ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic JackFrost x Elsa] Warming winter

    ลำดับตอนที่ #10 : 10th Hour : The Strangest thing

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 57


    เอลซ่าเปลี่ยนชุดลำลองอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้ใส่ชุดน้ำแข็งเหมือนที่เคย แต่เธอเปลี่ยนไปใส่ชุดเดรสยาวกร่อมเท้าสีน้ำเงินเข้มแทน แต่ก็ไม่ทำให้ออร่าความเจิดจรัสของราชินีหิมะจืดจางลง เธอยังคงความสง่างามสมกับที่เป็นราชนิกูล ผมสีบลอนด์แพลตตินั่มถูกมัดเป็นมวยเผยให้เห็นดวงหน้างามดุจดั่งเทพธิดาชัดเจนยิ่งขึ้น

    แจ็คฟรอสเดินออกจากห้องน้ำพลางขยี้ผมไปด้วยต้องตะลึงกับสาวงามราชนิกูลตรงหน้า เธอสวยสมเกียรติราชินีแห่งเอเรนเดลแม้จะอยู่ในชุดลำลอง ความงามที่ต้องตา ต้องใจชายทั่วราชทำให้ชุดที่ดูธรรมดาดาษดื่นนั้นดูน่ามองขึ้นมาเป็นกอง แจ็คยังคงจ้องเธอไม่วางตา จนเอลซ่าเริ่มรู้สึกอึดอัด

    “จะจ้องฉันอีกนานไหม?”มีอะไรน่ามองในตัวเธอกันหนา

    “อ้อ... โทษทีที่เสียมารยาท เจ้าจะไปไหนต่อ?”แจ็คใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนเดินเข้าไปหาเธอ

    “ออกไปข้างนอก ฉันจะซื้อของมาทำมื้อเย็นให้อันนา”เป็นการบอกเขาอ้อม ๆ ว่าเย็นนี้ฉันจะกินข้าวกับน้องสาว แจ็คเองก็ไม่ได้ว่าอะไรยังไงเขาก็ทำได้เพียงตามเธอต้อย ๆ ไม่ให้เธออ้างว้างและหว่าเหว้(?)

    “ตามใจเจ้าเถอะ ก่อนไปอย่าลืมไปบอกแม่ครัวด้วยว่าไม่ต้องทำอาหาร”แจ็คเตือนเธอ เอลซ่ายังโมโหแจ็คไม่หายที่บังอาจคิดทะลึ่งกับเธอ ดังนั้นบทลงโทษคือในตอนนี้เธอจะพูดกับเขาน้อยกว่าปกติ

    “ไม่บอกก็รู้...”

    เอลซ่าเดินตรงเข้าไปสั่งสาวใช้ในครัวเรื่องที่ไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นให้เธอและอันนา แม่ครัวทั้งหลายพยักหน้ารับทราบอย่างพร้อมเพรียงก่อนปลีกตัวออกไปทำงานส่วนตัวอย่างที่ควรจะเป็น เอลซ่าเดินดุ่ม ๆ ออกนอกวังตรงไปยังร้านขายผักหัวมุมถนน เธอยืนเลือกผักสดอยู่นานก่อนจะได้ต้นหอม หอมแดง และใบเซลเลอรี่อีกกำใหญ่

    “ซื้อมาแค่นั้นเจ้าจะทำอะไรกิน?”

    “ซุป”การลงโทษยังไม่เสร็จสิ้น เธอยังคงพูดคำ ตอบคำกับแจ็คเหมือนเดิม

    “มีซุปที่ไหนใส่หอมแดง?”

    “...”

    “โอเค อารมณ์ศิลป์ขึ้นหน้าสินะ งั้นข้ามีพูดแล้วก็ได้”แจ็คไม่รู้ตัวเองว่าเขาทำเอลซ่าโมโหเข้าเสียแล้วถึงไม่รู้สึก รู้สาอะไรเลย หรือไม่เขาก็รู้ แต่เพียงไม่พูด

    เอลซ่าเดินเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์ทำเบเกอรี่ หยิบถุงแป้งสาลี เนย ไข่ไก่ นมสด ช็อกโกแล็ต ผงโกโก้ และวิปปิ้งครีมใส่ตะกร้าเดินไปที่เค้าเตอร์จ่ายเงินอย่างรวดเร็วไม่สนใจเสียงนก เสียงกา ลมเพ ลมพัด ก่อนเดินออกจากร้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

    15นาทีที่ผ่านมาไม่มีบทสนทนาใด ๆ ออกจากปากทั้งแจ็คและเอลซ่า แจ็คยังคงตามเธอต้อย ๆ อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ เอลซ่าเองก็ยังคิดสะระตะเกี่ยวกับเรื่องอันนาและเรื่องมื้อเย็น เธอหยุดอยู่หน้าร้านขายของทะเล หน้าร้านมีปู กุ้ง และหมึกสด ๆ ตัวใหญ่ ๆ ตั้งวางอยู่หน้าร้าน เอลซ่าวางถุงกระดาษที่ใส่วัตถุดิบที่เธอซื้อมาในตอนแรกลงกับพื้น และลงมือเลือกปูอยู่หน้าร้านท่ามกลางความสนใจของผู้คนที่ผ่านไปมา

    “ราชินีเอลซ่าล่ะ...”

    “องค์ราชินีเสด็จมาซื้อของเองด้วย”

    “พระนางช่างน่ารักจริง ๆ”

    “ฉันอยากลองคุยกับนางดูสักครั้งจัง”สารพัดเสียงเข้าหูเอลซ่า เธอยังไม่ละสมาธิออกจากปู เธอยังคงตั้งหน้า ตั้งตาเลือกปูตัวที่ใหญ่ที่สุดอย่างขะมักขะเม้น

    “โอ้... องค์ราชินี ไม่ทราบว่าพระองค์ต้องการจะซื้ออะไรพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเลือกสรรของที่ดีที่สุดให้พระองค์เลยเทียว”เจ้าของร้านเอ่ยทักทายอย่างอารี เอลซ่าเงยหน้ายิ้มให้เขา ก่อนพยุงตัวเองให้ยืนขึ้นมาคุยกับเจ้าของร้าน

    “ฉันอยากได้ปูตัวโต ๆ วันนี้ฉันจะลงมือทำมื้อเย็นให้อันนา”เธอบอกความต้องการของเธอให้เจ้าของร้านทราบ

    “ถ้าเช่นนั้นขอเชิญพระองค์เข้ามาด้านในเลยพะย่ะค่ะ กระหม่อมมีของดีจะเสนอให้”เจ้าของร้านเชื้อเชิญเธอให้เข้าไปภายในร้าน เธอฝ่ากล่องลังใส่ของทะเลเข้าไปด้านในสุด

    “นี่คือปูอลาสก้าพะย่ะค่ะ เป็นปูนำเข้าตัวนี้เป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดที่กระหม่อมมี เนื้อเยอะ หวาน นุ่มลิ้น ทำอะไรก็อร่อยพะย่ะค่ะ”เอลซ่ามองปูยักษ์ตัวใหญ่สักประมาณเกือบ2เมตรได้ ไม่บอกก็รู้ว่าราคาต้องสูงมาก แต่เธอก็อยากให้อันนาได้กินของอร่อย ๆ เหมือนกัน

    “งั้นฉันเอาตัวนี้แหละ ช่วยใส่กล่องให้ฉันถือง่าย ๆ ทีนะ”เธอไหว้วานเจ้าของร้านอย่างนอบน้อมไม่ถือตัว

    “รับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ”เจ้าของร้านโค้งให้เธอก่อนหยิบปูตัวนั้นใส่กล่องไม้ก่อนจับยัดลงถุงกระดาษและส่งให้เอลซ่า

    “เท่านี้พอไหม?”เธอยื่นเหรียญทองสิบเหรียญให้เจ้าของร้าน เขาตาเป็นประกายแต่หยิบเหรียญทองคืนให้เธอสองเหรียญ

    “กระหม่อมลดให้พะย่ะค่ะ เพื่อเป็นเกียรติแก่องค์ราชินีและองค์หญิงอันนา”นาน ๆ ทีจะมีเชื้อพระวงศ์มาเยือนถึงร้าน เขาควรจะให้ปูฟรีไปเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นปูนำเข้า

    “ขอบใจมากนะ อันนาคงดีใจมาก”เธอเดินออกจากร้านไปท่ามกลางสายตาของประชาชนที่มองมาที่เธออย่างประหลาดใจ

    แจ็คและเอลซ่ายังคงเงียบใส่กันไม่พูดอะไร จนมาถึงหน้าประตูวังเอลซ่าจึงเป็นฝ่ายยอมพูดคุยกับเขาก่อน

    “ฉันจะลงครัวทำมื้อเย็นเอง อยากมาช่วยไหม?”แจ็คเลิกคิ้ว ปั้นสีหน้าฉงน อยากเงียบก็เงียบ อยากคุยก็คุย ผู้หญิงนี่เป็นแบบนี้นี่เอง

    “เอาสิ เจ้าจะทำอะไรบ้าง?”

    “ก็มีซุปข้าวโพด ซูเฟล่ชีสซอสปู แล้วก็บราวนี่”มีแต่ของชอบของอันนาทั้งนั้น

    “เพิ่งรู้ว่าราชินีแห่งเอเรนเดลทำอาหารเป็นด้วย”แจ็คกระเซ้าเธอ

    “ก็เพิ่งจะมาหัดเอาตอนขึ้นครองราชย์นี่แหละ แบบว่ามันว่างก็เลยลองทำอะไรแปลกใหม่บ้าง”แจ็คพยักหน้าเข้าใจ

    “แต่อันนาน่ะทำไม่เป็นหรอก ส่วนมากจะไม่ช่วยฉันถือของแล้วก็กลับมารอกินเสียมากกว่า”เอลซ่าเริ่มย้อนอดีตให้แจ็คฟังอีกครั้ง

    “ฉันกับอันนาต่างกันมาก บางครั้งฉันก็สงสัยว่าบางทีอันนาอาจจะอยากมีพี่สาวที่เหมือนกับตัวเองมากกว่าพี่สาวที่แตกต่างคนละขั้วอย่างฉัน”เอลซ่าเริ่มคิดมาก มากขึ้น ๆ ๆ และมากขึ้นไปอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายเวลา

    “ตลอดเวลาที่ผ่านมาอันนาเกาะติดฉันแจจนฉันเริ่มสงสัยว่าอันนารู้จักคำว่าเวลาส่วนตัวบ้างไหม แต่พอมาคิดย้อนดูอีกทีที่อันนาเป็นแบบนี้ก็เพราะตลอดเวลาหลายสิบปีฉันไม่เคยออกมาเล่นกับเธอเลย ฉันเลยไม่ได้ว่าอะไรเธอ”ความในใจที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้เป็นเวลานานถูกเปิดเผยเมื่ออยู่ต่อหน้าแจ็ค เน้นย้ำว่าต่อหน้าแจ็ค

    แจ็คไม่กล้าที่จะออกความเห็นเพราะเกรงว่าพระนางจะอารมณ์ศิลป์เข้าเอาตอนนี้

     

    ผู้หญิงก็ไม่ต่างอะไรกับพายุเลยจริง ๆ

     

    ทั้งสองเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงห้องครัว ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องครัวในวังหลวงนั้นก็ต้องกว้างขวางและมีอุปกรณ์ทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัวชั้นเลิศหรือเครื่องเทศจากทุกมุมโลก นั่นทำให้แจ็คเกิดสงสัยขึ้นมาว่าราชินีผู้สูงศักดิ์จะไปเดินตลาด จับจ่ายซื้อของเองทำไมให้เหนื่อย

    “นี่เอลซ่า ถ้าครัวของเจ้าจะมีพร้อมเสียขนาดนี้เจ้าจะไปซื้อของมาเพิ่มอีกทำไมกัน?”เขาตัดสินใจถามออกไป

    “พวกนี้เป็นของที่เก็บไว้นานแจ็ค ฉันไม่แน่ใจนักหรอกนะว่ารสชาติของมันจะยังคงอร่อยเหมือนของที่ซื้อมาสด ๆ ฉันอยากให้อันนาได้กินของที่ดีที่สุดดังนั้นฉันเลยต้องออกไปเลือกเองไง”ตอบแบบนี้ทำให้เอลซ่าแลดูเหมือนแม่ของอันนามากกว่าที่จะเป็นพี่สาว คนน้องเองก็เล่นทำตัวเป็นเด็กเสียขนาดนั้น เป็นแม่ลูกก็ดูสมควรดีอยู่

    “เหมือนเจ้าเตรียมตัวเป็นแม่คนจัง”แจ็คเองก็คิดเช่นนั้น

    “ฉันขออยู่บนนี้ต่อไปดีกว่าแจ็ค มีลูกน่ะปวดหัวเสียยิ่งกว่าอะไรดี ส่วนถ้าฉันจะมีสามีข้ามิต้องระแวงจนอกแตกตายเลยหรือ?”บนนี้ของเธอนั้นหมายถึงคานทอง(ฝังเพชร) เอลซ่าคงจะใช้เวลาอยู่ในห้องคนเดียวนานเกินไป เธออ่านนิยายรักประโลมโลกมาไม่รู้กี่เล่มต่อกี่เล่ม ยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียด ขอหนีไปอ่านหนังสือวิชาการดีกว่า

    “มานี่สิแจ็ค ฉันเตรียมของทำซุปข้าวโพดไว้แล้ว คุณช่วยต้มทุกอย่างพร้อมกันทีนะ”เอลซ่าตวงข้าวโพดบดปรุงรสที่อยู่ในตู้วัตถุดิบ นม วิปปิ้งครีม และเนยไปกองตรงหน้าแจ็ค แม้แจ็คจะทำอาหารไม่เป็นแต่เขาก็รู้ว่าถ้าเป็นอาหารประเภทซุปคงไม่พ้นจะต้องต้มกันหน้าเตาล่ะ เขาเททุกอย่างลงในหม้อต้มและคนอย่างทุลักทุเล  ก็คนมันไม่เคยทำอาหารจะให้ทำครั้งแรกคล่องเลยก็ไม่ได้

    เอลซ่าวิ่งวุ่นกับการทำซูเฟล่ ทุกอย่างต้องรวดเร็วไม่อย่างนั้นตัวซูเฟล่จะแฟบไม่อร่อย เธอผสมทุกอย่างให้เข้ากันอย่างรวดเร็วและจัดแจงเข้าเตาอบก่อนปลีกตัวมาทำซอสปูอลาสก้าที่แค่วัตถุดิบก็สุดจะแพงแสนแพง

    ไม่นานนักซอสปูก็เสร็จพร้อมที่จะราดเสิร์ฟแล้ว  ยังไม่หมดเท่านั้น เธอนำบราวนี่เข้าเตาอบอย่างรวดเร็วและเมื่อเสร็จก็จัดการแต่งหน้าอย่างสวยงาม ทางด้านแจ็คซุปข้าวโพดก็เดือดดีแล้ว แจ็คพยายามยกหม้อลงจากเตาและตักซุปใส่ถ้วยโดยไม่รอคำสั่งจากเอลซ่า

    ไม่ถึงชั่วโมงอาหารก็เสร็จ เอลซ่าจัดอาหารทุกอย่างใส่ถาดและยกไปที่ห้องของอันนา คริสตอฟยังคงนั่งเฝ้าอันนาไม่ห่างไปไหน แน่นอนว่าเขายังไม่ได้กินอะไรเลย เอลซ่าจึงตัดสินใจยังซุปข้าวโพดถ้วยหนึ่งให้เขา

    “รับไปสิ ฉันทำมาให้”

    “ขอบพระทัย เอ่อ... กระหม่อมจะออกไปกินข้างนอก...”เมื่อพูดจบคริสตอฟก็รู้หน้าที่ของเขาดี เขาต้องให้เวลาสองพี่น้องได้อยู่ด้วยกัน คนขายน้ำแข็งเดินออกจากห้องไปหลบกินซุปอุ่น ๆ อยู่ที่ริมระเบียงคนเดียว

    แจ็คเองก็รู้ดีว่าเขาต้องทำอย่างไร เขายิ้มให้เธอและเดินออกจากห้องไป ไม่ผิดอะไรที่เอลซ่าจะให้ความสนใจอันนามากกว่าเขา เพราะอันนาคือน้องสาว ส่วนเขาคือเทพยาจกที่เพิ่งพบกันได้ไม่ถึง24ชั่วโมง เพียงแต่เวลาที่เขาไม่ได้อยู่กับเอลซ่ามันทำให้เขารู้สึกว่าง และเบื่อขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    “อันนา... พี่ทำมื้อเย็นมาให้ มากินด้วยกันนะ”เอลซ่าคุยกับน้องสาว แม้รู้ดีว่าไม่อาจได้คำตอบกลับอะไร แต่ก็ยังดีกว่าจะปล่อยให้อันนาอยู่ในห้องอย่างเงียบเหงา

    “ดูสิมีของชอบเธอด้วยนะ บราวนี่ไงพี่ทำมาให้เธอ ถ้าจำไม่ผิดเธอชอบกินแต่ขนมแล้วยกอาหารจานหลักให้พี่สินะ พี่เตือนเธอไม่รู้จะเตือนเธอยังไงเลยนะอันนาว่าให้ทานอาหารให้ครบทุกหมู่ เธอก็ดึงดันจะกินแต่ของหวานท่าเดียวเลย...”สารพัดคำบ่นที่เอลซ่าขุดมาพูดอยู่คนเดียวทำให้เธออยากร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง ช่วงเวลาบนโต๊ะอาหารที่แสนจะวุ่นวาย เธอคิดถึงมัน

    “ซุปข้าวโพดเธอกินชามเดียวกับพี่ก็ได้นะอันนา พี่ยกส่วนของเธอให้แฟนเธอไปแล้วคงไม่ว่ากันนะ”เอลซ่ายอมรับคริสตอฟในฐานะแฟนอันนาแล้ว เธอยังคงพูดคุยต่อไปไม่ย่อท้อ หวังเพียงว่าน้องสาวจะส่งเสียงอะไรตอบกลับเธอมาบ้าง

    ซุปข้าวโพดหมดไปครึ่งถ้วย เอลซ่าเพิ่งจะนึกได้ว่าอีก2อย่างคือซูเฟล่และบราวนี่นั้นอันนากินไม่ได้เพราะเธอยังเคี้ยวไม่ได้ แต่เอลซ่าก็หยิบจานบราวนี่ขึ้นมาแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าอันนา ก่อนที่น้ำตาเธอจะไหลซึมออกมาอีกครั้ง

    “อันนา... นี่ของโปรดเธอนะ... ทำไมเธอไม่ลุกมาแย่งพี่กินเหมือนเคยล่ะ... นี่อันนา... ถ้าเธอไม่กินพี่จะกินหมดเลยนะ...”เอลซ่าฝืนตักขนมเข้าปากทั้งน้ำตา ทั้งเธอและอันนาชอบช็อกโกแล็ตมาก และถ้ามีขนมที่เกี่ยวกับช็อกโกแล็ตพวกเธอก็มักจะแย่งกันอยู่เสมอ แต่วันนี้ไม่มีใครมาแย่งเธอ น้องสาวของเธอไม่มีแย่งขนมเธอเหมือนเคย...

    “ไม่กินจริง ๆ หรืออันนา... ถ้าหมดแล้วพี่ไม่ทำให้เธอกินใหม่นะ... คราวนี้พี่จะปล่อยให้เธออดกินขนมฝีมือพี่จริง ๆ นะอันนา... ถ้าอยากกินก็ตื่นมาแย่งพี่สิ...!!

     

     

    “อือ...”

     

     

    เสียงครางในลำคอนั้นไม่ใช่เสียงของเอลซ่า แต่เป็นเสียงของอันนา น้องสาวของเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองกับเธอเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่หลับไป เอลซ่าวางจานบราวนี่ลงกดดูชีพจรของอันนา

    “เต้นแรงขึ้น...”ชีพจรของอันนาเต้นแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เอลซ่าเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว เธอโผเข้ากอดน้องสาวของเธอก่อนจะปาดน้ำตาแล้วหยิบจานบราวนี่มากินยั่วอันนาต่อไป

     

    ทฤษฎีของกินนั้นใช้ได้เสมอ...

     

    “น้องเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”แจ็คถามเป็นคำถามแรกเมื่อเห็นเอลซ่าเดินออกมาจากห้องของอันนา

    “อันนาครางตอบฉันแล้วล่ะแจ็ค ชีพจรก็เต้นแรงขึ้น อันนามีโอกาสที่จะตื่นขึ้นมาแล้วล่ะ”เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    “ซุปที่คุณทำอร่อยดีนะแจ็ค อันนาแย่งฉันกินตั้งครึ่งถ้วยแน่ะ”เอลซ่าปล่อยมุกให้แจ็คขำ คนทำซุปหน้าแดงระเรื่อเมื่อได้รับคำชม

    “อะไรกัน ข้าแค่ต้มทุกอย่างรวมกัน มันคงอร่อยตั้งแต่ยังไม่ต้มแล้วล่ะ”

    “หึหึ งั้นหรือแจ็ค แต่ก็ต้องขอบคุณนะที่ช่วยฉันทำซุป ถ้าฉันทำสามอย่างนั้นคนเดียวคงหัวหมุน”เธอกล่าวขอบคุณแจ็คเบา ๆ

    “ข้ายินดีช่วยเจ้าเสมอ และอย่างน้อยในชีวิตนี้ข้าก็ทำอาหารเป็นหนึ่งอย่างแล้วล่ะ”แจ็คพูดติดตลก

    “อยากลองเข้าคอร์สสอนทำอาหารกับฉันไหมล่ะ ฉันไม่คิดค่าสอนนะ”เอลซ่าเอ่ยชวนแจ็คทั้งใบหน้าเขินอาย เธอเดินหลบตาแจ็คไปจนถึงห้องครัว

    “เอาสิ ถ้าเจ้าสอนข้ายอมเรียนตลอดชีวิตเลยล่ะ”

    ผู้ชายกับงานบ้าน ผู้หญิงกับดาบนั้นเป็นอะไรที่ไม่เข้ากัน ถึงเพียงแค่ลองทำมันก็คงดูแปลกไม่ใช่น้อย แต่จะดีแค่ไหนถ้าได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ให้ชีวิตไม่จำเจ บางอย่างอาจจะดูแปลก พิลึก พิลั่นไปบ้าง แต่ทำไปทำมาอาจจะพบพรสวรรค์ในตัวเองที่ซ่อนอยู่ในนั้นก็เป็นได้

     
    *****************************

     

    Free Talk :

    ตอนที่กำลังคิดพล็อตตอนที่10อยู่ดี ๆ น้าก็เดินเข้ามาบอกว่าเมษาจะพาไปญี่ปุ่นค่ะ!! ลาภลอยมาหาไรต์แล้วล่ะค่ะ เลยพาลนึกถึงครั้งแรกที่ไปจำได้ว่าไปกินปูอลาสก้าร้านนึงอร่อยมากกกกกกกก คือเป็นร้านที่รวมแต่เมนูจากปูอลาสก้าเลยค่ะ เลยจับมายัดใส่ในเรื่องด้วย บวกกับได้ดูละครย้อนหลังเรื่อง”สูตรเสน่หา”ของพี่เคนกับพี่แอน เลยคิดถึงเมนูซูเฟล่เนยแข็งซอสปูขึ้นมาซะอย่างนั้น

    ในตอนนี้ไรต์จับความรู้สึก อิมเมจิ้นต่าง ๆ จากการไปดูFrozenมา2รอบ(ติ่งรับประทาน)ใส่เข้าไปในตอนนี้ไม่ยั้งเลยค่ะ ยิ่งฉากที่เอลซ่าเล่าว่าอันนาไม่รู้จักเวลาส่วนตัวนี่เป็นอิมเมจิ้นส่วนตัวที่มีแนวโน้มเป็นไปได้จริง ๆ แล้วก็เรื่องที่เอลซ่าบอกว่าอันนาอาจจะอยากได้พี่สาวที่เหมือนเธอ อันนี้เอามาจากหนังสือ A sister more like me ของสองพี่น้องค่ะ(เปลี่ยนเป็นพี่ชายได้มั้ย? แจ็คเข้าสเป็กเลยนะ ก้ากกกกก) ส่วนอีกเรื่องคือช็อกโกแล็ต คนที่ดูหนังแล้วอาจจะเก็ทแต่คนที่ยังไม่ได้ดูนี่สิคะ วันนี้ไรต์เลยเอามาให้ดูค่ะ

     



    เป็นคลิปที่อิดิน่ากับคริสเตียนคนพากษ์สองสาวพากษ์ในห้องอัดค่ะ วินาทีที่ 2:10 นี่เริ่มพูดถึงของกินแล้วค่ะ จมูกไวต่อช็อกโกแล็ตนะคะเนี่ย



    ในคลิปนี้มีฉากที่อันนาจ้วงกินช็อกโกแล็ตด้วยนะคะ วินาทีที่ 1:29 ค่ะ


    อันนี้โปสเตอร์การท่องเที่ยวเอเรนเดลค่ะเนื้อหาเขียน ว่า”ดินแดนแห่งช็อกโกแล็ต ความอร่อยการันตีโดยราชวงศ์(นะยะ)” ไรต์อยากไปมากใครก็ได้จัดทริปไปที สองพี่น้องนี่ชอบช็อกโกแล็ตกันจริงจังมาก

    ทุกอย่างที่ไรต์ทำ ข้อมูลที่ไรต์หาทั้งนี้เพราะอยากให้ฟิคออกมาสมบูรณ์ ดูจริงไม่ติดขัด ส่วนเรื่องคาแร็กเตอร์ที่บิดไปนิดคือคนเราถ้าเจอคนที่ใช่พฤติกรรมจะเปลี่ยนค่ะ คอนเฟิร์ม วันนี้ขอลาไปก่อนนะคะ ถ้าขยันพรุ่งนี้จะมาต่อค่ะ

    ปล.”ถ้า”ขยันนะคะ อิอิ
                       ปลล.ฝากฟิคJelsaเรื่องใหม่ "Taste Love มหกรรมไอศกรีมสื่อรัก" ด้วยนะคะ จิ้มที่ชื่อเรื่องเลยค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×