ตอนที่ 17 : ออกเดินทาง
Smile of : 17
...เข้าวันนี้คิบะตั้งใจจะไปหานารูโตะแต่เช้าจึงได้รีบตื่นมาตั้งแต่พระอาทิตย์เพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้า ทำให้คนเป็นแม่เกิดอาการประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายตื่นเช้าเหมือนคนอื่น ๆ ก็เป็น...
“ฝนจะตกจนน้ำท่วมโลกเลยหรือเปล่าเนี้ย...ลูกชายชั้นตื่นมาแต่เช้าแบบนี้น่ะ...”
“แหม่แม่ก็พูดเข้า...คนเรามันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง...” คิบะเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงและทีท่าที่บ่งบอกว่ากำลังอารมณ์ดีสุด ๆ
“เปลี่ยนให้มันตลอดก็แล้วกัน...ไม่ใช่อีกสามวันให้หลังก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม...” คนเป็นแม่ยังคงระแวงและไม่อยากจะเชื่อกับพฤติกรรมของลูกซักเท่าไหร่ คิบะเองก็ไม่ได้สนใจจะแก้ตัวหรืออะไรทั้งนั้นเค้าหันมาจัดการกับอาหารเช้าที่แม่ทำไว้ให้อย่างรวดเร็วเพื่อจะได้ออกไปหาใครบางคนอย่างที่ใจคิดได้ซักที
...พอตกสายหน่อยคิบะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านของนารูโตะก็เจอเข้ากับชิกามารุที่กำลังจะไปที่บ้านของนารูโตะอยู่พอดีเหมือนกัน...
“จะไปหานารูโตะเหรอ...” คิบะร้องถามไปด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกเล็กน้อยที่ต้องมาเจอคนที่ไม่อยากเจอตั้งแต่เช้าแบบนี้
“อืม...ท่านซึนาเดะให้มาตามน่ะ...” คำตอบของชิกามารุทำให้คิบะเดาว่าคงจะมีภารกิจให้นารูโตะทำอย่างแน่นอนพอคิดได้แบบนั้นในใจก็เริ่มหวั่นไหว เพราะเท่าที่เค้ารู้มานับตั้งแต่ที่นารูโตะออกจากหมู่บ้านไปพร้อมกับจิไรยะแล้วก็เพิ่งกลับเข้ามาไม่นานนี้ นารูโตะมักได้รับภารกิจที่อันตรายแบบต้องเสี่ยงด้วยชีวิตตลอด...
“มีภารกิจงั้นเหรอ...อันตรายหรือเปล่า...” คิบะร้องถามออกไปด้วยสีหน้าหวาดหวั่นอย่างไม่ปิดบัง ซึ่งชิกามารุก็พอจะเข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมีสีหน้าแบบนั้น ตัวเค้าเองก็รู้สึกไม่ต่างกันแต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา
“ใช่...แต่จะอันตรายหรือเปล่าชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน...” ชิกามารุเอ่ยตอบไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะก้าวเดินต่อไป เห็นดังนั้นคิบะก็รีบเดินตามอีกฝ่ายไปด้วยเช่นกัน
“นารูโตะต้องไปทำภารกิจกับทีมใหนเหรอ...หรือว่าไปกับซากุระแล้วก็ครูคาคาชิ...”
“ท่านซึนาเดะไม่ได้บอกรายละเอียด...ท่านบอกแค่ว่าอยากให้นารูโตะไปทำภารกิจนี้เลยให้ชั้นมาตาม...” คำตอบของชิกามารุไม่ได้ช่วยให้คิบะสบายใจขึ้นเลย แล้วทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูบ้านของนารูโตะขณะที่ชิกามารุกำลังจะเคาะประตูเรียก ประตูบานนั้นก็เปิดออกพอดี
“อ้าว...คิบะ ชิกามารุ ทำไมมาด้วยกันล่ะมีอะไรงั้นเหรอ...” เสียงใส ๆ ร้องทักมาด้วยความแปลกใจที่เห็นสองคนนี้มายืนอยู่หน้าประตูบ้านของตนพร้อมกัน
“ท่านซึนาเดะให้มาตาม...มีภารกิจน่ะ...” ชิกามารุบอกไปตามตรงถึงเป้าหมายของการมาที่นี่
“งั้นชั้นขอไปฟังภารกิจที่ได้รับก่อน แล้วค่อยกลับมาเตรียมตัวนะ...” นารูโตะเอ่ยตอบกลับมาด้วยทีท่าสงบนิ่ง
“ก็ได้...” จากนั้นทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของซึนาเดะพร้อมกัน แต่ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน สองคนกำลังเป็นห่วงว่าภารกิจในครั้งนี้จะทำให้ร่างบอบบางต้องเสี่ยงอันตรายมากแค่ใหน ส่วนคนที่สองคนนั้นกำลังนึกห่วงใยอยู่ก็ได้แต่รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำภารกิจที่ไม่ได้ทำมาเสียนานซักที...
...ณ ห้องทำงานของโฮคาเงะ...
“มาแล้วเหรอ...นารูโตะ...” สาวสวยนางหนึ่งเอ่ยทักทายขึ้นมาเมื่อเห็นคนที่รออยู่ก้าวเข้ามาในห้องของตน
“ป้าจะให้ทำภารกิจอะไรเหรฮฮ่ะ...” นารูโตะเองก็ร้องถามกลับไปทันทีเช่นกัน
“ส่งของ...”
“ห๊า...ส่งของ ???...ของอะไรเหรอป้า...” เสียงใส ๆ อุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหูว่าตัวเองจะต้องมาทำภารกิจเล็กน้อยแบบนี้
“แล้วไง...มันเป็นของขวัญที่ท่านไดเมียวต้องการส่งไปรับขวัญหลานสาวท่านที่เพิ่งคลอดเมื่อไม่กี่วันมานี่...ถ้านายดูแลของในนี้ไม่ดีล่ะก็...รู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น...” ประโยคสุดท้ายของซึนาเดะฟังดูเหี้ยมขึ้นจนน่ากลัว
“รู้แล้วล่ะน่า...จะดูแลให้เป็นอย่างดีเลย แล้วจะให้เอาไปส่งที่ใหน และจะให้ไปเมื่อไหร่...” นารูโตะซักถามข้อมูลในภารกิจของตน
“แคว้น......แล้วก็ออกเดินทางวันนี้เลย...”
“ฮ่ะ...งั้นผมไปเตรียมตัวก่อนนะ...” ว่าแล้วนารูโตะก็เตรียมจะหมุนกายจากไป
“เดี๋ยวก่อน...ภารกิจนี้นายทำคนเดียวคงไม่ดีเอาใครไปด้วยอีกคนแล้วกัน อืม..หรือว่าจะจัดเป็นทีมสามคนก็ได้...” เมื่อซึนาเดะกล่าวจบ สองเสียงก็ร้องประสานกันขึ้นมาแบบไม่ได้นัดหมาย
“ผมไปด้วยได้มั้ยครับ...” ซึนาเดะมองสองคนตรงหน้าด้วยแววตาสงสัย นารูโตะเองก็ตกใจอยู่เหมือนกันซึ่งจะว่าไปสำหรับคิบะเค้าเองก็ไม่แปลกใจหรอกที่จะร้องตามไปด้วยแต่ใครอีกคนนะสิ ที่ทำให้เค้ารู้สึกแปลก ๆ ในใจ
“ให้คิบะไปด้วยอีกคนแล้วกัน...ส่วนนายชิกามารุ ทีมของนายมีภารกิจอื่นต้องไปทำ...” สุดท้ายซึนาเดะก็เป็นคนเลือกให้คิบะเป็นฝ่ายไป สองคนที่ยืนอยู่มีสีหน้าต่างกันราวฟ้ากับเหว คิบะยิ้มจนแก้มแทบปริส่วนชิกามารุก็แอบชำเลืองมองคนข้าง ๆ ด้วยสายตาเคือง ๆ แต่มีรึที่คิบะจะสนใจกับสายตาแบบนั้นตอนนี้ถ้าเค้าสามารถกระโดดแล้วร้องตะโกนออกมาได้คงทำไปแล้ว ดังนั้นเค้าจึงตรงเข้าไปคว้าแขนเล็ก ๆ ของนารูโตะแล้วพาออกไปด้วยกันทันทีแต่ก็ไม่ลืมหันกลับมาบอกซึนาเดะว่า...
“ขอบคุณครับท่านซึนาเดะ...ผมจะดูแลทั้งคนทั้งของให้เป็นอย่างดีเลย...” พอขาดคำคิบะก็พาใครอีกคนหายไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ...ทำไมต้องเป็นเจ้าหมอนั่นด้วยล่ะเนี่ย...” ชิกามารุบ่นงึมงำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ เพราะถ้าดูจากลักษณะท่าทางของนารูโตะที่มีต่อคิบะแล้วเค้าเดาว่าสองคนนี้คงปรับความเข้าใจกันได้แล้วนั่นเอง
“อย่ามัวแต่มายืนถอนหายใจอยู่เลย...เอ้านี่ภารกิจของเธอรับไปซะครั้งนี้ขอให้ไปกับอิโนะแล้วก็โจจินะ เพราะว่ามันค่อนข้างอันตรายอยู่มาก ไม่อยากให้ไปกับคนที่ไม่คุ้นเคยกัน...เข้าใจนะ...” ซึนาเดะกล่าวขณะยื่นม้วนเอกสารให้อีกฝ่ายแล้วก็เลิกสนใจชิกามารุหันไปสนใจกับกองเอกสารตรงหน้าแทน ชิกามารุจำต้องยอมรับภารกิจอันตรายนี้ด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวเกินทน...
“อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่หน้าประตูใหญ่นะ...” นารูโตะร้องบอกร่างสูงที่ยังเดินกุมมือเค้าไว้ไม่ยอมปล่อย
“ก็ได้...” คิบะรับคำง่ายเกินไปจนนารูโตะรู้สึกประหลาดใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ จากนั้นทั้งสองคนก็แยกย้ายกันไปเพื่อเตรียมตัวก่อนเดินทางไปทำภารกิจ
...อีกสิบนาทีต่อมา...
“ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...” เสียงเคาะประตูดังขึ้นแต่เพราะนารูโตะยังวุ่นวายอยู่กับการเก็บสัมภาระจึงได้แต่ตะโกนบอกคนที่มาเคาะให้เปิดเข้ามาเอง
“ประตูไม่ได้ล็อค...” พอสิ้นเสียงร่างสูงของคนที่คุ้นเคยก็เดินยิ้มร่าเข้ามาข้างในทันที พอนารูโตะเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นใครก็ร้องถามกลับไปด้วยความแปลกใจ
“ทำไมมาเร็วจัง...เรานัดกันที่หน้าประตูใหญ่ไม่ใช่เหรอ...” คิบะไม่ได้ตอบแต่กลับตรงเข้าไปสวมกอดร่างบางที่ยังวุ่นวายกับการเก็บสัมภาระจากทางด้านหลัง นารูโตะสะดุ้งตกใจที่ถูกกอดแบบไม่ทันตั้งตัว
“อ๊ะ...อะไรของนายอีกล่ะเนี่ย เป็นอะไรถามก็ไม่ตอบ...” นารูโตะตัดสินใจหยุดมือจากการเก็บข้าวของของตนแล้วหมุนกายที่ตกอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายหันกลับมาเผชิญหน้ากับร่างสูงด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้
“ดีใจ...” คำตอบที่ดูไม่ค่อยเข้ากับคำถามและสถานการณ์ทำให้นารูโตะยิ่งงุนงงหนักขึ้น
“มีเรื่องอะไรน่าดีใจอย่างงั้นเหรอ...”
“ดีใจที่ได้ทำภารกิจครั้งนี้กับนาย...แค่สองคน...” ประโยคสุดท้ายที่คิบะเอ่ยออกมานั้นฟังดูแล้วให้รู้สึกหวามไหวอย่างไรบอกไม่ถูก ยิ่งพอสบสายตาคมวาวที่พราวระยับอย่างถูกอกถูกใจของอีกฝ่ายแล้วใบหน้านวล ๆ ก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาในทันทีเหมือนกัน
“คิดอะไรบ้า ๆ อยู่ใช่มั้ยเนี่ย...ถึงได้ยิ้มไม่หุบแบบนี้น่ะ...” เสียงหวาน ๆ เอ่ยออกไปอย่างพอจะรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่ายก่อนจะหลบสายตาแล้วผล่ะออกมาจากอ้อมกอดอีกฝ่ายเพื่อจัดการกับข้าวของให้เรียบร้อย คิบะเองก็ยังตามมาโอบกอดเอวเล็ก ๆ นั้นไว้อีกครั้งอย่างรักใคร่ นารูโตะพยายามไม่สนใจร่างสูงด้านหลังแล้วรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเพื่อจะได้พร้อมออกเดินทางซักที
“ไปกันได้แล้วล่ะ...” นารูโตะหันมาบอกคนที่ยังโอบกอดเค้าไว้ไม่ยอมปล่อยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นารูโตะก่อนออกเดินทาง...ชั้นขออะไรนายซักอย่างได้หรือเปล่า...” น้ำเสียงของคิบะเองก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาเหมือนกัน ซึ่งนารูโตะเองก็พยักหน้ารับไปเนื่องจากคิดว่ามันคงมีเงื่อนไขบางอย่างที่คิบะอยากให้เค้าปฏิบัติระหว่างทำภารกิจก็เป็นได้ นั่นก็เพราะตัวเค้ากับ
คิบะนั้นแทบจะไม่มีภารกิจที่จะต้องทำร่วมกันเลยก็ว่าได้
“ได้สิ...แล้วมันคืออะไรเหรอ...” คิบะไม่ได้ตอบแต่กลับเดินตรงเข้ามาหาร่างบางช้า ๆ แล้วรั้งร่างอีกฝ่ายเข้าไปกอดไว้อย่างรวดเร็วจากนั้นก็โน้มใบหน้าของตนลงไปจนชิดกับใบหน้านวล ๆ มาถึงตอนนี้นารูโตะเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังจะเสียรู้อีกฝ่าย แต่ทว่าร่างกายกลับไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้เลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกยินดีและเต็มใจที่จะให้เป็นไปอย่างนั้นเสียมากกว่า สุดท้ายริมฝีปากเรียวสวยของร่างสูงก็ค่อย ๆ เข้ามาสัมผัสกับกลีบปากอิ่มสวยที่เหมือนกับกำลังเชิญชวนอยู่ตรงหน้าอย่างหลงไหล คิบะไล่ลิ้นอุ่นร้อนไปตามรูปปากของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวลก่อนจะเข้าครอบครองทั้งหมดอย่างเร่าร้อน ร่างบางเองก็ตอบรับสัมผัสนั้นกลับมาด้วยอารมณ์เร่งเร้าไม่แพ้กัน...ร่างสองร่างถูกดึงดูดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ แต่ก็เพียงแค่มอบจูบที่แสนอ่อนหวานแต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนให้แก่กันเท่านั้นไม่ได้เกินเลยไปกว่าที่ควรจะเป็น...
“พอได้รึยัง...พวกเราสายมากแล้วน่ะ...” เสียงใส ๆ ร้องถามอีกฝ่ายออกไปเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระแต่ร่างกายยังคงถูกโอบกอดไว้อย่างมั่นคง
“ความจริงก็ยังไม่อยากพอหรอกนะ...แต่ว่าไปทำภารกิจให้เสร็จก่อนแล้วค่อยต่อวันหลังก็ได้...” คิบะตอบกลับมาพร้อมกับไล่ปลายนิ้วเรียว ๆ ไปตามแก้มนุ่ม ๆ ที่บัดนี้มันกำลังขึ้นสีน้อย ๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปสัมผัสกับแก้มนวล ๆ นั้นด้วยการจูบเบา ๆ อย่างนุ่มนวลเสียอีกหนึ่งที
“งั้นก็รีบไปกันเถอะ...แล้วก็เลิกทำรุ่มร่ามกับชั้นซักพักจะได้มั้ย...” ร่างบางกล่าวพร้อมกับผล่ะออกมาจากอ้อมกอดนั้นก่อนจะเดินนำออกมาจากห้องเพราะถ้าขืนปล่อยให้ตัวเองอยู่ในห้องนั้นตามลำพังกับอีกฝ่าย วันนี้ทั้งวันก็คงไม่ได้ไปใหนแน่ ๆ คิบะเองพอเห็นดังนั้นก็รีบเดินตามร่างบางไปติด ๆ จากนั้นก็ฉวยโอกาสช้อนร่างเล็ก ๆ นั้นขึ้นอุ้มส่งให้ร่างนั้นขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังอากามารุได้อย่างรวดเร็ว...
“ไปแบบนี้น่าจะถึงเร็วกว่าน่ะ...แล้วนายก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยด้วย ที่สำคัญชั้นจะได้กอดนายไปตลอดทางเลย...” ว่าแล้วคิบะก็โดดขึ้นมานั่งซ้อนหลังนารูโตะที่นั่งรออยู่บนหลังอากามารุก่อนแล้ว พร้อมกับใช้แขนข้างหนึ่งโอบรั้งเอวบาง ๆ เข้ามากอดไว้กับตัวก่อนจะสั่งให้
อากามารุออกวิ่งทันที...
“เอาแต่ใจจริง ๆ เลยนะนายเนี่ย...” นารูโตะบ่นให้คนข้างหลังเบา ๆ แต่ไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนแต่อย่างใดกลับปล่อยให้อีกฝ่ายโอบประคองตนเองไปตลอดการเดินทาง
...ทั้งสองคนเดินทางมาได้เกือบครึ่งหนึ่งของระยะทางแล้วแต่ก็ต้องหยุดพักเพราะว่าค่ำเสียก่อน ทว่าในระแวกนั้นไม่มีหมู่บ้านจึงต้อง
พักค้างแรมกันในป่าแต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับทั้งสองคนเลย...
“คืนนี้พักแถว ๆ นี้แล้วกันนะห่างไปอีกหน่อยมีแหล่งน้ำอยู่ด้วย...” คิบะเอ่ยขึ้นมาเมื่อประสาทสัมผัสของเค้าบอกว่าไม่ห่างจากที่นี่มากนักมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้วย นารูโตะเองก็ไม่ได้คัดค้านเพราะเค้าเชื่อว่าประสาทการรับรู้หรือสัมผัสกับสิ่งรอบตัวของคิบะดีกว่าเค้าเป็นร้อยเท่า จึงหันไปก่อกองไฟเพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและและให้แสงสว่างในยามค่ำคืนโดยที่ไม่ได้สังเกตุว่าใคร่อีกคนได้หายตัวไปจากตรงนั้นเสียแล้ว...เมื่อก่อกองไฟเสร็จนารูโตะก็หันไปมองรอบกายก็พบเพียงความมืดไร้ซึ่งเงาของร่างสูงและสุนัขคู่ใจ...
“หายไปใหนของเค้านะ...ไปใหนก็ไม่ยอมบอก...” นารูโตะได้แต่บ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะหันมาจัดการที่หลับที่นอนสำหรับคืนนี้ แต่แล้วจู่ ๆ ก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาสุดตัวเมื่อถูกใครบางคนโอบกอดไว้จากด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“คิบะ...เล่นอะไรเนี่ย แล้วหายไปใหนมา...” เสียงใส ๆ เอ่ยดุอีกฝ่ายไปเมื่อเห็นว่าเจ้าของท่อนแขนที่โอบเอวของเค้าไว้เป็นใคร
“ก็ออกไปหาอะไรมาให้กินไง...” คิบะว่าพลางก็ชี้มือไปที่กองไฟที่มีปลาตัวใหญ่สองสามตัวถูกไม้เสียบแล้ววางตั้งไว้ข้าง ๆ กองไฟนั่นเอง...
“เสบียงเราก็มี...จะต้องไปหาทำไม...” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเริ่มนุ่มนวลขึ้นเมื่อรู้ถึงจุดประสงค์ที่อีกฝ่ายหายตัวไป
“อยากให้นายได้กินของอร่อย ๆ ไงอาหารพวกนั้นเอาไว้กินตอนไม่มีอะไรจะกินจริง ๆ แล้วกันนะ...” คิบะพูดพลางเข้าคลอเคลียแก้มนุ่มนิ่มไปพลาง นารูโตะเองก็ขี้เกียจจะบ่นจึงปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจไปโดยไม่ว่าอะไร
“ขอบใจนะ...ทีหลังไม่ต้องลำบากหรอก และที่สำคัญจะไปใหนมาใหนก็หัดบอกกันก่อนจะได้ไม่เป็นห่วง...”
“หืม...นายเป็นห่วงชั้นด้วยเหรอ...น่ารักจริง ๆ เลยนะนายเนี่ย...” คิบะเอ่ยออกมาด้วยท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้า พร้อมกับกระชับอ้อมแขนของตนที่มีใครอีกคนอยู่ในนั้นให้แน่นขึ้นไปอีก
...ทั้งสองจัดการอาหารที่คิบะอุตส่าห์ไปหามาให้หมดไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมานั่งผิงไฟเพราะอากาศในป่าพอเริ่มดึกอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ยิ่งมาพักอยู่ใกล้ ๆ แหล่งน้ำแบบนี้ด้วยแล้วอากาศก็จะยิ่งเย็นเป็นพิเศษ...
“หนาวหรือเปล่า...” คิบะเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความห่วงใยเพราะเห็นทางนั้นนั่งตัวลีบอยู่ข้างกองไฟ
“ไม่เท่าไหร่หรอก...” เสียงใส ๆ เอ่ยตอบไปเบา ๆ พร้อมกับเหม่อมองกองไฟตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเบา ๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นจากใครบางคน คิบะที่ขยับเข้ามานั่งใกล้ ๆ พร้อมกับโอบกอดอีกฝ่ายไว้เพื่อแบ่งปันไออุ่นให้แก่กัน นารูโตะหันไปยิ้มน้อย ๆ ให้อีกฝ่ายก่อนจะเบียดกายเข้าไปหาอ้อมอกอุ่นของร่างสูงโดยอัตโนมัติ คิบะจูบเบา ๆ ที่เรือนผมสีดวงตะวันของร่างในอ้อมกอดโดยไม่ได้เอ่ยอะไรอีก นารูโตะก็พิงซบไปกับอกกว้างนั้นเพื่อรับฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายไปเงียบ ๆ เช่นกัน...
...รุ่งสางอากาศที่หนาวเย็นมาตลอดทั้งคืนค่อย ๆ อุ่นขึ้นเมื่อแสงแรกแห่งวันมาเยือนอีกครั้ง นารูโตะลืมตาตื่นขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะมองสำรวจบริเวณโดยรอบและย้อนกลับมามองสภาพของตัวเอง ซึ่งตอนนี้เค้านอนอยู่ในอ้อมกอดของคิบะโดยหนุนแขนข้างหนึ่งของอีกฝ่ายไว้ขณะที่นารูโตะค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นนั่งอีกฝ่ายก็เริ่มรู้สึกตัวตื่นแล้วเช่นกัน...
“อรุณสวัสดิ์...” นารูโตะกล่าวทักทายพร้อมกับจูบที่แก้มอีกฝ่ายเบา ๆ
“อรุณสวัสดิ์...นารูโตะ...” คิบะเองก็เอ่ยทักทายกลับมาเช่นกันพร้อมกับโอบรั้งเอวเล็ก ๆ เข้าไปใกล้แล้วฝังจมูกโด่ง ๆ ของตนลงไปบนแก้มเนียน ๆ ทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว นารูโตะเองอาจจะชินหรืออะไรก็ไม่แน่ใจจึงไม่ได้ร้องห้ามเหมือนอย่างทุกที กลับทำเพียงแค่ยิ้มรับน้อย ๆ ไปเท่านั้น
“ชั้นชอบความรู้สึกตอนนี้จังเลย...” จู่ ๆ คิบะก็เอ่ยขึ้นมาด้วยประโยคชวนให้งง
“อะไรเหรอ ??...”
“ก็พอตื่นเช้ามาแล้วเห็นหน้านายเป็นคนแรก...แล้วก็ได้กอดนายไว้แบบนี้ตั้งแต่ตื่นเลยนะสิ...”
“ปากหวานแต่เช้าแบบนี้...สงสัยชั้นคงต้องถูกนายรังแกทุกทีเมื่อมีโอกาสละมั๊ง...”
“ของมันแน่อยู่แล้ว...ก็นายมันน่ารัก น่ารังแกออกขนาดนี้ ใครจะไปห้ามใจไหว...” คิบะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มพร่างพรายพร้อมด้วยแววตาวาวระยับอย่างถูกอกถูกใจนิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่อย่าลืมนะว่ากำลังทำภารกิจ เดี๋ยวก็ได้มีการยกเลิดกลางคันเพราะใครบางคนเอาแต่ตอดเล็กตอดน้อยเพื่อน(?)ร่วมภารกิจหรอก
ป.ล nc ได้แล้วนะคะ ขอบคุณมากเลยค่าา>/\<
หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หวานกันอีกแล้ว หวานกันเข้าไป
ถ้าเป็นแบบนี้ระหว่างทางไปตลอดเนี้ย ภารกิจมันจะเสร็จไหมล่ะ
หวานมากๆ เลยล่ะค่ะ
แต่แอบสงสัยกับท่าทีของชิกาจังแฮะ หรือว่าชิกาจะชอบนารุ
กรี๊ดเราเชียร์ชิกา(ได้ข่าวว่าficนี้มันคิบะนารุไม่ใช่เรอะ)
แต่คิบะนายเนี่ยรู้สึกปากหวานขึ้นนะ
ชอบคู่นี้จัง(แม้บางทีจะแอบไปเชียร์ชิกาและชิโนะก็ตามที=_=)
แต่งหนุกมากค่า