ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จุดอ่อนไอ้ยักษ์
หลังจากวันนั้นที่ผมชนเข้ากับไอ้ยักษ์นั่น
ผมก็ไม่เจอมันอีกเลยครับ จนผ่านมาได้ 1 สัปดาห์พอดี
วันนี้ผมอยากกินมาม่าขึ้นมาอีกแล้ว ปกติทุกวันอังคารผมจะต้องกินมาม่าทุกครั้ง
ไม่ใช่เพราะชอบมากหรอกนะครับ
แค่ผมขี้เกียจไปกินที่โรงอาหารอ่ะ
วันอังคารคาบสุดท้ายของช่วงเช้าห้องผมเรียนวิชาพละครับ
แล้วโรงยิมก็ไกลจากโรงอาหารมากกกกกกก
อยากรู้จริงๆ ใครมันเป็นคนออกแบบวะ ถึงตั้งโรงยิมได้ห่างไกลขนาดนั้น
เพราะอยู่อีกฝากหนึ่งของโรงเรียนเลยครับ
สมมติเข้ามาจากทางหน้าโรงเรียน ฝั่งขวาลานอเนกประสงค์
สนามบอล ห้องพักครูส่วนโรงอาหารอยู่ฝั่งซ้าย
แล้วก็เป็นตึกเรียนหลายตึก แซมห้องสมุด ห้องพยาบาล
ร้านน้ำ ห้องน้ำ สวนหย่อมอีกหลายๆหย่อม
ส่วนด้านในสุดติดกับประตูหลังเป็นโรงยิมสนามบอลเล็ก
สนามบาส สนามแบต สระน้ำ ลานอเนกประสงค์2
ห่างกันขนาดนี้แหละครับ เพราะพื้นที่โรงเรียนผมกว้างมากกก
เวลาเรียนพละเสร็จก็ขี้เกียจเดินไปโรงอาหารอ่ะครับ
แต่น่าจะเป็นแค่ไม่กี่คนอ่ะครับ ก็มีผมกับเพื่อนอีก 3-4 คนที่อยู่คนละกลุ่ม
ส่วนคนอื่นๆ มันก็ไปกินที่โรงอาหารเป็นปกตินะครับ
“ไอ้กัส วันนี้แxกมาม่าอีกแล้วเหรอวะ?” ไอเขตเพื่อนผมตะโกนถาม
ตัวมันสูงยาวเข่าดีเป็นนักกีฬาบาส มันน่าจะสูง 187 ได้
หน้าตามันออกตี้ๆหน่อยครับ ตาชั้นเดียว ส่วนข้างๆมันก็มีไอ้นุกกับไอ้เต๋า
ไอ้สองคนนี้หล่อมากครับ แต่น้อยกว่าผมนะ 5555 (หลงตัวเอง)
สูงพอๆ กันครับ น่าจะ 175 ได้ ไอ้เตี้ยเอ้ย เอิ๊กๆ ก็มันเตี้ยกว่าผมอะ
“เออ กูขี้เกียจเดินไปโรงอาหาร เดี๋ยวก็ต้องเดินกลับมาที่ตึก 4 อีก ไปกลับมันไกลวะ”
ผมตะโกนตอบมันไป ตึกเรียน 4 มันอยู่ใกล้กับโรงยิมครับ
แล้วชั่วโมงพละก็เหนื่อยๆ ให้ไปกลับโรงอาหาร-ตึก4 โหย ไม่ไหวอ่ะครับ
ถ้าวันไหนเรียนพละไม่หนักผมก็ไปกินกับพวกมันอยู่นะครับ
พวกมันพยักหน้าแล้วก็เดินไปโรงอาหารทันที ส่วนผมเหรอ
เดินไปที่ซุ้มขายของใกล้ๆ ตึก 4 ที่เดิมที่ผมไปซื้อมาม่านั่นแหละครับ
“ป้าเอามาม่ารสต้มโคล้งถ้วยนึงครับ” ผมยื่นเงินจำนวนพอดีกับราคาของให้ป้าคนขาย
รอไม่นานมาม่าพร้อมน้ำร้อนในถ้วยก็มาเสิร์ฟ เอิ๊กๆ
ผมก็ถือมาม่ารสโปรดว่าจะไปนั่งกินใต้ตึกเรียนรอเพื่อนๆ
เพราะกะว่ากินเสร็จนั่งย่อย เหลือเวลาก็ไปเตะบอลก่อนขึ้นเรียน
แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นสิครับ!!!
ใครมันจะไปคิดว่าเกิดเหตุขึ้นกับมาม่าของผมอีก
แถมครั้งนี้เกิดด้วยความตั้งใจของไอ้เอี้ยนั่นด้วย
ก็คิดดูนะครับ ผมเดินถือถ้วยมาม่ามาดี อยู่ๆก็มีมือดีมาดึงมาม่าของผม
ผมก็งงนะ มาม่ากูหายไปไหน?
เงยหน้ามองไอ้ยักษ์ที่มาแย้งมาม่าผมไป แค้นๆ ก็มันสิครับ ไม่แย้งไปเปล่า
มันแย้งซ้อมในมือผมไปตักมาม่าขึ้นกินเฉยเลย
ผมได้แต่ยืนอึ้งดูมันกินมาม่าของผม รวดเดียวจนหมด
เหลือแต่น้ำซุปที่รู้เพราะมันยื่นถ้วยมาม่ามาคืนผม
“ไอ้เอี้ย!!! มาม่ากู!!! มรึง...มรึง....” ผมโยนถ้วยมาม่าทิ้งลงพื้นแล้วชี้หน้ามัน
โกรธครับโกรธ มาม่ากู สักคำก็ยังไม่ได้กินเลย
มรึงเป็นใครบังอาจนักผมคว้าไปที่คอเสื้อมัน
แต่มันเหลือบตามามองลง แล้วยิ้มเยาะใส่ ยิ่งโมโหเลยครับ
“มาม่ามรึง แต่เงินกู”
“ห๊ะ?” ผมขมวดคิ้วด้วยความงง เงินมรึงตรงไหนวะ
กูจำได้ว่ากูเป็นคนควักตังค์จ่ายนะ
“เอาเงินทอนกูมา” ไอ้ยักษ์ผลักผมออก แล้วทำท่ากระดิกมือขอ
“ไอ้ยักษ์กูจำไม่เคยได้ว่ากูไปเอาเงินมรึงมาตอนไหน
มาม่ากูก็ควักเงินกูซื้อ มรึงจะเอายังไงวะ” ผมหัวเสียสุดๆ
“มรึงเรียกกูไอ้ยักษ์เหรอ เดี๋ยวเหอะมรึง” มันชี้หน้าผมคาดโทษ
“มรึงนี่สมองปลาทองเหรอวะ ถึงจำไม่ได้ อาทิตย์ก่อนมรึงต่อยกู แล้วขโมยเงินกูไป 20 บาท”
“ไอ้เอี้ย ใครบอกมรึงว่ากูขโมย นั่นค่ามาม่ากูที่มรึงมาชนกูแล้วหก ส่วนที่เหลือค่าที่กูแบกมรึงไปส่งห้องพยาบาลเว้ย”
“มรึงต่อยกู มรึงเอาเงินกูไป มรึงคิดว่ากูจะยอมมรึงเหรอ แล้วกูก็บอกแล้วว่าที่มันหกไม่ใช่เพราะกู!”
ผมเริ่มหงุดหงิดละ ขอต่อยหน้าคนหน่อยเหอะ
ว่าแล้วผมก็ออกหมัดใส่มันทันที
แต่มันดันหลบได้แล้วคว้าแขนผมไว้
“คราวก่อนกูเผลอ แต่คราวนี้มรึงอย่าหวังว่าจะทำไรกูได้”
พูดจบมันก็ต่อยผมคืนมาหมัด ทำเอาผมเซถอยไปด้านหลัง
เจ็บมุมปาก เหมือนเลือดจะไหลด้วย ผมจับไปที่มุมปาก
เลือดผมไหลจริงๆด้วย หมัดไอ้ยักษ์หนักชิบหาย
“มรึง!” ผมเงยหน้าจะต่อยมันคืน แต่ก็ต้องชะงัก
เพราะเห็นหน้ามันซีดมากเลยครับ แถมรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที
“มรึงต่อยกูแล้วมาทำท่ากลัวไรวะ?” ผมถามมัน เพราะเห็นท่าทางมันกลัวๆ แปลกๆ
“กูไม่ได้กลัวมึง!” มันตอบ ทั้งที่ไม่ยอมหันมามอง
“มรึงว่ามรึงไม่กลัวกูทำไมมรึงต้องหลบหน้ากูด้วยวะ”
ผมแสยะยิ้ม ผมว่าผมรู้สาเหตุแล้วครับว่าทำไม
ผมก้าวสามขุมเข้าไปหามันช้า พร้อมทั้งเชิดหน้าใส่มัน
มันเหลือบตามามองแล้วรีบหันกลับไปมองอะไรของมันก็ไม่รู้
ผมก้าวไปข้างหน้า มันถอยหลังหนีผม
หึหึ ไอ้เอี้ยยักษ์ กูรู้นะว่ามรึงอ่ะ
กลัวเลือด!!!
วะฮะฮะฮะฮ่า!!!!
“มรึงกลัวเลือดเหรอวะ? เสือกใจกล้ามาต่อยกู สุดท้ายเห็นเลือดแล้วกลัวสิมรึง แม่ง ตุ๊ดวะ”
ได้ทีขี่แพะไล่เลยผม เอิ๊กๆ
“สัด! กูไม่ได้ตุ๊ดเว้ย กูไม่ได้กลัวเลือดด้วย”
ไอ้ตอนท้ายมันพูดเสียงอ่อยๆ นึกว่าแน่ ถุย!
เดี๋ยวมรึงเจอกู ใครใช้ให้มันเสือกมาแย้งมาม่าผมไปกินละ
ผมอุตส่าห์ลืมเรื่องมันไปแล้วนะ
ขอต่อยสักหมัดให้หายแค้นเรื่องมาม่ากับเรื่องที่มันต่อยผมหน่อยเหอะ
ผมคว้าคอเสื้อมันไว้ทันที ก่อนที่จะมันหนีผม
มันยังหันหน้าหนี้ ทั้งยังดิ้นไปมาอีก สงสัยกลัวเลือดขึ้นสมองครับ
“มรึง จะทำอะไรกู ปล่อยกูนะ!”มันดิ้นพ่านเลยครับ
แต่อย่าหวังว่าจะรอด ผมกดคอเสื้อมันแน่นมาก
คงเพราะมันกลัวเลือดมันเลยไม่กล้าสู้ผม
ได้แต่พยายามแกะมือผมออก มือมันสั่นมากเลยครับ
“ฮะฮะฮ่า อย่าหวัง มรึงผิดเองนะที่แย้งมาม่ากู แถมยังต่อยกูอีก อย่าอยู่เลยมรึง”
ว่าแล้วผมก็ง้างมือกำหมัดแน่น
เป่าลมฟูไปที่หมัดก่อนจะต่อยมัน
แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำตามความคิดนั้น แขนผมก็ถูกจับไว้เสียก่อน
ผมหันไปมองหน้าคนที่มันมาคว้าแขนผมไว้ ไอ้หน้าตี้ ผิวขาวนี่มันใครวะ
“มรึงจะทำไรเพื่อนกู?” มันถามเสียงเรียบๆ หน้านิ่งๆ
แต่กลับกดดันผมจนเหงื่อตกได้ ตามันขวางๆดูน่ากลัวครับ
“มรึงเป็นใครวะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกูกับมัน มรึงไม่เกี่ยว”
ผมตะคอกใส่หน้ามัน มันยิ่งกำมือผมแน่นขึ้น ผมเริ่มเจ็บแล้วครับ
“ทำไมกูจะไม่เกี่ยว ถ้ามรึงต่อยเพื่อนกู กูฆ่ามรึงแน่” เอี้ยเอ้ย
ผมกลัวมันจับใจเลยครับ เสียงทุ้มๆนิ่งๆกดดันโครตๆ
แถมตาเรียวๆนั่นจ้องมาทีเหมือนโดนมีดปลายแหลมจ่อคออยู่เลยครับ
ผมเลยจำใจปล่อยมือจากคอเสื้อไอ้ยักษ์
มันเห็นผมปล่อยมือมันถึงได้ปล่อยมือมันบ้าง
ผมสะบัดข้อมือไปมา เพราะมันเล่นบีบซะขึ้นรอยช้ำเลย
“พวกมรึงจำไว้ กูฝากไว้ก่อนเหอะ”
ผมถอยมาตั้งหลักห่างๆมันหน่อย แล้วชี้หน้าพวกมัน
“เออ มาเอาคืนไวๆแล้วกัน กูเบสอยู่ห้อง 7 มาหากูได้ทุกเมื่อ”
มันตอบเชิดหน้า ตาดุสุดๆ พร้อมทั้งทำท่าจะเดินมาหาผม
แล้วผมจะอยู่เหรอ ผมก็เดินหนีสิครับ ไม่สนไม่มองด้วย
เรื่องนี้ถึงหูเพื่อนกูแน่ พวกมรึงจำไว้เลย!!!
(รู้ตัวครับว่าสู้มันคนเดียวไหวที่ไหน เฮ้อ~)
ผมก็ไม่เจอมันอีกเลยครับ จนผ่านมาได้ 1 สัปดาห์พอดี
วันนี้ผมอยากกินมาม่าขึ้นมาอีกแล้ว ปกติทุกวันอังคารผมจะต้องกินมาม่าทุกครั้ง
ไม่ใช่เพราะชอบมากหรอกนะครับ
แค่ผมขี้เกียจไปกินที่โรงอาหารอ่ะ
วันอังคารคาบสุดท้ายของช่วงเช้าห้องผมเรียนวิชาพละครับ
แล้วโรงยิมก็ไกลจากโรงอาหารมากกกกกกก
อยากรู้จริงๆ ใครมันเป็นคนออกแบบวะ ถึงตั้งโรงยิมได้ห่างไกลขนาดนั้น
เพราะอยู่อีกฝากหนึ่งของโรงเรียนเลยครับ
สมมติเข้ามาจากทางหน้าโรงเรียน ฝั่งขวาลานอเนกประสงค์
สนามบอล ห้องพักครูส่วนโรงอาหารอยู่ฝั่งซ้าย
แล้วก็เป็นตึกเรียนหลายตึก แซมห้องสมุด ห้องพยาบาล
ร้านน้ำ ห้องน้ำ สวนหย่อมอีกหลายๆหย่อม
ส่วนด้านในสุดติดกับประตูหลังเป็นโรงยิมสนามบอลเล็ก
สนามบาส สนามแบต สระน้ำ ลานอเนกประสงค์2
ห่างกันขนาดนี้แหละครับ เพราะพื้นที่โรงเรียนผมกว้างมากกก
เวลาเรียนพละเสร็จก็ขี้เกียจเดินไปโรงอาหารอ่ะครับ
แต่น่าจะเป็นแค่ไม่กี่คนอ่ะครับ ก็มีผมกับเพื่อนอีก 3-4 คนที่อยู่คนละกลุ่ม
ส่วนคนอื่นๆ มันก็ไปกินที่โรงอาหารเป็นปกตินะครับ
“ไอ้กัส วันนี้แxกมาม่าอีกแล้วเหรอวะ?” ไอเขตเพื่อนผมตะโกนถาม
ตัวมันสูงยาวเข่าดีเป็นนักกีฬาบาส มันน่าจะสูง 187 ได้
หน้าตามันออกตี้ๆหน่อยครับ ตาชั้นเดียว ส่วนข้างๆมันก็มีไอ้นุกกับไอ้เต๋า
ไอ้สองคนนี้หล่อมากครับ แต่น้อยกว่าผมนะ 5555 (หลงตัวเอง)
สูงพอๆ กันครับ น่าจะ 175 ได้ ไอ้เตี้ยเอ้ย เอิ๊กๆ ก็มันเตี้ยกว่าผมอะ
“เออ กูขี้เกียจเดินไปโรงอาหาร เดี๋ยวก็ต้องเดินกลับมาที่ตึก 4 อีก ไปกลับมันไกลวะ”
ผมตะโกนตอบมันไป ตึกเรียน 4 มันอยู่ใกล้กับโรงยิมครับ
แล้วชั่วโมงพละก็เหนื่อยๆ ให้ไปกลับโรงอาหาร-ตึก4 โหย ไม่ไหวอ่ะครับ
ถ้าวันไหนเรียนพละไม่หนักผมก็ไปกินกับพวกมันอยู่นะครับ
พวกมันพยักหน้าแล้วก็เดินไปโรงอาหารทันที ส่วนผมเหรอ
เดินไปที่ซุ้มขายของใกล้ๆ ตึก 4 ที่เดิมที่ผมไปซื้อมาม่านั่นแหละครับ
“ป้าเอามาม่ารสต้มโคล้งถ้วยนึงครับ” ผมยื่นเงินจำนวนพอดีกับราคาของให้ป้าคนขาย
รอไม่นานมาม่าพร้อมน้ำร้อนในถ้วยก็มาเสิร์ฟ เอิ๊กๆ
ผมก็ถือมาม่ารสโปรดว่าจะไปนั่งกินใต้ตึกเรียนรอเพื่อนๆ
เพราะกะว่ากินเสร็จนั่งย่อย เหลือเวลาก็ไปเตะบอลก่อนขึ้นเรียน
แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นสิครับ!!!
ใครมันจะไปคิดว่าเกิดเหตุขึ้นกับมาม่าของผมอีก
แถมครั้งนี้เกิดด้วยความตั้งใจของไอ้เอี้ยนั่นด้วย
ก็คิดดูนะครับ ผมเดินถือถ้วยมาม่ามาดี อยู่ๆก็มีมือดีมาดึงมาม่าของผม
ผมก็งงนะ มาม่ากูหายไปไหน?
เงยหน้ามองไอ้ยักษ์ที่มาแย้งมาม่าผมไป แค้นๆ ก็มันสิครับ ไม่แย้งไปเปล่า
มันแย้งซ้อมในมือผมไปตักมาม่าขึ้นกินเฉยเลย
ผมได้แต่ยืนอึ้งดูมันกินมาม่าของผม รวดเดียวจนหมด
เหลือแต่น้ำซุปที่รู้เพราะมันยื่นถ้วยมาม่ามาคืนผม
“ไอ้เอี้ย!!! มาม่ากู!!! มรึง...มรึง....” ผมโยนถ้วยมาม่าทิ้งลงพื้นแล้วชี้หน้ามัน
โกรธครับโกรธ มาม่ากู สักคำก็ยังไม่ได้กินเลย
มรึงเป็นใครบังอาจนักผมคว้าไปที่คอเสื้อมัน
แต่มันเหลือบตามามองลง แล้วยิ้มเยาะใส่ ยิ่งโมโหเลยครับ
“มาม่ามรึง แต่เงินกู”
“ห๊ะ?” ผมขมวดคิ้วด้วยความงง เงินมรึงตรงไหนวะ
กูจำได้ว่ากูเป็นคนควักตังค์จ่ายนะ
“เอาเงินทอนกูมา” ไอ้ยักษ์ผลักผมออก แล้วทำท่ากระดิกมือขอ
“ไอ้ยักษ์กูจำไม่เคยได้ว่ากูไปเอาเงินมรึงมาตอนไหน
มาม่ากูก็ควักเงินกูซื้อ มรึงจะเอายังไงวะ” ผมหัวเสียสุดๆ
“มรึงเรียกกูไอ้ยักษ์เหรอ เดี๋ยวเหอะมรึง” มันชี้หน้าผมคาดโทษ
“มรึงนี่สมองปลาทองเหรอวะ ถึงจำไม่ได้ อาทิตย์ก่อนมรึงต่อยกู แล้วขโมยเงินกูไป 20 บาท”
“ไอ้เอี้ย ใครบอกมรึงว่ากูขโมย นั่นค่ามาม่ากูที่มรึงมาชนกูแล้วหก ส่วนที่เหลือค่าที่กูแบกมรึงไปส่งห้องพยาบาลเว้ย”
“มรึงต่อยกู มรึงเอาเงินกูไป มรึงคิดว่ากูจะยอมมรึงเหรอ แล้วกูก็บอกแล้วว่าที่มันหกไม่ใช่เพราะกู!”
ผมเริ่มหงุดหงิดละ ขอต่อยหน้าคนหน่อยเหอะ
ว่าแล้วผมก็ออกหมัดใส่มันทันที
แต่มันดันหลบได้แล้วคว้าแขนผมไว้
“คราวก่อนกูเผลอ แต่คราวนี้มรึงอย่าหวังว่าจะทำไรกูได้”
พูดจบมันก็ต่อยผมคืนมาหมัด ทำเอาผมเซถอยไปด้านหลัง
เจ็บมุมปาก เหมือนเลือดจะไหลด้วย ผมจับไปที่มุมปาก
เลือดผมไหลจริงๆด้วย หมัดไอ้ยักษ์หนักชิบหาย
“มรึง!” ผมเงยหน้าจะต่อยมันคืน แต่ก็ต้องชะงัก
เพราะเห็นหน้ามันซีดมากเลยครับ แถมรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที
“มรึงต่อยกูแล้วมาทำท่ากลัวไรวะ?” ผมถามมัน เพราะเห็นท่าทางมันกลัวๆ แปลกๆ
“กูไม่ได้กลัวมึง!” มันตอบ ทั้งที่ไม่ยอมหันมามอง
“มรึงว่ามรึงไม่กลัวกูทำไมมรึงต้องหลบหน้ากูด้วยวะ”
ผมแสยะยิ้ม ผมว่าผมรู้สาเหตุแล้วครับว่าทำไม
ผมก้าวสามขุมเข้าไปหามันช้า พร้อมทั้งเชิดหน้าใส่มัน
มันเหลือบตามามองแล้วรีบหันกลับไปมองอะไรของมันก็ไม่รู้
ผมก้าวไปข้างหน้า มันถอยหลังหนีผม
หึหึ ไอ้เอี้ยยักษ์ กูรู้นะว่ามรึงอ่ะ
กลัวเลือด!!!
วะฮะฮะฮะฮ่า!!!!
“มรึงกลัวเลือดเหรอวะ? เสือกใจกล้ามาต่อยกู สุดท้ายเห็นเลือดแล้วกลัวสิมรึง แม่ง ตุ๊ดวะ”
ได้ทีขี่แพะไล่เลยผม เอิ๊กๆ
“สัด! กูไม่ได้ตุ๊ดเว้ย กูไม่ได้กลัวเลือดด้วย”
ไอ้ตอนท้ายมันพูดเสียงอ่อยๆ นึกว่าแน่ ถุย!
เดี๋ยวมรึงเจอกู ใครใช้ให้มันเสือกมาแย้งมาม่าผมไปกินละ
ผมอุตส่าห์ลืมเรื่องมันไปแล้วนะ
ขอต่อยสักหมัดให้หายแค้นเรื่องมาม่ากับเรื่องที่มันต่อยผมหน่อยเหอะ
ผมคว้าคอเสื้อมันไว้ทันที ก่อนที่จะมันหนีผม
มันยังหันหน้าหนี้ ทั้งยังดิ้นไปมาอีก สงสัยกลัวเลือดขึ้นสมองครับ
“มรึง จะทำอะไรกู ปล่อยกูนะ!”มันดิ้นพ่านเลยครับ
แต่อย่าหวังว่าจะรอด ผมกดคอเสื้อมันแน่นมาก
คงเพราะมันกลัวเลือดมันเลยไม่กล้าสู้ผม
ได้แต่พยายามแกะมือผมออก มือมันสั่นมากเลยครับ
“ฮะฮะฮ่า อย่าหวัง มรึงผิดเองนะที่แย้งมาม่ากู แถมยังต่อยกูอีก อย่าอยู่เลยมรึง”
ว่าแล้วผมก็ง้างมือกำหมัดแน่น
เป่าลมฟูไปที่หมัดก่อนจะต่อยมัน
แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำตามความคิดนั้น แขนผมก็ถูกจับไว้เสียก่อน
ผมหันไปมองหน้าคนที่มันมาคว้าแขนผมไว้ ไอ้หน้าตี้ ผิวขาวนี่มันใครวะ
“มรึงจะทำไรเพื่อนกู?” มันถามเสียงเรียบๆ หน้านิ่งๆ
แต่กลับกดดันผมจนเหงื่อตกได้ ตามันขวางๆดูน่ากลัวครับ
“มรึงเป็นใครวะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกูกับมัน มรึงไม่เกี่ยว”
ผมตะคอกใส่หน้ามัน มันยิ่งกำมือผมแน่นขึ้น ผมเริ่มเจ็บแล้วครับ
“ทำไมกูจะไม่เกี่ยว ถ้ามรึงต่อยเพื่อนกู กูฆ่ามรึงแน่” เอี้ยเอ้ย
ผมกลัวมันจับใจเลยครับ เสียงทุ้มๆนิ่งๆกดดันโครตๆ
แถมตาเรียวๆนั่นจ้องมาทีเหมือนโดนมีดปลายแหลมจ่อคออยู่เลยครับ
ผมเลยจำใจปล่อยมือจากคอเสื้อไอ้ยักษ์
มันเห็นผมปล่อยมือมันถึงได้ปล่อยมือมันบ้าง
ผมสะบัดข้อมือไปมา เพราะมันเล่นบีบซะขึ้นรอยช้ำเลย
“พวกมรึงจำไว้ กูฝากไว้ก่อนเหอะ”
ผมถอยมาตั้งหลักห่างๆมันหน่อย แล้วชี้หน้าพวกมัน
“เออ มาเอาคืนไวๆแล้วกัน กูเบสอยู่ห้อง 7 มาหากูได้ทุกเมื่อ”
มันตอบเชิดหน้า ตาดุสุดๆ พร้อมทั้งทำท่าจะเดินมาหาผม
แล้วผมจะอยู่เหรอ ผมก็เดินหนีสิครับ ไม่สนไม่มองด้วย
เรื่องนี้ถึงหูเพื่อนกูแน่ พวกมรึงจำไว้เลย!!!
(รู้ตัวครับว่าสู้มันคนเดียวไหวที่ไหน เฮ้อ~)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น