ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มวายที่รัก (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #5 : เลิกกันซะ!

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 58


     

                เสียงมือถือที่แผดเสียงดังลั่น ผมที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำรีบวิ่งมารับเกือบจะไม่ทัน

     

                “ฮัลโหล” ผมรับสายรีบๆ เลยไม่ได้ดูว่าเป็นใครโทรมา

     

                [‘ไอ้แมช! มึงคบกับไอ้สัดกิตแล้วเหรอวะ!?’] แทบจะดึงมือถือออกจากหูไม่ทัน เสียงไอ้กันดังทะลุปรอทแตก อะไรของมันเนี่ย ว่าแต่ทำไมมันรู้เรื่องเร็วงี้

     

                “เฮ้ย! มึงรู้ได้ไงวะ?” ผมถาม ก็เพิ่งตกลงคบกับกิตวันนี้เองอ่ะ

     

                [‘ก็ไอ้เหี้ยนั่นมันโทรมาเยาะเย้ยกูน่ะสิ มึงใช้ส้นติ่งคิดไงวะถึงได้ตกลงคบกันมันน่ะ!? มึงมันโง่จริงๆ ไม่รู้อะไรเลยไอ้ควายยย’] โห ด่าเป็นชุด

     

                “ไอ้เหี้ยกัน มึงด่ากูเอาก่ากูเอา แต่ไม่เคยมีเหตุผลให้กูหรอกสัดนี่ ถ้าจะโทรมาเพื่อด่ากูนะมึงวางสายไปเลยดีกว่า”

     

                [‘ตู๊ด..ตู๊ด..’] เชี่ย!! แม่งเล่นวางสายจริงๆ ครับ จะมาโมโหอะไรผมก็ไม่รู้ล่ะ แต่ผมโกรธมันแล้ว งอนมัน อะไรของมันก็ไม่รู้ แค่ผมกับกิตตกลงคบกันมันถึงต้องโทรมาด่ามาว่าผมงี้เลยเหรอ แม่ง! ไอ้เพื่อนเลว น้อยใจเว้ย!!

     

                หงุดหงิดแล้วไม่อยากทำอะไร นอนเลยละกัน แง่ง

     

     

     

                แอ๊ดดด

     

    งื้มๆ เสียงประตูเปิด ใครเปิดเข้ามากัน แต่ลืมตาไม่ขึ้นง่า ง่วงนอนจัง ถ้าเป็นโจรก็เอาไปเหอะ อย่าเอาแต่การ์ตูนวายของผมก็พอ แง่มๆ แจบๆ

     

                “ไอ้ลูกหมาหลับเร็วเชียวมึงพึ่งจะสามทุ่มเอง” เสียงคุ้นๆ หูดังขึ้นรบกวนสมาธิในการนอนของผมจริงๆ เลยพลิกหนีมันซะเลย แต่มันก็ยังตามมาราวีไม่เลิก ลูบหัวอยู่ได้ แต่ก็เริ่มเคลิ้มๆ ละ ลูบต่อไปนะอย่าหยุด สบายดี

     

                “หึหึ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะมึง เมื่อไหร่มึงจะเลิกโง่ซะทีวะ ทำให้กูวุ่นวายใจอยู่ได้ กูไม่ชอบเลยที่มึงตกลงเป็นแฟนกับไอ้ห่านั่น มึงมันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ ว่ะ กูจะทำยังไงกับมึงดีเนี่ย”

     

                แง่ม ลูบหัวเฉยๆ ไม่บ่นงุ้งงิ้งได้ไหมเนี่ย คนจะหลับจะนอน ครอกกกก....

     

     

     

    ตึง ตึง ตึง!! กิจวัตรประจำวันกับเสียงเคาะของยัยเมมาแล้ว

     

    “พี่แมช!! ตื่นได้แล้วน๊าาา เมไปเรียนก่อนนะพี่สายแล้วๆ” ว่าแล้วก็ได้ยินเสียงมันวิ่งลงบ้านไป ผมลืมตาขึ้นช้าๆ บิดขี้เกียจแต่กับรู้สึกติดกับอะไรบางอย่าง พอมองไปที่เอวก็เจอกับแขนคน... หือ.. แขนคน!?

     

    ผมเลิกผ้าห่มขึ้นมองตามแขนที่พาดเอวผมไว้ จนเห็นว่าคนที่นอนข้างๆ กันเป็นไอ้กัน ที่ยังหลับนิ่งลืมตาขาวข้างหนึ่ง

     

    “อ้าว ไอ้กันมานอนนี่ได้ไงวะ?” ผมขยี้ตามองมัน ยังรู้สึกมึนๆ งงๆ อยู่กับอาการในยามเช้า ที่ขี้เกียจตื่นจริงๆ เห็นหน้ามันนอนแล้วอยากแกล้ง ดูมันดิครับ คนบ้าอะไรนอนลืมตาข้างเดียว โครตน่ากลัวเลย นี่ถ้าไม่ชินคงได้ตกใจอ่ะ

     

    ผมใช้เท้าสะกิดมันเบาๆ ฮะฮะฮ่า

     

                “เฮ้ย ตื่น! ไอ้กันตื่น!” มันกลิ้งหลบเท้าผมก่อนจะตกที่นอนดังตุบ! ผมชะโงกหน้าไปดู

     

                “แม่ง เจ็บเหี้ยๆ” มันบ่นลูบหัวไปด้วย สงสัยหัวกระแทกแน่เลย หวายๆ กูไม่ผิดนะมึงกลิ้งลงไปเองเหอะ

     

                “ตื่นได้แล้ว เจ็ดโมงครึ่งแล้วมึง”

     

                “วันนี้วันอาทิตย์เหอะสาด” ว่าย้อนแล้วปีนขึ้นเตียงมานอนต่อ

     

                “วันอาทิตย์แต่กูมีเรียนพิเศษตอนแปดโมงเหอะ”

     

                “อืมมม โดดสักวันดิ” มันว่าแล้วโอบเอวผม เอาหน้ามาซุกหน้าท้องผม ทำเอาผมต้องล้มตัวลงนอนไปอีกรอบ

     

                “ไม่ได้ ปล่อยกูเลยนะไอ้กัน”

     

                “ไม่เอา กูง่วงงง มึงยอมเป็นหมอนให้กูซะโดยดี นะนะนะ” ไม่ว่าเปล่า มันเลื่อนตัวขึ้นมากอดผมแน่น แถมยังเอาขามาก่ายล็อคตัวผมไว้ไม่ให้ดิ้นหนีอีก อะไรจะขี้เซาขนาดนี้วะเนี่ย

     

                “เฮ้อออ เดี๋ยวได้โดนหม่อมแม่ด่าหูชาแน่กู” ได้แต่บ่นแล้วยอมนอนให้มันกอดต่อ อีกสัก 5 นาทีค่อยลุกก็ได้วะ

     

                แต่ที่ไหนได้ดันหลับไปพร้อมมันจนเกือบเที่ยงถึงได้ตื่น ฮือๆ โดดเรียนจนได้ ค่าเรียนพิเศษยิ่งแพงๆ อยู่ ถ้าเด็จแม่รู้มีหวังหัวหลุดจากบ่าแหงตู

     

                ด้วยความโมโหไม่รู้จะไปลงที่ใครเลยถีบไอ้กันตกเตียงซะเลย แง่ง!

     

                “โอ้ย! ไอ้เหี้ยแมช!” มันตะโกนลั่น แต่ผมไม่ยอม จ้องตามันเขม็ง

     

                “เป็นไรของมึงวะ?”

     

                “เพราะมึงเลย ทำให้กูโดดเรียนพิเศษเลย”

     

                “แค่นี้? เรื่องแค่นี้มึงถึงกับต้องถีบกูตกเตียงเลยเหรอวะ?”

     

                “แค่นี้บ้าไรละ! มึงมาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะแม่ง!”

     

                “นี่โกรธจริงเหรอวะ เรื่องเมื่อวานยังไม่เคลียนะมึง” มันชี้หน้าผม ทำเอาสะอึกที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องเฉยเลย

     

                “เรื่องไรวะ?”

     

                “หึ เรื่องอะไร? ถามมาได้ ก็เรื่องที่มึงคบกับไอ้เหี้ยนั่นไง” มันแสยะยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จ้องหน้าผมอย่างโกรธๆ แววตาของมันวาวโรจน์จนผมนึกกลัว

     

                “มันเรื่องของกูกับกิต”

     

                “เรื่องของมึงกับมัน?” มันทวนคำ ผมพยักหน้ารัว แล้อยู่ๆ ไอ้กันก็หัวเราะขึ้นจนผมตกใจ

     

                “...” ผมจ้องหน้ามันตอบ สายตาที่มันมองมาไม่เหมือนเดิม ดูก็รู้ว่ากำลังโกรธ และพยายามคุมอารมณ์ตัวเองขนาดไหน ก็มันเล่นกำมือแน่นจนเห็นเส้นเลือดเลยน่ะสิครับ

     

                “มึงมันโง่ถึงมองไม่เห็น ว่าจริงๆ แล้วไอ้กิตมันคิดอะไรกับมึงกันแน่”

     

                “...” ผมขมวดคิ้วมองมัน ทำไมมันต้องสงสัยในตัวกิตด้วย แล้วผมก็ไม่ได้โง่นะ สายตาที่กิตมองมา เค้าบอกว่ารักผม มันทำให้ผมรู้สึกดีและมีความสุข

     

                “มึงไม่เชื่อกู?”

     

                “ก็ไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์คำพูดมึงนี่”

     

                “หึ แต่ก่อนกูบอกอะไรมึงก็ฟังกูทุกอย่าง แต่เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งนะมึง!” มันเริ่มเสียงดังใส่ผม

     

                “ก็มึงไม่มีเหตุผลนี่หว่า!” คิดว่าผมจะยอมเหรอ ไม่มีทาง!

     

                มันพุ่งเข้ามาบีบคางผมจนเจ็บไปหมด อีกแล้วนะ อีกแล้ว ไอ้เหี้ยกัน!!

               

                “โอ้ย! ปล่อยกูนะ กูเจ็บ!”

     

                “เจ็บก็ดี เผื่อมึงจะคิดอะไรได้บ้าง ว่าที่กูเตือนมึงนี่กูหวังดีกับมึงแท้ๆ มึงมันก็ดันโง่เดินเข้าไปหากับดัก มึงไม่รู้อะไรเลยสักนิด มึงไม่เคยสังเกตุหรอก สายตาที่มันมองมึงน่ะ มันไม่ได้คิดดีกับมึงหรอกรู้ไว้ซะ!!” ไอ้กันมันผลักผมล้มตัวลงไปกับเตียงอีกครั้ง

     

                “แล้วมึงคิดว่าตัวเองดีกว่ามันเหรอวะ!? ดูที่มึงทำกับกูสิ ดีแต่ใช้กำลัง! มึงไม่เคยคิดถึงจิตใจกูบ้างเลย ว่ากูเองก็เจ็บเป็น กูก็เป้นคนเหมือนมึงนะเว้ย!!!” โมโห โมโหมากๆ ผมผลักอกมันออก แต่มันได้คร่อมตัวทับผม จับมือสองข้างที่ทุบอกมันกางผึงไว้เหนือหัว

     

                “ปล่อยกูนะไอ้เหี้ยกัน!!!”

     

                “ไม่! มึงไม่เคยรู้อะไรเลย ไม่เคยรู้เลยจริงๆ!!” มันตะโกนใส่หน้าผม แม้ผมจะพยายามดิ้นรนยังไงก็ไม่อาจพ้นเงื้อมมือมันได้ ยิ่งกดข้อมือผมแรงขึ้นเท่านั้น จนรู้สึกเจ็บไปหมด เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจที่ต้องโดนมันข่มเหงรังแกเอาๆ ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้ผิดอะไร มันมีเหตุผลอะไรของมันก็ไม่เคยบอก ดีแต่ใช้กำลังบังคับ แล้วจะให้ผมยอมมันได้ยังไง ผมสุดจะทนกับมันแล้ว

     

                “ร้องไห้? มึงนี่ดีแต่บีบน้ำตาว่ะ”

     

                “กูเกลียดมึง!”

     

                “หึ เกลียดเหรอ? แต่กูไม่เคยเกลียดมึงเลย มึงรู้ไหมว่ามึงทำให้กูเสียใจขนาดไหน?”

     

                “กูไม่รู้ ไม่สน! มึงมันเลวสิ้นดีไอ้กัน ดีแต่ใช้กำลังกับกู กูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย!!”

     

                “แต่กูไม่เคยคิดว่ามึงเป็นเพื่อน!!!”

     

                “...” หน้าผมชาวาบ สิ่งที่ไอ้กันตะโกนออกมาคือความในใจของมันงั้นเหรอ มันไม่ได้เห็นผมเป็นเพื่อนมันเลยสินะ หึ ผมคงไม่มีค่าอะไร เป็นแค่คนอื่นสำหรับมันสินะ... ทำเอาน้ำตาที่ไหลอยู่ยิ่งไหลขึ้นมากกว่าเดิม รู้สึกเจ็บใจกับสิ่งที่มันพูดมาก จนแทบทนไม่ไหว แค่มันบอกว่าไม่ได้คิดว่าผมเป็นเพื่อน มันกลับเจ็บปวดทรมานขนาดนี้เลยเหรอ?

     

                “กูไม่เคยคิดว่ามึงเป็นเพื่อนกูเลยสักครั้ง...” ยิ่งมันย้ำผมยิ่งเจ็บ ยิ่งเจ็บน้ำตาก็ยิ่งไหล เสียงสะอื้นไห้หลุดออกมาจากปากผมยากที่จะควบคุม

     

                “ฮือ... มึงปล่อยกูเลย...ฮึก..ฮือออ ถ้ามึงไม่ได้เห็นว่ากูเป็นเพื่อน มึงก็เลิกยุ่งกับกูสิวะ!! ฮือๆๆๆ”

     

                “...ไม่ กูไม่ยอมเลิกยุ่งกับมึงแน่ เพราะกู...กู....”

     

                “ปล่อยกูนะ!!! ฮือๆๆ ปล่อยสิโว้ย!!!!” ผมดิ้น ไม่ฟังมันอีกแล้ว ไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนก็ปล่อยกันไปสิวะ จะมายุ่งอะไรด้วย ปล่อยกูไปสิ!

     

                “...ไอ้แมช....” มันครางชื่อผมก่อนที่จะทำสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ที่ผมคิดว่าผมกับมันเป็นเพื่อนกันต้องพังลง

     

                ไอ้กันก้มลงมาจูบผม...

     

                ใช่ มันจูบผม... ผมได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

     

                “กูไม่เคยคิดว่ามึงเป็นเพื่อน เพราะกูรักมึง” มันผละออกมาพูด ก่อนจะก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง และอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันปล่อยมือไปตอนไหน และไม่รู้เลยว่าผมยกมือขึ้นโอบรอบคอมันตอนไหนเหมือนกัน แต่สิ่งที่รู้คือ ผมกลับหลับตารับจูบจากมันอย่างเต็มใจ เสียงหัวใจเต้นแรงจนเหมือนมันจะหลุดออกมาจากอกข้างซ้าย แล้วยังรู้สึกเหมือนไฟฟ้าแล่นเปรี๊ยะผ่านร่างไป...

     

                เราจูบกันเนิ่นนานจนปากผมบวมแดงฉึ่ง มันถึงได้หยุดจูบ ผมกับมันมองหน้ากันนิ่ง เป็นผมที่เริ่มพูดขึ้นก่อน

     

                “แต่กูตัดสินใจคบกับไอ้กิตไปแล้ว...” ผมว่าเสียงอ่อย

     

                “คบก็เลิกได้”

     

                “แต่กู...” มันยกนิ้วขึ้นมาปิดปากผมก่อน

     

                “มึงรู้ความในใจกูแล้ว และมึงเองก็ตอบรับมันแล้วด้วย”

     

                “กูไปตอบรับตอนไหน” ผมทำหน้ายู่ใส่

     

                “แล้วที่มึงจูบกูตอบนี่มึงขัดขืนกูเหรอไอ้แมช?” มันล้อ

     

                “ฮึ่ย!” ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดีเลยครับ ใช่ ผมโอนอ่อนไปกับมัน รู้สึกดีที่มันจูบผม และผมเองก็ชอบด้วย แต่ในใจลึกๆ ของผม... ผมรักใครกันแน่ ไอ้กันรึว่ากิต?

     

                “มึงเลิกคิดถึงมันซะที มันไม่ได้รักมึงจริงหรอก กูสิที่รักมึง รักมานาแล้วด้วย”

     

                “...” ผมไม่ตอบ แต่ขยับตัวเข้าไปกอดมัน ซบหน้าลงกับอกกว้าง

     

                “กูสับสนว่ะ ทำไมมึงถึงบอกว่ามันไม่ได้รักกูจริงล่ะ?” ผมถาม ไอ้กันลูบหัวผมเบาๆ รู้สึกอบอุ่นหัวใจจังเลย

     

                “เฮ้อ... จริงๆ กูไม่อยากให้มึงรู้เลย กูกลัวว่ามึงจะเสียใจ”

     

                “ให้กูรู้ตอนนี้ดีกว่ารู้ที่หลังนะมึง” ผมว่า

     

                “ก็จริงของมึง...”

     

                “งั้นก็เล่ามาดิ กูอยากรู้เต็มแก่แล้วเนี่ย!”

     

                “ก็ได้ๆ อย่าทำปากยื่นปากยาวงี้ดิวะ กูกลัวจะอดใจไม่อยู่”

     

                “อะไร?”

     

                “อดใจไม่จูบมึงไง”

     

                “ไอ้บ้า...” ผมก้มหน้างุด อายมัน เขินนนนน

     

                “กูได้ยินมันพูดกับเพื่อนมัน พนันว่าถ้ามันจีบมึงติด มันจะได้เงินพนัน 500 บาท” ไอ้กันพูดขึ้นช้าๆ สิ่งที่มันบอกทำให้ผมรู้สึกชาวาบ นี่ผมเป็นได้แค่ของพนันงั้นเหรอ นี่เรื่องจริงเหรอ?... รู้สึกแย่และเจ็บใจเหลือเกิน ผมเชื่อสิ่งที่ไอ้กันพูดได้ใช่ไหม?

     

                “ไม่ต้องร้องแล้ว ป่านนี้มันคงได้เงินพนันไปแล้ว พรุ่งนี้มันคงไม่มาหามึงอีกแล้ว” ยิ่งกันพูดผมยิ่งรู้สึกเจ็บ

     

                “ฮึก... กูเสียใจว่ะ มันเอากูไปพนันจริงเหรอวะ?”

     

                “เฮ้ออออ ไม่ต้องคิดแล้ว”

     

                “กูกลัว มันจะเอาเรื่องของกูไปล้อแน่เลย”

     

                “ไม่มีใครทำร้ายมึงได้หรอก รู้ไว้ซะ กูนี่แหละจะปกป้องมึงเอง” ไอ้กันโอบกอดผมแน่น ลูบหลังให้ด้วย แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี ใจนึงก็อยากถามกิตเหมือนกันว่ามันทำอย่างที่กันว่าจริงไหม เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง ผมที่เผลอให้ใจมันไปก็คงโง่มากสินะ

     

                “กัน... กูจะโดนล้อไหมวะ?”

     

                “พอเลยไอ้ลูกหมานี่ ถ้าใครกล้าล้อมึง กูจะถีบยอดหน้ามันให้”

     

                “อืม..”

     

                “มึงรู้ไหม กูอุตส่าห์ต่อยกับมันไปรอบแล้วนึกว่ามันจะยอมแพ้แล้วซะอีก ตอนเห็นมันเดินตามมึงไปห้องชมรม กูอยากจะกระชากมันไว้ แต่กูก็ไม่ได้ทำ กูอยากรู้ว่ามึงจะทำยังไงถ้ามันบอกว่ารักมึง ไม่คิดเลยว่ามึงจะยอมมันง่ายๆ”

               

                “ฮึ่ย! ก็ใครจะไปรู้ล่ะ อีกอย่างเจอคนหล่อรุกขนาดนั้น ช่วยไม่ได้นี่หว่า”

     

                “เฮอะ! ถึงหล่อแต่นิสัยแย่ก็ไม่ไหวหรอกเว้ย สู้กูก็ไม่ได้ ทั้งหล่อทั้งนิสัยดี”

     

                “นิสัยดีกะผีสิ มึงมันตัวร้ายชัดๆ”

     

                “ร้ายแล้วรักกูเปล่าวะ?” มันถามล้อๆ

     

                “ฮึ่ย! ไม่รู้เว้ย!” ผมหมั่นไส้มาก เลยทุบมันไปที

     

                “ฮะฮะฮ่าาา” หัวเราะๆ แง่ง อย่าให้กูรู้จุดอ่อนมึงนะ จะเอามาล้อมังให้หงอเลยคอยดู ชิๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×