[FIC VIXX] You're Mine (LeoN) - [FIC VIXX] You're Mine (LeoN) นิยาย [FIC VIXX] You're Mine (LeoN) : Dek-D.com - Writer

    [FIC VIXX] You're Mine (LeoN)

    โดย Black Tear

    "นายทำฉันหวงนะรู้ตัวมั้ยฮัคยอน ทั้งๆที่ฉันตั้งใจจะให้นายรู้ตัวเองแท้ๆว่าทำอะไรลงไป..." "เพราะชาฮัคยอนเป็นของจองแทคอุน..."

    ผู้เข้าชมรวม

    1,984

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.98K

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    36
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ม.ค. 58 / 21:49 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่ง ฝากด้วยนะนักอ่านทุกท่าน

    ถ้าภาษาจะกากไปบ้างโปรดให้อภัยด้วยนะคะ m(_ _)m

     

    ภาพเหตุการณ์ค่ะ

     

    กรุณาเล็งไปที่มือแจ๊คสันนะคะ

     

    ** อันนี้เป็นลิงค์ที่พี่เอ็นเปลี่ยนกางเกงในFirst Day of Work นะคะ จิ้มๆ

    ขอบคุณคลิปจากคุณ assassinnaneve . 

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      You’re Mine

       

      ชาฮัคยอนไม่เข้าใจ ทำไมสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าจองแทคอุนมันถึงเข้าใจอยากแบบนี้! นี่เจ้าแมวบ้ามันไม่ยอมคุยกับเขามาสามวันเต็มๆแล้วนะ ถามอะไรก็ไม่ตอบ เดินเข้าไปหาก็สะบัดตูดหนี แล้วยังชอบมองจิกเขาบ่อยๆด้วย

      ...เขาทำอะไรผิด ใครก็ได้บอกเขาที...

      หอพักวิกซ์เงียบลงกว่าเดิมเพราะไม่ค่อยมีเสียงพี่ใหญ่ไลน์ตบตีกันถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเสียงของลีดเดอร์ก็เถอะ แต่ว่าแบบนี้มันคือเวลาของลมสงบก่อนพายุจะเข้ารึเปล่านะ?

      "ฮัคยอนฮยอง หิวแล้วทำอะไรให้กินหน่อยสิ"เสียงโอดครวญหิวข้าวของมักเน่ดังขึ้นท่ามกลางเงียบสงบของหอพัก ส่งผลให้ลีดเดอร์ต้องเงยหน้าขึ้นจากโลกโซเชียลพลางทำหน้าหน่าย อะไรกันเขาไม่มีหน้าที่ทำกับข้าวสักหน่อยมาอ้อนเขาทำไม

      "มาบอกฉันแล้วจะได้กินมั้ยฮยอกอ่า พี่ทำไม่เป็น ไปบอกคนนู้นไป" ว่าพลางบุ้ยปากไปหาอีกคนกำลังนอนฟังเพลงนิ่งๆอยู่โซฟา

      "บอกแทคอุนฮยองแล้วผมจะได้กินเมื่อไรกว่าฮยองเขาจะมีอารมณ์ทำ น่านะฮยองทำให้ผมกินหน่อย" มักเน่ทำสายตาออดอ้อนโดยมีสายตาลูกหมาของเมมเบอร์อีกสามคนช่วยเหลือ

      ชาฮัคยอนไม่ได้ใจอ่อนนะเปล่าเลยจริงๆ จนแล้วจนรอดเขาก็ต้องสั่งอาหารมาให้เด็กๆกินแล้วเงินใครล่ะก็เงินลีดเดอร์ผู้ใจดีคนนี้ไง ทันทีที่อาหารมาส่งอีแจฮวานและคิมวอนชิคก็รีบวิ่งไปหน้าประตูเพื่อรับอาหาร

      "ฮัคยอนฮยองมากินกันเถอะ" เสียงอีฮงบินตะโกนออกมาจากห้องครัว เฮ้อ! โตจนป่านนี้แล้วยังทำอะไรกันเป็นเด็กๆอยู่อีกเหลือบตาไปมองอีกคนที่ยังนอนฟังเพลงอยู่ กำลังจะอ้าปากชวนแทคอุนลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็วทิ้งให้เขายืนงงอยู่คนเดียว

      หน๊อยแน่ะ!ไอ่แมวบ้าอยากงอนใช่มั้ยดีงอนต่อไปเลยไม่คุยด้วยแล้วเชอะ! ร่างบางคิดพลางเดินไปที่ห้องครัว สถานการณ์ภายในห้องครัววันนี้เกิดเป็นศึกชิงไก่น่องสุดท้ายระหว่างมักเน่ไลน์ แต่ขอโทษสุดท้ายคนที่ได้ไก่ชิ้นนี้ไปครองคือ อีแจฮวาน ทำให้มักเน่ไลน์ส่งสายตาอาฆาตไปให้แต่ก็ไม่ทำให้เมนโวคอลของวงสะทกสะท้านได้เลยเขาก็ยังคงลอยหน้าลอยตากินต่อไป ทันทีที่กินเสร็จทั้งพี่ใหญ่และพี่รองต่างแยกย้ายเข้าห้องของตัวเองทันทีทิ้งให้พวกเด็กๆ(?) มานั่งสุมหัวคุยกันถึงสภาพการณ์ที่ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้เรื่อยๆวงของพวกเข้าต้องตกอยู่ในสภาพสงครามเย็นต่อไปแน่นอน

      "ฮยองฮะพวกฮยองรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมแทคอุนฮยองถึงไม่ยอมพูดกับฮัคยอนฮยองเลยล่ะ" มักเน่ถาม

      "นั่นสินะขืนปล่อยไว้แบบนี้พวกเราต้องบ้าตายแน่ๆ ฉันไม่ชอบแบบนี้เลยให้ตายสิ" เคนบ่นเสียงแหลม ส่วนคนที่เหลือก็ต่างก้มหน้าคิดถึงสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้

      "มีใครรู้บ้างมั้ยว่าก่อนที่แทคอุนฮยองจะไม่พูดกับฮัคยอนฮยอง เขาเห็นอะไรมารึเปล่าเลยไม่พอใจแบบนี้" ราวี่ถามและนั่นทำให้หน้าตาของวงอย่างฮงบินเบิกตากว้างและพูดว่า

      "คิดได้ยังไงเนี่ยราวี่ หัวดีเหมือนกันนะนายเนี่ย"คำชมนั่นทำให้ราวี่ขมวดคิ้วมุ่น นั่นมันชมหรือด่าเขากันแน่(วะ)

      "วันนั้นผมเห็นฮยองเขาดูอะไรสักอย่างในไอแพดล่ะ" ฮยอกกล่าว

      "งั้นก็เอามาเช็คประวัติดูสักหน่อยเป็นไง เผื่อจะได้รู้ว่าฮยองเข้าไม่พอใจอะไร" ฮงบินพูดพร้อมกับวิ่งไปหยิบไอแพดเจ้าปัญหาที่โซฟามาพร้อมกับเริ่มจิ้มย้อนดูประวัติการเข้าชมในแอปพริเคชันยูทูบก่อนจะร้องบอกถึงสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ทำให้ทุกคนเริ่มอยากรู้

      "นี่ไงๆประวัติการดู...เอ๋นี่มัน First Day of Work ที่ฮัคยอนฮยองไปทำงานในร้านขายชุดชั้นในนี่"

      "ก็แค่ไปออกรายการเองนะไม่เห็นมีอะไรสักหน่อยฮยอง" ฮยอกพูด

      แค่ไปออกรายการเองนะทำไมพี่รองหงุดหงิดใส่พี่ใหญ่ล่ะ เพราะอะไรกัน...? เพื่อเป็นการตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น เมมเบอร์ทั้งสี่ก็รีบเปิดดูรายการในไอแพดทันที พอถึงช่วงที่ต้องเปลี่ยนกางเกงต่อหน้ากล้องพวกเขาทุกคนก็พอจะเดาถึงสาเหตุได้ว่าทำไมพี่รองถึงได้เกิดอาการงอนลีดเดอร์ได้ขนาดนี้

      "ฉันว่าแทคอุนฮยองต้องคิดอะไรกับฮัคยอนฮยองแน่ๆเลย" ราวี่พูดทำให้ทุกคนพยักหน้าพลางคิดว่าคงต้องช่วยให้ฮยองปากหนักรีบๆคายความรู้สึกออกมาซะแล้วสิ เรื่องแบบนี้ใครบ้างจะไม่อยากรู้

      "ฉันว่านะเรามาทางพิสูจน์กันดีกว่าว่าแทคอุนฮยองคิดยังไงก็ฮัคยอนฮยองกันแน่" เคนพูดพลางคิดว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อทำให้คนปากหนักยอมพูดความรู้สึกของตัวเองเสียที

      .

      .

      .

      นั่นสินะ นานๆทีเห็นคนปากหนักหึงหรือหลุดได้ก็คงไม่เลวทีเดียว คิดอย่างนั้นไหมละ?

       

       

       

       

      วันนี้พี่ใหญ่ของวงออกไปถ่ายละครตอนสุดท้ายอย่างว่าแหละลีดเดอร์คนนี้งานเขาชุมอยู่แล้วด้วยความที่ค่อนข้างเฟลนด์ลี่ทำให้เขามีงานมากกว่าคนนิดหน่อย เด็กๆที่เหลือก็ออกมานอนกองกันที่พื้นห้องด้วยความเบื่อ ส่วนพี่รองของวงก็นอนเล่นเกมสุดโปรดอยู่บนโซฟา

      "แทคอุนฮยอง ผมหิวแล้วอ่าทำรามยอนให้หน่อยนะครับ" หน้าตาของวงเอ่ยทำลายความเงียบพลางจ้องแทคอุนที่ไม่มีทีท่าว่าจะขยับร่างกายลงมาจากโซฟานั่นเสียทีนี่พวกเขาหิวจนไส้บิดแล้วนะ

      "ฮยองครับได้โปรดเถอะครับ" เคนแทบจะคลานไปกราบขอร้องพ่อครัวของวงให้ช่วยทำรามยอนให้พวกเขาทาน เมื่อถูกตื้อมากๆแทคอุนก็ส่งสายตารำคาญให้ก่อนจะเดินเข้าครัวไปทำอาหารหากเขาไม่ลุกออกมาพนันได้เลยว่าเขาอาจจะถูกก่อกวนหนักขึ้นอีกก็ได้ทางที่ดีรีบๆทำให้เด็กพวกนั้นกินจะดีกว่า
      ทันทีที่ได้ของกินมาอุดปากเมมเบอร์ทุกคนก็วิ่งกรูกันเข้ามารุมของกินทันที กินแล้วก็นอนอย่างนี้แหละเวลาว่างของพวกเขา

      "พวกนาย...พรุ่งนี้ไปซ้อมกันได้ด้วยนะ" เสียงเรียบดังขึ้นแผ่วเบาโดยไม่ต้องเดาว่าเสียงใครเพราะเสียงหวานขัดกับหน้าโหดๆนี่มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ

      "ครับผม แล้วฮยองจะไปด้วยมั้ยฮะ" เมื่อถูกถามกลับแทคอุนแค่ปรายตามองก่อนเดินไปนอนที่เดิม ทำให้ทุกคนมองตาปริบๆมีอย่างที่ไหนพอโดนถามแล้วเดินกลับไปนอนแบบนี้เนี่ย! แต่ก็เอาเถอะพวกเขาพอรู้คำตอบอยู่แล้วว่าพรุ่งนี้แทคอุนฮยองคงจะไม่ไป

      นอนเล่นกันต่ออีกสักพักพี่ใหญ่ก็กลับด้วยท่าทางเหนื่อยสุดขีด หลังจากกล่าวทักทายกันพอเป็นพิธีลีดเดอร์ก็ลากสังขารเข้าไปนอนในห้องเสียแล้ว คาดว่าคงจะออกมาหาพวกเขาตอนเช้าวันรุ่งขึ้นนั่นแหละ

      ฮยอกเปิดเช็คทวิตเตอร์ไปเรื่อยๆก่อนจะเห็นรูปที่ไปเล่นคอนเสิร์ต MBC Gayo Daejaejeon และยื่นมือถือให้พี่ๆคนอื่นดูรูป วันนั้นพวกเขาให้เสื้อเชิ้ตสีดำด้านในผูกด้วยเนกไทสีเดียวกันแล้วคลุมทับด้วยเสื้อสูทสีดำที่มีหมุดประดับด้านนอก หลังการแสดงจบจะมีศิลปินมากมายมารวมตัวกันบนเวทีใหญ่เพื่อทำการขอบคุณผู้ชมแน่นอนพวกเขาเองก็ยืนอยู่ด้วย ศิลปินมากมายยืนอยู่บนเวทีมันก็ต้องมีที่รู้จักกันไม่มากก็น้อย แต่รูปที่ถ่ายมานี่สิมันเป็นรูปที่ชายหนุ่มอิมพอร์ตจากฮ่องกงนามแจ๊คสัน(คนตัวเตี้ย)แห่งวงGOT7ที่รู้จักกันตอนถ่ายรายการHitmakerเข้ามาทักทายพี่ใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างแทคอุน

      ถ้าเข้ามาทักทายเฉยๆมันก็คงไม่มีอะไร แต่นี่มีการเรียกร้องความสนใจเล็กๆน้อยๆด้วยการเอามือโอบไหล่และโน้มให้ลีดเดอร์ของพวกเขาก้มตัวลงมาพูดคุยด้วยกระซิบที่ข้างหูต่อหน้าต่อตาคนหน้าโหดปากหนักอย่างแทคอุน สงสัยว่าคงได้เวลายุให้เมนโวคอลสุดนิ่งให้เกิดอาการหึงแล้วล่ะ 

      "หือ~ออมม่าของพวกเขานี่เสน่ห์แรงจริงๆนะ" ราวี่เปรยเสียงเบา(?)แต่ได้ยินกันทั่วก่อนเหลือบตาไปมองพี่รองที่ยังคงนอนนิ่งอยู่เช่นเดิม

      "นั่นสิ ดูมือสิเขาโอบแน่นไปมั้ย มีการโน้มตัวให้ลงมากระซิบที่ข้างหูอีก" เคนที่เห็น93ไลน์เริ่มยุคุณพ่อของวงเขาก็เริ่มใส่ไฟต่อทันที "แต่งตัวแบบนี้แล้วฮัคยอนฮยองดูตัวเล็กจริงๆดูเอวบางๆนั่นสิอยากจับจังเลยน้า~" 

      "แต่ผมว่าเหมือนแจ๊คสันฮยองเขากำลังจีบฮัคยอนฮยองเลยนะครับ ดูสิๆมีแคปชั่นด้วยล่ะเขาเขียนว่า 'หวังคงจะทำอะไรทลแบ็กกี้นะนี่มันกลางงานนะ คึคึ' " มักเน่ตัวแสบพูดเสียงดัง ซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผลทีเดียวเพราะคนตัวใหญ่ที่เคยนอนแผ่อยู่บนโซฟาเริ่มปรายตามองราวกับจะฆ่าพวกเขาเสียอย่างนั้น

      "ฮยอง พวกผมรบกวนเหรอ ขอโทษนะครับ พวกผมจะพูดให้เบากว่านี้แล้วกัน" ฮงบินยิ้มแหย่ใส่คนตาดุก่อนจะสุมหัวกับคนอื่นๆต่อ ถ้าหากแทคอุนฮยองไม่ยอมขยับไปไหนพวกเขาก็จะใส่ไฟอยู่แบบนี้จนกว่าฮยองเขาจะคิดได้นั่นแหละว่าต้องทำอย่างไร ใส่ไฟได้อีกสักพักดูเหมือนพี่รองจะเริ่มรำคาญเลยเดินหนีเข้าห้อง แต่ว่านั่นมันเป็นห้องของพี่ใหญ่นะ

      พวกคนเติมเชื้อไฟนั่งมองแทคอุนเดินเข้าห้องก่อนจะหันมาหัวเราะกันคิกคักเพราะดูเหมือนเมนโวคอลตาดุของพวกเขาจะเริ่มออกอาการหวงของเข้าเสียแล้ว แสดงออกตั้งแต่แรกพวกเขาก็ไม่ต้องมายุให้ของขึ้นแบบนี้หรอกนะ

       

       

       

       

      ทันทีที่เปิดประตูห้องลมเย็นๆของเครื่องปรับอากาศก็ปะทะเข้ากับใบหน้าคนมาใหม่ สายตากวาดมองไปทั่วห้องก่อนหยุดลงที่ร่างบางบนที่นอน เขารู้ว่าคนตรงหน้าทำงานหนักแค่ไหนและเหนื่อยแค่ไหนแต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าไหล่เล็กๆที่แบกความคาดหวังของแฟนคลับความกดดันต่างๆ รวมถึงคอยดูแลเมมเบอร์ทุกคน คนคนนี้จะเหนื่อยสักแค่ไหนต้องอดทนเพียงใด ตัวเขาเองแม้จะบอกว่าถ้ามีอะไรสามารถมาพึ่งพิงได้แต่เขาเองกลับรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระนั้นให้ลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย

      ดวงตาคมที่ปกติมักจะนิ่งและติดเย็นชา บัดนี้กลับอ่อนโยนสายตาที่เขาพร้อมจะมอบให้คนตรงหน้าเพียงผู้เดียว ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนมือเรียวเกลี่ยเส้นผมที่ระใบหน้าอีกคนอย่างแผ่วเบาพร้อมกับแต้มรอยยิ้มบางเบาลงบนริมฝีปาก

      “นายทำฉันหวงนะรู้ตัวมั้ยฮัคยอน ทั้งๆที่ฉันตั้งใจจะให้นายรู้ตัวเองแท้ๆว่าทำอะไรลงไป แต่กลับเป็นฉันเสียเองที่ทนไม่ไหว ฉันรับรองได้เลยว่าต่อจากนี้ฉันจะไม่ให้ใครเข้ามายุ่งกับนายเด็ดขาดถ้าฉันไม่อนุญาต” ร่างสูงกระซิบเสียงเบา ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆคนตัวเล็กและวาดแขนโอบเอวรั้งให้อีกคนเข้ามาจนชิดอกกว้าง หลับตาพลางคิดบทลงโทษคนที่ทำให้เขาหึง

       

       

       

      “อือออ...” ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยก่อนรู้สึกแปลกๆเพราะเขาขยับตัวไม่ถนัดเหมือนมีคนมาโอบเขาไว้ สติที่เลือนรางเริ่มกลับเข้าที่เข้าทางเปลือกตาบางเปิดอย่างช้าๆ ก่อนพบกับมือขาวที่โอบรั้วเองไว้ อ่า...เพราะนี่เองสินะที่ทำให้เขาขยับตัวไม่ถนัด มือเล็กค่อยขยับท่อนแขนของอีกคนออกอย่างแผ่วเบาแต่ดูเหมือนมันจะทำให้อีกคนรู้สึกตัวเสียแล้ว

      “ตื่นแล้วเหรอ” เอ้าถามแปลกๆถ้าไม่ตื่นจะมีใครขยับแขนของนายกันล่ะจองแทคอุน ราวกับรู้ทันความคิดของคนตัวเล็ก แทคอุนลุกขึ้นนั่งบนที่นอนพร้อมกับเท้าแขนคร่อมร่างของอีกคนไว้เพื่อป้องกันการหลบหนี

      ทางด้านที่ถูกกักไว้ใต้ร่างสูงใบหน้าเริ่มขึ้นสีเล็กๆเพราะเขาไม่คิดว่าอีกคนจะทำแบบนี้กับเขา ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะเคยทำอะไรแบบนี้แล้ววันนี้เป็นอะไร ดวงตากลมฉงนไปด้วยทำถาม คนด้านบนเหมือนจะรู้ว่าฮัคยอนต้องการคำตอบที่จะอธิบายให้เขากระจ่างกับการกระทำของแทคอุนในเวลานี้

      “นายทำแบบนั้นได้ยังไง” แทคอุนพูดเสียงขุ่น

      “อะไรฉันทำอะไรจองแทคอุน พูดแบบนี้ใครจะเข้าใจแล้วนี่จะอยู่แบบนี้อีกนานไหม” ฮัคยอนล่ะหน่ายกับคำถามที่ชวนงงนั้นเสียจริง

      “นายเปลี่ยนกางเกงต่อหน้าคนอื่นได้ยังไงชาฮัคยอน ไหนจะยื่นหน้าไปจนจะชิดกับเจ้านั่นอีก” สายตาของร่างสูงที่จ้องมองลงมามันปะปนไปด้วยอารมณ์ต่างๆแต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าของตากลมไม่เข้าใจคือ จะอยากรู้ไปทำไมในเมื่ออีกคนไม่ได้คิดอะไรกับเขาเสียหน่อยพูดอย่างกับว่า หึงเขาอย่างนั้นแหละ

      “มันเป็นงานนะแทคอุน ที่ฉันเปลี่ยนกางเกงจริงๆฉันก็บอกเขาแล้วว่าห้ามมองให้ปิดตาซะ แต่พวกฮยองเขาดันลืมตาและไม่ฟังฉันเองนี่ อีกเรื่องแจ๊คสันก็แค่เขาพูดคุยกับฉันเองทั่วๆไปนั้นแหละ แล้วถ้าฉันไม่ก้มจะให้เขาหาเก้าอี้มาต่อส่วนสูงรึไงฮึ” ร่ายยาวมาขนาดนี้คนด้านบนยังจะส่งสายตาไม่พอใจมาอีก เขาอธิบายขนาดนี้แล้วยังต้องการอะไรอีก

      “อย่าทำแบบนั้นถ้าฉันไม่อนุญาต”

      “ทำไมต้องให้นายอนุญาตด้วย นายคิดว่านายเป็นใครกันฮะ” ร่างบางสวนกลับเสียงขุ่น คนบ้านั่นต้องการอะไรจากเขากันสั่งขนาดนี้มาเป็นพ่อเขาเลยไหม ดูเหมือนคำตอบของฮัคยอนทำให้ร่างสูงไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก แต่แทนที่เขาจะตอบเขากลับก้มหน้าลงมาเรื่อยๆจนปลายจมูกแทบชิดกันก่อนจะขยับเลื่อนไปกระซิบที่ข้างใบหู

      “ฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นนาย กางเกงนั่นน่ะเวลาเปลี่ยนอย่าให้คนอื่นเห็นเพราะฉันหวง คนที่สามารถเห็นนายตอนนั้นได้มีแค่ฉัน...คนเดียวเท่านั้น” พูดจบแทคอุนก็ประทับริมฝีปากบางลงกับริมฝีปากอิ่มตรงหน้าทันที แม้จะไม่ได้มีการลุกล้ำแต่การสัมผัสเพียงแผ่วเบาก็ทำให้เกิดความรู้สึกราวกับไฟช็อตเล็กๆ หัวใจเริ่มเต้นรัวเป็นจังหวะเดียวกันในอกของคนทั้งสอง ทันทีที่ผละออกใบหน้าของคนด้านล่างก็ร้อนผะผ่าวราวกับเลือดทั้งร่างมากองอยู่บนใบหน้าเพียงที่เดียว

      “ทะ...แทคอุนทำแบบนี้ทำไม” เสียงกระซิบแผ่วดังลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม ดวงตาฉายแววสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น

      “เหตุผลง่ายๆชาฮัคยอน เพราะฉันชอบนายและฉันก็เชื่อว่านายเองก็ชอบฉันเช่นกันหรือไม่จริง” คนที่ไม่กล้าแม้แต่จะพูดต่อหน้ากล้อง บัดนี้กลับพูดออกมาโดยไม่ขัดเขินอะไรแม้แต่นิดเดียว ผิดกับฮัคยอนที่หลบตาคนตรงหน้าด้วยความขัดเขินและยังหาเสียงตัวเองไม่พบ ทั้งเขินกับคำพูด ทั้งจูบที่ผ่านมา ยอมรับเลยว่าเขาแพ้แทคอุนเวอร์ชันแบบนี้ ให้ตายเขากำลังถูกสารภาพรัก

      “ว่าไง นายยังไม่ตอบฉันเลยนะ” จองแทคอุนเหยียดยิ้มที่มุมปากก่อนที่มือใหญ่ประคองใบหน้าหวานเพื่อให้สบตาเขาตรงๆ ตากลมจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าคมของอีกฝ่ายก่อนที่ปากอิ่มพูดเสียงแผ่ว

      “อะ...อือ ฉัน...ฉันเองก็ชอบนายเหมือนกันแทคอุน”

      รอยยิ้มฉายชัดบนใบหน้าคมเขาไม่เคยรู้สึกดีใจขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าตอนแรกเขาจะยังลังเลใจว่าจะพูดดีหรือไม่เพราะถ้าหากอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับเขามันคงแย่ทีเดียว แต่ตอนนี้ความกังวลต่างถูกปัดเบาจนหายไปสิ้นทิ้งเหลือไว้แต่ความสุขที่เอ่อล้น ก่อนที่ร่างสูงจะก้มลงจุมพิตบนกลับปากอิ่มอีกครั้ง และอีกครั้ง....

       

       

       

       

                  เช้าวันรุ่งขึ้นดูเหมือนสถานการณ์ภายในหอพักจะดูดีขึ้นถนัดตาเพราะตั้งแต่ตื่นขึ้นมาพวกเขาก็เห็นพี่ใหญ่พี่รองเดินตัวติดกันตลอดเรียกได้ว่าไปไหนไปกันเลยทีเดียว เมื่อพี่ใหญ่ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาพี่รองคนขี้อ้อน(?)ก็เดินมานั่งตามและโอบเอวไว้อย่างหลวมๆ เห็นภาพแบบนี้ทำให้กลุ่มคนที่เหลือเกิดอาการคันปากอยากแซวไม่ได้

                  “แหมๆ ฮยองจำเป็นต้องตัวติดกันขนาดนั้นเลยเหรอครับ ห่างๆกันบ้างก็ได้นะครับพวกผมอิจฉาจนไฟแทบลุกท่วมตาอยู่แล้วเนี่ย”

                  “ฮยอกอ่า จะไปแซวทำไมกัน ปล่อยให้พวกเขาสวีทกันไปเถอะน่ากว่าจะเป็นแบบนี้มันยากเย็นจนเลือดตาแทบกระเด็นเลยนะนาย” เคนพูดห้ามมักเน่แต่ตัวเองก็แซวกับเขาด้วยเหมือนกัน

                  “นั่นๆแทคอุนฮยองปล่อยฮัคยอนฮยองบ้างก็ได้ฮะ เผื่อพวกผมอยากจะกอดออมม่าบ้าง” งานนี้คนที่เป็นหน้าตาของวงเองก็อดจะร่วมไม่ได้ ก็แหมหวานกันขนาดนี้ใครเล่าจะอดใจไหว

                  ราวี่ที่แม้จะไม่ได้เอ่ยแซวด้วยแต่ก็เดินไปดึงร่างบางออกมาจากอ้อมกอดของแทคอุน ก่อนจะกอดโชว์ให้เจ้าของตัวจริงหงุดหงิดเล่นๆ และมันก็ได้ผลเมื่อร่างสูงเดินเข้ามากระชากคนตัวเล็กให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเมนแรปของวง ทำให้ราวี่อดหมั่นไส้เล็กๆไม่ได้อะไรจะขี้หวงปานนั้นนี่กับน้องกับนุ่งยังขนาดนี้เลย

                  “โธ่ ฮยองให้พวกผมของฮัคยอนฮยองบ้างดิอย่าหวงนักเลยน่า” คำพูดของราวี่ทำให้ดวงตาคมทอประกายดุขึ้นมาทันตาเป็นอันรู้กันว่าถ้าเขาเข้ามากอดพี่ใหญ่ครั้งล่ะก็ไม่ตายดีแน่ แม้จะไม่พอใจที่โดนน้องๆแกล้งเล่นแต่แทคอุนก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยตอนนี้ฮัคยอนก็เป็นแฟนของเขาแล้ว และถ้าเขาไม่อนุญาตใครก็ห้ามแตะทั้งนั้น

      .

      .

      .

      .

      .

      เพราะชาฮัคยอนเป็นของจองแทคอุน...คนเดียว

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×