ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [D18] The Wanderer

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 55


    Chapter 3


         “ยามาโมโตะ ทาเคชิ”

    ทันทีที่สิ้นเสียง ร่างข้างๆก็สิ้นการทรงตัว ล้มลงอย่างรวดเร็วจนดีโน่แทบจะคว้าไว้ไม่ทัน

    ดีโน่มองสำรวจใบหน้าซีดเผือดจนแทบจะไร้สีเลือดของฮิบาริแล้วภาพในความทรงจำตอนที่เข็มพิษพุ่งมาปักต้นคอฮิบาริในวันนั้นก็กลับมาอีกครั้ง ความกลัวและความกังวลอาบไล้ไปทั่วร่างอีกครั้ง แต่พอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่แสนแผ่วเบานั้นความโล่งใจก็เริ่มเข้ามาแทนที่

    ความจริงแล้วเหตุผลหลักๆที่เขาไม่พาฮิบาริมาที่นามิโมริในทันทีก็มีอยู่สองข้อ

    ข้อแรกเลย เคียวยะของเขาเป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีมาก คงไม่อยากให้ใครก็ตามมาเห็นตัวเองในสภาพนี้แน่ๆ โดยเฉพาะพวกนักเรียนที่ต้องยำเกรงต่อเขา

    ส่วนอีกข้อ เพราะเขาไม่อยากให้เคียวยะต้องมาเจอคนคนหนึ่ง...

    อาจดูเหมือนเห็นแก่ตัว เพราะถ้าคิดถึงสภาพของเคียวยะในตอนนี้การทำให้เขานึกเรื่องให้ออกทั้งหมดสำคัญที่สุด และคนที่ว่านี้ก็อาจมีส่วนช่วยได้ด้วย แต่บางสิ่งในใจของเขาก็ต่อต้านความคิดนี้

    ถ้าจะพูดตามตรงคือ เขากลัว...

    กลัวว่าเคียวยะจะนึกเรื่องทั้งหมดออกเพราะคนที่ไม่ใช่เขา หรืออาจจำคนคนนั้นได้ ทั้งที่จำเขาไม่ได้...

    โชคร้ายที่คนที่ว่าดันมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเคียวยะแล้ว แถมเคียวยะยังเรียกชื่อหมอนั่นอีกต่างหาก...

    ต้องพาเคียวยะไปจากที่นี่ก่อน เคียวยะอาการไม่ดีเท่าไหร่ เสียงเรียกในสติดึงเขาขึ้นมาจากห้วงความคิด ใช่ ตอนนี้เรื่องของเคียวยะสำคัญที่สุด

    “โทษทีนะ แต่เคียวยะไม่สบายนิดหน่อยน่ะ ชั้นกลับก่อนล่ะ” ดีโน่บอกกลับยามาโมโตะที่ยังคงมีสีหน้าแปลกใจยืนอยู่ตรงประตู พลางกระชับร่างบอบบางเข้ามาในวงแขนแล้วเดินออกจากห้อง ผ่านตัวยามาโมโตะไป

     

    ตอนนี้ภายในใจของดีโน่ราวกับถูกเผาด้วยไฟจากไหนสักแห่งที่กำลังลุกลาม เขาห่วงเด็กหนุ่มฝนอ้อมแขนจนเริ่มจะคิดอะไรไม่ออก ถึงจะโล่งใจที่ฮิบาริยังมีชีวิตอยู่แต่เขาก็อดห่วงไม่ได้ว่าอาการอาจจะทรุดลงอีก และถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงอดไม่ได้ที่จะโทษตัวเองที่เป็นคนพาเคียวยะมาที่นี่

    นัยน์ตาสีน้ำผึ้งเหลือบมองร่างเจ้าของผมสีรัตติกาลที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ชามาลที่เขาเรียกมาดูอาการของเคียวยะเพิ่งจะออกไปหลังตรวจเสร็จและบอกเขาว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เด็กหนุ่มแค่หมดสติไปเท่านั้น

    “บอสครับ”เสียงของโรมาริโอ้ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาก็ไม่อาจทำให้บอสหนุ่มละสายตาไปจากร่างบางที่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติไปได้เลย

    “ชั้นนี่แย่มากเลยสินะ โรมาริโอ้...” ด๊โน่พูดเสียงเบาหวิวราวกับพึมพำกับตัวเอง “แต่ตนที่ตัวเองรักคนเดียวยังปกป้องไว้ไม่ได้ แล้วชีวิตคนทั้งแฟมิลี่จะปกป้องได้ยังไง”


    “ไม่หรอกครับบอส...” โรมาริโอ้มองบอสของเขาอย่างอ่อนใจ ใบหน้าหล่อเหาของบอสที่เคยร่าเริงและประดับไปด้วยรอยยิ้มเสมอตอนนี้ดูอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน

    “เฮ้ออออ” ดีโน่ถอนหายใจ เขาตัดสินใจพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน แล้วละสายตาจากร่างที่ยังนอนสงบนิ่งบนเตียงหันไปหาโรมาริโอ้ที่ยังยืนอยู่หน้าประตู “แล้ว... มีเรื่องอะไรล่ะ”

    “ครับ” โรมาริโอ้บอกด้วยเสียงจริงจัง ขยับตัวเข้ามาใกล้บอสของเขาอีกหน่อย “เพิ่งมีการแจ้งเข้ามาว่าที่แฟมิลี่เกิดปัญหาภายในนิดหน่อย แต่บอสสมควรจะกลับไปจัดการเรื่องนี้เองครับ”

    “แล้วเคียวยะล่ะ!” ดีโน่ตะโกนขึ้นเสียงดังอย่างเดือดดาล “จะให้ชั้นทิ้งเคียวยะไว้ที่นี่ ในสภาพนี้น่ะหรอ!!

    “บอส...”

    “ขอโทษนะครับที่ขัดจังหวะ”

    แต่ก่อนที่โรมาริโอ้จะได้พูดอะไรต่อประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออกอีกครั้ง ผู้มาใหม่อยู่ในชุดนักเรียนของนามิโมริ ทรงผมแปลกประหลาดเหมือนพวกนักเลงกับปลอกแขนสีแดงที่ขาดไว้บอกถึงฐานะรองประธานกรรมการคุมกฏของนามิโมริ

    คุซาคาเบะย่างเท้าเข้ามาในห้องพักในมือถือช่อดอกไม้ที่ดูไม่เข้ากับเขาสุดๆเข้ามา “แต่ถ้าคุณยังทำเสียงดังอย่างนั้นจะรบกวนคุณเคียวนะครับ”

    “คุซาคาเบะ?” ดีโน่ส่งสายตาแปลกใจมายังร่างของผู้มาใหม่ที่กำลังหยิบแจกันข้างหัวเตียงมาจัดแจงใส่ดอกไม้ที่เขาถือมาด้วย “นาย... มาที่นี่ได้ยังไง”

    “อย่าดูถูกเครือข่ายกรรมการคุมกฎนามิโมริสิครับ ยังไงนี่ก็เป็นเครือข่ายของคุณเคียวนะครับ” คุซาคาเบะพูด มือยังคงยุ่งอยู่กับการจัดดอกไม้ลงแจกัน “แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก ผมว่ามีเรื่องที่คุณต้องรู้ไว้สักหน่อย”

    “เรื่องอะไร” ดีโน่ถามเสียงเรียบ นัยน์ตาสีน้ำผึ้งยังจับจ้องที่คุซาคาเบะที่เดินเอาแจกันมาวางไว้ข้างเตียง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียงแล้ว

    “คุณเคียวกำลังตามสืบเรื่องอะไรสักอย่างอยู่ ผมก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก เพราะคุณเคียวเป็นคนจัดการเองนี้ทั้งหมด แต่รู้สึกว่าช่วงนี้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นบ่อยๆในนามิโมริ บางทีคงจะเป็นเรื่องนั้น” คุซาคาเบะพูด สายตาของเขามองมายังดีโน่นิ่งๆ “ผมเลยลองตามสืบจากเรื่องนี้อยู่ ตอนนี้คงต้องรอผลอีกที”

    “งั้นหรอ” ดีโน่ถามเสียงเครียด เขาหันไปมองโรมาริโอ้ ส่งสายตาแทนคำสั่งไปให้

    ไม่เสียแรงที่เป็นลูกน้องที่ใกล้ชิดและอยู่กับเขามานาน โรมาริโอ้พยักหน้าให้ทีนึง แล้วเดินออกจากห้องพักไป

    “นาย... มีอะไรอีกมั้ย” ดีโน่หันกลับมาถามคุซาคาเบะที่ยังนั่งอยู่ข้างเตียงของฮิบาริ

           “ตอนนี้ก็ไม่มีแล้วล่ะ” คุซาคาเบะตอบ รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกไล่กลายๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาก็มีเรื่องต้องจัดการแทนฮิบาริเยอะอยู่เหมือนกัน เขาจึงลุกจากเก้าอี้ ก่อนออกจากห้องไปเขาก็ทิ้งท้ายเอาไว้ “ผมคงต้องฝากคุณเคียวไว้ที่คุณก่อน ถึงความจริงผมจะคิดว่ากรรมการคุมกฎสามารถดูแลคุณเคียวได้ แต่ยังไงฝากไว้กับแฟมิลี่ของคุณก็น่าจะปลอดภัยกว่าเยอะ อีกอย่างคุณเคียวคงไม่อยากให้ใครเห็นตัวเองสภาพนี้นักหรอก”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×