คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] :: series 2 : Secret is only u and me::
Secret is only u and me
Not strange if you see some of them have all day long with quarrel.
Not strange if you see some of them always sweet.
“ คบกับฮยอกแจยัง ”
“ ยัง ”
คังอินทำหน้าเซ็งจนแทบจะเขวี้ยงเบสทิ้งจีบกันขนาดนี้ก็น่าจะตกลงปลงใจกันได้ไม่วายมีการขู่ซีวอนอย่างน่ากลัวไว้อีกชักช้าเป็นหอยทากคลานแล้วเมื่อไหร่จะได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หนำใจฮยอกแจขาวน่าฟัดขนาดนั้นโดนคนตัดหน้าไปจะทำยังไง น่าเสียดายตาย
คำตอบที่ได้คือคังอินโดนไม้กลองซีวอนตีหัวแรงๆ 2 ทีโทษฐาน ลามปาม !
คังอินไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากนักดูก็รู้ว่าชอบกันแต่ก็ไม่ยอมตกลงเป็นแฟนกันสักทีซองมินเองก็พยายามถามแล้วถามอีกยกเว้นแต่คยูฮยอนรายนั้นอาจจะเข้าใจกว่าใครทั้งหมดเพราะความสัมพันธ์ของคยูฮยอนและทงเฮเองก็ไม่ต่างจากซีวอนและฮยอกแจเท่าไหร่แต่ก็ใกล้ชิดกันมากกว่า
ตัวติดกัน 24 ชั่วโมงห่างกันไม่ได้เลยทีเดียว
เวลาพักช่วงกลางวันเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนวุ่นวายมากที่สุดกว่าจะหาที่นั่งว่างๆในโรงอาหารที่คนล้นแทบทะลักชมรมดนตรีสากลหาที่ว่างได้ก็พากันนั่งลงโดยซองมินอาสาเฝ้าโต๊ะให้เพราะเห็นคนต่อแถวที่ซื้ออาหารแล้วอยากจะเป็นลม แค่เพียงไม่นานเจ้าเด็กแคระก็วิ่งมาหาที่โต๊ะโถมตัวใส่คยูฮยอนพร้อมกับกอดคอจากด้านหลังไว้แน่น
“ ถูกล๊อตเตอร์รี่หรือไงไอ้เด็กแคระ อยู่ดีดีวิ่งมากอดแฟน” ซองมินมองอาการยิ้มจนตาปิดของทงเฮแล้วถามขึ้น
“ กอดเพื่อน ”
“ เออๆ เพื่อนรักสุดใจ แล้วดีใจอะไรมา ”
“ ได้เล่นละครเวทีเป็นตัวจริงแล้วนะ คยูฮยอน ฉันได้เล่นเป็นกามเทพด้วย” อีทงเฮกระโดดเหย็งๆอย่างดีใจมือก็กอดคอคยูฮยอนไปด้วยซองมินกลัวคยูฮยอนจะขาดใจตายไปซะก่อนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะคยูฮยอนก็เอียงคอคุยกับทงเฮจนซองมินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้
เอาเถอะ เพื่อนกันแบบนี้ก็น่ารักดี
ซีวอนนั่งเคาะนิ้วกับโต๊ะกินข้าวแต่สายตามองไปยังโต๊ะของกลุ่มศิลปกรรมที่นั่งกันเต็มโต๊ะหน้าตาในกลุ่มเหมือนพวกดาราไอดอลชายหญิงเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดียกเว้นอยู่คนหนึ่งที่หน้าตาผิดแปลกไปจากชาวบ้าน
ยองฮวา
ประเด็นคือมันจะไม่อะไรมากถ้ายองฮวาจะเรียนนิติแต่กลับเสนอหน้ามาอยู่กลุ่มนี้ได้และประเด็นของประเด็นคือทำไมมันจะต้องมานั่งข้างฮยอกแจที่นั่งกินน้ำอยู่หัวโต๊ะ นอกจากกลุ่มนี้จะเด่นเรื่องหน้าตาแล้วเสื้อผ้าหน้าผมเครื่องแต่งกายแต่ละคนเหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารโดยเฉพาะสีผมของฮยอกแจที่สว่างจนแทบจะกลืนไปผิวขาวๆนั่นมันทำให้คนอื่นเห็นฮยอกแจได้ง่ายตรงสีผมที่สว่างมากๆนั่นแหล่ะ ยิ่งทำสีนี้ยิ่งเหมือนเด็กผู้หญิง
อยู่ดีดีซีวอนก็ลุกขึ้นทุกคนในโต๊ะเงยหน้ามองซีวอนที่อยู่ดีดีก็ลุกออกจากโต๊ะแล้วค่อยๆเดินไปทางโต๊ะของกลุ่มศิลปกรรมจังหวะที่เดินซีวอนก็ค่อยๆถอดเสื้อชอปของวิศวะออกทันทีที่เดินถึงหัวโต๊ะที่ฮยอกแจนั่งอยู่ซีวอนก็วางเสื้อชอปลงบนหัวสีทอง
“ ฝากหน่อย”
ฮยอกแจยกมือมาจับเสื้อชอปของซีวอนไว้ ยังไม่ทันจะพูดอะไรซีวอนก็เดินเลยไปทางร้านข้าวแล้วทั้งโต๊ะจากที่พูดคุยกันอยู่เงียบกริบตามด้วยเสียงของซันนี่ที่ร้องแซวดังก่อนใครเพื่อนฮยอกแจไม่ได้พูดอะไรได้แต่พับเสื้อชอปของซีวอนไว้แล้ววางไว้บนตักยองฮวาเองก็เงียบไปทั้งๆที่ซีวอนไม่ได้พูดอะไรออกมาก็แค่เดินมาฝากเสื้อชอปแต่มันทำให้ยองฮวารู้ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น ฮยอกแจยังคงนั่งฟังเขาพูดเหมือนเดิมแต่มือที่จับเสื้อชอปไว้ทำให้ยองฮวาพูดอะไรไม่ออก
Please take your heart out of cover
Let me help you discover a perfect love.
ทันทีที่เดินกลับมาที่โต๊ะคังอินถามถึงเสื้อชอปเพราะตอนเดินไปยังมีอยู่ซีวอนก็ตอบเรียบๆว่าร้อนเลยถอดออกฝากไว้ที่โต๊ะหนึ่งคังอินเลยหันหลังไปดูโต๊ะศิลปกรรมฮยอกแจที่นั่งเล่นกับเพื่อนแต่บนตักมีเสื้อชอปวางอยู่ทำให้คังอินหันมยกนิ้วโป้งให้ซีวอน บรรยากาศบนโต๊ะดูจะวุ่นวายมื่อทงเฮกลายเป็นคนโดนแกล้งอยู่เป็นประจำเถียงได้ก็เถียงสู้ พอสู้ไม่ได้ก็หันไปเกาะแขนคยูฮยอน
“ เด็กแคระ เรียกคยูฮยอนทั้งวัน เป็นลูกแหง่หรือไง ”
“ จะให้เรียกซองมินทั้งวันหรือไง ไม่เอาหรอก !”
“ ตื่นสายก็คยูฮยอน รถเสียก็คยูฮยอน หิวข้าวก็คยูฮยอน ไม่สบายก็คยูฮยอน ”
ทงเฮหน้าคว่ำเถียงสู้ไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องจริงร่างบางเลยเกาะแขนคยูฮยอนเอาหน้าซบลงไปพลางแลบลิ้นใส่ซองมินไปด้วยคยูฮยอนตักเยลลี่ที่อยู่ในถ้วยไอติมขึ้นมาก่อนจะป้อนทงเฮซองมินเหลือบตามองหน้าจอโทรศัพท์ของทั้งคู่มันไม่ได้เป็นรูปคู่ตุ๊กตาหมีน้อยหมีเน่าอย่างที่เคยเห็นแต่มันเป็นรูปคู่แหวนสองวงแทนซองมินแกล้งทำหน้าเลี่ยน
เหอะไอ้คู่รักเพื่อนสนิท !
“ น้องมินอากำลังเดินมามึง ” คังอินบอกออกมาเพียงแค่เสี้ยวนาทีก่อนที่ซีวอนจะเงยหน้าเจอรุ่นน้องปีหนึ่งที่เคยร่วมกิจกรรมของคณะวิศวะและดูท่าทางจะติดใจรุ่นพี่ซีวอนเข้าอย่างจังบ่อยครั้งที่มินอามักจะนำขนมมาให้ซีวอนอยู่ตลอดวันนี้ก็เหมือนกันแต่ต่างกันที่วันนี้มินอาเดินมาให้ถึงกลางโรงอาหารท่ามกลางสายตาอยากรู้ของคนนับร้อย ซีวอนและคังอินก็เกรงอกเกรงใจสาวน้อยตรงหน้าเลยปล่อยให้น้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ มินอายื่นถุงขนมให้ซีวอนร่างสูงรับมาตามมารยาท คังอินเห็นมันเงียบก็เลยชวนคุยเรื่องเรียนเรื่อยเปื่อย จนซีวอนรู้สึกว่าเหมือนมีใครยืนอยู่ข้างหลังเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง
“ เอาไป ” ฮยอกแจยื่นเสื้อชอปให้แต่สายตามองไปยังมินอาที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“ ไปเรียนแล้วเหรอ ให้ไปส่งป่ะ ”
“ นั่งจีบเด็กไปเถอะ ”
“ ถ้าจีบติดแล้วทำไง ”
ซีวอนแกล้งถามยิ้มๆฮยอกแจเลยยกมือขึ้นมาตีลงบนหัวซีวอนเบาๆหนึ่งทีพร้อมก็บอก กล้าก็ลอง! ถึงจะพูดเบาแต่ซีวอนและคังอินที่นั่งอยู่ได้ยินอยู่ดีก่อนที่ฮยอกแจจะเดินออกไปทั้งสองคนดูจะลืมคนที่นั่งหัวโต๊ะที่นั่งกระพริบตาปริบๆมินอาเลยขอตัวกลับไปนั่งที่กลุ่มเพื่อน
“ พัฒนานะ เดี๋ยวนี้มีหงมีหวงกันด้วย ”
“ มันก็ต้องมีบ้าง ”
ซีวอนหยิบเสื้อชอปขึ้นมาทำท่าจะสวมแต่กลับรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อซีวอนจับๆก่อนจะหยิบออกมาขนมวาฟเฟิลชอคโกแลตที่มีปากกาเมจิคเขียนไว้ตรงด้านหน้าซองไว้ชัดแจ๋ว เป็นลายมือที่ซีวอนจำได้ดี
ไอ้บ้า ! ซื้อมาให้กิน
ซีวอนได้แต่หัวเราะ เด็กแสบเอ้ย …
Look high, there’s a bright and blue sky
Look at my eyes, there’s love inside.
วันนี้เป็นอีกวันที่มหาลัยโซลจะครึกครื้นมากเป็นพิเศษเพราะวันเปิดบ้านของทุกคณะคยูฮยอนและซองมินไม่ต้องทำอะไรมากก็แค่เล่นดนตรีตามปกติคยูฮยอนก็แค่ร้องเพลงเหมือนทุกวันส่วนคังอินและซีวอนก็ต้องไปยืนตามซุ้มวิศวะแค่ยืนหล่อเฉยๆไม่ต้องทำอะไรแต่ดูจะเป็นซุ้มที่คนเข้ามากที่สุดจริงๆ คังอินยกนาฬิกาขึ้นมาดูพลางบอกว่าถึงเวลาที่ไอ้เด็กแคระจะแสดงละครเวทีแล้วให้ไปเจอตรงโรงละครศิลปกรรม
ทันทีที่มาถึงหน้าโรงละครผู้คนมากมายแทบจะมาอยู่ที่นี่กันเป็นจุดเดียวพอถึงเวลาทุกคนก็เข้าไปข้างในเหลือแต่ซีวอนที่บอกให้ทุกคนเข้าไปก่อนเดี๋ยวตามไปคังอินได้แต่พยักหน้าแล้วคว้าเอวพี่อิทึกให้เดินเข้าไปด้วย ซองมินนั่งลงตรงที่นั่งตามหมายเลขบัตรก่อนจะเกาหัวไปมาเมื่อรู้สึกว่าทำไมที่นั่งมันดูเกินๆทั้งๆที่นับรวมพี่อิทึกเข้าไปแล้ว ทำไมที่นั่งติดริมทางเดินถึงมีสองที่ได้วะ ไอ้ซีวอนซื้อบัตรผิดป่าวเนี่ย ยังไม่ทันจะหาคำตอบคนที่เดินเข้ามาสองคนทำให้บางคนที่นั่งอยู่ในโรงละครสะกิดยิกๆให้หันไปดู
ชเวซีวอนที่เดินเข้ามาพร้อมกับอีฮยอกแจเนื่องจากทั้งคู่เป็นคนดังของมหาลัยอันดับต้นๆทำให้เกิดเป็นเสียงฮือฮาได้ไม่ยากเพราะที่นี่วันนี้มากันแทบทุกคณะเลยจริงๆ ซีวอนให้ฮยอกแจเข้าไปนั่งข้างในแล้วให้ตัวเองนั่งริม
“ จองไว้ให้แฟนก็ไม่บอก ปวดหัวกับที่นั้งอยู่เนี่ย ไอ้ซีวอน ” ซองมินปาฝาขวดน้ำใส่ซีวอนที่นั่งทำหน้าตาชื่นมื่นเพราะที่นี่อยู่ในเขตของคณะศิลปกรรมทำให้รอบตัวฮยอกแจมีแต่เพื่อนที่คุ้นหน้ากันดีแถวด้านหน้ายังส่งสายตาล้อเลียนมาให้ฮยอกแจที่ทำหน้าตาหาเรื่อง
“ อยากควงคนหล่ออย่างนี้บ้าง ไหนบอกเป็นเพื่อนสมัยเรียนไง จีบกันอยู่ก็ไม่บอก ” ลิซซี่หันหน้ามาคุยกับฮยอกแจพร้อมแกล้งทำหน้างอนฮยอกแจเลยจัดการยัดขนมใส่ปากลิซซี่เต็มๆ
“ ทงเฮเล่นเป็นอะไร ”
“ กามเทพ ”
“ น่ารักดี ”
“ หนาวเนอะ ”
“ อย่ามา ร้อนจะตาย ”
ซีวอนได้แต่ทำหน้าจ๋อยอุตส่าห์จะจับมือแก้หนาวสักหน่อยฮยอกแจก็รู้ทันเขาอีกจนได้แต่ก็ช่างเถอะตอนนี้นั่งดูละครเวทีด้วยกันก็โอเคแล้วการแสดงละครเวทีวันนี้ผ่านไปด้วยดีผู้คนชอบอกชอบใจปรบมือกันเกลียวกราว พอถึงเวลาถ่ายรูปเพิ่งรู้ว่าไอ้เด็กแคระทงเฮก็ป๊อปปูล่ามีคนขอถ่ายรูปไม่หยุดไม่หย่อน ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งมาหาคยูฮยอนทั้งๆที่ใส่ชุดกามเทพอยู่เลยโดนคังอินแซวว่าเล่นเป็นกามเทพเวอร์ชั่นเด็กเหรอ กามเทพถึงตัวแค่นี้ไอ้เด็กแคระแทบจะถลกชุดยกขาเตะคังอินเลยทีเดียว
“ ซีวอน ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหม ” ยุนอาที่เป็นนางเอกของเรื่องเดินเข้ามาหาซีวอนร่างสูงเลยต้องถ่ายด้วยตามมารยาทก่อนที่นางเอกแสนสวยจะยิ้มให้พลางเอ่ยถามเรื่องทั่วไปธรรมดาก่อนจะขอตัวไปหากลุ่มเพื่อนที่ยืนรออยู่
“ กิ๊กเก่า ฮยอกแจจัดการเลยนะ ” อีทงเฮเป็นกามเทพจอมยุ่งเลยโดนคยูฮยอนจับบิดแก้มแรงๆสองที ซีวอนเดินกลับมายืนข้างๆฮยอกแจที่ยินกอดอกอยู่ก่อนจะเอี้ยวตัวมากระซิบ
“ อย่าเพิ่งโกรธนะ แค่ถ่ายรูปตามมารยาท”
“ ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ”
“ ก็กลัวเป็นแบบคราวนั้นอีก ”
ตอนที่เริ่มคุยกับฮยอกแจแรกๆซีวอนยอมรับว่ายังไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรมากมายการที่ได้กวนฮยอกแจทุกวันมันทำให้เขามีความสุขเทคแคร์บ้างเล็กน้อยตามประสามันก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก จนกระทั่งวันหนึ่งที่ยุนอาดาวคณะศิลปกรรมเข้ามาคุยกับเขา เพราะท่าทางยุนอาเหมือนเด็กผู้หญิงที่น่าตาน่ารักนิสัยห้าวๆ การเข้ามาคุยก็ไม่ได้น่าเกลียดจนเกินไปเลยทำให้ซีวอนไม่ได้รำคาญเหมือนผู้หญิงคนอื่นทั่วไป
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ยุนอาขอไปกินข้าวด้วยที่โรงอาหารกลางเพราะเขาไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตการที่เขาเดินคู่กับยุนอาในโรงอาหารทำให้ทุกคนต่างพากันมองอย่างตกใจ ซีวอนเงยหน้ามองตามทางเดินไปซื้อาหารคนที่เดินสวนมาทำให้ซีวอนยกมือขยี้หัวตามความเคยชินแต่ฮยอกแจกลับเบี่ยงตัวหลบยกชีทในมือที่ม้วนไว้ตีลงบนแขนซีวอน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นคนที่เดินอยู่ข้างๆซีวอน ยุนอาเอ่ยทักฮยอกแจเพราะเรียนคณะเดียวกันร่างบางก็ยิ้มรับก่อนจะหันมามองซีวอนพร้อมกับยกชีทในมือตีแขนซีวอนอีกรอบพร้อมกับบอกด้วยเสียงเบาๆ
“ แฟนสวยนี่ ”
ตั้งแต่วันนั้นซีวอนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเขาไม่ค่อยได้เจอฮยอกแจที่โรงอาหารเหมือนทุกวันโทรศัพท์ก็รับบ้างไม่รับสายบ้างส่งเมสเสดไปก็ไม่เคยจะตอบกลับ ซีวอนไม่แน่ใจอาการอย่างนี้มันจะเรียกว่าจริงจังได้รึเปล่า เขาอารมณ์เสียง่ายกว่าปกติ โมโหแทบจะเป็นบ้าตอนที่ฮยอกแจไม่ยอมรับโทรศัพท์ มันเหมือนตื้อๆจีบอยู่ดีดีก็เป็นอย่างนี้ไปซะได้ จนคยูฮยอนบอกอะไรบางอย่างที่ทำให้ซีวอนหยุดคิด
ชัดเจนหน่อยจีบเขาแต่ไปควงอีกคนก็สมควรแล้วที่โดนแบบนี้ !
ซีวอนเลยได้แต่นอนหลับตาคิดในสิ่งที่คยูฮยอนบอกเขาไม่รู้ว่าตัวเองชอบฮยอกแจถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ยอมรับว่ายุนอาน่ารักแต่ก็แค่น่ารักตามประสาผู้หญิงไม่ได้ทำเขาจะเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนตอนที่ฮยอกแจเมินเขาขนาดนี้แค่คิดว่าฮยอกแจจะไม่สนใจซีวอนก็รู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ร่างสูงกดโทรออกเบอร์เดิมๆที่โทรมาตลอดเกือบหนึ่งอาทิตย์แต่ก็ยังเหมือนเดิมฮยอกแจไม่ยอมรับสายซีวอนจะกดโทรอีกแต่เสียงโวยวายนอกห้องซ้อมดนตรีทำให้ซีวอนต้องลุกขึ้นมาดู
“ ทงเฮ ปล่อยแขนเดี๋ยวนี้เลยนะ จะเอาของก็รีบเข้าไปเอา ”
“ เข้าไปเพื่อนหน่อยสิ ฮยอกแจ ”
“ รู้นะว่าจะทำอะไร ”
ฮยอกแจขืนตัวไว้เพราะรู้ดีว่าทงเฮจะให้เขาเข้าไปในห้องซ้อมให้ได้ถึงทงเฮกับเขาจะเคยเรียนที่เดียวกันแต่ก็ไม่ได้จะสนิทอะไรกันมากมายร้อยวันพันปีอยู่ดีดีก็ชวนมาเอาของเป็นเพื่อนนี่ก็ลากเขามาตั้งแต่ตึกศิลกรรม ทันทีที่ประตูห้องเปิดคนที่อยู่ในห้องทำให้ฮยอกแจมองไปทางอื่น จนทงเฮค่อยๆทำตัวลีบวิ่งออกนอกห้องซ้อมอย่างรวดเร็ว ฮยอกแจทำท่าจะเดินหนีแต่ก็โดนซีวอนจับไว้จนได้
ไม่มีแม้แต่คำพูดข้อมือขาวถูกจับไว้แน่นร่างบางเงยหน้ามองซีวอนก่อนจะพยายามบิดข้อมืออย่างเอาเป็นเอาตาย
“ หลบหน้าทำไม ”
“ ป่าว ”
“ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ”
“ ไม่อยากคุย ”
“ ฉันกับยุนอาไม่ได้มีอะไร ”
ฮยอกแจหยุดการบิดข้อมือแต่สายตาที่มองซีวอนไมได้อ่อนลงเลยสักนิดร่างสูงรั้งให้ฮยอกแจเข้ามาใกล้กว่าเดิมมือแกร่งที่จับข้อมือขาวไว้แน่นเริ่มคลายออกซีวอนนั่งลงบนลำโพงแต่มือก็ยังจับฮยอกแจไว้หลวมๆ
“ กลับมาคุยกันเหมือนเดิมนะ อย่าหลบหน้า รับโทรศัพท์ด้วยรับเฉยๆไม่ต้องคุยก็ได้เดี๋ยวคุยเอง ” ฮยอกแจยังคงมองซีวอนเงียบๆจนซีวอนได้แต่หงอยๆมือก็ลูบมือฮยอกแจไปมาเบาๆ
“ ยังจีบไม่ติดเลยอย่าเพิ่งเมินสิ ”
“ ฮยอกแจพูดอะไรหน่อยนะ ”
“ ฮยอกแจ …”
“ ถ้ามีแบบนี้อีก จะไม่มีครั้งที่ 2 ฉันไม่ได้เป็นตัวเลือกของนายเข้าใจไหม ถ้าจะคุยกับคนอื่นก็ไม่ต้องมายุ่ง ”
แววตาของฮยอกแจไม่ได้ล้อเล่นเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนพูดถึงเรื่องแบบนี้ตอนที่คุยกันต่างคนต่างรู้ว่ารู้สึกยังไงแต่ไม่ได้มีใครเริ่มพูด เหตุการณ์วันนี้ทำให้ซีวอนรู้และเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ซีวอนไม่เคยต้องยอมใครขนาดนี้มาก่อนแต่ก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ยอมรับคำด้วยความเต็มใจ
มันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่นอน เขาสัญญา !
My hero that what you are in my love story
you’re the star.It’s you, so sweet and true.
ตอนเย็นของงานจะเป็นการแสดงดนตรีของวงดนตรีของมหาลัยนับว่าเป็นช่วงเวลาสนุกๆของเหล่านักศึกษาที่ทำงานกันนักหนาสาหัสมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ ห้องซ้อมดนตรีสากลดูครึกครื้นเมื่อต้องเตรียมตัวแสดงไม่กี่นาทีข้างหน้าแต่นักร้องนำของวงดูจะสบายสุดเพราะกำลังนอนดูรูปในกล้องที่วันนี้เอามาถ่ายงานต่างๆในมหาลัยจริงๆไม่รู้เรียกว่าสบายรึเปล่าเพราะโซฟาตัวเดียวแคบๆแต่เจ้าเด็กแคระทงเฮก็นอนเบียดดูรูปกับคยูฮยอนด้วย
“ ซีวอนวางโทรศัพท์ๆเตรียมตัว นี่ไอ้คู่นี้ช่วยหยุดหวานแหววสักห้านาทีได้ไหม ” ซองมินควบตำแหน่งผู้จัดการวงเดินเอาตารางเวลาซ้อมมาตีหัวคยูฮยอนให้ลุกขึ้นจากโซฟาร่างสูงเลยต้องลุกขึ้นแล้วให้ทงเฮนอนดูรูปในกล้องต่อ
การแสดงของชมรมดนตรีแสดงวงแรกเพราะถือว่าเป็นการเปิดงานเสียงกริ๊ดที่ดังลั่นบ่งบอกความป๊อปปูล่าได้เป็นอย่างดีแค่คยูฮยอนยิ้มเพียงนิดเดียวก็ก็เรียกเสียงกริ๊ดจนแสบแก้วหูทันทีที่แสดงเสร็จเอ็มซีมืออาชีพอย่างชินดงขอสัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆทุกคนดูจะลุ้นเป็นพิเศษ เมื่อชินดงมาหยุดอยู่ตรงหน้านักร้องนำ
“ คยูฮยอนครับ ตอนนี้คุณมีแฟนแล้วรึยัง ” แค่คำถามก็กรี๊ดดังลั่นจนคยูฮยอนเองยังหัวเราะ
“ ไม่มีครับ ”
“ แล้วคนตัวเล็กๆที่เห็นบ่อยๆ นี่เขาเป็นใครนะ ?”
“ เพื่อนครับ ”
“ แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟนล่ะครับ ” ชินดงถามต่อแต่คยูฮยอนหันมามองหน้าเวทีที่ดูจะลุ้นไปกับเขาด้วยสีหน้าบางคนมันทำให้คยูฮยอนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนจะตอบให้ทุกคนได้ยินเสียงดังฟังชัด
“ มีแค่เพื่อนก็พอแล้วครับ ”
ตามด้วยเสียงโห่วแซวดังลั่นคนในคณะดุริยางค์ด้วยกันแทบจะปาขวดน้ำใส่เดือนคณะที่ตอบคำถามได้น่าหมั่นไส้มากจงฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆทงเฮที่ยืนยิ้มจนแก้มตุ่ยต้องยกมือขยี้หัวอย่างหมั่นเขี้ยว
“ ตอบซะพระเอก เพื่อนสนิทกันมากๆของนาย ไอ้เจ้าเด็กแคระ ”
พอคยูฮยอนโดนพอสมควรชินดงก็เริ่มมาที่มือกลองซีวอนได้แต่หัวเราะจนลักยิ้มบุ๋มเรียกเสียงกริ๊ดจากบรรดาแฟนคลับมากซีวอนลุกจากที่นั่งตีกลองมายืนข้างๆคยูฮยอนพอโดนคำถามเจ้าตัวก็พยักหน้า
“ ตกลงโสดหรือไม่โสด ”
“ โสดแต่ไม่ว่าง ”
“ ไม่ว่าง นี่เอาเวลาไปให้คนที่อยู่ศิลปกรรมรึเปล่า คนที่ตัวขาวมากๆ”
เสียงแซวและกริ๊ดดังลั่นหนักกว่าคยูฮยอนทำให้คยูฮยอนต้องยกมือตบไหล่ซีวอนเบาๆคล้ายให้กำลังใจซีวอนไม่ได้ตอบคำถามเอาแต่ยิ้มอย่างเดียวพอชินดงคะยั้นคะยอให้ตอบร่างสูงก็ส่ายหน้าไม่ยอมรับไมค์ที่ชินดงยื่นมาให้จนชินดงบอกว่าให้พูดอะไรฝากไปถึงที่ทำให้โสดแต่ไม่ว่างหน่อยซีวอนทำท่าไม่รับไมค์ท่าเดียวจนคนที่ข้างล่างเวทีเชียร์ทำให้ซีวอนยกมือยอมแพ้ก่อนจะรับไมค์มาก่อนจะเงยหน้ามองไปยังคนที่ยืนกอดอกพิงเสาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆของศิลปกรรมที่ดูจะลุ้นเช่นกัน
“ ดื้อให้น้อยลงหน่อย เจ้าเด็กแสบ ”
เสียงกริ๊ดไม่รู้มาจากไหนดังจนขนาดบางคนถึงต้องอุดหูกลุ่มศิลปกรรมที่ยืนอยู่ถึงกลับร้องว๊าวพร้อมกับดันไหล่ฮยอกแจเบาๆคล้ายแกล้งพร้อมเสียงเอ่ยล้อ ดื้อเหรอจ๊ะ เป็นเด็กแสบด้วยนะเนี่ย จนฮยอกแจต้องกระเถิบตัวออกมาพลางบอกว่าอะไรเล่าแต่แก้มแดงๆทำให้ทุกคนต้องอมยิ้ม ฮยอกแจเงยหน้ามองคนที่อยู่บนเวทีก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อซีวอนก็เผลอหัวเราะออกมาด้วยเช่นกัน
I’ll give my heart to you weather you’ll keep it of not
I’ve just only want you to know
I care and love you a lot.
Never Ending story
ความคิดเห็น