ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มวายที่รัก (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #6 : สับสน

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 58


     

     

                เช้าวันจันทร์ที่ผมไม่อยากไปเรียนเลย ไม่อยากไป แต่ต้องไป เมื่อวานเด็จแม่ที่เคารพรักยิ่งไล่ตีจนก้นลาย เพราะผมโดดไม่ได้ไปเรียนพิเศษ พอบอกว่าเพราะไอ้กันมันทำให้ผมไม่ได้ไปเรียน ก็ยิ่งโดนแม่ตีหนักขึ้น หาว่าผมโบ้ยเป็นความผิดของมัน ส่วนไอ้กันน่ะเหรอ เอาแต่หัวเราะเยาะผมอยู่นั่นแหละ หนอยยยย ทำให้กูต้องโดดเรียนแถมมาจูบกูอีก แต่ไม่มีความรับผิดชอบเลย ถ้ามันขอให้ผมเป็นแฟนมันนะ ผมจะปฏิเสธให้มันตามตื้อผมเลยคอยดู

     

                พอผมออกมาหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจ ที่เห็นกิตยืนคอยอยู่ตรงประตูรั้ว

     

                “ก..กิต... มาทำไรน่ะ?” ผมเดินเข้าไปถามกล้าๆ กลัวๆ กลัวว่าจะเป็นจริงตามที่ไอ้กันมันบอก

     

                “ก็มารับแฟนไง ไปเรียนด้วยกันนะ” กิตยิ้มให้แล้วยื่นมือมาให้ผมจับ

     

                “มันไม่ไปกับมึงหรอก มันจะไปกับกูนี่ มานี่เลยมึง” ไอ้กันโผล่มาจากไหนไม่รู้มาผลักกิตออก แล้วเดินมาดึงแขนผมให้ไปกับมัน

     

                “เดี๋ยวกูปิดประตูบ้านก่อน”

     

                “มึงปิดเลย” ไอ้กันหันไปบอกกิต ถึงกิตจะเขม่งใส่แต่ก็ยอมปิดประตูรั้วให้

     

                “มึงหยุดดึงแฟนกูได้แล้ว แฟนครับไปกับเรานะ” กิตว่าไอ้กันก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ กลับ พอเห็นสายตาลุกวาวของไอ้กันก็ต้องรีบหุบยิ้มลงทันที

     

                “งั้นถามมันดีกว่า ว่ามันอยากจะเดินไปเรียนกับใคร ระหว่างมึงหรือว่ากู” ไอ้กันเสนอ ก่อนคนทั้งสองจะหันมามองผมเป็นตาเดียว เดี๋ยวนะเฮ้ย! นี่ให้กูเลือกระหว่างมึงสองคนเหรอ?

     

                “เอ่อ....” เลือกใครดีล่ะ ดูสายตาไอ้กันสิ แทบจะกินหัวผมอยู่แล้ว แล้วสายตาอ้อนๆ ของกิตอีก อีกใจก็อยากรู้ว่ากิตเอาผมไปพนันจริงไหม เลยชี้ไปที่กิต

     

                “มึงแม่ง!” ไอ้กันสะบัดมือออกจากแขนผม แล้วเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงจากไป ไม่หันกลับมามองกันเลย

     

                “งั้นเราไปกันเถอะครับ ป่ะ” กิตยื่นมือมาให้ผมจับ แต่ผมเลือกที่จะไม่จับมือนั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง

     

                “เราถามอะไรกิตสักข้อสิ” ผมเอ่ยขึ้น กิตทำหน้างงแต่ก็พยักหน้าให้

     

                “กิตเอาเราไปพนันกับเพื่อนเหรอ?” ผมกลั้นใจถามออกไปเร็วๆ แล้วหลับตาปี๋ กลัวคำตอบจะเป็นเหมือนที่กันพูด

     

                “...” แต่กิตไม่ได้ตอบอะไร ผมเลยลืมตาขึ้นมองหน้ากิต ใบหน้าของกิตที่ผมเห็นทำให้ผมขนลุกชัน สายตาเย็นชาที่มองมาที่ผม... มันทำให้ผมสั่นสะท้าน เป็นอย่างที่กันพูดจริงๆ หรือนี่... ผมรู้สึกชาวาบ

     

                “ใครบอก? ไอ้กันเหรอ?” กิตถามขึ้น เสียงที่ติดจะเย็นชา ทำให้ผมเผลอก้าวถอยหลัง แต่กิตก็ตามมาคว้าไหล่ผมไว้ไม่ให้ถอยหนี

     

                “แมชเชื่อมันมากกว่าเราเหรอ? ดูก็รู้ว่ามันอิจฉาเรา มันพยายามกันเราให้ห่างจากแมช มันก็อ้างนู้นอ้างนี้ไปงั้นเองแหละ” กิตเปลี่ยนจากเย็นชามาเป็นยิ้มเย็นยะเยือกให้ ผมรู้สึกถึงแรงบีบที่ไหล่จนเริ่มเจ็บ พยายามดันไหล่ออกจากมือแกร่งแต่กลับไม่ขยับเลย

     

                “กิต...เราเจ็บ” ผมร้อง แต่กิตก็ยังไม่ยอมปล่อย

     

                “แมชไม่เชื่อใจเราเลยเหรอ? ทั้งๆ ที่แมชตกลงเป็นแฟนกับเราแล้ว”

     

                “ปะ..เปล่านะ... เราแค่ถามเอง ถ้ามันไม่จริงนายก็บอกว่าไม่จริงสิ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”

     

                “หึ ก็ใช่ว่าจะไม่จริงซะทีเดียวหรอก” คำตอบของกิตมันยิ่งทำให้ผมเสียใจ รู้สึกเหมือนหัวใจกระตุกวูบไปที่ตาตุ่ม กิตหลอกผมอย่างที่กันบอกจริงๆ เหรอเนี่ย รู้สึกเสียใจที่ยอมตกลงเป็นแฟนกับมัน แต่มันกลับมาหลอกผม มันต้องการอะไรกันแน่ น้ำตาไหลเพราะเจ็บใจ

     

                “ทำไมต้องทำแบบนี้ เราไปทำอะไรให้ กิตถึงต้องมาหลอกเราด้วย!” ผมตะโกนถามทั้งน้ำตา

     

                “ตอนแรกก็เพราะเงิน แต่พอได้เห็นแมชตัวจริง... เราก็คิดว่าเราตกหลุมรักแมชเข้าแล้ว เราชอบแมชนะ และขอบอกไว้เลยนะว่า นี่ไม่เกี่ยวกับพนันอะไรนั่นแล้ว แมชเป็นแฟนเราแล้ว เราไม่ยอมให้เลิกกับเราแน่ จำไว้!” แมชดันไหล่ผมออกโดยแรง ก่อนจะแบมือมาตรงหน้าผม ผมมองมันนิ่ง คิ้วเลิกขึ้นด้วยความสงสัย

     

    “เอามือถือแมชมา” มันว่าเสียงนิ่ง ผมรีบหยิบมือถือออกมาส่งให้มันทันที “รหัสอะไร?”

     

    “เอ่อ...”

     

    “แมช.. รหัส” เสียงติดจะเฉียบเย็นทำเอาผมสะท้าน ต้องรีบบอกรหัสปลดล็อคให้ทันที เห็นมันกดโทรออก ไม่นานเสียงสายเข้ามือถือของมันก็ดังขึ้น นี่มันเอาเบอร์ผมโทรไปหามันเหรอ?

     

    “เท่านี้เราก็ติดต่อนายได้แล้ว ห้ามไม่รับสายเราเด็ดขาด เวลาเราโทรมาต้องรีบรับ ถ้าเราโทรหารอบแรกไม่ติด เราจะจูบนาย 1 ครั้ง ถ้าไม่ติดหลายครั้งก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย เราไม่หยุดแค่จูบแน่ แล้วอย่าคิดนะว่าเราไม่กล้าทำจริงๆ!” ว่าแล้วมันก็ผลักหน้าผากผมทีนึง ก่อนจะก้าวเท้าเดินจากไป ปล่อยให้ผมมองตามหลังมันอย่างงงๆ

     

    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!?? ทำไมชีวิตวัยรุ่นของผมถึงต้องมาเจอเรื่องราวบ้าๆ แบบนี้ด้วย สรุปกิตหลอกผม แต่มาชอบผมแทนงั้นเหรอ แล้วไอ้คำขู่ที่ห้ามเลิกกันนั่นอีกล่ะ ผมจะทำยังไงดี... กิตไม่ใช่กิตคนเดิมที่ผมรู้จัก มันน่ากลัว น่ากลัวเหมือนกับไอ้กันเลย...

     

     

     

                สรุปวันนั้นผมก็โดดเรียนจนได้ แอบไปนอนเล่นที่หอไอ้เย็นมัน ผมมีกุญแจห้องมัน เลยเข้านอกออกในได้ตลอด ปกติผมจะโทรไปบอกมันก่อนถ้าไปห้องมัน แต่วันนี้ไม่มีอารมณ์ ไม่อยากให้ไอ้กันรู้ด้วย แต่ผมก็ปิดบังมันไม่เคยได้เลย พอพักเที่ยงไอ้เย็นก็ส่งข้อความมาบอกว่าไอ้กันกำลังจะไปตามหาผมที่ห้องมัน มันไม่รู้ว่าพวกผมทะเลาะอะไรกัน แต่ก็ยังให้ความช่วยเหลือ ซึ้งใจจริงๆ เพื่อนรัก

     

                ผมรีบออกจากหอไอ้เย็นก่อนดีกว่า ก่อนที่ไอ้กันจะตามมาเจอ

     

                ผมเปิดประตูออกไปช้าๆ ทำเหมือนกลัวอะไร จริงๆ ก็กลัวแหละครับ กลับไอ้กันมัน แต่มันน่าจะยังมาไม่ถึงหอไอ้เย็นนะ พอเปิดประตูออกผมก็ย่องออกจากห้อง ไม่ลืมที่จะล็อคห้องให้มันคืน แต่พอจะหันตัวเดินก็ปะทะเข้ากับสายตาคู่หนึ่งพอดี จนผมต้องสะดุ้งเฮือก กลับหลังหันจะวิ่งหนีมันไปอีกทางทันที

     

                “มึงหยุดเลยนะไอ้แมช อย่าให้กูตามทันนะมึง!” เสียงไอ้กันตะโกนมาแต่ไกล เรื่องอะไรจะหยุดให้โง่ล่ะ ผมวิ่งหนีไม่คิดชีวิตทันที วิ่งไปจนถึงบันไดหนีไฟ แต่ถึงจะออกวิ่งก่อนมันก็หนีมันไม่ทันอยู่ดี เพราะไอ้กันมันวิ่งเร็วมาก มันตามมาถึงตัวผมอย่างไว

     

                “แฮ่ก แฮ่ก... ปล่อยกู...” ผมหอบหายใจ มือชันที่หน้าขา หายใจโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างแรง เหนื่อย แค่วิ่งหนีมันมาได้ 3 ชั้นเองก็โดนมันจับตัวได้ซะก่อน

     

                “แฮ่ก... มึงก็อย่าหนีกูสิวะ”

     

                “เดี๋ยว... พักก่อนๆ” ผมไม่ไหวแล้ว ทรุดตัวลงนั่งที่ขั้นบันไดแรกทันที ไอ้กันมันเดินมานั่งลงข้างๆ

     

                “มึงจงใจหลบหน้ากู” มันว่าขึ้น ผมหันไปมองหน้ามัน ก่อนจะถอนหายใจ แล้วเอนตัวพิงไหล่มัน

     

                “....”

     

                “เมื่อเช้า... ทำไมมึงไม่เข้าเรียนวะ? มึงไม่ได้ไปโรงเรียนพร้อมกับมันเหรอ?”

     

                “เปล่า... กูโดดเรียนมานอนห้องไอ้เย็นตั้งแต่เช้าแล้ว”

     

                “เดี๋ยวได้โง่หรอกมึง” ไม่ว่าเปล่า มันเล่นผลักหัวผมด้วย “มึงคุยไรกับมัน?”

     

                “.......กูถามมันเรื่องมึงบอกกู”

     

                “เฮอะ!” ไอ้กันสะบัดหน้าใส่ นี่มึงจะงอนเป็นสาวแตกรึไงกันวะ

     

                “มันบอกว่ามันชอบกู ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่พนันแล้ว แล้วมันก็ขู่กูว่าห้ามเลิกกันมันด้วย” ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ไอ้กันฟัง เห็นมันทุบกำปั้นลงพื้นอย่างโกรธๆ

     

                “เพราะงั้นมึงเลยโดดเรียนเหรอวะ? มึงนี่โง่ไม่มีใครเกินเลยจริงๆ” คำก็ด่าสองคำก็ด่า ชิ!

     

                “กูโง่แล้วมึงมาชอบกูทำไม!?” ผมสะบัดเสียงใส่

     

                “เออ กูก็โง่ที่ชอบมึง แต่มึงรู้ไหมว่ากูเต็มใจโง่ที่จะรักมึง ไอ้ลูกหมาโง่ๆ ของกู” ไม่ว่าเปล่ามันกอดคอผมดึงให้ซบที่ไหล่มันตามเดิม

     

                “มึงว่ากูควรทำยังไงดีวะ?” ผมถาม

     

                “แล้วใจมึงว่ายังไงล่ะ มึงชอบใคร ระหว่างกูกับมัน” เสียงที่ติดจะหงอยๆ ของไอ้กันทำให้ผมรู้สึกผิด เพราะผมเลือกไม่ได้จริงๆ ผมที่ไม่เคยคิดว่าเรื่องราวแบบในการ์ตูนวายจะเกิดขึ้นกับผม ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ แต่ผมกลับรู้สึกดีกับพวกมันทั้งคู่ แต่ผมก็ต้องเลือก เลือกแค่คนเดียว...

     

                สำหรับผมพวกมันทั้งคู่ก็เหมือนกัน มันทำร้ายผม ไม่ว่าจะทางกายหรือใจ พวกมันไม่ได้ต่างกันเลย บอกว่าชอบผม รักผม แล้วมาบังคับผมให้เลือกแค่คนใดคนหนึ่ง...

     

                “เฮ้อ... มึงลองถามใจตัวเองดูแล้วกัน ว่ามึงอยู่กับใครแล้วรู้สึกดี ขาดใครไปแล้วมึงจะทรมาน แล้วค่อยมาบอกกูว่ามึงตัดสินใจจะเลือกใคร ระหว่างมันกับกู...” ว่าแล้วไอ้กันก็ลุกขึ้นเดินลงบันไดไป ไม่ฟังเสียงผมที่ร้องเรียกชื่อมัน ปล่อยให้ผมจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

     

                ผมควรเลือกใครดี?

     

                ไอ้กัน เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

     

                กิต หนุ่มหล่ออันดับหนึ่งของสายชั้นม. 4

     

                ไอ้กัน ที่เข้าใจกันทุกเรื่อง อยู่กับมันแล้วผมสบายใจ แต่ตอนนี้พอโดนมันกอดก็รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพ่าน

     

                กิต ที่อยู่ๆ ก็วิ่งเข้ามาในใจผม ผมจะเชื่อใจมันได้ไหม? แต่สายตาที่มองกับอ้อมกอดของมันช่างอบอุ่น มันทำให้หัวใจผมพองโต

     

                แต่ว่า...

               

                เวลาไอ้กันโมโห ผมก็กลัวมัน

     

                เวลาที่กิตโกรธ มันก็น่ากลัวเหมือนไอ้กันเลย

     

                เฮ้อ... เรื่องแบบนี้ผมจะไปปรึกษาใครได้บ้างละเนี่ย... นั่นสิ... ปรึกษาใครดี... ....อ้ะ! พี่นาถไง! ไม่รอช้าผมรีบควานหามือถือในกระเป๋าทันที แต่กลับมีสายเรียกเข้ามาก่อน มองเบอร์โทรที่ไม่คุ้นโทรเข้ามา แล้วนึกถึงเรื่องเมื่อเช้า ถ้าไม่รับสายผมจะถูกกิตจูบ แค่คิดก็หน้าแดงเห่อร้อนขึ้น รีบกดรับสายทันที

     

                “ฮ…ฮัลโหล” ผมรีบรับสายอย่างลนลาน จนเกือบจะทำมือถือหลุดมือด้วยซ้ำ

     

                [‘แมช นี่กิตนะ ทำไมแมชไม่มาเรียนล่ะ?’] เป็นมันจริงๆ ด้วย

     

                “เอ่อ...คือ”

     

                [‘เพราะเรื่องของเราเมื่อเช้าเหรอ? เลยทำให้แมทชโดดเรียน’] ใช่ เรื่องมึงนั่นแหละ แง่ง มาขู่มาทำให้สับสน

     

                “...”

     

                [‘แมช... เราขอโทษ...’] เสียงของกิตที่เอ่ยออกมาช้าๆ ฟังดูเหมือนกิตจะรู้สึกผิดจริงๆ เลย

     

                “เปล่าหรอก... เราแค่อยากอยู่คนเดียว อยากมีเวลาคิด...”

     

                [‘กิตรักแมชนะ แล้วกิตก็บอกปัดเพื่อนเรื่องพนักอะไรนั่นไปตั้งนานแล้วด้วย เมื่อวันเสาร์สิ่งที่กิตบอกแมชไป นั่นคือความในใจของเราจริงๆ นะ’]

     

                “อืม” ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่กิตบอกผมมันจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าผมยังไม่พร้อมจริงๆ “กิต... เราว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันดีไหม?”

     

                [‘ไม่! เราบอกแมชว่ายังไง ว่าเราจะไม่ยอมเลิกกับแมชเด็ดขาด ถ้าแมชอยากจะเลิกนัก ก็มาพูดต่อหน้าเราสิ!’] เชี่ยละ ใครจะกล้าไปละ เอาไงดีวะ

     

                “แต่เราอยากได้เวลา…”

     

                [‘แมชอยากได้เวลาเท่าไหร่เราก็จะให้ แต่เราไม่ยอมเลิกกับแมชแน่นอน ตอนนี้แมชอยู่ไหน?’] ง่าาา ไม่บอกหรอกเฟ้ย

     

                “นายไม่ต้องรู้หรอก...”

     

                [‘แมช เราขอถามแมชหน่อย แมชไม่รู้สึกดีกับเราจริงๆ เหรอ?’]

     

                “...ถ้าไม่รู้สึก... คงไม่ตอบตกลง...” ผมตอบเสียงเบาหวิว แต่ปลายสายก็ยังได้ยิน

     

                [‘กิตรักแมชนะ ถ้าแมชอยากได้เวลา เราก็จะให้ แต่ขอให้แมชรู้ ว่าแมชกับกิตยังเป็นแฟนกันอยู่ แล้วถ้าเราไม่อยากจะเลิก แมชก็เลิกกับเราไม่ได้ โดยเฉพาะไอ้กัน เราไม่ยอมยกแมชให้มันแน่!’] เฮ้อ... ผมจะทำยังไงดี ฝ่ายนี้ก็ไม่ยอม ฝ่ายนู้นก็ไม่ยอม ทำไมผมถึงเพิ่งมาเนื้อหอมเอาตอนนี้ละฟะ!?

     

                หลังจากกิตวางสายไป ผมก็โทรไปหาพี่นาถทันที ดีที่ตอนนี้พักเที่ยงอยู่ พี่นาถนัดให้ผมไปเจอกับพี่เค้าหลังเลิกเรียน หอของพี่นาถอยู่ถัดไปอีกสองบล็อก แต่ตอนนี้คงต้องกลับไปนอนเล่นห้องไอ้เย็นมันก่อน เฮ้อ... ไอ้แมชนะไอ้แมช ทำไมต้องเนื้อหอมกับผู้ชายด้วยวะ กูแค่ชอบอ่านการ์ตูนวาย ไม่ได้แปลว่าอยากเป็นเหมือนนายเอกในการ์ตูนสักหน่อย ไม่สิ คนอย่างผมต้องเป็นพระเอกสิถึงจะถูก ทำไมแต่ละคนถึงต้องขู่เข็นผมด้วยก็ไม่รู้ ฮือๆๆๆๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×