คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Day 1, Rise and Shine
Chapter VII Day 1, Rise and Shine
รุ่งเช้าวันต่อมา ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ชีวิตอย่างเป็นทางการวันแรกของเซซิเลีย เธอค่อนข้างที่จะประหม่า และยังคงทำตัวให้คุ้นชินกับอะไรหลายๆอย่างที่นี่ไม่ได้
เนื่องจากเสื้อผ้าที่พวกเธอมีก็คือชุดที่ติดตัวมาเท่านั้น ซัพพลายที่เป็นผ้า ก็ไม่ได้มีมากพอสำหรับการตัดชุดใหม่ให้กับทุกๆคนในเดอะเกลด
ดังนั้น เมื่อเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือคราบสกปรกบนเครื่องแต่งกาย พวกเธอจะซักโดยน้ำยาซักผ้าสูตรทำเอง หรืออาจจะซักแค่น้ำเปล่าและแขวนเอาไว้ในเขตห้องน้ำของพวกเธอเอง โดยมีรั้วรอบขอบชิด เชื่อมต่อจากส่วนของห้องนอน แต่หลายคนจะต้องภาวนาให้มันแห้งให้ทันในรุ่งเช้า คงจะไม่ดีนักถ้านุ่งผ้าเช็ดตัวออกไปด้านนอกให้หนุ่มๆใจหวิวเล่นๆ
เซซิเลียอยากจะเปลี่ยนใจไม่ซักผ้าทันทีที่รู้ว่าตัวเองต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวตัวนอน แต่ทำไงได้ในเมื่อเสื้อผ้าของเธอนั้นมีกลิ่นน้ำมันที่ติดมาตอนที่เธอนอนสลบไสลในกล่อง พร้อมกับถังน้ำมันรอบตัว เธอไม่ชอบใจเอาเสียเลย ที่กลิ่นมันฉุนเตะจมูกเอาเรื่อง อาจจะสร้างความลำบากใจให้แก่คนอื่นๆได้ เพื่อนจะไม่คบก็คราวนี้แหละ เซซิเอ๋ย..
เธอจึงตัดสินใจซักแค่เสื้อกล้ามของเธอก่อนนอน เพราะกว่าปาร์ตี้จะเลิกราก็ปาเข้าไปค่อนข้างดึก โชคดีไปที่เสื้อของเซซิเลียนั้นทำมาจากผ้าที่ไม่อมน้ำ จึงแห้งทันในรุ่งเช้า แหม..นึกว่าจะต้องกระโจมอกออกไปซะแล้วววว
เซซิเลียค่อยๆเปลื้องผ้าเช็ดตัวออกอย่างเขินอาย ถึงจะใส่เสื้อชั้นในอยู่ แถมในห้องก็มีแต่ผู้หญิงด้วยกัน มันก็อดหน้าแดงไม่ได้
‘หวังว่าจะชินในเร็ววันนะ’ เธอคิดในใจ
“เฮ้ เซซิ สวยดีนี่ ฉันชอบนะ” เพทราเดินเข้ามาแล้วเอามือมาลูบที่หลังของเซซิเซียอย่างเบามือ
ทำให้อีกสองสามคนแถวนั้น เดินมามุงดูสิ่งที่เพทราบอก ทุกคนต่างบอกว่ามันเป็นสิ่งที่น่าดึงดูด ดูสวยงาม ลึกลับและมีความหมาย
“อะไรหรอ??” เป็นเซซิเลียเอง ที่อยากรู้กว่าใครเพื่อน ว่าหลังของเธอมีอะไรสลักอยู่ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถมองเห็นมันได้
“รอยสักน่ะ รูปต้นไม้ สวยทีเดียว” ไลล่าตอบ ขณะที่สายตาไม่ยอมละไปจากแผ่นหลังของเพื่อน
รอยสักของเซซิเลียเป็นรอยสักรูปต้นไม้ที่มีกิ่งก้านสาขาที่ยาวและโค้งงออย่างสวยงามเป็นศิลปะ สีสันหลากหลายที่ผสมกันอยู่คล้ายใบไม้รายรอบที่ไม่ดูหนาเกินไป และยังมีใบที่ร่วง มันทำให้ต้นไม้และก้านดูสวยงามลงตัว อีกทั้งรากที่แตกสาขาหยั่งลึกลงในดินนั่นอีก ยิ่งทำให้รอยสักของเธอไมอาจละสายตาไปได้
“แต่พวกแผลเป็นพวกนี้มันน่ากลัวนะ เธอไปถูกทรมานมาจากที่ไหนเนี่ย”
“จริงๆด้วย คงจะเจ็บน่าดู”
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนพวกเธอนั่นแหละ แต่ทำไงได้ เราจำได้แค่ชื่อเท่านั้น” เซซิทำหน้าเศร้า
เสียงเรียกจากด้านนอกบ่งบอกว่าหมดเวลาศิลปะบนเรือนร่างแล้ว ได้เวลาไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละคน เซซิเลียจึงสวมเสื้อกล้ามแล้วออกไป อาภรณ์ของเธอนั้นบดบังรอยสักทั้งทั้งหมดไว้ ทิ้งให้ความงามอยู่ใต้ผืนผ้าสีน้ำเงินต่อไป
-------------------------------------
ระหว่างที่สาวๆเพิ่งจะตื่นนั้น รันเนอร์ก็กำลังรอคอยประตูของเดอะเมซให้เปิดออก และก็มีเอวา เทรีซ่า คอยยืนให้กำลังใจสองหนุ่ม
“ที่จริงแล้ววันนี้มินโฮและโทมัส ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งก็ได้นี่นา เมื่อคืนก็นอนดึก เดี๋ยวจะเป็นลมไปซะก่อน” เอวาส่งสายตาห่วงใยให้หนุ่มทั้งสอง
“เอาน่า.. เราไม่เดี้ยงง่ายๆหรอก” โทมัสยิ้มขอบคุณในความห่วงใยของเอวา แล้วเดินจูงมือเทรีซ่าออกมา ปล่อยให้มินโฮอยู่กับเอวาตามลำพัง
“ไม่ต้องห่วงฉันนะ ฉันแข็งแรงดี เธอนั่นแหละที่ต้องดูแลตัวเอง ห้ามซน ห้ามดื้อ เวลาเข้าไปในป่าก็ระวังๆหน่อยนะ ข้างในมันอันตราย” มินโฮหยิกแก้มเอวาเบาๆ
“พูดซ้ำๆ อยู่นั่นแหละมินโฮ พูดทุกวันเลย จำได้แล้วน่าาาา จะไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เข้าป่า สัญญาเล๊ยยยย” เอวายิ้มทั้งตาพร้อมทั้งชูสามนิ้วอย่างน่าหมั่นเขี้ยว
ไม่ว่าเธอจะทำอะไรมันก็ออกมาน่ารักเสมอ มันเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาโกรธเธอไม่ลงเวลาที่เธอทำผิดสัญญาที่ให้กับเขา
“มินโฮ ได้เวลาไปแล้ว ขอตัวก่อนนะเอวา กลับออกมาค่อยมากอดกันให้หนำใจ บายยยยยย” โทมัสให้สัญญามือแก่มินโฮ ก่อนจะแซวเอวาก่อน
“แซวเค้าตลอดเลย เป็นไรมากป่ะเนี่ย” เอวาตะโกนไล่หลังโทมัส พร้อมทำหน้างอน อันที่จริงเธอไม่ได้งอนเขาหรอก แค่ทำกลบเกลื่อนความเขินแค่นั้นเอง อร้ายยยย
มินโฮก็ได้แต่หันกลับมายิ้มให้ แล้ววิ่งตามโทมัสออกไป
ตอนที่เซซิเลียออกมานั้นก็เห็นเทรีซ่ากับเอวาเดินกลับมาจากประตูเดอะเมซพอดี เธอจึงเดินเข้าไปทักทาย เพราะเมื่อคืนก็มัวแต่เต้นรำ ไม่ค่อยได้คุยอะไรสักเท่าไร เธอแค่อยากรู้จักทุกคนให้มากกว่า ท่าทางจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน
“เฮ้ ไปไหนมา?”
“ส่งสองหนุ่มไปวิ่งน่ะ พ่อคุณพลังล้นเหลือ ดูไม่เหนื่อยจากปาร์ตี้เมื่อคืนเลย” เทรีซ่าส่ายหัวเบาๆ
“แล้ววันนี้ฉันต้องทำอะไรบ้างหรอ? แนะนำน้องใหม่ด้วยนะเอวา” เซซิหันไปยิ้มให้เอวา เอวาดูเป็นคนที่น่ารัก และไม่น่าจะโกรธใครเป็น การผูกมิตรกับเอวาก็ดูจะเป็นอะไรที่ง่ายเหลือหลาย
“อยากเป็นแม่ครัวหรือคนสวนล่ะจ้ะ”
“ถึงจะจำอะไรไม่ได้ แต่ฉันก็มั่นใจว่าฝีมือทำกับข้าวไม่เอาไหน” เซซิย่นจมูกให้ตัวเอง ทำให้เทรีซ่าและเอวาอดขำไม่ได้
“คนสวนละกัน ไปปลูกผักกัน มามะๆๆ” เอวาตัดสินใจแทน แถมจูงแขนเซซิไปด้วย
“แย่งคนทำอาหารไปซะแล้ว” เทรีซ่าแกล้งทำหน้างอ
“ทำสวนดีกว่านะ อาหารนี่ขอผ่าน ชิมได้ แต่ขอไม่ทำ” เซซินั่นเองที่ออกตัว เธอคงจะไม่ถนัดงานอาหารจริงๆ ดูเธอถนัดใช้แรงงานมากกว่า
ภายใต้รูปร่างผอมบางนั้นมีกล้ามเนื้อเรียงตัว มองผ่านๆก็จะเหมือนผู้หญิงธรรมดา แต่ถ้าได้สัมผัสตัวเธอ ก็จะรู้ทันที ว่าเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา กล้ามเนื้อที่เรียงตัวสวยสมกับความเป็นผู้หญิงนั้น ดูไม่น่าเกลียด มันกลับทำให้เธอดูแข็งแรงและสามารถปกป้องตัวเองได้
“สวัสดีตอนเช้า เซซิ หลับสบายมั้ย?” นิวท์นั่นเอง เขาเป็นหัวหน้าด้านงานสวน ที่ต้องอาศัยทั้งแรงงานชายและหญิง เนื่องจากงานขุดนั้นอาจจะหนักเกินไปสำหรับผู้หญิง ส่วนด้านก่อสร้างนั้นมีอัลบี้คอยคุมอยู่แล้วด้วย
“สบายดี นายล่ะหายแฮงค์ยัง? เมาแอ๋เชียะ” เซซิเลียแอบแซวหนุ่มหน้าหวาน
“ไม่ต้องห่วงหรอก รายนั้นน่ะ เมาเป็นอาจิณ” เอวาแกล้งเบะปาก นินทานิวท์
“ก็ใช่ซี้ ใครจะเอาเวลาไปเกาะแกะ แกล้งสุดหล่อได้ตลอดเวลาอย่างเธอล่ะ” นิวท์ทำหน้าทะเล้นใส่เอวา
“อร้ายยยย นิวท์บ้าๆๆๆๆ ชั้นจะฟ้องมินโฮให้เตะก้นนายยยยยย” เอวาวิ่งไล่นิวท์ รอบๆแปลงผัก ทำให้เซซิที่ยืนดูอยู่ถึงกลับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ สองคนนี้เล่นอย่างกับเป็นเด็กๆ
คนที่ยอมแพ้และหยุดวิ่งคงต้องเป็นเอวา เพราะเธอถึงกลับหอบที่วิ่งไลนิวท์ถึงสามรอบแปลงผัก
“เดี๋ยว เย็นนี้เอาใหม่ ตอนนี้ขอพักก่อน”
“โอเค อย่าลืมมาคิดบัญชีละ ฉันจะจดไว้” นิวท์เองก็หอบเบาๆ ที่ต้องวิ่งหนีเอวา ก็เขาไม่ใช่รันเนอร์นี่นา จะได้วิ่งได้ทั้งวัน
“เอาล่ะว่าแต่เราจะปลูกอะไรก่อนดี เค้ามีผักกาด กับฟักทอง” เซซิเลียเห็นว่าศึกระหว่างสองคนนี้ได้ยุติแล้ว เธอก็เริ่มทำงานทันที เธอหยิบซองเมล็ดผักสองซองขึ้นมาพิจารณา
“เอาที่ฉันชอบก่อน ทายสิอันไหนเอ่ย” เอวายืนยิ้มแป้นให้เซซิเลีย
“ผักกาดป่ะ” นิวท์เดา เขาไม่เคยจำว่าเอวาชอบกินอะไร เพราะเขานึกว่าเอวาไม่ชอบกินผักเสียอีก
“แต่เซ้นส์ฉันมันบอกว่าฟักทองนะ” เซซิพูดพลางชูซองเมล็ดฟักทองมาเขย่าเบาๆต่อหน้าเอวา
“เฮ้ยยยยยยย รักเซซิเลียจังเล้ยยย” เอวาเข้าไปกอดเซซิเลีย แล้วหันกลับไปมองนิวท์
“ตะเองอยู่กะเค้ามาตั้งแปดเก้าเดือน ไม่เคยจำเลยนะ ว่าเค้าชอบกินอะไร ดูสิ เพื่อนเค้ามาวันเดียวก็รู้ใจเค้าละ งอนย่ะ” เอวาทำแก้มป่องงอนนิวท์
“โอเค๊ๆ ฟักทองก็ฟักทอง..ชิ” นิวท์แกล้งทำหน้าเอือม
ทั้งสามช่วยกันปลูกผักอย่างสนุกสนาน ต่างจากอีกสองแปลงที่ดูจะเอื่อยๆ ซึ่งน่าจะยังล้าจากกงานปาร์ตี้เมื่อคืน
“เย้ๆ เสร็จแล้ววววว” เอวานั่นเองที่ดีใจจนออกนอกหน้า แบบไม่กลัวว่าแปลงอื่นจะหมั่นไส้เลยทีเดียว
“งั้นเดี๋ยวฉันไปเอาปุ๋ยเอง เธอสองคนไปพักเถอะ” นิวท์เองที่อาสาจะเข้าไปในป่า เพื่อไปเอาปุ๋ยมาใส่แปลงผัก นอกจากแปลงของเขาเอง เขายังจะต้องเอามาเผื่อแปลงอื่นๆด้วย ก็เขาเป็นหนุ่มจิตใจดีนี่นา
“ไปไหนอ่ะ?” เซซิเลียที่งงว่าเขาจะไปเอาปุ๋ยที่ไหน
“ในป่า”
“ไปด้วย! นะๆๆ” ในมือเซซิเลียถือถังกับพลั่วจิ๋วไว้แล้ว พร้อมกับทำตาแป๋ว ทำให้นิวท์ปฏิเสธไม่ลง
“โอเค๊ ท่าทางพลังเธอยังเหลืออีกเยอะใช่มั้ย ฮ่าๆ”
เซซิเลียพยักหน้าหงึกๆให้นิวท์ อีกอย่างเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าในป่านั้นมันเป็นยังไง ทำไมถึงไม่ควรเข้าไป
เธอตามนิวท์เข้าไปในป่า ผ่านที่ราบบ้าง เนินเล็กๆบ้าง ต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ที่ปกคลุมจนแสงแทบจะส่องลงมาที่พื้นดินไม่ได้ ทำให้ความชื้นในดินมีสูงมาก เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่ของสัตว์นานาชนิด เดินเข้าไปเกือบ ห้านาที นิวท์ก็ชี้ให้ดูที่บึงขนาดย่อมๆ
“บึงนั้น จะส่งน้ำเข้าไปใกล้ๆกับที่พวกเราพักอยู่ เราถึงไม่ต้องลำบากเข้ามาตักในนี้ ส่วนด้านโน้น เดินไปอีกสักนิด จะมีกระท่อมเล็กๆของพวกรันเนอร์ พวกเราๆไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป ไม่รู้จะมีความลับอะไรนักหนา ฮ่าๆๆๆ” นิวท์อธิบายให้เด็กใหม่ฟัง
เธอมองตามที่นิวท์บอก ก็เห็นกระท่อมสีน้ำตาลหลังเล็ก สร้างมาจากไม้ มีหลังคาที่ทำไว้สำหรับกันฝนได้อย่างดี ตั้งอยู่ท่ามกลางป่า ซึ่งเซซิเลียก็ชักอยากจะรู้แล้ว ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
“นี่ๆ” นิวท์สะกิด “ห้ามใจลอยเข้าใจไหม ในป่านี่มันอันตราย สัตว์มีพิษเยอะ โดนงูกัดไม่รู้ตัวนะ และถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเข้ามาเดินเล่น เข้าใจป่ะ?” เข้าเตือนเธอ เพราะเห็นว่าเป็นเหมือนน้องสาว ในป่าไม่ได้อันตรายขนาดนั้น แค่ต้องระวังตัวเองให้ดี
“ โอเค, แล้วปุ๋ยล่ะ?” เซซิเลียมองรอบๆ
“อ๋ออออ ผ่านมาตั้งนานแล้ว ฉันพาเธอมาชมนกชมไม้เฉยๆ”
“ห๊าาา”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เอาน่า เดินกลับไปอีกแป๊ปเดียวเอง มาๆๆ” นิวท์เดินนำและขำอย่างผู้ชนะ
“นิวท์ นายอยู่ในนั้นหรือเปล่า” เสียงของฟรายที่ตะโกนขณะเดินเข้ามาในเขตป่า
“เฮ้ๆๆๆ อยู่นี่ๆ กำลังจะตักปุ๋ย” นิวท์ตะโกนกลับไป
“โทษทีนะ ต้องการแรงไปช่วยซ่อมหอคอยน่ะ”
“นิวท์ ไปเถอะ เดี๋ยวฉันตักเอง แค่นี้สบายมาก” เซซิเลียอาสาที่จะทำงานตักปุ๋ยแทน และให้นิวท์ได้ไปช่วยเพื่อนๆคนอื่นซ่อมหอคอย
“งั้นก็ได้ รีบๆทำล่ะ” นิวท์สั่ง ก่อนที่เซซิเลียจะพยักหน้ารับ
เธอตักปุ๋ยทั้งสองถังเสร็จ แถมไปกลับถึงสองรอบ เธอเข้ามาตักปุ๋ยเป็นรอบที่สาม ซึ่งเป็นรอยสุดท้าย เมื่อเธอตักเสร็จแล้ว เธอก็ควรจะรีบยกออกไป แต่ไม่รู้อะไรมาดลใจให้เธอฉุกคิดถึงเรื่องกระท่อมในป่า..กระท่อมของเหล่ารันเนอร์
เธอวางพลั่ว แล้วรีบเดินไปที่กระท่อม เธอมองซ้ายมองขวา เพื่อให้แน่ใจว่าด้านนอกนั้นไม่มีคน เธอเดินรอบๆกระท่อมอย่างเบาฝีเท้า แล้วเอาตาแนบกับผนัง ผ่านช่องว่างของไม้ที่ชอบไม่ชิดกัน
เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอยู่ทั้งด้านในและด้านนอก เธอก็ค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ด้านในนั้นมีแผ่นไม้มากมาย ที่เขียนด้วยถ่านดำ หรือสีบางอย่างที่เธอไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไร
ตรงกลางของกระท่อมนั้นมีผ้าคลุมอยู่ เธอค่อยเอื้อมมือไปเปิดผ้าอย่างเบามือ เธอเห็นบางส่วนของเดอะเมซ และส่วนที่เป็นเดอะเกลด ที่เหล่ารันเนอร์ได้ทำเป็นแผนที่ไว้
ตอนนี้เธอเชื่อแล้วว่า เดอะเมซทั้งใหญ่และซับซ้อน
‘แต่เอ๊ะ โทมัสบอกว่า เดอะเมซเปลี่ยนทุกคืน แต่ทำไมพวกเขายังทำแผนที่ได้ล่ะ?’
เธอได้แต่ก็บความสงสัยไว้ในใจ เธอจะไม่มีวันรู้เกี่ยวกับด้านในเดอะเมซเลย ถ้าเธอไม่ได้เป็นรันเนอร์ ตอนนี้เธอก็ชักอยากจะเป็นรันเนอร์แล้วสินะ
‘เธอต้องรีบออกไปก่อนที่รันเนอร์คนอื่นๆจะจับได้ว่าเธอแอบเข้ามาในเขตหวงห้าม’
คิดได้อย่างนั้นก็รีบปิดผ้าคลุมแผนที่ เช็คให้เรียบร้อยว่าทุกอย่างมีสภาพเหมือนตอนก่อนที่เธอจะเข้ามา เพื่อให้ไม่มีคนสงสัยว่าใครเข้ามาในนี้
เธอมองลอดออกไปด้านนอก เมื่อไม่มีใคร ก็รีบออกไป และปิดประตูไว้อย่างสนิท ก่อนจะเดินกึ่งวิ่งไปที่จุดตักปุ๋ย ถ้าเธอใช้เวลานานกว่านี้ อาจจะเป็นที่สังเกตได้
“จะรีบไปไหน!” เสียงหนึ่งดังออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ เขาซ่อนตัวอยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะออกมาเสียอีก
“นายมาตั้งแต่เมื่อไร” เธอโดนจับได้แล้ว วันแรกก็จะโดนลงโทษแล้วนะเซซิเอ๋ย
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามเข้าไป ขอเตือนเป็นนครั้งที่สองนะ ว่าขอสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปอีก แต่ครั้งนี้โชคดีที่เป็นฉัน ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงต้องไปนอนในหลุมแล้วล่ะ รันเนอร์เขาหวงกระท่อมนี้มาก หวังว่าเธอจะเข้าใจ”
“ขอบใจนะ” เซซิเลีย ทำหน้าเศร้า
“ไปกันเถอะ ฉันสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ” นิวท์ที่ยังทำหน้าบึ้งอยู่ เดินนำเซซิเลียออกไป
ข้าวเที่ยงซึ่งเป็นผัก ผัก และผัก นั้นทำให้ชักกับเอมิลี่หน้างอ ถึงขั้นจะไม่ยอมกินอะไรเลย เดือดร้อนถึงงเอมม่ากับเอวาที่ต้องตะล่อมกันชุดใหญ่ แต่ชัคก็ยังไม่ยอมกิน ถึงกลับนั่งหน้าหงอยและมีจานผักกับขนมปังอยู่ข้างหน้า
เซซิเลียเห็นดังนั้นก็เลยเข้าไปนั่งข้างๆ “มันไม่อร่อยใช่มั้ยล่ะ ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ”
ได้ผล ชัคหันขวับมาที่เซซิ ทำหน้าเหมือนเบื่ออาหารเต็มทน
“เอางี้มั้ย เรามาทำข้อตกลงกัน ถ้ากินข้าวมื้อนี้ กับมื้อเย็นหมด พี่จะหาของอร่อยๆมาให้กิน” เซซิเลียยิ้มหวานยื่นนิ้วก้อยให้ชัค
“อะไรที่มันอร่อยคืออะไรหรอพี่สาว? ตั้งแต่มาที่นี่ไม่เห็นจะมีอะไรอร่อยเลย” ชัคยังไม่สัญญา จนกว่าเขาจะรู้ว่าสิ่งที่เซซิเลียบอกคืออะไร
“ก็คงจะเป็นเนื้อมั้ง น่าจะรสชาติดีกว่าผักพวกนี้เยอะ พี่จะหามาให้นะ ถ้าให้ไม่ได้ พี่ยอมไปล่าเอาเนื้อกรีฟเวอร์มาให้กินเลยเอ้า” เซซิทำหน้าขึงขัง ทำให้ชัคถึงกับหัวเราะลั่น แล้วยื่นนิ้วก้อยออกไปเกี่ยวกับนิ้วของเซซิเลีย
เด็กชายาตัวกลมยิ้มอย่างน่ารัก ก่อนจะตักผักเข้าปากคำแล้วคำเล่า โดยมีพี่สาวคนสวยคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ จนผักเกลี้ยงจาน ทั้งสองจึงแปะมือกันก่อนจะตะโกนเสียงดัง
“เย้ๆๆๆๆ”
เอมม่าและเอวาเห็นจานผักของชัคหมดเกลี้ยงถึงขั้นต้องแอบมาถามเคล็ดลับจากเซซิเลีย ว่าทำยังไงชัคถึงยอมกิน
เซซิเลียก็ยิ้มน้อยๆแล้วบอกเคล็ดลับให้
“แล้วจะไปเอามาจากไหน? เนื้อสัตว์เราก็มีนิดเดียว” เอมม่าทำหน้างงกับแผนเซซิเลีย
“ไม่รู้สิ แต่รับปากแล้วคงต้องทำ” เซซิเลียยักไหล่
“เฮ้อออออ เซซิเลียน้อเซซิเลีย... ทำไมไม่คิดก่อนห๊าาา” เอวาที่ทำหน้าเหนื่อยใจอยู่ข้างๆ บ่นเบาๆ
เธอกลัวว่าเซซิเลียจะผิดสัญญากับชัค พาลให้ชัคต้องเสียศรัทธาในคำสัญญา เพราะคงคิดว่าไม่มีทางเป็นจริง
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันนะ พวกเธอไปพักผ่อนเถอะ” เซซิเลียมองเพื่อนทั้งสอง แล้วยิ้มดั่งจะบอกว่า เธอรักษาสัญญาเสมอ
บ่ายนี้ผู้หญิงไม่ต้องทำงาน แต่อาจจะต้องไปช่วยเตรียมอาหารเย็นแทน ด้านผู้ชายนั้นก็ต้องไปช่วยกันซ่อมหอคอย ต่อเติมห้องประชุมบ้าง ซึ่งทุกคนก็เริ่มงานอย่างขะมักเขม้น
เซซิเลียเห็นนิวท์ไปคุมงามต่อเติมห้องประชุม แต่อัลบี้ก็คงอยู่เฝ้าที่หอคอยเหมือนช่วงเช้า โดยมีแกลลี่เป็นผู้ช่วย งานหอคอยที่ทำมาตั้งแต่เช้านั้นเหลือเพียงแค่เก็บรายละเอียดเล็กน้อย จึงมีเพียงแค่สองคนที่ยังอยู่ด้านนี้ ส่วนคนอื่นๆนั้นไปกับนิวท์หมดแล้ว
เซซิอยู่ว่างๆจึงเดินเข้าไปดูที่หอคอย ทักทายทั้งอัลบี้และแกลลี่
“ไง ใกล้เสร็จหรือยัง?”
“ใกล้แล้วล่ะ” อัลบี้โชว์ผลงาน
“ทำไมไม่ไปพักล่ะ ไม่เหนื่อยหรอ? ได้ข่าวว่าตักปุ๋ยคนเดียวนี่” แกลลี่ถาม เพราะรู้สึกแปลกใจในความแข็งแรงที่ดูจะเกินขนาดของร่างกายเธอ
“อ้ออออ พักแล้วนี่ ตอนเที่ยง อยู่ว่างๆน่ะ เลยอยากหาอะไรทำ” เซซิเลียตอบพลางมองไปรอบๆ ว่ามีอะไรให้เธอเล่นบ้าง
“อัลบี้ นายมีอาวุธบ้างหรือเปล่า เอ่ออออ แบบพวกหอก ธนู หน้าไม้ ไรงี้?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ เธอนี่ตลกชะมัดเลย เราไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก จะไปหามาจากไหน อย่างดีที่สุดก็แค่หอกที่ทำลวกๆเผื่อกรีฟเวอร์เข้ามา แต่เชื่อมั้ย ตั้งแต่มาอยู่นี่ยังไม่มีใครเจอกรีฟเวอร์เลย” แกลลี่ส่ายหัวแถมหัวเราะลั่น
เซซิเลียจึงหันไปด้านอัลบี้ เขาก็ส่ายหัว “เรราไม่ต้องรบกับใคร เลยไม่มีอาวุธน่ะ แต่เรามีพวกมีดกับขวานนะ เอาไว้ตัดไม้ ว่าแต่เธอจะเอาพวกนั้นไปทำอะไรเลย”
“อ้ออออ เปล่าหรอก แค่หาอะไรเล่นสนุกๆเท่านั้นเอง” เธอยักไหล่ “ไม้ท่อนนี้ใช้หรือเปล่า” เธอหยิบไม่ท่อเล็กขนาดพอดีมือ แล้วถามไปที่แกลลี่
เขาส่ายหน้า “มันเล็กและเป็นไม้เนื้ออ่อนน่ะ เอามาใช้ไม่ได้”
ได้ยินแกลลี่พูดดังนั้นเธอก้จัดการงอไม้จนเป็นรูปครึ่งวงกลม งอแล้วปล่อย งอแล้วปล่อย ทำไปสักสามสี่รอบแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นขอนะ” สร้างความงุนงงให้สองหนุ่มเป็นอย่างมาก หวังว่าเธอคงจะไม่เอาไปฟาดเล่นเหมือนกับที่ชัคและเอมิลี่ทำบ่อยๆนะ
สุดท้ายเธอได้อุปกรณ์ที่เธอต้องการจนครบแล้ว ก็เป็นการเริ่มทำอาวุธไว้ใช้งาน ใจจริงเธออยากจะใช้ปืนแต่ลูกกระสุนที่มีจำกัด ทำให้เธอต้องเก็บมันเอาไว้ในกล่องตามเดิม และให้อัลบี้รักษาไว้
สองเด็กน้อยที่ว่างและเหนื่อยจากการวิ่งซนก็มานั่งดูพี่สาวคนสวยว่าจะทำอะไรกับของพวกนี้
เซซิเลียจัดการเหลาไม้ด้ามยาวให้ได้ขนาดและน้ำหนักที่พอดีมือ แล้วเธอก็จัดการขึงเชือกให้ตึงจนไม้โค้งงอได้องศา
“โหวววววววววว อะไรอ่ะพี่สาววววว” เอมิลี่ตาโต
“ธนูจ้ะ พี่จะทำอันเล็กให้อีกอันนะ เดี๋ยวจะสอนยิง” เซซิเลียยิ้มโอ่นโยนให้เด็ก
“เย้”
จากนั้นเธอจัดการทำลูกธนูจากเศษกิ่งไม้ขนาดเล็กแต่น้ำหนักพอดี ให้ตัวเธอเองสิบอัน และให้เด็กๆอีกสามอัน
หลังจากเหลาลูกธนูให้เหลมแล้ว เธอจัดการผ่าที่ปลายลูกธนูเพื่อให้ยึดกับเชือกที่จะยิง แล้วพันเศษผ้าถ่วงที่หางเล็กน้อย เพราะเธอไม่สามารถหาอุปกรณ์ทำหางธนูได้
ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ธนูสองคันก็สำเร็จเรียบร้อย
“ไปหาเป้ากันเถอะ” เซซิเลียเดินนำเด็กๆ ออกไปที่ลาน เพื่อหาต้นไม้ขนาดกลาง จนในที่สุดก็ได้ต้นที่เกิดเกือบจะติดกับกำแพง ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนสูงเกือบสามเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งฟุต เป็นขนาดที่พอเหมาะที่เธอคิดไว้
เซซิเลียเอามีดถากๆเปลือกไม้ด้านหน้าออกจนหมดแล้วเอาถ่านขีดเป็นวงๆขนาดเล็กไปจนใหญ่จำนวนห้าวงซ้อนกัน อยู่
“พี่ขอลองก่อนนะ เดี๋ยวจะสอนทีหลัง” เธอไม่มีความทรงจำกับธนูแต่สัญชาตญาณของเธอมันทำให้เธอรู้สึกถึงวิถีที่เป็นไปได้ของลูกธนูเหล่านี้
เธอกลั้นหายใจก่อนจะง้างคันธนูและปล่อยลูกธนูออกไปอย่างรวดเร็ว ฉึก! ลูกธนูปักตรงกลางเป้าได้แม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ
“มันอาจจะบังเอิญก็ได้นะ พี่ขอยิงอีกทีนึง” พูดจบเธอก็ง้างคันธนูแล้วปล่อย ผลก็เป็นเช่นเดิม แม่นเหมือนจับวาง
“คงไม่บังเอิญแล้วมั้ง เก่งขนาดนี้” เอมิลี่ตบมือแปะๆอยู่ข้างๆชัค
“งั้นมานี่ เดี๋ยวพี่จะสอนให้”
เซซิเลียสอนชัคให้หัดยิงธนูอยู่นานสองนาน เพราะชัคยังเด็ก เขาคำนวณน้ำหนักและวิถียิงไม่เป็น ยิ่งกำลังแขนนั้นไม่ต้องพูดถึง แขนของเขายังไม่มีกำลังพอ ทำให้ชัคยิงลูกไม่เข้าเป้าสักที
“เอางี้นะ ใจ สูดหายใจลึกๆ แล้วค่อยง้างแล้วรีบปล่อย แขนจะได้ไม่เมื่อยและไม่สั่น”
หลังจากที่บอกไปแบบนั้นชัคก็ตั้งสติ สูดหายใจ ง้างแล้วปล่อยอย่างรวดเร็ว เป็นการยิงเข้าที่ขอบเป้าเป็นครั้งแรก หลังจากที่ยิงไปเกือบยี่สิบครั้งก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้เฉียดเป้าด้ยซ้ำ
“เย้ๆๆๆๆๆๆ เข้าเป้าแล้วๆๆๆๆ ชัคเก่งที่สุด ดูสิเอมิลี่ ฉันเก่งมั้ยๆๆ” เขาชมตัวเองพลางกระโดดโลดเต้นเสียงดัง
คนอื่นๆ เห็นแบบนั้น ก็อยากรู้ว่าทั้งสามคนเล่นอะไรกัน ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็เสร็จงานของตนกันเกือบหมดแล้ว
“เฮ้ๆ สอนฉันบ้างๆๆๆ” นิวท์เสนอหน้ามาก่อนเพื่อน พร้อมทำตาโตอย่างตื่นเต้น เซซิเลียจึงยื่นคันธนูให้เขา พร้อมสอนวิธีจับ แน่นอนว่ายิงไปสิบลูก เข้าขอบเป้าไปแค่สาม
“ถือว่าใช้ได้ สำหรับมือใหม่” เซซิเลียกลั้นขำ
“แล้วเธอล่ะ โชว์หน่อยสิ ฉันอยากจะเห็นฝีมือเธอแล้ว ว่าจะเจ๋งเหมือนที่เด็กๆชมไว้หรือเปล่า” แกลลี่นั่นเองที่ท้าเธอ และเธอก็เกลียดคำท้าที่สุด
เมื่อนิวท์เก็บลูกธนูมาคืนครบทั้งสิบลูก เซซิเลียก็เดินให้ห่างจากเป้าออกไปเกือบยี่สิบเมตร เธอสูดลมหายใจลึกๆ และลูกแรก ฉึก!เข้าที่กลางเป้า
เพื่อตออกย้ำว่ามั้นไม่ใช่ความบังเอิญ เธอหยิบลูกที่สองออกมาและปักฉึกห่างจากลูกแรกไปเพียงสองเซน ทุกคนปรบมือเกรียวกราว เธอเกลียดการท้า และเพื่อตอกย้ำคำท้านั้น เธอหยิบธนูออกมาสองลูกพร้อมกัน และก็ตามคาด ธนูทั้งสองลูกปักเข้าเป้าทั้งคู่ ทำให้เสียงเป่าปากและเสียงโห่ร้องยิ่งดังกว่าเดิม
เธอหันกลับไปยิ้มให้แกลลี่และโค้งหัวเล็กน้อย เหมือนนักแสดงโชว์ แกลลี่ยอมจำนนในฝีมือจนต้องยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองข้าง
จากนั้นเพื่อนๆทั้งหญิงชายก็ผลัดกันเข้ามาให้เธอสอน และยิงธนู จนเซซิเลียล้าไปเลยที่เดียว
“เหนื่อยมั้ยเซซิ ฉันเห็นเธอง้างคันธนูโชว์พวกเขาไปเป็นร้อยๆรอบแล้วมั้งเนี่ย” เอวาถามด้วยความเป็นห่วง
เซซิเลียไม่ตอบ เธอได้แต่ถอนหายใจ ก็บ่ายนี้เธอยังไม่ได้พักเลยนี่นา
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นที่ข้างหูเอวา “วันนี้ลืมฉันได้ยังไง” มินโฮนั่นเอง ที่ออกมาจากเดอะเมซแล้วแปลกใจว่าไม่มีเอวามาคอยรับเหมือนทุกๆวัน
“เฮ้ยยยยย ลืมไปเลยอ่ะ ดูเพื่อนๆเพลินไปหน่อย” เหมือนเอวาจะนึกได้ว่ามีผู้ฟังอีกคนที่ยืนอยู่ เอวาจึงถือโอกาสแนะนำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกัน “อ้อออ เซซิเลียนี่มินโฮ มินโฮนี่เซซิเลียเด็กใหม่เมื่อวาน”
เซซิเลียยิ้มแล้วยื่นมือออกไปข้างหน้า มินโฮสัมผัสพร้อมยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร
“งั้นเดี๋ยวฉันไปก่อนนะ เธอก็ควรจะพักด้วยเหมือนกันนะ เหนื่อยทั้งวันแล้ว” เอวาบอกกับเซซิเลีย เธอก็ได้แต่พยักหน้า
มีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในความคิดของเธอ ‘ผู้ชายอะไรน่าหมั่นไส้ ยิ้มสักนิด พูดสักคำก็ไม่มี หยิ่งชะมัด’ มันอาจจะเป็นเพราะบุคลิกของเขาที่เข้ากับคนมาใหม่ได้ยาก ทำให้รู้สึกเหมือนมีกำแพงกั้นระหว่างเขาและคนอื่น คงมีแค่เอวาเท่านั้นที่ผ่านกำแพงหนาเข้าไปถึงจิตใจเขาได้...
ความคิดเห็น