ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Barbecue Fantasia

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 18 ดุดันแข็งกร้าว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 471
      17
      13 เม.ย. 58

    ตอนที่ 18 ดุดันแข็งกร้าว

    กล่องไม้ขนาดใหญ่เท่ารถตู้โดยสารถูกเข็นเข้ามาในลานกว้าง นอกจากพนักงานเข็นรถแล้วยังมีผู้คุ้มกันพร้อมอาวุธครบมืออีกสี่คนติดตามมาด้วย ตัวกล่องไม้แม้จะยืดติดเอาไว้กับรถเข็นด้วยเชือกเส้นใหญ่แต่ก็ยังสะเทือนจนล้อพลิกลอยขึ้นจากพื้นหลายครั้ง พนักงานเข็นรถรีบวิ่งออกไปจากเวทีก่อนในขณะที่คนคุ้มกันผู้หนึ่งทำการดึงกลอนเหล็กออกจาฝากล่องด้านหน้า เขารีบวิ่งตามหลังคนอื่นออกจากเวทีไปอย่างรวดเร็ว

    ผู้ชมบนอัฒจันทร์พากันซุบซิบพูดคุยคาดเดาร้อยแปดพันเก้า ต่างจินตนาการกันไปวุ่นวายว่าสัตว์ร้ายที่มิรินจะต้องเผชิญนั้นคือเผ่าพันธุ์เดรัจฉานชาติใด

    มิรินยังคงยืนมือไพล่หลังด้วยท่วงท่าอันงดงามชวนให้เหล่าผู้ชมต้องนับถือในความเยือกเย็นของหญิงสาวผู้นี้ ถ้าเป็นพวกเขาเพียงเห็นกล่องใหญ่กระดอนไปมาก็หวาดหวั่นขวัญผวาสำนึกตัวว่าไม่มีปัญญาต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่ยังไม่เห็นตัวแน่ชัด

    “ท่านคิดว่าในกล่องนั้นเป็นตัวอะไร” ประดู่ชวนคาเรคุย

    คาเรเห็นว่าประดู่ผู้นี้เข้าหาง่ายกว่าไม้สักจึงตอบคำถามเขาอย่างกระตือรือร้น

    “ด้วยความสามารถของข้า บอกได้แต่เพียงว่าสัตว์ในกล่องนั้นจะต้องเป็นสัตว์ล่าเนื้ออันร้ายกาจ เป็นนักลอบโจมตีที่สามารถเก็บซ่อนกลิ่นอายพลังเวทมนตร์ได้อย่างมิดชิด สมควรเป็นสัตว์ประเภทแมวใหญ่เขี้ยวแหลมคมเคลื่อนไหวปราดเปรียว”

    แม้จะไม่สามารถระบุออกมาได้อย่างชัดเจน แต่ก็ถือได้ว่าคาเรมีคนทางในการคาดเดามากกว่าสองหนุ่มหลายขั้น ประดู่และไม้สักแม้จะศึกษาเรื่องสัตว์ต่าง ๆ มาหลายชนิด แต่ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์หายากนั้นถูกปิดกั้นเอาไว้ ไม่สามารถหามาเสริมเติมความรู้ได้ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักล่าอาหารซึ่งมีสถานะเป็นทาสมีน้อยแสนน้อย

    เมื่อได้รับแรงผลักจากภายใน ฝากล่องค่อย ๆ เปิดขึ้นจากด้านล่างสู่ด้านบนตามลักษณะของบานพับ อุ้งเท้าสีขาวลายน้ำตาลไหม้ดันแง้มฝากล่องออกทีละน้อย สัตว์ร้ายภายในค่อย ๆ เปิดเผยร่างกายตัวจริงให้คนทั้งหมดได้เห็น มันคือเสือดาวขนาดใหญ่หลังสูงเพียงเอวมนุษย์ มันเยื้องย่างเท้าอย่างแผ่วเบาดุจก้อนสำลีร่วงหล่น ดวงตากลอกกลิ้งไปมาสังเกตดูรอบตัวโดยไร้ซึ่งความแตกตื่น ไม่คล้ายเดรัจฉานด้อยปัญญาหากแต่เป็นนักล่าผู้เยือกเย็น สิ่งที่โดดเด่นกลับเป็นหางยาวกว่าช่วงลำตัวที่มีเขาสีขาวแหลมคมติดอยู่สุดปลาย

    “นั่นคือเสือดาวหางเขี้ยว เป็นสัตว์ล่าเนื้อที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วแคล่วคล่อง มีเขี้ยวสีขาวที่ปลายหางเป็นอาวุธสำคัญ ในขณะที่ท่านกังวลกับเขี้ยวและกรงเล็บก็จะถูกปลายหางแทงทะลุอกตกตายอย่างมึนงง คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางรับมือมันได้ แต่ครั้งนี้ถือว่าตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบเนื่องจากธรรมชาติของมันเป็นสัตว์ลอบโจมตี เมื่อต้องต่อสู้อย่างเปิดเผยจึงไม่อาจใช้วิธีการเดิมที่พวกมันคุ้นเคยได้อีก”

    “ถ้าอย่างนั้นมิรินก็ได้เปรียบแล้วสินะ” ประดู่ออกความเห็นแต่คาเรส่ายหน้า

    “ถูกเสือหางเขี้ยวลอบโจมตียังจะตายอย่างรวบรัดกว่าเพราะมันจะใช้เขี้ยวหางแทงใส่จุดตายของท่านในทันที แต่ถ้าต้องต่อสู้กันซึ่งหน้ามันได้แต่ทิ่มแทงในจุดที่สามารถกระทำได้ จากความตายอันหมดจดก็จะกลายเป็นปรุพรุนไปทั้งร่าง เสียเลือดเสียชีวิตอย่างทรมาน”

    คำพูดของคาเรทำเอาประดู่ต้องซี้ดปาก ความคิดเป็นกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้เริ่มเกิดขึ้นในใจ เขาทราบดีว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์ที่อ่อนแอ ถ้าหากไม่มีเครื่องมือเข้าช่วยเหลือเกรงว่าแม้แต่หมาจรจัดก็ยังใช้มือเปล่าสู้ไม่ได้ แล้วหญิงสาวตัวเล็กอย่างมิรินจะจัดการกับเสือใหญ่เช่นนั้นอย่างไร

    เสียงควิบควับดังขึ้นเมื่อเสือหางเขี้ยวสะบัดหางอันเป็นอาวุธร้ายของมันผ่านอากาศ ด้วยสายตาของไม้สักและประดู่มองเห็นหางนั้นเป็นเพียงเงาเลือนราง เสียงอย่างเดียวกับแส้สะบัดแหวกมวลอากาศนี้ทำให้ผู้ชมต้องส่งเสียงด้วยความหวดเสียว

    ถ้ามองในมุมอย่างคนธรรมดาปกติ สิ่งที่เห็นตรงหน้าของประดู่นี้ก็ไม่ต่างจากการมองดูคนที่กระโดดเข้ากรงเสือในสวนสัตว์เลย เขาได้แต่คิดจินตนาการว่ามิรินจะมีลูกเล่นเวทมนตร์ช่วยเหลือในการต่อสู้กับสัตว์ร้ายนี้อย่างไร

    หญิงสาวในชุดขาวอมฟ้าสอดมือเข้าไปในกระเป๋าด้านหลัง ดึงเอาด้ายสีขาวติดกระพรวนกลมออกมาสองม้วน เธอใช้สองนิ้วชี้ซ้ายขวาดีดลูกกระพรวนออกไปสร้างเสียงสดใสได้ยินทั่วลานประลองอย่างแจ่มชัด กระพรวนขนาดเท่าหัวแม่โป้งนั้นพลันเคลื่อนที่ไปมาเหมือนมีชีวิต ถึงกับสร้างเป็นลวดลายลูกคลื่นอันน่าตื่นตา

    “โวว เจ๋งว่ะ” ประดู่อุทาน แม้เขาจะได้เห็นถึงความผิดแผกแตกต่างจากมนุษย์ในโลกของตัวเองมาพอสมควร แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงความเป็น “แฟนตาซี” ที่แจ่มชัด ตอนที่พบเจอกับมังกรหรือตอนที่ต้องต่อสู้เนื่องจากจิตใจตกอยู่ในความตื่นตระหนกจึงไม่อาจรับรู้ได้ถึงความคิดของคนที่เฝ้ามองดูเช่นนี้

    “วิชากระพรวนน้ำแข็ง เป็นวิชาเฉพาะของครัวหิมะพิสุทธิ์ คนครัวระดับกลางจะควบคุมได้เพียงหนึ่งลูก การที่นางสามารถควบคุมกระพรานได้สองลูกพร้อมกันถือว่าไม่ใช่ชนชั้นธรรมดา ฟังว่า โชยุ ผู้เป็นบิดาของนางสามารถควบคุมโซ่ติดลูกตุ้มได้สามเส้นพร้อมกัน มิโสะ มารดาของนางควบคุมกระพวนสี่ลูกได้อย่างไม่มีติดขัด”

    ประดู่และไม้สักมองหน้ากัน สาเหตุไม่ใช่วิชาของครอบครัวอาหารญี่ปุ่น แต่เป็นชื่อของพวกเขาที่ชวนให้คันต่อมไตอย่างบอกไม่ถูก

    “นอกจากโชยุ มิโสะ แล้วมีวาซาบิ ซูชิ หรือว่าคาราอาเกะมั้ย” ประดู่ถามเล่น ๆ แต่คาเรกลับเบิกตาโพลง

    “ท่านรู้จักหัวหน้าครัวสะบั้นใจวาซาบิด้วยรึ แต่พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวของกับครัวหิมะพิสุทธิ์ ทำไมท่านจึงยกชื่อของพวกเขาขึ้นมากล่าวถึง”

    “ไม่มีอะไร ๆ … มีคนชื่อออมเล็ตมั้ย” ประดู่ถามเล่น ๆ อีกครั้ง

    “นั่นเป็นนางงามแห่งแดนตะวันตก ฝีมือปรุงไข่เจียวของนางเป็นหนึ่งในแผ่นดิน บุรุษทั่วดินแดนต่างก็หวังว่าจะได้ลิ้มชิมทั้งฝีมือและร่างกายของนางสักครั้ง เพียงแต่นางขายอาหารไม่ขายร่างกาย ทั้งยังรับเฉพาะแขกพิเศษ ถ้าไม่ใช่ผู้กล้าอันทรงเกียรติหรือขุนนางผู้ยิ่งใหญ่แม้แต่โฉมหน้าหรือกลิ่นน้ำมันก็ไม่มีโอกาสได้เชยชมดมดอม”

    คาเรพูดถึงตอนนี้การต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น เสือหางเขี้ยวเดินเข้าหามิรินอาด ๆ เหมือนคนเดินตลาด ไร้ซึ่งกลิ่นอายความรู้สึกของการลอบโจมตีของสัตว์ชนิดนี้ จนกระทั่งมันเดินเข้ามาถึงระยะห่างห้าเมตรจึงย่อตัวลงจนพุงสัมผัสกับพื้น

    มีแต่คนที่ได้เห็นกับตาจึงเข้าใจว่าความเร็วของเสือตัวนั้นเป็นอย่างไร เสี้ยววินาทีที่แล้วมันยังหมอบตัวนิ่ง เสี้ยววินาทีต่อมามันก็หายไปจากคลองสายตา หากแต่มิรินยังมองตามความเร็วของมันได้ทันการ เธอบังคับด้ายสองเส้นสานกันเป็นตาข่ายขึงขวางร่างของเสือหางเขี้ยวเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที แรงพุ่งกระโจนของเสือทำให้ตาขายด้ายเสียรูปแต่ยังแข็งแรงแน่นหนาพอที่จะสกัดกั้นมันเอาไว้

    ใช้ร่างกายของมันปิดซ่อนบัง เสือหางเขี้ยวแทงหางของตนผ่านช่องว่างของร่างแหบริเวณข้างลำตัวเข้าโจมตีมิริน มิรินที่คาดการณ์อยู่ก่อนว่าจะต้องโดนโจมตีด้วยหางที่ยาวกว่าร่างกายมันบังคับเส้นด้ายในชุดที่หางแทงลอดออกมาให้ม้วนรัดพันหางเสือเอาไว้ ปลายเขี้ยวของเสือหยุดอยู่ห่างจากใบหน้าของมิรินไม่ถึงคืบแต่สีหน้าและแววตาของเธอยังสงบนิ่ง แสดงให้เห็นว่าเธอมีความมั่นใจในความสามารถของตนว่าหยุดหางเสือเอาไว้ได้ก่อนที่เขี้ยวจะขูดกรีดใบหน้าอันงดงาม

    เสียงกระพรวนดังกรุ๊งกริ๊งรัวถี่เมื่อมิรินใช้เส้นด้ายพันมัดร่างของเสือหางเขี้ยวเอาไว้จนไม่อาจขยับได้ เสียงเฮโห่ร้องดังขึ้นพร้อมกับการประกาศของอิตาลีโนถึงชัยชนะของมิริน เธอรับผ้าผู้แขนผืนที่สามแล้วเดินเข้าห้องพักไปโดยไม่รอดูการต่อสู้ของผู้อื่นแต่อย่างไร

    “เฮ้ย ไอ้สัก … พวกเราทำไงวะ” ประดู่เริ่มคิดแล้วว่าถ้าต้องเจอกับเสือที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วเช่นนี้เขาจะทำอย่างไร

    “ต้องลองดูก่อน อย่างมากก็ประกาศยอมแพ้แล้วหาทางอื่นเอา อาจจะมีทางหาอาหารทางอื่นที่พวกเรายังไม่รู้ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการเป็นนักล่าอาหารมากก็ได้” ไม้สักซึ่งยึดติดกับความจริงตอบง่าย ๆ ประดู่คิดตามแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย

    “จริงของแก สู้ไม่ได้ก็หนี พวกเราไม่ได้มีศักดิ์ศรีอะไรให้รักษานี่นะ หาทางรอดทางอื่นเอาก็ได้”

    “พวกเรารีบลงไปสู้ให้เสร็จ ๆ ไปเลยดีกว่า” ไม้สักคิดว่าต่อให้รอก็ไม่เกิดประโยชน์

    พวกเขารอไม่นานเสือหางเขี้ยวก็ถูกนำออกไปนอกลานต่อสู้ รถเข็นคันใหม่ถูกเข็นเข้ามายังใหญ่กว่าคันที่แล้วเกือบเท่าตัวทั้งยังดิ้นกระดอนรุนแรงยิ่งกว่าเสือหางเขี้ยวเมื่อสักครู่

    ไม่รอช้า ในขณะที่ผู้แข่งขันลังเลเนื่องจากขนาดของสัตว์ร้าย ไม้สักกระโดดลงไปบนลานกว้างตามหลังด้วยประดู่โดยไม่สนใจสายตาผู้ใด เสียงผู้ชมดังอื้ออึงเนื่องจากพวกเขาทราบว่าทั้งสองเป็นทาสพิการที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ ผู้เข้าแข่งขันอื่นก็พากันมองดูอย่างเคลือบแคลง คุณชายของทอดปาปายังเบะปากเหยียดหยามคิดว่าพวกเขารนหาที่ตาย มีแต่คาเรที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้

    “โอ้ กลุ่มผู้เข้าทดสอบชิงชัน เนื่องจากกลุ่มชิงชันเข้าร่วมทดสอบสองคนพร้อมกัน ดังนั้นการทดสอบจึงต้องยากเป็นสองเท่า นำสัตว์ร้ายเข้ามาอีกหนึ่งตัว” อิตาลีโนสั่งการ ผู้ชมหลายคนถึงกับส่ายหน้าด้วยความเวทนาคิดว่าเด็กหนุ่มทั้งสองคนต้องตายแน่แล้ว แม้จะประกาศยอมแพ้ขอความช่วยเหลือก็ใช่ว่าทางการจะช่วยเหลือได้ทันเวลา

    ระหว่างที่รอกล่องใส่สัตว์อีกหนึ่งกล่อง ไม้สักก็ชักมีดออกมาเตรียมต่อสู้ ประดู่เองก็ยืดกระบองเหล็กเตรียมพร้อม กระเป๋าของทั้งสองยังสะพายอยู่บนหลังในสภาพเดียวกับตอนที่มาเยือนโลกนี้

    กล่องสองใบถูกเปิดออกพร้อมกัน ต่างจากคราวของมิริน ฝาปิดกล่องถูกกระแทกจนพลิกโดยแรงพร้อมกับการกระโจนออกมาของก้อนกล้ามเนื้อใหญ่สองก้อน

    “เช็ด … นี่มันกระทิงชัด ๆ ” ประดู่หลุดหัวเราะออกมา ไม่ใช่การหัวเราะด้วยความขำแต่เป็นการหัวเราะด้วยความรู้สึกยากจะกล่าว

    คำว่ากระทิงของประดู่ไม่เกินความจริงเท่าไรนัก สัตว์ตรงหน้าเป็นวัวตัวใหญ่ขนสีดำเป็นเงาที่มีแต่กล้ามเนื้อเป็นก้อนล่ำ แทนที่จะมีเขาคู่ยื่นออกไปด้านข้างกลับมีเขาเดียวยาวชี้ยื่นมาข้างหน้าเหมือนม้ายูนิคอร์นในเทพนิยาย เพียงแต่เขาของมันเป็นเงี่ยงแหลมอันน่าสะพรึงกลัว

    ไม่ต้องให้ใครบอกทั้งสองก็ทราบในทันทีว่าสัตว์ตรงหน้ามีกำลังมหาศาล ภาพของการวิ่งวัวที่คนโดนงัดโยนขึ้นฟ้าสามารถหาชมได้ไม่ยาก อย่าว่าแต่วัวเขาเดียวตรงหน้ามีมวลกล้ามเนื้อและขนาดใหญ่กว่าวัวที่ใช้ในการวิ่งวัวทั่วไปขั้นหนึ่ง

    “จำที่ข้าเคยสอนได้มั้ย หลบออกข้าง ๆ คำนวณอย่างใจเย็น พวกเรามีร่างกายที่แข็งแรงกว่าเดิมหลายเท่า ถ้าไม่โดนกระซวกตรง ๆ น่าจะพอทนรับแรงกระแทกได้” ไม้สักเคยสอนประดู่เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากการโจมตีด้วยมีและของมีคมมาแล้ว

    “จำได้” ประดู่คิดทบทวนความจำ แต่คนถือมีดกับวัวกระทิงยูนิคอร์นนั้นดูจะแตกต่างกันพอสมควรในความคิดของประดู่

    “ไม่ต้องกลัว พื้นหินแบบนี้วัวมันวิ่งไม่ถนัดหรอก ถ้าเป็นพื้นดินกีบเท้ามันจะจิกลงดินได้ดีกว่า แต่พื้นหินแบบนี้ถ้าหลบพ้นมันจะเสียหลักลื่นไป กลับตัวก็ลำบาก” ไม้สักแนะนำเพื่อนอีกครั้ง

    ไม่ว่าจะมีความเข้าใจมากน้อยเพียงไรประดู่ก็ไม่มีเวลาจะพูดเพราะวัวทั้งสองพุ่งเข้ามาหาพวกเขาแล้ว

    ไม้สักฉีกตัวออกไปด้านข้างเพื่อแยกวัวตัวหนึ่งออกมาทั้งยังหวังว่าจะหลอกล่อให้วัวทั้งสองติดตัวตัวเองเพื่อที่ประดู่จะได้ฉวยโอกาสโจมตี แต่วัวใหญ่คล้ายทำความตกลงกันมาก่อน หนึ่งตัวพุ่งตามไม้สักไป หนึ่งตัวยังตรงเข้าหาประดู่

    หัวใจของประดู่เต้นแรง ฮอร์โมนที่จะหลังเฉพาะยามคับขันอย่างเช่นอะดรีนาลีนถูกสูบฉีดเข้าไปในระบบแม้ร่างกายจะขาดสารอาหารอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ไขมันที่มีอยู่ในร่างกายเปลี่ยนสภาพโครงสร้างด้วยความเร็วเหนือมนุษย์เผาผลาญสร้างเป็นพลังงานส่งไปยังเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายจนประดู่รู้สึกได้

    ความตื่นตัวจากฮอร์โมน การสูบฉีดของโลหิต พลังจากการเผาไขมัน ประดู่พุ่งตัวหลบการขวิดงัดของวัวได้อย่างที่สมองสั่งใจต้องการ เสียงเขาวัวขวิดฉีกอากาศดังไม่ต่างจากการฟาดไม้กวาดเล่นฟันดาบโดยแรง กีบเท้าหน้าของวัวถึงกับลอยขึ้นสูงด้วยแรงมหาศาล ถ้าโดนเขานั้นงัดเข้าตรง ๆ เขาคงไส้ไหลตัวขาดครึ่งในการขวิดครั้งเดียว

    ผู้ชมเองก็ใจเต้นระทึกด้วยความหวาดเสียว คนที่ทนดูไม่ได้ใช้มือปิดหน้าแต่ยังแอบมองลอดผ่านนิ้วออกมา

    ถึงจะดุร้าย แต่วัวก็ยังเป็นวัว มันรู้จักแต่เพียงวิธีการต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง ในตอนที่สองเท้าหน้าของมันตกลงสัมผัสพื้นประดู่ก็หวดกระบองเหล็กเข้าตรงบริเวณเหนือกกหูของมันโดยแรง

    เจ้าวัวตัวใหญ่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะกระบองของประดู่ฟาดกะโหลกของมันจนแตกร้าว ถ้าไม่ใช่ด้วยความหนาของกะโหลกสมองของมันคงได้รับความกระทบกระเทือนโดยแรงจนหมดสภาพ

    ประดู่จะฟาดซ้ำยังจุดเดิมอีกครั้งแต่วัวใหญ่สะบัดหัวออกไปยังด้านตรงกันข้ามกับตัว เขาเห็นเช่นนั้นก็รีบตอบสนองด้วยการสืบเท้าไปข้างหน้าขยับตัวเข้าประชิดติดกับวัว พอดีหลบพ้นการสะบัดขวิดจากด้านข้างได้อย่างหวุดหวิด

    ประดู่ไม่ยอมพลาดโอกาสอันงดงามนี้ เขาฟาดกระบองเข้าใส่จุดเดิมของวัวโดยแรงอีกครั้ง การฟาดสุดแรงครั้งนี้ทำให้กะโหลกของวัวใหญ่แตกแยกออกจากกัน เนื้อมันสมองโดนบดขยี้ วัวใหญ่ทรุดตัวลงกับพื้นเหมือนหุ่นเชิดโดนตัดเชือก

    ส่วนตัวผู้จัดการกับสัตว์ร้ายนั้นหายใจหอบหัวใจเต้นรัวไม่อาจหยุดระงับ เหงื่อไหลออกจนท่วมร่างกายเหมือนคนวิ่งต่อเนื่องนับชั่วโมง เขาหันไปมองดูไม้สักเป็นเพื่อนกำลังเช็ดมีดกับขนวัวใหญ่ที่นอนอยู่กับเท้า หน้าผากของวัวส่วนที่อยู่เหนือเขามีช่องรูที่เลือดไหลหลั่งออกมาเป็นสายเหมือนก๊อกน้ำเปิดไหล

    สภาพอันปลอดโปร่งของไม้สักทำให้ประดู่รู้สึกกลัวเพื่อนคนนี้เป็นครั้งแรก ไม้สักไม่มีเหงื่อไหลออกมาจากขมับเลยสักเม็ด แม้แต่การหอบหายใจก็ยังไม่มี

    การแสดงออกของประดู่แม้จะไม่งดงามแต่ฝีมือของไม้สักกลับสะกดผู้คนจนอยู่หมัด การโจมตีของเขาทั้งเรียบร้อยและหมดจด ฉวยจังหวะที่วัวใหญ่ก้มหัวต่ำงัดเขาขึ้นขวิดขยับตัวหลบหลีกเพียงเล็กน้อยแล้วปักมีดสวนการขวิดของวัว แทงผ่านกะโหลกหนาเข้าสู่เนื้อสมองได้อย่างประจวบเหมาะ

    ควรทราบว่างัวเขาเดี่ยวเหล่านี้เป็นสัตว์ที่มีกะโหลกหนาร่างกายแข็งแกร่ง แม้พลังเวทมนตร์ของพวกมันจะไม่โดดเด่นแต่ร่างกายทนทานยิ่ง ต่อให้ใช้อาวุธเวทมนตร์ชั้นยอดยังไม่อาจแทงทะลุผ่านผิวหนังและกะโหลกหนาของมันโดยง่าย ความแตกต่างก็คือเหล็กคุณภาพสูงซึ่งใช้ตีเป็นมีดของไม้สักที่เหนือล้ำกว่าอาวุธทั่วไป เขาไม่จำเป็นต้องอาศัยพลังเวทมนตร์ในการเสริมความแข็งแกร่งของอาวุธ ใช้แต่เพียงมวลโลหะที่ผ่านความร้อนอันละเอียดอ่อนก็เพียงพอ

    “ไอ้สัก อายุข้าหดไปสามเดือนได้มั้ง รอดมาได้ไงวะ” ประดู่ตรงเข้ามาหาเพื่อน ไม้สักยิ้มให้เขาแล้วกอดคอพาเดินไปยังห้องพักรอการทดสอบรอบสุดท้าย

    “เดี๋ยวแกก็ชิน ข้าเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าผลมันจะออกมาสวยงามแบบนี้ กำลังเป็นจุดเด่นของพวกเรา ต้องพยายามเอามาใช้ให้มากที่สุด”

    ประดู่ระบายลมหายใจ ถ้าเป็นโลกมนุษย์ จะให้เขาออกไปลุยเดี่ยวกับกระทิงแบบนี้คงต้องใช้ปืนจ่อหัวเขาอย่างเดียวเท่านั้นเขาถึงจะยอม

    ไม้สักกลับแตกต่างออกไป เขาพึงพอใจและยินดีที่ความคิดของตัวเองถูกต้อง เขาวางแผนตอบโต้การโจมตีของวัวกระทิงอย่างชัดเจน และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เขาคิด ความมั่นใจในตัวเองของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถในการต่อกรกับสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ได้ ไม่ใช่คนที่รอให้คนอื่นกระทำข่มเหงเพียงอย่างเดียว

    .

    คุยกับท่านผู้อ่าน

    ผ่านด่านที่สามแล้ว เหลืออีกเพียงด่านเดียวก็จะได้เป็นนักล่าอาหารกับเขาแล้ว

    ชาลี

    13 เมษายน 2558

    Barbecue Fantasia Facebook Page

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×