ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
เสียงเอ็ดตะโรดังลั่นท่ามกลางคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลอัคนีเดชาสุรนนท์
“ไม่แต่งยังไงก็ไม่แต่ง” กมลพัทธ์ตวาดใส่มารดา
“ทำไมเจ้ากร” ผู้เป็นแม่ถามลูก
เธอเริ่มจะเหลืออดกับพฤติกรรมของเจ้าลูกคนนี้แล้วนะ
“ไม่อยากแต่งมีไรมะ”
“แต่แกต้องแต่ง”
“ไม่แต่งยังไงก็ไม่แต่งเด็ดขาด”
คนเป็นลูกพูดกำลังจะเดินออกจากบ้านแต่บอร์ดี้การ์ดตัวบิ๊กก็จับร่างผอมเอาไว้
“ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อย ปล่อยเดี๋ยวนะ แกเป็นคนของฉันนะ”
กมลพัทธ์พูดพลางดิ้นออกจากพันธนาการนี่ออกไป
ทั้งเตะทั้งถีบ ดิ้นสุดชีวิต แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของผู้ชายร่างใหญ่ได้
“ผมขอโทษครับนายน้อย” บอร์ดี้การ์ดร่างยักษ์พูดออกมา
กมลพัทธ์ถลึงตาใส่บอร์ดี้การ์ดรีบหลบสายตาเพราะเขากลัวพายุลง
“แม่ปล่อยกรเดี๋ยวนี้นะ” เมื่อบอกลูกน้องตัวเองไม่ได้จึงหันไปตวาดกับแม่
“ฉันไม่ปล่อยจนกว่าแกจะตอบตกลง” ผู้เป็นแม่นั่งอยู่บนโซฟาวางมาดเป็นนางพญา
ประมาณว่าบ้านนี้ฉันใหญ่สุด
“กรจะฟ้องพ่อ” กมลพัทธ์พูดออกมาอย่างไม่ยอม
“ฟ้องไปสิ ใครว่า” คุณนายเอ่ยอย่างเป็นต่อ
สักพักคุณนิคมก็เดินเข้ามาพอดี
“มีเรื่องอะไรกันเนี่ย” เขาถาม
เพราะเสียงดังไปทั้งบ้านเลย คนใช้ คนสวนต่างกลัวไม่กล้าทำงานเลย
“ก็ดูลูกสาวคนเล็กของคุณสิคะ ไม่ยอมตกลง” คุณนายเพ็ญพิชชาพูดฟ้องสามี
“กรทำไมไม่ตกลงละลูก” คุณนิคมเอาน้ำเย็นเข้าลูบพูดดีๆกับลูกตามประสาคนใจเย็น
“ก็กรไม่อยากแต่ง ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่เคยเจอหน้ากัน นี่มันศตวรรษไหนแล้ว
ยังจะมาจับคลุมถุงชนกันอีก งี่เง่าว่ะ”
กมลพัทธ์กล่าวออกมาพร้อมทำเสียงฮึดฮัดเวลาที่เจ้าตัวไม่พอใจ
“มันเป็นสัญญาของคุณตานี่นา แล้วเราก็ต้องทำตาม” แม่พูดบ้าง
“ทำไมไม่ให้เจ๊แต่ง แล้วพวกแกเมื่อไรจะปล่อยฉันเนี่ย อึดอัดเว้ย” หันไปตวาดกับบอร์ดี้การ์ด
“จับเอาไว้อย่างนั้นแหละ ก็เพราะทางนั้นเขาเป็นผู้หญิงหนะสิ”
คุณเพ็ญพิชชาพูด บอร์ด้าร์ดจับนายน้อยทันที
แม่เขาจะทำงานกับกมลพัทธ์ แต่เขาก็ต้องทำตามนายหญิงที่มีอำนาจมากกว่าด้วย
“แล้วหนูไม่ใช่หรือไงแม่”
“ไม่/ไม่” คุณนิคมกับคุณเพ็ญพิชชาพูดออกมาพร้อมกันพอดี
คนเป็นลูกทำหน้าเซ็ง อะไรวะเนี่ย ชีวิตกู บัดซบจริงๆ แฟนทิ้งไปมีผัวใหม่
เมื่อปีที่แล้วไฟไหม้ไร่ส้มจนต้องผ่าตัดหน้าอก(พร้อมกับไอ้ดำ) ปีนี้โดนจับคลุมถุงชน
ซวยจริงๆ ให้ตายเถอะ เสร็จจากนี่ต้องเข้าไปที่กรมตำรวจซักหน่อยมีบ้างไปทำคดีให้สบายอารมณ์ดีกว่า
เมื่อเห็นคนเป็นลูกเงียบไป คุณนายจึงลองหยั่งเชิงดู
“เอางี้ ถ้าแกยอมแต่งงาน แกอยากจะทำอะไรตามที่แกชอบ ก็ตามใจ”
เมื่อกมลพัทธ์ได้ยินก็ยิ้มกริ่ม รีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับตอบตกลงทันที
“ก็ได้แต่งก็แต่ง แต่หนูจะร่างสัญญา พรุ่งนี้จะเอามาให้ แม่เอาไปให้ฝ่ายนั้นเซ็นด้วย”
พูดจบก็เตรียมจะลุกแต่ลุกไม่ได้ เพราะไอ้ยักษ์สองคนมันกดไว้
“ปล่อยสิเฮ้ย”
“ครับนายๆ”
เมื่อหลุดออกมาแล้วก้เดินสบายใจเฉิบออกมาจากบ้าน
เอาบุหรี่ขึ้นมาสูบแล้วขับรถออกจากบ้านไป
ให้ผู้เป็นบิดามารดามองตามหลังไปอย่างเหนื่อยใจ
ลูกของเขาเปลี่ยนไปมากคำพูดคำจาไม่น่ารัก อารมณ์โมโหร้ายมากกว่าเดิม
รอยสักที่แขนหรือเต็มตัวไปหมด
ได้แต่หวังว่าหนูคนนี้จะมาช่วยประคับประคองนำความอ่อนโยน
กลับคืนสู่จิตใจที่แสนหยาบกระด้างนั่นได้
“เฮ้ย มึงอยู่ไหนวะ” กมลพัทธ์กดโทรหาเพื่อนสนิทผิวแทน
“กูหรอ อยู่คอนโด”
เสียงของโชติกาที่ตอบเพื่อนมานั้นมันเหมือนพยายามสะกดกั้นอารมณ์บางอย่างไว้
“เฮ้ย เชี่ย ทำไมเสียงมึงเป็นอย่างนั้นวะ ไม่สบายหรือเปล่าวะ” ถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไร อ๊ะ”
“อ้อ หรอ ไม่ว่างก็แค่นี้แหละ” พูดจบก็ตัดสายไปเลย
เมื่อเพื่อนสนิทไม่ว่าง กมลพัทธ์จึงเลี้ยวรถไปที่หน่อยตำรวจพิเศษฐานลับในเครืออิซานทันที
ป้ายหินอ่อนขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางที่ห่างไกลชมชน
DETECTIVE SPIES EIZAN GROUP
ก่อนเดินเข้าในบริษัทกมลพัทธ์นั่งสูบบุหรี่ก่อน
สายตาคมกริบมองดูควันพิษสีขาวที่รอยขึ้นบนอากาศช้าๆ
พลางคิดถึงอดีตที่แสนจะเจ็บปวดทันที
เขาโดนคนรักบอกเลิกทางข้อความ มันช่างเป็นอะไรที่เฮ็งซวยชิบหาย
ขี้ขลาดจริงๆขนาดจะบอกเลิกนะยังบอกในข้อความ ทุเรศหวะ คิดได้ดังนั้นจึงแสยะยิ้มมุมปาก
แล้วมีการมาบอกว่า เราไปด้วยกันไม่ได้ ฉันตามใจเกินไป เธอเลยไม่ชอบ โว๊ะ
อย่างนี้ก็มีด้วย ถ้าดีๆไม่ชอบก็เหี้ยแม่งไปเลย สนทำไม สมเพสจริงๆว่ะ
“ดูดบุหรี่มากเสียสุขภาพนะ” เสียงผู้หญิงพูดสำเนียงไทยแปล่งๆ มีแต่ตนเดียวเท่านั้นแหละ
“ซอนย่าหรอ ว้าว ฉันคิดถึงเธอจังนะเนี่ย” กมลพัทธ์พูดพลางกอดเพื่อนสนิทไว้
จริงอยู่ที่ซอนย่าสามารถอ่าน เขียน ฟัง พูดได้ แต่ทักษะการพูดของเธอนั้นยังไม่เต็มร้อย
ลิ้นเธอยังแข็งอยู่ แต่ก็เก่งนะ สามารถพูดได้ดีมากกว่าฝรั่งบางคน
“เธอมาไทยตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” กมลพัทธ์ถามเพื่อน
“ฉันเพิ่งมาเมื่อวาน พี่อเล็กซ์บอกให้มาดูบ้านที่สร้างที่นี่หนะ”
“อ๋อ ไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“โอเค ฉันก็หิวพอดี”
คุณนิคมและคุณเพ็ญพิชชากำลังนั่งอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ของคุณหมอพัชราทิพย์หรือหมอพัช
ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกำลังนั่งปรึกษาหารือกันถึงเรื่องงานแต่งงานของลูก
โดยที่ปราศจากร่างของเจ้าบ่าว มีแต่พ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาว และตัวเจ้าสาวเอง
“หนูกรไปไหนหรอคะพี่เพ็ญ” นางนวลพรรณถามขึ้น
เมื่อสองสามีภรรยาได้ยินคำถามนั้นก็สะดุ้งเฮือกไปตามๆกัน
งามไส้แล้วไหมหละ ห๊ะ เจ้าลูกคนนี้ คุณนายเพ็ญแอบคิดในใจ
“เจ้ากรต้องดูแลสวนครับ เพราะว่าวันนี้จะมีคนมาจองส้ม” คุณนิคมกล่าวแถเรื่อย
ส่วนพัชราทิพย์เมื่อได้ยินดังนั้นถือก็หน้าเศร้าลง เขาคงไม่อยากเจอหน้าเธอสินะ
ในตอนที่เธอรู้ว่า เจ้าบ่าวของเธอ คือ ใคร เธอดีใจมากเลยที่จะได้เจอเขาอีกครั้งหนึ่ง
เธอกับเขาจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
แม้ว่าในอดีตเธอจะได้ทำผิดพลาดไปก็ได้แต่หวังว่าเขาจะให้อภัย
“อ่ะนี่ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก อร่อยมากๆ”
กมลพัทธ์เอ่ยขึ้นพลางดันชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆให้สาวฝรั่งหน้าสวยตรงข้ามได้ลองทาน
“ว้าว กลิ่นหอมมากๆเลยนะ” เธอว่าพลางใช้ช้อนลองชิมน้ำซุป
“Wow It’s so delicious”
“ถ้ามันอร่อยก็กินเยอะๆสิตัวเธอ”
กมลพัทธ์ว่าแล้วก็จัดการโซ้ยก๋วยเตี๋ยวเข้าปากทันที
ซอนย่าติดใจก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมูจึงสั่งเพิ่มอีกชามส่วนเจ้าหมาหลอดนีออนตัวขาวก็เช่นกัน
ขณะที่กินก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้นมลพัทธ์เกิดอาการร้อนขึ้นมา
เจ้าตัวขาวจึงลุกขึ้นถอดเสื้อออกมาท่ามกลางความตกตะลึงของหลายๆคน
เผยให้เห็นแผงอกขาวที่แข็งแกร่ง
กล้ามหน้าท้องน่าขย้ำและช่วงแขนเต็มไปด้วยรอยสักมากมายตามฉบับแบดบอย
“เฮ้ย กร ยูจะถอดเสื้อทำถ้วยอะไร” สาวฝรั่งหน้าสวยต่อว่าเพื่อนสนิท
“ก็ไอร้อนนี่นา” เจ้าตัวขาวมันตอบ
“ยูไม่อายคนอื่นหรือไง”
“ก็จะสนทำไมหล่ะ” กมลพัทธ์ยักไหล่ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น
ซอนย่าส่ายหน้าให้น้อยๆ หมาขาวมันก็ยังงี้แหละน้า เฮ้อ นิสัยเสียจริงๆ ใครจะเอามันทำผัววะคะ
RRRRrrrrRRRR
เสียงโทรศัพท์ของซอนย่าดังขึ้น หญิงสาวกดสายรับทันที
“โอเคๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้” หญิงสาวคุยกับปลายสายแค่แป๊บเดียวแล้วก็วางสายไป
“มีอะไรหรือเปล่าซอนย่า” กมลพัทธ์เอ่ยถามเพื่อน
“เฮ้ย กรรีบๆกิน สารวัตรเรียก” เมื่อสิ้นคำหญิงสาว
กมลพัทธ์จึงรีบกินรีบจ่ายตังค์แล้วลากเพื่อนฝรั่งหน้าสวยออกจากร้านทันที
“มีคดีอะไรซอนย่า” เจ้าหมาขาวถามขึ้นขณทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถ
“สารวัตรบอกว่าต้องการให้นักสืบK และ S เข้าพบโดยด่วย คงจะมีคดีร้ายๆแน่เลย”
หญิงสาวร่างบางเดินขึ้นมาบนห้องนอนที่มีสีชมพูประดับประดาตกแต่งมากมาย
ตั้งแต่ผ้าม่านสีชมพู เตียงนอนสีชมพู และของทุกสิ่งในห้องก็เป็นสีชมพู
เธอนั่งลงบนเตียงแล้วเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงก็พบกับกล่องเล็กๆที่ใครบางคนให้เธอเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
ในกล่องบรรจุแหวนทองคำขาวที่ประดับด้วยคริสตัลเม็ดเล็กแต่ดูสวยงามและมีค่ามากจริงๆ
เมื่อได้เห็นของที่บรรจุในนั้นทำให้เธอถึงกับน้ำตาจะไหล
นั่งเหม่อลอยคิดถึงอดีตที่แสนงดงามในวันนั้น
[i]หญิงสาวร่างบางมาตามนัดที่ได้รับจากคนรัก ขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าร้านที่นัดหมาย
เธอเดินเข้ามาในร้านแล้วก็ต้องตกตะลึก เพราะบรรยากาศภายในร้านถูกเนรมิตออกมา
ให้ดูน่ารัก บรรยากาศก็โรแมนติก สักพักคนรักของเธอก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับกีตาร์
โปร่งหนึ่งตัว เขาเดินผ่านหน้าเธอไป แล้วเข้าไปนั่งที่เข้าอี้แล้วร้องเพลง
Birthday ของ Katy Perry
เป็นเวอร์ชั่นที่เพราะที่สุดที่เธอเคยเจอมาเลย หญิงสาวน้ำตาไหลออกมา เธอซึ้งกับสิ่งที่เขาทำ
ในสายตาคนอื่นคนรักของเธอเป็นคนห่ามๆที่ไม่เอาไหน นักเลงตีกับคนอื่นไปทั่ว
แต่เธอไม่เคยสนใจ เธอรักเขา รักเขาที่เป็นเขา ไม่สามารถที่จะอธิบายได้เลยจริงๆ
เมื่อเพลงที่เขาร้องจบไฟในร้านก็ดับ
หญิงสาวตกใจ เธอไม่ชอบความมืด แต่สักพักก็มีแสงจากบางอย่างสว่างขึ้น
เขาที่เธอรักเดินออกมาพร้อมกับเค้กปอนด์ใหญ่
“สุขสันต์วันเกิดนะคะที่รัก”
พัชราทิพย์มองเขาด้วยความซาบซึ้ง
“อธิษฐานก่อนสิคะ” เขาบอก
หญิงสาวหลับตาอธิษฐานในใจ
เธอไม่ขออะไรมาก เธอขอให้เขารักเธอตลอดไป
จากนั้นเธอก็เป่าเค้ก
"เฮ้ ดีใจด้วย" เสียงที่ดังออกมาจากหลังร้าน
เพื่อนสนิทเขาก็เดินออกมาจากหลังร้าน
ทุคนสนุกสนานกันใหญ่ พัชราทิพย์ได้รับของขวัญมามากมาย
ทุกคนได้กินเค้กฝีมือกมลพัทธ์ก็ชมว่าอร่อย ให้กมลพัทธ์ได้ลอยแล้วลอยอีก
พัชาทิพย์เรียกคนรักของเธอมานั่งข้างๆแล้วป้อนเค้ก
ให้เพื่อนๆได้แซวกันเล่น
“หวานกันจัง”
“อิจฉาวุ้ย”
กมลพัทธ์กระซิบข้างหูคนรักให้เดินไปหลังร้าน
คนตัวสูงเดินไปก่อนหลังจากนั้นพัชราทิพย์ก็เดินตามไป
เมื่อทั้งสองคนอยู่หลังร้าน ร่างสองร่างก็กระโจนเข้าหากันราวกับแม่เหล็กคนละขั้วดูดกัน
คือว่ากรอยากจะให้ของขวัญพัชหนะ
กมลพัทธ์ว่าพลางคุกเข่าลง มือเรียวควานหากล่องเล็กๆจากกระเป๋า
“แต่งงานกับกรนะ ถ้าเราเรียนจบ” กมลพัทธ์ว่า
เมื่อพัชราทิพย์ได้ยินดังนั้นจึงนั่งลงให้เสมอกับเขาแล้วกอดเขาไว้
เธอยอมเขาแล้ว ยอมจากใจจริงๆ ตัดสินใจแล้วว่า เธอจะอยู่ร่วมกับเขาไปตลอด ตลอดชีวิต
ใครว่าอย่างไรเธอก็จะไม่สนอีกต่อไปแล้ว
“ค่ะที่รัก พัชจะแต่งกับกร” เธอตอบในที่สุด
แล้วหลังจากนั้นริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบกัน
กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน คิดถึงฉันบ้างไหม
แต่คงจะไม่หรอกใครจะมานั่งคิดถึงคนที่ทิ้งไปหละ จริงไหม
ในการแต่งงานครั้งนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะร้ายใส่เธอมากขนาดไหน
เธอก็จะพยายามต่อสู้กับเจ้าปีศาจร้ายตัวนั้น แล้วเอาเทพบุตรที่เคยปกป้องเธอกลับคืนมา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น