ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic JackFrost x Elsa] Warming winter

    ลำดับตอนที่ #11 : 11th Hour : You got a Choice

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 57


    “เอลซ่า นี่ตั้งทุ่มนึงแล้วนะ เจ้ายังจะออกไปตามหาคนร้ายอีกหรือ?”แจ็ครั้งเอลซ่าไม่ให้เดินออกจากห้องครัว เธอทำท่าจะออกไปตามหาคนร้ายอยู่สักพักแล้วซึ่งแจ็คก็ค้านหัวชนฝา อ้างว่าดึกแล้วบ้าง อันตรายบ้างนั่นก็เพราะเป็นห่วงเธอทั้งนั้น

    “ฉันจะไปแจ็ค ก่อนที่มันจะหนีไปได้ไกล”เธอสะบัดมือแจ็คออกมุ่งหน้าตรงไปยังประตูวัง แจ็คไม่ยอมให้เธอไปแน่ ๆ เขาบันดาลกำแพงน้ำแข็งหนามาล้อมประตูเอาไว้ไม่ให้เธอไปไหน เอลซ่าเริ่มออกอาการไม่พอใจ เธอร่ายเวทย์หิมะทำลายกำแพงของแจ็คและเดินต่อไปโดยไม่สนใจเขา

    “เอลซ่า เจ้าฟังข้าบ้างสิ นี่มันมืดแล้วนะ อย่าไปเลยมันอันตราย”

    “คุณไม่เข้าใจหรอกแจ็ค ป่านนี้คนร้ายมันหนีไปไหนต่อไหนแล้วไม่รู้ ฉันต้องรีบลากตัวมันมาให้ได้ ถ้าคุณไม่ไปก็อยู่ที่นี่”เอลซ่าดึงดันจะไปท่าเดียว เธอเดินไปคุยไปกับแจ็ค แม้ว่าแจ็คจะพยายามกล่อมเธออย่างไรก็ไม่เป็นผล เธอดื้อกว่าที่เขาคิดไว้มาก

    “ไม่ ข้าจะไปกับเจ้า และให้สัญญากับข้าว่าจะไม่ทำอะไรเสี่ยง ๆ”แจ็คลอยมาขวางหน้าเอลซ่า เธอเดินเลี้ยวหลบเขาอย่างไม่ใยดี

    “ทำไมฉันจะต้องสัญญากับคุณด้วย?”

    “เพราะถ้าเจ้าไม่สัญญาข้าก็จะขังเจ้าไว้ในกรงน้ำแข็งแบบนี้ไง”เขาเนรมิตกรงน้ำแข็งขนาดยักษ์ขึ้นมาเพื่อขังเธอ เอลซ่าเห็นดังนั้นจึงพยายามร่ายเวทย์เพื่อตัดกรงน้ำแข็งของแจ็คออกแต่ไม่เป็นผล

    “เจ้าตัดกรงน้ำแข็งนี่ไม่ได้หรอก ชั่วโมงบินของข้ากับเจ้าต่างกันมากเอลซ่า ยอมสัญญากับข้าซะแล้วข้าจะพาบินไปจะได้เร็ว ๆ ไง”ได้ยินดังนั้นเอลซ่าจึงลองตรองดูอีกครั้งและพบว่าหากสัญญากับแจ็คแล้วทำตามที่เขาบอกจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เธอแน่ใจเกินร้อยว่าจะไม่ก่อความวุ่นวายอะไรแน่ ๆ

    “ก็ได้ ๆ รีบปล่อยฉันเร็ว ๆ สิเดี๋ยวคนร้ายก็หนีไปก่อนหรอก”เธอเร่งแจ็คเสียงดัง เอาจริง ๆ คนร้ายคงหนีไปตั้งแต่ก่อเหตุแล้ว ไหนจะเวลา1ชั่วโมงเต็ม ๆ ที่เธอมัวแต่ทำกับข้าวให้อันนาอีกล่ะ

    แจ็คละลายกรงน้ำแข็งปล่อยเอลซ่าให้เป็นอิสระ แจ็คยื่นมือมาตรงหน้าเอลซ่าให้เธอจับซึ่งเอลซ่ารู้ดีว่าต้องทำอย่างไร เธอจับมือแจ็คไว้แน่นและตัวเธอก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า วิวจากตรงนี้ทำให้เธอเห็นทุกอย่างและแน่นอนว่าเธอสามารถมองเห็นทุกคนได้จากมุมนี้

    “แจ็ค คุณพอจะมีตัวช่วยให้เราหาตัวคนร้ายได้เร็วขึ้นไหม?”

    “ของแบบนั้นจะไปมีได้ยังไง? เจ้าต้องหาเองแล้วล่ะเอลซ่า”เธอเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว เธอรู้ดีว่ายังไงซะก็ไม่พ้นเธอต้องหาเองอยู่ดี โชคดีที่สายตาเธอดีทำให้มองเห็นทุกอย่างได้แม้ในระยะที่ไกลเล็กน้อย

    แกว๊กกกกกก!!

    “กรี๊ด!!/อ้าก!!”จู่ ๆ ก็มีฝูงนกอพยพพุ่งเข้าชนทั้งคู่ แจ็คเสียการทรงตัว ทำให้ทั้งสองต้องร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน

    ตุ้บ!!

    “เจ็บชะมัดเลย นกพวกนี้เล่นมาไม่ให้ตั้งตัวเลย”แจ็คลูบท้ายทอยของตัวเองเบา ๆ ด้วยความตกใจจึงทำให้แจ็คและเอลซ่าสร้างเกาะน้ำแข็งป้องกันไม่ทัน นับว่ายังดีที่ได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

    หลังจากได้สติกลับคืนมาครบถ้วนแจ็คเริ่มสอดส่องสายตามองหาเอลซ่า เธอน่าจะตกมาที่จุด ๆ เดียวกับเขาเพราะในระหว่างที่ตกนั้นไม่มีกระแสลมพัดผ่าน อีกทั้งเธอยังจับมือเขาจนวินาทีสุดท้าย

     

    ถ้าจำไม่ผิดนะ...

     

    “เอลซ่า!! เจ้าอยู่ไหนเอลซ่า!!”แจ็คตะโกนร้องเรียกเธอ แต่ไม่ว่าจะตะโกนเท่าไหนก็ไร้ซึ่งสุรเสียงตอบกลับ แจ็คเริ่มคิดไปในแง่ร้ายต่าง ๆ นานา เขาตีหัวตัวเองให้ลบความคิดแย่ ๆ พวกนั้นออกไปให้หมดเพื่อไม่ให้เป็นบ่อเกิดของลางไม่ดีที่จะตามมาภายหลัง

    แจ็คลอยขึ้นสู่ที่สูงอีกครั้งเพื่อให้หาเอลซ่าได้ง่ายขึ้น เขาหันซ้าย หันขวา หันแล้ว หันอีกแต่ก็ไม่พบเธอ แต่เขาก็ไม่คิดถอดใจง่าย ๆ เขาพยายามคิดในแง่ดีว่าเธอต้องไม่เป็นอะไรและพยายามมองหาเธอจากด้านบนต่อไป

    “นั่น!!”แจ็คเหลือบไปเห็นวัตถุสีฟ้าคล้ายกับเสื้อผ้าที่เอลซ่าสวมใส่ก่อนออกมา เขาไม่รอช้ารีบปล่อยตัวลงสู่พื้นดินทันที แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด หญิงสาวนอนสลบใบหน้าเปื้อนหิมะเกาะกรัง ตัวเธอจากที่เย็นอยู่แล้วก็เย็นยิ่งกว่าเก่า เขานึกเจ็บใจตัวเองว่าทำไมเวลาแบบนี้เขาจึงไม่สามารถช่วยผู้หญิงที่เขารักได้

    “แจ็คฟรอส...”จู่ ๆ ก็มีเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องเรียกเขา แจ็คแน่ใจว่านี่ไม่ใช่เสียงของเอลซ่า เมื่อเขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปดูพบเด็กผู้หญิงอายุราว ๆ 5-6ขวบยืนมองเขาอยู่ เธอเห็นเขาแสดงว่าเธอเชื่อในเขา!!

    “เจ้า... มองเห็นข้า?”แจ็คชี้ที่ตัวเอง และเด็กผู้หญิงคนนั้นก็พยักหน้าตอบเขา

    “ทำไม... ทำไมเจ้าถึงมองเห็นข้าได้? ข้าไม่มีตัวตนมาหลายร้อยปีจนราชินีแห่งเอเรนเดลมองเห็นข้า แล้วตอนนี้เจ้า... ก็มามองเห็นข้าอีกคน ข้าจะ... ข้าจะรู้สึกอย่างไรดีเนี่ย...”แจ็คเริ่มสับสนในตัวเอง เขาเดินไปรอบ ๆ ทำอะไรไม่ถูก เด็กผู้หญิงคนนั้นมองเขาอย่างมึนงงก่อนเดินเข้ามาประคองร่างของเอลซ่าและสะกิดชายกางเกงเขาเบา ๆ

    “องค์ราชินิ... ทรงบาดเจ็บอยู่...”เด็กหญิงมองหน้าเขาตาแป๋ว แจ็คพยายามลืมเรื่องของตัวเองไปก่อนและหันไปสนใจราชินีหิมะที่กำลังบาดเจ็บอยู่บนพื้นหิมะเย็นเฉียบ

    “จริงด้วย ขอบใจเจ้ามากนะ”เขาอุ้มเอลซ่าขึ้นจากพื้นหิมะเย็นเฉียบ เธอดูไม่เหมือนสลบสักนิดกลับกันดูเหมือนหลับไปเฉย ๆ มากกว่า แล้วท่าทางจะหลับสบายเสียด้วย

    “ข้าถามเจ้าหน่อยสิ ทำไมเจ้าถึงมองเห็นข้า?”แจ็คถามเด็กผู้หญิงคนนั้น

    “หนูเป็นเด็กกำพร้า คุณลุงคุณป้าที่เป็นชาวนาแถบตีนเขารับเลี้ยงหนูไว้...”เธอเริ่มเล่าเรื่องของเธอให้ฟัง

    “ในหน้าหนาวทุกปีเราต้องรีบเก็บเกี่ยวก่อนที่หิมะจะตก คุณลุงคุณป้าบอกว่าที่ต้องทำแบบนั้นก็เพราะคุณทำน้ำมูกไหล”เธอช่างเด็กจริง ๆ ที่ยังเชื่อเรื่องแจ็คฟรอสทำน้ำมูกไหลที่พวกผู้ใหญ่เล่าให้ฟังอยู่ ถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีเวลาจะเล่าความจริงให้เธอฟัง เขาต้องหาที่พักหลบหนาวในเอลซ่าก่อนที่ตัวของเธอจะเย็นไปมากกว่านี้

    “นี่ เจ้าพอจะมีที่พักหลบหนาวให้พวกข้าไหม? แบบว่าที่ ๆ อบอุ่น มีเตาผิงอะไรแบบนี้น่ะ”

    “มี... แต่คุณต้องสัญญานะว่าถ้าหนูช่วยคุณแล้วคุณจะไม่ทำน้ำมูกไหลก่อนช่วงเวลาเก็บเกี่ยว”สิ้นคำของเด็กหญิงแจ็คกุมขมับด้วยความเหนื่อยใจ จะอธิบายอย่างไรให้เธอเข้าใจดีว่ามันเป็นฤดูกาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตัวเขามีหน้าที่แค่บันดาลหิมะเท่านั้น

    “ข้าคงสัญญาไม่ได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เพราะข้าทำน้ำมูกไหล ถ้าเจ้าต้องการอย่างที่เจ้าว่าข้าแนะนำให้ไปคุยกับเทพแห่งฤดูกาล โอเค?”เธอส่ายหน้าปฏิเสธ

    “คุณลุงคุณป้าบอกว่าเป็นฝีของคุณ คุณลุงคุณป้าไม่มีทางโกหกหนู”บางครั้งแจ็คก็อยากรังแกเด็กขึ้นมาบ้างเหมือนกัน เข้าใจว่าเด็กต้องดื้อเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ช่วยดื้อให้เป็นเวลาจะได้ไหม?

    “นี่เชื่อข้าเถอะ ข้าไม่ได้เป็นคนทำ นั่นมันแค่เรื่องเล่าปรัมปรา... เอาอย่างนี้นะ ถ้าเจ้าไม่อยากช่วยข้าก็ช่วยนางได้ไหม? นางเป็นราชินีแห่งเอเรนเดลและตอนนี้นางกำลังแย่ ช่วยทำให้ตัวนางอบอุ่นทีถือว่าข้าขอร้อง...”เด็กหญิงเหม่อมองราชินีหิมะในอ้อมกอดของแจ็คฟรอส เธอยังมีความสำนึกในบุญคุณของเอลซ่าที่ยกที่ดินผืนนี้ให้ลุงและป้าของเธอทำกิน แม้ครั้งหนึ่งนางจะเคยสาปให้ทั้งอาณาจักรเป็นน้ำแข็งก็เถอะ

    “ตกลง... หนูจะพาราชินีไปผิงไฟในบ้านของหนู แต่คุณต้องอยู่ข้างนอก ห้ามเข้าไปนะ”แจ็คพยักหน้าตกลง ต่อให้เขาอยู่ในอากาศหนาวแค่ไหนก็ไม่เป็นไรแต่เอลซ่านี่สิ แม้เธอจะเป็นราชินีหิมะแต่เธอก็ยังคงเป็นมนุษย์ และมนุษย์ไม่สามารถปล่อยให้ร่างกายเย็นดั่งน้ำแข็งเป็นเวลานานได้

    เด็กหญิงที่แจ็คไม่รู้จักชื่อพาเอลซ่าเข้าไปในกระท่อมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเธอพร้อมทั้งลุงและป้าที่รับอุปการะเธอไว้ ทันทีที่ชาวนาทั้งสองได้เห็นราชินีแห่งเอเรนเดลก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่วิ่งวุ่นทั่วบ้าน จนเมื่อตั้งสติได้จึงรู้ตัวว่าควรพาเธอไปผิงไฟและเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นเพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกาย

    แจ็คเฝ้ามองเธอผ่านทางหน้าต่างด้วยความเป็นห่วง เขาดูอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอปลอดภัยแล้วจึงตัดสินใจลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อตามหาตัวคนร้ายโดยลำพัง เขาคิดว่าหากเขาสามารถหาตัวคนร้ายมาให้เธอได้ เธอก็จะไม่ต้องร้อนรนออกไปตามหาเองและก่อเรื่องวุ่นวายระหว่างทางในอาณาจักรกลายเป็นน้ำแข็งซ้ำอีก

    และเมื่อแจ็คเฝ้ามองเธอจนแน่ใจว่าเอลซ่าอาการดีขึ้นแล้ว เขาตวัดไม้เท้าลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า มองหาใครซักคนที่พอจะเห็นเหตุการณ์ลอบสังหารอันนาเมื่อเช้า แต่ตอนนี้ก็มืดแล้วไม่น่าจะมีใครออกมาเดินเตร่ท่ามกลางหิมะแน่ ๆ แจ็คเกือบจะถอดใจกลับไปเฝ้าเอลซ่าหน้ากระท่อมแล้ว จนสายตาไปปะทะเข้ากลับชายคนหนึ่งที่กำลังเดินฝ่าหิมะไปอย่างยากลำบาก

    “นั่น... ผู้ชายที่เจอในร้านขายของนี่นา”แจ็คตัดสินใจร่อนลงสู่พื้นเบื้องล่างเพื่อตามสังเกตชายน่าสงสัยคนนี้ จริงอยู่เมื่อเย็นเขาบอกเอลซ่าเอาไว้ว่า ชายคนนี้แต่งตัวซอมซ่อไม่น่าจะใช่คนร้าย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนร้ายไม่ได้

    “เฮ้ นายน่ะชื่อฮานส์ใช่ไหม? รู้อะไรเรื่องอันนาตอบข้าหน่อยสิ”แจ็คถามไปทั้งที่รู้ดีว่าไม่ได้คำตอบ

    “นี่เจ้ารู้ไหม ข้าน่ะไม่ได้อยากจะสงสัยเจ้าเลยนะ แต่เจ้าดันโผล่มาตอนสำคัญเสียได้”ฮานส์ก็ยังคงไม่ได้ยินอะไรเช่นเดิม

    “เอลซ่ามั่นใจเกินร้อยเลยล่ะว่าเจ้าเป็นคนร้าย ข้าถามเจ้าจริง ๆ เถอะนะฮานส์ เจ้าใช่คนที่ทำร้ายอันนาหรือเปล่า? ตอบข้าหน่อยสิอย่ามัวแต่หยิ่ง!!

    “ต้องรีบหนี... ก่อนที่จะมีคนตามเจอ...”ในที่สุดฮานส์ก็เริ่มเปิดปากพูด แม้จะเป็นการพูดปลอบใจตัวเองแต่แจ็คก็ต้องตั้งใจฟังให้ดี

    “หนี้แค้นเรายังไม่หมดเอเรนเดล... ไม่ใช่แค่อันนา... เอลซ่าจะเป็นรายต่อไป...”บางครั้งแจ็คก็สงสัยว่าทำไมคนร้ายมักชอบพูดกับตัวเองเรื่องแผนการ คิดในใจไม่เป็นหรือไง? แต่นั่นก็นับว่าโชคเข้าข้างเขาเพราะตอนนี้แจ็ครู้แล้วว่าคนที่ก่อเรื่องทั้งหมดคือฮานส์ และเขากำลังจะหลบหนี

    “ข้าต้องทำอะไรสักอย่าง...”แจ็คเดินตามฮานส์ไป คิดแผนไป ต่อให้ตอนนี้แจ็คจับฮานส์เอาไว้ได้เอลซ่าก็ยังลุกจากเตียงไม่ไหว และหากจับฮานส์เอาไว้นาน ๆ อาจจะไม่ดีเพราะเขาอาจจะตายก่อนได้รับโทษ แม้จะฟังดูสะใจแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรนัก

    ฟุ่บ!!

    กรงน้ำแข็งยักษ์ผุดขึ้นจากพื้นมาล้อมรอบตัวฮานส์อย่างรวดเร็ว แจ็คทำไปเพราะเขาไม่มีเวลามากพอจะมาคิดอะไรแล้วตอนนี้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง และสิ่งต่อไปที่เขาจะทำคือปลุกเอลซ่าให้ตื่นแม้จะเป็นการฝืนร่างกายเธอก็ตาม

    “อะไรเนี่ย!? เอลซ่าหรือ? เอลซ่า!! ปล่อยข้าออกไป!!”แจ็คต้องขังฮานส์ไว้ในกรงน้ำแข็งกลางป่าไว้ชั่วคราวจนกว่าเอลซ่าจะมาถึง แจ็ครีบเดินทางไปยังกระท่อมตีนเขาและจำเป็นต้องผิดสัญญากับเด็กหญิงว่าจะไม่เข้าไปข้างใน

    “เอลซ่า!! เอลซ่า!! ตื่นสักทีสิเอลซ่า!!”แจ็คเขย่าตัวเธอ เด็กหญิงเดินเข้ามาในห้องพอดี เธอเห็นเขาและพยายามไล่เขาออกจากกระท่อม

    “ออกไปนะแจ็คฟรอส!! ไหนคุณบอกว่าจะไม่เข้ามาไง!!

    “มันจำเป็นจริง ๆ นะ!! ข้าต้องพาเอลซ่าไปที่อื่น”แจ็คไม่มีเวลาอธิบายให้เด็กหญิงฟัง เขาอุ้มเอลซ่าเอาไว้และบันดาลสายพายุเพื่อเปิดประตูกระท่อมก่อนจะลอยหายไปลับตาเด็กหญิง ระหว่างทางแจ็คภาวนาให้เธอตื่นขึ้นมาเองเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาปลุก แต่แน่นอนไม่มีอะไรเป็นดังที่เขาคิดเลย

    “ข้าขอโทษนะเอลซ่า...”ในเมื่อเธอไม่ยอมตื่น แจ็คก็จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงกับเธอ เขาเสกขึ้นแข็งเข้าไปในมือเธอเพื่อกระตุ้นให้เธอตื่นและแน่นอนมันก็ต้องมีเจ็บบ้าง แต่ไม่นานนักเอลซ่าก็สพดุ้งตื่นขึ้นมานับว่าเป็นการเจ็บตัวที่คุ้มค่าพอควร

     

    ...รู้งี้ทำไปนานแล้ว

     

    “แจ็ค... ฉันอยู่ที่ไหน?”

    “เราจะไปหาคนร้ายกัน ข้าจับเขาขังเอาไว้เราต้องรีบไปก่อนที่เขาจะแหกกรงหนีออกมาได้”ทั้งคู่ถูกพัดไปอย่างรวดเร็ว ลมเย็น ๆ ตีหน้าเข้ามาจนใบหน้าด้านชาไปหมด แต่ก็ต้องอดทนเพราะความจริงอยู่ตรงหน้าไม่มีเวลามาโอ้เอ้

    “คุณหาเขาเจอได้อย่างไรแจ็ค?”เอลซ่าถาม

    “เอาเป็นว่าข้าตามหาเขาในระหว่างที่เจ้านอนสลบอยู่ก็แล้วกัน”แจ็คไม่อธิบายอะไร เอลซ่าแทบจะรอพบหน้าคนร้ายไม่ไหว เธอกำลังคิดอยู่ว่าเธอจะเสกน้ำแข็งเข้าไปในส่วนใดของร่างกายคนร้ายดี อาจจะเป็นหัวใจหรือไม่ก็หัว?

    ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงที่หมายโดยปลอดภัย เอลซ่าเดินตรงดิ่งเข้าไปหากรงน้ำแข็งหนาที่แจ็คสร้างขึ้น ภายในมีเสียงแกร๊ง ๆ เหมือนโลหะกระทบน้ำแข็ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนร้ายพยายามแหกกรงหนีอยู่

    .

    .

    .

    .

    “ฮานส์...”

    “เอลซ่า...”

    “นายเป็นคนทำร้ายอันนาหรือ?”เอลซ่าตัดสินใจถามไปตรง ๆ

    “เปล่านะ ข้าถูกขับออกจากเกาะทางทะเลใต้แล้วก็โซซัดโซเซมาที่เอเรนเดล ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ!!”ฮานส์โกหกคำโต เอลซ่าที่ยังไม่รู้ความจริงก็เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่งอยู่ ตอนนี้เธอคงต้องเริ่มการสอบสวนกันกลางป่าเสียแล้ว

    “ฉันไม่รู้ว่านายจะโกหก ตอแหลอะไรอีก แต่ถ้านายเป็นคนทำร้ายอันนาจริง ๆ ล่ะก็ฉันจะกดดันนายให้นายคายความจริงออกมาเอง...”

    ไม่มีใครไม่เคยตัดสินใจผิดพลาด แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีคนมาคอยห่วง คอยเตือนเราว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แต่ขอโทษเพราะชีวิตจริงมันไม่มี หากไม่ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองก็ไม่มีวันที่จะก้าวหน้าได้ คนรอบตัวเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ของทุกอย่างสุดท้ายก็มาจากตัวเราที่เป็นตัดสินใจทั้งหมด เลือกให้ดี ๆ จะได้ไม่เสียใจกับผลลัพธ์ที่จะตามมา

     
    ****************************
     

    Free Talk:

    ตอนนี้ไม่หวานแล้วค่ะ ขออนุญาตปิดสวิตช์ Finvation ของรีดเดอร์เป็นการชั่วคราวค่ะ เพราะเราจะเข้าสู่โหมด โคนันเด็กนรก กันแล้ว ไม่ต้องห่วงค่ะตอนหน้าความหวานก็กลับมาแล้ว แต่ก็จะมีดราม่าปวดตับเข้ามาด้วยสลับกันไป ให้ทำใจค่ะเผื่อตอนจบจะปวดตับ ฟรีทอล์กตอนนี้ขอสั้นหน่อยนะคะดูแลแฮมสเตอร์จน XP หมดเลย เจอกันตอนหน้าค่ะ

    ปล.ตอนจบยังไม่ตายตัวนะคะ ไรต์แค่ดักไว้เผื่อไม่มีคนอ่านจะได้ตัดจบให้ปวดตับเล่นกันเฉย ๆ 555

    ปลล.ครบ111เม้นจะมีตอนพิเศษชื่อ Once upon of you เป็นเรื่องราวสมัยที่เอลซ่ายังมองไม่เห็นแจ็คค่ะ แต่งไว้แล้วรอเม้นครบอยู่นะคะ(ห้ามปั่นคอมเม้นกันนะ!!)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×