ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Barbecue Fantasia

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8 เมืองคีราวี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 551
      15
      27 ก.พ. 58

    .

    ตอนที่ 8 เมืองคีราวี

    เมื่อถึงรุ่งเช้ารถม้าลจากเมืองคีราวีก็มาถึง ทั้งรถม้าลที่ซีลอนจ้างเอาไว้ล่วงหน้าและรถม้าลจากบ้านเจ้าของทาสอื่น ๆ ตัวแทนจากเจ้าของทาสแต่ละคนจอดรถเรียงแถวกันอยู่ที่หน้าจุดเปลี่ยนพาหนะรอทำรายการบัญชีกับซีลอน

    ซีลอนทำการพูดคุยสอบถามตัวแทนเจ้าของทาสแต่ละคนสอบถามชื่อตรวจสอบคนอย่างละเอียด ทำการจดบัญชีรายชื่อทาสชุดใหม่ที่จะไปทำงานกับพ่อของเธอแทนทาสชุดเดิมที่ต้องกลับไปประจำที่บ้านใหญ่ จากนั้นจึงส่งทาสชุดเก่ากลับไปพร้อมกับตัวแทนเจ้าของทาสคนนั้น ๆ พร้อมกับปลาสดในกล่องรักษาสภาพตามที่ทำสัญญากันไว้ ตัวแทนเจ้าของทาสเกือบทั้งหมดจะไม่ตรวจสอบจำนวนปลาเพราะให้ความเชื่อใจซีลอน แต่บางคนก็ทำการชั่งน้ำหนักตรวจสอบดูอย่างละเอียดจึงรับของไป

    ทาสชุดใหม่ที่มาผลัดเปลี่ยนส่วนใหญ่เป็นทาสที่เคยทำงานกับล่อซิกมาก่อน พวกเขาทราบหน้าที่ของตัวเองดีจึงขึ้นไปรอบนรถแชร้งลากโดยไม่ต้องออกคำสั่งแนะนำอะไร แต่คนที่ไม่เคยไปทำงานกับล่อซิกต้องให้อธิบายก่อนจึงกระโดดขึ้นรถลากตามหลังไป

    ผู้ที่รับหน้าที่คุมทาสเหล่านี้กลับไปยังหมู่บ้านริมแม่น้ำคือทาสอีกคนหนึ่งที่รับหน้าที่คุ้มกันขบวนโดยมีดงซินเป็นปผู้บังคับแชร้ง เหลือไว้เพียงกอลอและประดู่กับไม้สักติดตามซีลอนไปกับรถม้าล

    รสม้าลสามคันที่บรรทุกกล่องไม้ใส่ปลาจนเต็มวิ่งไปบนถนนดินที่อัดจนแข็ง แม้จะไม่ราบเรียบเหมือนถนนลาดยางแต่ก็ดีพอที่จะเร่งความเร็วได้มากกว่าการเดินทางในป่าที่ผ่านมา จนกระทั่งเดินทางผ่านพื้นที่ป่าโปร่งถนนจึงมีคุณภาพดีขึ้นจนรถม้าลสามารถเร่งความเร็วได้เต็มที่

    ประดู่ได้เห็นม้าผสมลาวิ่งเป็นครั้งแรก พวกมันขาสั้นกว่าม้าแต่วิ่งได้รวดเร็วและหนักแน่น น้ำหนักของพวกมันที่สร้างเสียงฝีเท้าอันหนักแน่นเหมือนคนใช้ค้อนไม้กระแทกพื้นดิน บางทีการที่พื้นดินแน่นแข็งได้เช่นนี้ก็เป็นเพราะต้องรับการกระแทกอัดจากม้าลเหล่านี้มาเป็นเวลานาน

    ไม้สักพิจารณาดูสภาพป่าโดยรอบอย่างคนที่ศึกษาเรื่องภูมิประเทศทำหรับเอาตัวรอดมามากมาย เขาทราบดีว่าป่าใหญ่ที่ตัวเองหนีออกมาเป็นป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ หินบนภูเขาและริมแม่น้ำเป็นหินที่ผ่านแรงดันมหาศาลใต้ดินก่อนจะผุดขึ้นมาบนผิวโลก เขาไม่ทราบว่าโลกแห่งนี้มีเปลือกโลกและชั้นหินหลอมเหลวเหมือนโลกมนุษย์หรือไม่ แต่ด้วยความรู้ที่เขามีนี่เป็นการประเมินที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

    ป่าโดยรอบยังคงอุดมสมบูรณ์ แต่ต้นไม้มีขนาดเล็กกว่าเมื่อเทียบกับป่าลึกที่พวกเขาหนีตายมา การเดินทางไปบนถนนดินอัดโดยที่ไม่มีรถราวิ่งสวนมาทำให้ประดู่และไม้สักรู้สึกได้ถึงความแปลกแยกแตกต่างระหว่างสองโลกได้ชัดเจนมากขึ้น สีเขียวสดของพืชพรรณทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าปกติแล้วจะต้องมีฝนตกอยู่เป็นประจำ

    การเดินทางผ่านต้นไม้สีเขียวขนาบสองข้างถนนทำให้ประดู่นึกถึงตอนที่ตัวเองไปเที่ยวสวนผลไม้ของป้าที่กว้างกินพื้นที่หลายสิบไร่ ตอนนั้นเขาต้องนั่งรถอีแต๋นผ่านระหว่างต้นไม้โดยที่มองไม่เห็นความเจริญรอบนอก

    กอลอนั่งอยู่บนรถม้าลคันที่สามซึ่งรั้งท้ายเพื่อดูแลความปลอดภัย เขาไม่กังวลกับคนที่ซีลอนจ้างมาเพราะเป็นคนคุ้นหน้ากัน เคยทำงานร่วมกันหลายครั้ง เขาเป็นห่วงซีลอนที่ยอมให้ทาสแปลกหน้าสองคนนั่งคู่ไปกับเธอมากกว่า

    รถม้าลแต่ละคันมีหลังคาผ้าใบหนาที่สามารถพับเก็บได้ ทุกคันจะยกหลังคาขึ้นเพื่อลดความร้อนจากแดดที่จะส่องปะทะกับกล่องใส่ปลา ซีลอนเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เป็นชุดที่ดูสวยงามมีระดับมากกว่าเดิม เธอสวมรองเท้าไม้หุ้มหนังและถุงเท้าสีดำ กางเกงผ้ารัดรูปมากยิ่งขึ้นแต่เสื้อยังเป็นเสื้อชายยาวที่รัดเอวไว้ด้วยสายรัดสีดำตัดกับสีเทาของกางเกง สายรัดเอวของเธอถักร้อยผ่านแผ่นไม้แกะสลักเป็นรูปปลาที่มีลายยาวตามตัวสี่เส้น เป็นสัญลักษณ์ของตัวเธอเช่นเดียวกับปิ่นปักผมไม้รูปก้างปลา

    เสื้อของซีลอนวันนี้เป็นเสื้อแขนยาวเสมอศอกสีขาวปักลายปลาว่ายทวนน้ำสีดำเข้ม เสื้อกั๊กแขนกุดตัวนอกเป็นผ้าเนื้อหนาเข้ารูปพอดีตัวสีน้ำเงิน ด้านหลังปักลายปลากระโจนเหนือน้ำสีขาวเกล็ดแดง

    “มองจากตรงนี้จะเห็นเมืองคีราวีแล้ว” ซีลอนบอกทั้งสองคน

    เธอหยิบแผ่นไม้รูปปลาเล็ก ๆ ขนาดเท่าฝ่ามืออกมาจากกระเป๋าข้างเอวแล้วนำขึ้นมาส่องตรงหน้าตัวเอง จากแผ่นไม้ธรรมดาเมื่อส่งพลังเวทมนตร์เข้าไปก็เปลี่ยนสภาพเป็นกระจกเงาสะท้อนภาพของเธอให้เธอได้ตรวจสอบความเรียบร้อย

    ไม้สักสะกิดให้ประดู่แต่งตัวให้เรียบร้อยเหมาะสมกับสถานการณ์เช่นเดียวกับซีลอน ทั้งสองเปิดกระเป๋าข้างของกระเป๋าสะพายหยิบเอาห่วงพลาสติกสอดไส้โลหะออกมา สอดเข้าไปใต้ปลายขากางเกง ผูกไว้กับเชือกเส้นเล็กที่สั่งทำพิเศษถ่วงปลายขากางเกงให้เข้ารูปได้ทรงสวย พวกเขาเป็นนักศึกษาวิชาทหารรุ่นที่ยังต้องใช้เครื่องแบบแบบเก่า ดังนั้นจึงต้องสอดชายเสื้อเข้าในกางเกงรัดเข็มขัดให้เข้าที่แทนที่จะสวมชุดแบบปล่อยชายเสื้อซึ่งเป็นการออกแบบใหม่ภายหลัง

    สำรวจกลัดกระดุมให้เรียบร้อยสวยงาม จับคอเสื้อให้ถูกต้อง พับปลายแขนเสื้อให้ตรงเสมอ เปิดเผยให้เห็นกล้ามแขนเล็กน้อย หมวกสวมได้มุมแสดงให้เห็นตราสำคัญชัดเจน

    ซีลอนสำรวจดูขั้นตอนการแต่งตัวของเด็กหนุ่มทั้งสองและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายชนิดหนึ่ง กลิ่นของทหาร กลิ่นของคนที่ถูกฝึกให้อยู่ในระเบียบอย่างเคร่งครัด เป็นรัศมีที่แตกต่างไปจากนักสู้ผู้กล้าในดินแดนที่เธอรู้จัก สัญลักษณ์ดาบไขว้บนหมวกและปกเสื้อของทั้งสองยิ่งทำให้เธอเชื่อมั่นว่าสองคนนี้จะต้องไม่ใช่ทาสธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน

    เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วประดู่และไม้สักชะโงกข้ามไหล่คนบังคับรถเพื่อสำรวจดูว่าเมืองคีราวีที่ว่านั้นเป็นอย่างไร

    เมืองคีราวีเป็นเมืองที่อยู่พ้นแนวป่าไม้ไปเพียงเล็กน้อย ตัวเมืองมีกำแพงล้อมรอบแต่ไม่มีการทำเกษตรกรรมอย่างที่เห็นได้ในเมืองสมัยก่อน ถนนเส้นใหญ่ที่ตัดผ่านข้างตัวเมืองมีรถม้าลวิ่งไปเป็นระยะ ขบวนของซีลอนปรากฏขึ้นที่อีกฟากของตัวเมืองตรงกันข้ามกับถนนใหญ่พวกเขาจึงไม่ต้องข้ามถนนแต่ตรงเข้าเมืองจากด้านหลังได้เลย

    “นั่นเป็นถนนวงแหวนที่เชื่อมต่อเมืองรอบนอกทั้งหมดของประเทศ หนึ่งปี เข้าด้วยกัน”

    ความหมายที่รู้สึกได้ในสมองของคำว่าหนึ่งปีสร้างความประหลาดใจได้มากกว่าประดู่จึงมองข้ามเสียงตามภาษาต้นฉบับคือ ยีอาลอง แต่ไม้สักพยายามจดจำชื่อนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจ พวกเขาอยู่ในประเทศยีอาลอง มีถนนวงแหวนใหญ่ที่เชื่อมต่อเมืองทั้งหมดเข้าด้วยกัน

    ทหารที่เฝ้าประตูหลังเมืองมองหน้าซีลอนเล็กน้อย ชะโงกดูของในรถแล้วถามเกี่ยวกับที่มาของประดู่และไม้สักก่อนจะปล่อยให้เธอเข้าเมืองไปโดยที่ไม่ได้เคร่งครัดอะไรมาก เรียกได้ว่าง่ายจนน่าแปลกใจ

    ไม้สักคิดว่าเมืองแห่งนี้คงสงบสุขพอสมควรเพราะถ้าเป็นเมืองที่มีปัญหาเรื่องความเรียบร้อยพวกเขาคงผ่านเข้าเมืองมาไม่ง่ายดายนัก จนกระทั่งได้ยินคำพูดของซีลอนเมื่อผ่านพ้นประตูเข้ามาจึงได้เข้าใจว่าตนเองคิดผิดไปถนัด

    “สรุปว่าท่านทั้งสองไม่ได้เป็นทาสหลบหนี จริง ๆ ข้าก็ไม่น่าสงสัยเพราะถ้าเป็นทาสหลบหนีก็คงไม่ยอมผ่านประตูตรวจทาสแน่”

    ประดู่และไม้สักมองหน้ากัน ทั้งสองเก็บซ่อนความตระหนกเอาไว้ภายในอย่างมิดชิด ไม้สักยังมองย้อนกลับไปยังประตูเมืองที่สูงห้าเมตรที่รถม้าลขับเคลื่อนผ่านมา เขาไม่เห็นความผิดปกติของประตูใหญ่ที่สร้างขึ้นจากไม้แต่มั่นใจว่าภายในจะต้องมีอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบสถานะของทาสติดตั้งอยู่ แน่นอนว่าจะต้องเชื่อมโยงกับปลอกคอทาสที่เขาสวมใส่ เรียกได้ว่าทั้งสองรอดผ่านพ้นวิกฤติในชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

    ภายในตัวเมืองเต็มไปด้วยบ้านเรือนและร้านค้าสมกับที่เป็นเมืองติดถนนวงแหวนที่เชื่อมต่อเมืองใหญ่ของประเทศทั้งหมด เช่นเดียวกับหมู่บ้านอำเภอที่ตั้งอยู่ติดกับทางหลวงซึ่งจะมีความเจริญมากกว่าหมู่บ้านหรืออำเภอรอบนอก จำนวนคนที่เดินทางบนถนนวงแหวนแล้วแวะพักผ่อนที่เมืองคีราวีแห่งนี้จึงมีมากเป็นพิเศษ พลอยทำให้บ้านเรือนและร้านค้าในตัวเมืองพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นตามจำนวนลูกค้านักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน

    ลักษณะของสิ่งก่อสร้างในเมืองให้ความรู้สึกของบ้านสมัยก่อนเนื่องจากไม่มีอาคารที่สร้างจากอิฐหินแม้แต่หลังเดียว บ้านทุกหลัง ร้านทุกร้าน ทุกร่มชายคาล้วนแต่สร้างจากไม้ แผ่นไม้ท่อนไม้เสาไม้ถูกขัดจนเป็นเงาแสดงลวดลายบนไม้ออกมาอย่างสวยงาม

    “ปลาสี่ฤดูเป็นอาหารขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของเมืองคีราวีแห่งนี้ ความจริงแล้วยังมีปลาสามฤดูและปลาสองฤดู แต่ปลาที่มีสี่รสชาติในตัวเองถือได้ว่าเป็นปลาที่มีความน่าสนใจมากที่สุด นักท่องเที่ยวและนักเดินทางถ้าได้หยุดพักที่เมืองคีราวีจะต้องเสาะหามากินอย่างน้อยหนึ่งตัว ช่วงนี้เป็นช่วงที่ปลาสี่ฤดูมีรสชาติยอดเยี่ยมมากที่สุดดังนั้นความต้องการปลาจึงมีสูงมากที่สุดในแต่ละปี ทาสที่ไปทำงานกับท่านพ่อเกือบทั้งหมดเป็นทาสจากร้านอาหารในเมือง ป่านนี้คงขึ้นป้ายเรียกลูกค้าเข้าร้านกันแล้ว เดี๋ยวข้าจะนำปลาไปส่งร้านต่าง ๆ ให้เรียบร้อยแล้วจะพาพวกท่านไปยังศาลากลางเมือง ที่นั่นมีล่ามความสามารถสูงเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว น่าจะช่วยเหลือในการสื่อสารระหว่างพวกเราได้”

    คำว่าศาลากลางทำให้สองหนุ่มเกิดความวิตกกังวล ปลอกคอที่พวกเขาสวมอยู่ไม่ใช่ของที่ถูกต้องตามระเบียบ ถ้าทางการตรวจสอบที่มาของปลอกคอทาสแล้วเกิดเรื่องขึ้นมาพวกเขาจะทำอย่างไร เมืองที่มีกำแพงล้อมรอบเช่นนี้ไม่มีทางที่จะหนีไปโดยง่ายเสียด้วย

    ซีลอนและขบวนรถม้าลวิ่งผ่านถนนในตัวเมืองที่กว้างมากพอที่จะให้รถม้าลสองคนวิ่งสวนกันได้โดยไม่รบกวนคนข้างทาง มุ่งหน้าไปยังร้านอาหารหลายแห่งในตัวเมือง ทุกครั้งที่ซีลอนลงจากรถม้าลและเข้าไปในร้านอาหารจะมีทาสออกมาขนกล่องใส่ปลาเข้าไปในร้านจนกระทั่งเหลือเพียงแค่ปลาในรถคันสุดท้าย กอลอเข้ามาร่วมโดยสารในรถม้าลคันสุดท้ายเพราะรถม้าลอีกสองคนได้ออกเดินทางกลับไปยังคอกม้าลของตัวเองหลังทำงานเสร็จสิ้น

    ทุกครั้งที่ประดู่และไม้สักนึกถึงรถม้า คำว่ารถม้าลจะผุดขึ้นมาในสมองจนทั้งสองคนรู้สึกหงุดหงิด พวกเขาต้องตั้งสมาธิอย่างแน่วแนะและกำหนดจิตตั้งใจเรียกรถม้าลว่าเป็นรถม้า ระบบแปลภาษาในปลอกคอตอบรับความคิดของทั้งสองและลดความรุนแรงของการประสมคำศัพท์ของม้าและลาลง ความรู้สึกและเข้าใจที่ว่าม้าลก็คือม้าบวกกับลายังคงมีอยู่ แต่ไม่น่ารำคาญเท่ากับก่อนหน้านี้ พวกเขายังเข้าใจว่ามันคือม้าลแต่เรียกว่าม้าตามปกติ

    ซีลอนกำลังตื่นเต้นที่จะได้ทราบที่มาของประดู่และไม้สัก ส่งปลาเข้าร้านอาหารร้านสุดท้ายงานของเธอก็จะเสร็จเรียบร้อย เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเตรียมตัวแล้วกระโดดลงจากรถ ไม้สักและประดู่ถูกเรียกตัวให้ตามไปด้วยเพราะหลังจากนี้ทั้งสองจะต้องเดินเท้าไปพร้อมกับซีลอนและกอลอ คนขับรถม้าที่พาพวกเขามายังรออยู่ที่ข้างร้านจนกว่าการส่งของจะเสร็จเรียบร้อยจึงจะกลับไปพร้อมเงินค่าจ้างอีกครึ่งหนึ่งเมื่องานเสร็จสิ้น

    ประดู่และไม้สักอ่านป้ายหน้าร้านไม่ออก ปลอกคอของพวกเราแปลภาษาให้เฉพาะเสียงที่ได้ยินแต่ไม่ได้แปลสิ่งที่มองเห็นให้ด้วย ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ทราบว่าป้ายไม้ทาสีที่มีตัวหนังสือเงาวาวระยิบระยับนั้นอ่านว่าอย่างไรหมายถึงอะไร เขาเดินตามหลังซีลอนผ่านตรอกข้างร้านเข้าไปยังหลังร้านโดยมีกอลอปิดท้าย

    ร้านอาหารร้านนี้มีหน้ากว้างสิบเมตร ตัวร้านสูงสามชั้นสร้างขึ้นจากไม้ทั้งหมด มีการปลูกต้นไม้หลายชนิดประดับโดยรอบ ซีลอนพาทุกคนเดินผ่านทางเดินปูหินที่มีไม้ปาล์มปลูกขนาบซ้ายขวา ใบปาล์มสีเขียวสดมองดูแล้วร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง

    “ขอบคุณเทพโภชนา ซีลอน มาได้จังหวะพอดี” หญิงวัยกลางคนร่างท้วมตรงเข้ามาทักทายซีลอน เธอเรียกทาสในครัวสองคนให้ไปขนปลามาจากท้ายรถม้า รับสมุดบัญชีของซีลอนมาลงชื่อด้วยดินสอที่สร้างขึ้นจากไม้แห้งพันรอบด้วยเถาวัลย์แห้ง เธอใช้พลังเวทมนตร์กระตุ้นปลายไม้แห้งให้เกิดการเผาไหม้แล้วขีดเขียนลงชื่อบนแผ่นกระดาษเป็นหลักฐานยืนยันว่าได้รับปลาแล้วโดยไม่ต้องตรวจสอบ

    “มีอะไรเหรอคะป้า” ซีลอนถาม

    “ก็มีขุนนางจากเมืองหลวงมาที่ร้านน่ะสิ มาถึงก็เรียกร้องขอปลาสี่ฤดู ป้าบอกว่าปลายังไม่เข้าร้านก็ไม่ยอม เห็นว่าจะไปเอาเรื่องกับท่านผู้ว่าไม่ให้ป้าขายอาหารที่นี่ แต่ป้ารู้นะว่าที่จริงแล้วเป็นแผนการของร้านสีทองที่ตรงกันข้ามร้านป้า สงสัยอยากกำจัดคู่แข่งทางธุรกิจ กำลังคิดเลยว่าจะทำยังไงซีลอนก็เอาปลามาส่งพอดี”

    หญิงวัยกลางคนผู้นั้นหยิบเอาเปลือกหอยซึ่งมีลักษณะและขนาดคล้ายหอยทรายแต่มีสีเงินและสีทองออกมาจากกระเป๋า นับจำนวนแล้วมอบให้ซีลอน

    “ขอบคุณค่ะ เอาอย่างนี้มั้ยคะ ซีลอนจะช่วยท่านป้าปรุงปลาสี่ฤดูให้เป็นพิเศษ น่าจะช่วยปิดปากขุนนางคนนั้นได้นะคะ”

    หญิงวัยกลางคนตาโต

    “ถ้าได้อย่างนั้นก็ยอดเยี่ยมเลย จะมีใครปรุงปลาสี่ฤดูได้ยอดเยี่ยมไปกว่าซีลอนอีก แหม ป้าขอให้มาเป็นแม่ครัวที่ร้านป้าก็ไม่ยอมมาซะที”

    ซีลอนหัวเราะ

    “ไม่ได้หรอกค่ะ ซีลอนต้องช่วยท่านพ่อดูแลงานที่บ้าน จะให้มาเป็นแม่ครัวสบาย ๆ ในเมืองไม่ได้หรอกค่ะ”

    “จ้า จ้ะ ๆ แต่ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็มาที่ร้านของป้านะ”

    คนงานของร้านกลับมาจากรถม้าแล้ว พวกเขาช่วยกันหิ้วกล่องใส่ปลาเข้าไปในครัวหลังร้านโดยมีซีลอนเดินตามหลังไป กอลอพยักหน้าให้ประดู่และไม้สักเดินตามเข้าไปด้วย

    ประดู่ที่ทำงานอยู่ในร้านอาหารตามสั่งเคยเห็นเครื่องครัวมาหลายชนิดเพราะร้านของเขารับทำอาหารพิเศษเฉพาะกิจจึงต้องมีอุปกรณ์หลายอย่างประกอบร่วมด้วย แต่ในครัวแห่งนี้นอกจากภาชนะบรรจุอาหารพื้นฐานแล้วเขาแทบไม่รู้จักอุปกรณ์ในครัวแม้แต่ชิ้นเดียว ที่คุ้นตาก็มีเพียงอุปกรณ์แบบเดียวกับที่ซีลอนนำมาปรุงปลาสี่ฤดูเมื่อคืนนี้

    ห้องครัวหลังร้านนั้นกว้างพอสมควร ประดู่กะด้วยตาเปล่าแล้วน่าจะมีพื้นที่มากกว่ายี่สิบตารางเมตร มีเครื่องครัวแขวนไว้บนราว มีอ่างสำหรับล้างภาชนะ มีถังขยะ มีตู้ใส่ของ มีโต๊ะกว้างวางของได้มาก

    คนครัวหลายคนตรงเข้ามาดูการปรุงปลาสี่ฤดูของซีลอนเพื่อเก็บความรู้ พวกเขารับหน้าที่ปรุงปลาสี่ฤดูในร้านอาหารแห่งนี้มานานแต่ไม่สามารถปรุงปลาสี่ฤดูได้สมบูรณ์แบบเหมือนซีลอน ดังนั้นจึงให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ซีลอนเองก็ไม่ได้เก็บการปรุงของเธอเป็นความลับแต่อย่างไร เคล็ดลับสำคัญจริง ๆ ก็คือความเข้าใจในรายละเอียดปลีกย่อยของปลาแต่ละตัวมากกว่า การควบคุมพลังเวทมนตร์เป็นเพียงปัจจัยรองลงมา

    ไม้สักมองดูการปรุงปลาของซีลอนร่วมกับคนอื่นแต่ประดู่สำรวจดูอุปกรณ์เครื่องครัวโดยรอบ พยายามคิดตรวจสอบดูว่าสิ่งของเหล่านี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน เขามองดูพ่อครัวที่ปรุงอาหารอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของครัวก็ยังไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังทำอะไร

    “เสร็จแล้วป้า รับรองว่านี่เป็นปลาสี่ฤดูชั้นยอดแน่นอน” ซีลอนส่งปลาสี่ฤดูที่ปรุงเสร็จอย่างรวดเร็วให้พนักงานร้านเพื่อนำไปเสิร์ฟ

    “ขอบใจจ้ะ ขอบใจมาก ๆ เลยนะ ร้าน ป้าอ้วน รอดพ้นวิกฤติมาได้ก็เพราะซีลอนแท้ ๆ ” ป้าอ้วนยิ้มและกอดซีลอนแน่น

    ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเนื่องจากไม่ได้พบกันเป็นเวลานานจนกระทั่งเสียงตะโกนจากชั้นสามดังมาถึงครัวที่ชั้นล่าง

    “ร้านนี้บังอาจนำปลาสี่ฤดูที่ต่ำกว่ามาตรฐานมาขาย ทำให้เมืองคีราวีต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ข้าต้องรายงานไปยังเมืองหลวงเพื่อสั่งปิดร้านนี้โดยเร็วที่สุด”

    ป้าอ้วนหน้าซีดทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ เธอทราบดีว่าซีลอนไม่มีทางปรุงปลาสี่ฤดูที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ปลาที่ซีลอนนำมาส่งก็ไม่เคยมีตัวใดที่ใช้ไม่ได้ นั่นหมายความว่าขุนนางจากเมืองหลวงผู้นี้ตั้งใจมาเล่นงานร้านของเธอโดยเฉพาะ ถึงขนาดโกหกกันซึ่ง ๆ หน้า

    ซีลอนขมวดคิ้ว ผลงานการปรุงครั้งนี้เป็นของเธอ เธอมีส่วนรับผิดชอบเต็มที่อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ อย่างน้อยเธอก็ต้องเสนอตัวอธิบายยืนยันให้ชัดเจน คิดได้เช่นนั้นแล้วซีลอนก็ก้าวเดินออกจากครัวตรงไปยังที่มาของเสียงในทันที กอลอก้าวเดินตามหลังซีลอนไป มือกำดาบเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ทุกอย่าง

    ประดู่และไม้สักมองหน้ากันแล้วเดินตามหลังกอลอขึ้นไปบนชั้นสาม มือของไม้สักแตะด้ามมีดและทดลองดึงออกจากฝักเล็กน้อยให้แน่ใจว่าสามารถชักมีดออกจากฝักได้ทุกเมื่อ เช่นเดียวกับประดู่ที่แตะด้ามกระบองเหล็กซึ่งคาดไว้กับเอว ตรวจสอบตำแหน่งว่าจะดึงกระบองออกมาจากที่ใด

    ทั้งสองจะใช้ความวุ่นวายนี้หนีไปก็ได้ แต่พวกเขาทราบดีว่าถ้าทำเช่นนั้นคงไม่อาจนอนตาหลับได้อีก เขาจะทิ้งให้ซีลอนที่ให้ข้าวให้น้ำและที่นอนเอาไว้เช่นนี้ได้อย่างไร

    .

    คุยกับท่านผู้อ่าน

    ขุนนางฉ้อฉล มีให้เห็นกันในทุกมิติเลยทีเดียว

    ชาลี

    24 กุมภาพันธ์ 2558

    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×