คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ดวงตาต้องคำสาปของซอลาเนียร์
บทที่ 10
ดวงตาต้องคำสาปของซอลาเนียร์
ซอลาเนียร์กับคุณท่านนั่งรถคันหรูมาถึงคฤหาสน์มาเควสลอนน่าที่เขาสร้างขึ้นเพื่ออยู่กับหญิงที่เขารักซึ่งก็คือแม่ของซอลาเนียร์และนฤพัฒ ลูกชายคนโตที่แสนภาคภูมิใจของพวกเขา ชายหนุ่มคนนั้นกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์สไตร์ตะวันตกที่ตั้งตระง่านกลางเมืองใหญ่กรุงเทพมหานครราวกับจะท้าทายผู้มาเยือน เขากำลังพูดคุยกับผู้จัดการบริษัทของคุณพ่อของเขา แต่พอเห็นเด็กสาวเดินเข้ามาก็เข้าไปทักทันที “น้องซอลคิดถึงจัง มาพี่กอดทีสิ คิดถึงจังเลย” เมื่อว่าที่นักธุรกิจพันล้านมาอยู่กับน้องสาวแก้วตาดวงใจกลับกลายเป็นพี่ชายแสนดีและกลับกลายนิสัยคล้ายเด็กไปเลย ใครจะเชื่อภาพนี้จึงทำให้ผู้จัดการของคุณพ่อถึงกับจ้องอย่างตกตะลึง
“โธ่ พี่พีคะ หนูฟื้นแล้วคะ ไม่เห็นต้องกอดแน่นขนาดนี้เลยนี้คะ” นฤพัฒผละจากน้องสาวและเก็กมาดคุณหนูผู้ดีไร้ที่ติอีกครั้งและหันกลับไปทำงานอย่างตั้งใจ
ซอลาเนียร์จำทางของบ้านเธอได้ ขึ้นบันไดตรงหน้าประตูห้องนั่งเล่นไปและเลี้ยวซ้ายห้องของเธออยู่ในสุด มืดที่สุด และตอนกลางคืนจะวังเวงที่สุดด้วย แต่เธอไม่เคยกลัวหรอก เพราะบ้านของเธอ และที่ของเธอไม่เคยมีประวัติเสีย เพราะฉะนั้นไม่เคยมีใครตายก็ไม่มีทางมีผีหรือสิ่งลี้ลับอะไรทั้งสิ้น
ประตูไม้สีอ่อนของห้องเธอ ทุกๆเช้าจะมีคนมาพรมน้ำหอมไว้หน้าห้อง เป็นกลิ่นที่เธอชอบที่สุด คนนั้นในตอนนี้คงลาออกไปแล้วเพราะในเมื่อเธอไม่อยู่ก็ไม่มีหน้าที่ที่จะให้คนๆนั้นทำอีกแล้วล่ะ พอเธอเปิดประตูสีน้ำตาลอ่อนลายดอกกุหลาบเข้าไป สภาพในห้องนั้นยังเป็นปกติเหมือนกับมีคนดูแลอย่างดีตลอดเวลา 3 ปีที่เธอนอนหลับไป ห้องสีม่วงอ่อนที่เธอชอบมาก ดวงตาเจ้ากรรมเหลือบมองเห็นเพื่อนรักที่ไม่มีตัวตนนั่งอยู่ปลายเตียง นั้นแหละดวงตาที่เธอไม่เคยต้องการ
บางครั้งการเห็นทุกอย่างก็ไม่ได้ดีเสมอไป เพราะการเห็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนหรือ ‘วิญญาณ’ มันไม่ทำให้ชีวิตของใครเป็นไปได้ด้วยดี บางครั้งซอลาเนียร์เคยคิดว่าถ้าเธอควักดวงตา 2 ดวงนี้ออกซะ คงจบสิ้นปัญหา แต่วันนั้นที่เธอพยายาม...
เธอกำลังจะเอามือของเธอควักดวงตาต้องคำสาปนั้นออกมา มือของเธอหยุดชะงักทั้งที่สมองเธอไม่ได้สั่งให้หยุด แว่วเสียงกระซิบดังขึ้นข้างๆหูของเธอว่า “อย่า...เลย...เรารักเธอ...เราสัญญา...จะ...คุ้มครอง...เธอ” เจ้าของเสียงนั้นรูปร่างเลือนรางกว่าที่ฉันเคยเห็น จับได้ว่าเขาเป็นเพียงชายคนหนึ่งเท่านั้น เขาบอกว่ารักเธอ เธอคิดว่าเขาคงเป็นคู่กรรมคู่เวรมาตั้งแต่ชาติปางก่อน นั้นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้รถที่เธอไปเที่ยวกับพวกพี่สาว 5 คน ตกเขาและทุกคนตายกันหมดยกเว้นเธอที่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นับแต่นั้นตอนที่วิญญาณของเธอกลับเข้าร่างอีกครั้งเธอพบว่ามีวิญญาณจำนวนหนึ่งลอยมาคุ้มกันเธอเป็นวงกลมราวกับไม่ให้เธอเป็นอันตราย เธอรู้ว่าพวกพี่ๆรักเธอมากเธอจึงได้แต่ภาวนาส่งบุญกุศลไปให้พวกพี่ๆได้ไปผุดไปเกิดสักที
การที่เธอถูกคุ้มครองทำให้ทุกสิ่งรอบข้างดูเหมือนของตาย ทำให้นิสัยของเธอเย็นชา จนกระทั่งวันนี้ที่เธอฟื้นขึ้นมายังคงเย็นชาเช่นเดิมและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เธอคิดว่าต่อให้โลกนี้ไม่เหลือใครเธอก็ยังอยู่ได้ เพราะเธอมีวิญญาณอยู่เป็นเพื่อนตั้ง 6 ดวงวิญญาณ พี่สาว 5 คน กับหนุ่มนิรนามที่เขาหายไปตั้งแต่เธอฟื้น เขาคงกลับไปเกิดแล้ว เธอก็ไม่ว่าอะไรเขาหรอก
โรงเรียน........................... 8.50 น. คาบHome room
นักเรียนชั้นประถม 6/3 ยังคงส่งเสียงดังยังไม่กลับเข้าที่เพราะคุณครูผู้ทำหน้าที่สอนคาบโฮมรูม หรือที่นักเรียนโรงเรียนนี้เรียนกันว่าคาบจริยะ ไม่ทันไร คุณครูวัยทองก็เดินเข้ามาในห้อง หัวหน้าห้องซึ่งก็คือเคียร์เองนั้นแหละ เคียร์บอกทำความเคารพเรียบร้อย “เอาล่ะ วันนี้มีเพื่อนใหม่มานะจ๊ะ” ซอลาเนียร์เดินเข้ามาหน้าห้องเรียน “สวัสดีคะ ซอลาเนียร์ มาเควสลอนน่าคะ เรียกสั้นๆว่าซอลก็ได้คะ” เสียงฮือฮาจากนักเรียนในห้องเรียน คงเป็นเพราะชื่อแปลกๆที่เธอมีนั้นเอง “วันนี้เขามาเรียนเป็นวันแรกยังไงก็ช่วยดูแลต้อนรับเพื่อนให้ดีด้วยล่ะ ส่วนที่นั่งเอาเป็น อ้อ พรนภาเธอนั่งคนเดียวข้างๆเธอคงยังว่างอยู่สินะ ซอลาเนียร์ไปนั่งข้างๆเขาล่ะกันนะ” ซอลาเนียร์ยิ้มแปลกๆให้กับพรนภาๆ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแต่ก็ยังสามารถยิ้มอย่างเป็นมิตรได้เมื่อเข้าใกล้เคียร์ “สวัสดีจ๊ะ เธอชื่ออะไรหรอ”
“เคียร์” บอกตามตรง ความรู้สึกที่ซอลาเนียร์มีต่อเพื่อนข้างๆคนนี้คือเขาคงเป็นคนที่ขี้อายและปากไม่ตรงกับใจพอสมควรเลย เพราะเขาแทบไม่พูดกับเธอเลยสักคำ คุณครูสอนไปก็ไม่พูดกับเธอเลยเอาแต่พูดกับเพื่อนข้างหน้าหรือไม่ก็ใครสักแต่ก็ไม่ใช่เธออยู่ดีนั้นแหละ เหมือนกับเขาโกรธเธอมาตั้งแต่ชาติปางก่อนอย่างนั้นแหละ จนกระทั่งจนถึงตอนพักเล็ก (20 นาที) “เฮ้ย เคียร์ ได้ยินว่าห้องแกมีสาวน้อยย้ายมากจากต่างประเทศหรอน่ารักป่าว” เด็กอายุเท่าๆกับเคียร์คนหนึ่งมีส่วนสูงที่มากพอๆกับเคียร์เข้ามาทัก พูดแล้วความจริงมันคือการกระโดดเข้ามากอดคอตั้งหากล่ะ “เอ่อ ขอโทษนะแก พอดีว่าฉันต้องไปส่งงานที่โต๊ะครูแป๊บนะ” พอพูดจบเคียร์ก็เดิน (วิ่ง) ด้วยความเร็วแสงออกจากห้องไปทันที “เอ๋ นี้ เธอเนี้ยไม่คุ้นหน้าเลยนะ ชื่ออะไรหรอ ฉันชื่อหญิง เธอนี้สวยดีนะ”
“เอ่อ ฉันชื่อซอลาเนียร์คะ เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่น่ะคะ”ซอลรู้สึกดีใจแปลกๆที่มีคนมาทักว่าสวยแต่ก็นะ เธอก็โดนชมบ่อยๆนี้จะแปลกอะไรล่ะ “จริงหรอ มิน่าละ อยากให้มาอยู่ห้อง 3 จัง อิจฉาเคียร์ชะมัดเลย”
“อิจฉาอะไรข้าพเจ้ามิทราบ” เคียร์ปรากฏตัวขึ้นหลังหญิงอย่างรวดเร็ว “โธ่ ยายนี้กลับมาเร็วชะมัดเลย มีของดีอยู่กับตัวยังไม่รู้อีก” เคียร์ทำหน้างงเหมือนไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกับซอล “ของดีอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงยิ้มแย้มอย่างเจ้าเล่ห์และเข้ามากระซิบกับเคียร์อย่างแผ่วเบาก่อนที่จะออกจากห้องไปว่า “เด็กคนนี้ ถ้าไม่เอาฉันขอนะ” ความรู้สึกของเคียร์เริ่มจะแปลกๆไป มันร้อนใจขึ้นมาเมื่อหญิงเข้ามาพูดแบบนี้ เมื่อมองไปยังซอลที่ทำหน้างงไม่หายแล้วถอนหายใจ คนแบบนี้ เขาจะไปร้อนใจแทนทำไมล่ะเนี้ย “เอ่อ คุณหญิงนี้ เขาอยู่ห้องไหนหรอคะ”
“เอ่อ ห้อง 6/5 มีเพื่อนอยู่แถวๆนั้นเยอะเลยสนิทกับหญิงไปด้วย”
“พักกลางวันนี้ช่วยพาฉันไปดูรอบๆโรงเรียนหน่อยได้มั้ยคะ”
“อื้อ เอาสิ แต่ขอเป็นตอนหลังเลิกเรียนได้หรือเปล่า เพราะว่าตอนพักเที่ยงเขาไม่ให้ขึ้นตึกเรียนน่ะ” ซอลาเนียร์รู้สึกดีใจแปลกๆที่เขายอมตกลงแต่โดยดีตอนแรกคิดว่าต้องขอร้องอีกสักหน่อยเสียอีก แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะไม่ต้องเปลืองแรง
ความคิดเห็น