คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : mask [...จะบอกได้ไงว่าหลวมตัวมา!]
กลิ่นหอมอ่อนๆลอยมาแตะจมูก ทำให้ร่างเล็กขยับกายเล็กน้อย
เหมือนกลิ่นของซุปมิโสะ ที่พี่ชายเคยทำให้เมื่อนานมาแล้ว
เพราะอย่างนั้น วายะจึงพยายามเบิกตาที่หนักอึ้งทั้งสองข้างต่อสู้กับแสงไฟอย่างสลึมสลือ เขาแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่ามีจานอาหารมาวางอยู่ตรงหน้า ไหนจะสูทสีเข้มที่คลุมอยู่บนตัวเขาอีก วายะนึกทบทวนความจำอยู่ครู่หนึ่งว่าเขามานอนอยู่บนโซฟานี่ได้ยังไง
“ คนของนายบอกว่าเจ้านั่นได้ของไปแล้วงั้นเหรอ? ไว้ใจได้แค่ไหน?.. บางทีพวกนั้นอาจจะไหวตัวทันแล้วก็ได้.. ”
อิจิโยหันไปมองตามต้นเสียง เรียวกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ริมหน้าต่างบานใหญ่
“ คอยดูท่าทีไปก่อนก็แล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ค่อยหาจังหวะให้คนของเราไปชิงเอามา ตอนนี้ยังไม่เป็นไร.. ชั้นมั่นใจว่าเสวี่ยยังปล่อยให้พวกนั้นไม่หมด อย่างน้อยๆ เอกสารสัญญาธุรกิจcasinoที่ฮ่องกงก็ยังปลอดภัย ”
คุราชิคิ เรียววางหูโทรศัพท์แล้วหันมาทางวายะ ชายหนุ่มรีบแกล้งทำเป็นนอนอยู่
แววตาสีน้ำตาลจ้องมองร่างบางตรงหน้า และสังเกตเห็นสูทที่หล่นไปกองอยู่บนพื้น
“
. ..ยังคิดจะหลับต่ออีกเหรอ คนที่กำลังหลับอยู่ไม่ได้หายใจเร็วอย่างนั้นหรอกนะ อิจิโย ” วายะหันขวับกลับมาแล้วตวัดสายตาใส่คนรู้ทัน แต่เรียวก็พูดมาดักหน้าซะก่อน “ ก่อนจะโวยวาย ไม่คิดจะขอบคุณชั้นที่พานายเข้ามาบ้างรึไง ”
ตาโตชะงักทันควัน
นี่เราเป็นลมให้หมอนี่เห็น? ตอนนั้นเป็นหมอนี่จริงๆสินะ ..น่าขายหน้าชะมัด ทำไมต้องโผล่มาตอนที่เราดูไม่ได้ทุกทีสิน่า..
“
”
“ ลุกซะสิ นายต้องกินอะไรซะก่อน ”
คุราชิคิขยับตัว ทำท่าจะเดินเข้าไปหา
“ ไม่ต้อง อย่าเข้ามานะ! ”
“
. ”
อีกฝ่ายเลิกคิ้วมองหน้าวายะ
แววตาต่อต้าน กับร่างกายที่กำลังสั่นเกร็งอย่างแข็งขืนบนโซฟา ทำให้เรียวรู้สึกขำขันขึ้นมาหน่อยๆ
“ นาย..ตกใจอะไรน่ะ? ”
“
ม..ไม่ได้ตกใจอะไรซักหน่อย.. ”
ชายหนุ่มรีบปกปิดสีหน้าหวาดหวั่น แต่ร่างสูงกลับเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ จนเขาต้องเบี่ยงตัวกระเถิบไปชิดริมโซฟา
แล้วในที่สุดเงาของคุราชิคิ เรียว ก็ทาบทับร่างเล็กจนหมดก่อนจะโน้มตัวลงมา
“ ออก ออกไปนะ! ”
วายะหลับตาแน่น พยายามเบี่ยงหลบให้ไกลที่สุด เสียงใจเต้นโครมครามกลัวจะโดนอย่างคราวที่แล้วอีก
“ อย่าโวยวายน่า ..ชั้นแค่จะหยิบเสื้อเท่านั้นเอง ”
“
. ”
อิจิโยค่อยๆลืมตา และมองดูเรียวที่หยิบเสื้อขึ้นมาปัดด้วยความรู้สึกสับสนผสมปนเปกับความอับอาย
นี่เขาเป็นอะไรนะ
“ หึ ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้นก็ได้.. ชั้นไม่นิยมที่จะมีอะไรกับคนที่กำลังป่วยซักเท่าไหร่ ” เรียวอดนึกขำไม่ได้กับท่าทางของวายะ “ ถ้าไม่อยากเห็นหน้าขนาดนั้น งั้นชั้นจะออกไปก็ได้นะ ว่าไง? ”
รอยยิ้มนั่นเป็นประกายเหมือนจะยั่วโมโห.. อิจิโยรู้สึกร้อนวาบบนใบหน้าขึ้นมาทันที ถ้าเขาไม่ปล่อยหมัดใส่ใบหน้าอวดดีของหมอนี่ไปบ้างซักหมัดสองหมัดล่ะก็ เขาอาจจะขาดใจตายก็เป็นได้
วายะหลบตามองพื้นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ แค่หมอนี่จ้องมา เขาทำใจให้สงบไม่ได้แล้ว
“ ..ไม่ต้อง ชั้นจะออกไปเอง ”
วายะลุกขึ้น ผลักร่างสูงไปอีกทาง
แต่จู่ๆดูเหมือนว่าร่างกายจะไม่เป็นใจเท่าไหร่ วายะล้มลงไปกองอยู่ที่เดิม เขารู้สึกปั่นป่วนในท้องจนต้องโค้งตัวงอ
“ ..นอนเงียบๆอยู่อย่างนั้นซักพักเถอะ ” เรียวถอนหายใจเมื่อเห็นว่าวายะยังอาการไม่ดีขึ้นซักเท่าไหร่
ทั้งที่เมื่อกี้ยังโวยวายซะเสียงดังขนาดนั้นแท้ๆ
“ ชั้นจะออกไปข้างนอก.. ยังไงก็จัดการกับของตรงหน้าให้เรียบร้อยก่อนที่ชั้นจะกลับมาก็แล้วกัน ”
เรียววางมือแกร่งลงบนเส้นผมของร่างเล็กเบาๆหนึ่งทีก่อนจะเดินผ่านไปยังประตู
สัมผัสของเขาทำให้วายะเบิกตากว้าง ในขณะที่กลิ่นหอมอ่อนๆของหมอนั่นค่อยๆหายไป เสียงปิดประตูทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องออกไปแล้วจริงๆ
“ อย่ามาทำเหมือนชั้นเป็นเด็กนะ.. ”
อิจิโยพึมพำในลำคอ แต่มือก็ยังกุมอยู่ที่หน้าท้องด้วยความเจ็บปวด
เขาเหลือบไปเห็นยาที่วางอยู่ข้างๆจานอาหาร
ทำไมรู้สึกเหมือนโดนปั่นหัวยังไงก็ไม่รู้
ประสาทรึเปล่านะ หมอนั่น
เมื่อกี้ยังแกล้งจับผิดเขาอยู่เลย..
ช่างเถอะ คิดไปก็เท่านั้น
ว่าแต่..กลิ่นซุปมิโสะหอมชะมัดเลยแฮะ
.
.
เที่ยงคืนมหานครโตเกียวยังคลาคล่ำไปด้วยแสงไฟละลานตา รถลีมูซีนสีขาวดูเด่นสง่าจอดรออยู่ด้านหลังโรงแรมระดับห้าดาวในย่านอิเคะบุคุโระ
บนห้องSuit ชั้น 53
ซาเอจิมะ ไคจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ
ร่างกายที่เปลือยเฉพาะท่อนบนนอนแผ่ไปบนที่นอนอย่างสบายอารมณ์บนเตียงking size ไคปรายตามองไปยังร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาวสองคนที่กำลังนอนหมดแรงอยู่ข้างๆตัว
ใบหน้าสุขสมของพวกเธอบ่งบอกถึงเหตุการณ์ดุเดือดที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปหมาดๆ ทั้งคู่หลับไปอย่างนั้นทั้งๆที่ยังมีคราบเลอะเทอะเปื้อนอยู่ตามง่ามขา
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากที่นอนอย่างเหนื่อยหน่าย เขาหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินอาดๆไปยังห้องอาบน้ำ
สีหน้าของเขาเรียบเฉยราวกับว่าความสุขจากกิจกรรมเผ็ดร้อนเมื่อครู่ยังไม่ได้รับการเติมเต็มซักเท่าไหร่
ความจริงเขาแทบไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ
เสียงน้ำจากฝักบัวตกกระทบร่างกำยำ
น้ำเย็นๆไหลลู่ไปตามร่างกาย ดูเหมือนว่าซาเอจิมะปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ..ภายในดวงตาสีซีดนั้น กำลังครุ่นคิดไปถึงการแลกเปลี่ยนของ เมื่อวานนี้ที่โกดังท่าเรือ
MO disk และRom เล็กๆอีกแผ่น ถูกแลกไปกับข้อมูลค้าอาวุธและยา
ข้อมูลลับขององค์กรที่ถูกขโมยไปคราวก่อน คงไม่พ้นฝีมือของเจ้าคุราชิคิแน่ๆ โชคดีที่ได้กลับมาทันเวลา
แต่คราวนี้ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นอีก
ตอนนี้ ขาดไปแค่อย่างเดียวเท่านั้น
เอกสารสัญญาที่อยู่กับเสวี่ยอี..
“
”
ไคอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวทั้งสองคนก็ยังคงสลบไสลอยู่ที่เดิม
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ ท่านซาเอจิมะ.. ผมเองครับ ”
ซาเอจิมะหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดผมอย่างลวกๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเดินตามเข้ามา
“ นั่นอะไร ”
ชายหนุ่มทักขึ้นเมื่อสังเกตเห็นซองสีน้ำตาลที่ติดมาด้วย
“ ได้มาแล้วล่ะครับ เรื่องของเด็กผู้ชายที่ถูกยกเลิกในงานประมูลคราวก่อน ”
ไคนึกขึ้นได้ทันที...
“ ใช่คนของเรารึเปล่า? ”
“ เปล่าครับ.. ฝ่ายนั้นเข้าใจผิดเด็กนั่นไม่เกี่ยวข้องกับเราเลย เพียงแต่...”
“ อะไร ”
“ เพียงแต่เราสืบมาได้ว่าพี่ชายของเด็กนั่นเป็นคนไข้ของท่านซึซึอิ ”
“ คนไข้ของพ่องั้นเหรอ ” ดวงตาสีซีดของซาเอจิมะหรี่ลงเล็กน้อย “ รายละเอียดล่ะ ”
“ ครับ คือ... ”
.
.
.
ซาเอจิมะ ไคยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เขามองผ่านกระจกบานใหญ่ไปยังวิวทิวทัศน์ของโตเกียวยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกระฟ้าเหล่านั้นดูจะไม่มีคุณค่าแก่สายตาของเขาเลยซักนิด
“ เผาซองเอกสารนั่นซะ แล้วอย่าให้พ่อ หรือปู่รู้เรื่องนี้ล่ะ ”
“ ครับ ”
ไคขยับเนคไทด์เล็กน้อย เตรียมจะออกจากห้อง ตอนนั้นเอง หญิงสาวที่อยู่บนเตียงก็เริ่มขยับตัวไปมา พร้อมกับครางเบาๆในลำคอ
ชายหนุ่มโยนคีย์การ์ดโรงแรมไปให้ลูกน้อง
“ ยาคงยังไม่หมดฤทธิ์.. นายไปสนุกกับแม่นั่นต่อก็แล้วกัน ชั้นไปล่ะ ”
“ ต แต่.. ”
“ อีกคนก็ได้.. ถ้ายังไม่พอ ถือว่าชั้นให้เป็นรางวัลเรื่องข้อมูลนี่ก็แล้วกัน ”
ไคเดินออกมาจากห้อง ไม่รอฟังคำตอบ
รายงานที่เพิ่งจะได้รับมาจากสายข่าว ทำให้เขานึกหฤหรรษ์อยู่ในใจ
รอยยิ้มจางๆที่แทบจะมองไม่เห็นของชายหนุ่ม ไม่สามารถบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่..
วายะถอนหายใจพลางเดินไปตามทางเดินของตึกใหญ่
โชคดี ที่ห้องทำงานของเรียวไม่ได้ล็อคเอาไว้ ไม่งั้นเขาคงออกมาไม่ได้แน่ๆ
อาการปวดท้องของเขาหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ายาของหมอนั่นจะได้ผลชะงัดขนาดนี้.. ไม่สิ ไม่ใช่ยา แต่น่าจะเป็นเพราะซุปมิโสะกับคาราเกะมากกว่า
นี่เขาไม่ได้กินข้าวมากี่มื้อแล้วนะ..
“ อ้าว นั่น ไอ้หนูที่เพิ่งเข้ามาใหม่นี่ ”
วายะหันขวับไปทางต้นเสียง เขาหรี่ตามองชายชุดดำสองคนที่เดินสวนกันพอดี
สองคนนั่นหยุดยืนมองดูเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ ไง.. นายน่ะอายุเท่าไหร่แล้ว ”
คนถูกเรียกทำท่าจะตอบ แต่ว่าพาร์ทเนอร์อีกคนพูดดักซะก่อน
“ถามได้ ไอ้หนูนี่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเกินยี่สิบ ท่าทางก็ไม่เอาไหน บอสกับพี่เซโงะคิดยังไงถึงได้ยอมรับเข้ามาง่ายๆกันนะ.. ”
วายะนึกฉุน
“ เลิกเรียกว่าไอ้หนูซักทีเถอะ ผมชื่ออิจิโย.. อิจิโย วายะ ”
“ วายะงั้นเหรอ ไอ้เด็กนี่ชื่อเหมือนนายน้อยเลยว่ะ ” ชายคนหนึ่งเกาคางเหมือนใช้ความคิดอยู่ “ ...รู้สึกว่าแกจะเริ่มขับรถให้นายน้อยอาทิตย์หน้าใช่มั้ย? ”
“ ใช่.....เอ่อ...ใช่ครับ.. ”
“ แจ๋ว!..งั้นก็ดีเลย ช่วงนี้คงยังว่างๆอยู่ล่ะสิ งั้น นายไปช่วยงานชั้นวันมะรืนนี้ซักหน่อยเป็นไร ”
พี่ชายที่อยู่ด้านขวาเบิกตาโพลงทันทีที่ได้ยินคนข้างๆพูดเรื่องที่คาดไม่ถึงเข้า
“ เฮ้ย จะดีเหรอวะ ถ้าพี่เซโงะรู้เข้าพวกเราไม่แย่เรอะไง ไอ้เด็กนี่ยังใหม่อยู่นะ ”
“ จะเป็นไรไปเล่า บอสเองก็ไม่ได้ห้ามซักหน่อย แค่ไปยืนคุมเชิงเท่านั้นเอง ”
“ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...แล้วจะบอกคนดูแลเรื่องนี้ยังไง ”
“ เอาน่า.. ชั้นจะจัดการเอง ”
พี่ชายอีกคนรีบตัดบท เขาหันหน้ามาทางวายะแล้วยิ้มกว้าง
“ ไง..ไอ้หนู นายสนใจมั้ย? ”
“ ? ”
.
.
.
อิจิโยยืนมอง ‘งานใหม่’ ที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง
เสียงของไวโอลินและเชลโลบรรเลงคลอไปกับบรรยากาศครึกครื้นภายในงาน
ถึงแม้จะมีcelebrityจากวงการต่างๆอยู่เต็มไปหมด แต่สายตาของเขากลับไปหยุดอยู่ที่กลุ่มของอดีตคณะรัฐมนตรีมากกว่า
งานเลี้ยงนี่ไม่ธรรมดาแฮะ
สมกับเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งซะจริงๆ
หน้ากากปลิวว่อนไปทั่ว
ชายหนุ่มขยับสูทสีขาวอย่างอึดอัด
ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะทำ ‘งาน’ นี้ซักเท่าไหร่ แต่เพราะว่า ปฏิเสธไม่ได้ ต่างหาก
“ยืนคุมเชิงงั้นเหรอ ฟังดูดีนี่..”
วายะบ่นพึมพำกับงานใหม่ในลำคอ
ความจริงเขาถูกหลอกให้มายืนอยู่เฉยๆในงานซะมากกว่ามั้ง
ไอ้โรงแรมนี่ ก็เป็นของตระกูลคุราชิคิอยู่แล้ว แถมยังมีคนของคุราชิคิเดินว่อนไปทั่วงานอีก.. เห็นแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่แฮะ
ถึงแม้ว่าเขาเอง ก็เป็นคนของคุราชิคิคนนึงก็เถอะ!
ไม่เกิดอะไรขึ้นมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่แบบนี้มันแย่เกินไป
เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายพวกนั้นถึงโยนงานมาให้เขาหน้าตาเฉย
คงจะเบื่อน่าดู
“แชมเปญซักแก้วมั้ยครับ”
บริกรหนุ่มท่าทางยิ้มแย้มทักเขาเป็นคนแรก หลังจากที่ร่างเล็กว่างงานได้เกือบสองชั่วโมงแล้ว
คนถูกถามอยากจะยื่นมือไปหยิบแก้วแชมเปญตรงหน้าใจจะขาด แต่ก็นึกได้ว่ากำลังทำ ‘งาน’ อยู่ จึงต้องตัดใจอย่างแสนเสียดาย
“ ผมไม่ดีกว่า ..ขอบคุณ ”
บริกรคนนั้นยิ้มน้อยๆ
“ผมเห็นคุณยืนอยู่ตรงนี้นานแล้ว .. ไม่สบายรึเปล่าครับ”
“เปล่า ผมสบายดี”
แค่กำลังคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆเท่านั้น..
“ตรงฝั่งซ้ายของชั้นนี้มีระเบียงอยู่ ถ้ายังไงรู้สึกไม่ดีก็ออกไปสูดอากาศข้างนอกได้นะครับ”
วายะยิ้มอย่างขอบคุณ
แต่จู่ๆสายตาพลันเหลือบไปเห็นชายแก่กำลังเดินโซซัดโซเซมาทางนี้ด้วยความเมา ไม่ทันที่วายะจะทันได้บอกให้ระวัง บริกรตรงหน้าก็โดนชนไปแล้วเรียบร้อย
แก้วแชมเปญตกแตกไปหลายใบ พร้อมสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมายังที่เกิดเหตุ
“นี่ ระวังหน่อยเซ่! แชมเปญแพงๆพวกนี้แกมีปัญญาจ่ายรึไง ไอ้เซ่อ”
ทั้งที่ไม่ผิด แต่คนถูกด่าก็ก้มหัวขอโทษหงึกหงัก เรื่องก็เลยจบไปง่ายๆ
วายะมองคนตรงหน้าอย่างสงสาร ถ้าเป็นเขาเองล่ะก็ไอ้หมอนั่นคงลงไปนอนกุมท้องอยู่บนพื้นไปแล้วแหงๆ
อิจิโยก้มลงไปเก็บเศษแก้วเป็นเพื่อนไม่ฟังคำค้านของอีกฝ่าย
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
“ขอโทษครับ ทำชุดคุณเลอะไปหมด ”
“เปล่านี่ ไม่ได้เลอะตรงไหนซักหน่อย”
“นี่ไงเสื้อสูทของคุณ..” บริกรเอื้อมมือมาชี้รอยเปื้อนที่อยู่บนเสื้ออย่างรู้สึกผิด “ผมจะเอาไปซักให้”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แห้งแล้ว”
วายะบอกปัดพร้อมกับเลิกแขนเสื้อขึ้นเก็บเศษแก้วเป็นพัลวัน
แววตาของคนที่อยู่ข้างๆสังเกตเห็นรอยช้ำจางๆบนข้อมือของร่างเล็ก พลางใช้ความคิดบางอย่าง
“
.”
.
.
.
“ไปเถอะ ผมไม่เป็นไรจริงๆ”
บริกรหนุ่มก้มหน้างุดๆขอโทษวายะอีกทีก่อนจะไป
คนที่มุงดูอยู่ก็เลิกสนไปแล้ว
ชายหนุ่มถอนหายใจระหว่างเดินไปล้างมือที่ห้องน้ำ
ไม่น่ารับงานมาเลย หลวมตัวจนได้นะเรา..
รู้งี้แกล้งบอกว่ามีเรียนยิงปืนกับเซโงะก็ดีหรอก
จะว่าไป วายะเองก็ไม่เห็นเซโงะอีกเลยตั้งแต่คราวที่ห้องซ้อมปืนวันนั้น
นี่ก็สามวันแล้ว เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ..
แต่ก็ดี ถ้าเซโงะรู้ว่าเขายังลับฝีมือไปได้ไม่ถึงไหน คงต้องหลับตาทนฟังเสียงบ่นจนหูชา.. ไม่ก็โดนดูถูกอีกซักรอบสองรอบแน่ๆ
อิจิโย วายะล้างมืออย่างเอื่อยเฉื่อย ก่อนจะเดินไปยังฝั่งซ้ายของโรงแรมตามคำบอกเล่าของบริกรหนุ่ม
ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็แทบจะมองไม่เห็นระเบียงเล็กๆที่อยู่ด้านหลังผ้าม่านทรงยุโรปตรงนั้น
อาจเป็นเพราะว่าขึ้นลิฟท์มา วายะจึงไม่ทันสังเกตว่าตัวเองอยู่สูงจากพื้นข้างล่างถึงขนาดนี้
แสงไฟระยิบระยับจากตึกสูงทำให้ชายหนุ่มผ่อนคลายลงนิดหน่อย ..เขาได้กลิ่นฝนปะปนมากับลม
“ข้างนอกอากาศดีกว่าจริงๆด้วยแฮะ”
ร่างเล็กกางแขนขาออกอย่างเกียจคร้าน รู้สึกไม่อยากกลับเข้าไปข้างในเลย
“มาเดินเล่นอะไรอยู่ที่นี่”
เสียงคุ้นหูที่จู่ๆก็ทักขึ้น ทำให้ร่างเล็กตกใจจนเผลอตัวหันไปมอง
ไม่ทันแล้ว.. แววตาคมกริบนั่นกำลังมองมาที่เขา
“ร เรียว!”
“นายน่าจะอยู่ที่ตึกไม่ใช่รึไง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”
“
”ไม่มีเวลาให้คิดคำแก้ตัว วายะอึกอัก
จะบอกได้ไงว่าหลวมตัวมา!
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไปกับชั้น”
ข้อมือเล็กถูกลากปราดๆไปยังห้องพักส่วนตัวของเจ้านายคนใหม่ที่อยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น เรียวเปิดประตูแล้วโยนตัววายะเข้าไปในห้องก่อน
“นายตั้งใจจะทำอะไรน่ะ ปล่อย!”
เหมือนไม่ได้ฟัง..
เจ้าของแววตาสีน้ำตาลผลักชายหนุ่มหันหน้าไปติดผนังใน ขณะที่ยังมือใหญ่ยังคงล็อคข้อมือของอิจิโยไพล่หลังเอาไว้
“อยู่นิ่งๆ..”
“อะไรนะ”
..เขาเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี
“ปล่อย..ยอมแล้ว ชั้นบอกแล้วก็ได้ ชั้นถูกวานให้มาแทนก็เลยมา ไม่ได้ตั้งใจจะ..อุ..”
ริมฝีปากถูกมือใหญ่ปิดจนมิด
เรียวกระซิบข้างๆหู
“นายเป็นพวกไม่ยอมฟังคนใช่มั้ย แค่อยู่เฉยๆ เงียบ.. แล้วเดี๋ยวชั้นจะปล่อย..”
ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ มืออีกข้างของเรียวก็ทำงานอย่างรวดเร็ว
วัตถุชิ้นเล็กบางๆเท่าแผ่นพลาสติกใสถูกดึงออกมาจากเสื้อสูทของอิจิโย
วายะเบิกตาโพลง
“นั่นอะไรน่ะ!?”
“bug..”
“..!”
ร่างสูงปล่อยข้อมือของอิจิโยให้เป็นอิสระ ร่างเล็กหันมามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“
เล็กขนาดนั้นน่ะนะ”
“นั่นไม่ใช่ประเด็น”
เรียวจัดแจงเผาสิ่งที่อยู่ในมือแล้วโยนไปยังที่เขี่ยบุหรี่
“ นาย..จำหน้าคนที่จับเสื้อสูทของนายครั้งสุดท้ายได้รึเปล่า ”
“ ... ”
ชายหนุ่มนึกย้อนไป จำได้ เขาจำได้ดี เพียงแต่ว่า
..ใช่หมอนั่นจริงๆเหรอ
‘นี่ไงเสื้อสูทของคุณ..’
คนอย่างนั้น น่ะนะ
จะบอกว่าทุกอย่างที่เขาเจอเมื่อกี้
..จัดฉากหมดเลยรึไง!
.
.
.
.
ไม่มีใครทันสังเกตว่าบริกรชายอีกคนหายไปไหน..
ในรถตู้สีขาวที่จอดอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
เสียงสบถอย่างรุนแรงดังขึ้นจากคนที่เพิ่งจะทำงานพลาด
คุราชิคิ เรียว คนนั้นเคี่ยวไม่ใช่เล่นแฮะ
เหมือนที่ท่านไคบอกไว้ไม่มีผิด
งานแรกพลาดซะแล้ว
ท่านไคจะว่ายังไงบ้างนะ ที่เครื่องดักฟังของเขาถูกจับได้
แต่อย่างน้อยๆ วันนี้ก็ไม่เสียเปล่าซะทีเดียว
นอกจากรอยช้ำที่ข้อมือนั่น และยังเสียงในเครื่องดักฟังก่อนโดนทำลาย
เจ้าเด็กที่ชื่อวายะนั่น..
ดูท่าทางจะไม่ใช่แค่ลูกน้องของคุราชิคิ เรียว ธรรมดาๆซะล่ะมั้ง
คงต้องรีบรายงาน
.
.
.
---------------------------------------------------------------------------
END CHAPTER 8
ที่เขียนจบตอน..แบบนี้แนวนี้ ..ไม่มีจุดประสงค์อื่นเลย
เพราะจะทำให้ตอนหน้าดำเนินเรื่องแนว NC ได้ 555+ (ความจริงเป็นความพอใจส่วนตัวของนักเขียนมากกว่า)
อ้อ..แอบบอกนิดหน่อยว่าตอนหน้าชื่อตอนว่า VIOLENCE
Warning : เข้ามาอ่านคราวหน้าเตรียมยาดมมาด้วยก็ดีนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ!
ความคิดเห็น