ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOVE SCENE ฉากรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 57


    แรกเจอ





    “เอาพวกเราชนนนน...” เสียงไอ้คุณวิทย์เพื่อนสุดซี้ฉันดังแข่งกับเสียงดนตรีรอบด้านที่ดังกระหึ่ม

    “เย้....ยินดีต้อนรับกลับบ้านเว้ยไอ้เมย์” ยัยน้องเพื่อนซี้สุดอีกคนพูดขึ้น วันนี้เป็นงานเลี้ยงตอนรับฉัน เมย์ฟี่ หรือเมย์ กลับคืนสู่บ้านเกิดเมืองนอน (ใช้คำซะ) หลังจากที่ฉันย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เริ่มเข้าฮายสคูล พอเรียนจบฉันก็ย้ายกลับมาเรียนมหาลัยที่นี่ต่อ ส่วนไอ้พวกที่นั่งสุมหัวกินเหล้ากันอยู่เนี้ยก็เพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่อนุบาลบ้าง ประถมบ้าง บางคนอาจสงสัยว่า พวกแกพึ่งเข้ามหาลัยทำไมเข้าผับได้? คำตอบคือผับนี้เป็นของยัยอ้อน หนึ่งในบรรดาเพื่อนซี้ของฉัน ยัยนี่ก็อ้อนสมชื่อ มันอยากมีผับเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุ 14 มันให้เหตุผลว่าถ้ามันมีของตัวเองมันอยากจะเข้าตอนไหนก็ได้ แล้วมันก็ไปอ้อนบุพการีของมันจนสำเร็จจนได้

    “ขอบคุณพวกแกมากนะเว้ย ดีใจอะที่วันนี้พวกเรา 6 คนมารวมตัวกันได้ มาๆ ชนๆ วันนี้ไม่เช้าไม่กลับ เย้..”

    เวลาผ่านไป 20 นาที ยัยน้องคอพับหัวทิ่มหลับคาโต๊ะเลยจ๊ะ -_- ได้ข่าวว่านางดื่มไปแก้วเดียว คออ่อนจริงๆเล้ยยัยนี่

    “เมย์แกพายัยน้องไปเก็บข้างบนดิ อะนี่กุญแจห้อง”ยัยอ้อนหันมาบอกหลังจากเห็นสภาพยัยน้อง

    “เออๆ พี่คะๆ เดียวช่วยพยุงเพื่อนเมย์ให้หน่อยนะคะ”ประโยคแรกฉันบอกกับยัยอ้อนก่อนจะหันไปบอกพี่พนักงานที่คอยยืนดูแลโต๊ะเราอยู่

    “ห้องไหนครับ”

    “ห้อง 540 คะ พี่นำไปเลยนะคะเมย์ไม่รู้จักทาง”

    ฉันเดินตามพี่พนักงานไปตามทางเดิน ดีนะที่พวกเรากินกันที่ห้องวีไอพีชั้นบน ถ้าขืนกินข้างล่ามีหวังได้เดินเบียดหนุ่มสาวขาแดนซ์คงมีหกล้มหัวทิ่มกันมั้งละ แล้วดูยัยน้องสิ อ่อนไปทั้งตัว นึกว่าไม่มีกระดูกเถอะ เมย์ว่าพี่อุ้มมันไปจะง่ายกว่าไหมคะนั้น -_-

    “ถึงแล้วครับคุณเมย์”

    “อ้อ....คะ” ฉันรีบเดินไปเปิดประตูห้องแล้วให้พี่พนักงานเอายัยน้องไปเก็บทันที “ขอบคุณพี่มากนะคะ” พูดจบก็ยื่นเงินให้พี่เขาไปตามมารยา

    “มีอะไรให้ช่วยอีกบอกได้นะครับ”แล้วพี่เขาก็เดินออกจากห้องไป

    “หมดสภาพเลยนะยัยคุณหนู” ฉันชอบเรียกยัยน้องแบบนี้เพราะที่บ้านมันนะประคบประหงมยิ่งกว่าอะไร ดีนะที่พวกเรา 6คนรู้จักกันตั้งแต่เด็กๆพ่อแม่ยัยน้องถึงได้ไว้ใจให้ยัยนี่ไปไหนมาไหนกับเราได้ ไม่งั้นแค่หน้าปากซอยบ้านมันยังไม่รู้เลยว่ามันจะได้ออกไปไหม ว่าแล้วก็กลับลงไปหาพวกนั้นดีกว่าออกมานานละด้วย ฝันดีนะยัยน้อง

    “อือ...อ่า...เบาๆสิคะ...อืมม..อือ..” ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินกลับก็มีเสียแปลกๆดังขึ้นตรงทางแยกข้างหน้าพอดี ด้วยความอยากรู้เลยเดินเข้าไปดู

    “ทำอะไรกันนะ!!”ภาพที่เห็นมันทำให้ฉันตกใจเลยเผลอโพรงออกไปแบบนั้น ถึงฉันจะไปเรียนเมืองนอกเคยเห็นพวกต่างชาติเขากอดจูบกันตามที่สาธารณะแต่ภาพที่ฉันเห็นตอนนี้มันก็โจ่งแจ้งเกินไปนะบางที ตรงมุมทางเดินมีผู้หญิงคนนึงใส่เสื้อแบบโชว์ไหล่แต่ถูกล่นลงมาถึงเอวจนเห็นบราเลยละ ขานางก็กำลังเกี่ยวเอวผู้ชายไว้ ส่วนผู้ชายนะเสื้อถูกปลดกระดุมออกจนหมดเลยละ แล้วพอมองต่ำลงมือของผู้ชายคนนั้นก็สอดเข้าไปในกระโปรงของผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วย คิดดูเอาละกันไม่ตกใจก็แปลกแล้ว หน้าตาก็ออกจะดีทำอะไรบัดสี

    “ว๊าย...”ผู้หญิงคนนั้นร้องเสียงตกอกตกใจก่อนจะผลักผู้ชายออกจากตัวเบาๆแล้วหันหลังหนี มือก็รนลานรีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ส่วนผู้ชายนะทำท่าหัวเสียมากแล้วก็หันหน้ามาทางฉันก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาใกล้พร้อมๆกับติดกระดุมเสื้อไปด้วย

    “ตาบอดรึไงละ” ห๊ะ 0[]0 ฉันถึงกับทำหน้าเหวอทันทีหลังจากได้ฟังประโยคนั้น “ไม่ต้องมาทำหน้าเหวอ จะเอาเท่าไหร่ก็รีบบอกมา แล้วก็เงียบปากไปซะ เหอะ ใครปล่อยคนนอกเข้าโซนวีไอพีมาเนี๊ย” หน้าก็หล่อนะ ให้ตายปากหม_ มากอะ แล้วดู ดู๊ดูมันทำหน้าเข้า ใจเย็นยัยเมย์ ใจเย็นๆ ผับเพื่อนรักๆ จะไม่สร้างปัญหาๆ ฉันหลับตานับ 1-10 ในใจ

    “นี่มันทางเดินนะคะคุณ จะฟีดจะอะไรกันก็ช่วยกรุณาเปิดห้องด้วยนะคะ มันอุจาดตา เข้าใจตรงกันนะ” ฉันทำหน้าแหย๋งๆใส่ผู้ชายตรงหน้าแล้วเตรียมจะเดินจากตรงนั้นไป

    “เดียว..รับปากมาก่อนว่าเธอจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร”หมอนั่นรั้งแขนฉันไว้ก่อนจะดึงเข้าหาตัวเองแล้วทำหน้าโหดใส่

    “พูดอย่างกับว่าถ้าฉันเอาไปบอกใครแล้วฉันจะได้อะไรงั้นแหละ ไร้สาระอะ” ฉันพยายามสะบัดแขนออกจากมืออีกคน

    “นี่เธอไม่รู้จักฉันหรอ?”

    “เอ๊า...แล้วคุณเป็นใครละฮ๊า ฉันถึงต้องรู้จักคุณด้วย เออคนแบบนี้ก็มีด้วยเว้ย แล้วนี่..แขนนะจะจับอีกนานไหมมันเจ็บ จะปล่อยได้ยังห๊ะ?”หมอนี่ทำหน้าประมาณว่า ยัยนี่มาจากดาวดวงไหนอะไรประมาณนั้นเลยละ จากนั้นก็ค่อยๆคลายมือที่จับแขนฉันออก “เออ..ก็แค่นั้นแหละ ส่วนเรื่องคุณนะฉันไม่เอาไปพูดหรอกแค่นึกถึงก็สงสารตาตัวเองจะแย่อยู่ละ บรือ ดูดิขนลุกเลยอะ” พูดจบก็เตรียมตัวเดินไปอีกรอบ

    “เดียว...” ฉันถึงกับกลอกตาไปมาด้วยความเซ็งสุดขีด หมอนี่มันจะอะไรกันนักกันหนา บอกว่าไม่พูดก็คือไม่พูดดิ วู้ว น่ารำคาญจริง

    “อะไรอี.....”

    แชะ

    “เก็บไว้ เผื่อมีเรื่องของฉันหลุดออกมา ฉันจะได้ตามเล่นงานได้ถูกตัว”พอควักมือถือมาถ่ายรูปฉันเสร็จหมอนั้นหันหลังเดินไปหาผู้หญิงอีกคนที่ยืนรออยู่ข้างหลังทันที แต่ก่อนจะถึงตัวผู้หญิงคนนั้นก็ยังอุส่าหันมาทิ้งท้ายสั่งลาฉันอีกแหนะ “อ้อ...แล้วอย่าให้ฉันเจอเธออีกนะแม่สาวน้อย ไม่งั้น....ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่”ยัง มันยังมีหน้ามาส่งยิ้มกวนเบื่องล่างฉันอีกแหนะ นี่มันวันซวยอะไรของฉันกันเนี๊ยยยยย หึ๊ยยย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×