ตอนที่ 4 : กระวนกระวาย
Mission : 4
...ร่างเล็ก ๆ ที่ยืนฝึกควบคุมจักระบนผิวน้ำมาตลอดจนกระทั้งบ่ายคล้อยก็เริ่มรู้สึกว่าภารกิจของเค้ามันจะผิดวัตถุประสงค์อะไรไปหรือเปล่า เพราะแท้จริงแล้วการที่เค้ามาขอให้คาคาชิช่วยฝึกซ้อมให้มันเป็นเพราะเหตุผลอย่างอื่นไม่ใช่ว่าตัวเค้าต้องการจะฝึกฝนอะไรจริงจังแบบนี้ ดังนั้นพอคิดได้แบบนี้แล้วก็เลยพาตัวเองที่อยู่ในสภาพเปียกจนหาที่แห้งไม่ได้แล้วเดินขึ้นมาบนฝั่งแล้วตรงไปหาร่างสูงที่ยืนหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ ๆ นั้นทันที...
“เอ่อ...ครูครับ ผมคิดว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่ามั้ยครับผมเหนื่อยแล้วก็หิวแล้วด้วย...” เสียงใส ๆ ร้องถามออกไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับขยับเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายโดยไม่ได้นึกเอะใจอะไรเลยซักนิด ฝ่ายคาคาชิเองเพราะว่าสายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างบอบบางตลอดพออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ก็เกิดอาการลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูก เพราะด้วยระยะที่ห่างกันเพียงเท่านี้มันยิ่งเห็นอะไรต่อมีอะไรชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทว่าเค้าก็ทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับกับคำขอของนารูโตะไปเบา ๆ เท่านั้น มันจึงยิ่งทำให้นารูโตะรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม
“งั้นเราไปกินราเมงกันนะครับ...วันนี้เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง...” นารูโตะร้องบอกพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น ราวกับจะทดสอบความอดทนของใครบางคน
“ไม่ดีกว่า...วันนี้ชั้นมีงานต้องทำต่อ...” คาคาชิตัดบทง่าย ๆ เหมือนทุกครั้งก่อนจะหมุนกายเดินออกมาจากตรงนั้นส่งผลให้นารูโตะยิ่งรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่พอคาคาชิเดินต่อไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดฝีเท้าลงแล้วหันกลับมาบอกในสิ่งที่ทำให้คนฟังแก้มร้อนผ่าวขึ้นมาในทันใด
“อืม...ชั้นคิดว่านายควรจะไปใส่เสื้อผ้าให้มันเรียบร้อยก่อนจะดีกว่านะ...รู้หรือเปล่าว่าสภาพตัวเองตอนนี้มันดูไม่ดีเท่าไหร่ขืนนายไปกินราเมงในสภาพแบบนี้มีหวังคงมีคนหัวใจวายตายแน่ ๆ...” พูดจบคาคาชิก็รีบหมุนกายเดินจากไปทันทีโดยไม่ได้หันกลับมามองเลยว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังจะมีสีหน้าและท่าทางอย่างไร นารูโตะนั้นพอได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้แล้วก็รีบก้มสำรวจตัวเองทันทีแล้วก็เหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าสภาพตัวเองมันไม่น่าดูเอาเสียเลยกางเกงขาสั้นที่เปียกน้ำจนชุ่มจนแนบสนิทไปกับผิวเนื้อมันทำให้เห็นร่างกายในส่วนที่ไม่ควรจะเห็นได้อย่างชัดเจน แล้วนารูโตะก็รีบวิ่งไปที่กองเสื้อผ้าที่ถอดกองไว้จากนั้นก็จัดแจงสวมทุกอย่างลงไปพร้อม ๆ กับที่รู้สึกว่าแก้มสองข้างของตัวเองมันร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...
“ที่ชั้นต้องมาอายแบบนี้ก็เพราะเจ้าบ้าซาอิคนเดียวเลย...คอยดูเถอะภารกิจนี้สำเร็จเมื่อไหร่จะจัดชุดใหญ่ให้เลย...” นารูโตะบ่นพึมพำขณะที่กำลังจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย
“เป็นไงบ้างนารูโตะ...พอจะสำเร็จบ้างมั้ย...” เสียงซากุระร้องถามขึ้นมาจากทางด้านหลังด้วยความอยากรู้เพราะว่าตัวเองต้องไปซ่อนอยู่ห่าง ๆ จึงมองไม่ค่อยถนัดนัก
“ก็อย่างที่เห็นครูคาคาชิเปิดไปโน่นแล้ว...” นารูโตะร้องตอบด้วยน้ำเสียงแสนเซ็ง
“เป็นอันว่าแผนสองของนายก็พลาดอีกแล้วนะซาอิ...” คราวนี้ซากุระหันไปโวยวายกับคนข้าง ๆ แทน ซึ่งซาอิก็ยังคงยิ้มรับอย่างไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้คนที่กำลังอายหมั่นไส้จนต้องต่อว่าด้วยอีกคน
“ยังจะมายืนยิ้มหาอะไรล่ะเนี่ย...เห็นมั้ยว่ามันไม่สำเร็จ...”
“แต่ว่าพูดก็พูดเถอะนะทำไมภารกิจนี้มันยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย...ตอนแรกนึกว่ามันจะง่าย ๆ ซะอีก ทำไปทำมามันยิ่งกว่าภารกิจระดับเอสอีกนะ...” ซาอิเองก็เริ่มบ่นออกมาเหมือนจะเหนื่อยใจอยู่เหมือนกัน
“แล้วจะเอาไงต่อดีล่ะ...จะหยุดแค่นี้หรือเปล่า...” ซากุระร้องขอความเห็นเพราะเธอเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าภารกิจพิเศษครั้งนี้ของพวกตนจะสำเร็จหรือเปล่า
“ห้ามเลิกนะ...ซากุระ ซาอิ...” เสียงใส ๆ ของนารูโตะร้องห้ามขึ้นมาด้วยอาการไม่เห็นด้วย เพราะจะว่าไปแล้วภารกิจครั้งนี้คนที่เป็นคนเริ่มจริง ๆ ก็คือตัวเค้านั่นเอง
“ก็แค่ถามความเห็นเฉย ๆ ไม่ได้คิดจะเลิกจริง ๆ ซักหน่อย...” ซากุระรีบร้องตอบกลับมาก่อนที่นารูโตะจะโวยวายไปมากกว่านี้
“เฮ้อ...ขอชั้นกลับไปคิดก่อนได้มั้ยว่าจะใช้แผนสามที่เตรียมไว้หรือจะใช้แผนใหม่ดี...” ซาอิเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเครียด ๆ เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะแผนใหนคงต้องคิดกันให้ดี ๆ ก่อนจะลงมือ
“ก็ได้...แต่ว่านะขออะไรอย่างได้มั้ย...” นารูโตะรีบเอ่ยในสิ่งที่ตนกังวลที่สุดออกมา
“อะไรล่ะ...”
“อย่าให้ชั้นทำอะไรแปลก ๆ อีกได้หรือเปล่า...เห็นชั้นบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ก็อายเป็นเหมือนกันนะเจ้าบ้า...” เสียงหวาน ๆ ร้องต่อว่าอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงคำพูดของใครบางคนที่ฝากเอาไว้ให้ก่อนจากไป
“เรื่องนั้นขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน...” ซาอิเอ่ยตอบกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ว่าไงนะ...เจ้าบ้า ลองมาทำเองดูบ้างมั้ยล่ะ...” เสียงใส ๆ เริ่มสูงขึ้นด้วยความไม่พอใจ แต่ก่อนที่จะมีการเปิดศึกฟาดปากหรืออะไรก็แล้วแต่ซากุระก็ต้องรีบเข้ามาห้ามทัพเป็นการด่วน
“พอได้แล้วทั้งสองคน...จะมาทะเลาะกันเองทำไมเนี่ย...แยกย้ายกันไปได้แล้ว...” พอถูกห้ามแบบนั้นนารูโตะจึงสะบัดหน้าเดินหนีไปก่อนคนอื่นด้วยอารมณ์หงุดหงิดเต็มที่ พอเห็นนารูโตะเดินจากไปแล้วซากุระก็หันมาอบรมสั่งสอนคนที่ยังยืนอยู่ข้าง ๆ แทนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย
“นายก็ช่วยคิดแผนที่มันดูดีกว่านี้หน่อยก็แล้วกันนะ...ไม่อย่างนั้นชั้นจะให้นายเป็นคนไปลงมือเองเหมือนอย่างที่นารูโตะบอกเข้าใจมั้ย...” พูดจบซากุระก็เดินจากไปอีกคนปล่อยให้ซาอิต้องยืนเกาหัวไปมาอย่างงง ๆ
“ก็ในหนังสือมันบอกแบบนี้นี่นา...เอ แล้วทำไมมันไม่ได้ผลล่ะเนี่ย คงต้องไปหาเล่มใหม่มาอ่านซักหน่อยแล้ว...” ซาอิบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินไปจากตรงนั้นเป็นคนสุดท้าย
...พอแยกจากคนอื่น ๆ มาแล้วนารูโตะก็เดินทอดน่องไปตามทางเดินในหมู่บ้านเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายสุดท้ายเค้าก็เดินมาหยุดอยู่ที่เก้าอี้ไม้ริมทางเดินซึ่งมักจะมีร่างสูงของใครบางคนมานั่งอ่านหนังสืออยู่เป็นประจำแต่หลายวันมานี้ภาพที่เค้าเห็นจนชินตากลับไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย นารูโตะทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้นพร้อมกับปล่อยความคิดให้ย้อนนึกถึงวันนั้นที่เค้าเห็นว่าใครบางคนดูแปลกไปเพราะในความรู้สึกของนารูโตะใครคนนั้นดูเหมือนว่ากำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างที่คิดไม่ตกและเหมือนจะเครียดมากอย่างที่ตัวเค้าไม่เคยเห็นมาก่อน รอยยิ้มที่เคยมีอยู่เสมอก็เลือนหายไป หนังสือโปรดของจิไรยะที่เคยชอบอ่านเพราะแม้แต่ในเวลาที่ทำภารกิจก็ยังไม่เคยปล่อยให้ห่างตัวก็กลับไม่สนใจ เอาแต่นั่งหมกมุ่นเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดหนัก ซึ่งตัวนารูโตะเองไม่อยากเห็นภาพแบบนั้น พอลองไปถามซึนาเดะว่าตอนนี้ให้คาคาชิทำภารกิจอะไรทำไมถึงได้ดูตึงเครียดแบบนั้นคำตอบที่ได้ก็คือ...
“ไม่มีนี่นา...ช่วงนี้คาคาชิไม่ได้รับทำภารกิจเลยด้วยซ้ำ แล้วนายถามทำไมเหรอ...”
“ก็เห็นครูเค้าเครียด ๆ ก็เลยสงสัยว่าต้องทำภารกิจอะไรถึงได้เป็นแบบนั้น...”
“นายคิดมากเกินไปหรือเปล่าเค้าอาจจะแค่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเท่านั่นเอง...”
“มันไม่เหมือนปกติเลยซักนิด...ครูคาคาชิต้องมีปัญหาอะไรแน่ ๆ...”
“ถ้าเป็นห่วงขนาดนี้ทำไมไม่ไปถามเจ้าตัวเค้าตรง ๆ เลยล่ะ...”
...พอถูกบอกให้ไปถามกับเจ้าตัวนารูโตะก็ไม่กล้าเพราะถึงจะไปถามจริง ๆ แต่คนอย่างคาคาชิไม่ยอมบอกอะไรง่าย ๆ หรอกถ้าเจ้าตัวไม่ต้องการ และถึงแม้ว่าจะได้รับการยืนยันจากซึนาเดะว่าไม่ได้ให้ภารกิจพิเศษอะไรกับคาคาชิจนมีสาเหตุให้เครียด นารูโตะก็ยังไม่วางใจจนต้องไปปรึกษากับซากุระและซาอิเพื่อนร่วมทีม ซึ่งทั้งสองคนก็สังเกตุเห็นเหมือนกันว่าครูของตนดูผิดปกติไปจึงให้ความร่วมมือในการทำภารกิจพิเศษเฉพาะกิจนี้อย่างเต็มใจ แต่ทว่าทั้งสองครั้งที่ลงมือไปก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยเพราะคาคาชิยังคงเงียบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งที่เค้าหวังว่าน่าจะได้เห็นรอยยิ้มหรือคำพูดหยอกล้อเหมือนที่เคยเป็นจากอีกฝ่ายแม้ซักนิดก็ยังดี แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าหวังไว้...
“แล้วผมต้องทำยังไงละครับ ครูถึงจะกลับมาเป็นครูคาคาชิคนเดิมซักที...” นารูโตะบอกกับตัวเองในขณะที่สายตาก็จับจ้องอยู่ที่ท้องฟ้าที่ดูสดใสต่างจากความรู้สึกในใจของเค้าตอนนี้อย่างมาก...ความรู้สึกร้อนรุ่มกระวนกระวายใจแบบนี้มันคืออะไรกัน...
...ฝ่ายคาคาชิพอแยกจากนารูโตะมาแล้วก็มายืนสงบจิตใจอยู่เงียบ ๆ คนเดียวพร้อม ๆ กับพยายามรวบรวมสมาธิของตนให้กลับคืนมาโดยเร็วซึ่งสาเหตุก็มาจากภาพสุดท้ายที่เค้าเห็นว่าใบหน้านวล ๆ ของเจ้าตัวเล็กเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายจากคำพูดของเค้า แม้จะไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายน่าเกลียดแต่ก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่ายามที่ได้มองใบหน้านั่นแสดงอารมณ์ความรู้สึกเอียงอายออกมาแบบนี้แล้วมันจะทำให้หัวใจของเค้าเต้นแรงมากมายถึงเพียงนี้...
“ฮาตาเกะ คาคาชิ...นายเป็นครูไม่ใช่เหรอ แล้วนั่นมันก็ลูกศิษย์ของนายไม่ใช่เหรอไง...คิดอะไรของนายอยู่กันฟร่ะเนี่ย...” เสียงเข้ม ๆ พยายามร้องเตือนสติตัวเองเหมือนกับจะสั่งสอนแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่เพราะในสมองยังคงมีภาพของใครบางคนฝั่งแน่นอยู่ในหัวไม่เลือนหายไปง่าย ๆ
“เฮ้อ...หวังว่าพรุ่งนี้เจ้านั่นคงจะไม่มาชวนเราไปทำนั่นทำนี่อีกหรอกนะ...” และเมื่อเวลาผ่านไปใครบางคนก็เริ่มสงบสติอารมณ์ได้บ้างจึงเอ่ยปลอบใจตัวเองขึ้นมาเบา ๆ แต่ทว่าสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในใจมันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ยังไม่อาจสลัดให้หลุดออกไปได้...ความอบอุ่นที่บางครั้งก็ทำให้จิตใจร้อนรุ่มนี้มันคืออะไร...คาคาชิเองก็ยังไม่อาจตอบตัวเองได้ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร หรือบางทีในใจลึก ๆ ตัวเค้าเองอาจจะรู้คำตอบนั้นแล้วก็ได้เพียงแต่ยังไม่อยากยอมรับความจริงที่เพิ่งได้รู้ก็เท่านั้น...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แผนคราวนี้ก้ไม่สำเร็จอีก คือแผนซาอิแต่ละแผนก้ทำให้โตะชั้นเปลืองตัวตลอด บอกมานะซาอินายเป็นแม่ยกคู่นี้ใช่มะ ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าซาอิ อ่านหนังสืออะไรกันแน่
ยังไงก้สู้ๆนะคะ เป็นกลจ.ให้ไรท์ค่ะ ฟิคน่าติดตามมากเลย
เก่าๆ เล่นเอาอ่านนี้ลุ้นจนเลือดจะไหลหมดตัวแร้ว
ฟินอ่าาาาาาา
เก่าๆ เล่นเอาอ่านนี้ลุ้นจนเลือดจะไหลหมดตัวแร้ว
ฟินอ่าาาาาาา
แหม๊ นัตจังงงง เป็นห่วงเซนเซย์สุดหล่อซะด้วย หึหึ ห่วงเพราะอะไรจ๊ะ เพราะรักรึเปล่า ฮุฮิ><(ปล่อยมันมโนไป อย่าสน- -)
ฟินๆๆๆ
ขอตัวไปอ่านตอนต่อไปก่อนนะคะ
นึกว่าภารกิจพิชิตใจอะไรประมาณนี้ซะอีก
เอ๋!!แต่เด๋วคงพิชิตใจเองแหละนะ
เพราะคาคาหวั่นไหวซะแล้ว
โตะก้อ ยั่ว เฮ้ย!! ไม่ใช่ คิดแผน ต่อไปลูก ห่วงครูก้อบอกไปตรงๆเลย
ซาอิ นายอ่านหนังสืออะไรมาห๊าาาา เอามาให้อ่านหน่อยสิ
ปล สนุกมากกกกค่ะ อัพๆๆๆ
เขารออ่านอยู่ ^^