คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 5th Hour : Close to you
ในที่สุดแจ็คก็พาเอลซ่าล่องลอยขึ้นมาจากพื้นดินเหนืออาณาจักรสยาม สายลมพัดขึ้นไปทางเหนือซึ่งเป็นทางไปยังรังของบันนี่มันด์ แต่แจ็คกลับคิดจะเล่นอะไรสนุก ๆ
“เอลซ่าดูอะไรนี่นะ”แจ็คโปรายหิมะบาง ๆ ลงไปในพื้นที่ทางเหนือของอาณาจักรสยาม ตอนนี้อาณาจักรสยามก็มีหิมะครั้งแรกในรอบหลายร้อยปี
“จะดีหรือแจ็ค? พวกเขาไม่เคยเจอหิมะมาก่อนนะ ฉันกลัวพวกเขาจะหนาวเกินไป”เอลซ่ามองไปยังเบื้องล่างด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าทำไว้นิดเดียวเท่านั้น ดูเผิน ๆ มันเหมือนใครมาทำน้ำแข็งไสหกมากกว่าหิมะตกเสียอีก”แจ็คเปรียบเปรยได้อย่าง... เหมือน? อย่างไรก็ดีแจ็คก็ทำไปแล้ว ขอให้ชาวสยามคิดเหมือนแจ็คด้วยก็แล้วกัน
ทั้งคู่ล่องลอยผ่านอาณาจักรสยามมาได้ไกลโข ภาพเบื้องล่างเป็นกำแพงยาวหลายพันกิโล บนกำแพงมีธงสีแดงชาดแปะดาวสีเหลืองดวงใหญ่1ดวง และดวงเล็กล้อมรอบอีก4ดวง เป็นประเทศที่กว้างใหญ่ และมีสิ่งก่อสร้างที่ส่าอัศจรรย์เหนือคำบรรยาย
สายลมเปลี่ยนทิศไป ทั้งสองพัดไปตามสายลมเรื่อย ๆ แบบไม่กลัวจะหลงทางจนพบกับสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาสร้างจากหินอ่อน รูปร่างแปลกตาเสียจนบรรยายไม่ถูก
“แจ็ค นั่นอะไร?”เอลซ่าถาม
“อ๋อ ผู้คนที่นี่เรียกว่าทัชมาฮาล เป็นสถานที่แห่งความรักที่สุลต่านในอดีตสร้างให้ภรรยาที่เสียไป”แจ็คเริ่มเล่าประวัติความเป็นมาให้เอลซ่าฟัง แจ็คชอบที่จะเที่ยวไปยังที่ใหม่ ๆ และฟังประวัติความเป็นมาผ่านชนพื้นเมืองที่ผ่านไปมา
“เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่เนอะเจ้าว่าอย่างนั้นไหม?”เทพแห่งความหนาวเย็นผู้ไม่เคยมีความรักเช่นหนุ่มสาวรำพึงรำพัน
“ก็นะ ฉันว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความยิ่งใหญ่ มันขึ้นอยู่กับคุณค่าทางจิตใจ สุลต่านองค์นั้นเลือกที่จะสร้างที่นี่เพื่อแสดงความรักต่อราชินีในวันที่เธอจากไปมันก็เหมือนคนที่ไม่เคยเห็นค่าของสิ่งที่มีอยู่จนกระทั่งเสียไปนั่นแหละ”คำกล่าวคมคายเอื้อนเอ่ยออกจากปากราชินีหิมะผู้เย็นชาพลันให้เธอนึกถึงอดีตของตัวเอง
“เจ้าดูเข้าใจความรักดีจังนะ... ถึงแล้วล่ะรังของบันนี่”แจ็คพาเธอมาจนถึงโพรงกระต่าย รังของบันนี่มันด์ ภายนอกดูไกล ๆ แล้วเหมือนนิคมอุตสาหกรรมผลิตไข่อีสเตอร์ก่อนส่งไปซ่อนเสียมากกว่า
แจ็คและเอลซ่าหยุดอยู่ตรงประทางเข้า เอลซ่ากลังจะเปิดประตูเข้าไปทว่าถูกแจ็คห้ามไว้
“เดี๋ยวก่อน เราจะไม่เข้าตรงนี้”เอลซ่าพยามมองหาประตูทางเข้าอื่น แต่หาอย่างไรก็หาไม่เจอ
“ตรงนี้ไม่มีประตูอื่นแล้วนะแจ็ค เราจะเข้าทางไหนกันล่ะ?”
“นี่ไง”แจ็คชี้ไปทางโพรงขนาดเล็กพอดีตัวของทั้งคู่ เอลซ่าเองก็พอจะลอดไปได้อยู่หรอกแต่วิธีการเข้าไปแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับโจร
“เข้าไปดี ๆ ไม่ได้หรือแจ็ค ระวังจะจบไม่สวยเอานะ”เอลซ่าร้องเตือน
“ข้าเข้ามาที่นี่บ่อยจะตาย ทางรูนี้ด้วย ป่านนี้บันนี่คงกำลังระบายสีไข่อยู่แน่ ๆ”แจ็คเริ่มสำรวจโพรงก่อนค่อย ๆ มุดเข้าไป เอลซ่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมุดเข้าไปในโพรงตามแจ็ค แต่ตอนนี้เธอขอทำใจก่อน
“โอ้ย!! ปล่อยข้านะ”แจ็คที่ล่วงหน้าเข้าไปก่อนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เอลซ่าไม่มีเวลามาคิดว่าแจ็คแกล้งเธอเล่นหรือเป็นจริง เวลาทำใจของเธอไม่เหลือแล้วตอนนี้เธอต้องรีบเข้าไป
“ปล่อยนะบันนี่”แจ็คร้องให้กระต่ายยักษ์สูงนับสิบฟุตปล่อยเขาลง แจ็คอยู่ในสภาพห้อยหัวโตงเตงดูไม่งาม
“แจ็ค เกิดอะไรขึ้น”เอลซ่ารีบรุดหน้ามาที่เกิดเหตุ แต่ไม่ใช่การมุดโพรงกระต่ายเพราะเธอเปิดประตูมาอย่างชัดแจ้ง
“เอลซ่า เจ้ากระต่ายยักษ์นี่จับข้าไว้”แจ็คพยายามเอาหัวขึ้นไม่ให้เลือดตกหัว เอลซ่าพอจะเดาได้ว่ากระต่ายที่จับแจ็คเอาไว้คือบันนี่มันด์ เขาตัวใหญ่กว่าที่เธอจินตนาไว้มาก
“โห เดี๋ยวนี้แจ็คฟรอสต้องหลบอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงแล้วหรือ? ไม่ได้การล่ะเรื่องนี้ต้องขยายให้นอร์ท ทูธ แล้วก็แซนดี้รู้ด้วย”บันนี่ยอมปล่อยแจ็คลง เทพแห่งความหนาวลุกขึ้นประจันหน้ากับกระต่ายยักษ์ศัตรูคู่อาฆาต
“พูดงี้ก็สวยสิบันนี่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่นายให้ทูธ...”
“อย่าพูดนะเฟ้ย เรื่องนั้นมันนานมาแล้ว”
“เรื่องเก่าเล่าใหม่มันน่าบันนี่ ฉันว่าเอลซ่าคงอยากรู้ด้วย”เอลซ่ายืนมอง2เทพทะเลาะกันด้วยความมึนงง เธอมาเที่ยวนะไม่ได้มาดูเทพทะเลาะกัน!!
“นี่หนุ่ม ๆ เลิกทะเลาะกันซักทีจะได้ไหม?”
“ก็เจ้ากระต่ายนี่มาจับข้าไว้ก่อน แถมหาเรื่องข้าด้วย”
“ว่าไงนะไอ้เกรียน? แกนั่นแหละบุกเข้ามาให้รังของข้า มุดโพรงกระต่ายเข้ามาอย่างกับโจร”เอลซ่าและบันนี่คิดตรงกันว่าการมุดโพรงกระต่ายเข้ามานั้นมันเป็นการกระทำของโจร แต่ยังไงก็ผิดทั้งคู่อยู่ดีนั่นแหละ
“ขอร้องฉันไม่ได้อยากให้พวกคุณทะเลาะกัน หยุดเถอะได้โปรด”เอลซ่าของร้อง
“ไม่ จนกว่าไอ้เกรียนนี่จะขอโทษข้าก่อน”บันนี่เถียง
“ไม่มีวัน ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด”แจ็คเถียงบ้าง
เสียงทะเลาะกันของบันนี่มันด์และแจ็คฟรอสดังเซ็งแซ่ไปทั่วทั้งรังกระต่าย เอลซ่ามองหน้าพวกเขาไปมาพยายามเจรจาห้ามทุกวิถีทางแต่ก็ไม่มีใครสนใจฟังเธอเลย
“ฉันบอกว่าให้หยุด!!”เอลซ่าหมดความอดทน เธอระเบิดพลังน้ำแข็งใส่ทั้งคู่จนทั้งบันนี่และแจ็คต่างก็เงียบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“แจ็ค งานนี้คุณผิดนะที่บุกเข้ามาในรังของบันนี่”เอลซ่าหันไปตำหนิชายที่พาเธอมาก่อน
“เห็นไหมล่ะ เธอบอกว่าแกผิดล่ะ”บันนี่ร้อง
“คุณก็ด้วยบันนี่มันด์ ไม่เห็นจะต้องใช้กำลังกันเลย โต ๆ กันแล้วหัดใช้สมองกันบ้าง”คำสอนอันเจ็บแสบแทงขั้วหัวใจบันนี่มันด์รวมถึงแจ็คด้วย แปลตรง ๆ คือพวกเขามันไม่รู้จักโตเอาเสียเลย
“เอ่อ... ข้าขอโทษนะเอลซ่า”แจ็คกล่าวขอโทษเธอ
“ข้าด้วยที่เสียมารยาท ไอ้เกรียนนี่คงพาท่านมาดูรังของข้าใช่หรือไม่?”บันนี่ถามอย่างสุภาพ
“ใช่แล้วล่ะ เขาบอกว่าจะพาฉันมาดูคุณทำไข่อีสเตอร์แจกเด็กทั้งโลกเลยล่ะ”เอลซ่าพยายามพูดให้แจ็คดูดีเพื่อเลี่ยงการปะทะ บันนี่ยิ้มให้หญิงสาวที่ท่าทางดูดีมีมารยาทผิดกับคนที่พาเธอมา
“งั้นก็ยินดีต้อนรับคุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าท่านเป็นใครมาจากไหน?”
“ฉันคือราชินีเอลซ่าแห่งเอเรนเดล...”
“และเธอก็เป็นราชินีหิมะด้วย”
“ข้าไม่ได้ถามเจ้า อย่าสอด!!”บันนี่ทำตาเขียวใส่แจ็คที่เดินตามหลังอยู่ เอลซ่ายิ้มให้แจ็คประมาณว่า’ไม่เป็นไรนะ’ ตอนนี้เธอเข้าข้างใครไม่ได้แต่เพราะอยู่ที่รังของบันนี่เธอก็ควรจะให้เกียรติกับบันนี่
“ขออภัยองค์ราชินีด้วยที่ทำให้พระองค์เห็นภาพที่ไม่สมควร โปรดประทานอภัยให้กระหม่อมด้วย”บันนี่โค้งคำนับให้เอลซ่า แจ็คยิ้มอย่างมีเลศนัยไม่บ่อยนักที่แจ็คจะเห็นบันนี่ในมุมนี้ เอลซ่าตกใจรีบประคองตัวบันนี่ให้ลุกขึ้น
“ไม่เป็นไร ๆ พูดกับฉันเหมือนเดิมเถอะ”บันนี่ลุกขึ้นมา เจ้ากระต่ายยักษ์หลงเสน่ห์ความน่ารักของเอลซ่าเข้าให้เต็มเปา วัน ๆ อยู่แต่ในรังระบายสีไข่ ไม่เคยเลยที่จะมีสาว ๆ น่ารักมาหาถึงรัง
ส่วนทูธน่ะอย่าไปนับเธอเลย...
“ท่านช่าง... วิเศษจริง ๆ เอาล่ะข้าจะพาท่านชมรังของข้าให้ทั่วเอง อยู่ในรังของข้าไม่ต้องสนใจไอ้เกรียนนี่หรอก มาเถอะไปดูน้องไข่ฟักตัวกันเถอะ”บันนี่พาเอลซ่าไปดูดอกไม้กลีบสีชมพูสวยที่มีไข่สีขาวนวลซ่อนอยู่ภายใน บันนี่ไม่สนใจแจ็คตอนนี้เขาสนใจแต่เอลซ่า
“น่ารักจังเลย ที่รังของคุณมีดอกไม้แบบนี้กี่ดอกกันบันนี่?”
“หลายล้านดอกขี้เกียจจะนับเลยล่ะ”บันนี่ตอบ เอลซ่าโปรยยิ้มให้บันนี่และแจ็คด้วย เธอมองดูทุ่งดอกไม้ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ดอกไม้นับล้านที่บานออกมาเป็นไข่อีสเตอร์ดูแล้วช่างน่าอัศจรรย์ใจ
“เดี๋ยวข้ามานะ”บันนี่เดินล่วงหน้าไปยังบ่อจุ่มสี แจ็คถือโอกาสเดินเข้ามาหาเอลซ่าเพื่อพูดคุยกับเธอ
“เจ้าชอบไหมเอลซ่า?”แจ็คเริ่มถาม
“ชอบสิแจ็ค ขอบคุณคุณมากนะที่พาฉันมาที่นี่”เอลซ่านึกถึงอดีตอีกครั้งสมัยที่เธอยังเด็ก เธอเล่นหาไข่อีสเตอร์กับอันนาครั้งสุดท้ายตอนเธอ8ขวบ ก่อนที่เธอจะขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ออกมาพบผู้คนอีกเลย
ไข่นับล้านเดินเรียงแถวกันไปเป็นภาพที่น่าประทับใจเธออยากแบ่งปันความอัศจรรย์นี้ให้อันนาน้องสาวเธอบ้างแต่คงไม่มีโอกาส และตอนนี้เธอก็โตเกินกว่าจะเล่นหาไข่อีสเตอร์เป็นเด็ก ๆ แล้วแม้เมื่อเดือนที่แล้วอันนาจะยังออกไปเล่นอยู่ก็เถอะ
ทั้งคู่เงียบไม่พูดอะไร แจ็คปล่อยให่เอลซ่ายืนเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ ช่วงเวลาที่เขาสังเกตบันนี่เขาเผลอคิดไปเองว่าบันนี่ชอบเอลซ่า แจ็ครู้ดีว่าความจริงแล้วจะไม่ใช่บันนี่แค่ประทับใจในความน่ารักของเอลซ่าเท่านั้น
“นี่องค์ราชินี มาทางนี้สิ!!”บันนี่ร้องเรียกเอลซ่าเสียงดัง ช่างขัดใจแจ็คยิ่งนัก
“ฉันมาแล้ว”เอลซ่าเดินกึ่งวิ่งไปหาบันนี่ เธอไม่ลืมที่จะคว้าแขนเสื้อฮู้ดของแจ็คเอาไว้แล้วลากเขาไปด้วย ใบหน้าแต้มรอยยิ้มของราชินีหิมะไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องหลงรัก
แจ็คก็โดนไปแล้ว(แต่ไม่รู้ตัว)
บันนี่พาเธอไปดูดอกไม้พ่นสี เหล่าไข่ที่เดินผ่านต่างถูกพ่นเป็นสีพาสเทลสวยงามไม่ซ้ำกัน แถมกลิ่นยังหอมมากอีกด้วย กลิ่นมันเหมือนกับ... ช็อกโกแล็ต?
"เมื่อกี้ยังธรรมดา ที่ท่านจะเห็นต่อจากนี้วิเศษกว่าเยอะ"ครั้งนี้บันนี่มันด์นำความตื่นตาตื่นใจมาให้เอลซ่ายิ่งกว่าเก่า สายน้ำสีม่วง ๆ ที่เหล่าไข่ทั้งหลายพากันไปชุบตัวมันไม่ได้เปล่งประกายออกมาเป็นสีม่วงแค่สีเดียว มันมีหลายสีสวยงามและเงาวับจับตา
เอลซ่ามองเหล่าไข่ทั้งหลายกระโดดลงบ่อสีใบแล้ว ใบเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ ยิ่งยามที่ลุ้นว่ายามที่ขึ้นมามันจะเป็นสีอะไรยิ่งสนุก เธอผลัดกันทายกับแจ็คและบันนี่ว่ามันจะเป็นสีอะไร แน่นอนบันนี่ทายถูกทุกครั้ง
“สวยจังเลยบันนี่ แล้วนอกจากไข่อย่างอื่นจะเปลี่ยนสีไหม?”เอลซ่าลอบถามเผื่อว่าเธออยากจะลองเปลี่ยนสีน้ำแข็งของตัวเอง
“ได้แน่นอนพะย่ะค่ะ ครั้งหนึ่งเคยมีเอลฟ์ผู้ติดตามของนอร์ทมาที่นี่แล้วตกลงไปในบ่อสี ท่านต้องไม่เชื่อแน่ว่าทั้งตัวของเขาเปลี่ยนสีไปเลย”ไม่ใช่แค่ตัวที่เปลี่ยนสี ลิ้นก็ด้วย
“จริงหรือ? อันนาคงจะชอบน่าดู”
“อันนา? น้องสาวท่านหรือ?”บันนี่พยายามลุ้นให้อันนาเป็นน้องสาว ไม่ใช่ลูกของราชินียังสาวตรงหน้า
“ใช่แล้วล่ะ นางอายุ16แล้วแต่ชอบทำตัวเป็นเด็กอยู่เรื่อย”เอลซ่าเล่าให้บันนี่ฟัง แจ็คยังคงเงียบต่อไปเพราะเขาเองก็ไม่ค่อยอยากจะเสวนากับบันนี่เสียเท่าไหร่
“คงจะสิริโฉมเหมือนท่านเป็นแน่ ต่อเถอะคราวนี้แหละทีเด็ด”บันนี่เดินนำไปเรื่อย ๆ เจ้ากระต่ายหยุดที่เถาไม้เลื้อยขดเป็นวง
“ท่านจับตาดูไข่ใบนั้นให้ดีนะ”บันนี่ชี้ไปที่ไข่สีฟ้าสีเดียวกับตาของเอลซ่า เธอจ้องไข่ใบนั้นอย่างตั้งใจ มันค่อย ๆ เดินด็อกแด็กไปตามใบไม้ และ...
ไข่ใบนั้นกระโดดเข้าไม้ในเถาไม้และพยายามดันตัวเองออกมา และเมื่อดันตัวออกมาได้แล้วก็บังเกิดเป็นลายวิจิตรสวยงามบนไข่ใบนั้น แน่นอนว่ามันสามารถใช้กับอะไรก็ได้ไม่ใช่แค่ไข่
เอลซ่าปรบมือยิ้มร่าอย่างมีความสุข แจ็คที่เฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลาก็พาลมีความสุขไปด้วย เอลซ่ามัวแต่ดูไข่เดินไปเพ้นลายอย่างน่ารักโดยไม่สนใจแจ็ค ตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแจ็คจะทำอะไรอยู่ ดูไข่มันสนุกขนาดนั้นเลยหรอ?
“สุดยอดเลยบันนี่ เพ้นลายเสร็จแล้วยังไงต่อหรือ?”
“ถามได้ดีองค์ราชินี หลังจากที่ชุบสีและเพ้นลายเสร็จเจ้าไข้ใบน้อยก็จะพากันไปซ่อนตัวอยู่ทุกหัวระแหง โดยเดินผ่านโพรงพวกนี้”บันนี่ชี้ไปยังโพรงกระต่ายมากมาย เหล่าไข่ใบน้อยเดินตามกันไปอย่างเป็นระเบียบเพื่อซ่อนตัวรอเด็ก ๆ ในวันอีสเตอร์
“งั้นก็ต้องมีโพรงไปที่เอเรนเดลด้วยล่ะสิ”เอลซ่าเริ่มตื่นเต้นกับโพรงมากกว่าไข่เดินได้เสียแล้ว
“แน่นอนราชินี แต่น่าเสียดายที่งานอีสเตอร์ที่นั่นผ่านไปแล้ว ข้าเลยไม่ได้เชื่อมต่อโพรงกับอาณาจักรของท่าน”บันนี่เอ่ยอย่างเสียดาย เห็นทีปีหน้างานอีสเตอร์ที่เอเรนเดลเขาคงต้องไปลงภาคสนามเองเสียหน่อยแล้ว
“เอาล่ะราชินี ท่านช่วยอะไรข้าหน่อยได้หรือไม่?”
“อะไรหรือ?”
“ช่วยใช้พลังของท่านทำอะไรกับไข่น้อยทั้งหลายนี้ด้วย เพื่อเป็นเกียรติแก่ข้าและน้องไข่”ชื่อเรียกแลดูน่ารัก เอลซ่าใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ไข่ธรรมดานั้นดูพิเศษด้วยพลังของเธอ ทั้งที่อีสเตอร์และหิมะออกจะเข้ากันทำไมเธอถึงนึกไม่ออก
“เจ้าลองทำแบบที่ข้าสอนเมื่อเช้าสิ”แจ็คเสนอ เอ่ยซ่าดีดนิ้วเห็นด้วยกับไอเดียของแจ็ค ไม่ว่าจะเมื่อไหร่เทพแห่งความหนาวก็ทำให้เธออึ้งได้เสมอจริง ๆ
“จริงด้วย ขอบคุณมากนะแจ็ค”เอลซ่าเริ่มร่ายมนตร์น้ำแข็งช้า ๆ บอลหิมะเริ่มก่อตัวทีละนิด ๆ จากลูกเล็กก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ
เอลซ่ายกลูกบอลขึ้นสูงก่อนปล่อยลงมาจากฟ้า เกล็ดน้ำแข็งใสที่ดูแวววาวเหมือนคริสตัลโปรยปรายลงบนไข่ใบแล้วใบเล่าเปล่งประกายระยิบระยับดูสวยขึ้นกว่าปกติหลายเท่าตัว
“งดงามมากเลยพะย่ะค่ะ เด็ก ๆ คงชอบไข่พวกนั้นเป็นแน่”เอลซ่าไม่รู้ว่าไข่พวกนั้นถูกส่งไปที่ไหน แต่เธอหวังให้เด็ก ๆ ชอบฝีมือการตกแต่งไข่ครั้งแรกของเธอ
ขนาดปราสาทยังสร้างมาแล้ว นับประสาอะไรกับไข่...
“เก่งนี่ ทำซะสวยเลยนะ”แจ็คชื่นชมลูกศิษย์ของเขาที่ตอนนี้สามารถใช้พลังได้อย่างคล่องแคล่ว เก่งเสียยิ่งกว่าอาจารย์อย่างเขา
“มีอาจารย์ดีก็อย่างนี้แหละ”เอลซ่าชมแจ็คแบบอ้อม ๆ ทั้งสองหัวเราะคิกคัก มองดูไข่เดินขึ้นไปบนโลกมนุษย์
“อ่ะนี่ ข้าในเจ้า”แจ็คหยิบไข่ใบหนึ่งใส่มือของเอลซ่า เจ้าไข่ถูกชุบสีจนสวยเพ้นเป็นลายหิมะให้แบบที่แจ็คถนัด เอลซ่าพลิกไข่ดูจนรอบและยิ้มออกมาจนแก้มปริ
“ขอบคุณนะแจ็ค คุณแอบทำให้ฉันหรือ?”
“ก็นะ แอบทำขึ้นมาตอนที่เจ้ามัวแต่ดูไข่เดิน”บัดนี้ก็ไม่เข้าใจว่าดูไข่เดินได้มันสนุกตรงไหน แต่ก็ลืมคิดไปว่าไข่ในโลกของเอลซ่านั้นเดินไม่ได้
ขณะที่เอลซ่าก้มหน้ามองพื้น เธอเห็นไข่ใบหนึ่งกลิ้งมาอยู่ที่ใต้เท้าเธอ เธอตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาและร่ายมนตร์น้ำแข็งใส่มันจนเกิดเป็นลวดลายแปลกตา เป็นลายที่สื่อถึงความเป็นราชินีหิมะได้อย่างชัดเจน
“ฉันให้นะ ลายนี้มีใบเดียวในโลกเลยนะ”ทำไมเธอถึงรู้ว่ามีใบเดียว? ก็ไข่ก่อนหน้านั้นที่เธอเสกมนตร์ใส่มันไม่ใช่ลายแต่เป็นผงคริสตัลที่ทำให้มันดูแวววาวเท่านั้น
“จะเก็บไว้อย่างดีเลยล่ะ”แจ็คยัดไข่ที่เอลซ่าให้เขาใส่กระเป๋าอย่างระมัดระวังกลัวว่ามันจะแตก ความเงียบมาเยือนอีกครั้งไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งบันนี่มันด์เดินเข้ามา
“ข้าขอมอบสิ่งนี้ให้ท่าน องค์ราชินี...”บันนี่ยื่นกล่องไม้ให้เอลซ่า เธอยื่นมือไปรับและเปิดมันออก ข้างในเป็นสีชุบไข่ เถาไม้ และดอกไข่อีก3ดอก
“เอาไว้ให้ท่านกับน้องสาวเพ้นเล่นยามเบื่อ”
“ขอบคุณนะบันนี่ แต่ไข่มันมี3ใบ...”
“อ๋อ ข้าแค่เมตตาไอ้เกรียนนี่เลยเผื่อให้ด้วยใบนึง”แจ็คเกือบจะซึ้งในน้ำใจของบันนี่อยู่แล้ว ติดอยู่แค่บันนี่เรียกเขาว่า’ไอ้เกรียน’
“น้ำตาจะไหลเลยล่ะบันนี่ แสดงว่าหายโกรธข้าแล้วใช่ไหม?”
“ยังเว้ย แค้นของข้ากับเจ้ายังรอชำระอยู่”บันนี่หยิบบูมเมอร์อันใหญ่ขึ้นมาขู่แจ็ค แต่มันไม่ได้ทำให้แจ็คกลัวเลย เขายังแกว่งไม้เท้าเล่นอย่างสนุกสนานไม่เกรงใจเจ้าของรังอย่างบันนี่
“เฮ้อ เบื่อจริงพวกไม่ปล่อยวาง ไปกันเถอะเอลซ่า ข้าจะพาเจ้าไปหานอร์ท”
“นอร์ท? ซานต้าหรือเปล่า?”สำหรับคนทั่วไปนอร์ทคือใครก็ไม่รู้ แต่แท้จริงแล้วนอร์ทคือชื่อของซานต้าที่แต่เหล่าเทพเท่านั้นที่รู้
“นั่นแหละ ตาแก่พุงโตคนนั้นแหละ ข้าจะพาเจ้าไปดูโรงงานทำของเล่นของเขา”
“อย่าเข้าไปแบบโจรอีกแล้วกัน”บันนี่เตือน
“ไม่บอกก็รู้น่าพี่จิงโจ้ ไปกันเถอะ”แจ็ครวบตัวเอลซ่าขึ้นมาอุ้มเอาไว้และพาลอยขึ้นสูงออกจากรังของบันนี่ไปอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่ใช่จิงโจ้เว้ย!! กระต่ายอีสเตอร์ต่างหาก”บันนี่ตะโกนไล่หลังไป มิตรภาพแบบแปลก ๆ ของทั้งคู่ทำให้เอลซ่าแอบคิดในใจว่า’เดี๋ยวก็รักกันเอง’อะไรประมาณนี้ ไม่มีใครหรอกที่จะเกลียดกันได้แบบสุด ๆ
“คุณอย่าไปยั่วโมโหบันนี่สิแจ็ค”เอลซ่ากล่าวเตือนด้วยความหวังดี แจ็คไม่สนใจคำเตือนของเอลซ่า กัดกันมาตั้งนานจะให้เลิกกัดกันง่าย ๆ ใครมันจะไปทำได้
“เจ้านั่นอยู่มานานกว่าข้าตั้งรอบนึง ยิ่งอยู่นานยิ่งขี้บ่น ช่างเถอะน่า”เอลซ่าถอนหายใจยาวในความดื้อดึงของผู้ชายคนนี้ ทั้งที่อยู่มาเป็นร้อยปีแต่กลับไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเลย
“จากนี้ข้าจะพาเจ้าไปหานอร์ท เขาต้องชอบเจ้าแน่เพราะงั้นคิดไว้ได้เลยว่าอยากได้อะไรไปฝากน้องสาว”เอลซ่านิ่งอยู่ในอ้อมแขนของแจ็ค เธอตื่นเต้นที่จะได้ไปดูโรงงานของซานต้าคุณลุงแสนใจดีของเด็ก ๆ ทั่วโลก เธอคิดไม่ออกเลยว่าที่นั่นจะใหญ่แค่ไหน แต่ส่งของขวัญให้เด็กทั้งโลกได้คงใหญ่จนเดินไม่ทั่วแน่ ๆ
คนเราไม่รู้ตัวหรอกว่าบางทีเราก็มีบางคนที่เฝ้ามองเราอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะในฐานะอะไร บางคนแม้ว่าเราจะไม่เคยหันไปสนใจเขาแต่เขาก็ยังคงมองเราอยู่ตลอดเวลา อย่ามัวแต่ยุ่งจนไม่สนใจใคร เพราะคนที่แอบมองเราด้วยความรู้สึกดี ๆ อาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด
******************************
Free Talk :
ตอนเริ่มเรื่องเป็นเรื่องจริงนะคะ ประเทศไทยเคยมีหิมะตกจริง ๆ ค่ะลองค้นgoogleได้เลย แล้วที่ช่วงนี้อากาศหนาวเพราแจ็คกับเอลซ่าบินผ่านประเทศไทยค่ะ(ฮา) ตอนนี้บันนี่โผล่มาแล้วค่ะ อย่าเพิ่งหนีไปจิ้นบันนี่ x แจ็คกันหมดนะคะ 555 เขียนตอนนี้แล้วรู้สึกว่าเอลซ่าเสน่ห์แรงจริงถึงบันนี่จะรักแค่ในฐานะเพื่อนไม่ใช่...เหมือนแจ็คก็เถอะค่ะ(“...”คืออะไรหว่า) อยากเขียนให้ทุกคนจินตานาการถึงรังของบันนี่ได้แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถหรือเปล่าทำได้แค่นี้แหละค่ะ โฮว...
วันจันทร์ พุธ พฤหัสนี้ไรต์มีสอบนะคะ ไม่รู้จะได้อัพหรือเปล่า วันอาทิตย์ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันงานเยอะมาก เรื่องนี้โดนเพื่อนไซโคให้เขียนยาวแล้วถ้ามีคนตามเยอะมันจะเชียร์ให้พิมพ์ค่ะ เอาไว้ถึงเวลานั้นจะพิจารณาเพราะไรต์ก็อยากทำเหมือนกัน ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าเนอะไม่ต้องรีบ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่าน+คอมเม้นนะคะ สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น