คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : วันที่ 4 ตกใจ
บทของคุณชาร์ล
เมื่อวานไม่เป็นอันจะทำอะไรเลยครับ ทำอะไรก็กังวลตลอด ผมสลัดใบหน้าของศัตรูหัวใจออกจากหัวไม่ได้เลย ถ้าผมลงเอยกับคุณเจนนี่ความรู้สึกประหลาดนี้คงจะหยุดลงใช่ไหม?
วันนี้ผมก็มาหาคุณเจนนี่ที่ทำงาน ไม่ใช่ว่าจะมาตื้อหรืออะไรนะครับ วันนี้ผมมาติดต่อเรื่องทัวร์ครับ คุณพ่อกับคุณแม่ของผมท่านอยากไปทัวร์ยุโรปกัน 2 คน เอาแบบไพรเวททัวร์เหมือนเดิม ถ้าจะไปเที่ยวกันเองก็ไม่น่าจะต้องจ้างไกด์ แต่คุณแม่บอกว่าเค้าจัดการทุกอย่างให้มันสะดวกดี คุณพ่อก็เห็นชอบด้วย ยอมปล่อยบริษัทให้ผมกับน้องชายดูแล แต่ตอนนี้ผมลาพักสัปดาห์นึงเพื่อมาตามหาความรักครับ!! เพราะฉะนั้นหน้าที่ดูแลบริษัทจึงตกไปเป็นของน้องชายผม ชาลี เค้าจบมาทางด้านบริหารธุรกิจจากอ๊อกฟอร์ดได้ 1 ปีแล้ว เรื่องงานด้านบริหารเค้าเก่งมา ไต่เต้าจากตำแหน่งเล็กๆ ในบริษัทจนคุณพ่อเชื่อใจยอมฝากบริษัทให้ดูแล ตอนนี้ได้เป็นหนึ่ง CEO แล้วครับ ดังนั้นผมหยุดพักไปอีกคนก็ไม่ต้องกังวล
"คุณชาร์ลคะ ถ้าทัวร์ไปยุโรปเจนนี่จะจัดไกด์อีกท่านให้แทนนะคะ" คุณเจนนี่เดินมาหาผมที่ส่วนต้อนรับแขกด้านในตัวออฟฟิต พร้อมกับยื่นใบรายการท่องเที่ยวให้
"อ้าวไม่ใช่คุณเจนนี่คอยดูแลเหรอครับ? ผมอยากได้คุณเจนนี่ช่วยเป็นไกด์ให้มากกว่า ทางคุณแม่ผมท่านก็ขอร้องมาด้วยครับ"
"ต้องขอโทษด้วยค่ะ เจนนี่รับเฉพาะงานทัวร์ในภาคพื้นเอเชีย ถ้าเป็นยุโรปเจนนี่ไม่ถนัดค่ะ จะเป็นการไม่ดีกับทางลูกค้าได้ ถ้าเจนนี่ดูแลได้ไม่ดีพอ ยังไงเจนนี่จะไกด์ทัวร์ยุโรปฝีมือดีที่สุดของบริษัทเราให้นะคะ"
"ก็ได้ครับ ถ้าคุณเจนนี่ว่าอย่างไงผมก็ว่าตามครับ" ผมตอบยิ้มๆ ผมมองไปทั่วออฟฟิตมองหาศัตรูหัวใจ วันนี้ไม่เห็น ได้โอกาสทำคะแนน ผมจับไปที่มือของคุณเจนนี่ คุณเจนนี่สะดุ้งทำท่าจะดึงมือกลับ ผมรั้งเอาไว้เสียก่อน แหม คุณเจนนี่น่ารักจริงๆ
"คุณชาร์ล ทำอะไรคะ ปล่อยมือเจนนี่เถอะค่ะ"
"คุณเจนนี่ครับ ผมพูดตรงๆ เลยละกัน คุณเจนนี่เปลี่ยนใจจากเค้าซะเถอะครับ"
คุณเจนนี่ทำหน้างง "เค้าไหนคะ?"
"ก็คุณอาร์ทไงครับ ผมดีกว่าเค้าหลายเท่า รวยกว่า หล่อกว่า แข็งแรงกว่า ผมสามารถปกป้องคุณเจนนี่ได้ ดูจากสภาพเค้าแล้วคงจะไม่มีปัญญาดูแลคุณเจนนี่ได้หรอกครับ แถมยังเห็นแก่กินมากกว่าคุณเจนนี่ที่เป็นแฟน ผู้ชายแบบนี้คุณเจนนี่อย่าไปยึดติดกับเค้าเลยนะครับ..."
"คุณชาร์ล!!!" ผมสะดุ้ง ผมยังพูดไม่จบ คุณเจนนี่ก็ตะโกนใส่ผม เธอหน้าแดงด้วยความโกรธ สะบัดมือผมออก ผมพูดอะไรผิดไปเหรอ?
"ผมขอโทษครับคุณเจนนี่" รีบขอโทษก่อน อย่าเพิ่งโกรธผมนะ คุณเจนนี่ถอนหายใจ ก่อนลุกขึ้นมองหน้ามองอย่างดูถูก โอ้ยๆ ปวดใจ
"คุณชาร์ล ถึงคุณชาร์ลจะดีกว่าอาร์ทขนาดไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าไปนินทาอาร์ทอย่างนั้น เจนนี่เกลียดคนที่ชอบดูถูกคนอื่นแบบคุณชาร์ลที่สุด" เกลียด....เกลียดที่สุด...... เหมือนใจสลาย ผมหน้าซีดเผือก ปกติผมไม่ใช่คนช่างนินทานะครับ ผมแค่อยากให้คุณเจนนี่ตัดใจจากเค้าแค่นั้นเอง ทำยังไงดีๆ คุณเจนนี่โกรธมากเลย
"คุณเจนนี่... ผมขอโทษจริงๆ ครับ" ผมคอตก ขอโทษคุณเจนนี่จากใจจริง
"ขอโทษเจนนี่ไปก็เท่านั้น เจนนี่จะฟ้องอาร์ท..."
เฮ้ย! ฟ้องเลยเหรอครับ เรื่องแค่นี้เอง ผมมองคุณเจนนี่หวาดๆ
"คุณเจนนี่....พูดจริง...?" คุณเจนนี่พยักหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์กดโทรออกทันที ไม่ทันให้ได้แก้ตัวใดๆ
"ฮัลโหล อาร์ทคะ อาร์ทมาหาเจนนี่ที่ทำงานได้ไหมคะ?" หือ? อ้าวไม่ฟ้องเหรอ
"อะไรนะ!? แขนหัก!?" ห๊ะ!? ผมตกใจ
"เค้าเป็นอะไรครับคุณเจนนี่ เป็นอะไรมากรึเปล่า อยู่ที่ไหน อยู่โรงพยาบาลรึเปล่า?" ไม่รู้ผมเป็นบ้าอะไร พอได้ยินว่าศัตรูหัวใจบาดเจ็บ หัวใจก็กระตุกวูบ เขย่าตัวถามคุณเจนนี่รัว จนคุณเจนนี่ตั้งหลักแทนไม่ทัน
"โอ้ยๆ คุณชาร์ลใจเย็นๆ เดี๋ยวเจนนี่ขอคุยก่อน....... ฮัลโหล...." คุณเจนนี่สลัดตัวออก แล้วเดินออกไปคุยโทรศัพท์ห่างออกไป ผมจึงไม่ได้ยินเรื่องที่คุยกัน ไม่นานคุณเจนนี่ก็วางสายแล้วเดินกลับมาหาผม
"เมื่อเช้าอาร์ทเข้าออฟฟิตไปเคลียงานออกแบบภายใน แล้วพลาดตกลงมาจากนั่งร้าน ตอนนี้แขนหักอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องพัก 1 คืนรอดูอาการค่ะ"
"โรงพยาบาลไหนครับ!?" คุณเจนนี่มองหน้าผมแปลกๆ ทำไม? หน้าผมดูซีดเป็นไก่ต้มเพราะความตื่นตนกขนาดไหนกันเนี่ย
"เห~~~ เจนนี่บอกก็ได้ค่ะ โรงพยาบาล xxx ห้อง 706 นะคะ ชื่อ..." ผมไม่ทันได้ฟังทั้งหมด รีบหยิบสูทที่พาดไว้ที่เก้าอี้ออกจากออฟฟิตไปอย่างเร็ว
ณ. โรงพยาบาล ทางด้านอาร์ท
หมอบอกว่าจริงๆ ก็กลับบ้านวันนี้ได้ แต่เห็นเพื่อนๆ ที่ทำงานผมวิตกจริตกันสุดๆ กลัวมือของผมจะกลับมาใช้การไม่ได้ ขอร้องให้อยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนสักคืน แถมพี่วิลัยก็ยังออกค่าห้องให้ แต่ห้องพักผู้ป่วยรวมเต็ม เลยได้อยู่ห้องพิเศษ สบายชะมัด~~~ นอกจากแขนหักข้างขวา ข้างถนัดแล้ว ข้อมูลซ้ายเคล็ดนิดหน่อย กินยา ทายาก็น่าจะหาย สรุปไม่เป็นอะไรมาก ไม่เห็นจะต้องอยู่ดูอาการเลย เอาเถอะ ถือว่าได้พัก ไม่ต้องเป็นไม้กันหมาให้เจนนี่มันด้วย ดีจะตายยยย
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนคนที่ผมไม่คาดหมายจะเดินเข้ามา
"เป็นยังไงบ้าง?" ชาร์ลนั่นเองครับ มาได้ไงวะเนี่ย
"คุณมานี่ได้ไง?" ผมแปลกใจ พยายามจะลุกขึ้นนั่งเขาก็เดินเข้ามาช่วยพยุง
"ขอบคุณ"
"ไม่เป็นไร คุณเจนนี่บอกว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ผมเลยมาเยี่ยม"
"อะไรกัน วันนี้คุณก็ไปตามตื้อเจนนี่อีกแล้วเหรอ? ไม่เบื่อรึไง? เลิกตื้อซะทีเหอะ ผมขอร้อง" ช่วยเลิกๆ ยุ่งกันมันทีเถอะ ผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตอันแสนสงบสุขของผมต่อ รู้ไหมว่าผมลำบากขนาดไหนต้องขับรถไปหาเจนนี่ที่ทำงานทุกวัน ไม่ใช่ใกล้ๆ ค่าน้ำมันก็ยังไม่ได้ ชาร์ลจ้องมาที่แขนข้างที่หักของผม
"แผลแค่นี้ทำไมต้องนอนโรงพยาบาล ผมก็นึกว่าเจ็บหนักกว่านี้ ที่ไหนได้แค่แขนหักข้างเดียว" แหมมม แขนทองของผมนะครับ ไม่มีมันผมทำงานไม่ได้นะครับคุณชาย ผมสะบัดมือข้างที่เคล็ดเป็นเชิงไล่ รำคาญขี้เกียจคุย
"ช่างเถอะ คุณกินอะไรแล้วรึยัง?" เฮ้อ~ ยังไม่ยอมไปอีก
"กินแล้ว" ผมยักหน้าไปทางโต๊ะข้างเตียงที่มีขนมปังในถุงเหลือไว้ครึ่งชิ้น
"ขนมปังครึ่งเดียวเนี่ยนะ แค่นี้จะไปอิ่มอะไร เอ้า! ผมซื้อข้าวมาฝาก" โห~~~ มิน่าล่ะ ถึงได้กินหอมตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว อ่ะแฮ่ม! ผมทำเป็นนิ่ง ไม่สนใจ ท้องจ้าผมก็หิวเหมือนกันนะ
"ทำไม? ไม่กิน?" ผมกลืนน้ำลายลงคออึก
"กิน!" สู้ท้องที่แสนหิวโหยของตัวเองไม่ได้ น่าเจ็บใจจริงๆ ผมยื่นมือไปจะคว้าถุงข้าว แต่ชาร์ลกับดึงหลบมือผม
"แขนหักแบบนี้จะกินยังไง?" หืม... ผมอ้าปากกว้าง
"อะ อะไร!?" ชาร์ลดูตกใจ
"ก็ป้อนผมสิ" ฮะฮะฮ่า มันหน้าแดงใหญ่เลยครับ ตลกดี
"เฮ้ย!! แขนอีกข้างก็ดีไม่ใช่เรอะ! เดี๋ยวแกะให้ คุณก็กินเองสิ"
"อีกข้างเคล็ดจับช้อนไม่ไหว" ผมอ้อน จริงๆ ก็แค่อยากแกล้งมันเล่นๆ เฉยๆ เห็นมันหน้าแดงแบบนี้ก็น่ารักดี เอ๊ะ! น่ารัก ไม่ใช่สิ ไม่น่ารักเลย ไม่ ไม่ ไม่ ไม่
"อึก... เข้าใจแล้ว" เห~~~ ว่าง่ายกว่าที่คิดแฮะ แหมๆ ต้องมองใหม่ซะแล้ว ดูๆไปเขาอาจจะเป็นคนดีกว่าที่คิดก็ได้ ถ้าไม่ต้องมาเล่นละครตบตาเราสองคนอาจจะเป็นเพื่อนกันไปแล้วก็ได้
ชาร์ลเปิดกล่องข้าว ว้าว ข้าวหน้าหมูผัดเกาหลีซะด้วย เข้าใจเลือกเหมือนกันนี่ ชาร์ลป้อนข้าวผมไปได้ครึ่งนึงก็หยุดมือ ผมอ้าปากรอก็ไม่ยอมป้อมต่อ
"เป็นอะไร?" ผมถาม
"คุณช่วยเลิกกับคุณเจนนี่ทีเถอะ"
"...เฮ้อ~ พูดแต่เรื่องเดิม คนกำลังอารมณ์ดี มาทำอารมณ์เสียซะได้ อยากให้เจนนี่เลิกกับผม คุณก็แย้งไปให้ได้ดิ" ผมเริ่มรำคาญ
"เพราะทำไม่ได้ ถึงได้ขอร้องคุณอยู่นี่ไง!" ชาร์ลตะโกนหน้าแดงแปร๊ด ผมตกใจ เฮ้ยๆ มันเป็นอะไรของมันวะ ขอขึ้นซะงั้น
'สงสัยต้องใช้ไม้หนัก' ผมเอื้อมไปหยิบกล่องข้าวในมือชาร์ลไปวางบนโต๊ะ
"ไหนว่ามือเคล็ด" ผมขยับตัวไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ
"ก็แค่เคล็ด" ผมสะบัดข้างที่เคล็ดไปมา เจ็บพอทนได้อยู่ ไม่เป็นไร ผมคว้าท้ายทอยดึงหน้าคนตรงหน้าลงมาประกบจูบแนบแน่น ชาร์ลตกใจจะขยับหนีเป็นโอกาสให้ผมได้สอดลิ้นเข้าไปตวัดในปากชาร์ล ดูลิ้นแลกเปลี่ยนน้ำลายกัน แหวะ เอาวะทนๆ หน่อย ต้องเล่นมันไม้นี้
ผ่านไป 12 วินาทีได้ ผมผละออกก่อนจะเลียริมฝีปากชาร์ลเบาๆ เป็นไงล่ะมึง เจอจูบพิฆาตระทวยทรวงของกูเข้า ชาร์ลตกใจยกมือป้องปากหน้าแดงแปร๊ด
"เลิกยุ่งกับเจนนี่ซะ ไม่งั้นได้เจอมากกว่านี้แน่!!" ผมขู่เสียงเข้ม ชาร์ลหน้าแดงไปจนถึงใบหู รีบลุกขึ้นวิ่งออกไป ดีที่เอาข้าวกล่องหลบไว้ก่อน ไม่งั้นอดกินต่อแหงเลย
'ฮึๆ เท่านี้คงจะเลิกยุ่งกับเจนนี่มันซะที' ผมคิดเองเออเอง ก่อนจะหยิบข้างกล่องมากินต่ออย่างไม่คิดมากอะไร เพราะข้าวอร่อยหรอกนะเลยเซอร์วิสให้ วะฮะฮะฮ่า
ผมมันโง่... หารู้ไม่ว่าได้ไปปล่อยระเบิดลูกใหญ่ทำลายตัวเองไปเสียแล้ว.....
ความคิดเห็น