ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ธาราหิมาลัย
ธาราหิมาลัย
รักของธารา
แม้แต่ภูผายังสั่นคอน
“ พ่อ.. ไร่ข้างๆเรามีคนมาอยู่แล้วเหรอ ” ปาร์คซึงโฮเงยหน้ามองเจ้าลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้กำลังปีนอยู่บนหน้าต่างพร้อมกับเอากล้องส่องทางไกลส่องไปยังพื้นที่ข้างๆที่ตอนที่เขามาอยู่แรกๆ ยังคงเป็นพื้นที่ว่างๆแต่เมื่อสองสามปีที่ผ่านมาเห็นว่ามีคนมาติดต่อซื้อพื้นที่เพื่อที่จะมาลงทุนปลูกอะไรสักอย่าง แต่ได้ยินแว่วๆว่า ลูกชายเจ้าของไร่อยู่เมืองนอกรอกลับมาเพื่อที่จะมาบริหารต่อ ตอนนี้ดูเหมือนลูกชายเจ้าของไร่ข้างๆจะกลับมาแล้ว เพราะเห็นว่าเริ่มมีคนบ้ายข้าวของเดินไปเดินมากันให้วุ่น
“ ทำตัวเป็นโรคจิตไปได้ฮยอกแจ ลงมากินข้าวดีดี ” คยูฮยอนสั่งน้องชายคนเล็กที่เพิ่งจะเรียนจบมาหมาดๆแต่ดูท่าทางและการกรทำไม่ต่างจากเด็กประถม อีฮยอกแจยังคงใส่ชุดเหมือนเด็กกะโปโลแถมยังชอบสะพายกล้องส่องทางไกลไว้ที่คออีกด้วย เหมือนพวกหัวหน้าแก๊งค์สมัยประถม
“ เราต้องไปสืบนะพี่คังอิน เดี๋ยวเจ้าไร่นู้นทำไร่องุ่นแข่งกับเราทำไง แย่ดิ ” คังอินส่ายหัวพับหนังสือพิมพ์ที่อ่านค้างไว้วางไว้ข้างตัวก่อนจะเอื้อมมือมายีหัวเจ้าน้องชายที่ยังคงทำหน้าตาเคร่งเครียดยังกะปัญหาโลกแตก
“ เอาเวลาไปศึกษาพันธ์องุ่นดีกว่านะ เจ้าน้องน้อย หนังสือที่พี่ให้ไปอ่านไปถึงสามหน้ารึยัง ” พอกลับมาพูดเรื่องเดิมๆอีฮยอกแจก็เบะปากก่อนจะหันหน้าหนีเอื้อมมือไปหยิบเครื่องปรุงมาเทใส่โจ๊กตรงหน้าเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่พี่ชายคนโตพูด คังอินหัวเราะกับท่าทางของฮยอกแจที่ดูเหมือนเด็กๆไม่มีผิด ร่างสูงเงยหน้ามองทั่วโต๊ะพบว่าน้องชายคนหนึ่งของเขาหายไป
“ คิบอม ?”
“ รายนั้นไม่ตื่นหรอก เพิ่งกลับมาตอนตี 4 ”
กลายเป็นเสียงคยูฮยอนที่ตอบตามด้วยเสียงของฮยอกแจที่บ่นปาวๆว่า พี่คิบอมกลับมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าเดินเซไปเซมา จนพี่คยูฮยอนต้องแบกขึ้นห้องด้วยความทุลักทุเล
“ ถึงจะไม่ค่อยขยันแต่ก็ไม่เมาหัวราน้ำนะ ” นั่นคือประโยคสุดท้ายของอีฮยอกแจก่อนจะโดนฝ่ามือฟาดที่กลางศีรษะพอดิบพอดีร่างบางเงยหน้ามองตัวการก่อนจะยกมือตีคืนไม่หยุดหย่อน จนผุ้เป็นพ่อต้องมาห้ามทัพเมื่อเห็นว่าคู่นี้ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กยันโต
“คิบอม นั่งๆกินข้าวลูก ” ซึ่งโฮบอกลูกชายที่เดินกุมขมับมาฝั่งตรงข้ามก่อนจะนั่งลงโดยมีพี่ชายซักไซ้ว่าเมื่อคืนงานเลี้ยงอะไรคิบอมก็บอกว่า งานวันเกิดเพื่อนโดยมีเสียงอีฮยอกแจแว่วๆว่า เมื่อวานก็วันเกิดเพื่อน สองวันที่แล้วก็วันเกิดเพื่อน พี่คิบอมคงมีเพื่อน 365 คนเลยเกิดมันทุกวันคิบอมเลยได้แต่เอื้อมมือมาหยิกแก้มเจ้าน้องชายอย่างหมั่นเขี้ยว จนคังอินเริ่มปวดหัวไม่รู้จะห้ามใครดี คยูฮยอนส่ายหน้ากับความวุ่นวายยนโต๊ะแต่ซึงโฮกับมองด้วยรอยยิ้ม
ในเมื่อทั้งหมดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกวัน
..
..
ท้ายไร่ของบ้านไร่ปลายฝันเป็นสถานที่ที่อีฮยอกแจชอบมากที่สุด ธารน้ำตกที่ติดมากับพื้นที่ไร่เป็นธรรมชาติที่ฮยอกแจคิดว่าสวยที่สุด ธารน้ำสายนี้คล้ายกับว่าเป็นเขตแดนที่กั้นระหว่างไร่ของเขากับไร่ตรงข้าม อีฮยอกแจชะเง้อมองผ่านรั้วไม้เตี้ยๆผ่านไปยังพื้นที่ตรงข้ามที่ดูเหมือนกำลังปรับปรุงผิวหน้าดิน อีฮยอกแจอยากจะรู้ให้มันชัดเจนไปเลยว่าไร่ข้างๆนี่จะทำไร่องุ่นตามไร่เขาหรือเปล่า ฮยอกแจค่อยๆเดินตามสะพานไม้ที่สร้างไว้เพื่อให้เดินข้าม อีกฝั่งพร้อมกับยืนเกาะรั้วมองเข้าไปแต่มองยังไงก็ดูเหมือนว่าจะไม่ชัด ฮยอกแจเลยยกกล้องส่องทางไกลที่ห้อยติดกับตัวส่องเข้าไป ร่างบางพยายามส่องไปทางซ้ายทางขวาแต่ก็ยังมองไม่ชัด จนกระทั่งเลนส์กล้องมืดสนิท
ฮยอกแจค่อยๆยกกล้องส่องทางไกลลงก่อนจะพบว่า มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจสุดๆ ฮยอกแจมอเงยหน้ามองใบหน้าที่นิ่ง ปราศจากรอยยิ้ม เสื้อเชิ๊ดที่บ่งบอกราคาพร้อมกับแว่นยี่ห้อหรูที่ห้อยไว้กับคอเสื้อทำให้ฮยอกแจเดาได้ว่า คงเป็นคุณชายลูกเจ้าของไร่ข้างๆ
“ นายเป็นใคร ? ”
ร่างสูงเอ่ยถามน้ำเสียงที่เย็นเฉียบจนทำให้ฮยอกแจทำตัวไม่ถูกถ้าบอกว่าเป็นลูกเจ้าของไร่คาดว่าคนตรงหน้าก็คงไม่เชื่ออย่างแน่ๆด้วยสภาพการแต่งตัวที่ดูมอมแมม รวมทั้งพฤติกรรมที่เพิ่งไปสอดส่องไร่เขาอีก ฮยอกแจเม้มปากแน่นพร้อมกับค่อยๆหันหลังกลับสองแขนพยายามเกาะราวไม้ของสะพานก่อนจะค่อยๆหายลับไปเหลือเพียงแต่กล้องส่องทางไกลที่ตกอยู่ตรงหน้าร่างสูง
“ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ พ่อเลี้ยงซีวอน ”
ร่างสูงยักไหล่พร้อมกับก้มลงหยิบกล้องส่องทางไกลที่ตกอยู่ขึ้นมามองก่อนจะชะเง้อไปตามทางที่ร่างบางวิ่งไป
..
.
ธารธารา ไหลเรื่อย
แต่เมื่อเจอกับภูผา อาจมีการเปลี่ยนทิศทาง
..
..
“ รออยู่ตรงนี้ได้ป่ะ มันร้อน ” ฮยอกแจถอดหมวกออกมาพัดๆก่อนจะบอกพี่ชายคนโตที่แวะเข้ามาดูเมล็ดพันธ์องุ่นในตลาดกลางคังอินเลยได้แต่ปล่อยๆให้เจ้าน้องชายนั่งอยู่หน้าร้าน ฮยอกแจยังคงพัดๆไปมาตามอุณหภูมิที่ค่อยๆร้อนขึ้นเมื่อพบว่ามันใกล้จะเที่ยงวัน ฮยอกแจลุกขึ้นเดินไปตามทางร้านค้าที่เอาเมล็ดพันธ์ผัก ผลไม้ต่างๆมาวางขาย เพราะไร่ของเขาเน้นเฉพาะองุ่นเลยไม่ค่อยได้สนใจเมล้ดพันธ์อย่างอื่นสักเท่าไหร่ ฮยอกแจยังคงเดินดูไปเรื่อยๆ
เพราะฮยอกแจใจเย็นเหมือนสายน้ำ
ใครๆก็ต่างบอก อยู่ใกล้ฮยอกแจแล้วจะรู้สึกสดชื่น
ฮยอกแจมองดูผลส้มสีเหลืองทองที่วางอยู่ตรงหน้าบางทีส้มก็น่าจะมีแนวโน้มในการผลิตได้ดีเหมือนกันนะเนี่ย ฮยอกแจหยิบผลส้มขึ้นมาก่อนจะยกขึ้นมามองใกล้ๆ ผิวส้มเรียบน่าสัมผัสพอจับแล้วก็รู้สึกว่าข้างในต้องรสชาติดีแน่ๆ
“ นายจับส้มแรงไปนะ เดี๋ยวผิวก็ช้ำหมด ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ฮยอกแจเกือบจะทำส้มหลุดออกมาจากมือ แต่ดีที่จับไว้ทันไม่งั้นแม่ค้าได้ด่าเขาเปิงแน่ๆร่างสูงที่ยินอยู่ตรงหน้าทำให้ฮยอกแจได้แต่ยืนนิ่ง ถึงแม่วันนี้คนตรงหน้าเขาจะอยู่ในชุดสบายๆกางเกงสามส่วนเสื้อโปโล หมวกสานๆรองเท้าแตะแต่ยังคงคาดคุณชายได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนไปจากคอนเสป
“ นายลืมอะไรไว้รึเปล่า เมื่อวาน ” ซีวอนกอดอกถามแต่ฮยอกแจก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ติดตัวเขาตลอดมันหายไปไหนกว่าจะรู้ว่าทำตกไว้ที่ข้างรั้วของอีกฝ่ายก็ไม่กล้าจะกลับไปเอา
“ กล้องส่องทางไกล ” ฮยอกแจไม่กล้าแม้แต่จะตอบเต็มเสียงเหมือนเด็กที่แอบทำความผิด ก็ไปส่องไร่เขายังกะจะขโมยอะไรสักอย่างนี่ ร่างสูงเดินกลับไปที่รถก่อนจะยื่นกล้องส่องทางไกลให้ฮยอกแจ ร่างบางยิ้มนิดๆเมือ่เห็นสื่งที่ติดตัวมาตลอดอยู่ในสภาพดี แต่พอยื่นมือไปรับข้อมือบางกลับถูกจับไว้แน่น !!
“ บอกมาก่อน ว่านายเป็นใคร แล้วมาส่องกล้องที่ไร่ของฉันทำไม ”
ฮยอกแจอ้าปากค้างก่อนจะค่อยๆบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมแต่ดูเหมือนร่างสูงจะจับแน่นกว่าที่เคย จนร่างบางต้องเบ้หน้า ซีวอนเห็นดังนั้นจึงค่อยๆผล่อนแรงลงและดูเหมือนซีวอนจะไม่ปล่อยง่ายๆถ้าเขาไม่ตอบอะไรสักอย่าง
“ ก็เป็นคนของไร่นู้น ก็แค่อยากรู้ว่าทำอะไรกัน ไม่ได้ตั้งใจไปแอบดูนะ ” ฮยอกแจอธิบายด้วยท่าทางจริงจังแต่อีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วขึ้นมาคล้ายกับว่าไม่เชื่อ แต่พอร่างสูงก้มลงมองเสื้อยืดที่มีตราประจำไร่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อทำให้ซีวอนคิดว่าบางทีคนตรงหน้าอาจจะเป็นลูกชายของคนงานในไร่นู้นก็ได้ เสียงเรียกของคังอินทำให้ซีวอนปล่อยมือจากข้อมือบาง ฮยอกแจมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆเดินไปหาพี่ชายที่หอบของพะลุงพะลังมาที่รถ พอนั่งประจำที่เรียบร้อยฮยอกแจเงยหน้ามองกระจกหลังที่ร่างสูงยังคงยืนอยู่ที่เดิม
..
..
เสียงน้ำที่ไหลเอื่อยของธารน้ำทำให้ฮยอกแจรู้สึกผ่อนคลายร่างบางนอนหนุนแขนตัวเองพร้อมกับหลับตาลง โดยไม่รู้ตัวว่าไร่ฝั่งตรงข้ามเปิดประตูรั้วที่ไม่ได้เปิดมานานถึง 3 ปีก้าวเข้ามาร่างสูงยืนมองร่างบางที่นอนหลับสบาย ก่อนจะก้มลงหยิบก้อนหินก้อนเล็กๆขึ้นมาพร้อมกับตั้งใจเขวี้ยงลงน้ำให้น้ำแตกกระจายจนโดนใบหน้าของร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่
ฮยอกแจลืมตาขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองร่างสูงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ร่างบางหน้างอง้ำคล้ายไม่ชอบใจที่ถูกแกล้ง ฮยอกแจลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะหันหลังกลับ
“ อยู่ว่างๆ มาช่วยงานไร่นี้หน่อยสิ ” ฮยอกแจหยุดกะทันหันก่อนจะหันกลับมาร่างบางมั่นใจได้เลยว่า รอยยิ้มที่ถูกส่งมาเป็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ที่สุดในบรรดารอยยิ้มที่พบเจอมา ร่างบางยิ้มตอบก่อนจะเดินข้ามสะพานมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างสูง
“ ไร่คุณมีอะไรให้เล่นบ้างล่ะ ”
ซีวอนไม่ตอบแต่เดินนำให้ฮยอกแจเดินตามเข้ามาร่างบางชะเง้อเข้ามามองชั่งใจว่าจะเข้ามาดีหรือเปล่าแต่ในที่สุดสองขาก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น
ไร่ส้มสีเหลืองอร่ามที่พร้อมใจกับเบ่งบานไปทั่วทั้งไร่
สีของส้มทำให้ทั่วทั้งไร่สว่างไสว
“ ไร่คุณปลูกส้มเหรอ สวยจังเลยเนอะ ” ฮยอกแจยกมือขึ้นบังแดดที่ส่องลงมาเพื่อมองให้เห็นส้มชัดๆ ซีวอนกอดอกก่อนจะยิ้มออกมาไร่ที่เขาสร้างมากับมือ วันนี้มันเจริญเติบโตจนสวยงาม
“ ไม่มีงานทำที่ไร่นู้นเหรอไง ถึงนอนสบายใจเฉิบอยู่ริมน้ำ ”
“ หืมม ..อ้อ เออ ก็ว่างๆน่ะ ไม่รู้จะทำอะไร ”
“ เดี๋ยวก็โดนไล่ออกหรอก ”
“ เอ่อ ..มาทำงานไร่คุณก่อนได้ไหมล่ะ จำได้เรียนรู้งานไง ”
ฮยอกแจไม่รู้ตัวว่าพูดประโยคนี้ออกไปได้ยังไงซีวอนหันมามองก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา พลางบอกว่าฮยอกแจเป็นคนงานที่ประหลาดมีงานให้ทำอยู่แล้วแท้ๆยังจะมาขอทำงานที่ไร่เขาอีก อยากได้เงินเพิ่มหรือยังไง ซีวอนมองเสี้ยวหน้าฮยอกแจที่ยังคงมองไร่ส้มไปเรื่อย ตาเรียวเล็กหยีลงเมื่อแสงแดดเข้าตา ร่างสูงจึงถอดหมวกสานบของตัวเองก่อนจะสวมให้กับฮยอกแจที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ เริ่มงานพรุ่งนี้ อย่ามาสายล่ะ ไม่งั้น ไล่ออก !!! ”
“ คุณซีวอน ! จะเดินไปถึงไหนเนี่ย เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว !! ”
ฮยอกแจที่เดินลากถุงปุ๋ยอย่างทุลักทุเลเดินตามซีวอนต้อยๆ สองข้างทางเป็นต้นส้มที่เพิ่งลงใหม่ ร่างสูงหันมามองฮยอกแจที่ยกมือเช็ดเหงื่อแล้วหัวเราะก่อนจะเดินต่อโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของฮยอกแจ
ร่างสูงหยุดอยู่ที่ต้นส้มก่อนจะสั่งให้ฮยอกแจใส่ปุ๋ยตั้งแต่ต้นนี้เป็นต้นไป ร่างบางมองตามมือที่ซีวอนชี้ก่อนจะหันมามองหน้าซีวอนคล้ายจะถามว่าหมดนั่นจริงเหรอ แต่ใบหน้าของซีวอนไม่มีความล้อเล่นแฝงอยู่เลยแม้แต่น้อย ฮยอกแจได้แต่รับคำอย่างจำใจ ก่อนจะลงมือทำแต่ด้วยทักษะที่มีอยู่น้อยนิด บวกกับไม่เคยทำงานอะไรอย่างนี้มาก่อน ร่างบางทำงานด้วยความเก้ๆกังๆ ไม่รู้ว่าจะต้องใส่ปุ๋ยลงไปเท่าไหร่ แล้วใส่ตรงไหน ซีวอนกอดอกมองฮยอกแจที่ดูเงอะงะแล้วขมวดคิ้ว เป็นคนงานประสาอะไรงานแค่นี้ยังทำไม่ได้
“ ฮยอกแจ ทำตามฉัน ..จำด้วย ! ” ซีวอนนั่งลงสองมือแกร่งจับมือฮยอกแจให้ขุดดินเสียงกระซิบข้างหูทำให้ฮยอกแจกลับใจเต้นแรงสมองไม่มีสมาธิฟังคำที่ซีวอนบอกเลยสักนิด มือที่ถูกกุมสั่นอย่างไม่เคนเป็น
“ ทำได้ใช่ไหม ” ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมาจังหวะเดียวกับที่ซีวอนชะโงกหน้ามาดูว่า ฮยอกแจเข้าใจรึเปล่าปลายจมูกที่สัมผัสกันแผ่วเบาทำให้ทั้งสองคนต่างหยุดทุกการกระทำ ซีวอนมองใบหน้าขาวใสที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ ดวงตาเรียวเล็กที่ซุกซนทำให้ซีวอนไม่อยากละสายตาไปไหน
“ เอ่อ .. เข้าใจแล้ว” ฮยอกแจเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาทำให้ซีวอนผละตัวออกมาพร้อมกับลุกขึ้นแกล้งทำปัดฝุ่นกางเกงไปมา ส่วนฮยอกแจก็หันไปใส่ปุ๋ยตามเดิมคงมีรอยยิ้มที่เพิ่มขึ้นมาบนใบหน้าของทั้งสองคน
เกือบสองอาทิตย์ที่อีฮยอกแจมาทำงานที่ไร่ของซีวอนตอนนี้ดูเหมือนฮยอกแจจะมีความรู้ในการทำสวนทำไร่เพิ่มขึ้นเป็นกอง การที่ได้อยู่ใกล้ซีวอนทุกวันทำให้ฮยอกแจรู้อะไรหลายอย่างจากซีวอน ร่างสูงไม่ใช่แค่นักเรียนจบนอกธรรมดาๆทั่วไปแต่ซีวอนสามารถใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาบริหารงานที่ไร่ของตัวเองได้อย่างเหมาสมและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ซีวอนสามารถนำส้มพันธุ์ใหม่มาเพาะปลูกได้อย่างสำเร็จ และส่งออกได้กำไรอย่างมากมาย
ทั้งที่ตอนแรกท่าทางเย็นชาแข็งอย่างกับภูผาทำให้ฮยอกแจไม่กล้าที่จะเข้าไปตีสนิทชิดเชื้อซีวอนอะไรอย่างมากมาย รวมทั้งซีวอนยังคิดว่าฮยอกแจเป็นเพียงคนงานในไร่ไม่ใช่ลูกชายเจ้าของไร่บ้านไร่ปลายฝัน แต่แท้จริงแล้วซีวอนเป็นคนน่ารักคนหนึ่ง เหมือนพวกพระเอกปากร้ายใจดี ปากว่าอีกอย่างแต่การกระทำก็อีกอย่าง ความเป็นสุภาพบุรุษและความอ่อนโยนที่ซีวอนมักแสดงออกมาโดยไม่ตั้งใจ
ทำให้ฮยอกแจหวั่นไหวหลายครั้ง
ไม่กล้าที่จะมองหน้าซีวอนนานๆ
ไม่กล้าจะพูดคุยอะไรด้วย ใจมันเต้นแรงไปหมด
บางที สายน้ำ อาจจะหลงรัก ภูผา ไปแล้วก็ได้
..
“ คุณซีวอน วันนี้เราต้องเก็บผลส้มกันนิ ” อีฮยอกแจชะโงกหน้าเข้ามาในบ้านไม้สักทุกเช้าจะเจอซีวอนนั่งจิบกาแฟพร้อมกับคำทักทายทุกเช้าที่ได้รับ แต่วันนี้ข้างกายของซีวอนกลับมีสาวสวยที่ใส่ชุดกระโปรงผ่าขึ้นเห็นขาอ่อนแบบเต็มๆ แต่สองแขนกลับกอดแขนซีวอนแน่นเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของซะเต็มประดา
“ ฮยอกแจคนงานในไร่ผม ส่วนนี่โซยาเพื่อนฉันเพิ่งบินมาจากเมกาเมื่อคืน ”
ฮยอกแจทักทายเพียงยิ้มบางๆก่อนจะหันหลังลงบันไดมานั่งลงตรงบันไดขั้นสุดท้าย มือบางยกขึ้นจับอกอาการแบบเจ็บหน้าอกแปลกๆนี่มาจากไหนกัน เพื่อนกันต้องนั่งตัวติดกันขนาดนั้นเลยเหรอไง ฮยอกแจได้ยินเสียงคุยมาจากด้านบนก่อนจะเงยหน้ามอง โซยายังคงกอดแขนซีวอนแน่นพร้อมกับคำพูดของซีวอนที่ได้ยินเหมือนว่า โซยาอยากไปดูเราเก็บผลส้มด้วย ฮยอกแจมองลงไปยังรองเท้าส้นสูงแหลมปริ๊ดที่ดูไม่น่าจะเดินตามสวนตามไร่ได้เลยสักนิด
ตลอดทางฮยอกแจได้แต่เดินตัดผลส้มฉับๆมองสองคนข้างหน้าที่กอดแขนชี้นู่นชี้นี่ตลอดทาง ปกติฮยอกแจเป็นคนที่ใจเย็นกับทุกสถานการณ์ได้ดีแต่ครั้งนี้กลับควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าไหร่ ซีวอนหันกลับมามองฮยอกแจที่หน้าบึ้งตั้งหน้าตั้งตาตัดผลส้ม
“ อารมณ์ไม่ดีเหรอไงวันนี้ ยังไม่ยิ้มเลยนะ ” ฮยอกแจเหลือบตามองร่างสูงก่อนจะหันกลับไปตัดผมส้มตามเดิมซีวอนขมวดคิ้วก่อนจะคว้าแขนร่างบางไว้
“ ผู้ใหญ่พูดด้วยควรตอบนะ ฮยอกแจ”
“ อารมณ์ดีมาก สบายใจสุดๆ เชิญคุณเดินฮันนีมูนกันต่อเถอะ ”
ฮยอกแจไม่ได้ตั้งใจจะประชดประชันแต่เพราะอารมณ์อะไรที่ฮยอกแจก็ไม่เข้าใจมากนัก แต่คำตอบของฮยอกแจทำให้ซีวอนหัวเราะก่อนจะแกล้งเดินเฉียดไปใกล้ๆร่างบาง
“ พูดจาเหมือนหึงแฟนเลยนะ ”
“ คุณ !!! ”
ยิ่งท่าทางฮึดฮัดออกอาการแบบนี้ยิ่งทำให้ซีวอนมั่นใจเขาอายุตั้งเท่าไหร่แล้วทำไมถึงจะมองไม่ออกว่าอีฮยอกแจรู้สึกยังไงกับเขาแต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร คนงานก็เดินมาตามเนื่องจากมีโทรศัพท์จากลูกค้าที่โทรมาสั่งส้มเพิ่ม ฮยอกแจได้แต่ทำเป็นไม่สนใจเอาแต่ตัดผลส้มตรงหน้า
“ เรียกร้องความสนใจได้ดีนะ ”
ฮยอกแจหันควับไปทางหญิงสาวที่ถือร่มอันใหญ่บังแดดไว้แต่มือบางกลับหยิบผลส้มที่ฮยอกแจตัดไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วขึ้นมามองร่างบางถอนหายใจ คนตรงหน้ายิ่งกว่านางร้ายในละครซะอีก ตีสองหน้าได้เก่งจริงๆเมื้อกี้ยังทำท่าเอ็นดูเขาอยู่เลย ฮยอกแจได้แต่หันหน้าหนี ไม่อยากจะคุยด้วยหรอกนะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องขึ้นมา
“ ฉันพูดกับนายอยู่นะ นี่! ฟังสิ!” ไม่พูดปล่าวมือบางที่ถือส้มยังเขวี้ยงใส่ฮยอกแจด้วยร่างบางมองที่ตัดผลส้มลงกับพื้นก่อนจะเก็บผลส้มขึ้นมา
“ นี่คุณไม่เห็นจะต้องทำลายข้าวของเลย รู้ไหมว่าส้มนี่มันมีราคาเท่าไหร่ เอามาเขวี้ยงเล่นได้ยังไง !! ” ดูเหมือนยิ่งพูดก็ยิ่งไม่หยุดโซยาหยิบส้มในตะกร้าปาใส่ฮยอกแจไม่ยั้ง ปากก็ด่าปาวๆว่าฮยอกแจจะจับพ่อเลี้ยงซีวอนเป็นแค่คนงานไม่รู้จักเจียมตัว ฮยอกแจพยายามยิ้อแย่งตะกร้าผลส้มเพื่อไม่ให้หญิงสาวหยิบมันมาปาได้อีก แต่ไม่ว่าจะแย่งยังไงมือของโซยาก็ไม่ยอมปล่อยจนฮยอกแจตัดสินใจผลักร่างของผู้หญิงตรงหน้าเบาๆเพื่อให้ปล่ยออกจากตะกร้าแต่เนื่องจากรองเท้าส้นสูงที่เจ้าตัวทำให้โซยาเสียหลักล้มลงกับพิ้นจนเป็นรอยถลอก
“ ฮยอกแจ !!! ทำอะไร ! ”
เสียงตวาดที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนหยุดการกระทำทั้งหมด ร่างบางของฮยอกแจยืนนิ่งมองซีวอนที่เข้าไปประคองร่างของโซยาให้ลุกขึ้น สายตาของฮยอกแจมองทุกการกระทำนั้นน้ำตาที่ไม่รู้อยู่ๆก็ทำท่าจะไหลลงมาซะดื้อๆ แต่เจ้าตัวก็พยายามกลั้นไว้ ฮยอกแจได้ยินโซยาพูดว่าเขาต่างๆนานาหาว่า เขาปาผลส้มใส่หล่อน รวมทั้งตั้งใจทำร้ายเจ้าหล่อนอีก ฮยอกแจยังคงยืนนิ่งจนซีวอนเดินเข้ามาใกล้ๆ
“ ว่ายังไง ”
“ ไม่ผิด ไม่ขอโทษ ”
“ อีฮยอกแจ ! ”
“ ฉันเห็นกับตาว่านายผลักเขานะ ”
“ แล้วไง ..”
เหมือนซีวอนจะหมดความอดทนร่างสูงพยายามจะทำให้ใจเย็น แต่ฮยอกแจเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจถ้าเขาไม่ดัดนิสัยก็คงจะเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆเพราะแรงโมโหและทิฐิทำให้ซีวอนตัดสินใจบางอย่าง ซีวอนมองผลส้มที่เกลื่อนกลาดบนพื้นก่อนจะเงยหน้ามองฮยอกแจ
“ นายไม่ขอโทษก็ได้ แต่นายต้องรับผิดชอบส้มในไร่ของฉัน เก็บผลส้มทั้งหมดในส่วนนี้คนเดียวก่อน 4 ทุ่มจะต้องเสร็จทุกอย่าง หลังจากนั้น
. นายไม่ต้องมาที่นี่อีกฉันไล่นายออก ”
ถ้อยคำทุกคำฮยอกแจได้ยินชัดเจนสายตาเรียวเล็กมองซีวอนอย่างผิดหวัง ร่างบางหันหลังก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาให้เห็น ฮยอกแจยกมือเช็ดน้ำตาที่มันไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างบางหายใจเข้าก่อนจะเอ่ยถ้อยคำสั้นๆ
“ ตกลง.. ”
.
..
ราวๆเกือบ 4 ทุ่มซีวอนได้แต่เดินไปเดินมาบนระเบียงบ้าน สายตาเอาแต่ชะเง้อไปทางไร่ส้มที่ยังคงเปิดไฟเพราะว่าฮยอกแจยังคงตัดผลส้ม แม้แต่คนรับใช้อย่างจุนกิอย่างกดที่จะห่วงฮยอกแจไม่ได้ ผลส้มมากมายขนาดนั้นฮยอกแจจะตัดคนเดียวหมดได้ยังไง ร่างสูงนั่งลงพร้อมกับนั่งคิดอะไรบางอย่าง หลังจากไปส่งโซยาที่โรงพยายาบาล เจ้าตัวก็ไปเปิดห้องโรงแรม 5 ดาวในเมืองเพราะว่า แผลจะอักเสบถ้าจะต้องมาเดินในไร่ส้ม ซีวอนเองก็ไม่ขัดข้องอะไรดีซะอีก ชีวิตเขาดูจะสงบขึ้นเยอะ ตั้งแต่กลับมาหลายชั่วโมงแล้ว คนงานก็เอาแต่รายงายว่า อีฮยอกแจยังคงตัดผลส้มไม่ยอมหยุด ข้าวปลาก็ไม่กิน เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาตัดอย่างเดียว ซีวอนไม่รู้ว่าเขาทำเกินไปรึเปล่า แต่จะให้เขาถอนคำพูดก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่ดูแย่ไปหน่อย
“ คุณซีวอนครับ 4 ทุ่มแล้วนะครับ ”
เสียงคนรับใช้ดังขึ้นทำให้ซีวอนลุกขึ้นสองขาตั้งใจจะวิ่งลงบันไดแต่ก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อร่างของฮยอกแจเดินสวนบันไดขึ้นมา ท่าทางอ่อนแรงทำให้ซีวอนตกใจ ใบหน้าซีดราวกับกระดาษ มือบางเป็นรอยแดงจนน่ากลัว ซีวอนมองคนงานที่ยกตะกร้าส้มขึ้นมาวางไว้บนบ้าน
ฮยอกแจทำได้จริงๆ
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อทำให้ซีวอนคิดจะเอื้อมมือไปเช็ดให้แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากแววตาที่อ่อนล้า
“ คุณใจร้ายที่สุด ..”
ประโยคสุดท้ายที่เบาจนแทบไม่ได้ยินก่อนที่ร่างบางจะล้มฟุบลงไปแต่ซีวอนก็สามารถรับร่างบางไว้ทัน ใบหน้าหวานที่ซีดซบลงอยู่ตรงอกแกร่ง ซีวอนช้อนตัวฮยอกแจไว้ในอ้อมแขนก่อนจะตะโกนให้คนในบ้านตามหมอ
“ ฮยอกแจ ! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ฮยอกแจตื่นขึ้นมาฟังฉันก่อน ..”
..
..
“ แค่อ่อนเพลียน่ะครับ พักซักหน่อยก็คงดีขึ้น แล้วก็หมั่นทายาที่มือด้วยนะครับ แผลถลอกๆจะได้หาย ” หมอจัดยาไว้ให้ก่อนจะขอตัวกลัวซีวอนขอบคุณหมอพร้อมกับขอโทษที่ต้องทำให้ตามตัวตอนดึกๆ ซีวอนนั่งมองฮยอกแจที่หลับสนิทมือแกร่งไล้ไปตามใบหน้าใส ตัวฮยอกแจเย็นเหมือนน้ำจนซีวอนสัมผัสได้ ชุดนอนสีขาวของซีวอนที่แม่บ้านเปลี่ยนให้ฮยอกแจทำให้ตัวฮยอกแจดูตัวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
“ เอ่อ.. คุณซีวอนครับ คนของไร่บ้านไร่ปลายฝันมาครับ ”
“ หืม ? ”
“ เขาบอกว่า เขาจะมาสอบถามเรื่อง คุณอีฮยอกแจ ลูกชายคนเล็กของไร่บ้านไร่ปลายฝันน่ะครับ ”
ซีวอนนิ่งไปเมื่อจบประโยคร่างสูงหันกลับมามองร่างบางที่นอนนิ่งเป็นตุ๊กตาก่อนจะเข้าใจเรื่องทั้งหมด ร่างสูงบอกให้ไปตามคนของไร่บ้านไร่ปลายฝันขึ้นมาข้างบนได้เลย ทันทีที่เสียงประตูปิดลง ร่างสูงก็ก้มลงท้าวศอกลงกับที่นอนระหว่างตัวของฮยอกแจ มองใบหน้าขาวใสที่อยู่ใกล้ๆ
“ หลอกฉันซะเปื่อยเลยนะ คุณหนูอีฮยอกแจ ..”
ทันทีที่ประตูเปิดออกซีวอนก็ลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยทักทายเจ้าของไร่ทั้งสามคน ดูเหมือนจะมากันครับทั้งพี่ชายทั้งสาม ขาก็แต่คุณพ่อ คังอินที่ดูเหมือนจะเป็นพี่ชายคนโตสอบถามความเป็นมาเพราะเห็นว่าดึกแล้วแต่ฮยอกแจก็ยังคงไม่กลับบ้าน พี่ชายคนรองอย่างคยูฮยอนเดินไปหาฮยอกแจที่นอนอยู่บนเตียงแต่ดูท่าทางจะปลุกไม่ตื่น เลยตัดสินใจอุ้มขึ้นมา
“ เขาไม่ค่อยสบาย เลยให้เขาพักผ่อน”
“ ผมบอกแล้ว ว่ามันเล่นซนจนเกิดเรื่อง ”
“ เอาน่า คิบอมโทรไปบอกพ่อด้วย ว่าเจอเจ้าตัวยุ่งแล้ว ”
คยูฮยอนอุ้มฮยอกแจมาที่หน้าประตูคังอินตั้งใจจะเอ่ยขอบคุณซีวอนอีกครั้งแต่สายตาที่ซีวอนมองฮยอกแจ ทำให้คังอินรู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่าง ร่างสูงยิ้มอย่างคนที่เป็นพี่ใหญ่ ก่อนจะแกล้งกะแอมจนซีวอนรู้สึกตัว และดูเหมือนฮยอกแจจะรู้สึกตัวตามไปด้วย ร่างบางค่อยๆลืมตาก่อนจะเห็นหน้าตาของพี่ชายทั้งสามคนชัดเจน ร่างบางเลยยิ้มตาหยี
“ ละเมอรึไงเรา ยิ้มยังกะคนบ้า ” คยูฮยอนมองน้องชายคนเล็กอย่างขำๆ คิบอมเองก็หัวเราะตามไปด้วย มือแกร่งยกขึ้นมาขยี้หัวฮยอกแจอย่างที่ชอบทำ
“ กลับบ้านกัน พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกับคุณซีวอนใหม่ ” รอยยิ้มค่อยๆเลือนหายไปฮยอกแจกอดคอคยูฮยอนแน่นขึ้นพร้อมกับพูดบางอย่างที่ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจน
“ ไม่มาแล้ว จะไม่มาที่นี่อีกแล้ว ..”
.
“ พี่ ! ไอ้ตัวยุ่งอายุเท่าไหร่เอง จะมีแฟนก่อนผมไม่ได้นะ ” คิบอมกอดอกอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นอาการของน้องชายคนเล็กที่เอาแต่นั่งเหม่ออย่างกับคนอกหักตั้งแต่วันนั้นวันที่ก้าวออกมาจากไร่ของซีวอน ฮยอกแจก็กอดคอคยูฮยอนร้องไห้ไม่หยุด มันนานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นฮยอกแจร้องไห้หนักขนาดนี้ ขนาดคิบอมยังตกใจได้แต่ลูบหลังปลอบเบาๆ คยูฮยอนที่ปลอบคนไม่เป็นได้แต่นิ่งๆให้น้องร้องไห้จนเสื้อเปียกชุ่ม เหลือแต่คังอินที่ต้องอธิบายให้คนเป็นพ่อเข้าใจเรื่องต่างๆนานา
“ นายมีแฟนเยอะจนนับไม่ถ้วนต่างหาก คิบอม” คยูฮยอนตอบกลับก่อนจะมองฮยอกแจที่นั่งคนกาแฟในแก้วไปมา
“ ไอ้พ่อเลี้ยงอะไรนั่น ก็หายไปเงียบๆอย่างนี้นะ ”
“ ก็นายไปขู่เขาไว้ไม่ใช่เหรอไง คยูฮยอนว่าอย่ามายุ่งกับฮยอกแจ เอาปืนไปจ่อหัวกระบาลเขาอย่างนั้น ใครจะกล้าวะ โรคหวงน้องมันดันกำเริบขึ้นมา”
ฮยอกแจส่ายหัวกับเสียงทะเลาะกับพี่ๆก่อนจะเดินออกมานอกบ้าน ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ธารน้ำท้ายไร่เขาก็ไม่ได้ไปเหยียบที่นั่นอีก หลายเหตุผลที่ไม่กล้าไป ใช่ว่าซีวอนจะใส่ใจสักหน่อย ป่านนี้ก็คงจะไปมีความสุขกับยัยโซยาอะไรนั่น ฮยอกแจได้แต่ถอนหายใจ ก็ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย
ร่างบางค่อยๆเดินไปยังธารน้ำท้ายไร่ วันนี้ดูเหมือนน้ำจะลด เลยเห็นโขดหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ฮยอกแจยืนมองสายน้ำที่ไหลเลยไปก่อนจะเงยหน้ามองไปยังไร่ฝั่งนู้นที่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีคนงานเพิ่มเรื่อยๆ ร่างบางตั้งใจจะหันหลังกลับกลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่ไหวเดินเข้าไปทางไร่ฝั่งนู้น แต่น้ำที่กระเด็นใส่เสื้อด้านหลังทำให้ฮยอกแจต้องหยุดเดิน
“ อยู่ว่างๆมาช่วยงานไร่นี้หน่อยสิ ”
เสียงที่คุ้นเคยที่ดังขึ้นทำให้ฮยอกแจค่อยๆหันไปมอง ร่างสูงของซีวอนยังคงมาดคุณชายเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน ท่าทางอวดดีกอดอกก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ
ฮยอกแจยังคงยืนนิ่งไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปแต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหนซีวอนกลับเป็นฝ่ายข้ามมาหาร่างบางเอง ซีวอนเดินเข้ามาใกล้ฮยอกแจก็ทำท่าจะเดินหนีแต่มือแกร่งเร็วกว่าคว้าตัวร่างบางไว้ทัน สองมือแกร่งกอดที่เอวบางแน่นจนตัวแทบจะติดกัน
“ เอ๊ะ ! นี่คุณนี่มันเขตไร่ฉันนะ ปล่อย ไม่งั้นฉันตะโกนเรียกพี่ !! ” ถึงจะเป็นคำพูดที่ฟังคล้ายขู่ฟ่อแต่ซีวอนกลับยิ้มอย่างเป็นสุขและดูเหมือนจะกอดฮยอกแจแน่นขึ้นไปอีก
“ ลืมไป ว่าตอนนี้เป็นคุณหนูอีฮยอกแจ ไม่ใช่คนงานในไร่ ” ฮยอกแจหลบตาซีวอนเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ จริงๆแล้วเขาก็ผิดที่ไม่ได้บอกความจริงซีวอนว่าจริงๆแล้วเขาเป็นใคร
“ ไม่ได้ตั้งใจจะหลอก ก็แค่ ..แค่ .. ”
“ ก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ ฉัน
”
ซีวอนต่อเองให้เสร็จสรรพ และดูเหมือนคำตอบจะถูกเผ๋งแก้มใสของลูกชายคนเล็กของบ้านไร่ปลายฝันแดงอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะเฉไฉไปเรื่องอื่น แต่ซีวอนก็รู้ทันอยู่ดี
“ ฉันโกรธคุณอยู่นะ คุณไล่ฉันออกจากไร่คุณแล้วนิ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ หายใจไม่ออกแล้วด้วย ! ” สองมือดันอกแกร่งให้ออกไปแต่ซีวอนก็ไม่ยอมปล่อย
“ ก็ตอนนี้ก็เสี่ยงตายมาหาที่นี่แล้วไง รู้ไหมฉันอาจจะโดนพี่ชายนายยิงกระบาลเมื่อไหร่ก็ได้ ไหนๆก็ข้ามมาแล้วตายเป็นตาย ! อีฮยอกแจนายผิดที่หลอกฉันนะ ”
“ ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ เอ๊ะ ..”
“ เพราะฉะนั้น นายจะต้องเก็บส้มให้ได้ทั้งหมด ก่อน 4 ทุ่ม ”
“ เรื่องอะไรที่จะต้องทำ ”
“ ถ้านายทำสำเร็จ ..”
“ บอกว่าไม่ทำ ! ”
“ เป็นแฟนกันนะ ”
ฮยอกแจนิ่งไปก่อนจะยิ้มออกมามือบางตีแขนร่างสูงไปหลายทีแก้เขิน ฮยอกแจอยากจะบ้าตายจริงๆขนาดขอเป็นแฟนคำพูดแข็งยังกะก้อนหินภูผา ไม่เห็นจะโรแมนติคสักนิดซีวอนมองคนตรงหน้าที่แก้มแดงแล้วอยากจะกอดแน่นๆสักทีสองที
“ เริ่มได้ยังล่ะ ” ฮยอกแจเอ่ยถามซีวอนยักไหล่ก่อนจะปล่อยร่างบางออกจากอ้อมกอดแต่เปลี่ยนมาจับมือบางไว้แน่นก่อนจะเดินข้ามกลับไปยังไร่สวนส้ม
ธารธารา สดชื่นดั้งสายน้ำ
ภูผา มั่นคงอย่างภูเขา
เคียงคู่กันไปนิรันทร์
TO BE CON ดวงใจอัคนี ^____^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น