ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic JackFrost x Elsa] Warming winter

    ลำดับตอนที่ #3 : 3rd Hour : Practice makes perfect

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 56


                    หลังจากทานขนมกันเสร็จแล้วทั้งแจ็คและเอลซ่าก็มุ่งหน้าเข้าไปในป่าสน อากาศเริ่มหนาวเย็นแต่ก็ทำอะไรราชินีหิมะไม่ได้ แม้เธออาภรณ์ที่เธอใส่จะบางแค่ไหน

                    แจ็คเดินนำเอลซ่าเข้าไปลึกแล้ว ลึกอีกเอลซ่าเดินตามอย่างไม่มีปากมีเสียง แต่ก็แอบสงสัยว่าแจ็คจะพาเธอไปไหน แต่ที่แน่ ๆ เขาคงไม่ได้ประสงค์ร้ายกับเธอหรอก

    “เมื่อเช้าเจ้าทำน้ำแข็งเกาะมือข้า”แจ็คเริ่มย้อนความไปถึงเรื่องตอนเช้า

    “อ๋อ เรื่องนั้นฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”เอลซ่าก้มหน้ารับผิดแม้จะรู้ว่าแจ็คไม่ได้ถือโทษโกรธเธอจริง แต่ในฐานะที่เขาเป็นเทพการที่เธอไปเสียมารยาทเสกน้ำแข็งใส่แม้ไม่ได้ตั้งใจก็เป็นเหตุที่สมควรจะขอโทษ

    “เจ้าบอกว่าเจ้าควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว หมายความว่ายังไง?”

    “ก็เวลาฉันตื่นเต้น กลัว หรือว่าตกใจน้ำแข็งมันจะงอกออกมาที่ไหนซักที่ทุกทีเลย ทั้งที่ฉันไม่ได้สั่งด้วยซ้ำ”เธอเล่าอาการผิดปกติของพลังให้แจ็คฟัง

    “อย่างนี้นี่เอง เพราะแบบนี้แหละข้าถึงพาเจ้ามาที่นี่”แจ็คหยุดอยู่บริเวณลานกว้างที่มีน้ำแข็งและหิมะล้อมรอบ ทั้งที่หิมะยังไม่ตกด้วยซ้ำ

    “คุณเสกมันขึ้นมาหรือ?”เอลซ่าถาม

    “ใช่ เหมือนที่เธอเสกหิมะเล่นกับน้องสาวเธอตอนเช้าไง”แจ็คตอบ เขาแอบมองเธออยู่ตลอดเวลาตั้งแต่วินาทีที่อันนาพูดถึงเขา เอลซ่าไม่เคยรู้ตัวเลย

    “คุณจะทำอะไรกันแน่แจ็ค?”

    “สอนวิธีการใช้พลังให้เจ้าไง เราจะได้จับมือกั... เจ้าจะได้ควบคุมพลังได้ในเวลาที่ตื่นเต้นไงล่ะ”แจ็คสะดุดพูดคำต้องห้ามออกมานิดหน่อย เอลซ่าคงไม่ได้ยินหรอก นี่คือความคิดของเขา แต่เอาเข้าจริงแล้วเธอก็ไม่ได้ยินจริง ๆ นั่นแหละ

    “ขอบคุณนะ แต่พลังของพวกเรานี่ใช้เหมือนกันหรือ?”เอลซ่าไม่เคยได้ยินเรื่องเทพที่มีพลังหิมะมาก่อน เธอคิดว่าถึงพลังจะต่างกันแต่วิธีใช้คงจะต่างกันอยู่บ้างเช่นนั้นจะสอนให้กันได้อย่างไร

    “ข้าคิดว่าไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่ ไม่งั้นเจ้าคงเสกตุ๊กตาหิมะเหมือนที่ข้าทำเมื่อเช้าไม่ได้”ภาพตุ๊กตาหิมะตัวแทนของทั้งคู่แวบเข้าหัวเอลซ่า วินาทีที่ตุ๊กตาคู่นั้นมีความสุขกันทำให้เธอเกิดหน้าแดงในใจคิดให้ระหว่างเธอและแจ็คเป็นแบบนั้นบ้าง

     

    นี่คิดในฐานะเพื่อนจริง ๆ นะ...

     

    “เอาล่ะมาเริ่มกันเลย ข้าจะสร้างสถานการณ์ให้เจ้าตกใจเรื่อย ๆ เจ้าต้องควบคุมพลังของเจ้าไม่ให้อาละวาด”แจ็คเริ่มอธิบาย

    “ฉันจะทำยังไงล่ะแจ็ค? คุณยังไม่ได้บอกวิธีฉันเลย”พูดมันง่ายมาก แต่ทำน่ะมันยากเสียยิ่งกว่าอะไร อยู่ดี ๆ จะให้เริ่มปฏิบัติจริงเลยถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำอย่างไรกัน?

    “เจ้าต้องควบคุมตัวเองไม่ให้ตกใจ บังคับพลังไม่ให้มันออกมาถ้าเจ้าไม่สั่ง มันเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกนะเอลซ่าเจ้าต้องลองดู”แจ็คเริ่มล่องลอยรอเวลาสร้างสถานการณ์ เอลซ่าเริ่มประหม่ากลัวขึ้นมา กลัวสถานการณ์ที่แจ็คสร้างขึ้นทำให้พลังของเธอคลั่งแล้วทำร้ายเขา

    “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พลังของเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ ข้าตายแล้วตายซ้ำไม่ได้หรอก”แจ็คพูดติดตลก แต่เธอไม่ขำด้วย ราชินีหิมะพองแก้มไม่พอใจแต่จะทำอะไรก็ทำไม่ได้

    บทเรียนนอกเวลาเริ่มขึ้น แจ็คล่องลอยหายเข้าไปในป่าลึก เอลซ่ามองซ้าย มองขวาหาแจ็คไม่เจอ นี่เธอกลังจริง ๆ แล้วนะ

    .

    .

    .

    ตู้ม!!

    เสียงแผ่นดินสะเทือนดังสนั่น พลังน้ำแข็งของเอลซ่าเริ่มแสดงฤทธิ์เดชโดยการแช่แข็งทุกอย่างรอบกายเธอเอาไว้ ซักพักแจ็คก็เดินออกมาจากดงต้นสนปัดก้อนน้ำแข็งที่ติดตามตัวออก ไม่เดาก็รู้ว่าแจ็คโดนลูกหลง

    “เล่นแรงนะเจ้าน่ะ ข้าบอกให้มีสติทำให้น้ำแข็งอยู่ใต้คำสั่ง ไม่ใช่ให้คำสั่งอยู่ใต้น้ำแข็ง”เอลซ่าพยักหน้าเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ทำไม่ได้อยู่ดี มันยากเกินไปสำหรับเธอ

    แจ็คสร้างสถานการณ์อีกหลายอย่างให้เธอตกใจ ปฏิกริยาของเอลซ่าไม่ค่อยต่างจากเดิมมากมายนักแม้จะมีแผ่วลงไปบ้าง อย่างสร้างพายุขนาดย่อม แช่แข็งต้นไม้ ดีที่สุดคือสร้างเกราะน้ำแข็งคลุมกาย

    แจ็คส่ายหน้าระอากับพลังที่ยากจะควบคุมของเอลซ่า แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องสอนเธอใช้พลังต่อไป ตอนนี้แม้จะเหนื่อยก็ยอมขอให้ราชินีหิมะมือใหม่ใช้พลังให้เป็นจริง ๆ ก็พอ

    ผ่านไปเกือบชั่วโมงปฏิกิริยาของเอลซ่าเริ่มเบาลงจนแทบจะไม่เหลืออะไรเลย แจ็คสร้างสถานการณ์อีก2-3อย่างแต่เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรที่แสดงออกผ่านน้ำแข็งแล้ว ตอนนี้สรุปได้ว่าเอลซ่าควบคุมพลังของเธอได้อย่างสมบูรณ์เลยก็ว่าได้ ช่างคุ้มค่าความพยายาม

    “เห็นไหมล่ะ ความพยายามของเจ้าเป็นผลแล้วนะ”แจ็คชม

    “คุณก็สร้างสถานการณ์เก่งดีนะ ไม่ซ้ำกันซักอย่างเลย”เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์แบบใช้แล้วทิ้ง ใช้แล้วไม่มีการนำกลับมาใช้ใหม่แต่ก็ไม่สิ้นเปลือง

    “เรื่องเล่นมันของถนัดข้านะบอกแล้ว หวังว่าเจ้าคงชอบ”ทำหิมะแหวกเอย กองทัพตุ๊กตาหิมะเอย หิมะผีสิงเอย เป็นความทรงจะดี ๆ ที่ลืมไม่ลงเลยจริง ๆ

    “บางอย่างนี่ท่านจะเอาข้าตายเลยหรืออย่างไรกันแจ็ค แผ่นดินแยกนี่มันไม่ตลกเลยนะ”ถ้าตกลงไปใครจะรับผิดชอบ?

    “โทษที ๆ คราวนี้ข้าจะสอนวิธีใช้น้ำแข็งนะ”

    “ฉันใช้เป็นแล้วน่า ไม่ต้องหรอก”เอลซ่าถอยหลังหนี แจ็คเดินหน้าเข้ามาทุกขณะ เธอจะหนีไปไหนก็ไม่ได้จนกระทั่ง...

    เอลซ่าสะดุดเข้ากันตอไม้ใหญ่ เธอล้มลงไปนอนกองกับพื้น แจ็คหัวเราะสะใจแต่ก็ยื่นมือไปคว้าเธอให้ลุกยืนขึ้นมาได้อีกครั้ง เอลซ่าหน้าบูดบึ้งไม่พอใจอีกครั้งที่ถูกหัวเราะเยาะ

    “ซุ่มซ่ามจริงเจ้านี่ มานี่ข้าจะสอนให้ว่าเวทย์น้ำแข็งน่ะใช้ให้ถูกต้องทำแบบนี้”แจ็คเดินไปหยุดอยู่ข้างหลังเอลซ่า กุมมือของเธอประคองเกล็ดน้ำแข็งเล็ก ๆ เอาไว้ เอลซ่าเริ่มรู้สึกร้อน ๆ ที่ใบหน้าขึ้นบ้างแล้ว ความรู้สึก ๆ เย็น ๆ ที่มือในแบบที่ไม่เคยสัมผัส

    เกล็ดน้ำแข็งเล็ก ๆ เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แจ็คจับมือเอลซ่าให้ยกสูงขึ้นแล้วแยกออกจากกัน เกล็ดหิมะแตกกระจายกลายเป็นละอองใสแวววาวสวยงามเหมือนผงคริสตัลที่แตกละเอียด

    บรรยากาศโรแมนติกคงอยู่ได้ไม่นาน สายลมพาลพัดให้เกล็ดน้ำแข็งลอยออกห่างจากทั้งคู่ไปไหนก็ไม่รู้ ความโรมานซ์อันตรทานหายไปในพริบตาประดุจว่ามันไม่เคยมีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น

    “แบบนี้ข้าก็ทำได้นะ แต่มันไม่สวยขนาดนี้”

    “ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสติของเจ้า ถ้ามันอยู่เหนือพลังผลลัพธ์มันก็จะสวยงามน่าพอใจ แต่ถ้าเจ้ายังทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมล่ะก็แผ่นดินแยกคงไม่แคล้วมาเยือนอาณาจักรเจ้าแน่”แจ็คเริ่มสอนให้เอลซ่าเรียนรู้พลังที่แท้จริงของตนเอง

    พลังทุกอย่างที่เกิดมาพร้อมกับเราเป็นสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้ และต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงจะหาไม่ได้อยู่ดี การฝึกฝนขัดเกลาเทคนิคจึงจำเป็นมากในการนี้เพื่อให้รู้เท่าทันพลังที่แฝงอยู่ในกายตน

    “คุณใช้เวลานานไหมแจ็คกว่าจะควบคุมพลังได้”เอลซ่านั่งลงบนต่อไม้เริ่มเปิดประเด็นสนทนา

    “ไม่หรอก ข้ามีเจ้านี่เป็นตัวช่วย”แจ็คแกว่งไม้เท้าไปมา มันพัดเอาเกล็ดน้ำแข็งบาง ๆ ไปเกาะติดอยู่กับโคนต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่ไกลสุดสายตา

    “ดูขี้โกงจัง ฉันไม่เห็นมีอะไรเลย”มีแต่ตัวกับหัวใจ และมือสำหรับใช้ปล่อยพลัง

    “แบบเจ้าก็ดีนะ ไม่ต้องถืออะไรให้เหนื่อย แต่ข้าเริ่มถือเจ้านี่จนชินมือไปแล้ว”แจ็คยังคงควงไม้เท้าไปมา ดูเผิน ๆ มันคือไม้เท้าคล้องแกะ แต่ภายในแฝงไปด้วยเวทย์มนตร์มากมาย

    “ถ้าข้าไม่มีมันข้าก็ใช้เวทย์มนตร์ไม่ได้นะ”

    “ทำไมล่ะแจ็ค?”

    “ตอนข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าใช้ไม้เท้านี่ช่วยชีวิตน้องสาวข้าไว้ ก่อนที่ข้าจะตกลงไปนอนตายอยู่ใต้น้ำแข็ง เวทย์มนตร์คงอยู่กับมันเพราะเหตุนี้”แจ็คเริ่มทำการระลึกชาติ การตายไม่ใช่สิ่งเจ็บปวดสำหรับเขาเมื่อเทียบกับที่น้องของเขาปลอดภัย

    “คุณคงรักน้องคุณมาก”พอ ๆ กับที่เธอรักน้องสาวของเธอ

    “อยู่แล้วล่ะ ข้าพยายามทำหน้าที่ของพี่ชายให้ดีที่สุด แม้มันจะบกพร่องไปบ้าง”จากที่แจ็คเล่าให้ฟังมันไม่น่าจะใช้คำว่าไปบ้างเลย มันน่าจะใช้คำว่าเอามาก ๆเสียมากกว่าด้วยซ้ำ

    “ตอนคุณตื่นขึ้นมาคุณรู้สึกยังไงหรือ? ขอโทษนะที่ละลาบละล้วง”ไม่ได้เป็นการถามประสบการณ์การตาย แค่อยากรู้ที่มาที่ไปก่อนที่เขาจะมาเป็นเทพแห่งความหนาว เรื่องราวของเขาช่างน่าสนใจเสียยิ่งกว่าการผจญภัยในหนังสือเล่มใด ๆ หรือนิทานน่ารักปนสยองขวัญของพี่น้องตระกูลกริม

    “ก็รู้สึกเหมือนยังไม่ตาย ช่วงเวลานั้นรู้สึกเหมือนตัวเองหลับไปมากกว่า แล้วพอขึ้นจากน้ำหยิบไม้เท้ามาเล่นก็ถึงรู้ว่ามีพลังแบบนี้”

    “ถามจริง ๆ เถอะแจ็ค คุณกินอะไรเป็นอาหาร?”ความเดิมตอนที่แล้วเธอให้แจ็คกินขนมต้นสน ซึ่งเขากินมันได้และท่าทางอร่อยมากด้วย แต่เขาเองก็อยู่มาเป็นร้อย ๆ ปีไม่แปลกไปหน่อยหรือที่จะไม่กินอะไร

    “ไม่กินหรอก จะพูดให้ถูกคือกินก็ได้ ไม่กินก็ได้ ข้าตายแล้วตายอีกหนไม่ได้อยู่แล้ว”นอกเสียจากถึงกำหนดปลดระวางต้องไปผุด ไปเกิดเสียที

    “ดูใช้ชีวิตง่าย ๆ ดีนะ ฉันเองก็ไม่อยากจะมีความรู้สึกวุ่นวายในชีวิตแบบนี้บ้าง อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว”อยู่กับแจ็คคือหนึ่งในสิ่งที่เธอสบายใจ เธอได้ระบายกับเขา ได้พูดในสิ่งที่เธอต้องการไม่ต้องปิดบังซ่อนเร้นเหมือนก่อน ๆ

     

    จะพูดให้ถูกคือแม้แต่กับอันนาบางเรื่องก็พูดไม่ได้

     

    “ข้าดีใจที่ข้ายังทำประโยชน์ให้เจ้าได้ แม้จะเป็นได้แค่ส้วมหลุมเอาไว้ระบาย”

    “ฉันไม่ได้พูดนะว่าคุณเป็นส้วมหลุมน่ะ อย่างน้อยเปรียบเป็นอะไรที่ดีกว่านี้อย่างเช่นเพื่อนจะดีกว่าไหมแจ็ค?”มิตรภาพเริ่มก่อตัว อันที่จริงมันก็ก่อตัวของมันมาตั้งนานแล้วแค่ยังเรียกกันว่าเพื่อนไม่เต็มปาก

    “เพื่อนงั้นหรือ? ไม่มีเพื่อนมากี่ปีแล้วนะ อย่างมากก็มีศัตรูคือเจ้ากระต่ายบันนี่”บันนี่คือกระต่ายอีสเตอร์เจ้าภาพงานอีสเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ เทศกาลแสนสนุกซึ่งแจ็คไม่เคยพลาดการป่วนงาน เป็นการสร้างมิตรภาพในแบบที่ผิดและให้ผลลัพธ์ที่มิโสภาเอาเสียเลย

    “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรแจ็ค แต่นั่นคุณทำเขาก่อนนะ”เอลซ่าเริ่มตำหนิเสียงดุ

    “ช่างมันเถอะน่า นั่งพักซักหน่อยเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปเที่ยว”ชายคนนี้สามารถทำให้เธออึ้งได้เสมอ คำว่าพาเธอไปเที่ยวนั่นหมายความว่าจะต้องออกนอกอาณาจักรเอเรนเดล ถ้าจะให้เดินไปก็คงจะกระไรอยู่

    “นี่นะ เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าบินไปเหมือนปีเตอร์แพนกับเวนดี้ ข้าจะให้เจ้าเห็นอะไรสนุก ๆ”

    “คุณเคยอ่านปีเตอร์แพนด้วยหรือ?”

    “ทำไมจะไม่เคย ข้าไปมาทุกที่ ไปเจอคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วลอยตามไป ข้าก็อ่านไปกับเขาด้วย”เป็นวิธรการที่ฉลาดทีเดียว แจ็คฟรอสไม่ใช่เทพที่วัน ๆ เอาแต่เล่นสนุกอย่างที่คิด และเขาก็ไม่ได้เด็กตลอดเวลา เขามีช่วงที่เป็นผู้ใหญ่ มีช่วงที่ใฝ่รู้ ใฝ่เรียนเหมือนกับเธอ

     

    แต่ก็อย่างว่า... มีแค่นิดเดียว...

     

    “ตกลงเจ้าจะไปกับข้าไหม?”แจ็คถามเพื่อความมั่นใจ

    “ไปก็ได้นะ ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่ทำฉันร่วงจากฟ้า”แม้ว่าเธอจะมีพลังสร้างน้ำแข็งมารองรับแต่การเดินทางบนฟ้ามันก็ดูไม่ใช่เส้นทางที่ปลอดภัยนัก เอาจริง ๆ คือมันไม่ปลอดถัยเลยซักนิดเดียว

    “ได้ ข้าสัญญาข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีองค์ราชินี”แจ็คก้มหัวแสดงความนอบน้อมแด่เธอ เอลซ่าขำในความขี้เล่นของเขา แจ็คช่างเป็นผู้ชายที่น่ารักและมีเสน่ห์ที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา ไม่ได้ให้ความรู้สึกอันตรายเหมือนฮานส์

    หลังจากนั้นทั้งคู่ต่างก็พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันเป็นเวลานาน มีหยุดพักบ้างเพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไปที่จะบินชมบรรยากาศมุมสูง ประสบการณ์ดีและร้ายที่ทั้งคู่ผลัดกันเล่าให้กันฟังทำให้ความรู้สึกดี ๆ ก่อเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย นี่ไม่ใช่การตีสนิทเพื่อหวังอะไรจากอีกฝ่าย แต่เป็นการสร้างมิตรภาพแบบใหม่ที่โลกต้องจดจำไปอีกนาน

    การพูดคุยนั้นก่อให้เกิดมิตรภาพ และการติวก็ก่อให้เกิดความรัก คู่รักหลายคู่รักกันได้เพราะติวหนังสือให้กัน อ่านหนังสือให้กันฟัง แต่สำหรับแจ็คและเอลซ่าเขาทั้งคู่ฝึกการใช้เวทย์มนตร์ด้วยกัน ไม่รู้ว่ามันจัดเป็นการติวอย่างหนึ่งหรือไม่ แต่ถ้าใช่เราคงได้เห็นความรักต่างสถานะที่ไม่น่าจะมาเจอกันได้เลยอีกหนึ่งคู่

     
    ************************************

    Free Talk :

    อัพวันละตอน ตอนนี้หัวแล่นมากค่ะต้องรีบเขียนเดี๋ยวจะลืม แต่พรุ่งนี้คงไม่ได้มาอัพนะคะเพราะมีนัดกับตัวเองไปดูFrozen พูดให้ถูกคือไปดูหนังคนเดียวค่ะ ฮือ...

     

    คิดว่าการไปดูหนังครั้งนี้คงได้ไอเดียเขียนเรื่องอีกเยอะเลย คงเขียนได้ยาวกว่านี้หน่อย ตอนนี้สั้นมากแต่เกรงว่าถ้าต่อยาวไปมันจะกลายเป็นคอมเมดี้เต็มตัว(นี่ขนาดไม่ใช่ฟิคคอมเมดี้นะ) ประโยคที่บอกว่าความรักเกิดจากการติวอยากให้ทุกคนลองสังเกตจังเลยค่ะ การ์ตูนวายหลายเรื่องนะคะที่พระเอกและนายเอกเป็นศิษย์ เป็นครูกันแล้วมาได้กัน อย่าว่าแต่วายเลยค่ะนอร์มอลก็ออกจะถมเถ แนะนำชัด ๆ ก็ Katekyo!(ติวรักคุณครูสุดฮอต)ค่ะ สนุกมาก ตอนนี้ได้แรงบันดาลใจมากจากการ์ตูนวายก็ว่าได้ ถ้าคิดตอนใหม่ออกจะกลับมานะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×