเขาอาจเป็นเด็กขาดความอบอุ่นก็ได้ถึงได้มาเรียกร้องเอาจากเธอแบบนี้

    “ต้องการอะไรแจ็ค?”เธอตัดสินใจถามตรง ๆ

    “ข้าเห็นเจ้าเศร้าแต่ทำอะไรไม่ได้ ข้าทำให้เจ้าได้เท่านี้...”

    “ข้าไม่รู้นะเอลซ่าว่าในเวลาแบบนี้ควรจะทำอย่างไร ข้ารู้เพียงข้าต้องอยู่เคียงข้างเจ้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วข้าเคยได้ยินว่าการกอดมีพลังที่สามารถทำให้คลายความเศร้าได้ด้วยนะ”เป็นทฤษฎีที่ได้ผล ผ่านการยืนยันโดยจิตแพทย์

    “แล้วคุณก็อยากกอดฉันเองด้วยใช่ไหม?”

    “ใช่... เอ้ย! เปล่านะ ข้าแค่อยากกอดปลอบ...”ช้าไปแล้วแจ็คฟรอส...

    “ที่แท้คุณมันก็ผู้ชายทั่วไปนี่เองแจ็ค ไม่ได้ต่างอะไรเลย!!”เอลซ่าระเบิดพลังน้ำแข็งใส่เท้าเขาด้วยความโมโห เธออยากจะสั่งสอนผู้ชายแบบนี้มานานแล้วจะได้รู้จักให้เกียรติผู้หญิงเสียบ้าง

    “โอ้ย!! เจ็บนะ... อย่างโดนตรงนั้น!!”แจ็คผู้น่าสงสารถูกพลังน้ำแข็งเกาะเต็มกางเกง ตอนนี้กางเกงเขาแข็งเป็นน้ำแข็ง เย็นยะเยือกไปถึงข้างใน

    “ฉันเห็นแก่ว่าคุณทำให้ฉันสบายใจนะเลยทำแค่นี้ ถ้ามีคราวหน้าฉันจะเอาให้ร่างคุณสลายเลยคอยดู!!”เอลซ่ากระแทกประตูออกจากห้องน้ำไป แจ็คไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไหนสวย เผ็ด ดุขนาดนี้มาก่อน นับเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตหลายร้อยปี

    “ผู้หญิงแบบนี้สิ อยู่ด้วยแล้วถึงจะสนุก”

    คนจะรักกันไม่ใช่เพียงมีใจให้กันแล้วจึงจะรอด ต้องมีให้ทั้งเวลา ความสุข และสบายใจ คนที่ทิ้งกันไปในยามที่อีกฝ่ายมีปัญหานั้นจัดว่าใช้ไม่ได้ ขอให้รีบสะบัดทิ้งก่อนที่จะเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ส่วนคนที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็คอยอยู่เคียงข้างไม่ทิ้งไปไหนและเข้าใจในทุกเรื่องก็ขอให้รักษาไว้ แม้จะมีทะลึ่งไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์พึงมี มีมนุษย์คนไหนบ้างล่ะที่ไม่หื่น?

     
    **************************************************

     

     

    Free Talk :

    อ้ากกกกกก!! ดองนานเหมือนกันนะคะเนี่ย แต่ช่วงนี้รู้สึกตัวเองจิตตกจังเลยค่ะ อยากเขียนต่อติด ๆ กันแต่ก็ทำไม่ได้ โดนโรคซึมเศร้าจู่โจมซะแล้วล่ะค่ะ หลังจากนี้อาจจะหนีไปสวดมนต์ หรือทำอะไรซักอย่างให้ตัวเองหายนะคะ อาจจะไม่หายดีแต่จะพยายามไม่ให้มากระทบกับฟิคแน่นอนค่ะ(ให้คนอกหักมาเขียนฟิครักหวานแหววมันลำบากนะคะ!!)

    อันที่จริงปวดท้องหายตั้งแต่3วันแรกแล้วล่ะค่ะ แต่ที่หายไปนานเพราะไปตระเวนหางานทำ เดี๋ยวไม่มีเงินจ่ายค่านู้น ค่านี่จะลำบากเอา(แล้วใครใช้ให้ลาออกจากงานเก่า?) เอาเป็นว่าอุปสรรคของไรต์เยอะมาก แต่จะไม่เลิกฟินคู่นี้ง่าย ๆ ค่ะ หนทางยาวไกลต้องเดินต่อไป ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×