ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Barbecue Fantasia

    ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 25 วังวนอันวุ่นวาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 492
      14
      12 พ.ค. 58

    ตอนที่ 25 วังวนอันวุ่นวาย

    ไม้สักเคยชมภาพยนตร์มามากมาย การต่อสู้กันในภาพยนตร์แอ็คชั่นเป็นสิ่งที่เขาเห็นอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ เขาทราบดีว่าสิ่งที่เห็นบนจอเงินนั้นถูกเสริมแต่งจนเกินจริงไปมาก แต่ครั้งนี้เขาต้องพยายามปรับความเข้าใจของตัวเองเพื่อรับมือกับศัตรูตรงหน้าซึ่งกำลังแสดงท่าทีอย่างจอมยุทธ์ในภาพยนตร์กำลังภายใน

    ชายในชุดเกราะปูก้าวเท้าเข้าหาฟาดก้ามปูใหญ่เข้าใส่ไม้สักเหมือนนักเทนนิสหวดไม้ตีเทนนิสจากเหนือศีรษะ เป็นการโจมตีอย่างซึ่งหน้าตรงตัวเพื่อวัดพลังและความเร็วของคู่ต่อสู้ ถ้าหากไม้สักไม่มีความสามารถในการหลบหลีกหรือรับมือกับการฟาดด้วยความเร็วพื้นฐานทุกอย่างก็จบลงตรงนี้โดยไม่ต้องใช้เวลามากเกินไป

    ไม้สักเอียงตัวไปด้านข้างด้วยการย่อตัวเหมือนคนออกกำลังกายท่าแตะสลับ คือเหยียดขาหนึ่งออกไปแล้วย่อขาอีกข้างเอียงตัวไปด้านตรงข้าม นักรบปูพลาดเป้าจากการฟาดก้ามปูใส่ไม้สักตรง ๆ แต่เขาไม่หยุดกระบวนท่า กลับย่อตัวคุกเข่าฟาดก้ามปูใส่เต้าของไม้สักที่ยังอยู่ในเส้นแนววิถีโจมตี

    ไม้สักที่ย่อขาข้างหนึ่งอยู่แล้วดีดตัวพุ่งออกไปข้างหน้าด้วยฤทธิ์ของอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่าน ภาพของถนนตัวอาคารในเมืองรอบข้างที่มืดสลัวเมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นสว่างวาบในชั่วแวบ

    ก้ามปูใหญ่ฟาดลงพื้นหินโดยแรง กระแทกก้อนหินสกัดหลายก้อนจนแตกเป็นเสี่ยง บี้กดก้อนหินสกัดอีกหลายก้อนให้จมลงพื้นดินชั้นล่างและงัดหินปูพื้นโดยรอบให้เผยอพลิกขึ้นมา ยังรุนแรงกว่าการใช้ค้อนเหล็กใหญ่ทุบลงไปในพื้นอย่างที่เห็นในงานก่อสร้างรื้อถอน ทั้งยังเป็นการโจมตีโดยใช้มือเพียงข้างเดียว

    สัมผัสของความเหนือมนุษย์ซึ่งปฏิเสธความคุ้นเคยในโลกเดิมเกิดขึ้นในใจของไม้สักอีกครั้ง เขามั่นใจว่ามนุษย์ทั่วไปไม่สามารถทำอย่างเช่นที่ชายในชุดเกราะปูผู้นี้ทำ จะเป็นไปได้ก็เพียงเครื่องจักรซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่องานบางอย่างโดยเฉพาะเท่านั้น

    ตอนที่ไม้สักพุ่งเข้าหานักรบปูหลังจากม้วนตัวไปรอบหนึ่งอีกฝ่ายก็กลับคืนสู่สภาพเตรียมพร้อม ขาหนึ่งย่อลงสองก้ามปูยื่นลงด้านล่างทแยงซ้ายขวา เมื่อไม้สักเข้าถึงระยะโจมตีก็สะบัดสองก้ามขึ้นด้วยความเร็วระดับเดียวกับกับดักหมี แต่ไม้สักที่คาดเดาอยู่ล่วงหน้าบิดตัวหันข้างปล่อยให้ก้ามปูพุ่งผ่านหน้าหลังไปอย่างงดงาม

    เขาแทงมีดในมือขวาเข้าใส่ช่องว่างของชุดเกราะในส่วนลำคอทันที แต่นักรบปูเองก็คล้ายเคยได้รับการโจมตีลักษณะนี้มาก่อนจึงทราบวิธีรับมือเป็นอย่างดี เขากระทืบเท้าลงกับพื้นถนนรั้งก้ามปูทั้งสองซึ่งชูสูงพุ่งเข้าใส่ไม้สักในลักษณะฟาดจากบนลงล่าง ใช้การเคลื่อนไหวร่างกายหลบหลีกจุดสำคัญจากการโจมตีของไม้สักและโจมตีสวนกลับในเวลาเดียวกัน

    ไม้สักเห็นว่าไม่อาจปลีกตัวถอยออกไปได้อีกสะบัดมือขวาไปทางขวา สะบัดมือซ้ายไปด้านซ้าย เกร็งกำลังกล้ามเนื้อแขน หน้าอกและแผ่นหลังพร้อมกัน แหวกก้ามปูทั้งสองไปข้าง ๆ ปล่อยให้ก้ามปูใหญ่กระแทกพื้นส่งเสียงดังตึง หินสกัดที่ปูถนนถูกดีดกระจายเนื่องจากการโจมตีครั้งนี้ยังรุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีครั้งแรกสุด

    กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของไม้สักที่ถูกกระตุ้นใช้งานร้อนเหมือนโดนไฟเผา พลังงานมหาศาลถูกแปลงเป็นกำลังสำหรับการเปลี่ยนทิศทางการโจมตีที่อาศัยพลังเวทมนตร์เข้าช่วย

    ดวงตาของนักรบปูผู้นั้นแสดงแววประหลาดใจออกมาเพราะเขาไม่เคยพบคนที่รับมือเขาโดยไม่ต้องใช้พลังเวทมนตร์เข้าช่วยมาก่อน ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้อย่างเช่นเขาย่อมสามารถตรวจจับกระแสเวทมนตร์ในอากาศรอบตัวได้เป็นอย่างดี การที่ไม้สักใช้พลังกายเพียงอย่างเดียวในการปัดก้ามปูทลายหินโสโครกของเขาจึงเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง

    องครักษ์ประจำตัวของขุนนางปูจิงจิงเปลี่ยนยุทธวิธีการต่อสู้ในทันที เขาพลิกตัวหลบมีดที่พุ่งเข้าใส่ลำคอเป็นครั้งที่สองแล้วเดินพลังเวทมนตร์เข้าสู่ก้ามปู ถอดส่วนก้ามออกจากด้ามจับเผยให้เห็นโซ่เส้นใหญ่ซึ่งร้อยอยู่ภายในเปลี่ยนสภาพจากกระบองทื่อด้านเป็นลูกตุ้มอันล่อแหลม

    ไม้สักพบว่าตัวเองไม่ทราบวิธีการรับมือกับอาวุธประเภทนี้ การฟาดก้ามปูหรือการยิงธนูซัดมีดเข้าใส่เขายังสามารถเชื่อมโยงรูปแบบการต่อสู้กับความรู้ในโลกของเขาอย่างเช่นกันฟาดไม้ฟันดาบขว้างของใส่ แต่จะมีสักกี่คนที่เคยต่อสู้กับคนถือลูกตุ้มร้อยโซ่ ยิ่งได้เห็นก้ามปูเคลื่อนที่เหมือนมีชีวิตเขายิ่งมั่นใจว่าถ้าไม่หนีจะต้องล้มตายอยู่ที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย คนตรงหน้าไม่ใช่คนที่จะใช้กำลังเอาชนะได้โดยไม่มีทักษะการต่อสู้เข้าร่วม

    ด้วยความเร็วชั่วพริบตา ไม้สักดึงไฟฉายของตัวเองขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ หมุนปรับรูปแบบการฉายแสงเป็นวงเล็กที่สว่างจ้าแล้วเปิดไฟส่องตาของนักรบปูผู้นั้นอย่างแม่นยำ

    นักรบปูไม่ใช่ไม่ระวังวัตถุทรงกระบอกเล็กที่ไม้สักหยิบขึ้นมา เขามั่นใจว่าสามารถหลบหลีกรับมืออาวุธลับได้ทุกชนิดในระยะห่างกันสามเมตรนี้ แต่เขาไม่อาจเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสงดังนั้นจึงถูกแสงจากไฟฉายแรงสูงฉายเข้าตาอย่างจัง

    การฉายไฟเข้าเป้าหมายนี้ไม้สักกลับเคยฝึกฝนมาก่อน มันเป็นวิธีการที่ใช้ได้กับทั้งมนุษย์และสัตว์ เป็นการสร้างโอกาสในการหลบหนีหรือโจมตีอันประเสริฐ

    ไม้สักฉวยโอกาสที่นักรบปูบังคับลูกตุ้มก้ามปูปกป้องตัวเองหันหลังหนี วิ่งตรงไปยังบ้านที่ชายชราฝากฝังเอาไว้กับเขาและประดู่ ระหว่างทางเขาเห็นทหารประจำเมืองคีราวีวิ่งสวนทางไปหลายสิบคน ทั้งยังเห็นชนเผ่าที่ปีนข้ามกำแพงเมืองเข้ามามากมาย เสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกของผู้คนเริ่มดังกระจายไปทุกตรอกซอกซอยช่วยกลบร่องรอยเสียงวิ่งของไม้สักได้อย่างมิดชิด

    แต่ไม้สักทราบดีว่าจุดหมายของเขาอยู่ในการคาดเดาของศัตรูตั้งแต่แรก ไม้จะไม่ทราบว่าเขาวิ่งหนีไปยังที่ใดก็สามารถไปดักรอเขาได้ทุกเมื่อ ไม่แน่ว่าตอนนี้นักรบปูจะไปดักรอเขาที่บ้านแล้ว

    ไม้สักกลิ้งตัวลงพื้นหลบการโจรตีจากกิ่งพืชลักษณะคล้ายกิ่งต้นปาล์มแล้วลุกขึ้นกระโจนวิ่งต่อไปโดยไม่สะดุด นักรบจากชนเผ่าเหล่านี้โจมตีผู้คนโดยไม่เลือกหน้า แม้แต่เขาที่เคยช่วยเหลือรีดินก็ไม่มียกเว้น เขาพยายามคิดทบทวนจนจำได้ว่าชนเผ่าเหล่านี้ชื่อเผ่าซิกแอ บางทีการโจมตีครั้งนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ริมแม่น้ำในตอนนั้น

    ทหารองครักษ์ปูสองคนยืนเฝ้าระวังอยู่หน้าบ้านเป้าหมายของไม้สักด้วยท่าทีสับสน พวกเขาไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดีเพราะคำสั่งที่ได้รับมีเพียงการดูแลระวังบ้านของไม้สักและประดู่ เมื่อตัวเมืองโดนโจมตีจึงไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร ทหารหนึ่งคนหันมาทางไม้สักทันได้เห็นเลขสิบเอ็ดซึ่งเป็นเบอร์รองเท้าของไม้สักแล้วจึงโดนถีบจนปลิวลอยไปเกือบห้าเมตร

    ทหารอีกคนหนึ่งไม่ทันได้ชักดาบก็โดนไม่สักเตะเข้าหว่างขาทรุดลงไปนอนน้ำลายฟูมปาก

    ไม้สักถีบประตูโดยแรงเนื่องจากไม่มีเวลาให้ค่อย ๆ เปิดแง้มอย่างนิ่มนวล เขาไม่ทราบว่าตนเองต้องการเห็นอะไร ประดู่คงไม่อยู่ที่นี่ แต่อย่างน้อยเขาก็อยากได้ร่องรอยของเพื่อนรัก

    สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือชายในชุดอันแปลกประหลาดนั่งบนโซฟาใหญ่หันหน้าเข้าหาเขาเหมือนตั้งตารออยู่ก่อน ชายผู้นั้นมีผมสีน้ำตาลเข้มโค้งเป็นลอน ใบหน้าเรียวแต่เหลี่ยม คิ้วหน้าเข้มขนตายาว มองไปคล้ายหนุ่มอิตาลีมาดเข้ม แต่ชุดสีเขียวสดเป็นริ้วเหมือนผักสดของเขากลบบังความหล่อเหล่าเอาไว้จนหมดสิ้น

    ไม้สักไม่เคยเห็นคนใส่ชุดพิลึกพิลั่นเช่นนี้มาก่อน ชุดของเขามีลักษณะบวมฟูคล้ายผ้าฟูกมัดเป็นปล้อง ๆ ฮู้ดหรือหมวกติดเสื้อมีทรงแหลมชี้ขึ้นเหมือนกระโจมอินเดียนแดง ปลายแขนเสื้อฟูฟ่องเหมือนพู่เชียร์กีฬาที่นำมามัดรวมกัน

    ใช่แล้ว มันเป็นรูปอย่างอย่างเดียวกับมัดฟางข้าวที่เหลือจากการทุบนวดข้าวแบบสมัยโบราณ ชายผู้นี้ห่อหุ้มตัวเองด้วยฟางข้าวยาวมัดเป็นปล้อง ๆ แต่เป็นฟางที่มีสีเขียวเข้มไม่ต่างจากต้นข้าวสด ๆ

    “ข้าชื่อ รีซ็อตโต้ เจ้าคงเป็นหนึ่งในสองคนที่ครัวจันทน์เทศเราตามหาแล้ว เห็นว่าคนที่พกมีดมีชื่อว่าไม้สัก เจ้าต้องเป็นไม้สักไม่ผิดแน่” ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืน เมื่อเขาลุกขึ้นยืนส่วนยอดฟางข้าวของเขาเสียดสีกับกับแพดานดังแซ่ก ๆ

    “บอกให้ทราบก่อนจะได้ไม่ผิดข้องหมองใจกัน ข้าเป็นนักสู้รับจ้าง รับงานจากครัวจันทน์เทศมาโดยตรง ไม่มีความแค้นใด ๆ กับเจ้ามาก่อน ถ้าพลั่งมือฆ่าเจ้าไปก็จงอย่าได้โกรธแค้นกัน”

    อีกฝ่ายประกาศตัวเป็นศัตรูอย่างชัดเจนเช่นนี้ไม้สักยังจะรออะไรอยู่อีก เขาสอดมือไปด้านหลังเสาบ้านต้นที่อยู่ใกล้ที่สุด ดึงกระชากด้ายเส้นเล็กเชื่อมโยงกลไกกับดักบนเพดานซึ่งจะดีดเอาผงพริกแห้งและพริกไทยให้กระจายไปทั่วห้อง

    “อ้อ กับดักของพวกเจ้าถูกจัดการปลดเรียบร้อยแล้ว พิษที่พวกเจ้าใช้มีฤทธิ์รุนแรงมาก ถ้าข้าไม่พลั้งมือฆ่าเจ้าตายเจ้าช่วยบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับพิษประหลาดนั้นได้หรือไม่”

    ไม้สักด่าตัวเองที่คิดไม่ถึง ถ้าศัตรูตั้งใจมาค้นหาพวกเขาที่บ้าน การตรวจสอบบ้านอย่างละเอียดย่อมเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ กับดักที่วางไว้ไม่มีทางที่จะอยู่รอดปลอดภัยได้อีก เขากระโดดถอยหลังออกมานอกประตูโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว เขาทราบดีกว่าตนเองไม่มีทางต่อสู้กับคนที่เรียกตัวเองว่านักสู้ในโลกนี้ได้ นักรบปูที่เขาวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนมาก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนดีแล้ว

    ด้วยเครื่องแต่งกายอันแปลกประหลาดเหมือนหุ่นฟาง รีซ็อตโต้กลับเคลื่อนที่ได้รวดเร็วยิ่งนัก ไม้สักเพิ่งจะเหยียบเท้าลงบนถนนรีซ็อตโต้ก็เข้าประชิดตัวเขาแล้ว แขนที่หุ้มด้วยฟางสีเขียวสดฟาดเข้าใส่ลำตัวของไม้สักจากด้านข้างจนตัวเขาปลิวไปกระแทกกับบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างไปแปดเมตร แรงกระแทกของมันแทบไม่ต่างจากการโดนรถชนจัง ๆ

    ไม้สักรู้สึกเหมือนเครื่องในจะถูกบีบออกจากปาก ระหว่างที่พยุงตัวลุกขึ้นเขาก็คิดหาทางหนีเอาตัวรอดในช่วงเวลาที่นักสู้ในชุดฟางเดินผิวปากเข้ามาหาช้า ๆ

    ข้อได้เปรียบของเขาก็คือความประมาทของศัตรู ถ้าเขามีวิธีการที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึงโอกาสที่จะหนีรอดไปได้ก็มีไม่น้อย และอาวุธลับในยามคับขันอย่างหนึ่งของไม่สักก็ถูกนำมาใช้ พลุสร้างควันที่เขาทำขึ้นเองจากส่วนผสมของน้ำตาลและสารเคมีตามบ้านหลายชนิด

    อาศัยท่าทางทุลักทุเลในการยืนขึ้นอย่างยากลำบากปิดบังอำพราง พลุควันที่บรรจุเอาไว้ในกระป๋องกาแฟสำเร็จรูปก็ถูกแกะถุงพลาสติกกันน้ำออก ชนวนถูกจุดด้วยไฟแช็คและจะปลดปล่อยควันหน้าทึบในอีกไม่กี่วินาทีหลังจากนี้

    “เดี๋ยวก่อน ถ้าข้าจะต้องตายจริง ๆ แล้วข้าของถามได้หรือไม่ว่าประดู่สหายข้าเป็นอย่างไรบ้าง ถือว่าสงเคราะห์คนใกล้ตายเช่นข้า” ไม้สักกัดกระพุ้งแก้มและเนื้อใต้ริมฝีปากด้านในแล้วบ้วนเลือดออกมาตบตาอีกฝ่ายว่าตนเองบาดเจ็บภายในอย่างสาหัสทั้งที่ความจริงแล้วเขายังสามารถเคลื่อนที่ได้แม้จะเจ็บปวด

    รีซ็อตโต้ซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับครัวจันทน์เทศโดยตรงเลิกคิ้วแล้วใช้ปลายแขนที่เป็นพู่ถูศีรษะไปมา

    “เท่าที่ข้ารู้ สหายของเจ้าตอนนี้หายสาบสูญ เช่นเดียวกับคาเรที่หายไปหลังได้รับบัตรนักล่าอาหาร เจ้าไม่ต้องกังวล เมื่อข้าพาเจ้าไปส่งให้ครัวจันทน์เทศเดี๋ยวสหายของเจ้าก็จะถูกจับมาพบกับเจ้าเอง หลังจากนั้นก็ตายพร้อมกันอย่างมิตรรัก เจ้าไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่งดงามหรือ”

    ไม้สักคิดในใจว่าไอ้หมอนี้มันโรคจิตชัด ๆ แต่เขาบรรลุเป้าหมายการถ่วงเวลาแล้ว รีซ็อตโต้ร้องเอ๊ะครั้งเดียวควันสีส้มหนาทึบก็พวยพุ่งมาจากด้านหลังของไม้สัก ไม้สักกัดฟันทนรับความร้อนจากระเบิดควันของตนเองแล้วขว้างระเบิดควันใส่รีซ็อตโต้ก่อนจะขยับตัวถอยหายเข้าไปในกลุ่มควันที่จับตัวแน่นทางด้านหลัง

    รีซ็อตโต้ที่รับทราบถึงความร้ายกาจของพิษพริกไทยและพริกป่นมาก่อนรีบพุ่งตัวหลบด้วยไม่ทราบว่าควันสีส้มนี้มีพิษร้ายอันใดแฝงอยู่ เขายังได้ยินเสียงของไม้สักและทราบว่าไม้สักวิ่งหนีไปทางใด แต่เมื่อจะขยับตามนักรดเผ่าซิกแอก็บุกมาจนถึงจุดที่เขายืนอยู่ ขัดจังหวะทำให้เขาพลาดท่าไม่อาจจับร่องรอยเสียงวิ่งของไม้สักได้อีก

    ไม้สักวิ่งผ่านการต่อสู้ของทหารและนักรบเผ่าซิกแอหลายจุดจึงหนีออกจากเมืองด้วยกรปีนกำแพงได้สำเร็จ เขามุ่งหน้าไปยังทุ่งหญ้าดูดชีพซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับการเป็นโล่กำบังเขาจากคนที่ไล่ล่าตามมา อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ทราบแล้วว่าประดู่ยังไม่ถูกจับกุม ขอเพียงพวกเขาปลอดภัย การตามหาตัวกันยังสามารถกระทำได้ แม้จะต้องสูญเสียระเบิดควันลูกสำคัญไปแต่มันก็ช่วยให้เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

    เขาตั้งใจว่าจะต้องฝึกความสามารถให้เก่งกาจ ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจรับมือกับคนอย่างเช่นนักรบปูหรือรีซ็อตโต้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องจัดสร้างเครื่องมือที่สามารถต่อกรกับคนเหล่านี้ได้

    .

    ประดู่ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องของตัวเองปวดหัวแทบระเบิด เปลือกตาที่เพิ่งจะเลิกขึ้นถูกหยีปิดลงโดยแรง เขาไม่เคยเมาค้างมาก่อนแต่ก็พอจะทราบว่าอาการที่จะได้รับหลังดื่มอย่างหนักในวันต่อมาเป็นเช่นไร ด้วยรูปแบบชีวิตประจำวันที่เขาจะต้องตื่นเช้ามาเตรียมร้านแต่ต้องตกอยู่ในสภาพที่ขยับตัวไม่ได้มันทำให้เขารู้สึกขัดข้องใจยิ่งนัก

    “เจ้าพาสต้ามันยังนอนอยู่อีกหรือ จะปล่อยให้พวกเราทำงานกันจนเหนื่อยตายหรือยังไง” เสียงของหญิงเจ้าของร้านวัยกลางคนดังออกมาจากในครัวทำเอาประดู่ต้องปวดหัวมากกว่าเดิมอีกสามเท่า

    “ท่านพี่โบโซอย่าได้โมโห ข้าจะทำงานส่วนของพาสต้าเอง” เสียงของซาเทดังแว่วตามมา

    “ท่านป้าโบโซท่านกลับต้องขอบคุณเจ้าหนุ่มคนนั้น ท่านทราบหรือไม่ว่าการแข่งขันเมื่อคืนนี้เป็นที่เล่าลือกันมากเพียงไร เจ้าพาสต้าไม่เพียงดื่มสุราชนิดพิเศษเข้าไปถึงสามจอกจึงล้มพับ ยังได้นอนพักในห้องของหญิงงามอีกทั้งคืน ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้ร้านอาหารขูดเลือดขูดเนื้อของท่านยังทำให้พวกเราเหล่าคนงานในเมืองได้มีหน้ามีตา” เสียงนี้ประดู่จำไม่ได้ว่าเป็นเสียงของใคร น่าจะเป็นเสียงของคนที่เขาไม่รู้จัก

    สมองของเขายังติดขัดอยู่จนกระทั่งอีกหลายวินาทีจึงรู้สึกตัวว่ามีประโยค “นอนพักในห้องหญิงงาม” รวมอยู่ด้วย เขาเบิกตาโพลงผลุดลุกขึ้นนั่ง กระชากกางเกงขาสั้นลงมาดูน้องชายวัยใสมองหาความผิดปกติ เมื่อเห็นว่าเปลือกห่อกุนเชียงยังอยู่ดีไม่มีฉีกขาดก็โล่งใจ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เสียความบริสุทธิ์ในตอนที่หมดสติซึ่งนั่นจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เขาพยายามจะลุกขึ้นจากเตียงแต่กางเกงขาสั้นที่รูดลงมาก็ทำให้เขาเสียหลักตอนกว้างและสะดุดลงไปนอนกับพื้นห้องเสียงดัง

    ยาแก้ปวดที่ขอแบ่งมาจากไม้สักถูกกรอกเข้าปากสองเม็ดตามด้วยน้ำแก้วใหญ่ เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วประดู่จึงแต่งตัวด้วยชุดประจำร้านและออกไปช่วยงานที่ด้านหน้า ซาเทเห็นหน้าเขาก็รีบเข้ามากะลิ้มกะเหลี่ยช่วยบีบไหล่นวดแขน

    “ขออภัยท่านด้วยที่ข้าพ่ายแพ้ในการแข่งขัน” ประดู่ฝืนยิ้ม

    “พ่ายแพ้ ? ท่านพูดถึงเรื่องอันใด เจ้าคนจรผู้นั้นพยายามจะยกเหล้าจอกที่สองขึ้นดื่มแต่ทำไม่ได้ มีแต่น้องพาสต้าท่านที่สามารถดื่มสุราหินเหล็กไฟได้สามจอก ไม่เพียงแต่ข้าที่ได้ร่วมโต๊ะกับหญิงงาม แขกผู้ชมเองก็ยังได้ลิ้มชิมสุรารสเลิศ นี่ล้วนแต่เป็นความดีความชอบของท่านทั้งสิ้น นี่ หญ้าเหม็นลืมนรก หญิงงามกวางน้อยเตรียมไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ มีฤทธิ์ช่วยให้สร่างเมาดีนักแล”

    ประดู่รับหญ้าต้นเล็กมาจากมือของซาเท ใส่ปากเคี้ยวแล้วเบ้ปากเนื่องจากรสชาติอันเปรี้ยวสุดขีดจนลืมนรกของมัน

    “ข่าวใหญ่ ข่าวใหญ่ เมืองคีราวีและเมืองเบจีลาโดนกองกำลังรวมสี่ชนเผ่าตีแตกเมื่อคืนนี้ ประเทศยีอาลองกำลังจัดตั้งกองกำลังทหารพิเศษเพื่อรับมือกับกองทัพผู้รุกราน ถนนเส้นใหญ่วนรอบประเทศถูกตัดขาดไม่สามารถใช้เดินทางอย่างต่อเนื่องได้เช่นเคย”

    ชายคนหนึ่งยื่นหน้าเข้ามาในร้านแล้วร้องบอกข่าวพิเศษนี้ให้คนในร้านฟังก่อนจะวิ่งออกจากร้านไปแจ้งข่าวกับร้านที่อยู่ติดกัน

    เมืองคีราวีโดนตีแตกแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วไม้สักจะเป็นอย่างไรบ้าง ประดู่มองถนนหน้าร้านเต็มไปด้วยความกังวล และหญิงสาวรุ่นพี่ผู้มอมเหล้าเขาจนสลบเมื่อคืนนี้ก็เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับคนอีกสามคน

    .

    คุยกับท่านผู้อ่าน

    วันนี้ไม่มีอะไรจะพูดครับ

    ชาลี

    12 พฤษภาคม 2558

    Barbecue Fantasia Facebook Page

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×