ตอนที่ 20 : เป็นห่วงมากกว่า
Mission : 20
...ในแนวต้นไม้ภายนอกหมู่บ้านที่ดูร่มรื่นอย่างที่สุด แต่หากมีใครลองสังเกตุดูซักนิดจะรู้ว่าความร่มรื่นและความเงียบสงบนี้มันมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ ด้านหลังต้นไม้ใหญ่สองต้นที่ตั้งตระหง่านคู่กันราวกับจงใจนี้ ด้านหลังของต้นไม้นี้คือสถานที่ที่ใครบางคนบอกไว้ว่าเป็นจุดรวมตัวจุดใหญ่...
“หือ...ฝีมือไม่ธรรมดาจริง ๆ ทำได้ขนาดนี้เชียวเหรอ...” เสียงทุ้มต่ำเปรยออกมาเบา ๆ เมื่อเค้าเรียกใช้เนตรวงแหวน และยามนี้สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็คือสิ่งที่เป็นคำตอบของทุก ๆ สิ่ง
“มีอะไรเหรอครับ...ครูมองเห็นอะไร...” นารูโตะร้องถามไปด้วยความอยากรู้เพราะสิ่งที่เค้าพบเจอตรงหน้ามันก็เป็นแค่แนวต้นไม้ใหญ่ธรรมดาไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจแม้แต่น้อย
“เห็นต้นไม้ใหญ่คู่นั้นมั้ย...ความจริงมันเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยคาถาลวงตาที่แข็งแกร่งมาก ๆ และด้านหลังก็มีกองกำลังอยู่จำนวนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ด้วย...”
“โห...ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเราจะทำยังไงละครับ...หรือว่าจะเข้าไปลุยตรง ๆ กันเลย...”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก...เราต้องหาทางล่อพวกนั้นออกมาหรือไม่ก็ต้องเข้าไปอย่างแนบเนียน...”
“ครูมีวีธีแล้วเหรอ...” เสียงใส ๆ จากเจ้าคนตัวเล็กร้องถามมาด้วยสีหน้าสงสัยใคร่รู้พร้อมกับแววตาใสซื่อ หากเป็นเวลาปกติคาคาชิคงหาจังหวะฉวยโอกาสกับอีกฝ่ายไปแล้วโทษฐานที่มาตำตัวน่ารักตรงหน้าจนยากจะห้ามใจ แต่เค้าก็รู้ดีว่าสถานการณ์มันไม่เหมาะที่จะทำแบบนั้นแต่ก็ยังอดไม่ได้อยู่ดี
“อ๊ะ...ทำอะไรอีกเนี่ย...” นารูโตะอุทานออกมาด้วยความตกใจที่จู่ ๆ ก็โดนจูบที่แก้มเบา ๆ จากคนตัวสูงโดยที่ยังไม่ทันระวังตัว
“จุ๊ จุ๊...อย่าส่งเสียงดังสิ เดี๋ยวเจ้าพวกนั้นก็รู้ตัวหรอก...”
“ก็ใครใช้ให้ทำอะไรแบบนี้ตอนนี้ละครับ...”
“เอ๋...แปลว่าทำแบบนี้ตอนอื่นได้งั้นเหรอ...” คาคาชิยังกวนประสาทไม่เลิก ส่งผลให้คนร่างบางต้องส่งค้อนวงใหญ่มาให้เป็นการแถมท้ายโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกเพราะดูเหมือนว่าไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรตัวเค้าก็จะเสียเปรียบอยู่ร่ำไป คาคาชิเองพอเห็นอีกฝ่ายมีกิริยาแบบนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอารมณ์ดีแต่ก็ต้องรีบหุบยิ้มในทันใดเพราะด้านหน้าเริ่มมีการเคลื่อนไหวบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว
“นารูโตะ...” คาคาชิเอ่ยเรียกเบา ๆ แค่พอให้ได้ยินกันสองคน
“ผมรอคำสั่งอยู่ครับ...จะให้ทำอะไรก็บอกมาเลย...” นารูโตะเองก็หันกลับมาจริงจังด้วยอีกคนเหมือนกัน
“ใช้แผนเดิมไปก่อน แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็ถอนตัวมา หรือถ้าทำไม่ได้ก็เดินหน้าลุยเต็มที่ไปเลย...เข้าใจนะ...”
“ครับ...” พอสิ้นเสียงขานรับเจ้าตัวเล็กก็ผลุบหายเข้าไปในดงไม้ด้านข้างทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเอ่ยอะไรซ้ำออกมาอีก คาคาชิเองถึงจะกังวลแต่ก็เชื่อในตัวอีกฝ่ายว่าคงเอาตัวรอดได้เพราะจากภารกิจที่เคยทำร่วมกันมา ถึงจะมีเสี่ยงบ้างในบางครั้งแต่นารูโตะก็คือนารูโตะเค้าไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง...ระหว่างต้นไม้ใหญ่ทั้งสองที่ตั้งตระหง่านอยู่นั้นจู่ ๆ ก็เกิดการสั่นไหวของอากาศแต่เพียงแค่เล็กน้อยแล้วร่างของคนสองสามคนก็เดินออกมาราวกับทะลุม่านบาง ๆ ที่ไร้สภาพออกมาสู่อีกมิติหนึ่งอย่างใจเย็น แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสามคนนั้นจะได้พูดคุยหรือเอ่ยอะไร เงาร่างของใครบางคนก็กระโจนออกมาจากพุ่มไม้ทันที...
“นั่นใคร...”
“ข้าเอง...” เสียงคนที่เพิ่งกระโจนพรวดพราดเข้าไปเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว
“อ้าว...เจ้าเองเหรอแล้วทำไมมาคนเดียวล่ะ พวกที่เหลือไปใหน...”
“โดนเล่นงานไปแล้ว...”
“หือ...พวกนั้นตามเจ้ามาด้วยงั้นเหรอ...” ใครบางคนในสามคนนั้นเอ่ยถามขึ้นมาด้วยทีท่าร้อนรน
“ยังไม่ตามมาตอนนี้หรอก...แต่คิดว่าอีกเดี๋ยวพวกนั้นคงตามมาถึงที่นี่เพราะฝีมือไม่ธรรมดาเลย...ว่าแต่พวกเจ้ากำลังจะไปใหนเหรอหรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ด้วย...” นารูโตะในร่างแปลงของใครบางคนเอ่ยถามหยั่งเชิงออกไปด้วยทีท่าตื่นตระหนก
“เปล่าหรอก...ก็แค่มีคำสั่งให้ออกมาระวังรอบนอกไว้เท่านั้น นายท่านคงรู้คาดเดาได้ว่ามันอาจจะเกิดอะไรขึ้นนั่นเอง...”
“อย่างนั้นเองเหรอ...ถ้าอย่างนั้นข้าขออยู่ช่วยด้วยอีกคนนะเพราะถ้าพวกนั้นตามมาจริงข้าก็น่าจะมีประโยชน์บ้าง...”
“ก็ได้...” เมื่ออีกฝ่ายตอบรับมาอย่างง่ายดายโดยไม่ระแวงระวัง นารูโตะในร่างแปลงก็ต้องลอบยิ้มก่อนจะหันไปทางดงไม้ที่มีใครบางคนซ่อนตัวอยู่พร้อมกับให้สัญญาณที่รู้กันสองคนว่า...ทุกอย่างเป็นไปตามแผน...นารูโตะอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอก็ซัดฝ่ามือเข้าที่ท้ายทอยจนฝ่ายที่ไม่ระวังต้องทรุดกายลงไปกองกับพื้นราวกับใบไม้ร่วง แต่เพราะมีสามคนเมื่อจัดการคนหนึ่งได้ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกสองคนหันมาเห็นพอดีแต่ยังไม่ทันที่สองคนนั้นจะได้ทำอะไรสติของพวกเค้าก็ดับวูบลงเช่นเดียวกัน
“เฮ้อ...บอกแล้วไงว่าให้ระวัง ถ้าชั้นมาช้ากว่านี้นายจะรับมือยังไง...” คาคาชิดุอีกฝ่ายไปเบา ๆ แบบไม่จริงจังมากนัก
“ก็ไม่ยังไง...แค่จัดการซัดลงไปให้กองเหมือนเจ้าคนแรกก็เท่านั้น...” นารูโตะตอบกลับมาแบบไม่ใส่ใจเหมือนกันก่อนจะลากทั้งสามคนไปมัดกองไว้รวมกันเหมือนกับกลุ่มคนก่อนหน้านี้แล้วก็ลากไปไว้หลังดงไม้เพื่อซ่อนเอาไว้
“เข้าไปเลยมั้ยครับ...” นารูโตะหันมาขอความเห็นจากคนข้าง ๆ
“ก็ไปสิ...แต่ว่านายเข้าไปด้วยร่างนี้ไม่ได้ต้องเลือกเอาระหว่างสองคนที่เหลือ...” พูดจบคาคาชิก็ใช้คาถาเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นหนึ่งในสามคนที่นอนกองอยู่หลังดงไม้ไปเรียบร้อยแล้ว
“เฮ้อ...ยุ่งยากซะจริง ลุยไปตรง ๆ เลยไม่ได้เหรอครับ เสียเวลาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่นั่นแหละ...” ถึงนารูโตะจะบ่นอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ยอมเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นใครอีกคนตามที่คาคาชิบอก
“เอาน่า...เก็บแรงไว้ก่อนเดี๋ยวคงได้ลุยแบบไม่ยั้งแน่ ๆ...” คาคาชิเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินนำเข้าไประหว่างต้นไม้ใหญ่คู่นั้นอย่างใจเย็นทำให้นารูโตะต้องรีบก้าวตามเข้าไปด้วยอีกคน เพราะภารกิจครั้งนี้มันไม่มีโอกาสให้พวกเค้าได้ถอยอีกแล้วในเมื่อเดินหน้าลุยมาจนถึงครึ่งทางไปแล้ว
...พอทั้งสองคนก้าวเข้ามาด้านในสิ่งที่พบเห็นก็ทำให้รู้สึกตื่นตกใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะสถานที่ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามันเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สามารถส่องสุมกำลังคนได้นับพันชีวิตเลยทีเดียว แต่ที่คาคาชิหวั่นใจที่สุดในยามนี้ก็คือคนที่สามารถซ่อนสิ่งนี้ไว้ด้วยคาถาลวงตา หลบจากสายตาคนอื่นได้อย่างแนบเนียนนั้นต้องมีฝีมือที่น่ากลัวมากหรือบางทีอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนบางกลุ่มที่เค้าไม่อยากนึกถึงในเวลานี้เลย...
“นารูโตะ...ระวังให้ดีนะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายก็ห้ามถูกจับเด็ดขาด...” เสียงเครียด ๆ ที่เอ่ยออกมานั้นมันทำให้นารูโตะต้องร้องถามกลับไปด้วยความแปลกใจ
“ทำไมเหรอครับ...คนพวกนี้มีอะไรอย่างนั้นเหรอ...”
“ชั้นก็ไม่แน่ใจหรอกนะ...แต่ให้นายทำตามที่ชั้นบอกไปก็แล้วกันว่าห้ามให้ถูกจับได้ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใหนนายก็ต้องไม่ถูกจับ...เข้าใจมั้ย...” คาคาชิหันมาเอ่ยกับคนตัวเล็กด้วยแววตาจริงจัง นารูโตะอยากถามอะไรให้มากกว่านี้แต่ก็รู้ว่าถามไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์เพราะอีกฝ่ายคงไม่ปริปากบอกมาง่าย ๆ ทางเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ การทำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างเคร่งครัดเท่านั้นจึงได้แต่พยักหน้ารับไปเบา ๆ
“ดี...งั้นก็ไปกันเถอะ...” กล่าวจบคาคาชิก็เตรียมจะก้าวเดินไปแต่ก็ต้องชะงักค้างไว้เพราะมือเล็ก ๆ ของอีกฝ่ายมันกำลังดึงรั้งชายเสื้อเค้าไว้เบา ๆ
“มีอะไรอีกงั้นเหรอ...หรือว่านายเห็นอะไรผิดปกติ...”
“เปล่าครับ...ผมแค่จะบอกว่า ครูเองก็ต้องระวังตัวเหมือนกันนะครับ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใหนก็อย่าให้บาดเจ็บ หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องให้บาดเจ็บน้อยที่สุด เพราะทุกครั้งที่ครูออกมาทำภารกิจกับผมดูเหมือนว่าจะต้องเจ็บหนักกลับไปทุกที...” ท้ายประโยคนั้นถูกเอ่ยออกมาเพียงแผ่วเบา แต่คนรับฟังก็ยังสามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน
“รู้แล้ว...ชั้นจะระวังตัวไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก...”
“จะไม่ให้ห่วงได้ไง...ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าต้องหิ้วร่างกลับไปให้ป้าซึนาเดะรักษาทุกครั้งที่ออกมาทำภารกิจ คราวนี้ก็คงจะเหมือนกันอีกนั่นแหละถ้าไม่ระวังตัวให้ดีทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม...”
“อย่ามาแช่งกันแบบนี้สิ...ชั้นไม่เป็นอะไรสบายดีทุกประการ จะยกเว้นก็แค่ว่า...” คาคาชิเอ่ยไม่จบแต่กลับสื่อความหมายของประโยคที่ไม่ได้เอ่ยออกมาผ่านดวงตาคู่คมไปให้อีกฝ่ายได้เขินอายเสียแทน ฝ่ายที่ได้มองเห็นแววตาแบบนั้นแล้วก็ให้รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาบอกไม่ถูก เพราะทุกครั้งที่อีกฝ่ายมองเค้าด้วยสายตาแบบนี้มันมักจะมีเรื่องให้หัวใจเต้นตัวได้ตลอดเหมือนกัน
“ผมคงจะห่วงไปเองใช่มั้ยครับ...ดูท่าแล้วครูคงไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอกมั้ง...” นารูโตะเอ่ยแก้เขินออกมาอย่างอาย ๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาคมวาวที่ยังจับจ้องอยู่ที่ตัวเค้าไม่วางตา
“ใช่นายคงคิดมากแล้วก็ห่วงไปเอง ชั้นดีใจนะที่รู้ว่านายก็ห่วงชั้น แต่ว่าที่ชั้นอยากจะบอกกับนายตอนนี้ก็คือ ชั้นเป็นห่วงนายมากกว่าเสียอีก...ทั้งห่วง ทั้งหวง ทั้งกังวล...” ได้ยินแบบนั้นนารูโตะก็ต้องหันกลับมาสบตากับใครบางคนอีกครั้ง พร้อม ๆ กับที่หัวใจเริ่มสั่นรัวขึ้นมาอีกหน...แล้วก็ได้แต่คิดในใจ...ทำไมหนอใครคนนี้ถึงได้ชอบทำให้หัวใจของเค้าเต้นเร่าและสั่นไหวอยู่เสมอ แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องงไม่ดีหรอกนะเพราะว่าตัวเค้าเองก็พึงพอใจที่จะให้หัวใจของตนเต้นไหวไปมาอย่างผิดจังหวะเพียงเพราะแววตาและคำพูดที่อ่อนหวานของคนตรงหน้านี้อย่างเต็มใจ...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แอบเขินแทนโตะ คาคาหวานใส่ตลอด
ฟินคะ
ขอตัวไปอ่านตอนต่อไปก่อนนะคะ
อิจฉาวุ้ย ตาลุงก็ใส่ได้ใส่ใหญ่เลยนะ จะทำให้เขิลไปไหน
ทำภารกิจอยู่นะจ้าภารกิจ
ปล. มาแต่งสักทีนะค่ะไรท์รออ่านต่อตั้งนานน่ะ
ไรท์อย่าหายไปอีกนะค่ะ ขอร้องงงงง