ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gotta Be You : One direction Fan Fiction

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : Lunch's time

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 58


    Chapter 4 : Lunch's time


     

    “ทำไมเราต้องมากินกันที่โรงอาหารกลาง” เคธถามขึ้น หลังจากที่เธอเดินตามสองหนุ่มมาถึงที่นี่ ที่บ้านก็มีโรงอาหาร ทำไมต้องที่นี่?



    “เพราะงี้นะสาวน้อย เธออยู่ทรินิตี้ เราสองคนอยู่คิงส์ เราเข้าไปกินอาหารบ้านเธอไม่ได้ ฉะนั้นที่นี่แหละดีแล้ว” ลูอีอธิบาย โดยมีเซนพยักหน้าเป็นระยะ



    “ฉันไปซื้อข้าวก่อนนะ” เซนเดินนำไปยังแถวอาหาร



     

    นักศึกษาต้องหยิบถาดหลุม ต่อแถว ตักอาหารตามใจชอบเท่าที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ในแต่ละมื้อ และจ่ายตัง แต่ถ้าอยากกินอาหารตามสั่งหรือเมนูอื่นๆนิสิตสามารถเข้าไปใช้บริการร้านอาหาร หรูที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วมหาลัยได้เช่นกัน



     

    “ตอนนี้เธอคงไม่หนีแล้วล่ะ อ่ะเอาไป” ลูอีสวมกระเป๋าพาดไหล่คืนให้กับเคธพร้อมส่งยิ้มหวานปนกวนๆ ก่อนจะเดินไปต่อหลังเซน



    แหงล่ะหิวขนาดนี้ เดินกลับไปบ้านไม่ไหวหรอกนะ... 



    เคธหยิบไอโฟนของเธอส่งข้อความให้กับเพจ ว่าเธอมากินข้าวที่โรงอาหารกลาง



     

    หลังจากตักอาหารเรียบร้อยทั้งสามคนนั่งร่วมโต๊ะกินอาหารด้วยกัน โดยที่เคธนั่งกินอย่างเงียบๆ ลูอีผู้ที่นั่งตรงข้ามกับเคธพูดจ้อไปเรื่อย ส่วนเซนข้างๆลูอีนั้นทำท่าเหมือนจะกินไปหลับไป



     

    ไม่นานเพจก็มา พร้อมถือถาดอาหารมานั่งข้างๆกับเคธ



     

    “หวัดดี~ ฉันเพื่อนสนิทเคธจ้ะ เพจ มาร์ลีน” เคธกล่าวทักทายหนุ่มทั้งสองอย่างเป็นกันเอง



    “ฉันเซน มาลิค” 



    “ฉันลูอี ทอมลินสัน ยินดีที่ได้รู้..”



    “ฉันได้ยินอาจารย์เรียกว่าหลุยส์” เคธขัดด้วยความสงสัย คนอะไรชื่อเยอะเป็นบ้า



    “มันก็อ่านแบบนั้นได้”



    “เมื่อกี้เซนเรียกลูอิส” เคธถามต่อ



    “มันอ่านแบบนั้นก็ได้เหมือนกัน” 



    “ตกลงชื่ออะไรกันแน่”



    “ก็แล้วแต่เธอน้า~ ที่บ้านก็เรียกลูอีแหละ บ้างก็เรียกลูอิส แต่คนไม่รู้จักชอบเรียกหลุยส์ ก็ตามสะดวกเลยนะ แต่ฉันว่าฉันชื่อลูอีล่ะ**” ก็แหงอย่าว่าแต่เคธมึนเลย เพจกับเซนก็ทำหน้าอึนไปตามๆกัน



    “นั่นก็เรื่องของนายแล้วกัน” เคธตัดบท ก้มหน้าก้มตากินอาหารในถาดเบื้องหน้า แต่ก็ไม่ได้สงบหรอก ลูอีชวนทุกคนคุยราวกับว่าสนิทกันมาตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะเคธ..



    หมอนี่ไม่เห็นรึไงว่าฉันกำลังกินอยู่ จะถามอีกนานมั้ย...  


    เธอตอบเขาบ้าง ไม่ตอบบ้าง คำถามไหนไม่อยากตอบเธอก็จะเงียบ แต่ลูอีก็คิดคำถามใหม่มาถามเธอได้อยู่เรื่อยๆ

     

    ลูอีต้องจีบเคธแน่เลย.. เพจนึกในใจ เคธไม่คุ้นกับการที่มีผู้ชายมาคุยจ้อแบบนี้ เพราะถ้ามีใครเข้าหาเคธ ทำท่าจะจีบเธอจะหนีห่างไม่คุยทันที แต่.. ปกติเคธก็ไม่ค่อยคุยกับใครอยู่แล้วนี่ เพจก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนสนิทถึงยอมมากินข้าวกับเขา


    ดูแล้วเธอก็ไม่มีท่าทีจะสนใจในตัวลูอีเลยซักนิด หรือว่าเธอคิด?



     

    เงียบกันไปซักพัก ต่างคนต่างสนใจอาหารตรงหน้าตัวเอง จนกระทั่ง..



     

    “ขอนั่งด้วยคนสิ” เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้นข้างๆโต๊ะ 



     

    พวกผู้ชายอีกแล้ว



    เคธไม่สนใจและไม่อยากให้เขาและเพื่อนอีกคนที่เดินมาด้วยกันร่วมโต๊ะด้วย แค่นี้ก็เยอะไปแล้ว



    “เอาสิ โต๊ะตั้งกว้าง มาเลยๆ” เสียงเล็กสูงของลูอีเชื้อเชิญอีกสองหนุ่มผู้มาใหม่ 



    เมื่อมีคนตกลง ชายหนุ่มทั้งสองก็วางจานลงบนโต๊ะทันที หนุ่มผมบลอนด์ฉีกยิ้มกว้างนั่งลงที่เก้าอี้อีกข้างของเคธทันที ส่วนอีกหนึ่งหนุมนัยน์ตาสีเขียวนั่งข้างลูอี



    “นายสองคนชื่ออะไร” เซนถามขึ้น



    “ฉันไนออล ไนออลฮอแรน ส่วนนั่น แฮร์รี่ สไตล์ส” ไนออลแนะนำตัวเองและแฮร์รี่ให้กับทั้งโต๊ะ



    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันจะแนะนำให้เอง ฉันลูอี ข้างๆเนี่ยเซน นี่เพจ ส่วนสาวสวยคนนี้เคธ” คนถูกเรียกสาวสวยเงยหน้าขึ้นมามองลูอีแบบค้อนๆ


    นายเรียกฉันว่าอะไรนะ..


    ลูอีไม่ใส่ใจ แถมยังขำอีกเขารู้สึกสนุกเวลาได้แกล้งเธอ เพราะเธอนิ่งๆเงียบๆ แต่เขาก็พอจะรู้นะว่าเธอไม่พอใจ แต่หน้าเธอตลกดีนี่นา



     

    ทั้ง 5 คุยกันอย่างถูกคอสนุกสนาน ยกเว้นอยู่คนเดียว เคธ

     



    ประสาทจะเสีย กินเสร็จแล้วเมื่อไหร่จะได้กลับ ทำไมฉันต้องนั่งติดแหง็กกับเจ้าพวกนี้ด้วย ไอเด็กหัวทองนี่ก็หัวเราะทุกสิ่งที่ลูอีพูด ไม่ได้ขำสักหน่อย เมากัญชาหรือไงนะ ส่วนเพื่อนลูอีหน้าง่วงขนาดนั้น นายก็กลับไปนอนสิ สัปปะหงกอยู่ได้ ส่วนคนหัวหยิกเนี่ยจะพูดช้าไปไหน บางทีมันก็น่ารำคาญนะ... ไม่รู้เพจคุยด้วยได้ยังไง เคธบ่นในหัวเป็นชุด ถ้าไม่ติดเรื่องมารยาทล่ะก็ เธอลุกหนีไปตั้งแต่กินเสร็จแล้ว


     

    ถึงจะนั่งกันมาสักพักแล้วแต่เคธก็ยังจำชื่อใครไม่ได้ซักคน การจำชื่อคนนั้นยากที่สุดแล้ว ตั้งแต่เข้ามาที่นี่เธอจำได้แค่ลูอีคนเดียวเท่านั้น ไม่นับเพจเพื่อนสนิทไฮสคูล


     

    “เอ้ย ตายแล้วคุยเพลินเลย ฉันไปก่อนนะมีเรียน” เพจก้มมองนาฬิกาก็เห็นได้ว่าใกล้เวลาเข้าเรียนของเธอแล้ว เธอรีบลุกพรวดพราดออกไปทันที ยังไม่มีใครจะได้บอกลาเธอเลย 



    ยัยโก้ะนี่จริงๆเลยนะ


    เพื่อนสาวแอบอมยิ้ม อยู่คนเดียวแต่ก็ไม่วายมีหนุ่มข้างๆ มองเห็นได้นี่


     

    “ฉันก็มีเรียนไปก่อนนะ” แฮร์รี่ สไตส์ลค่อยๆลุกขึ้น เขาไม่ได้มีท่าทางรีบร้อนเหมือนเพจ เขาโบกมือให้เพื่อนทุกคนก่อนไปเรียน



    “สองคนนั้นเรียนคณะไรอะ” ลูอีถามขึ้น



    “มนุษย์ศาสตร์” สองเสียงตอบพร้อมกันในทันที



    “เพจเรียนมนุษย์ศาสตร์เหรอ” ลูอีถามย้ำ 



    “อืม..” เคธส่งเสียงในลำคอ แสดงอาการหงุดหงิด..


    ก็ได้ยินแล้วจะถามซ้ำทำไมนะ



    “แฮร์รี่ด้วยเหรอ” ลูอีเปลี่ยนความสนใจไปหาไนออลแทน



    “อื้อ แฮร์รี่เป็นเมทฉันน่ะ”


     

    “นายชื่ออะไรนะ” เคธถามขึ้น หนุ่มผมบลอนด์หันขวับมาหาเธอทันที ตกใจที่เธอชวนเขาคุย ตั้งแต่มานั่งเธอยังไม่ได้คุยอะไรเลย และ ตกใจที่เธอจำชื่อเขาไม่ได้ ทั้งๆที่ยังผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเลย ถ้าไม่รวมที่เขาทั้งคู่เจอกันมาตั้งหลายหนแล้วนะ..


    น้อยใจชะมัด


     

    “ไนออล ฮอแรน” แต่ไนออลก็ยังพยายามทำหน้ายิ้มแย้มให้เธอ



    “แล้วนาย..?”



    “เซน” เซนตอบสั้นๆ ทำท่าจะฟุบลงไปหลับที่โต๊ะอาหาร



    “อืมมมมม...” เคธส่งเสียงใช้ความคิด เด็กหัวยุ่งที่เรียนคณะเดียวกับเคธชื่อแฮร์รี่เหมือนตัวเอกให้หนังสือเล่มโปรดของเธอ เซนคือผู้ชายหน้าง่วง ส่วนถ้าผมบลอนด์ตาฟ้าชื่อว่าไนออล


     

    เคธกำลังจำพวกเขา... เพราะมีลางว่าจะได้เจอกันอีกบ่อยแน่ๆ


     

    “เฮ้แล้วฉันล่ะ ไม่ถามเหรอ” 



    “ไม่ นายชื่อลูอี ลูอิส หลุยส์ วิลเลี่ยม ทอมลินสัน” เจ้าของชื่อหัวเราะร่วน แต่ไนออลกลับนั่งหน้าหงอยทำไมไม่เห็นจำชื่อเขาเลยล่ะ...


     

    “เซน นายกลับไปนอนมั้ย” ไนออลทำชวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา โดยการมุ่งเป้าหมายไปยังเซน ที่คง..หลับคาโต๊ะไปแล้ว



    “หือออ ยังไม่หลับๆ” เซนสะลึมสะลือขึ้นมาตอบ



    “นายต้องนอนวันละกี่ชั่วโมงถึงจะพอเนี่ย” ลูอีบ่น



    “ไม่รู้เหมือนกัน งั้น.....ฉันกลับไปนอนก่อนละ” เซนยักไหล่ตอบแล้วลุกเดินกลับหอไปหน้าตาเฉย เหลือให้ลูอีและไนออลนั่งอยู่กับเคธ


     

    ไหนว่าไม่ง่วงไง...





     

    สองหนุ่มหนึ่งสาวนั่งคุยกันอย่างออกรส.. อันที่จริงแค่สองหนุ่มมากกว่า ไนออลและลูอีคุยกันราวกับเป็นเพื่อนรักมาสิบปี


     

    หมอนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันแหะ ตลกเป็นบ้า.. ไนออลคิดขณะที่เขากำลังขำกับมุขของลูอีอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ส่วนอีกหนึ่งสาวกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย

     

    ไนออลเส้นตื้นชะมัด เล่าอะไรก็ขำ แต่ไอเด็กนี่ก็น่ารักดีแหะ ฮ่าๆๆๆๆๆ และลูอีก็ไม่หยุดโปรยมุขให้ไนออลขำเลยซักนิด 


     

    ในที่สุด เคธก็สินใจลุกขึ้น...


    กลับไปที่ห้องดีกว่า ทำไมต้องมาติดแหงกกับพวกนี้ เล่นมุขตลกเห่ยๆอะไรกันก็ไม่รู้ ไม่ขำสักนิด


     

    “นี่เธอจะไปไหน” ลูอีถามขึ้นเสียงดัง



    “หอ” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ



    “ไม่ให้ไป” ลูอีลุกขึ้นจากฝั่งตรงข้าม มาบังเธอไว้ดันตัวเธอให้นั่งลงกับเก้าอี้ดังเดิม เขานั่งลงอีกข้างของเธอแทน 



    “นี่นาย!” เคธกัดฟันกรอด.. พร้อมลุกขึ้นจะกลับอีกครั้ง



    “จะรีบไปไหนเล่า โธ่” ลูอีดึงเธอให้นั่งลงอีกครั้ง แรงดึงทำให้เคธต้องนั่งลงบนเก้าอี้ อีกครั้ง



    “ฉัน-จะ-กลับ-ห้อง” เคธพูดเน้นทีละคำใส่หน้าลูอี คนฟังทำหน้าล้อเลียนแกล้งเป็นไม่ได้ยิน เธอจึงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง... ตั้งใจไวว่าคราวเนี้ยหนีพ้นชัวร์ เพราะเธอจะวิ่ง!



    3… 2…. 1…



    หมับ... ยังไม่ได้ทันก้าวพ้นขาก้าวอี้ มือหนาของลูอีก็คว้าข้อมือของเธอไว้เสียก่อน เธอหันไปมองค้อนเขาทันที ...



    “ปล่อย....”



    “ก็นั่งสิ” ลูอีส่งยิ้มหวานให้เคธ เธออยากจะต่อยหน้าเขาซักสองสามที แต่ก็นั่งลงโดยดี ลูอีไม่ยอมปล่อยมือของเธอทำให้เคธต้องถลึงตาใส่เขา



    “โออออเคคคคคค ปล่อยก็ด้ายยยยยยยย” ลูอีลากเสียงยานคาง เคธเก็บมือทั้งคู่ของตัวเองโดยการกอดอกเอาไว้



    ไนออลที่นั่งอีกฝั่ง ไม่ค่อยชอบใจที่ลูอีเพื่อนใหม่แกล้งเคธ แถมยังทำตัวสนิทสนมอีกตังหาก.. ถึงจะรู้สึกอิจฉาและหมั่นไส้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่ทำแบบนี้เคธก็ดูน่ารักดี เขายังแอบหัวเราะตามด้วยซ้ำ


     

    “นายขำอะไรมิทราบ..” เคธหันขวับไปหาเขาทันที 



    สงสัยหัวเราะดังไปหน่อยแหะเรา.. ไนออลยิ้มเจื่อนๆให้เธอ



    “ก็เธอตลก” ไนออลตอบ


     

    เห้อะ.. ลูอีนี่ก็กวนประสาทแกล้งอยู่ได้ ส่วนอิตานี่เอ่อ.. ชื่ออะไรนะ


    เคธนั่งนึกชื่อผู้ชายผมบลอนด์คนนี้ เรื่องการจำชื่อนี่มันยากสำหรับเธอจริงๆ


     

    “นาย..” เคธหันไปมองไนออลตรงๆ อย่างตั้งใจ เป็นครั้งแรกที่เธอพูดกับเขาโดยการมองหน้าตรงๆ ทำเอาชายหนุ่มหน้าขึ้นสีน้อยๆ



    “หือ” เมื่อนึกคำพูดไม่ออก ไนออลจึงได้แค่สงเสียงสั้นๆออกๆไป รอฟังอย่างตั้งใจว่าเธอจะพูดอะไร



    “นาย.. เอ่อ นาย.. นายชื่ออะไรเหรอ” เคธถามเสียงอ่อน รู้สึกแย่นิดๆ ที่เธอจำชื่อเขาไม่ได้ ทั้งๆที่เพิ่งคุยกันไปเมื่อตะกี้



    “.... ไนออล” ตาสีฟ้าหลุบต่ำลง เพิ่งบอกไปเมื่อกี้อีกรอบเธอก็จำไม่ได้เสียแล้ว ส่วนอีกหนุ่มก็ระเบิดหัวเราะออกมา



    “ความจำเธอปลาทองชะมัด มาเปลี่ยนเรื่องกัน ไนออลนายเรียนคณะอะไร” ลูอีแซวเคธเล็กๆ เธอไม่ได้สนใจแถมทำหน้าไม่พอใจอีกด้วย ลูอีจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา



    “บริหารธุรกิจ” ไนออลตอบยิ้มๆ 



    “เฮ้ เหมือนเราเลยเนอะเคธ เอ้อ เจ้าเซนก็ด้วยนะ”

     

     

    “ไฮ” เสียงสาวนิรนามเดินมาจากทางด้านหลังทั้งสามเอ่ยทักขึ้น



    “หวัดดี” ลูอีกับไนออลตอบและยิ้มทักทายให้สาวสวยผู้นั้น ส่วนเคธไม่สนใจ จึงไม่ได้หันไป



    “นี่เบอร์ฉันนะ โทรมาได้ตลอดเลยนะ” เมื่อได้ยินประโยคแปลกๆ อ่อยผู้ชายขนาดนั้น เคธจึงหันไปมองหน้าหล่อนตรงๆ ก็สวยดี.. แต่หล่อนต้องเข้าหาผู้ชายขนาดนั้นด้วยรึไง เธอมองไปที่ไนออลต่อ อยากรู้ว่าเขาจะทำยังไง



    “อ้อ แล้วคุยกันนะ” ไนออลตอบพร้อมรอยยิ้มน่ารักๆ แบบที่สาวๆทุกคนแทบละลายไปกองตรงหน้าเขาได้


     

    เหอะ.. ผู้ชายก็แบบนี้สินะ



    “โหย ไนออลนายโชคดีเป็นบ้า ผู้หญิงคนนั้นโคตรสวย” ลูอียกนิ้วโป้งให้ไนออลทั้งสองข้าง 



    “เบอร์โทรเต็มห้องฉันเลยเนี่ย นายเอาไปบ้างมะ” ไนออลชูกระดาษเบอร์โทร ที่แม่สาวคนเมื่อกี้จดให้ให้ลูอีดู หัวเราะคิกคักกันสนุกสนาน คุยกันข้ามหัวเคธไปมา

     



    “เอ้อ เคธ เบอร์เธอเบอร์อะไร ขอหน่อย” ชายหนุ่มทั้งสองเพิ่งระลึกได้ว่ามีสาวสวยนั่งคั่นพวกเขาอยู่ ลูอีจึงถามเคธขึ้นมา



    “เอาไปทำไม ทำไมฉันต้องให้” เป็นไปดังคาด


     

    “กะแล้วต้องตอบแบบนี้ ก็เอาไว้ถามการบ้านไรงี้ไงเล่า เรียนคณะเดียวกัน เผื่อฉันไม่สบาย ไม่ได้ไปเรียนจะถามเอาความรู้จากไหน ถ้าฉันตกไปจะทำยังไง ค่าเทอมก็ยิ่งแพงๆ”



    “โอเคพอ เอาไป” เคธตัดบทที่ลูอีชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อที่จะขอเบอร์โทรเธอ ก่อนที่มันจะยาวไปกว่านี้ ลูอีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดตามที่เธอพูดทันที รอบเดียวไม่มีทวน



    ส่วนไนออล เขาตั้งใจฟังและจำจนขึ้นใจ

    -------------------------------------

    Writer talk

    ตอนนี้เล่นกับชื่อของลูอีกันนิดนึงเนอะ ฮ่า ๆ 
    Louis อ่านได้หลายแบบนี่เนอะ เอาจริงๆ ออกเสียงลูอี เพราะออกเสียงแบบ UK 
    แต่ลูอิสจะเป็น US ซะส่วนมากค่ะ ส่วน หลุยส์นี่ก็อ่านได้นะ เหมือนชื่อกระเป๋า หลุยส์ วิทตองไรงี้ ;)


    มาลงให้อ่านกันอีกตอนแล้วเน้อ อิอิ
    หวังว่าจากนี่ไปจะได้มาลงบ่อยๆเนอะ อิอิ
    อยากให้มาบ่อยๆ ก็ต้องคอมเม้นกันเยอะๆนะคะ ;)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×