ตอนที่ 22 : ยื่นข้อเสนอ
Mission : 22
...ภายในห้องกว้างคนสี่คนกำลังนั่งเผชิญหน้ากันอยู่ด้วยทีท่าสงบ หลังจากฟังเรื่องราวที่ท่านหญิงบอกเล่ามาแล้วคาคาชิกับนารูโตะก็ให้รู้สึกหนักใจขึ้นมาทันทีเพราะปัญหาที่ไม่คิดว่าจะเจอในภารกิจครั้งนี้กลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ไปซะแล้ว เพราะคำขอร้องของท่านหญิงนั่นเอง...
“มันเป็นภารกิจของเราในครั้งนี้...ข้าคิดว่าคงไม่อาจทำตามที่ท่านหญิงขอมาได้...” คาคาชิกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ถ้าเช่นนั้นเราเองก็คงทำตามที่ท่านต้องการไม่ได้...เพราะท่านก็เห็นว่าเราเป็นแบบนี้...” ท่านหญิงเองก็ไม่ยอมง่าย ๆ เหมือนกัน
“ข้าเองก็เข้าใจว่าด้วยสภาพของท่านตอนนี้ให้เดินทางไกลคงจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี...”
“แล้วท่านมีวิธีแก้ไขหรือเปล่าล่ะ...”
“ก็พอมีแต่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาหรอก เพราะภารกิจของข้าคือการนำตัวท่านหญิงกลับไปเพื่อให้ทันเข้าพิธีแต่งงานและพาคนที่ลักพาตัวท่านกลับไปเพื่อให้บิดาท่านลงโทษก็เพียงเท่านี้...”
“เรื่องนั้นข้าก็พอรู้...และต่อให้ท่านพาข้ากลับไปตอนนี้ข้าก็ไม่สามารถเข้าพิธีแต่งงานตามที่ท่านพ่อต้องการได้ที่สำคัญที่สุดข้าจะไม่ยอมให้ท่านพี่ถูกลงโทษเป็นแน่...”
“เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับภารกิจของข้า...” คาคาชิตอบกลับไปอย่างเย็นชาต่างกับนารูโตะที่ดูจะเป็นกังวลเสียมากมาย
“ครูครับ...” นารูโตะร้องเรียกร่างสูงเบา ๆ หวังจะเอ่ยอะไรแต่ว่า
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนารูโตะ...เดี๋ยวชั้นจัดการเอง...” คาคาชิหันมาบอกคนข้าง ๆ เพียงเท่านั้นก่อนจะหันไปเอ่ยเสียงเข้มกับสองสามีภรรยาตรงหน้า
“ข้ามีสองทางเลือกให้กับพวกท่าน ทางแรกคือพวกท่านทั้งสองต้องออกเดินทางไปกับเราโดยไม่มีการรีรอ และทางที่สองคือพวกท่านจะออกเดินทางไปกับเราหลังจากท่านหญิงคลอดแล้ว...”
“หือ...พวกท่านจะรอให้เราคลอดก่อนอย่างนั้นเหรอ...” ท่านหญิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าแปลกใจเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินข้อเสนอแบบนี้จากอีกฝ่าย
“ใช่...ซึ่งข้าคิดว่าคงไม่น่าจะเกินหนึ่งเดือนนับจากนี้...”
“ที่พูดมาก็ถูกเพราะหมอบอกว่าประมาณอาทิตย์หน้าก็จะครบกำหดคลอดแล้ว...แต่ว่า...” ชายหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านั้นก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะหญิงสาวที่อุ้มท้องลูกของเค้าอยู่ได้เอ่ยตัดบทออกมา
“ตกลง...เราจะกลับไปกับพวกท่านหลังจากที่คลอดแล้ว...”
“น้องหญิง...”
“ท่านพี่...เราไม่มีทางเลือก อีกอย่างต่อให้ท่านพ่อไม่ส่งนินจาพวกนี้มาข้าเองก็คิดว่าจะกลับไปที่นั่นหลังจากคลอดแล้วอยู่ดี เพื่อให้ท่านพ่อยอมรับในตัวของท่านกับลูกของเราที่จะเกิดมาให้ได้...”
“ในเมื่อได้ข้อสรุปแล้วพวกเราก็คงทำได้แค่รอเวลาให้ท่านหญิงคลอดเท่านั้น และระหว่างนี้พวกเราจะคอยจับตาดูพวกท่านเอาไว้ อย่าได้คิดหนีหรือสร้างปัญหาขึ้นมาอีกเป็นอันขาด...หวังว่าคงเข้าใจนะ...”
“วางใจเถอะพวกเราไม่คิดหนีหรอก ทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะต้องการถ่วงเวลาให้ข้าได้คลอดก่อนเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่ดูเหมือนว่าแผนถ่วงเวลาให้พวกท่านติดอยู่ในกับดักมันจะไม่ได้ผลเลยซักนิด...” ท่านหญิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจ
“พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีแล้ว ข้ามีเรื่องอยากถามพวกท่านเกี่ยวกับกับดักที่ว่านั่นซักหน่อย...” คาคาชิเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจังนารูโตะเองก็เดาได้ว่าคำถามนั้นจะเอ่ยถึงเรื่องอะไร
“ถ้าข้าตอบได้ก็ยินดีจะตอบให้ทั้งหมด...”
“คาถาลวงตาที่พวกท่านใช้หลอกล่อพวกเรานั่นน่ะ...เป็นฝีมือของใคร...” พอได้ฟังคำถามนั้นแล้วสองสามีภรรยาก็หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัยแล้วผู้เป็นสามีก็เป็นฝ่ายตอบคำถามนั้น
“เราไม่รู้ว่าคาถาลวงตาที่ท่านพูดถึงมันหมายถึงอะไรแต่สถานที่ตรงนั้นมันเหมือนมีสองมิติซ้อนทับกันอยู่จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดไปต่าง ๆ ว่าเป็นฝีมือของเทพเจ้าบ้างล่ะ เป็นภูตผีบ้างล่ะ แล้วพวกท่านเองก็คิดว่านั่นคือคาถาลวงตา...”
“มิติซ้อนทับอย่างนั้นเหรอ...” คาคาชิทวนคำออกมาพร้อม ๆ กับใช้ความคิด
“ใช่...ข้าเกิดและเติบโตที่นี้แล้วก็ได้เห็นสิ่งนั้นมาตั้งแต่เด็ก สำหรับพวกเราที่คุ้นเคยกับสิ่งนั้นมันก็ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจพวกเราทุกคนในหมู่บ้านรู้ดีว่าสถานที่ตรงนั้นมีความพิเศษยังไง มันถูกใช้เพื่อปกป้องหมู่บ้านมาหลายชั่วอายุคนแล้ว...ว่าแต่ทำไมพวกท่านถึงติดใจกับสถานที่ตรงนั้นนักล่ะ...”
“ก็อย่างที่บอกไป...เราคิดว่านั่นเป็นคาถาลวงตาที่แข็งแกร่งมาก ตอนแรกที่พบสิ่งนั้นมันทำให้เรานึกถึงกลุ่มคนบางกลุ่มขึ้นมานะสิ...แต่ในเมื่อท่านยืนยันว่ามันเป็นเพียงมิติซ้อนทับพวกเราก็จะเชื่อตามนั้นแต่ข้าขอสำรวจสถานที่ตรงนั้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจได้หรือเปล่า...” คาคาชิเอ่ยออกมาพร้อมกับชำเลืองมองคนข้าง ๆ ด้วยแววตาที่นารูโตะเองก็พอจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังนึกถึงใคร
“ไม่มีปัญหาหรอก...ว่าแต่พวกท่านควรจะมาพักเสียที่นี่จะไม่ดีกว่าเหรอ บ้านนี้ก็กว้างขวางน่าจะสบายกว่าอยู่โรงแรม...”
“ในเมื่อท่านหญิงมีน้ำใจพวกเราก็ขอรับไว้ด้วยความเต็มใจก็แล้วกัน...” คาคาชิเอ่ยตอบรับไปอย่างง่ายดายจนนารูโตะอดรู้สึกสงสัยไม่ได้ว่าตอนนี้คาคาชิกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่...หลังจากเจรจาตกลงกันเรียบร้อยแล้วคาคาชิกับนารูโตะก็ถูกพามาที่ห้องพักที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม...แต่สิ่งที่ทำให้คาคาชิรู้สึกไม่พอใจก็คือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้นั่นเอง...
“ห้องของท่านอยู่ถัดไปจากห้องนี้นะค่ะ...” หญิงรับใช้ที่นำทางพวกเค้ามาเอ่ยบอกกับนารูโตะพร้อมกับเตรียมจะพาเจ้าตัวออกจากห้องไปยังห้องที่จัดเตรียมไว้เจ้าคนตัวเล็กก็ว่าง่ายเตรียมจะเดินตามอีกฝ่ายไปจริง ๆ
“เดี๋ยวก่อน...พวกเราจะพักห้องเดียวกันฝากเรียนท่านหญิงด้วยว่าเราขอบใจมาก แต่เราสองคนพักด้วยกันน่าจะสะดวกกว่า...” พูดจบคาคาชิก็คว้าแขนเล็ก ๆ ของคนตัวบางพร้อมกับออกแรงรั้งให้เข้ามาใกล้จากนั้นก็ดันร่างสาวใช้ออกจากห้องไปแล้วก็เลื่อนประตูมาปิดลงอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องรักษามารยาทซึ่งผิดวิสัยของคาคาชิจนนารูโตะให้รู้สึกแปลกใจ
“ทำไมครูถึงทำอย่างนั้นละครับ...” นารูโตะร้องถามหลังจากภายในห้องเหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น
“ก็แค่ป้องกันไว้เท่านั้น...”
“ครูกำลังคิดว่าท่านหญิงกับสามีจะมีอุบายอะไรอีกอย่างนั้นใช่มั้ยครับ...” นารูโตะคาดเดาจากคำตอบของคาคาชิที่เอ่ยออกมา แต่คาคาชิไม่ได้ตอบอะไรเค้ารั้งร่างบางให้เดินตามไปนั่งลงบนฟูกที่วางไว้กลางห้องด้วยกัน นารูโตะก็ยอมทำตามอีกฝ่ายเพราะรู้ดีว่าขัดขืนไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ดีไม่ดีอาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเปล่า ๆ
“คืนนี้เราจะไปสำรวจที่ตรงนั้นกันอีกครั้งนะ แต่ว่าจะไปแบบเงียบ ๆ...” คาคาชิเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพียงแค่ให้ได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น
“ทำไมต้องไปเงียบ ๆ ละครับในเมื่อท่านหญิงก็รับรู้แล้วว่าเราจะไปที่นั่นอีก...” นารูโตะเอ่ยถามด้วยความสงสัย คาคาชิเหยียดยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะทำในสิ่งที่นารูโตะหวั่นใจมาแต่แรกตั้งแต่เข้ามาอยู่ในห้องกันตามลำพังนั่นก็คือ การที่ตัวเค้าถูกอีกฝ่ายคว้าเข้าไปกอดไว้ แม้นารูโตะจะขืนกายไว้ไม่ให้ตนเองถูกลากเข้าไปกอดได้โดยง่ายแต่ว่าผลสุดท้ายมันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นก็เพราะคนร่างใหญ่กลับเป็นฝ่ายขยับเข้ามาใกล้เสียแทนมิหนำซ้ำยังช้อนร่างเค้าขึ้นไปวางไว้บนตักแล้วโอบกอดไว้ทั้งสองแขนป้องกันไม่ให้หนีไปใหนได้อีก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วเหมือนเช่นทุกครั้งที่นารูโตะเป็นฝ่ายที่ถูกเอาเปรียบ
“ครูทำแบบนี้อีกแล้วนะครับ...ถามจริง ๆ เถอะจะทำไปทำไมเนี่ย...” เสียงใส ๆ ร้องถามไปด้วยความสงสัยที่ปะปนไปกับความขัดเขินและอีกหลากหลายอารมณ์ที่ปะทุขึ้นในจิตใจยามนี้ เพราะใบหน้าของอีกฝ่ายมันลอยเข้ามาใกล้ใบหน้าของเค้ามากเกินไปแม้จะมีหน้ากากขวางกั้นแต่นารูโตะก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มอย่างพอใจ
“อยากรู้จริง ๆ เหรอ หรือว่าแค่ถามแก้เขินไปอย่างนั้นเอง...” คนชอบแกล้งย้อนถามกลับมาพร้อมกับเลื่อนใบหน้าของตนเข้ามาใกล้ใบหน้านวล ๆ ของอีกฝ่ายมากขึ้น
“อยากรู้จริง ๆ ครับ...” นารูโตะเอ่ยตอบไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกับจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่บ่งบอกชัดเจนว่าเค้าต้องการคำตอบที่แท้จริง ซึ่งนั่นทำให้คาคาชิกลายเป็นฝ่ายที่ลังเลขึ้นมาแทน
“ชั้นจะบอกนายเมื่อวันนั้นมาถึง...และจนกว่าจะถึงวันนั้นชั้นก็จะ...” คาคาชิยังพูดไม่ทันจบก็เตรียมส่งจมูกโด่ง ๆ ของตนเข้ามาสัมผัสกับผิวแก้มนวลเนียนของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แต่คาคาชิก็ทำไม่สำเร็จเพราะนารูโตะยกมือขึ้นมากันไว้ได้แบบเฉียดฉิว
“หยุดเลยครับ...ถ้ายังไม่ยอมบอกก็อย่าหวังว่าจะทำอะไรตามใจได้อีกเลย...” คนตัวเล็กขู่เสียงใสพร้อมกับพยายามผลักร่างอีกฝ่ายออกห่างเพื่อให้ร่างกายตัวเองเป็นอิสระจนดูวุ่นวายไปหมด คาคาชิก็ได้แต่เฝ้ามองการกระทำนั้นด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เค้ารู้สึกว่าหัวใจมีความสุขและอบอุ่นยามที่มีร่างน้อยอยู่เคียงข้าง ได้เฝ้ามอง หยอกล้อ เหมือนอย่างตอนนี้ แล้วคาคาชิก็อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอขโมยหอมแก้มนุ่ม ๆ นั้นไปได้สำเร็จส่งผลให้เจ้าของแก้มนวลพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเจ้าตัวรู้ดีว่าถ้าไม่พาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ล่อแหลมตรงนี้ให้เร็วที่สุดจิตใจที่อ่อนไหวของเค้าคงยอมรับกับอะไรต่อมิอะไรที่จะตามมาอีกมากมายอย่างไม่อาจปฏิเสธได้แน่นอน...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คาใจเหลือเกิน จูบกันตั้งกี่ครั้งก็มีคำว่า ศิษย์อาจารย์ลอยมา
กรี๊ดขอให้เป็นแสงอุษา เราชอบกลุ่มนี้มากเลย
ขอให้เป็นแสงอุษามาชิงโตะ
แต่งหนุกมากคะ
ชอบคู่นี้มากเลย
ขอตัวไปอ่านตอนต่อไปก่อนนะคะ
โตะค่อยๆคิดไปเด๋วก็รู้ใจตัวเองเองแหละ
อาจจะคิดออกตอนที่คาคาชิ...ก็อาจจะเป็นได้ คิคิ
พวกนั่น นี่แสงอุษารึป่าวน๊าา??
คาคาชิ รุกๆเข้าไปเลยจ้าาา >\\\<
โตะก้อยอมๆครูเค้าหน่อย