... ‘ขอแสงสว่างจากดวงตะเกียง จงช่วยนำทางข้าไปพบนางผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจ’...
ด้วยคำอธิษฐานอันแรงกล้าของ ‘องครักษ์หนุ่มรูปงาม’ ที่มิได้ครองรักกับ ‘นางผู้อัปลักษณ์’
จึงทำให้ทั้งสองหวนกลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อสานต่อความรัก ความผูกพันอันยาวนาน บนผืนทรายแห่งนี้
“หมดทางหนีแล้วล่ะนางกำนัล เอาล่ะเงยหน้าขึ้นให้ข้ายลโฉมเจ้าสักหน่อยเถิด” ชีคกาหริบยังยื่นมือหนามาเชยคางมนซึ่งเอาแต่ก้มหน้าให้สบสายตาเขา ทว่าดาเนียนก็เมินหน้าหลบอีกจนได้
“ไง ไม่เก่งจริงนี่เรา”
“อย่าแตะต้องข้า” เสียงเล็กนั้นลอดไรฟันออกมาราวกับเสียงขู่ฟ่อของนางแมวป่า
“โอ้ หวงตัวด้วย นึกอยู่แล้วเชียวว่าเจ้าเก่งแต่เพียงวาจาเท่านั้น พอเอาจริงกลับมิกล้าที่จักสู้หน้าข้า เอ้ ข้าจักลงโทษเจ้าอย่างไรดีหนอ ส่งตัวไปให้ท่านแม่นมมีนาญ่าทำโทษเพื่ออบรมมารยาทสักหน่อยจักเป็นไร หรือจังส่งตัวไปยังกรมอาญาเพื่อตัดสินความผิดของเจ้าดี เอ้... หรือว่าจักลงโทษให้เป็นคนสวนของข้าไปตลอดชีวิต”
“ท่านชีค!” นางงามผู้ถูกรังแกเงยหน้าขึ้นสบสายตาหวานฉ่ำแลงดงามดั่งนิลกาฬในทันทีเมื่อ ชีคหนุ่มเสนอวิธีการทำโทษให้นางเช่นนั้น “ผู้มีอำนาจมากกว่าย่อมมิรังแกผู้ด้อยและต่ำต้อยกว่าเจ้าค่ะ และการที่ข้าเด็ดดอกกุหลาบของท่านก็ใช่ว่าจักได้รับโทษทัณฑ์ถึงเพียงนั้น”
ถ้อยคำอันพร่างพรูออกมามาจากริมฝีปากจิ้มลิ้มและวงหน้าใสอันปราศจากเครื่อง ประทินผิวซึ่งต้องแสงนวลของตะเกียงน้ำมันทำให้ชีคกาหริบชะงักไปนิดหนึ่ง
เงารักในรอยทราย ฉบับ E-book
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น