ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    7 วันขอเปลี่ยนใจนายหมาบ้า (จบแล้ว) [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #10 : คำตอบสุดท้าย

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 57



                หลังจากวันนั้นที่ผมสารภาพรักก็ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้วครับ ผมพยายามตามตื้อคอยเทคแคร์อาร์ทมาโดยตลอด เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมตกปากรับคำขอเป็นแฟนของผมสักที แต่ผมรู้สึกหน่อยๆนะ ว่าเค้าต้องตกหลุมรักผมแล้วแน่ๆ ไม่งั้นจะยอมให้ผมจูบแต่โดยดีมาตลอดทั้งเดือนได้ยังไงล่ะเนอะ แต่ความรักย่อมมีอุปสรรค จากนี้ไป 15 วัน ผมจะไม่อยู่ไทย เพราะต้องเดินทางไปติดต่องานที่ต่างประเทศ จากที่เคยเห็นหน้ากันทุกวัน อยู่ๆจะไม่ได้เจอกันเลยตั้งหลายสองสัปดาห์ ผมล่ะอดเป็นห่วงอาร์ทไม่ได้ว่าเขาจะอยู่อย่างไร จะกินข้าวครบทุกมื้อไหม ห้องหับจะทำความสะอาดบ้างรึเปล่า เวลาที่อาร์ทมุทำงานจะลืมวันลืมคืน ข้าวปลาไม่ยอมกิน น้ำท่าไม่ยอมอาบ ดื่มแต่เครื่องดื่มชูกำลัง ถ้าไม่มีผมสักคนสุขภาพของอาร์ทได้ย่ำแย่ลงกว่านี้ชัวร์ครับ! ยิ่งคิดยิ่งเป็นห่วงจริงๆ ครับ


                "อาร์ทครับ" ผมเอ่ยเรียกคนข้างๆ ที่เอาแต่ทำงานหน้าดำคร่ำเคร่งไม่สนใจผมเลย ผมมาหาเค้าตั้งแต่เช้า ทำนู้นทำนี้ให้ ซื้อข้าวให้กิน เค้าพักกินข้าวแปบก็หันกลับไปทำงานต่อ จนตอนนี้ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อวานได้อาบน้ำบ้างรึยัง

                "หืม?"

                "วันนี้อาบน้ำยังครับ?"

                "อาบแล้วเมื่อเช้า....มั้ง" มีมั้งด้วยแปลว่ายังไม่อาบชัวร์

                "ผมว่าพักสายตาแล้วไปอาบน้ำให้สบายๆ แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อดีกว่านะครับ ดูสิ เริ่มมีกลิ่นตัวแล้ว" ผมเข้าไปดมใกล้ๆ ซอกคออาร์ท แอบมีกลิ่นเปรี้ยวแล้วนะครับนี่ อ่า.. กลิ่นอาร์ท อาร์ทสะดุ้งดันหน้าผมออกห่าง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้แล้วเข้าห้องน้ำไป ไม่นานก็ออกมา .... เร็วมากครับ....

                "อาบน้ำยังครับ?" ผมถามย้ำ

                "อาบแล้ว"

                "อาบหรือเดินผ่านน้ำครับ ไมเร็วอย่างนี้" อาร์ทส่งเสียงชิอย่างไม่ค่อยพอใจก่อนจะกลับเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ ถึงจะทำตัวง้องแง้งเวลาผมจู้จี้แต่เค้าก็ยอมทำตามแต่โดยดี น่ารักจริงๆ เลย คราวนี้เข้าไปสัก 10 นาทีได้ ผมได้ถึงออกมา

                "หลีกดิ จะทำงาน" อาร์ทเตะขาผมเบาๆ ผมยังเปียกอยู่เลยไม่ยอมเช็ดให้แห้งอีกแล้ว ผมหลบให้อาร์ทมานั่งทำงานต่อ ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดผมที่ปาดบ่าอาร์ทเอามาเช็ดผมให้

                "อาร์ทครับ"

                "ว่า?"

                "พรุ่งนี้ผมต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ 15 วันนะครับ ไม่ได้เจอกันตั้งนานจะเหงาไหมอ่ะครับ?" อาร์ทหันขวับมาจ้องหน้าผม ทำสายตาเชิงคำถาม

                "ทำไมต้องเหงา? ว่าแต่ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้?" แอบน้อยใจนิดๆนะ ไม่เหงาบ้างเลยเหรอ

                "ผมก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้ตอนเย็น เรื่องเร่งด่วนมากเลยต้องรีบบินไปพรุ่งนี้เลย"

                "อืมๆ ก็ไปดิ อย่าลืมของฝากละกัน" ผมหัวเราะรับ ก่อนก้มลงหอมแก้มอาร์ททีนึง เจ้าตัวไม่หลบเพียงเอียงหัวเล็กน้อยเหมือนตกใจ ก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ

                "อาร์ทครับ"

                "อะไรอีก?"

                "พอผมกลับมา คราวนี้เป็นแฟนกับผมนะครับ" อาร์ทไม่ตอบอะไรมือยังคงทำงานต่อ แต่แก้มนี้แดงนิดๆ น่ารักน่าหยิกสุดๆ ผมก้มลงไปประทับจูบที่ริมฝีปากอาร์ท แลบลิ้นเลียและกัดริมฝีปากล่างเบาๆ อาร์ทเผยอปากให้ผมสอดลิ้นเข้าไปอย่างว่าง่าย เราจูบกันอยู่สักพักผมก็ผละออก ผมขยับตัวเอาขาข้างขวาข้ามไปเกี่ยวตัวอาร์ทไว้  แล้วคว้าเขาเข้ามากอด ประทับจูบที่ซอกคอเบาๆ แล้วดูดทำรอยของผมทิ้งไว้ จนเป็นรอยจ้ำสีแดงช้ำ อาร์ทครางเล็กน้อย ผมยิ้มแล้วหอมไปที่แก้มทีนึง ไม่ทำต่อแล้วครับ เดี๋ยวจะหยุดไม่อยู่ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

                "หวังว่า 15 วันต่อจากนี้ อาร์ทน่าจะได้คำตอบนะครับ"

                "อืม..." อาร์ทพยักหน้าเล็กน้อย ผมยังคงสวมกอดเค้าไว้แน่นอยู่อย่างนั้น สักพักถึงได้ปล่อยแขนยอมให้อาร์ททำงานต่อ....






    15 วันต่อมา ณ. สนามบินสุวรรณภูมิ

                ก่อนขึ้นเครื่องผมส่งข้อความถึงอาร์ท เที่ยวบินที่กลับ เวลาเครื่องลง สถานที่นัดเจอ แต่ว่า...... คนที่ผมพบกลับเป็นคุณเจนนี่ แล้วอาร์ทล่ะ? ไม่มารับผมเหรอ? ผมเดินไปหาคุณเจนนี่ที่กำลังโบกมือให้ผมอยู่

                "อาร์ทล่ะครับ?"

                "แหม เจอหน้ากันก็ถามถึงอาร์ทก่อนเลยนะคะ" คุณเจนนี่พูดยิ้มๆ

                "อาร์ทให้เจนนี่มารับคุณชาร์ลค่ะ" ผมชักสีหน้าทันที อะไรกัน? ไม่เจอ 15 วันเค้าไม่คิดถึงผมบ้างเลยเหรอ มีผมคนเดียวที่พอไม่ได้เจอก็คิดถึงเค้าจนไม่เป็นอันกินอันนอน

                "คุณชาร์ลอย่าน้อยใจไปเลยนะคะ ป่ะ ไปกับเจนนี่ แล้วเดี๋ยวคุณชาร์ลจะอารมณ์ดีชนิดที่ว่ายากจะหุบยิ้มเลยล่ะ อ่ะ อาจจะตัวลอยเท้าไม่ติดพื้นด้วยก็ได้นะคะ คิกคิก" คุณเจนนี่หัวเราะคิกคัก ถึงคุณเจนนี่จะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นอะไรเลย ทั้งเหนื่อยทั้งนอยครับ หงุดหงิดนิดๆ แต่ก็ตามคุณเจนนี่ไปแต่โดยดี

                คุณเจนนี่ขับรถพาผมมายังตึกบริษัทที่อาร์ททำงานอยู่ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาที่นี่? ตอนนี้ผมแอบหวังอะไรเล็กๆ เซอร์ไพรส์? แต่ถ้าไม่ใช่อย่างที่คิดล่ะ? คุณเจนนี่นำผมไปยังชั้น 2 ส่วนที่จัดแสดงผลงาน จากลิฟท์หากเดินไปทางซ้ายก็จะเป็นส่วนที่อาร์ทเคยพาผมเข้าไปเยี่ยมชม แต่คุณเจนนี่นำผมไปทางด้านขวา ส่วนจัดแสดงผลงานประมูลราคา เมื่อครั้งก่อนที่มาส่วนนี้ยังถูกปิดอยู่ เนื่องจากศิลปินรับเชิญ และศิลปินในเครือบริษัทกำลังเตรียมการจัดงานที่นี่ เลยไม่ได้เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมภายใน พอเดินเข้ามาในส่วนนี้จะถูกแบ่งเป็นห้องย่อยเข้าไปด้านใน มีทางเข้าและทางออกเดียว ประตูจะสลับฝั่งกันแต่ละห้อง ห้องที่ 1 ประตูด้านซ้าย เดินเข้าไปจะเจอประตูด้านขวาไปห้องที่ 2 แบบนี้เรื่อยจนเข้าไปด้านในสุดที่เป็นประตูตรงกลาง ประตูที่นี่ไม่ได้มีปานประตูสามารถเดินทะลุเข้ามาได้เลย  ขนาดประตูก็กว้างและสูงมาก เพื่อให้ขนย้ายงานแสดงเข้ามาได้สะดวก พวกเราเดินมาหยุดลงที่หน้าประตูห้องสุดท้ายนี้ซึ่งภายในมืดสนิท บนผนังข้างประตูมีชื่อผลงานติดเอาไว้


    - Answer from my heart - 
    ผลงานทุกชิ้นที่แสดงในห้องนี้ งดการประมูลราคา


                "คุณชาร์ลคะ จากนี้ตรงนี้ไป คุณชาร์ลต้องเข้าไปคนเดียวแล้วล่ะค่ะ" คุณเจนนี่ยิ้มส่ง แล้วผายมือไปทางประตูตรงหน้าผม หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้อ่านชื่อผลงาน ข้างในจะมีอะไรรออยู่ผมไม่รู้เลย แต่ตอนนี้ผมอยากจะรู้มากเสียแล้ว ผมหันไปยิ้มให้คุณเจนนี้ แล้วก้าวเข้าไปในห้องมืดตรงหน้าทันที

                พอผมก้าวเข้ามาแสงไฟก็ถูกเปิดขึ้น ผมหลับตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสักพัก ก่อนจะลืมตาขึ้นมา.......

                ...... ผมถึงกับพูดไม่ออก อ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ คุณรู้ไหมครับ ว่าตอนนี้ผมเป็นอย่างที่คุณเจนนี่ว่าไว้ทุกประการ รอยยิ้มกว้างปรากฏ ตัวเหมือนจะลอยจากพื้นได้ สิ่งที่ผมเห็นคือ.... อาร์ทที่ยืนหันข้างมองมาทางผม กับภาพสเก็ตรูปหน้าผมทั้ง 12 ภาพ ที่ถูกจัดวางบนผนังรอบห้องนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทุกภาพ และผลงานที่ตรึงตาผมมากที่สุด ที่อยู่บนผนังด้านหลังอาร์ท ผลงานขนาดกว้างและสูงประมาณ 150 เซนติเมตรได้ เป็นผลงานประติมากรรมที่ทำขึ้นจากเศษกระเบื้องหลากสีสรร ที่จัดเรียงเป็นรูปผู้ชายสองคนจับมือกัน ตรงกลางเป็นหัวใจขนาดใหญ่ และพื้นหลังทำจากทรายเม็ดสีชมพู สีแดง สีขาว ทั้งภาพออกมาเป็นโทนสีชมพูหวาน

                อาร์ทผายมือมาทางผม ผมสังเกตเห็นแหวนที่อยู่ที่นิ้วนางซ้ายของเขา แหวนที่ผมเคยให้เค้าไว้ แหวนวงที่ผมอยากเห็นเค้าสวมมากที่สุด ผมยิ้มน้ำตาซึมเดินเข้าไปหาเขา จับมือของเค้าไว้ แล้วโอบกอดคนตรงหน้า น้ำตาผมไหลด้วยความตื้นตันใจ ดีใจ ตื่นเต้น และรู้สึกขอบคุณ....

                "ฮะฮะ ทำไมหัวใจนายเต้นแรงแบบนี้ล่ะ" อาร์ทเอ่ยแซว

                "คุณก็เหมือนกัน" ผมก้มลงไปจูบเขาเบาๆ

                "ขอบคุณสำหรับของขวัญที่ดีที่สุดนี้" ผมเลื่อนมือขึ้นมาประคองหน้าเขาให้เงยขึ้นมาสบตากับผม อาร์ทยิ้มให้ผม

                "ใครบอกว่าเป็นของขวัญให้นายกัน" ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย

                "อยากได้ก็จ่ายมาสิ" อาร์ทยิ้มเจ้าเล่ห์

                "งั้นผมขอจ่ายด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของผม" ผมส่งยิ้มกลับไป

                "หึ หึ ขาย" อาร์ทตอบแล้วดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้งอย่างดูดดื่ม ผมกระชับแขนที่โอบเอวเค้าเข้ามา เราจูบแลกเปลี่ยนลิ้นกันอยู่สักพัก ก่อนจะผละออกมามองตากันและกัน

                "อาร์ทครับ" ผมเอ่ยเรียกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด

                "ว่าไง?"

                "นี่ถือว่าผมกับคุณเป็นแฟนกันแล้วนะครับ" อาร์ทหัวเราะหึ แล้วพยักหน้ารับ

                "คุณรู้ไหม ว่าคุณทำให้ผมตกหลุมรักคุณอีกครั้ง"

                "ฮะฮะ นายนี่ตกหลุมรักง่ายจังนะ"

                "เฉพาะกันคุณเท่านั้นล่ะครับ ที่ทำให้ผมตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น จากนี้ผมคงไม่มีวันขึ้นจากหลุมที่ชื่อว่าอาร์ทได้ตลอดชีวิตแน่นอน" ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ อาร์ทเขินจนหน้าแดง แล้วก้มหน้าหลบสายตาผมด้วยความอาย

                "อ่ะ แฮ่ม!" พวกผมกันไปทางต้นเสียงที่กระแอมไอขึ้นมาขัดจังหวะ คุณเจนนี่ยืนพิงประตูอยู่ข้างๆคุณโก้ และข้างๆกันนั้นก็มีคุณวิลัยหัวหน้าของอาร์ทและเพื่อนร่วมงานของอาร์ทที่ผม รู้จักอีก 3 คน ทุกคนล้วนแล้วแต่มีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนหน้า

                "แหม จะหวานกันไปไหนจ้ะ พี่ล่ะอิจฉ๊า~ อิจฉาเจ้าอาร์ทซะจริงๆ ที่จับคนรูปหล่อแบบคุณชาร์ลได้ซะอยู่หมัดแบบเนี้ย" พี่วิลัยเอ่ยแซว พวกผมหัวเราะทันที

                "จริงๆ แล้ววันนี้เป็นวันเปิดแสดงผลงานวันแรกของบริษัท คุณชาร์ลรู้ไหมว่าผลงานประติมากรรมนูนต่ำด้านหลัง มีแต่คนอยากจะประมูลกันทั้งนั้นเลยนะคะ แต่ผลงานทุกชิ้นในห้องนี้ทำขึ้นเพื่อคุณชาร์ลโดยเฉพาะเท่านั้น พี่ล่ะน้อยใจจริงๆ เลย ถ้าเจ้าอาร์ทขยันทำผลงานที่ขายได้ให้ได้อย่างนี้บ้างก็คงจะดี" ผมหัวเราะขำๆ ส่วนอาร์ททำปากจู้ใส่พี่วิลัย ทั้งยังทำเสียงบู่ บู่ ใส่อีก จะน่ารักไปไหนครับ หลังจากนี้พวกเราคุยกันนิดหน่อย พี่วิลัยบอกว่ามีเลี้ยงฉลองงานเปิดแกลลอรี่ตอนเย็นค่ำต่อ แต่ผมกับอาร์ทขอตัวก่อน เพราะผมเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย ส่วนอาร์ทก็อยากจะพักผ่อนมากกว่า แต่จริงๆ แล้วสำหรับผมตอนนี้ผมอยากอยู่กับอาร์ทแค่สองคน อยากคุย อยากกอด อยากจูบ ผมว่าอาร์ทก็คงคิดเหมือนผม ผมขับรถที่ผมฝากอาร์ทไว้ตั้งแต่ก่อนไปต่างประเทศกลับไปคอนโดของผม อาร์ทบอกว่าวันนี้จะไปค้างที่คอนโดผม เพราะสภาพห้องของเขาตอนนี้ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ ผมก็พอเดาได้ 15 วันที่ไม่ได้เจอหน้ากัน เค้าที่เร่งเคลียงาน แล้วยังทำผลงานสารภาพรักผมอีก คงไม่มีเวลาทำความสะอาดห้องแน่



                ผมเอื่อมมือไปสัมผัสแก้มเค้าเบาๆ ส่วนตายังคงมองทางข้างหน้าอยู่

                "ไม่เจอกัน 15 วัน ผมคิดถึงคุณมาก ตอนที่ผมกลับมาถึง พอเห็นว่าคุณไม่ได้มารับผม คุณรู้ไหม.... ผมแอบรู้สึกเสียใจนะ"

                "ฮะ ฮะ...  แล้วตอนนี้ล่ะ ยังเสียใจอยู่อีกรึเปล่า?" ผมส่ายหน้า

                "ไม่ครับ ตอนนี้ผมดีใจมาก รู้สึกขอบคุณคุณมาก อยากจะรีบกลับบ้าน แล้วดึงคุณมาสวมกอด อยากจูบ อยากสัมผัส...."

                "บ้า" อาร์ทบ่นเสียงเบามาก ไม่หันไปมองผมก็รู้ว่า เค้าต้องอายหน้าแดงอยู่แน่นอน อยากจะรีบกลับไปให้ถึงคอนโดไวๆ ผมเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นทันที ไม่นานก็มาถึง...


                ผมดึงแขนอาร์ทให้ตามมา ของเขิงไม่สนทิ้งไว้หลังรถหมด หยิบมาแค่กุญแจรถและชายคนรัก พอถึงห้องปิดประตูลง ผมโยนกุญแจในมือทิ้งแล้วคว้าอาร์ทเข้ามาประกบจูบอย่างแรง อาร์ทร้องโอ้ย ตอนนี้ผมไม่อาจหยุดอารมณ์ปรารถนาของตัวเองลงได้แล้ว ผมกดจูบแนบแน่น สอดลิ้นเลียตามไรฟัน ขบลิ้นที่อาร์ทยื่นเข้ามาเบาๆ แล้วดูดเม้มลิ้นนั้น ผละออกแล้วกัดไปที่ริมฝีปากทั้งบนและล่างของเขา จูบครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผมพยายามอดกลั้นตัณหาไว้ ผมรุกจูบรุนแรงจนอาร์ทคราง แขนทั้งสองที่เกาะก่ายผมไว้เริ่มไม่มีแรง ผมพยุงร่างเขาไว้แล้วยกขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิงพาเข้าห้องนอนทันที (รู้ใช่ไหมครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น)

                หลังเสร็จกิจ ผมอุ้มอาร์ทเข้าห้องน้ำทำความสะอาดชำระร่างกาย อาร์ทบ่นอุบอิบพลางทุบที่หลังผมหลายรอบ ว่าผมแกล้งเค้า ใครบอกให้ทำตัวยั่วยวนผมขนาดนั้น อีกอย่างตัณหาที่กดเอาไว้ พอได้ทำขึ้นมามันก็หยุดไม่อยู่ เลยเผลอทำรุนแรงไปบ้าง ผมอุ้มสุดที่รักกลับไปยังเตียงคิงไซส์ เรากอดก่ายแนบชิดกัน ด้วยความเหนื่อยทำให้ผมและเค้าหลับจนข้ามวันกันเลยทีเดียว

                ผมกุมมือของอาร์ทไว้แน่น แหวนวงนั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขาแนบชิดที่อกของผม มือคู่นี้ที่ผมจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด ผมจะปกป้องความรักของเราเอาไว้จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ......





    ------- THE END -------

    (มีฉากโดนแบนนะคะ อ่านเต็มๆที่ไทยบอยส์เลิฟนะคะ ฮุฮุ ขออภัยด้วยค่ะ)


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×