ตอนที่ 16 : ล้มเลิกภารกิจ
Mission : 16
...หลังจากสงครามย่อย ๆ ภายในห้องนารูโตะจบลงด้วยการที่ทั้งสามคนต้องลงมานั่งหอบเพราะเริ่มหมดแรง ซาอิก็ได้แต่นังทำหน้าสำนึกผิดหรือบางทีอาจจะผิดหวังอยู่น้อย ๆ ที่หนังสือที่ตนเองภูมิใจนักหนากลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย ซากุระก็เอาแต่นั่งถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ส่วนนารูโตะก็นอนมองเพดานพร้อมกับเริ่มคิดฟุ้งซ่านอีกครั้งกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นมาจนถึงตอนนี้...
“มาถึงตอนนี้จะโทษซาอิหรือหนังสือของซาอิทั้งหมดก็คงไม่ได้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความคิดของชั้นที่แค่อยากรู้ว่าครูมีปัญหาอะไรถึงได้ดูกลุ้มใจแบบนั้น...” ท่ามกลางความเงียบงันจู่ ๆ นารูโตะก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นารูโตะ...” ซากุระร้องเรียงเพื่อนร่วมทีมเบา ๆ
“เอาเป็นว่าภารกิจครั้งนี้จบลงแล้ว โดยที่มีผลคือความล้มเหลวพวกเราไม่รู้อะไรเลยว่าครูเป็นอะไรกันแน่ แต่ว่าชั้นก็ต้องขอบใจทั้งสองคนนะที่ช่วยชั้นมาจนถึงตอนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่เข้าท่าเลยในแต่ละแผนที่คิดมาก็ตาม...ขอบใจนะ...” นารูโตะยันกายลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยออกมาจากใจจริงด้วยรอยยิ้มที่ดูจะสดใสขึ้นมาบ้างแล้ว
“ทำไมถึงพูดจาห่างเหินแบบนั้นล่ะ...พวกเราเป็นทีมเดียวกันนะ ที่เราตัดสินใจทำก็เพราะว่าเป็นห่วงครูเหมือนกัน...” ซากุระเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกจากใจจริง
“ใช่...ถึงชั้นจะเพิ่งเข้ามาในทีมได้ไม่นานแต่ก็ถือว่าเป็นลูกทีมของครูคาคาชิเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรที่พอทำได้ชั้นก็ยินดีถึงแม้จะทำให้วุ่นวายมากกว่าจะสำเร็จก็ตาม...”
“ขอโทษนะซาอิ...ที่ชั้นพูดจาแย่ ๆ กับนาย ชั้นรู้ว่านายหวังดีถึงความหวังดีของนายมันจะผิดกาลเทศะมากไปหน่อยก็ตาม...”
“อืม...แต่ว่าชั้นอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนาย ทำไมนายถึงได้กลับมาอยู่ที่นี่แล้วทางครูคาคาชิล่ะทางนั้นเกิดอะไรขึ้น...” ซาอิเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะเท่าที่เค้าสังเกตุได้นารูโตะน่าจะยังมีความลับอะไรบางอย่างที่ไม่ได้บอกออกมา
“ขอสงบสติอารมณ์ซักระยะก่อนนะ...แล้วซักวันนึงชั้นจะบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น...” นารูโตะเอ่ยตอบกลับไปด้วยทีท่าหวั่นใจและหวั่นไหวลึก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน
“มันร้ายแรงมากถึงขนาดที่บอกตอนนี้ไม่ได้เลยเชียวเหรอ...นารูโตะ...” ซากุระเริ่มเอ่ยคาดคั้น
“ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะเรียกว่าร้ายแรงหรือมันเป็นปกติธรรมดา...แต่ชั้นยังไม่พร้อมจะบอกตอนนี้ ขอเวลาอีกหน่อยแล้วกัน...” นารูโตะเลี่ยงที่จะเอ่ยมันออกมาเพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นและจบลงไปโดยที่เค้าไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย แต่จากสภาพของตนเองในตอนนี้มันคงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ยิ่งได้มาเจอการกระทำของอีกฝ่ายด้วยแล้วคงยากที่จะให้เชื่อว่ามันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเค้ากับใครอีกคน...
“ก็ได้ชั้นไม่ซักไซ้ให้มากความแล้วก็ได้...ถ้าอย่างนั้นชั้นกลับก่อนดีกว่าจะได้แวะไปที่โรงพยาบาลต่อด้วยเลย นายเองก็อย่าคิดมากล่ะถ้าตัดใจล้มเลิกภารกิจแล้วก็ต้องทำใจให้ได้...” ซากุระเอ่ยบอกก่อนจะขยับกายลุกขึ้นเตรียมจะจากไปตามที่บอก
“นั่นสิ...นายอย่าคิดมากนะ ถึงเราจะไม่รู้ว่าครูคาคาชิมีเรื่องกลุ้มใจอะไรแต่อย่างน้อยเราเองก็พยายามทำเต็มที่แล้ว...” ซาอิเอ่ยปลอบใจอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่เหมือนเสแสร้งแต่ความจริงมันเป็นรอยยิ้มที่มาจากใจอย่างแท้จริง
“อืม...” นารูโตะรับคำง่าย ๆ แต่ในใจก็รู้ดีว่าความคิดของตนมันคงฟุ้งซ่านและหวาดหวั่นแบบนี้ไปอีกนาน
...พอทั้งสองคนจากไปนารูโตะก็ต้องกลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองตามเดิม แล้วภาพของใครบางคนก็แจ่มชัดอยู่ในมโนสำนึกพร้อมด้วยการกระทำที่มันปลุกเร้าร่างกายของตนให้เร่าร้อนทุกครั้งยามที่นึกถึง...
“โธ่เว้ย...หยุดคิดได้แล้วเจ้าโง่นารูโตะ...อย่าไปนึกถึง ห้ามนึกถึง ห้าม ห้าม ห้าม ห้าม...เข้าใจมั้ย...” นารูโตะร้องบอกตัวเองด้วยทีท่าขึงขัง เพราะจนถึงตอนนี้ร่างกายก็ยังคงรับรู้ได้ถึงร่องรอยที่ได้รับสัมผัสจากคน ๆ นั้น
“ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลยเรา...ถึงได้มานั่งใจสั่นแบบนี้...ใช่แล้วมันก็ต้องจิตตกเป็นธรรมดาที่จู่ ๆ ก็โดนผู้ชายทำอย่างว่า...ใช่แล้วมันก็ต้องรู้สึกไม่เข้าใจอย่างนี้แหละ...เราก็แค่โดนครูทำอะไรต่อมิอะไรโดยที่เราไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง...เห้ย...แต่แบบนั้นคนปกติเค้าทำกันรึไงเล่า...โอ้ย..ปวดหัวเฟ้ย...” เสียงใส ๆ เอ่ยประโยคเหล่านั้นออกมาเหมือนกับจะเตือนตัวเองแต่ดูไปดูมาก็เหมือนคนสติไม่ดีนั่งคุยกับตัวเองเสียมากกว่า...
...ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมานารูโตะเก็บตัวเงียบอยู่ที่บ้านตัวเองซากุระกับซาอิแวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อบอกว่าตัวเองต้องไปทำภารกิจกับทีมอื่นซึ่งแน่นอนว่ามีเพียงนารูโตะคนเดียวเท่านั้นที่ยังว่างเว้นจากภารกิจมาจนถึงตอนนี้ และใครบางคนก็ไม่เคยโผล่มาให้เห็นหน้ากันเลยนับตั้งแต่เค้าจากมาโดยไม่บอกไม่กล่าว...
“คราวนี้จะไปกันกี่วันล่ะ...” นารูโตะร้องถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะน้อยใจอยู่ในทีที่ตนเองไม่มีอะไรให้ทำ
“ก็คงซักสองสามอาทิตย์นั่นแหละเพราะต้องไปหลายหมู่บ้าน...” ซากุระตอบกลับไปด้วยเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายดีว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอย่างไร
“แต่ชั้นคงกำหนดระยะเวลาแน่นอนไม่ได้เพราะเป็นงานสะกดรอย...” ซาอิตอบกลับมาเบา ๆ เพราะจากระยะเวลาที่รู้จักกันมาพอสมควรเค้าเองก็พอจะสังเกตุหรือเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้นแล้วเช่นกัน
“อืม...โชคดีทั้งสองคนก็แล้วกัน...”
“แต่ว่านะนารูโตะ นายจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านแบบนี้ไม่ออกไปใหนเลยอย่างงั้นเหรอ ตั้งแต่กลับมาจากบ้านครูคาคาชินายก็ดูแปลก ๆ ไปนะมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกพวกเราอีกใช่มั้ย...” ซากุระเอ่ยซักไซ้ขึ้นมาด้วยเริ่มรู้สึกว่านารูโตะกำลังมีปัญหาและปกปิดเธอเอาไว้อย่างแน่นอน
“อย่าเพิ่งมาสนใจเรื่องของชั้นตอนนี้เลย...เธอไปทำภารกิจเถอะเอาไว้ถึงเวลาแล้วชั้นจะบอกเองนั่นแหละ...” นารูโตะตอบบ่ายเบี่ยงไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก ซากุระเองก็ได้แต่ฮึดฮัดเพราะแม้ปกตินารูโตะจะเป็นคนพูดหรือทำอะไรไม่ค่อยคิดแต่ถ้าตั้งใจอะไรแล้วก็ไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ เหมือนกันดังนั้นถ้าเค้าไม่คิดจะบอกก็คงไม่มีอะไรมาทำให้เค้ายอมบอกออกมาได้เหมือนกัน
“ก็ได้...แต่อย่าให้ชั้นหมดความอดทนก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นชั้นจะหาคำตอบนั้นให้เจอด้วยตัวเอง...” ซากุระเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนจะจากไปแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ซาอิจึงต้องตามไปอีกคนเพราะทั้งเค้าทั้งซากุระยังมีภารกิจต้องปฏิบัติ พอต้องกลับมาอยู่คนเดียวนารูโตะก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ...ลองไปขอป้าทำภารกิจอะไรซักอย่างสองคนก็น่าจะดีนะไม่งั้นได้กลุ้มใจตายก่อนแน่...” นารูโตะบอกกับตัวเองแบบนั้นก่อนจะมุ่งหน้าไปยังตึกทำงานของโฮคาเงะทันที...สุดท้ายแล้วนารูโตะก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่ดูเหมือนว่าตัวเค้าจะไม่ได้มาที่นี่นานมากเลยทีเดียวก่อนจะเคาะเบา ๆ แล้วเปิดเข้าไปก่อนได้รับอนุญาตเหมือนเช่นทุกที
“อ้าว...นารูโตะเหรอมาได้จังหวะพอดีเลยว่าจะให้ใครไปตามอยู่เหมือนกัน...” หญิงสาวที่ดูจะสวยไม่สมกับวัยเอ่ยทักทายมาเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาในห้องเวลานี้เป็นใคร
“จะตามผมทำไมเหรอครับ หรือว่ามีภารกิจให้ทำ...” เสียงใส ๆ ร้องถามขึ้นมาด้วยความสงสัยพร้อมด้วยดวงตาที่เปล่งประกายวาววับอย่างยินดีที่จะมีอะไรให้ทำบ้างหลังจากที่ว่างมาเป็นเดือน
“อืม...พอดีว่าทีมของเธอก็กระจายกันออกไปทำภารกิจตามที่ต่าง ๆ ตอนนี้ก็เหลือแค่พวกเธอสองคนเท่านั้น ดังนั้นก็คงต้องไปกันแค่สองคนนี่แหละ...ได้ยินหรือเปล่า...” นารูโตะฟังประโยคนั้นแล้วก็ให้นึกสงสัยเพราะคำว่าสองคนที่ซึนาเดะเอ่ยมาแปลว่าภารกิจครั้งนี้ต้องลงมือกันแค่สองคนแล้ว และดูเหมือนว่าใครอีกคนที่จะต้องทำภารกิจกับเค้าก็อยู่ในห้องนี้ด้วยเหมือนกันแต่ตอนเข้ามาเค้าก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอื่นอยู่เลยนี่นา
“แล้วใครอีกคนที่ว่าเนี่ย...เป็นใครเหรอครับ...” นารูโตะร้องถามพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาเพื่อนรวมภารกิจ ซึนาเดะไม่ได้ตอบแต่ใช้สายตากวาดจับออกไปด้านนอกหน้าต่าง ทำให้นารูโตะต้องเลื่อนสายตาตามไปด้วยอีกคนแต่ก็ยังไม่เห็นใครแต่พอขยับตัวจะก้าวเท้าไปมองหาที่นอกหน้าต่างก็ต้องชะงักค้างไว้เพียงเท่านั้นเพราะทันทีที่ร่างสูงของใครบางคนขยับมายืนอยู่ที่ริมหน้าต่างแม้จะเพียงแค่ด้านหลังแต่เค้าก็จำได้ดีว่าเงาร่างของคน ๆ นั้นเป็นใคร แล้วก็เหมือนหัวใจจะหยุดเต้นไปเสียเดี๋ยวนี้
“มีอะไรเหรอ...นารูโตะทำไมทำหน้าแบบนั้นมีอะไรไม่สะดวกหรือไง...” ซึนาเดะร้องถามเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่เคยร้องตะโกนด้วยความดีใจจนน่ารำคาญที่ได้ทำภารกิจ ยิ่งถ้าได้ทำกับคนในทีมเดียวกันเจ้าตัวก็จะยิ่งดีใจเป็นพิเศษแต่คราวนี้มันดูต่างออกไปเพราะนารูโตะไม่ได้มีท่าทางลิงโลดเหมือนเช่นทุกที ยิ่งไปกว่านั้นพอรู้ว่าต้องไปทำภารกิจกับใครก็ถึงกับหน้าถอดสีพูดอะไรไม่ออกไปซะเฉย ๆ
“พวกนายมีปัญหาอะไรกันอยู่อย่างนั้นรึไง...ชั้นไม่รับฟังเรื่องส่วนตัวหรอกนะอีกอย่างภารกิจคราวนี้ก็ค่อนข้างเสี่ยงอยู่เหมือนกันถ้าไม่สามัคคีกันไว้คงแย่แน่...ไปเตรียมตัวได้แล้วนารูโตะนายจะต้องไปทำภารกิจวันนี้แล้วก็เดี๋ยวนี้ด้วย...” ซึนาเดะออกคำสั่งเฉียบขาดแต่นารูโตะก็ได้แต่ยืนมองคนที่นอกหน้าต่างนิ่ง ๆ แล้วหันมาสบตากับซึนาเดะอีกครั้งแล้วก็เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เงียบไปสุดท้ายก็ได้แต่หมุนกายเดินออกจากห้องไปทำตามที่อีกฝ่ายสั่งแต่โดยดี
“คาคาชิ...ฝากดูแลนารูโตะด้วยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรกันก็พูดจากันให้เข้าใจซะจะได้ไม่เป็นปัญหาภายหลัง...” ร่างสูงด้านนอกหน้าต่างไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใดนอกจากพาตัวเองหายวับไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วสมกับเป็นนินจาฝีมือดี...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว่าแต่ภารกิจที่ว่าคืออะไรหว่า? เสี่ยงซะด้วย แบบนี้เซนเซย์ก็จะได้โชว์ออฟปกป้องนัตจัง คึคึ
โอกาสคืนดีมาแล้วค่า
คาคาง้อดตะให้ได้นะ
สนุกมากคะ
ไปกันแค่สองคนด้วย
คนหนึ่งชอบแต่ไม่บอกและยังจะปล่อยเขาไปด้วย
อีกคนก็ยังไม่รู้ใจตัวเอง