คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] :: series 3 : Secret is my hug ::
Secret is my hug
I' ve changed ever since the day I've met you
I keep thinking abort yot
because I love you so much
“ ซุ้มเราขายดีเพราะมีนักดนตรีมาดีดกีตาร์ร้องเพลงให้ฟัง ” จีฮยอนพูดอย่างอารมณ์ดีเมื่อวันนี้คณะศิลปกรรมมีงานแค่ละเอกก็มีการเปิดร้านขายของขายอาหาร ซุ้มเอกการแสดงมีอีทงเฮใส่หมวกเชฟพร้อมกับยินยิ้มแป้นขายเค้กอย่างสนุกสนาน เก้าอี้ตัวข้างๆมีเพื่อนสนิทกันมากๆอย่างคยูฮยอนดีดกีตาร์เบาๆ ผู้หญิงบางคนรีบปรี่เข้ามาใน้ร้านเพื่อซื้อขนมเค้กแต่นั่นคือข้ออ้างที่จะได้เห็นเดือนดุริยางค์ชัดๆ แต่สำหรับผู้ชายกลับคิดว่าไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปเฉียดคนขายน่ารักๆเลยแม้แต่น้อยเพราะแค่เผลอมองทงเฮนานไปหน่อยไอ้คนดีดกีตาร์จะเงยหน้าขึ้นมามองจนคนโดนจ้องต้องยอมแพ้ถอยกลับไป
สายตาคยูฮยอนเหมือนพร้อมจะฆ่าคนได้เลยนะ -*-
“ กามเทพทงเฮ ขอเค้กชอคโกแลต 2 อัน ” แทคยอนที่เดินตรงเข้ามาหาโดยที่ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือคงเพราะเห็นว่าเมื่องานเปิดคณะได้เห็นทงเฮที่เล่นเป็นกามเทพแล้วน่ารักดีเลยอยากจะรู้จักคนน่ารักๆแห่งศิลปกรรมกับเขาบ้าง
“ ได้ ๆ”
“ กามเทพน่ารักๆอย่างนี้มีแฟนรึยัง ”
“ ไม่มี ”
“ งั้นขอจีบได้ไหม ”
“ ไม่ได้ ”
“ ทำไมล่ะ ”
“ เพื่อนหวง ”
ทันทีที่จบประโยคคยูฮยอนหยุดดีดกีตาร์แล้วเงยหน้ามองแทคยอนพร้อมกับยิ้มให้โอเคแทคยอนตัวโตกว่าหมอนี่ล้านเท่าแต่กลับรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่พบเจอมาร่างสูงได้แต่ยิ้มแหยๆก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปรับถุงขนมเค้กจากมือทงเฮ
“ ไว้มาซื้อใหม่นะ ” อีทงเฮยื่นมือออกไปโบกมืออย่างเริงร่าโดยมีแทคยอนพยักหน้าอย่างกลัวๆเพราะคนที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ขนาดไม่ได้พูดอะไรสักคำยังรู้สึกถึงคำว่า
“อย่ามาให้เห็นหน้าอีกไม่งั้นตายแน่นอน ! ”
I'm just an ordinary guy,
but full of truth and sincerity.
“ โอ๊ยยย แถวร้านเราจะยาวไปไหนถ้าฉันขายนี่จะมีคนซื้อขนาดนี้ไหมเนี่ย ” ลิซซี่ยกมือบังแดดเพื่อมองแถวคนต่อแถวซื้อน้ำปั่นของเอกนาฏศิลป์สากล แน่นอนลิซซี่ทำหน้าที่แค่หั่นแอ๊บเปิ้ลอยู่ข้างๆแต่คนขายจริงๆคือ อีฮยอกแจที่ดูจะสนุกสนานกับการปั่นน้ำต่างๆนานาชนิด ฮยอกแจไม่เคยทำน้ำปั่นแต่พอเริ่มทำก็สนุกดี ไอ้คนที่มาซื้อก็ไม่ได้สนใจว่ารสชาติน้ำมันจะเป็นยังไง กินได้กินไม่ได้ผสมนู่นผสมนี่มั่วไปมั่วมา แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของฮยอกแจมันทำให้ลืมรสชาติอะไรทั้งหมดได้
บางทีคนสั่งก็เบลอๆสั่งมั่วๆ แอ็ปเปิ้ล สตอเบอร์รี่ ปีโป้ ใส่ลงไปให้หมด
“ ได้แล้วครับ น้ำส้มใส่กีวี่ ” ฮยอกแจยื่นแก้วน้ำให้คนที่สั่งไว้ถึงแม้อากาศจะร้อนแต่ฮยอกแจก็ยังคงสนุกสนานยิ้มจนตาปิดลูกค้าจากต่างคณะก็เลยอารมณ์ดีไปด้วย
“ ป๊อปจริงๆ ฉันขายไม่ออกเลย ” ลิซซี่หั่นสตอเบอร์รี่ไปบ่นไปเลยโดนฮยอกแจดึงผมที่มัดจุกไว้แรงๆลิซซี่เลยยกมีดขู่ทำท่าจะแทงฮยอกแจเลยหัวเราะหลบไปหลบมาเล่นกันอยู่สักพักคนที่เดินมาสั่งน้ำตรงหน้าทำให้ลิซซี่สะกิดฮยอกแจแรงๆให้หันไปดู
ยองฮวา
“ ขายดีนะเนี่ย ”
“ ก็เรื่อยๆ สั่งอะไรดีล่ะ ”
“ เอาคนขายได้ไหม ”
“………………”
ลิซซี่ทำเสียงแซวฮิ้วเบาๆก่อนจะยกมือทำท่ามีดปาดคอพลางบอกว่า ตายแน่ๆ ฮยอกแจยังไม่ทันได้พูดอะไรกลับไปอยู่ดีดีคนที่นอนเอาผ้าห่มคลุมหน้าเพราะแสงแดดส่องอยู่ตรงเก้าอี้ด้านหลังฮยอกแจก็ลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเสื้อชอปวิศวะมาสวมก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างๆฮยอกแจ
ชเวซีวอน..
“ แดดมันร้อน นอนไม่หลับแล้ว ” ฮยอกแจไม่รู้ว่าจริงหรือมันคือข้ออ้างแต่สายตาซีวอนที่เหลือบมองยองฮวาทำให้ฮยอกแจได้แต่ยืนนิ่งๆ ซีวอนยกมือขึ้นจับผมฮยอกแจที่มันอยู่ด้านหน้าเบาๆก่อนจะหยิบหนังยางขึ้นมามัดจุกให้หลวมๆก่อนจะยกมือตีหน้าผากร่างบางเบาๆ
“ หัวเหม่ง ”
ฮยอกแจขมวดคิ้วทำท่าจะดึงออกแต่ซีวอนก็จับมือไว้ไม่ให้เอาออกอยู่ดีฮยอกแจเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ก่อนจะหันมามองยองฮวาที่ยืนหน้านิ่งอยู่หน้าร้าน
“ ยองฮวาจะเอาน้ำอะไร ”
“ สตอเบอร์รี่ก็ได้ ”
“ อยากทำบ้าง น่าสนุก ” อยู่ดีดีชเวซีวอนก็เสนอขึ้นมาขอเป็นคนทำแก้วนี้เองฮยอกแจเลยหยุดมือที่กำลังจะหยิบสตอเบอร์รี่แล้วซีวอนก็คว้าที่ตักจัดการทำเองเสร็จเรียบร้อยโดยมีลิซซี่ยืนหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆฮยอกแจ
“ ฮยอกแจ ขอถามตรงๆเลยนะ ”
“ ตอนนี้ฮยอกแจยังไม่มีใครใช่ไหม ”
“ ยังไม่มี ”
“ งั้นผมขอจี..”
“ ยังไม่มีใครแต่ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ชอบใครนะ ”
เพราะฮยอกแจบอกออกมาก่อนที่ยองฮวาจะพูดจบประโยคทำให้เดือนคณะนิติศาสตร์เลือกที่จะเงียบสายตามองชเวซีวอนที่กำลังเทน้ำสตอเบอร์รี่ใส่แก้วใส่หลอดแล้วยื่นแก้วมาให้พร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งทียองฮวาได้แต่จิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะคว้าแก้วน้ำแล้วเดินออกไป
“ ยิ้มอะไร ” ฮยอกแจเงยหน้ามองซีวอนที่ยิ้มซะจนลักยิ้มบุ๋มลงอย่างเห็นได้ชัด
“ ยังไม่มีใครแต่ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ชอบใครนะ ”
“ ไมได้พูดชื่อนายสักคำ ”
“ รู้แล้วกันน่า ”
ฮยอกแจเม้มปากแล้วแกล้งทำเป็นสนใจลูกสตอเบอร์รี่ตรงหน้าซีวอนได้แต่หัวเราะแล้วหยิบลูกสตอเบอร์รี่ขึ้นมาใกล้ๆแก้มฮยอกแจพลางบอกว่าแก้มแดงกว่าสตอเบอร์รี่แล้วฮยอกแจเลยแกล้งดันซีวอนให้ออกไปไกลๆ จนลิซซี่เคาะมีดเรียกความสนใจของคนทั้งคู่ให้กลับมา
“ นี่ ไปจีบกันหลังร้านเลยไป ฉันขายเอง โอ๊ย อิจฉาพวกมีความรัก ”
To love is to risk not being loved in return.
To hope is to risk pain.
To try is to risk failure, but risk must be taken,
because the greatest hazard in life is to risk nothing.
“ ไง ..ไปเฝ้าแฟนกันมา กระโดดต่อยใครไปบ้างรึเปล่าวะ ” คังอินทักซีวอนและคยูฮยอนที่เดินเข้ามานั่งตรงม้าหินหน้าคณะวิศวะ
“ไปช่วยเขาขายของเฉยๆ ”
คังอินเบะปากตอบโคตรบิดเบือนความจริงซองมินถามถึงเจ้าเด็กแคระคยูฮยอนเลยบอกว่าเก็บร้านอยู่เดี๋ยวตามมาคยูฮยอนเลยยื่นถุงขนมเค้กที่ทงเฮเก็บไว้ให้ ซองมินกับคังอินเลยหันมาสนใจคัพเค้กหน้าตาน่ารักตรงหน้าแทน นั่งกินเค้กกันอยู่ดีดีแก้วน้ำส้มปั่นก็วางลงตรงหน้าซีวอน ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาก็เจอฮยอกแจที่ยืนนิ่งๆอยู่
“ ลำเอียง มีแก้วเดียวเหรอ ” คังอินแกล้งถามฮยอกแจยิ้มๆ
“ แล้วทำไมวันนี้ไม่ไปซื้อล่ะ ”
“ ก็ไม่มีใครต้องไปเฝ้าเหมือนไอ้ซีวอนนี่ ”
“ มั่วแล้ว เฝ้าอะไร ไม่ไปซื้อเอง อย่ามาๆ ..”
ซีวอนตบๆเก้าอี้ให้ฮยอกแจนั่งลงข้างๆก่อนที่จะหันไปบอกชอนดุงที่มาหาเพื่อนคณะนี้มาว่าจะรออยู่ตรงนี้ ซีวอนยกน้ำส้มขึ้นมาดื่มก่อนจะยื่นให้ฮยอกแจดื่มบ้างแต่สายตาคนในโต๊ะที่มองอยู่ทำให้ฮยอกแจส่ายหน้ายิ้มๆ คังอินเลยแกล้งพูดลอยๆ จะจีบกันตรงนี้เลยก็ได้ จะทำท่าเป็นไม่เห็นให้
ฮยอกแจกับซีวอนได้แต่ฟังซองมินกับคังอินพูดเรื่องนู้นเรื่องนี้จนกระทั่งทงเฮที่วิ่งมาแล้วกระโดดกอดคยูฮยอนจากด้านหลังเช่นเคยร่างสูงดูจะเคยชินไปซะแล้วเพราะฮยอกแจมานั่งด้วยทำให้ที่นั่งไม่พอ คยูฮยอนละสายตาจากเกมส์ในโทรศัพท์แล้วรั้งให้ทงเฮนั่งลงบนตักแล้วเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ต่อ ฮยอกแจมองคยูฮยอนที่สอนให้ทงเฮเล่นเกมส์อยู่แล้วหันมามองหน้าซีวอน ร่างสูงยักไหล่
“ เรื่องปกติ มันเป็นเรื่องของเพื่อนสนิทกันมากๆ” ซีวอนบอกฮยอกแจเลยได้แต่ยิ้มๆ จนทงเฮชะโงกหน้ามาทักฮยอกแจพร้อมกับโบกมือไปด้วย
คังอินมองคยูฮยอนและทงเฮที่ดูจะเล่นเกมส์สนุกสนานกันอยู่สองคนแล้วหันมามองฮยอกแจกับซีวอนที่นั่งเฉยๆร่างสูงหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่มจนคังอินถอนหายใจนี่มันคืบหน้าอะไรบ้างหรือยังวะเนี่ย ท่าทางก็เหมือนเพื่อนนั่งด้วยกันปกติ คนภายในมองมาก็คงเหมือนเพื่อนโรงเรียนเดียวกันมานั่งคุยกันมากกว่า เพราะคิดอะไรเพลินๆทำให้มือคังอินเผลอปัดถุงขนมตกลงไปที่พื้นคังอินเลยก้มลงไปเก็บจังหวะที่ก้มลงไปเก็บขนมใต้โต๊ะสายตาของคังอินก็เหลือบไปเห็น
มือของซีวอนที่จับประสานสอดนิ้วไว้กับมือของฮยอกแจไว้แน่น
โอเค …รักกันแบบแคร์สื่อมันก็น่ารักดี ^^
“ แพ้แล้วพาล ไอ้เด็กแคระ คยูฮยอนไปเห็นความน่ารักมันตอนไหนเนี่ยห๊ะ ” ซองมินที่เล่นเกมส์แข่งกับทงเฮแต่พอเขาชนะไอ้เจ้าเด็กแคระก็ทำท่าฟึดฟัดจะเล่นใหม่ไม่ยอมแพ้สักที
“ คยูฮยอนบอกว่าฉันน่ารักตลอดเวลา เป็นเพื่อนที่หน้าตาดีที่สุด หล่อกว่าอีซองมิน ”
“ ไอ้คยูฮยอนมันยังไม่พูดอะไรสักคำ ”
“ คยูฮยอนต้องพูดอย่างนี้อยู่แล้ว ”
“ ถามจริงๆคยูฮยอน ทงเฮน่ารักตอนไหน ?”
“ ตอนเมา ”
พอจบประโยคซองมินขมวดคิ้วทันควันอะไรวะ อีทงเฮคออ่อนมาก เลยไม่ค่อยได้กินเหล้าเวลาไปเที่ยวก็กินแต่น้ำอัดลมแล้วคยูฮยอนไปเห็นไอ้เด็กแคระนี่เมาได้ยังไง ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมายังไม่เคยเห็นเมาสักทีซองมินเหล่ตามองไอ้เด็กแคระที่อยู่ดีดีก็เงียบไปแต่แก้มใสแดงกล่ำ
“ ตอนเมานี่คงจะมีอะไรพิเศษแน่ๆใช่ไหม ”
“ เมาแล้วก็มึนไง อีซองมิน เหล้าทำให้เมา ” ทงเฮเถียงซองมินหน้าแดงๆเลยโดนแหย่ยิ่งกว่าเดิมจนคยูฮยอนที่นั่งฟังอยู่บอกบางอย่างที่ทำให้ทงเฮเอื้อมมือมาปิดปากคยูฮยอนจนคยูฮยอนหัวเราะเพราะไอ้เด็กแคระหน้าตาแดงกล่ำแทบระเบิด
“ เหล้าทำให้เมา ความเมาทำให้กล้า ”
I would rather have one kiss from her mouth,
one touch her hand,
than eternity never touch her.
“ เด็กคณะนี้โคตรหน้าตาดี กูนึกว่าอยู่ในค่ายเพลงสักค่าย ” คังอินที่ยินพิงรถซีวอนมองดูเด็กคณะศิลปกรรมที่เดินผ่านไปผ่านมาจนซีวอนที่ยืนอยู่ข้างๆพยักหน้าเห็นด้วย จนกระทั่งฮยอกแจที่วิ่งออกมาจากตึกแต่ใส่เสื้อกล้ามสีกล้ามสีดำสำหรับเรียนเต้นไม่ได้อยู่ในชุดธรรมดาทั่วไปอย่างทุกวันทำให้คนที่นั่งอยู่ตลอดทางหันมามองกันเป็นจุดเดียว
“ จะขาวไปไหนวะ ” คังอินพูดออกมาเบาๆเลยโดนซีวอนตบกระบาลเข้าให้
“ เอาไป ชีทของนายภาษาประหลาดๆ” ฮยอกแจยื่นชีทที่เผลอหยิบติดมือมาด้วยตอนเช้าให้กับซีวอน ก่อนที่ฮยอกแจจะยื่นบัตรอะไรสักอย่างให้ซีวอน
“ อะไร ”
“ มาดูด้วย ”
ซีวอนมองบัตรในมือมันเป็นบัตรคล้ายๆการแสดงเต้นอะไรสักอย่างคงเป็นภาคปฏิบัติของคณะนี้และเปิดให้คนเข้าชมด้วย ซีวอนพยักหน้าให้เลยโดนคังอินแซวว่า ลำเอียงอีกแล้วให้ใบเดียวตลอด ฮยอกแจเลยบอกให้คังอินไปซื้อคณะศิลปกรรมจะได้มีเงินมาบำรุงคณะบ้างวิศวะสร้างตึกเอาๆ รวยจะตาย
“ ไปเรียนต่อก่อนนะ ”
“ รีบขึ้นตึกไปเลย ”
“ จะไปซื้อน้ำก่อน ”
“ บอกว่าให้ขึ้นตึก ”
“ ดื้อ !”
“ เออ !”
“ บอกว่าให้ขึ้นตึก พูดไม่รู้เรื่องจับจูบตรงนี้เลยนะ !”
“ ไอ้บ้า ขึ้นก็ได้ ! ”
ซีวอนทำท่าจะพุ่งเข้าไปจริงๆเลยทำให้ฮยอกแจตอบตกลงจนร่างสูงหัวเราะเพราะท่าทางฮยอกแจเหมือนลูกแมวที่กำลังโกรธ ซีวอนพูดอะไรกับฮยอกแจสองสามประโยคก่อนที่ฮยอกแจจะวิ่งขึ้นตึกไป ทันทีที่เข้ามานั่งในรถคังอินหันมามองหน้าซีวอนที่หันมามองคังอินด้วยเช่นกัน
“ ถามตรงๆ มึงเคยได้มากกว่าจับมือฮยอกแจไหมวะ ”
“ ถามทำไม ?”
“ ก็กูว่าแปลก คนเราก็อยากจะกอด หอม จูบ มีอะไร กับแฟนตัวเองหันทั้งนั้น ฮยอกแจขาวขนาดนั้น มึงอดใจได้ไงวะ ”
“ กูกับฮยอกแจยังไม่ได้เป็นอะไรกันนิ ”
“ มันก็ต้องมีบ้างล่ะวะ ”
ซีวอนไม่ได้ตอบอะไรคังอินร่างสูงได้แต่ยิ้มๆก่อนจะเลี้ยวรถเข้าวิศวะเพราะมีวิชาที่ต้องเรียนตลอดทั้งวัน พอจบคลาสห้องชมรมดนตรีก็ดูจะครึกครื้นมากเป็นพิเศษเพราะวันนี้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทงเฮพยายามจะเล่นกีตาร์ตามที่ซองมินสอนพอดีดไม่ได้ก็โวยวายแล้วหันไปเกาะคยูฮยอนหนึบ
“ เจ็บนิ้วแล้ว ไม่เรียนแล้ว ”
“ เออ อยู่เฉยๆไปเถอะมีแฟนอย่างคยูฮยอนก็เหมือนอยู่กับเครื่องดนตรีแล้ว ”
“ มีเพื่อนอย่างคยูฮยอน อีซองมินพูดผิดตลอด ”
ซองมินเบะปากอย่างหมั่นไส้ปล่อยให้ทงเฮนั่งมองคยูฮยอนนั่งเล่นคีย์บอร์ดอยู่อย่างนั้น เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้คังอินกระเด้งตัวขึ้นไปรับขนมจากพี่อิทึกที่ไปซื้อมาให้ก่อนจะขอตัวไปกับเพื่อนรอเวลาคังอินเลิกซ้อม มือเบสรับขนมจากแฟนมาแล้วรั้งพี่อิทึกเอาไว้หอมแก้มฟอดใหญ่จนทุกคนส่งเสียงแซว ทันทีที่พี่อิทึกออกจากห้องไปแล้วคังอินเลยหันมายักคิ้วให้เพื่อนก่อนจะหันมามองซีวอนที่มองก่อนอยู่แล้ว
“ อิจฉาอ่ะดิ คยูฮยอนหอมแก้มไอ้เด็กแคระให้ซีวอนมันอิจฉาหน่อย ”
“ เพื่อนกันเหอะ มาหอมแก้มอะไร ” ไอ้เด็กแคระเถียงทันควันจนคยูฮยอนหัวเราะออกมาแล้วยื่นมือมาหยิกแก้มทงเฮแรงๆจนเป็นรอยแดงขึ้นมาเจ้าตัวร้องโวยวายวิ่งขึ้นไปส่องกระจก
ซีวอนยักไหล่ก่อนจะตีกลองไปตามเพลงที่เปิดทื้งไว้เวลาผ่านไปพอสมควรต่างคนต่างแยกย้ายต้องกลับบ้านคยูฮยอนกอดอกมองทงเฮที่หลับไปกับโซฟาพยายามปลุกเท่าไหร่ก็อิดออดไม่ยอมตื่นจนคยูฮยอนให้ทุกคนกลับไปก่อนเดี๋ยวตามไป ซีวอนเลยโบกมือแล้วเดินลงตึกจนกระทั่งซีวอนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมหนังสือเรียนไว้ที่ห้องชมรมเลยเดินกลับขึ้นไปเอา มือแกร่งตั้งใจจะเปิดประตูออกแต่ช่องตรงหน้าต่างทำให้ร่างสูงเลือกที่จะหยุดอยู่หน้าประตู
คยูฮยอนที่นั่งฟังเพลงอยู่ตรงด้านหน้าโซฟาหันมามองเจ้าเด็กแคระที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ก่อนที่จะชะโงกหน้าเข้าไปกดจมูกลงบนแก้มใสของทงเฮเบาๆจากนั้นคยูฮยอนยกมือปัดผมที่ปิดหน้าให้เจ้าเด็กแคระที่นอนหลับไม่ได้รู้เรื่อง
ซีวอนยิ้มบางๆก่อนจะเดินหันหลังกลับ
ค่อยมาเอาหนังสือเรียนพรุ่งนี้ก็ได้มั้ง …
If you love someone,put their name in a circle,
instead of a heart,because hearts can break,
but circles go on forever.
“ วันนี้อารมณ์ดีหรือไง เห็นยิ้มตลอด ” ฮยอกแจเอ่ยถามซีวอนเมื่อเห็นร่างสูงเอาแต่มองหน้าเขาและยิ้มตั้งแต่ไปรับเขาที่คณะนี่ขนาดอยู่ในร้านอาหารก็เอาแต่ยิ้มและหัวเราะอาหารก็กินบ้างไม่กินบ้าง
“ ก็นิดนึง ”
“ นี่ฮยอกแจ ”
“ หืม ?”
“ ไม่มีอะไร ”
ฮยอกแจขมวดคิ้วพลางถามว่าซีวอนไม่สบายรึเปล่าวันนี้ดูประหลาดๆทั้งวัน ซีวอนส่ายหน้าก่อนจะตักอาหารให้ฮยอกแจกินบ้างจนกินข้าวเสร็จซีวอนก็มาส่งฮยอกแจที่บ้านตามปกติแต่วันนี้อยู่ดีดีซีวอนก็เดินลงมายืนพิงรถมองฮยอกแจที่กำลังจะเข้าบ้าน
“ ไม่เป็นอะไรแน่นะ ” ฮยอกแจเดินเข้ามาถามเพื่อความแน่ใจซีวอนส่ายหน้าไปมาก่อนจะยื่นมือมาจับมือฮยอกแจไว้หลวมๆแล้วรั้งให้มายืนข้างหน้า
“ ฮยอกแจ ”
“ อะไร วันนี้เรียกชื่อทั้งวันเลยนะ ”
“ ขอกอดหน่อยได้ไหม ”
“ …………………….”
ฮยอกแจเงียบลงไปเมื่อได้ยินซีวอนไม่ได้รอฟังคำตอบร่างสูงรั้งให้ฮยอกแจเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดซีวอนไม่ได้กอดฮยอกแจแน่นๆแต่แค่กอดให้รู้ว่ากอด ฮยอกแจเม้มปากแน่นมือทั้งสองข้างที่ปล่อยลงข้างลำตัวค่อยๆยกขึ้นกอดซีวอนไว้หลวมๆ ซีวอนยิ้มจนลักยิ้มบุ๋มเมื่อรู้สึกว่าฮยอกแจก็กอดตอบเขาเช่นกัน ร่างสูงเลยกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ฮยอกแจเองก็ได้แต่ยิ้มเมื่อรู้สึกถึงแรงกระชับถึงอ้อมกอด
ไม่มีคำพูดใดๆทั้งสิ้นมีแค่อ้อมกอดอุ่นๆก็พอแล้วตอนนี้
ซีวอนไม่รู้ว่าความรักระหว่างคนอื่นมันจะเป็นยังไงรู้แค่ว่าตอนนี้เวลานี้เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากมายจากฮยอกแจ ความรักของซีวอนจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปอย่างนี้ทุกวัน ไม่เร่งรัดแค่ทำทุกๆอย่างให้มีความสุขก็พอแล้วจริงๆ
Make a wish... make a wish...
For you... the one I love... and last forever...
I love you...
Never Ending story
ความคิดเห็น