ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มวายที่รัก (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #8 : เลือกคนที่หัวใจเรียกร้อง (ตอนจบ)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 58


     

     

                “คนที่กูเลือกคือ...” ผมจงใจเว้นช่วงที่จะพูดชื่อคนเพื่อให้มันดูตื่นเต้นนิดๆ มองหน้าพวกมันสองคนที่ขมวดคิ้วรอลุ้นแล้วอยากจะหัวเราะ แต่ไม่ได้ ต้องเก๊กขรึมไว้ก่อน คิคิ

     

                “มึงรีบพูดเลยสัด ปล่อยให้กูลุ้นอยู่ได้” โอ้ย! ไอ้กันโหด แค่นี้ก็ต้องตบหัวกันด้วย ผมเบ้หน้าใส่มันอย่างหมั่นไส้

     

                “กูจะไม่เลือกมึงเพราะมึงทำร้ายร่างกายกูนี่แหละ” ผมแหวใส่มัน

     

                “โอ้ๆ กูแค่หยอกเล่นเฉยๆ” ตบหัวลูบหลังนะมึง ทีนี้มาทำเป็นลูบหัวกู จำไว้เลย สาดดดด

     

                ตึง!

     

                อยู่ๆ กิตก็ลุกขึ้นตบโต๊ะ ทำเอาผมสะดุ้งวาบ หันไปมองหน้ามันอย่างหวาดๆ สีหน้าเข้มขรึมเหมือนอารมณ์ไม่ดีของมันทำเอาผมเสียวไส้

     

                “ต่อให้คนที่แมชเลือกไม่ใช่ผม ผมก็ไม่มีวันปล่อยแมชแน่ ผมไม่ยอมเลิกกับนายหรอกนะ” สายตาที่จ้องเขม็งมามันช่างดุดันจนน่ากลัว ทำเอาผมก้าวถอยมาหนึ่งก้าว ไอ้กันหันไปมองหน้ามันนิ่ง ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วลุกขึ้นจับแขนผมลากออกไป

     

                “กลับเถอะ” มันว่า โดยไม่สนใจกิตเลยว่าจะโมโหขนาดไหน และมันก็คงจะโมโหมาก เพราะกิตวิ่งมากระชากแขนผมจนเซไปชนอกแกร่งของมันเต็มๆ

     

                “ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าจะไปก็ต้องไปกับกู ไม่ใช่มึง!” กิตประกาศกร้าว ก่อนจะผลักอกไอ้กันออก ผมเพิ่งจะเคยเห็นมันพูดคำหยาบนี่ละ กับผมมันไม่เคยพูดงี้เลย ยิ่งทำให้ผมกลัวมันยิ่งขึ้น เพราะเวลามันโกรธอารมณ์มันรุนแรงจนน่ากลัว

     

                “จะมากไปแล้วนะโว้ย!” ไอ้กันก็พอกัน ผลักอกไอ้กิตเต็มแรง ไม่เห็นใจผมที่ยังถูกมันจับแขนไว้อยู่บ้างเลย ทำเอาผมเซตามมันเกือบล้ม ถ้ากิตไม่จับตัวผมไว้ก่อนคงชนกับโต๊ะข้างๆ

     

                “โอ้ย! พวกมึงพอกันได้แล้ว! อายคนอื่นเค้าบ้าง จะมาทะเลาะอะไรกัน มึงเอาไปจ่ายเลยสัด!” ผมโวยวายขึ้นบ้าง ดีที่พวกมันหยุดทะเลาะแต่จ้องหน้าหาเรื่องกันแทน ผมหยิบใบจ่ายเงินยื่นให้ไอ้กันไปจ่าย ไอ้กันหัวเสียงสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะหยิบใบเสร็จในมือผมไปจ่ายเงินให้ ผมหันกลับมามองหน้ากิต

     

                “ปล่อย” ผมบอก มันมองหน้าผมด้วยสายตาเว้าวอนแต่ก็ยอมปล่อยมือแต่โดยดี

     

                “แมช... เจ็บไหม?” มันถามขึ้นเมื่อเห็นว่าแขนผมข้างที่มันจับขึ้นเป็นรอยมือแดงปื้น

     

     

                “เจ็บดิ เล่นจับแรงขนาดนี้” ผมบ่น ก่อนจะลูบแขนตัวเองเบาๆ

     

                “ขอโทษ...” กิตเอ่ยขึ้นเบาๆ จากสายตามันที่ดูหงอยลงถนัดตา เหมือนเห็นมันหูตกเหมือนหมาโดนเจ้าของด่าเลยครับ

     

                “ไปกินพิซซ่ากันเหอะ นายยังไม่ได้เลี้ยงเราคืนเลย” ผมว่าก่อนจะเดินนำออกมา ไปสมทบกับไอ้กันที่ยืนรออยู่หน้าร้าน ตอนนี้ผมยังไม่อยากบอกอะไรพวกมันเลย เพราะยังถอนทุนไม่คุ้ม หึหึ

     

                “กินอีกละ ท้องมึงทำด้วยอะไรวะ?” ทันทีที่บอกไอ้กันมันก็ว่าผมเลย เชอะ

     

                “ไม่ต้องไปก็ได้นะ กูไปกับกิตสองคนก็ได้”

     

                “เรื่องสิ จะไปก็ไป แม่ง เสียเวลาว่ะ” มันว่าแต่ก็เดินนำพวกผมไปยังร้านพิซซ่าใกล้ๆ

     

               

                พอถึงร้านผมก็สั่งอย่างที่อยากกินทันที สั่งเผื่อพวกมันด้วย

     

                “สั่งเยอะแบบนี้จะกินหมดเหรอแมช?” เป็นกิตที่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง แต่แค่นี้แมชซะอย่างสบายมาก วะฮะฮ่า ผมพยักหน้าแล้วยกคิ้วให้มันว่าแค่นี้จิ๊บๆ

     

                “สั่งเผื่อพวกมึงด้วยไง” ผมว่ายิ้มๆ

     

                “ก็ดี หิวพอดี” ไอ้กันตอบ

     

                ไม่นานอาหารก็มา และผมก็สวาปามเข้าไปเต็มปาก อาหารเต็มโต๊ะก็พลันหายเกลี้ยงไม่ถึง 20 นาที เพราะพวกมันสองคนก็กินกับผมด้วยครับ พอท้องอิ่มก็ต้องย่อย ผมให้กิตจ่ายเงินตามสัญญา และมันก็ไม่อิดออดที่จะยอมเลี้ยงผม เพราะมันมีความผิดติดตัวทำให้ต้องโดนแม่ดุและใช้งานอย่างไม่เป็นธรรม

     

                “อิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นย่อยอาหารกันหน่อยมะ?” ผมชวน ไอ้กันทำหน้าเหม็นเบื่อมาก ส่วนกิตแค่พยักหน้าให้ยิ้มๆ ดีมากๆ

     

                ผมพาพวกมันมาสวนสาธารณะใกล้บ้าน แม้จะมืดแล้วแต่แสงไฟก็สว่างพอไม่ให้สวนสาธารณะเล็กๆ นี้ดูเปลี่ยวเกินไป ผมเลือกนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ตัวหนึ่ง โดยจงใจเว้นที่ข้างๆ ให้พวกมันนั่ง

     

                “พามานี่เพราะจะเคลียเรื่องที่พูดค้างไว้หรือไง?” กิตพูดขึ้น สีหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ผมครางอือตอบ อยากจะเคลียให้จบๆ เพราะผมน่ะรู้ใจตัวเองแล้ว ไม่อยากให้เจ็บนาน ผมรู้คนที่ไม่ถูกเลือกยังไงก็ต้องเจ็บอยู่ดี

     

                “ผมบอกแล้วไง ต่อให้แมชไม่เลือกผม ผมก็ไม่เลือกอยู่ดี” กิตย้ำเตือนอีกรอบ แต่ผมก็หาได้สนใจไม่ ถึงจะกลัวมันอยู่ๆ ก็เหอะ คนแบบผมไม่ชอบค้างคานานๆ ไม่อยากดราม่าเหมือนในการ์ตูนหรอกนะ เพราะงั้นมาจบเรื่องนี้กันเถอะ

     

                “กิต... ให้เราพูดเถอะ เราไม่อยากเก็บมันไว้ในใจอีกแล้ว” ผมเอ่ยด้วยเสียงเว้าวอน พร้อมช้อนตาเหลือบมองให้แลดูน่าสงสารที่สุดไว้ แอบเห็นไอ้กันเบ้ปากใส่ มันรู้สันดานผมดี ว่าเวลาผมอยากได้อะไรก็ต้องอ้อน เรื่องลูกอ้อนนี่เก่งนักล่ะผม

     

                กิตมองผมอย่างอึ้งๆ ก่อนจะพยักหน้าให้อย่างมึนๆ หึหึ เป็นยังไงล่ะ เจอแมชโหมดขี้อ้อนหน่อยเป็นไง

     

                “สรุปมึงจะเลือกใครว่ามาตรงๆ เลยดีกว่า” ไอ้กันพูดขึ้นบ้าง ผมพยักหน้าให้มันทีนึง ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ

     

                “วันนี้ตอนเย็นกูไปหาพี่นาถ ปรึกษาเรื่องพวกมึงกับพี่เค้า” ผมเริ่มพูด แอบมองปฏิกิริยาพวกมัน แต่เห็นว่าพวกมันฟังนิ่งๆ ก็พูดต่อ “...พี่นาถบอกให้กูถามใจตัวเองดู แล้วกูก็ได้คำตอบนั้น คนที่กูอยากอยู่ด้วย หากขาดคนนั้นไปกูคงทรมาน พอนึกว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้ตรงนี้กูก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที” ผมชี้ที่หน้าอกฝั่งซ้าย ตรงจุดที่หัวใจของผมกำลังเต้นตึกตักอยู่ และยิ่งเต้นแรงขึ้นเมื่อมองคนคนนั้น สายตาที่สั่นระริกมองจ้องมาทำให้ผมหายใจติดขัด

     

                “กูเลือกมึงนะ... ไอ้กัน” ผมพูดแล้วยิ้มให้มัน ไอ้กันทำหน้าเหวอ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นรอยยิ้มกว้าง แล้วกระโดดเข้ามากอดผมทันที ผมรับผลักมันออกก่อนจะหันไปหากิต

     

                สายตากิตดูเศร้าลงจับใจ ดวงตาว่างเปล่าที่มองมาที่ผม ทำให้ใจกระตุบวูบด้วยความสงสาร

     

                “เราขอโทษนะกิต... เราชอบนายนะ แต่มันไม่ใช่ความรัก... เรารักนายไม่ได้จริงๆ” ผมเอ่ยขึ้นช้าๆ ดวงตายังจับจ้องหน้ากิตอยู่ตลอดเวลา

     

                กิตหลับตานิ่งแล้วถอนหายใจออกมา ก่อนจะลืมตาจ้องผมแข็งกร้าว ทำเอาต้องสะดุ้งคว้าแขนไอ้กันไว้ทันที กิตหันไปมองไอ้กันต่อ

     

                “กูแพ้มึงแล้ว มึงชนะ” กิตว่า เขาล้วงมือในกระเป๋าแล้วหันหลังเดินจากไปทันที ผมหันไปมองหน้าไอ้กัน เห็นมันแสยะยิมน่ากลัว

     

                “หึ” มันแค่แค่นหัวเราะออกมา ก่อนจะหันมามองหน้าผมตรงๆ

     

                “กูรักมึงว่ะ” มันพูดแล้วกอดคอผมแน่น จนแทบหายใจไม่ออก ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผม

     

                “กูก็...ก..ก็...ระ....” โอ้ยยย กระดากปากแท้หนอ ผมพูดออกมาไม่ได้ มันเขินแปลกๆ

     

                “ฮะฮะฮ่า หน้าแดงแล้วมึง เป็นอย่างที่มึงเป็นนี่ก็พอ ไม่ต้องฝืนพูดหรอก กูรอได้” มันว่ายิ้มๆ แล้วยกมือขึ้นลูบหัวผมอย่างที่มันชอบทำเสมอ ทำไมผมถึงได้รู้สึกตัวช้านัก ว่ามือมันช่างอ่อนโยนและอบอุ่นมาก ผมรู้สึกดีในใจ ถึงแม้มันจะชอบแกล้ง ใช้กำลัง ชอบบังคับ แต่ผมก็ชอบมัน สงสัยผมจะเป็นมาโซซะล่ะมั้ง

     

                “มึงชอบกูตั้งแต่ตอนไหนวะ?” เมื่อเรานั่งเล่นกันสักพักผมก็หันไปถามมัน

     

                “ไม่รู้ว่ะ คงตั้งแต่อนุบาลมั้ง?” คำตอบของมันทำเอาผมอึ้งไปเลยครับ ตั้งแต่อนุบาล โห มึง.. เป้นเด็กเป็นเล็กริอาจมีความรัก

     

                “ไม่ต้องมองกูแบบนั้นเลย” มันว่าแล้วผลักหัวผมแรงๆ ย้ำว่า แรงๆ ทำเอาเกือบตกเก้าอี้ ไอ้สาดดดด มึงจะโหดไปไหนเนี่ย!!??

     

                “แม่ง! อะไรๆ ก็ทำร้ายร่างกายกูนะ”

     

                “หึหึ กูเขินหรอก” มันว่าเร็วๆ แล้วหันไปอีกทางทันที ผมอึ้งก่อนจะเอี้ยวตัวไปมองหน้ามันชัดๆ มันหน้าแดงครับ!!! เฮ้ย! นี่มึงอายกูจริงเหรอเนี่ย อายแล้วทำร้ายร่างกายกูงี้เหรอวะ

     

                “นี่ถ้ากูทำมึงอาย กูไม่ช้ำในก่อนเหรอวะ?” ผมแซวมัน ยิ้มขำๆ กับท่าทางเขินอายของมัน คบมันมาตั้งนานเพิ่งรู้ว่ามันมีมุมน่ารักแบบนี้กับเค้าด้วย

     

                “หึหึ ไอ้โง่” มันว่าผม ทำเอาผมเบ้ปากใส่ แล้วมันก็จับปากผมบีบอย่างหมั่นเขี้ยวทันที

     

                “โอ้ยยย อ่อยอูอ๊าาา” ผมร้อง เจ็บที่โดนมันแกล้ง นี่กูแซวมึงนิดเดียว ต้องทำร้ายกูขนาดนี้เลย พูด!

     

                “กูรักมึงว่ะ”​ มันว่าแล้วก้มหน้าลงมาฉกชิงริมฝีปากผมโดยไว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมยิ้มๆ บอกเลยว่าที่มันทำ ทำเอาผมตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นแรงรัวอย่างกับกลอง หน้าผมต้องแดงแปล๊บแน่ๆ รู้สึกร้อนๆ ที่แก้มอย่างชัดเจน

     

                “ทีงี้ละไม่อายนะมึง” ผมว่ามันหลังจากทำใจได้ ผมก็อายเหมือนกัน เลยต้องว่ามันกลบเกลือนความอายบ้าง เอิ๊กๆ

     

                “เป็นแฟนกันนะครับแมช” อยู่ๆ มันก็ทำให้ผมอึ้งอีกรอบ เพราะมันเล่นกุมมือผมไว้หลวมๆ แล้วจ้องตาผมเป็นมัน ก่อนจะเอ่ยขอขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แววตาแวววาว คำพูดสุภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเหมือนตัวเองระเบิดบึ้ม! ตัวลอยหัวใจเต้นถี่รัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก ผมกำลังเขินมัน!! แถมเขินจนมันแซวว่าผมหน้าแดงแปล๊บอีกด้วย

     

                “ว่ายังไงครับ เป็นแฟนกูนะ” เอิ่ม กำลังเคลิ้มแล้วเชียว เสือกเรียกผมว่ากู จบเลย

     

                “หึ.. มึงนี่... เออ!” ผมหัวเราะแล้วตอบมันดังๆ เออ! กูรักมึงนะเว้ย เป็นแฟนกับมึงก็ดีเหมือนกัน ถึงจะพูดให้มันฟังตอนนี้ไม่ได้ แต่คิดว่าไม่นานเกินรอ กูคงพูดต่อหน้ามึงได้ว่ากูเองก็รักมึงเหมือนกัน

     

                รอยยิ้มของเราสองคนทำให้บรรยากาศรอบข้างกลายเป็นสีชมพูด มันจูบผมอีกครั้งและอีกครั้ง แต่ไม่ได้รุกล้ำให้ผมต้องกลัว มันอ่อนโยนมาก ผิดจากปกติ แต่ผมก็ชอบ... เวลามันอ่อนโยน มันทำให้หัวใจผมต้องทำงานหนัก และมันก็รู้ว่าผมจะเขินมันขนาดไหน

     

                ขนาดที่ผมต้องซบลงที่อกกว้างของมัน ยิ้มหัวเราะคิกอยู่คนเดียวอย่างที่มีความสุข

     

                รักกูนานๆ นะไอ้กัน

     

                กูก็จะรักมึงให้นานอย่างที่มึงมีให้กูแน่นอน...

     

     

     

     

     

     

     

    ส่งท้าย บทของกิต

     

                หึ ในที่สุดผมก็แพ้มันจนได้ ถึงผมจะบอกว่าไม่ยอมเลิกแน่นอน แต่พอได้เห็นแววตาที่มั่นคงของแมช เขาไม่ได้รักผมจริงๆ แค่นี้ผมก็ไม่อยากจะฝืนรั้งเขาต่อแล้ว ต่อให้ไม่อยากเลิก แต่คงต้องทำใจ คงจะมีสักวันที่ผมจะมองแมชเป็นเพื่อนได้ ไม่ใช่คนที่ผมรัก

     

                รู้สึกเจ็บใจจริงๆ เลย สำหรับผมแมชเป็นรักแรกพบ และเป็นรักแรกของผม มึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่อยากจะปล่อยมือจากเขา แต่คงจะอย่างเค้าว่า “รักครั้งแรกมักจะไม่สมหวัง”

     

                เฮ้อ... มันเจ็บจริงๆ ครับ ที่ต้องพ่ายแพ้หมดท่าอย่างนี้ ผมอยากจะฉุกรั้งเค้าไว้ให้อยู่ข้างกายผมคนเดียว ไม่อยากปล่อยมือที่จับเค้าไว้เลย

     

                แต่ตอนนี้หัวใจผมมันไม่สู้ดี มันเจ็บทรมานเหลือเกิน

     

    ขอเวลาให้ผมหน่อยนะ

     

    เมื่อผมหายดี ผมจะกลับไปหาคุณอีกครั้ง

     

    รักแรกของผม.... แมช...

     

    บอกเลย ที่ว่าทำใจ แต่ผมไม่ยอมแพ้แน่นอน ไม่มีวัน!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×