ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic JackFrost x Elsa] Warming winter

    ลำดับตอนที่ #7 : 7th Hour : When will the love begin?

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 57


    ในวังทันตของทูธหรือนางฟ้าฟันดูยุ่งตลอด24ชั่วโมง เธอไม่เหมือนบันนี่หรือนอร์ทที่ทำงานปีละครั้ง เธอทำงานทุกวันไม่หยุดพัก ยังโชคดีที่มีนางฟ้าฟันตัวน้อยคอยช่วยเธออยู่ และตอนนี้เธอก็กำลังยุ่งกับการบินไปรอบ ๆ วังเพื่อสำรวจ ตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน

    “ซานติเอโก้ไปหรือยัง? ตอนเหนือของออสเตรเลียด้วย โอ้!! แล้วก็อย่าลืมรัฐมิชิแกนนะจ๊ะเด็ก ๆ”เธอสั่งงานเพื่อนตัวน้อยที่น่ารักของเธอ ทูธไม่ได้มีหน้าที่ลงภาคสนาม เธอทำแค่คอยตรวจตราความเรียบร้อยและสั่งงานให้เด็ก ๆ ของเธอ

    ~

    “สวัสดีแซนดี้ ทำงานเสร็จแล้วหรือ?”ทูธทักทายผู้มาเยือนแสนน่ารักอย่างแซนดี้หรือมนุษย์ทรายที่มักแวะมาหาเธอเสมอในยามว่าง

    “มีอะไรหรือ? เหมือนเธอมีอะไรจะบอกฉันนะ”ทูธถาม

    ::❤❤.εїз

    “แจ็คจะพาแฟนมาหาฉันที่รังหรือ? ไปเอาข่าวมาจากไหน?”

    “นอร์ทหรือ? แล้วนายมาที่นี่ทำไมล่ะ? ไม่ต้องไปวาดฝันให้เด็ก ๆ แล้วหรือ?”ทูธนึกแปลกใจตั้งแต่เรื่องแฟนของแจ็ค จนไปถึงเรื่องที่นอร์ทรู้ล่วงหน้า หรือว่าสังหรณ์อยู่ในพุง?

    ::❤❤

    “อ๋อ อยากเห็นแฟนแจ็คสินะ งั้นข้าก็จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้านี่แหละแซนดี้ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเทพธิดาองค์ไหนหนอจะกุมหัวใจแจ็คฟรอสผู้รักสนุกคนนี้ได้”แซนดี้พยักหน้าเห็นด้วย ทูธหันไปสั่งนางฟ้าน้อยเรื่องเก็บฟันต่อ แต่ในหัวของเธอคิดแต่เรื่องแฟนของแจ็ค และแฟนของแจ็ค อยากรู้จริง ๆ นะเนี่ย

    แซนดี้ลอยไปรอบ ๆ วังทันต เขาเล่นกับนางฟ้าน้อยอย่างสนุกสนาน ทูธและแซนดี้มีความเหมือนตรงที่ว่าทำงานทุกวัน ต่างกันแค่แซนดี้ไม่มีผู้ช่วย เทพตัวน้อยแต่มีพลังมหาศาลสามารถทำงานตัวคนเดียวได้เพราะความฝันของเด็ก ๆ คือสิ่งที่ทรงพลังที่สุด

    ขณะนั้นเองแจ็คและเอลซ่าก็ได้ลอยข้ามน้ำ ข้ามทะเล ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมาเรื่อย ๆ จนสามารถเห็นวังทันตได้เลือนราง

    “จะถึงหรือยังแจ็ค ข้าเกร็งจนไม่รู้จะเกร็งยังไงแล้วนะ”เอลซ่าเริ่มบ่น ถึงแม้อ้อมแขนของแจ็คจะอบอุ่มเพียงใด แต่อยู่นาน ๆ มันก็ต้องมีเมื่อยบ้าง

    “ใกล้แล้วเกร็งต่อไปอีกนิดนะ”

    “คุณอุ้มฉันแบบนี้ไม่หนักหรือ?”เอลซ่าถามด้วยความเป็นห่วง แม้ตัวเธอจะหนักไม่มาก แต่ชุดเดรสน้ำแข็งก็หนักมากเลยนะ

    “ตัวเจ้าออกจะเบา อีกอย่างข้าเป็นผู้ชายแรงเยอะพอ ๆ กับเยติเชียวนะ”ก็ดูเหมือนจะเท่ แต่เอลซ่ากลับหลุดขำออกมาพรืดใหญ่

    “เท่มากเลยแจ็ค แรงเยอะ หน้าขน ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์”เมื่อได้จินตนาการไปด้วยคุณจะมองแจ็คฟรอสไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นับวันเขายิ่งดูไม่เหมือนคน

     

     

    แน่ล่ะเขาตายแล้ว...

     

     

    “ปากดีจริง ๆ เลยนะ เก็บกดมากเลยหรือไง?”

    “อ่าหะ คุณบอกเองว่าชอบผู้หญิงปากจัด ฉันก็จัดให้คุณแล้วนี่ไง”เดี๋ยวสิ นี่เธอพูดอะไรออกไป?

    “เจ้าได้ยินที่ข้าพูดด้วยหรือ?”แจ็คดูจะไม่แปลกใจเท่าไหร่กับการที่เอลซ่าได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ตรงกันข้ามเขาอยากให้เธอได้ยินเหมือนกัน

    “ฉันไม่ได้หูหนวกนะแจ็ค”แจ็คพาเอลซ่าลอยมาเรื่อย ๆ จนถึงวังทันต เขาปล่อยเธอลงสัมผัสพื้นและทันใดนั้นด้วยความที่ขดตัวงอในอ้อมแขนนานไปหน่อยจึงทำให้เอลซ่าออกอาการเซเล็กน้อย

    “ว้าย!!

    “เป็นอะไรหรือเปล่า?”แจ็คปรี่เข้ามาประคองเธอ เอลซ่าโอบไหล่เขาเอาไว้ สายตาทั้งสองประสานกัน เวลาค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆ ประหนึ่งเป็นใจให้ทั้งคู่ได้สื่อสารกันผ่านทางสายตา

    “เอ่อ... แจ็ค... ให้ฉันเกร็งขานานแบบนี้ฉันกลัวขาฉันจะกล้ามขึ้นน่ะ ปล่อยได้ไหม?”ความโรแมนติกถูกแช่แข็งแล้วโยนทิ้งลงไปในหุบเหวลึก ซึ่งแต่ไหนแต่ไรรักหวานแหววก็ไม่ได้หมายความว่าจะโรแมนติก

    “โทษที... ถ้าข้าบอกว่าชอบผู้หญิงมีกล้ามขาเจ้าจะยอมทำท่านั้นอีกไหม”แจ็คประคองตัวเธอให้ยืนขึ้นก่อนกระเซ้าในสิ่งไม่พึงประสงค์ของผู้หญิง

    “ไม่ล่ะ ฉันยอมโดนคุณเกลียดดีกว่ามีกล้ามขา”แจ็คไม่ใช่ผู้หญิง แต่เขาก็ฉลาดพอจะรู้ว่าเรื่องรูปร่างไม่ใช่เรื่องที่ควรจะล้อเล่น

    “ฮะ ๆ ๆ จะเข้าไปได้หรือยังล่ะ เดี๋ยวค่ำมืดก่อนนะ”แจ็คเตือนหลังจากรู้ตัวว่าเขาและเธอได้เที่ยวมานานกว่า3ชั่วโมงแล้ว และสิ่งที่ต้องไม่ลืมเลยคือขนาดนี้หน้าหนาว ตะวันอ้อมข้าวดังนั้นจะมืดเร็วกว่าปกติเป็นเท่าตัว

    เอลซ่าเคาะประตู3ครั้งตามมารยาทก่อนเปิดเข้าไปช้า ๆ วังทันตที่อยู่ของทูธนั้นสวยงามราวกับสิ่งก่อสร้างในเทพนิยายหลาย ๆ เรื่องที่เธอเคยอ่าน  ที่นี่ไม่มีเยติตัวยักษ์มาคอยปั้นหน้าบึ้งตึงต้อนรับเธอ จะเรียกให้ถูกคือไม่มีคนต้อนรับเสียมากกว่า

    “อ้าวดูสิใครมา แจ็คกับ... เอ่อนี่แฟนเธอใช่ไหมแจ็ค?”ทูธบินมาต้อนรับทั้งคู่พร้อมกับแซนดี้ที่ค่อย ๆ ลอยตามมาติด ๆ

    “ไม่ใช่นะ!!/เปล่า!!”ทั้งคู่ขึ้นเสียงพร้อมกัน

    “พวกท่านไปเอาข่าวแบบนี้มาจากไหนกัน?”หน่อยข่าวไม่ได้กรองไงถามได้ แต่ถ้าดูทางสายตาไม่ว่าใครก็คิดแบบเดียวกันว่า2คนนี้ต้องคบกันอยู่แน่ๆ  ๆ นอน ๆ ๆ

    “นอร์ทไงล่ะ พวกเจ้าเพิ่งไปหาเขามาใช่ไหมล่ะ”นอร์ทช่างเป็นหน่วยข่าวที่แสนดี จะรายงานอะไรไม่เคยคิดกรองก่อน หรือไม่การรายงานนี้อาจจะเกิดจากลางสังหรณ์ในพุงของเขาก็ได้

    “ตาแก่นั่นก็จริง ๆ เลยนะ เอาอะไรมองว่าข้ากับ... เอลซ่าคบกันอยู่”ก็เอาตามองยังไงล่ะ

    “อย่าว่านอร์ทเลยแจ็ค เขาไม่มองว่าเราเป็นแม่ลูกกันก็ดีเท่าไหร่”ถ้ามองแบบนั้นจริงเอลซ่าคงจะดูแก่มากในสายตานอร์ท และแจ็คก็คงจะดูเด็กมากเช่นเดียวกัน

    ทูธและแซนดี้ผลัดกันมองหน้าไปมา สื่อสารกันทางสายตาแปลได้ประมาณว่าตอนนี้ไม่ใช่เดี๋ยวใช่เนอะแซนดี้และแซนดี้คงตอบกลับมาว่า♥ ♥ ♥

    “ว่าแต่พวกเจ้ามาที่นี่ต้องการจะมาดูวังทันตใช่ไหม? เชิญสิ ๆ เข้ามาเลย”ทูธเชื้อเชิญให้ทั้งคู่เข้ามาด้านใน เอลซ่าเดินเข้ามาช้า ๆ ดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งทองคำ ใช่แล้วทุกที่ของวังทันตนั้นประดับด้วยทองคำ ยามต้องแสงไฟนั้นแสนจะแสบตา

    “นี่ เจ้าเป็นใครมาจากไหนกัน? ทำไมข้าไม่ยักกะเคยเห็นหน้าเจ้าเลย?”ทูธเริ่มถามหรือสิ่งที่เธอต้องการจะบอกเอลซ่าทางอ้อมคือแนะนำตัวกันหน่อยสิจ๊ะ

    “อ๊ะ!! ฉันคือราชินีเอลซ่าแห่งอาณาจักรเอเรนเดล แล้วก็เป็นราชินีหิมะด้วย...”

    “หา... ราชินีหิมะในตำนานน่ะหรือ? ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เจอราชินีหิมะตัวจริงเสียงจริง วู้ฮู้!! อ้าปากให้ข้าดูฟันหน่อยสิ!!”ทูธบินกลับมาหาเธอถือวิสาสะสั่งให้เธออ้าปากเพื่อดูฟัน ดูแล้วเหมือนหมอฟันในวังหลวงเลย

    “ว้าว... ขาววิ้ง ๆ เหมือนหิมะตกใหม่เลย!! สวยจริง ๆ ถ้าไม่ใช่ฟันแท้ป่านนี้ข้าคงถอนมันไปเก็บไว้ในคลังแล้ว”ทูธนั้นเป็นเทพคนเดียวที่เป็นผู้หญิง เธอมีรสนิยมประหลาดชอบตามเก็บฟัน ยิ่งมีเศษเหงือกและเลือดติดอยู่ยิ่งชอบ แต่เธอก็ชึ้นชื่อว่าเป็นเทพที่น่ารักคนหนึ่งระดับตำนาน

    “นี่เอลซ่า ทางนี้คือแซนดี้หรือเธอคงรู้จักเขาในฐานะมนุษย์ทรายสินะ... ในหนังสือของพวกมนุษย์มีเขียนไว้ไหมว่าแซนดี้ไม่เคยพูด?”ทูธกระซิบเสียงเบา

    “ท่านแม่เคยเล่าให้ฉันฟังตอนเด็ก ๆ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะแซนดี้”เธอเอื้อมมือไปจับแซนดี้ เขาตัวเล็ก ๆ กลม ๆ น่ารัก เหมือนเด็กไม่มีผิด ตัวก็นุ่มนิ่มน่ากอดท่าทางใจดีและเป็นมิตร

    ^_^”แซนดี้สื่อสารผ่านทรายที่ปรากฏอยู่เหนือศีรษะของเขา เหตุที่เขาไม่พูดก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็นมนุษย์ทรายผู้สร้างความฝัน หากพูดเสียงดังแล้วเด็กตื่นก็ไม่ได้ฝันต่อกันพอดี

    “เขาน่ารักนะ”ทูธเข้ามาอุ้มแซนดี้เหมือนแซนดี้เป็นตุ๊กตา ถ้าเขาเป็นตุ๊กตาจริงเธอก็อยากเอากลับไปฝากอันนาเหมือนกัน

    “นี่ แล้วไหงมนุษย์ทรายถึงมาอยู่กับท่านได้ล่ะเนี่ย?”แจ็คเอ่ยถามทูธ

    “แซนดี้มาบอกข้าเรื่องที่พวกเจ้าจะมาที่วังทันต อีกอย่างงานเขาเสร็จแล้วกก็เลยจะมาดูเจ้ากับ... เอลซ่าด้วยน่ะ”ทูธเกือบหลุดพูดคำว่าแฟนออกไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิงทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสองคนนี้ชอบพอกันอยู่แต่ไม่ได้คบกันอย่างเป็นทางการ

    “อ่านะ ดีใจจริง ๆ ที่เจอมนุษย์ทราย หาตัวจับยากนะเนี่ย”

    ۞”แซนดี้บอกเป็นเชิงว่าเขามีงานต้องทำ แจ็คไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นักถึงเขาจะคุยกับเยติรู้เรื่องแต่เขาคุยกับมนุษย์ทรายไม่รู้เรื่องจริง ๆ

    “ไม่รู้ว่าอะไร แต่ก็ขอบคุณมากนะที่ตอบ”

    “นี่แจ็ค เจ้าช่วย... เอ่อ... มากับข้าจะได้ไหม?”ทูธกวักมือเรียกเขา เอลซ่าละจากทูธเดินไปหาแซนดี้ เธอคิดอยากจะกอดแซนดี้ให้รู้แล้วรู้รอด อยากรู้จริง ๆ ว่าแซนดี้จะนุ่มเหมือนที่คิดหรือเปล่า

    “มีอะไรทูธ?”

    “เจ้าตามข้ามาหน่อยได้ไหม? ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้า”

    “ก็คุยตรงนี้เลยสิ”

    “คือเรื่องที่ข้าจะคุยกับเจ้าน่ะเป็นเรื่องเจ้ากับ... เอลซ่า...”แจ็คหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อเอลซ่า เขาเดินห่างออกจากจุดที่แซนดี้และเอลซ่ายืนอยู่ตรงไปที่ห้องนอนของเหล่าธิดาน้อยเรียกง่าย ๆ คือกรง

    “เจ้าชอบนางใช่ไหมแจ็ค?”ทูธเริ่มเปิดประเด็นถาม

    “เฮ้ย!? ไหงอยู่ดี ๆ ท่านมาถามข้าเรื่องนี้ได้ล่ะ”แจ็คแสร้งเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ไม่ได้ผล

    “อย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องนะแจ็ค ตอบข้ามาตามตรงดีกว่าว่าเจ้าชอบนางหรือไม่?”ทูธพยายามเค้นความจริงจากแจ็ค เขาทำท่าทีกระอักกระอ่วนก่อนตอบออกมาตามความจริงอย่างไม่เต็มใจนัก

    “ใช่ ข้าชอบนาง”แจ็คถอนหายใจยาว

    “ข้าว่าแล้ว ๆ ว่าแต่เจ้าได้สารภาพรักกับนางหรือยัง?”

    “สารภาพ? ทำไมข้าต้องสารภาพด้วย?”ทูธนึกปวดหัวกับความซื่อปนโง่ในเรื่องรักของเทพน้ำแข็งยาจก เธอกุมขมับด้วยสองมือก่อนระเบิดความเป็นสิราณีใส่แจ็ค

    “ฟังนะแจ็คฟรอส!! เจ้าน่ะชอบนางใช่ไหม!!”แจ็คพยักหน้ารัวเพราะตกใจที่โดนทูธตะคอกใส่

    “ดีมากที่ยอมรับพลทหาร แล้วเจ้ารู้หรือเปล่าว่าการสารภาพรักเป็นส่วนหนึ่งของการสานต่อความสัมพันธ์”แจ็คพยักหน้าอีกครั้ง ตอบถูกแบบนี้แสดงว่าเมื่อครู่นี้แจ็คแกล้งโง่

    “รู้แล้วก็ไปสารภาพซะ อย่าชักช้าโอกาสไม่ได้มีบ่อย ๆ”ทูธรีบจบคอร์สความรักฉบับเร่งด่วนในทันที แจ็คมีอาการสับสนและมึนงง เขาคิดแต่ว่าจะดีหรือ? แน่ใจหรือ? นี่เป็นความลังเลครั้งแรกในรอบหลายร้อยปีของเขาเลยก็ว่าได้

    “นี่ทูธ ข้าเป็นเทพยากจกนะ ส่วนนางเป็นราชินีหิมะ แค่คำเรียกก็ต่างกันราวฟ้ากับเหวแล้ว”

    “อย่ามาใช้ของแบบนี้ตัดสินกับความรักแจ็ค  ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับหัวใจ”ทูธจิ้มลงไปที่หน้าอกแจ็คเบา ๆ เขาปัดมือเธอออกก่อนทำท่าจะเดินหนี

    “หัวใจใช้สูบฉีดเลือดทูธ ไม่ได้ใช้ตัดสินความรัก”

    “โอ้ย!! ข้าล่ะปวดหัวจริง ๆ ต้องให้ข้าบอกไหมว่าเอลซ่าก็ชอบเจ้า!!”ทูธตะโกนเสียงดังลั่น แต่นับว่าโชคดีที่แซนดี้พาเอลซ่าไปเล่นที่อื่นเธอจึงไม่ได้ยินสิ่งที่ทูธพูด

    “เจ้าบอกว่าอะไรนะ?แจ็คพยายามทวนซ้ำ

    “ข้าบอกว่าเอลซ่าชอบเจ้าพอใจไหม?”

    “แล้วท่านรู้ได้อย่างไร? นางไม่เคยบอกท่านด้วยซ้ำ กับข้านางก็ไม่เคยบอก”ถ้าการทำให้สมองของแจ็คกระทบกระเทือนมันจะทำให้แจ็คนั้นรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างเธอก็ยินดีจะทำ เธอไม่เคยเจอใครที่ซื่อบื้อด้านความรักขนาดนี้มาก่อน!!

    “ลางสังหรณ์ของผู้หญิงยังไงล่ะ ถามจริง ๆ เถอะแจ็คอยู่ด้วยกันมาจนป่านนี้เจ้ายังไม่รู้สึกอีกหรือว่านางชอบเจ้า ข้าเห็นนางปราดเดียวข้าก็รู้แล้ว”ลางสังหรณ์ของผู้หญิงก็ไม่ต่างอะไรกับลางสังหรณ์ในพุงของนอร์ท ส่วนความแม่นก็ต้องมาพิสูจน์อีกที

    “ข้าก็มีแอบคิดไปเองบ้างนะ... แต่ข้ากลัวมันจะไม่สมควร ข้ากลัวนางจะปฏิเสธข้า...”ทูธเข้ามากุมมือแจ็ค เธอพยายามส่งกำลังใจไปให้ชายตรงหน้าผู้อ่อนประสบการณ์รัก เธอคิดดีแล้วที่สนับสนุนทั้งคู่ เธอไม่อยากให้แจ็คพลาดกับผู้หญิงที่แสนดีคนนี้

    “อย่ากลัวไปเลยแจ็ค ข้ารับรองว่านางไม่ปฏิเสธเจ้าแน่ นางเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมและไม่ได้มองคนจากภายนอกแน่ ๆ ข้ารับรองได้ ลองดูเถอะนะแจ็ค...”ทูธใช้ความพยายามเฮือกสุดท้ายในการโน้มน้าวให้แจ็คสารภาพรักกับเอลซ่า แจ็คนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร ทูธหมดหวังเสียแล้ว...

    “ทูธ... ข้าต้องทำอย่างไรบ้าง”

     

     

    ตัดฉากมาหาเอลซ่า เธอกำลังพูดคุยเรื่องทั่วไปกับแซนดี้ ชายตรงหน้าเธอเคยมอบความฝันแสนสวยงามให้เธอในวัยเด็ก เป็นอีกสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเธอไม่ให้หลงไปสู่โลกมืด

    “แล้วคุณเหนื่อยไหมแซนดี้ที่ต้องมอบความฝันให้เด็กทั้งโลก”

    * .•°•.°´

    “คุณเก่งจังแซนดี้ที่ทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวคนเดียวโดยที่ไม่เหนื่อยเลย”เอลซ่าฉลาดพอจะตีความในสิ่งที่แซนดี้ต้องการจะสื่อออกมาได้

    *.• ·* ~

    “จะดีหรือคะให้ฉันไปดูคุณทำงาน?”แซนดี้พยักหน้าตอบ เอลซ่าโผไปกอดเขาเข้าเต็มรัก อา... นุ่มจริง ๆ ด้วย นุ่มกว่าตุ๊กตาของอันนาทุกตัวเลย...

    ระหว่างนั้นทูธและแจ็คก็เข้ามา แจ็คเห็นภาพที่เธอกอดแซนดี้เต็มตาแต่ก็รู้ดีว่าเธอกอดแซนดี้เพราะดีใจที่แซนดี้จะพาเธอไปดูเขาสร้างความฝันให้เด็ก ๆ ดังนั้นไม่โกรธ เข้าใจดี

    “แจ็ค แซนดี้จะพาฉันไปดูเขาสร้างฝันล่ะ คุณไปกับฉันนะแจ็ค”เอลซ่าเอ่ยชวนน้ำเสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์กลัวว่าแจ็คจะไม่ยอมไปกับเธอ

    “ไปก็ไปสิ ดูแซนดี้ทำงานเสร็จฉันจะส่งเธอกลับเอเรนเดล เธอคงหิวแล้ว”เอลซ่าลูบท้องของตัวเองเบา ๆ ตอนนี้เธอยังไม่หิวแต่อีกเดี๋ยวเธอก็คงหิวเอง แซนดี้สะกิดมือเธอเบา ๆ เป็นสัญญาณว่าให้ไปกันได้แล้ว

    “ขอโทษนะคะทูธ มาหาคุณถึงที่แต่กลับไม่ได้คุยอะไรกันเลย”

    “ไม่เป็นไรจ้า เจ้าอยู่ที่เอเรนเดลใช่ไหม? งั้นคืนนี้ข้าจะไปหานะ ตื่นรอข้าไว้เลยแล้วเราจะไปคุยกันตามประสาสาว ๆ”ของแบบนี้ผู้หญิงรู้กันดี เอลซ่ายิ้มหวานตอบรับนางฟ้าฟันคนสวย เธอเกาะแขนแจ็คโดยอัตโนมัติและโบกมือลาทูธ

    “ลาก่อนนะคะทูธ ฉันจะรอคุณที่หน้าระเบียงห้องนะ”การรอรับแขกถือเป็นมารยาทที่ดีของราชินี แจ็คไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาลอยขึ้นฟ้าตามแซนดี้ออกจากวังทันตไป ทิ้งให้ทูธทำงานหัวปั่นอยู่คนเดียว

    แซนดี้มาหยุดอยู่ทีประเทศหนึ่งที่ปกคลุมด้วยป่าที่เต็มไปด้วยหมีโคอาล่าและจิงโจ้ ขณะนี้เป็นเวลากลางคืน เด็ก ๆ หลับกันหมดแล้วนี่คือเวลาทำงานของแซนดี้ สร้างฝันให้เด็ก ๆ

    "ﺴ ﺴ۩”แซนดี้บอกให้ทั้งสองนั่งรออยู่บนหลังคาของบ้านหลังหนึ่ง แจ็คค่อย ๆ ประคองเอลซ่านั่งลงดูแซนดี้สร้างความฝันให้เด็ก ๆ

    แซนดี้ลอยขึ้นสูงเกือบเทียมเมฆ มนุษย์ทรายตัวน้อยร่ายมือไปมา ทรายสีทองไหลมาเป็นสายผ่านกระจกหน้าต่างเข้าไปยังห้องของเด็กน้อยที่กำลังนอนหลับ เอลซ่าชะโงกหน้าไปดูเด็กสาวที่หลับอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง เธอคนนั้นดูฝันดีเอามาก ๆ และกำลังมีความสุขทีเดียว

    แซนดี้สามารถใช้เวทย์มนตร์สร้างฝันได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานนักเด็กทุกคนในย่านนี้ก็หลับสนิท ฝันดีกันทุกคน แซนดี้หันมาจัดการปัญหาหัวใจให้ผู้ชายปากหนักที่นั่งอยู่กับผู้หญิงที่ชอบบนหลังคามานานแล้วแต่ยังไงมีอะไรคืบหน้า เขาเริ่มเสกทรายเป็นรูปร่างต่าง ๆ สร้างบรรยากาศเป็นใจแก่การสารภาพรักของเทพแห่งความหนาวเหน็บ

    “เอลซ่า... คือ...”เอลซ่าหันมาสบตาแจ็ค เธอมองเข้าไปในแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนนั้นด้วยความแปลกใจ

    “มีอะไรหรือแจ็ค?”ยิ่งเธอถามแจ็คยิ่งกระอักกระอ่วนใจที่จะตอบ ตอนนี้เขารู้สึกหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต

    “คือ... ข้า...”เอลซ่ายังคงจ้องมองเขาต่อไป แจ็คนั่งเกร็งมือทั้งสองข้างกำกระเบื้องมุงหลังคาไว้ในมือ ถ้าเขาไม่รีบสารภาพกระเบื้องต้องแตกออกจากกันแน่เพราะตอนนี้อะดรีนาลีนในตัวเขามันพุ่งพล่านไปหมดแล้ว

    “ข้า...”

    .

    .

    .

    “ข้า...”

    .

    .

    .

    “ข้า...”

    .

    .

    .

    “ข้าชอบเจ้า!!

     

    “แจ็ค... คุณบอกว่าคุณชอบฉันงั้นหรือ?”แจ็คพยายามไม่สบตาเธอ เขาไม่กล้าแม้จะมองหน้าด้วยซ้ำทำได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ

    “ฉันดีใจนะที่คุณพูดออกมา ฉันเองก็ชอบคุณในแบบเดียวกันกับที่คุณชอบฉันนั่นแหละ”แจ็ครู้สึกเหมือนน้ำตามันจะเริ่มรื้นขึ้นมาจนถึงขอบตาของเขาแล้ว เอลซ่าจับมือของแจ็คไว้ถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริงส่งไปให้เขา

    “ขอบคุณนะแจ็คที่ตอบรับความรู้สึกของฉัน แต่ฉันคงตอบรับความรู้สึกของคุณตอนนี้ไม่ได้หรอก”แจ็คตัวแข็งเป็นหิน น้ำตาของเขารินไหลออกมาเป็นสายแต่เอลซ่าไม่อาจเห็นได้เพราะเขาเบือนหน้าหนีเธออยู่

    “แจ็ค... ฟังฉันนะ... ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากตอบรับความรู้สึกคุณ ฉันอยากตอบรับมันเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ แต่... ฉันอยากให้เราอยู่ด้วยกันนาน ๆ อะไรที่มันได้มาง่าย ๆ เวลาไปมันก็จะง่าย ฉันมั่นใจในตัวคุณนะแจ็ค แต่รอฉันได้ไหม? รอให้นานกว่านี้หน่อย... นะ...”แจ็คแช่แข็งน้ำตาของเขาและปัดมันออกอย่างรวดเร็ว เขาหันกลับไปหาเอลซ่าและตัดสินใจคุยกับเธอตรง ๆ

    “ข้าเข้าใจเจ้านะเอลซ่า ข้าไม่ว่าเจ้าหรอกถ้าเจ้าอยากให้ข้ารอข้าก็จะรอ”มือของทั้งสองยังคงประสานกันไว้ เอลซ่าซึ้งใจที่ชายตรงหน้าเข้าใจเธอและยอมที่จะรอเธอ

    “ไม่ว่านานเท่าไหร่ข้าก็จะรอ...”มือหนาของแจ็คสัมผัสกับแก้มของเอลซ่า เธอหลับตาลงช้า ๆ ซุกหน้าเข้ากับไอเย็นจากฝ่ามือของเขา

     

     อยากให้เวลาหยุดลงแบบนี้นาน ๆ

     

    “ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไรข้าขอมัดจำได้ไหม?”เอลซ่าพยักหน้าเบา ๆ เธอยิ้มให้แจ็คก่อนยืดตัวขึ้นมา เธอรู้ดีว่ามัดจำของแจ็คคืออะไร และเธอยินดีที่จะมอบมันให้เขา

    แจ็คค่อย ๆ ยื่นหน้าจรดริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากสีแดงกลีบกุหลาบของเธอเบา ๆแซนดี้ที่แอบดูอยู่ก็อดเขินไม่ได้ เขาเอามือปิดหน้าปิดตาแต่ก็ไม่ลืมที่จะสร้างบรรยากาศต่อไป

     

    ตามคำสั่งของทูธ...

     

    ทั้งสองยังคงจุมพิตกันอย่างเนิ่นนานจนลืมไปแล้วว่านี่เป็นเพียงมัดจำ แจ็คจำใจถอนริมฝีปากของเขาออก ทั้งคู่ยิ้มให้กันและเหม่อมองไปไกล มองไปยังอนาคตที่ไม่รู้จะเป็นเช่นไร...

    ความรักสามารถเกิดขึ้นใด้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ใครจะไปรู้ว่ามีซักคนในโลกที่ต้องการให้เวลากับความรักเพื่อสานสัมพันธ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น และยิ่งอดทนรอคอยมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ของมันจะทำให้คุณรู้สึกคุ้มค่าต่อการรอคอยและไม่เสียดายระยะเวลาที่เสียไปกับการรอคอยเลย
     

    *************************************
     

    Free Talk :

    ตอนนี้หวานมดขึ้นคอมเลยค่ะ(แอบเอาขนมมากิน) หลังจากนี้ไม่แน่ใจว่าจะดองมั้ยเพราะวันศุกร์ต้องสอบอีกวัน แล้วพรุ่งนี้ก็นัดเพื่อนมาเล่น(?)ที่บ้านด้วย ไม่อยากดองเรื่องนี้เลยจริง ๆ ค่ะแต่หัวเริ่มตันแล้ว มีแต่ข้อสอบเต็มไปหมดเลย ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเม้นนะคะ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ไรต์ไม่อยากดองฟิคนี้เลยค่ะ จะพยายามเขียนให้ดีขึ้นทุกตอน ขอบคุณอีกครั้งนะคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×