ตอนที่ 5 : เริ่มขัดใจ
Smile of : 5
“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจอันหนักหน่วงของคนข้าง ๆ ทำให้คิบะต้องหันไปมองอย่างสงสัย
“เป็นอะไรเหรอนารูโตะ...”
“เปล่า...ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นชั้นขอตัวก่อนนะ...” นารูโตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายนั่นก็เพราะเค้าต้องทนป้อนราเมงให้อีกฝ่ายท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของลุงเจ้าของร้าน ดังนั้นหลังจากที่ป้อนให้คิบะแล้วตัวเองก็หันมาจัดการกับราเมงของตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วก็รีบเผ่นออกมาทันที
“งั้นเดี๋ยวชั้นไปส่งที่บ้านนะ...” คิบะรีบอาสาในทันที
“ไม่ต้อง !!...ทางใครทางมันไปเลย แล้วก็ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ชั้นเห็นอีกจนกว่ามือนายจะหายเข้าใจมั้ย...” ว่าแล้วนารูโตะก็รีบเดินหนีไปทันที เพราะถ้าทนอยู่ต่อไปคงได้อารมณ์เสียมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่ ๆ
“แต่เราก็ต้องกลับทางเดียวกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...” คิบะยังตามมาแบบไม่ลดล่ะ
“ก็บอกว่าต่างคนต่างกลับยังไงเล่า พูดไม่รู้เรื่องรึไง...” นารูโตะหันมาตวาดใส่อีกฝ่าย แต่คิบะไม่สนใจกับท่าทางแบบนั้นยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก
“นารูโตะ...”
“ชั้นจะไปหาชิกามารุ...” พูดจบนารูโตะก็วิ่งหนีเอาดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น แต่คิบะไม่ได้โกรธที่อีกฝ่ายวิ่งหนีไปแต่รู้สึกไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายบอกว่าจะไปหาชิกามารุนั่นเอง
“ชิส์...รู้สึกขัดใจแปลก ๆ แฮะ ไม่ชอบเลยเว้ย...” คิบะสบถกับตัวเองก่อนจะมุ่งหน้ากลับบ้านของตน
...หลังจากที่ตัดสินใจวิ่งหนีคิบะมานารูโตะก็มาหยุดยืนหอบอยู่ข้าง ๆ ตึกที่ทำการของโฮคาเงะ ก่อนจะค่อย ๆ ทรุดกายลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกับนึกโกรธอีกฝ่ายขึ้นมาน้อย ๆ ทั้งที่ตัวเค้าอุตส่าห์บอกให้ต่างคนต่างกลับดี ๆ แล้วยังมาเซ้าซี้ไม่เลิก สุดท้ายจึงต้องวิ่งหนีมาแบบนี้เพราะไม่ต้องการจะอยู่ใกล้อีกฝ่ายมากเกินไป เนื่องจากทุกครั้งที่เข้าใกล้จิตใจมันไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ ยิ่งช่วงนี้เข้าใกล้ทีไรเป็นต้องมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นตลอด ดูอย่างก่อนออกมาจากห้องนั่นปะไร ยิ่งคิดยิ่งนึกถึงใบหน้าตัวเองก็เหมือนจะยิ่งร้อนผ่าวมากขึ้น...
“เอาไว้ให้อะไร ๆ มันดีขึ้นแล้วค่อยไปขอโทษเจ้านั่นก็แล้วกัน...” นารูโตะบอกกับตัวเองไปเบา ๆ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงร้องทักมาจากด้านหลัง
“นารูโตะ !!!...” จากเสียงทักทายนั้นทำให้นารูโตะต้องรีบดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะหันกลับไปมองว่าคนที่เข้ามาทักเค้าเป็นใคร
“อิโนะ !!!...ทำไมมาเงียบ ๆ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง...” นารูโตะตัดพ้อพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก
“มาเงียบ ๆ ที่ใหนกันชั้นเรียกนายตั้งนานแล้วแต่นายก็นั่งบ่นอะไรงึมงำคนเดียว ไม่ได้สนใจชั้นเลย...” อิโนะรีบแย้งพร้อมกับเดินเข้ามาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างค้นหา
“อย่างนั้นเหรอ...โทษทีนะพอดีคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่น่ะ...”
“แล้วนายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ...”
“ก็แค่เดินไปเรื่อย ๆ ตามประสาคนว่างงานนั่นแหละ แล้วเธอจะไปใหนล่ะ...”
“จะไปหาชิกามารุซักหน่อย...”
“เหรอ...งั้นก็รีบไปเถอะ...”
“ชั้นไปก่อนนะ...แล้วเจอกัน...”
“อืม...” พออีกฝ่ายเดินจากไปแล้ว นารูโตะก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้นอีกรอบ
“เฮ้อ...จิตตกขนาดนี้เลยเหรอเรา เศร้าชะมัดเลยแฮะ...” นารูโตะรำพึงรำพันกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับบ้านในสภาพหดหู่จนเกินจะบรรยาย
...แล้วในที่สุดวันสอบของเด็ก ๆ ที่โรงเรียนก็มาถึงพอถึงเวลาจริง ๆเพื่อน ๆ ทุกคนก็มารวมตัวกันเกือบครบจะขาดอยู่ก็แค่ทีมของเนจิเท่านั้นเองที่ยังไม่กลับจากทำภารกิจ และการสอบในช่วงเช้าจะเป็นการแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละสามคน คล้าย ๆ กับการสอบจูนินแต่บททดสอบจะง่ายกว่ามาก ซึ่งสถานที่สอบนั้นก็จะถูกแยกออกเป็นห้อง ๆ ซึ่งในแต่ละห้องก็จะมีเจ้าหน้าที่และพวกของนารูโตะประจำอยู่ห้องละหนึ่งคน กติกาก็คือให้นักเรียนแต่ละกลุ่มชิงผ้าแดงที่ผูกอยู่กับคู่ต่อสู้มาให้ได้โดยไม่จำกัดวิธี ภายในเวลาที่กำหนดและถ้าหมดเวลาแล้วยังชิงผ้าแดงมาไม่ได้ก็ให้ไปรอสอบแก้ตัวในรอบบ่ายแทน ซึ่งในการชิงผ้าแดงนี้คนที่เป็นคู่ต่อสู้จะต้องทำหน้าที่ประเมินให้เด็ก ๆ พวกนั้นด้วยเพื่อใช้ประกอบกับคะแนนภาคทฤษฏี...
“ชิกามารุ...” เสียงใส ๆ ร้องเรียกมาเบา ๆ
“มีอะไรเหรอ...นารูโตะ...”
“คือว่านายเข้าไปในห้องสอบกับชั้นได้มั้ย...”
“หือ...ทำไมล่ะ...” ชิกามารุย้อนถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ก็แบบว่า...ชั้นไม่แน่ใจว่าตัวเองจะประเมินเด็ก ๆ พวกนั้นได้ถูกต้องรึเปล่า เกิดถ้าชั้นประเมินให้สูงไปเด็กพวกนั้นอาจจะแย่ก็ได้ หรือถ้าชั้นประเมินต่ำไปก็คงไม่เป็นผลดีกับหมู่บ้านเราแน่ ๆ เพราะงั้นขอร้องล่ะนะชิกามารุ ช่วยเข้าไปประเมินให้ชั้นหน่อยนะ...”
“เฮ้อ...ยุ่งยากจริง ๆ เลยนะนายเนี่ย เอาแบบนั้นก็ได้แต่ขอชั้นไปบอกครูอิรูกะก่อนก็แล้วกัน...” ชิกามารุรับคำก่อนจะเดินไปแจ้งให้อิรูกะทราบถึงความต้องการของนารูโตะ เพียงไม่นานชิกามารุก็เดินกลับมาหานารูโตะที่ยืนรออยู่ด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าดีใจสุด ๆ
“ขอบใจนะชิกามารุ...มีนายอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ชั้นมั่นใจขึ้นตั้งเยอะ...” เสียงใส ๆ ร้องบอกมาพร้อมกับจูงมืออีกฝ่ายให้เข้าไปในห้องสอบของตน ซึ่งชิกามารุก็ไม่ได้ว่าได้แต่ทำหน้าเซ็งไปตามเรื่องตามราว แต่ทั้งสองคนคงไม่รู้ว่าการกระทำทั้งหมดนั้นตกอยู่ในสายตาคม ๆ ของใครบางคนที่จ้องมองร่างบางมาตั้งแต่แรกจนกระทั้งหายเข้าไปในห้องสอบกับชิกามารุสองคน...
“เป็นไรไปคิบะ...ทำหน้าทำตาเหมือนกับจะฆ่าใครอย่างนั้นแหละ...” ชิโนะเดินมาอยู่ข้างหลังคิบะตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ร้องถามมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นโทนเดียวตลอดตามบุคลิกของตน
“ไม่มีอะไรหรอก...ห้องของนายอยู่ทางโน้นไม่ใช่เหรอ มาเดินเตร็ดเตร่อะไรแถวนี้ล่ะ...” คิบะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังเหมือนกำลังขัดเคืองใจอะไรบางอย่าง
“ก็แค่แวะมาเอารายชื่อเท่านั้นเอง...ว่าแต่นายเถอะแขนยังไม่หายดีอย่าบ้าพลังให้มันมากนักก็แล้วกัน...” ชิโนะเอ่ยตอบกลับมาก่อนจะเดินไปที่อิรูกะเพื่อขอรายชื่อเด็ก ๆ ที่จะต้องเข้าสอบกับเค้าโดยไม่สนใจคิบะอีก คิบะเองรู้ตัวว่าทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้พลางก้มลงมองมือตัวเองที่ยังมีผ้าพันแผลพันเอาไว้แต่ก็ไม่ได้แน่นหนาเหมือนเมื่อหลายวันก่อน จึงต้องยอมเดินเข้าไปในห้องสอบด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นกับเรื่องของใครบางคนและคนอื่น ๆ ที่มาช่วยคุมสอบก็ทยอยเดินเข้าไปประจำในห้องตัวเองกันหมดแล้วเช่นกัน...
...การสอบในรอบเช้ากินเวลาไปจนถึงเที่ยงเพราะเด็ก ๆ แต่ละกลุ่มต่างก็ทุ่มฝีมือกันเต็มที่เพื่อหวังจะชิงผ้าแดงจากผู้คุมสอบให้ได้ตามเวลาที่กำหนด และเวลาที่กำหนดให้ก็ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ประกอบกับมีผู้คุมสอบหลายคนจึงสามารถขยายเวลาให้เด็ก ๆ ได้มากขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีกลุ่มใหนชิงผ้าแดงมาจากผู้คุมได้เลยซักกลุ่มเดียว...
“เฮ้อ...เสร็จซักที หิวจะแย่แล้ว...” นารูโตะถอนหายใจเสียงดังขณะที่เดินออกมาจากห้องสอบพร้อมกับชิกามารุ
“ใครใช้ให้บ้าพลังแบบนั้นล่ะ...เล่นเอาจริงเป็นบ้าเป็นหลังแบบนั้นก็ต้องหมดแรงก่อนเป็นธรรมดา...” ชิกามารุบ่นให้อีกฝ่ายด้วยทีท่าที่ไม่จริงจังเท่าใด
“ก็แบบว่ามันน่าสนุกออก...ชั้นฝึกคนเดียวมาตั้งหลายวันพอมีคนมาสู้ด้วยก็ต้องดีใจจนเผลอเอาจริง ถึงเด็ก ๆ พวกนั้นจะชิงผ้าแดงไปไม่ได้ก็เถอะ แต่อนาคตเด็กพวกนี้ต้องเก่งมากแน่ ๆ...”
“ชั้นก็ว่าอย่างนั้นแหละ...” ชิกามารุเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย
“ไปกินข้าวกันเดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง...”
“หือ...จริงดิ แต่ไม่เอาราเมงได้มั้ย...”
“ได้อยู่แล้ว...จัดให้เพื่อนายเป็นพิเศษเลย ตอบแทนที่ช่วยเข้าไปประเมินเด็ก ๆ ให้ชั้งไง...”
“โอ้โห...อยู่ดี ๆ ก็มีลาภปากแฮะ...” แล้วทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปหาอะไรใส่ท้องกันโดยที่ไม่ได้สนใจคนรอบข้างเลย คิบะที่ออกจากห้องมาแล้วเห็นสองคนนั้นเดินไปด้วยกันอีกก็ยิ่งรู้สึกแปลก ๆ ในใจขณะที่กำลังยืนเหม่ออยู่นั้นจู่ ๆ ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือของใครบางคนมาวางที่บ่า
“คิบะ!!!...” คิบะที่หันไปตามเสียงเรียกแล้วพบอิโนะ โจจิ ชิโนะ และฮินาตะยืนหน้าสล่อนก็ร้องถามกลับไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“เอ่อ...อะไรเหรอ...”
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น...ไปกินข้าวกันมั้ย แล้วเห็นนารูโตะกับชิกามารุหรือเปล่า...” อิโนะเป็นฝ่ายร้องถามพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาคนที่ถามถึง
“ไม่ไปหรอก...แล้วก็ไม่เห็นใครทั้งนั้น...” พูดจบก็หมุนกายเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“เป็นอะไรของเค้านะ...ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี...” อิโนะรำพึงรำพันกับตัวเองก่อนจะชักชวนเพื่อนไปหาอะไรกินโดยเลิกสนใจคนขี้หงุดหงิดไปโดยปริยาย
...แล้วการสอบแก้ตัวรอบบ่ายก็เริ่มต้นขึ้นซึ่งกติกาก็ยังคงเหมือนเดิมคือให้ผู้เข้าสอบหาทางชิงผ้าแดงจากผู้คุมสอบมาให้ได้แต่คราวนี้เด็ก ๆ จะถูกทดสอบรายตัวไม่ได้เข้าสอบเป็นกลุ่มเหมือนตอนเช้า และสาเหตุที่ให้สอบทีละคนก็เพื่อจะได้ประเมินทักษะของแต่ละคนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรผลก็ออกมาเหมือนเดิมคือไม่มีเด็กคนใหนที่สามารถแย่งผ้าแดงจากผู้คุมได้เลยซักคน...
“เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย...” นารูโตะบ่นกับชิกามารุขณะเดินออกมาจากห้องสอบด้วยกัน
“ความจริงเด็กที่มาสอบกับนายวันนี้ก็มีหลายคนเหมือนกันนะที่เกือบจะแย่งผ้าไปจากนายได้น่ะ...”
“เอ๋...จริงเหรอ ทำไมชั้นไม่รู้สึกตัวเลยล่ะ...” เสียงใส ๆ ร้องขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“เฮ้อ...นายเนี่ยน้า หัดสังเกตุสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัวซะบ้างสิอย่าใช้แต่ลูกบ้าอย่างเดียว แล้วก็ไอ้คาถานั้นของนายก็ไม่ควรเอามาใช้เวลาคุมสอบเด็ก ๆ รู้หรือเปล่า...” ชิกามารุเริ่มเทศน์ยาวเหยียดให้อีกฝ่ายฟัง
“ก็มันเผลอไปหน่อยเดียวเอง แบบว่าใช้จนเคยตัวละมั๊ง...”
“แค่โคโนฮะมารุคนเดียวก็พอแล้วอย่าให้เด็กคนอื่น ๆ ติดเชื้อบ้า ๆ ของนายไปด้วยก็แล้วกัน...” ชิกามารุเอ่ยพร้อมกับขยี้หัวอีกฝ่ายเล่นเบา ๆ เป็นการหยอกล้อ
“รู้แล้วล่ะน่า...แล้วก็เลิกยุ่งกับหัวชั้นซักทีเหอะอย่าถือว่าตัวสูงกว่าแล้วจะทำอะไรก็ได้นะเฟ้ย...” นารูโตะเอ่ยตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่พอใจเพราะไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายมาขยุ้มหัวตัวเองเล่นเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุกและที่สำคัญคืออีกฝ่ายตัวสูงกว่าเลยเอาคืนไม่ได้
“ถ้าเจ็บใจก็ต้องพยายามสูงกว่าชั้นให้ได้สิ...นารูโตะ...” ชิกามารุเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ส่งผลให้อีกฝ่ายยิ่งทำหน้าบูดหน้าบึ้งด้วยรู้สึกขัดใจที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้
“เอ้า ๆ สองคนนี้ทำอะไรกันอยู่เหรอ...” อิโนะเอ่ยทักมาเพราะได้ยินเสียงหัวเราะของชิกามารุกับเสียงเอะอะโวยวายของนารูโตะดังมาแต่ไกล
“ไม่มีอะไรหรอก...แล้วเสร็จกันแล้วเหรอ...” ชิกามารุเป็นฝ่ายตอบเพราะอีกคนเอาแต่ยืนหน้าง้ำไม่พูดไม่จา
“อืม...ทางนี้ก็เรียบร้อยแล้วสินะถึงได้มีเวลามายืนหยอกล้อกันแบบนี้น่ะ...” อิโนะยังแซวทั้งสองคนไม่เลิก
“แล้วผลโดยรวมเป็นไงบ้างล่ะ...” ชิกามารุไม่สนใจที่อีกฝ่ายแซวแต่กลับย้อนถามมาเป็นงานเป็นการ
“ของชั้นก็ถือว่าใช้ได้ แต่ก็มีบางคนที่ยังอ่อนหัดอยู่น่ะ...” อิโนะชิงตอบเป็นคนแรก
“ของชั้นก็ประมาณนั้นแหละ...” โจจิร้องบอกมาอีกคนแล้วคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันพูดถึงผลการคุมสอบของตนให้ชิกามารุฟัง และในระหว่างที่ชิกามารุกับคนอื่น ๆ กำลังสนใจผลการสอบอยู่นารูโตะที่ไม่ต้องรายงานผลเหมือนคนอื่น ๆ เพราะว่าชิกามารุเข้าไปด้วยก็เริ่มรู้สึกเบื่อขณะที่กำลังคิดว่าจะไปนั่งรอทุกคนใกล้ ๆ พลันสายตาก็ไปสบเข้ากับใครบางคนที่ยืนมองมานิ่ง ๆ โดยบังเอิญ แล้วนารูโตะก็ต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราสายตาคู่นั้นมันมีผลกับจิตใจของเค้ามากจริง ๆ แต่ถึงจะเบือนหน้าหนีมาแล้วก็ยังรู้สึกได้ว่าตัวเองสายตาคม ๆ คู่นั้นไม่ได้ละไปจากตัวเค้าเลยแม้แต่น้อย และเมื่อไม่รู้จะหลบด้วยวิธีใหนนารูโตะจึงหันไปหาตัวช่วยที่ยังยืนคุยกับคนอื่นไม่เสร็จ...
“ชิกามารุ...กลับกันได้หรือยัง...” เสียงใส ๆ ที่ร้องถามมานั้นนารูโตะพยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมไม่ให้มันสั่น
“งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ...หิวข้าวแล้วเหมือนกัน...” ชิกามารุหันไปบอกคนอื่น ๆ แล้วทุกคนก็ออกเดินไปด้วยกันโดยลืมไปว่ายังขาดสมาชิกอีกคนที่ยังไม่มา แต่ถึงนารูโตะจะรู้ว่าขาดใครไปเค้าก็ไม่คิดจะร้องบอกออกไปอย่างแน่นอน...
...แล้วทุกคนก็พากันไปนั่งกินที่ร้านเนื้อย่างเจ้าประจำของโจจิอย่างสนุกสนาน แม้จะมีคนถามว่าคิบะหายไปใหนนารูโตะก็ปิดปากเงียบไม่ยอมบอกว่าเห็นใครคนนั้นยืนอยู่ห่าง ๆ จากกลุ่มที่พวกเค้ายืนคุยกันหลังคุมสอบเสร็จ...
“ขอบคุณทุกคนมากนะที่อุตส่าห์มาช่วย...ถ้ายังไงเราแยกกันตรงนี้เลยแล้วกัน...” ชิกามารุเอ่ยขอบคุณเพื่อน ๆ ที่มาช่วยให้การคุมสอบสำเร็จลงได้ด้วยดี แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตน
...นารูโตะเองก็เดินทอดน่องไปตามถนนอย่างไม่รีบร้อนหลังจากแยกกับซากุระแล้วตัวเองก็ เดินเล่นกินลมมาเรื่อย ๆ เพราะเดินอีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึงบ้านของตนแล้ว แต่ขณะนั้นสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับร่าง ๆ หนึ่งที่นั่งหันหลังให้เค้าอยู่ริมทางน้ำนั่นเอง นารูโตะจำได้ทันทีว่าร่างนั้นเป็นใครจึงพยายามเดินผ่านไปแบบเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ตัวแต่ทว่า...
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง...” อากามารุหมาแสนรู้พอเห็นนารูโตะเดินผ่านมาก็เห่าทักทายด้วยความคุ้นเคย ส่งผลให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาเห็นว่าคนที่กำลังเดินผ่านไปเป็นใคร
“นารูโตะ...” คิบะร้องทักมาเบา ๆ ก่อนจะขยับกายลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ เดินเข้ามาหา
“เอ่อ...หวัดดี มานั่งทำอะไรตรงนี้เหรอ...” นารูโตะที่ไม่รู้จะทักจะตอบอะไรก็เอ่ยออกไปเท่าที่สมองจะนึกออก
“มานั่งพักให้หายเหนื่อยน่ะ...แล้วก็กำลังจะกลับแล้วล่ะ...” คิบะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงธรรมดา ไม่ได้ยียวนกวนประสาทเหมือนเช่นทุกที มันยิ่งทำให้นารูโตะรู้สึกผิดในหลาย ๆ เรื่องจนไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายขณะที่กำลังเบือนหน้าหนีสายตาก็ไม่สะดุดเข้ากับมือข้างขวาของอีกฝ่ายที่เห็นเป็นรอยเลือดไหลซึมออกมาจนผ้าพันแผลสีขาวแทบจะกลายเป็นสีแดงทั้งหมดอยู่แล้ว
“คิบะ !!!...มือนายทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ...” นารูโตะอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจก่อนจะเผลอตัวเข้าไปคว้ามืออีกฝ่ายมากุมไว้อย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรหรอก...แค่เผลอใช้มือตอนคุมสอบเท่านั้นเอง...” คิบะตอบกลับมาราวกับว่าแผลที่มือของตนมันเป็นเรื่องเล็กน้อยจนไม่อยากใส่ใจ พร้อม ๆ กับดึงมือตัวเองออกมาจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรกะผีนะสิ...เลือดออกแบบนี้ปากแผลคงปริออกมาแน่ ๆ ไปโรงพยาบาลให้หมอดูก่อนดีกว่า...” นารูโตะดูจะเดือดร้อนเป็นอย่างมากราวกับว่าบาดแผลนั้นเป็นของตนเสียเอง
“แผลแค่นี้เดี๋ยวกลับไปใส่ยาเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่เอาก็ได้ งั้นชั้นกลับก่อนนะ...” พูดจบคิบะก็เดินจากไปทันที
“คิบะ!!...เดี๋ยวก่อน...” นารูโตะร้องเรียกไว้แต่อีกฝ่ายไม่สนใจยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยทีท่าอ่อนล้าเหลือเกิน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นัตจังทำไรไม่คิดถึงความรู้สึกคิบะเลยอ่า รีบตามไปง้อเลยไป๊-3-
ชิก้า...นายออกมาสร้างความเข้าใจผิดให้คน(คู่)อื่นตลอดๆเลยนะ
ปล.ไรท์รักชิก้ามากสุดช้ะ? สารภาพมาตามตรง เห็นได้ออก(เกือบ)ทุกเรื่อง
ก็แหม...นารูโตะคุงเล่นไปคลุกอยู่กับชิกก้าอย่างเดียวไม่มาสนใจใยดีอะไรตัวเองเลยนิเนอะ
นารูโตะอย่าปล่อยไปนะรีบตามไปทำแผลให้คิบะเป็นการไถ่โทษเดี๋ยวนี้เลยนะค่ะ
อารมณ์เสียเดี๋ยวเชียร์ชิกานารุซะเลย
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า
นารูโตะเย็นชานะต่ะ
แต่เรื่องนี้คิบะเป็นพระเอกซินะ เลยแอบเซ็งเล็ก ๆ
แต่ก็อดสงสารคิบะไม่ได้แฮะ ยิ่งตอนที่นารุทำท่าเหมือนรังเกียจเนี่ย น่าเห็นใจคิบะมาก ๆ
อ่านต่อไปโดยด่วน
ไรเตอร์ทำให้แอบจิ้นชิกานารุอีกแล้วนะคะ =,,=
ไม่ๆๆ เรื่องนี้คิบะนารุน้าาาาา อย่าเอนเอียงๆ //เอาหัวโขกกำแพง