ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] SUPER JUNIOR LOVE STORY

    ลำดับตอนที่ #21 : - PAGE 90 [KANGTEUK]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.79K
      8
      18 พ.ย. 53













      
     
     1.คิมยองอุน (คังอิน)  / เจ้าของธุรกิจ
    โรงแรมรีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่น
     ปาร์คจองซู (อิทึก) / ปาร์ค เทนชิ ( 天使 ) เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น angel สาขาเกาหลีและญี่ปุ่น ,ครูสอนเปียโน



    Q: ระยะเวลาที่คบกัน
    KI : 6 ปี 8 เดือน
     
    Q: พูดถึงกันและกันหน่อย
    LT : คังอินอ้วน ! แล้วก็ตอนนี้ดูจริงจังมากกว่าแต่ก่อน ตอนนี้ใครพูดถึงเรื่องแต่งงานจะยิ้มหน้าบาน
    KI: น่ารักเหมือนเดิม เวลาพูดถึงเรื่องแต่งงาน จะเขินจนหน้าแดง
     
    Q: ยินดีด้วยนะครับ
    KI : ขอบคุณมากครับ ^____^
    LT : ยิ้มหน้าบานอีกแล้ว..
     
     
    Q: รักกันขนาดนี้เคยทะเลาะกันบ้างไหมครับ
    LT: ปกติ เหมือนคู่รักทั่วๆไป
    KI : เวลาทะเลาะกัน จองซูชอบเถียงเป็นภาษาญี่ปุ่น ผมฟังไม่ออกก็เลยต้องยอมแพ้ ..555
     
    Q. เวลาทะเลาะกันนึกถึงอะไรถึงกลับมาดีกัน
    KI : หลายอย่าง .. เราเคยทะเลาะกัน ไม่สิ ..ไม่ใช่เรียกว่าทะเลาะ ห่างกันไปเลยมากกว่า
     
    Q: เพราะอะไร ?
    LT: ความห่างไกล ไม่เข้าใจกัน ไม่คุยกัน มันก็เลยยิ่งไปกันใหญ่ ตอนนั้นห่างกันไปเลยจริงๆนะ 2 อาทิตย์ที่ไม่คุยกัน ไม่เจอกัน ร้องไห้ไม่หยุดเลย
    KI: ตอนนั้นคือสิ่งที่ผมคิดว่า ผมทำผิดที่สุดในเรื่องความรัก ผมพูดคำว่าขอโทษเป็นล้านครั้งเลย
     
    Q: เล่าให้ฟังได้ไหม
    KI: ก็…
     
     
     




    “ คังอิน เย็นนี้ไปกินข้าวเย็นกันไหม ?”
     
    “ ผม …ติดประชุม ”
     
    “ ไม่เป็นไร …… งั้นแค่นี้นะ ”
     
    “ อืม ขอโทษนะ ”
     
    “ ……………….”
     
     
    อิทึกถอนหายใจพลางกลับมานั่งที่เตียงตามเดิม มือบางหยิบเสื้อผ้าที่รื้อออกมาจากตู้เสื้อผ้าเก็บเข้าที่อย่างเดิมก่อนจะตัดสินใจหยิบกระเป๋าเดินทางออกมา ร่างบางเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่อยู่ในชั้นออกมาพับลงเก็บใส่กระเป๋า ร่างบางพับผ้าไปเรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อน้ำตาที่ไหลลงมาหยดลงบนเสื้อยืดสีขาวลายธงชาติญี่ปุ่น
     
    ตัวนี้คังอินซื้อให้ ..
     
    ตอนนั้นเขาอายจะตายที่จะต้องมาใส่เสื้อผ้าคู่กัน แต่คังอินก็คะยั้นคะยอให้เขาใส่จนได้ พอใส่ก็ถ่ายรุปไม่หยุดหย่อนจนอายคนแถวนั้น มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะพับเสื้อยืดลงกระเป๋า



     
    นานเท่าไหร่แล้วนะ ..เราคบกันมาเกือบ 3 ปีแล้ว
     





    แต่มันอาจจะนานไปแล้วก็ได้ อาทิตย์ที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม เราเจอกันน้อยลง พูดจานับคำได้ เพราะอะไรเราทั้งคู่ต่างไม่รู้สาเหตุ หรือมันเคยชินไปแล้ว
     
    เบื่อ ? หรือ เราจะไปกันไม่ได้ ..
     
    จองซูกดล๊อคกระเป๋าก่อนจะเดินไปหยิบตั๋วเครื่องบินในลิ้นชัก มือบางหยิบมันออกมาเพียงแค่หนึ่งใบทั้งๆที่ในลิ้นชักมีสองใบที่อยู่คู่กัน ร่างบางหยิบโทรศัพท์ออกมาพลางกดเบอร์ที่คุ้นเคย
     
     
    “ พ่อ เทนชิเองจะกลับไปหาที่ญี่ปุ่นแล้วนะ ”
     
     
     
    ……….
    …………………….
    ………………………………………
     
     
    สองวันแล้ว สองวันที่เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากจองซู ไม่มีแม้แต่เมสเสดที่ทุกทีจะดังเข้ามาถึงแม้จะเป็นภาษาเกาหลีแบบแปลกๆเพราะเจ้าตัวยังไม่ค่อยเข้าใจมากนักแต่เขาก็ขำได้ทุกครั้งที่ได้อ่าน ที่คอนโดเขาก็เงียบสนิทไม่มีจองซูที่แอบมาทำอาหารเช้าให้กิน
     
    ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่ได้สนใจจองซูมากนัก มันเพราะอะไรไม่รู้ มันอาจจะถึงจุดอิ่มตัว อะไรหลายอย่างที่เขารู้สึกว่า อยากอยู่เฉยๆไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น
     
    แต่สุดท้ายคังอินก็มาหยุดอยู่หน้าคอนโดจองซูจนได้ คีย์การ์ดในมือเสียบลงไปและทันทีที่ประตูเปิดออก ภายในคอนโดที่ห้องเป็นสีขาว กลับเงียบสนิท มันไม่ใช่สิ่งที่คุ้นเคย ทุกครั้งที่เขามาจะเจอจองซูนั่งอยู่หน้าทีวี ถึงแม่ในมือจะถือหนังสือภาษาเกาหลีตาตากลับจ้องอยู่กับรายการทำอาหารในทีวี
     
    แต่ตอนนี้บริเวณหน้าทีวีเงียบสนิทคังอินเดินไปที่ห้องครัวทุกอย่างเงียบและดูเหมือนจะไม่มีใครใช้ห้องครัวมานานแล้ว ร่างสูงเดินไปที่ตู้เย็นมีลายมือที่เขียนเป็นภาษาเกาหลีไว้แปะใส่โพสอิดติดอยู่
     
    ไปญี่ปุ่นนะ
    ดูแลตัวเองด้วย
     
    คังอินดึงโพสอิดออกมาจากตู้เย็นก่อนจะเดินออกไปจากคอนโด การขับรถเล่นอาจเป็นช่วงเวลาที่หลายคนได้คิดอะไรมากมาย รถสปอตเปิดประทุนสีขาวแล่นไปตามท้องถนนโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มือแกร่งยกขึ้นบีบขมับไปมาก่อนจะวกรถกลับเข้าโซลอย่างดื้อๆ
     
     
    “ คุณคังอิน กลับมาแล้วเหรอคะ ทานมื้อเย็นไหมคะป้าจะได้เตรียม แต่ไม่รู้จะถูกใจรึเปล่า ทุกทีคุณจองซูเป็นทำนี่หน่า”
     
     
    คังอินส่ายหน้าพลางบอกป้าแม่บ้านว่าไม่เป็นไร ร่างสูงเดินไปเปิดตู้เย็นก่อนจะหยิบเบียร์ออกมาจากตู้เย็น ตู้เย็นเขาว่างไปเยอะทุกทีมันจะเต็มไปด้วยผักผลไม้ นม น้ำผลไม้ต่างๆนาน
     
    ไม่ใช่เขาชอบกินแต่เพราะจองซูชอบ..
     
     
    คังอินดื่มเบียร์จนหมดไปหลายกระป๋องก่อนจะล้มตัวลงนอนไปกับเตียงทั้งๆที่เริ่มเบลอแต่ตากลับไม่ยอมหลับลงสุดท้ายก็ฝืนใจหลับพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาจากหางตาทั้งๆที่ทั้งชีวิตของคังอินไม่เคยเสียน้ำตากลับเรื่องอะไรเสียงสุดท้ายที่ได้ยินไปทั่วห้องก่อนที่ร่างสูงจะหลับไปเพราะฤทธิ์แอลกฮออล์
     
    จองซู
     
     
    ……..
    ………………………
    …………………………………..
     
     
     
     
    “ เทนชิอ่า ..ไอ้เจ้าคังอินไม่มาด้วยเหรอ ลูกอยู่คนเดียวมาเกือบสองอาทิตย์แล้วนะ ”
     
     
     
    เสียงของผู้เป็นพ่อดังขึ้นทำให้อิทึกกำลังจัดจานอาหารญี่ปุ่นหยุดชะงัก ไม่มีคำตอบให้ได้ยินมีเพียงแค่อาการส่ายหน้าพร้อมกับแกล้งยิ้มเข้ามากอดออดอ้อนเพื่อให้ผู้เป็นพ่ออารมณ์ดี เดือดร้อนถึงภรรยาที่ต้องมาตีลงบนแขนสามีข้อหาไปถามให้ลูกมันเสียใจทำไม พอจัดการพ่อเสร็จแล้ว ปาร์คยูกิเลยเข้ามากอดลุกชายที่ตอนนี้ใบหน้ามีแต่ความเศร้าหมอง
     
    “ เทนชิลูก ความรักถ้าไม่เข้าใจเราต้องพูดกันนะ อย่าปล่อยจนมันแก้ไม่ได้ ถึงลูกจะหนีมาญี่ปุ่น แต่ใจลูกก็คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา มันก็ช่วยอะไรไม่ได้นะลูก
     
    เมื่อเห็นว่าลูกชายทำท่าจะร้องไห้อีกรอบเลยบอกให้ไปเดินเล่น ไม่ก็ไปไหว้พระให้จิตใจสบายหน่อยก็ดี จองซูเลยต้องออกมาจากร้านเพราะขืนอยู่ในร้านต่อไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เขาเองก็ใจลอยตลอดเวลาทำอาหารผิดๆถูกๆ
     
    อิทึกเดินมาเรื่อยๆก่อนจะหยุดที่วัดใกล้ๆบ้านที่ตอนนี้ดูเงียบสงัดซึ่งแตกต่างจากตอนมีงานเทศกาล อิทึกถกชุดยูกาตะขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวตั้งใจจะเข้าไปไหว้พระข้างใน
     
    ร่างบางนั่งนิ่งอยู่หน้าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของวัดที่ใครๆก็เล่าว่าถ้าโยนเรียนพร้อมกับคำอธิษฐานจะทำให้คำอธิษฐานเป็นจริง มือบางหยิบเหรียญออกมาพร้อมกับกำไว้แน่น เปลืออกตาสีอ่อนหลับลงก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา
     
     
     
     
     
     
     
    “ 私たちと同じ愛を与えてください
     
     
     
     
     
     
    ทั้งคำพูดและการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของคังอินที่ยืนพิงเสาอยู่อีกด้าน บริเวณวัดที่เงียบสงบทำให้ร่างสูงได้ยินคำพูดที่เป็นภาษาญี่ปุ่นชัดเจนแต่คังอินไม่เข้าใจความหมายเลยสักนิด คังอินมองอิทึกลืมตาขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด มือบางปาดน้ำตาก่อนจะโยนเหรียญลงไปในบ่อ แต่ร่างบางกลับไม่ยอมลุกขึ้นเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น
     
     
    คังอินหลับตาลงพลางถอนหายใจ เขาบินมาญี่ปุ่นตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแต่กลับไม่มีความกล้าพอที่จะไปเจอหน้าจองซู
    จองซูจะเกลียดเขารึเปล่า ?
    จองซูจะยังรักเขาอยู่ไหม ?
    หลากหลายความคิดที่ตีกันอยู่ในหัว
     
    สุดท้ายเขาก็แค่ผู้ชายขี้ขลาด ..
     
     
    คังอินลืมตาขึ้นมาอีกที ร่างบางที่คุ้นเคยก็หายไปจากบ่อน้ำตรงหน้าแล้ว คังอินเลยเดินกลับมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเขามาที่นี่ทุกวัน แต่ไม่เคยเข้าไปในร้านเลยสักครั้ง คังอินเลยเดินย้อนกลับไปตามทางเรื่อยๆก่อนจะกดโทรศัพท์กลับไปที่คอนโด
     
    “ ป้าครับ ผมอาจจะอยู่ญี่ปุ่นต่อ ในตู้เย็นมันอาจจะไม่มีอะไรป้าสั่งอาหารมากินได้เลยนะครับ ”
     
    “ หืมม ..อะไรกันคะ ของมีออกเต็มตู้ตั้งแต่คุณไปญี่ปุ่นแล้วค่ะ พอคุณไปญี่ปุ่นก็มีคนเอาของสด ของแห้งทั้ง นม วิตามินมาให้ที่คอนโด พอป้าถามเขาก็บอกว่า คุณจองซูเป็นคนสั่งมาค่ะ บอกว่า สำหรับคุณคังอิน ”
     
    “ ………………………”
     
     
    “ คุณคังอินคะ ..ได้ยินไหมคะ ”
     
    “ ได้ยินครับ ขอบคุณป้ามากครับ ”
     
     
    คังอินยืนพิงกำแพงพลางหลับตาก่อนจะตัดสินใจโทรไปหาเพื่อนอีกคนที่อยุ่เกาหลี และดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับอย่างรวดเร็วเพราะเสียงโทรศัพท์ยังดังไม่ถึงไหน
     
    “จุนโฮ..มีอะไรจะถามเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น แปลประโยคนี้ให้กุหน่อย”
     
    “ จะไปพูดกับแฟนป่าววะ ประโยคไหนล่ะ”
     
     
     
     
    “私たちと同じ愛を与えてください。”
    Watashi-tachi to onaji ai o ataete kudasai
     
     
     
     
     
    คังอินไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเท่านี้มาก่อนแต่เขาก็ไม่คิดจะหยุด สองขาออกแรงวิ่งไปตามทางที่เพิ่งเดินมาเมื้อกี้อากาศที่หนาวเย็นจนแทบขาดใจแต่ก็ไม่สามารถหยุดร่างสูงได้ คังอินหยุดพักเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจไม่ทัน หิมะเกล็ดเล็กๆที่โปรยลงมาทำให้คังอินยกมือรองรับก่อนจะออกแรงวิ่งอีกครั้ง
     
    “ อ้อ ประโยคที่แกบอกมามันแปลว่า ….”
     
     






     
    “ ขอให้เรารักกันเหมือนเดิม ”
     
     
     
     
     


     
     
     
    คังอินเอามือยันกำแพงเมื่อเห็นว่าร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ตรงหน้า มือแกร่งทาบที่อกก่อนจะเปลี่ยนให้มันตกลงข้างตัว ใบหน้าที่เหนื่อยมากๆค่อยๆยิ้มออกมาเมื่อเห็นร่างบางของอิทึกยืนมองหิมะตกอยู่หน้าร้าน สองขาที่วิ่งมาค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นเดินช้าๆ
     
     
     




    “あなたと一緒で私は幸せです。”
    ผมมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับคุณ
     
     
     
     
    “ 好きです。付き合ってください。 ”
    ผมชอบคุณ กรุณาคบกับผมได้ไหมครับ
     
     
     
     
     
    “ 私はあなたが好きです。 ”
    ผมชอบคุณ
     
     
     
     
    จองซูค่อยๆยื่นมมือออกไปรับหิมะเล่น เกล็ดน้ำแข็งที่เริ่มตกลงมาเรื่อยๆทำให้มือบางเริ่มเย็นแต่อยู่ดีดีมือบางก็ถูกกุมไว้ด้วยมือใหญ่ จองซูหันมามองข้างๆเมื่อพบว่าใบหน้าของคนที่คุ้นเคยอยู่ตรงหน้า พร้อมกับอ้อมกอดที่กอดร่างบางไว้แน่น
     
     
    “ จองซู ผมขอโทษ ”
     
    “ ผมขอโทษ ”
     
    “ ขอโทษ ”
     
    “ ขอโทษ ”
     
    “ ขอโทษ”
     
    “ ขอโทษ ”
     
    “ ขอโทษ”
     
     
     
     


     
    “ ผมขอโทษ เรากลับมารักกันเหมือนเดิมนะจองซู ผมรักคุณ ผมรักคุณ”
     
     
     
     
     
     
    จองซูยังคงยืนนิ่งไม่มีคำพูดใดใดออกมาจากปากบางแต่แรงกอดที่กอดคังอินแน่นพร้อมกับอาการซุกหน้าลงกับอกกว้างทำให้คังอินต้องยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษไม่หยุด
     
     
    จนสุดท้าย
    คุณแม่ก็ต้องเป็นคนมายืนกางร่มกันหิมะให้
    เพราะเหมือนทั้งคู่จะไม่ยอมปล่อยออกจากกันง่ายๆ
     


     
     
     
    Q: แล้วหลังจากนั้นเป็นยังไงบ้างครับ
    LT : คังอินโดนพ่อไล่ตีทั่วบ้าน แล้วก็ดูเหมือนจะรักกันมากขึ้นกว่าเดิม คังอินเกาะหนึบเป็นกาวเลย ฮ่าฮ่า
    KI : ผมยังพูดขอโทษจนถึงทุกวันนี้เลย คาดว่าแต่งงานไปแล้วผมก็ยังจะพูดอีก
     
    Q: คู่รักที่มาสัมภาษณ์ด้วยกันวันนี้คุณคิดว่าคู่ไหนที่คิดว่าน่ารักที่สุด
    LT : ชอบคู่เจ้าตัวเล็กๆที่ขายดอกไม้ เห็นอ้อนเอาๆคุณที่เป็นดาราเลยไปไหนไม่รอด น่ารักดี
    KI : คู่ของคุณซีวอน แฟนเขาอยู่ไม่สุขเลย เห็นเถียงกันตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ห่างจากกันเลยนะ
     
     
    Q: ขอแสดงความยินดีอีกครั้งนะครับ สำหรับงานแต่งงานที่จะเกิดอาทิตย์หน้า
    KI: ^__________________________^
    LT : เลิกยิ้มได้แล้วน่า !




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×