คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ขู่..งั้นเหรอ [ ท่าทางจะแย่ซะแล้วสิ เขาคงทำให้ไอ้เจ้าพวกนี้โกรธซะแล้ว ]
“ นายสินะ อิจิโย วายะ ”
“ อ๊ะ ”
คนถูกเรียกตื่นจากภวังค์
วายะเบือนสายตาจากใบหน้านั้นทันที
ถะ ถึงเวลาแล้วเหรอ นี่เขาจะถูกเอาไปขายจริงๆเหรอนี่..
“ น นายเป็นใคร..!? ”
“ นาย.. ”
เรียวใช้สายตาอันเย็นเยียบนั้น พินิจพิเคราะห์อิจิโยตั้งแต่หัวจรดเท้า เสียงหัวเราะเครือในลำคอ
“ ท่าทางดูไม่ได้เลยนะ ”
อิจิโยรู้สึกฉุนกับท่าทางเย่อหยิ่งของเขาพลางกัดฟันแน่นขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
อย่างกับว่าอยากจะกัดคนตรงหน้านี่ให้ตายๆไปเลย
แต่ทันทีที่เรียวขยับเท้านั้น วายะก็แทบจะสิ้นฤทธิ์ในทันที
“ ยะ อย่าเข้ามานะ!! ”
วายะหน้าซีด เขารู้ว่าความหมายของคำว่า สินค้า คืออะไร ..
“ ชั้นจะไม่ยอมปล่อยให้นายเอาร่างกายของชั้นไปใช้ทำอะไรบ้าๆแน่ ”
“ รู้ด้วยรึ หูตาไวใช้ได้นี่ ” ชายหนุ่มยังเดินเข้ามาหาเขาอย่างไม่รู้สึกรู้สม
“ เรื่องเมื่อคืนนั่น นายทำให้คนของชั้นวุ่นวายไปหมด ชั้นก็เลยมีอะไรอยากถามนายบางอย่างซักหน่อย ”
วายะขยับตัวจนหลังติดกำแพง เรียวโน้มหน้าลงมา เงามืดของเขาทาบทับอิจิโยจนหมดสิ้น
“ ไม่ต้องทำหน้ากลัวอย่างนั้นก็ได้ ถ้านายบอกความจริง ชั้นก็จะไม่ส่งนายไป ”
อิจิโยไม่สามารถเบือนหน้าไปทางไหนได้อีก เนื่องจากคางของเขาถูกรั้งไว้จนไม่สามารถขยับเขยื้อนใบหน้าได้เลย
ใบหน้าของเรียวประชันอยู่กับใบหน้าของวายะแบบระยะประชิด
“ บอกความจริงอะไร? ”
“ ชั้นแค่อยากจะรู้ต้นตอของคนที่ส่งนายมาเท่านั้น ”
“ ต้นตออะไร ชั้นไม่รู้เรื่อง! ”
เรียวหลับตาลง เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อสูทหยิบรูปของวายะออกมา
“ อิจิโย วายะสินะ..อายุ18ปี นายออกจากโรงเรียนตอนอายุ16 แล้วก็ทำงานเป็นนักวาดภาพประกอบ..ส่วนพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ..แต่ดูท่าทางนายไม่ใช่เด็กมีปัญหา..ไม่เลวนี่.. ”
“ นายต้องการอะไรน่ะ! ”
“ จากประวัติของนายแล้ว นายเป็นหนี้ตระกูลซาเอจิมะไม่ใช่รึไง พวกนั้นส่งนายมาสอดแนมทางน้องชายของชั้นใช่มั้ย ”
“ อะไรนะ ซาเอจิมะ? พวกนายพูดเรื่องไร้สาระบ้าบออะไรน่ะ ชั้นไม่เคยรู้จักซาเอจิมะอะไรนั่นซะหน่อยแล้วจะไปเป็นหนี้พวกนั้นได้ยังไง แม้แต่พวกชั่วๆอย่างพวกนายชั้นยังไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ! ”
พลั่ก!
ลูกน้องของเรียวซัดหน้าแข้งใส่ใบหน้าของวายะทันที
เสียงไอ แค่กๆดังขึ้นพร้อมกับเสียงกร่นด่า
“ ไอ้เด็กบ้านี่ ปากดีนัก คุราชิคิซามะให้โอกาสแกแล้วยังจะทำแข็งข้ออีก ”
อิจิโยเงยหน้าขึ้นมองพวกที่อยู่ตรงหน้า ตรงมุมปากมีเลือดแดงๆไหลซิบอยู่
ไอ้เจ้าพวกบ้านี่ ..พล่ามเรื่องอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ? ใครกัน ?ซาเอจิมะ แล้วยังต้นตอบ้าบองี่เง่าอะไรไม่รู้อีก
“ ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนี้ ต้องสั่งสอนให้รู้ซะบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ”
แต่ก่อนที่หมัดของชายชุดดำจะเหวี่ยงมาถึงตัวเขา อิจิโยก็ใช้ขาที่ถูกมัดเตะสวนไปที่ลำแข้งของหมอนั่นซะก่อนจนทำให้อีกฝ่ายเสียหลักล้มลง
อิจิโยพยายามทรงตัวลุกขึ้นและกระเถิบถอยหนี เขารู้สึกว่าเม็ดเหงื่อกำลังเคลือบอยู่บนใบหน้าของเขาไปหมด
ท่าทางจะแย่ซะแล้วสิ
เขาคงทำให้ไอ้เจ้าพวกนี้โกรธซะแล้ว
“ หึ พวกนายจะหาว่าชั้นเป็นสายสืบให้พวกซาเอจิมะอะไรนั่นสินะ ”
อิจิโยนึกขำกับเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้
“ แต่เสียใจด้วยนะ พวกนายเดาผิดแล้วล่ะ ชั้นเป็นแค่นักวาดรูปธรรมดาๆ เท่านั้นเอง ”
“ แก..แสบนักนะ ”
พี่ชายชุดดำท่าทางตั้งใจจะสวนกลับแต่ถูกผู้เป็นนายห้ามไว้ก่อน
พวกเขาหันกลับมามองเพราะไม่เคยเห็นผู้เป็นนายห้ามพวกเขาไว้กลางคันแบบนี้
นิ้วเรียวยาวของเรียว หยิบรูปอีกใบที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมา..
ทันทีที่วายะสังเกตเห็นถึงกับหน้าถอดสี เสียงของเขาแหบแห้งไปในทันที
“ นั่นมัน.. ”
“ ใช่แล้ว นายรู้จักเขาดีนี่ พี่ชายสุดที่รักของนายไงล่ะ ”
วายะถึงกับเบิกตาโพลง เขาสบถอย่างห้ามไม่ได้
“ ไอ้... อย่าทำอะไรพี่ชั้นนะ! ”
เรียวยิ้มหยัน
“ ชั้นอยากจะเตือนความจำอะไรนายบางอย่างนะ บางทีนายอาจจะลืมหรือตั้งใจลืมไปแล้วว่าโรงพยาบาลที่พี่ชายนายกำลังนอนรักษาตัวอยู่นั่น ..เป็นโรงพยาบาลของตระกูลซาเอจิมะไม่รึไง ”
“ เอ๊ะ!? ”
วายะนึกภาพป้ายชื่อโรงพยาบาลขึ้นมาได้
เขาลืมไปเลย
“ เท่าที่ดู พี่ชายของนายรักษาตัวมาถึง2 ปี แต่จากจำนวนค่ารักษาแล้ว ไม่มีทางที่เด็กอย่างนายจะหาเงินจำนวนนั้นมาได้เพียงคนเดียว ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่.. ”
“ ที่ชั้นจะทำงานให้พวกนั้นแทนเงินค่ารักษาใช่มั้ยล่ะ ”
“
.. ”
อิจิโยมองหน้าเรียว แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
พวกนี้เล่นตลกรึไงนะ ไม่เห็นขำเลยซักนิด
“ ฮะ ฮะ ..ลูกน้องของนายสืบประวัติประสาอะไร เรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้ยังไงกันเล่า ” เขาหัวเราะแค่นๆ ทั้งที่ข้างในก็ยังหวาดหวั่นไม่น้อย
ไอ้พวกบ้านี่ ..
ทั้งที่สืบเรื่องของเขามาจนถึงขนาดนี้ แต่ทำไมกลับไม่รู้นะ เขาไม่ใช่สายสืบอะไรนั่นซะหน่อย
“ ถึงแม้ว่าชั้นจะจนตรอกและต้องการเงินขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่จะทำงานประเภทนั้นเพื่อเอาเงินหรอกนะ ”
“
.. ”
ทั้งห้องเงียบกริบ
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่ถูกมัดไว้ตรงหน้า
“
.. ”
“ แล้วจะให้จัดการยังไงดีครับ? ”
“ แก้เชือกซะ ..ส่วนพวกนายออกไปก่อน ชั้นมีธุระกับเด็กคนนี้ ”
เรียวสั่งลูกน้องเป็นคำตอบ
“ ครับ ”
ชายชุดดำพากันเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
ทั้งที่วายะควรจะหายใจโล่งท้องได้แล้ว
แต่ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน..
นี่ชั้นพูดอะไรผิดไปรึไง
ทำไมหมอนี่ถึงได้จ้องชั้นแบบนี้นะ?
อีกฝั่งหนึ่งของโตเกียว
ภายในบ้านอันสงบเงียบดูงามสง่าดั่งบ้านเรือนของชนชั้นสูงสมัยเก่าของญี่ปุ่นซึ่งโอบล้อมไปด้วยอาณาบริเวณกว้างขวาง
ชายชรากำลังนั่งเขียนพู่กันด้วยลายมืออันงดงามและพลิ้วไหวบนกระดาษกะเซ็งชิ แสดงให้เห็นถึงสมาธิอันแน่วแน่ของชายชราผู้นี้ได้เป็นอย่างดี ภาพที่ปรากฎนี้ทำให้เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง
“ เสียงคลื่นทะเลในฤดูใบไม้ผลิ ..อืม ฟังดูน่าสนใจไม่เบานี่.. ”
ชายชราวางพู่กันที่ใช้เขียนลงบนแป้นฝนหมึก
เขาส่งสายตาไปยังหลานชายชื่อไคที่นั่งอยู่ตรงหน้า
ซาเอจิมะ ไค อมยิ้มอย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้พลางมองตัวอักษรจีนอันอ่อนช้อยที่ปรากฏอยู่บนกระดาษ
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเหมือนดั่งตัวอักษรนั้น
ดูอ่อนน้อมแต่แฝงด้วยความแข็งแกร่งเอาไว้
“ คิดว่าไงล่ะ ไค ”
คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นสบตาด้วย เขาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ เสียงคลื่นทะเลฤดูใบไม้ผลิที่แผ่วเบา กลางวันแผ่วเบา กลางคืนยิ่งแผ่วเบา แต่กลับก้องกังวาน.. ”
ชายชราไม่ได้ยิ้ม แต่แววตาบ่งบอกว่าเขาพอใจกับคำตอบที่ได้รับไม่น้อย
เขาจับพู่กันขึ้นจุ่มหมึกอีกครั้งและเขียนถ้อยคำที่รับลงไปในกระดาษอย่างใจเย็น แต่ยังไม่ทันจะเขียนจบเขาก็ต้องถึงกับสะดุดกึกเพราะชายหนุ่มถามแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ ปู่เรียกผมมาเพียงเพื่อเรื่องนี้เหรอครับ? ”
ชายชราวาดพู่กันต่อเป็นรูปต้นไม้บนกระดาษกะเซ็งชิแผ่นใหม่ และใช้เวลาครู่หนึ่งถึงจะตอบคำถามนั้น
“ ได้ยินมาว่าแกส่งคนไปเจาะข้อมูลกลุ่มธุรกิจของตระกูลคุราชิคิมาใช่มั้ย แกคิดยังไงถึงได้ทำผลีผลามอย่างนั้น ”
“ ถึงคุณปู่จะไม่เห็นด้วย แต่ผมคิดว่าเราไม่ควรรีรอเวลาอีกแล้วล่ะครับ มันถึงเวลาที่เราต้องเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ผมจะไม่ยอมงอมืองอเท้าเหมือนพ่อ แล้วปล่อยโอกาสดีๆหลุดลอยไปเหมือนที่พ่อเคยทำมาแล้วเป็นอันขาด ”
ความเด็ดเดี่ยวของหลานชายยิ่งสร้างความประทับใจให้ชายชราเพิ่มขึ้น ถ้าใครคนหนึ่งที่จะเป็นคนรับช่วงต่อของตระกูลซาเอจิมะอันเก่าแก่จากเขาล่ะก็ ก็คงไม่พ้นเจ้าไคนี่แหละ ..
โดยเฉพาะแววตาของมัน เหมือนชั้นไม่มีผิดเพี้ยน..
“ ได้เรื่องมาว่าไงบ้างล่ะ? ”
“ เราได้มาแค่ส่วนหนึ่งครับ คนของผมทำพลาดเอง ฝ่ายนั้นไหวตัวทันซะก่อน เรื่องนั้นผมต้องขอโทษด้วยครับ ”
ไคก้มหัวยอมรับผิด
“
. ”
หัวหน้าตระกูลซาเอจิมะไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ดีว่าถ้ายังจัดการเรื่องนั้นไม่ได้ หลานชายของเขาคงไม่มานั่งนิ่งๆอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้หรอก
“ คนของชั้นรายงานมาว่า เมื่อวาน คุราชิคิ วายะ ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลคุราชิคิหนีออกจากบ้านใช่มั้ย ”
“ ครับ.. ”
“ เกิดอะไรขึ้น ”
“ ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะบังเอิญเข้าไปรับรู้ว่ากิจการลับๆที่ครอบครัวตัวเองทำอยู่โดยไม่ได้เตรียมใจ พอรู้เข้าก็เลยตกใจน่ะครับ.. ”
“ หึ..มันก็น่าอยู่หรอก ”
ไคยิ้มบางๆ
กิจการลับที่ว่าคือการขายสินค้าผ่านตลาดมืดนั่นเอง
เพียงแต่...สินค้าที่ว่า..มีไว้ใช้งานบนเตียงเท่านั้น..และหนึ่งในนั้น ก็คือทาส..
ตระกูลคุราชิคิดูแลกิจการโรงแรมชื่อดังและไนท์คลับชั้นสูงหลายแห่งในโตเกียว ลูกค้าส่วนใหญ่นั้น เป็นคนใหญ่คนโตและมีชื่อเสียงในญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด
บางทีก็จะมี ...กิจกรรมใต้ดิน.. เกิดขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้
ระหว่างที่ไคกำลังนึกภาพอยู่ ปู่ของเขาก็จบบทสนทนาเรียบๆ
“ บอกคนของแก ว่าเริ่มเดินตามแผนได้เลย ถ้าไม่สำเร็จ ก็ปิดปากพวกที่รู้เห็นทั้งหมดซะ ”
สายตาคมกริบของหัวหน้าตระกูลซาเอจิมะเผยแววชั่วร้าย “ ไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการ เข้าใจใช่ไหม ”
ไคก้มหมอบเป็นคำตอบก่อนจะปลีกตัวออกมา
ไคขยับยูคาตะที่สวมใส่เล็กน้อย ในใจนึกถึงกิจกรรมของตระกูลคุราชิคิที่จะจัดขึ้นในคืนนี้
“
..”
เขายิ้มจางๆที่มุมปาก และเดินออกไปตามระเบียงทางเดินอันสงบเงียบ
END CHAPTER 4 :: ขู่..!? [ ท่าทางจะแย่ซะแล้วสิ เขาคงทำให้ไอ้เจ้าพวกนี้โกรธซะแล้ว ]
ความคิดเห็น