ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WARNING It's LOVE ::รักนี้ • อันตราย::(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #8 : mask [...จะบอกได้ไงว่าหลวมตัวมา!]

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 52


     

     

    กลิ่นหอมอ่อนๆลอยมาแตะจมูก ทำให้ร่างเล็กขยับกายเล็กน้อย

    เหมือนกลิ่นของซุปมิโสะ ที่พี่ชายเคยทำให้เมื่อนานมาแล้ว

     

    เพราะอย่างนั้น วายะจึงพยายามเบิกตาที่หนักอึ้งทั้งสองข้างต่อสู้กับแสงไฟอย่างสลึมสลือ เขาแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่ามีจานอาหารมาวางอยู่ตรงหน้า ไหนจะสูทสีเข้มที่คลุมอยู่บนตัวเขาอีก วายะนึกทบทวนความจำอยู่ครู่หนึ่งว่าเขามานอนอยู่บนโซฟานี่ได้ยังไง

     

    คนของนายบอกว่าเจ้านั่นได้ของไปแล้วงั้นเหรอ? ไว้ใจได้แค่ไหน?.. บางทีพวกนั้นอาจจะไหวตัวทันแล้วก็ได้..  

    อิจิโยหันไปมองตามต้นเสียง เรียวกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ริมหน้าต่างบานใหญ่

     

    คอยดูท่าทีไปก่อนก็แล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ค่อยหาจังหวะให้คนของเราไปชิงเอามา ตอนนี้ยังไม่เป็นไร.. ชั้นมั่นใจว่าเสวี่ยยังปล่อยให้พวกนั้นไม่หมด อย่างน้อยๆ เอกสารสัญญาธุรกิจcasinoที่ฮ่องกงก็ยังปลอดภัย

     

    คุราชิคิ เรียววางหูโทรศัพท์แล้วหันมาทางวายะ ชายหนุ่มรีบแกล้งทำเป็นนอนอยู่

    แววตาสีน้ำตาลจ้องมองร่างบางตรงหน้า และสังเกตเห็นสูทที่หล่นไปกองอยู่บนพื้น

     

    “ ….   ..ยังคิดจะหลับต่ออีกเหรอ คนที่กำลังหลับอยู่ไม่ได้หายใจเร็วอย่างนั้นหรอกนะ  อิจิโย  วายะหันขวับกลับมาแล้วตวัดสายตาใส่คนรู้ทัน แต่เรียวก็พูดมาดักหน้าซะก่อน ก่อนจะโวยวาย ไม่คิดจะขอบคุณชั้นที่พานายเข้ามาบ้างรึไง

     

    ตาโตชะงักทันควัน

     

    นี่เราเป็นลมให้หมอนี่เห็น? ตอนนั้นเป็นหมอนี่จริงๆสินะ ..น่าขายหน้าชะมัด ทำไมต้องโผล่มาตอนที่เราดูไม่ได้ทุกทีสิน่า..

    “ … ”

     

    ลุกซะสิ นายต้องกินอะไรซะก่อน

    คุราชิคิขยับตัว ทำท่าจะเดินเข้าไปหา

     

    ไม่ต้อง อย่าเข้ามานะ! ”

     

    “…. ”

    อีกฝ่ายเลิกคิ้วมองหน้าวายะ

    แววตาต่อต้าน กับร่างกายที่กำลังสั่นเกร็งอย่างแข็งขืนบนโซฟา ทำให้เรียวรู้สึกขำขันขึ้นมาหน่อยๆ

     

    นาย..ตกใจอะไรน่ะ?

     

    “ … ม..ไม่ได้ตกใจอะไรซักหน่อย..  

     

    ชายหนุ่มรีบปกปิดสีหน้าหวาดหวั่น แต่ร่างสูงกลับเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ จนเขาต้องเบี่ยงตัวกระเถิบไปชิดริมโซฟา

    แล้วในที่สุดเงาของคุราชิคิ เรียว ก็ทาบทับร่างเล็กจนหมดก่อนจะโน้มตัวลงมา

    ออก  ออกไปนะ! ”

    วายะหลับตาแน่น พยายามเบี่ยงหลบให้ไกลที่สุด เสียงใจเต้นโครมครามกลัวจะโดนอย่างคราวที่แล้วอีก

     

     

    อย่าโวยวายน่า ..ชั้นแค่จะหยิบเสื้อเท่านั้นเอง

     

    “ …. ”

     

     

     

    อิจิโยค่อยๆลืมตา และมองดูเรียวที่หยิบเสื้อขึ้นมาปัดด้วยความรู้สึกสับสนผสมปนเปกับความอับอาย

    นี่เขาเป็นอะไรนะ

     

    หึ ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้นก็ได้.. ชั้นไม่นิยมที่จะมีอะไรกับคนที่กำลังป่วยซักเท่าไหร่    เรียวอดนึกขำไม่ได้กับท่าทางของวายะ  ถ้าไม่อยากเห็นหน้าขนาดนั้น งั้นชั้นจะออกไปก็ได้นะ ว่าไง?

     

    รอยยิ้มนั่นเป็นประกายเหมือนจะยั่วโมโห.. อิจิโยรู้สึกร้อนวาบบนใบหน้าขึ้นมาทันที ถ้าเขาไม่ปล่อยหมัดใส่ใบหน้าอวดดีของหมอนี่ไปบ้างซักหมัดสองหมัดล่ะก็ เขาอาจจะขาดใจตายก็เป็นได้

     

    วายะหลบตามองพื้นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ แค่หมอนี่จ้องมา เขาทำใจให้สงบไม่ได้แล้ว

     

    “ ..ไม่ต้อง ชั้นจะออกไปเอง

    วายะลุกขึ้น ผลักร่างสูงไปอีกทาง

    แต่จู่ๆดูเหมือนว่าร่างกายจะไม่เป็นใจเท่าไหร่ วายะล้มลงไปกองอยู่ที่เดิม เขารู้สึกปั่นป่วนในท้องจนต้องโค้งตัวงอ

     

    ..นอนเงียบๆอยู่อย่างนั้นซักพักเถอะ  เรียวถอนหายใจเมื่อเห็นว่าวายะยังอาการไม่ดีขึ้นซักเท่าไหร่

    ทั้งที่เมื่อกี้ยังโวยวายซะเสียงดังขนาดนั้นแท้ๆ

     

    ชั้นจะออกไปข้างนอก.. ยังไงก็จัดการกับของตรงหน้าให้เรียบร้อยก่อนที่ชั้นจะกลับมาก็แล้วกัน

     

    เรียววางมือแกร่งลงบนเส้นผมของร่างเล็กเบาๆหนึ่งทีก่อนจะเดินผ่านไปยังประตู

    สัมผัสของเขาทำให้วายะเบิกตากว้าง ในขณะที่กลิ่นหอมอ่อนๆของหมอนั่นค่อยๆหายไป  เสียงปิดประตูทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องออกไปแล้วจริงๆ

     

    อย่ามาทำเหมือนชั้นเป็นเด็กนะ..

    อิจิโยพึมพำในลำคอ แต่มือก็ยังกุมอยู่ที่หน้าท้องด้วยความเจ็บปวด

     

     

    เขาเหลือบไปเห็นยาที่วางอยู่ข้างๆจานอาหาร

    ทำไมรู้สึกเหมือนโดนปั่นหัวยังไงก็ไม่รู้

     

    ประสาทรึเปล่านะ หมอนั่น

    เมื่อกี้ยังแกล้งจับผิดเขาอยู่เลย..

     

    ช่างเถอะ คิดไปก็เท่านั้น

    ว่าแต่..กลิ่นซุปมิโสะหอมชะมัดเลยแฮะ

     

    .

    .

     

     

     

     

     

     

     

     

    เที่ยงคืนมหานครโตเกียวยังคลาคล่ำไปด้วยแสงไฟละลานตา รถลีมูซีนสีขาวดูเด่นสง่าจอดรออยู่ด้านหลังโรงแรมระดับห้าดาวในย่านอิเคะบุคุโระ

     

    บนห้องSuit ชั้น 53

     

    ซาเอจิมะ ไคจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ

    ร่างกายที่เปลือยเฉพาะท่อนบนนอนแผ่ไปบนที่นอนอย่างสบายอารมณ์บนเตียงking size  ไคปรายตามองไปยังร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาวสองคนที่กำลังนอนหมดแรงอยู่ข้างๆตัว

     

    ใบหน้าสุขสมของพวกเธอบ่งบอกถึงเหตุการณ์ดุเดือดที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปหมาดๆ  ทั้งคู่หลับไปอย่างนั้นทั้งๆที่ยังมีคราบเลอะเทอะเปื้อนอยู่ตามง่ามขา

     

    ชายหนุ่มลุกขึ้นจากที่นอนอย่างเหนื่อยหน่าย เขาหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินอาดๆไปยังห้องอาบน้ำ

    สีหน้าของเขาเรียบเฉยราวกับว่าความสุขจากกิจกรรมเผ็ดร้อนเมื่อครู่ยังไม่ได้รับการเติมเต็มซักเท่าไหร่

     

     ความจริงเขาแทบไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ

     

    เสียงน้ำจากฝักบัวตกกระทบร่างกำยำ

    น้ำเย็นๆไหลลู่ไปตามร่างกาย ดูเหมือนว่าซาเอจิมะปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายมากขึ้น

     

    ขณะเดียวกัน ..ภายในดวงตาสีซีดนั้น กำลังครุ่นคิดไปถึงการแลกเปลี่ยนของ เมื่อวานนี้ที่โกดังท่าเรือ

    MO disk และRom เล็กๆอีกแผ่น ถูกแลกไปกับข้อมูลค้าอาวุธและยา

     

    ข้อมูลลับขององค์กรที่ถูกขโมยไปคราวก่อน คงไม่พ้นฝีมือของเจ้าคุราชิคิแน่ๆ โชคดีที่ได้กลับมาทันเวลา

    แต่คราวนี้ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เป็นอย่างนั้นอีก  

     

    ตอนนี้ ขาดไปแค่อย่างเดียวเท่านั้น

    เอกสารสัญญาที่อยู่กับเสวี่ยอี..

     

     

    “ … ”

     

    ไคอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวทั้งสองคนก็ยังคงสลบไสลอยู่ที่เดิม

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น

     

    ท่านซาเอจิมะ.. ผมเองครับ

     

     ซาเอจิมะหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดผมอย่างลวกๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเดินตามเข้ามา

     

    นั่นอะไร

    ชายหนุ่มทักขึ้นเมื่อสังเกตเห็นซองสีน้ำตาลที่ติดมาด้วย

     

    ได้มาแล้วล่ะครับ เรื่องของเด็กผู้ชายที่ถูกยกเลิกในงานประมูลคราวก่อน

     

    ไคนึกขึ้นได้ทันที...

    ใช่คนของเรารึเปล่า?

     

    เปล่าครับ.. ฝ่ายนั้นเข้าใจผิดเด็กนั่นไม่เกี่ยวข้องกับเราเลย  เพียงแต่...

     

    อะไร

     

    เพียงแต่เราสืบมาได้ว่าพี่ชายของเด็กนั่นเป็นคนไข้ของท่านซึซึอิ  

     

    คนไข้ของพ่องั้นเหรอ  ดวงตาสีซีดของซาเอจิมะหรี่ลงเล็กน้อย รายละเอียดล่ะ

     

    ครับ คือ...

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    ซาเอจิมะ ไคยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เขามองผ่านกระจกบานใหญ่ไปยังวิวทิวทัศน์ของโตเกียวยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกระฟ้าเหล่านั้นดูจะไม่มีคุณค่าแก่สายตาของเขาเลยซักนิด

     

    เผาซองเอกสารนั่นซะ แล้วอย่าให้พ่อ หรือปู่รู้เรื่องนี้ล่ะ

     

    ครับ

     

    ไคขยับเนคไทด์เล็กน้อย เตรียมจะออกจากห้อง  ตอนนั้นเอง หญิงสาวที่อยู่บนเตียงก็เริ่มขยับตัวไปมา พร้อมกับครางเบาๆในลำคอ

     

    ชายหนุ่มโยนคีย์การ์ดโรงแรมไปให้ลูกน้อง

    ยาคงยังไม่หมดฤทธิ์.. นายไปสนุกกับแม่นั่นต่อก็แล้วกัน ชั้นไปล่ะ

     

    ต แต่.. ”

     

    อีกคนก็ได้..  ถ้ายังไม่พอ   ถือว่าชั้นให้เป็นรางวัลเรื่องข้อมูลนี่ก็แล้วกัน

     

    ไคเดินออกมาจากห้อง ไม่รอฟังคำตอบ

     

    รายงานที่เพิ่งจะได้รับมาจากสายข่าว ทำให้เขานึกหฤหรรษ์อยู่ในใจ

    รอยยิ้มจางๆที่แทบจะมองไม่เห็นของชายหนุ่ม ไม่สามารถบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่..

     

     

     

     

     

     

     

    วายะถอนหายใจพลางเดินไปตามทางเดินของตึกใหญ่

    โชคดี ที่ห้องทำงานของเรียวไม่ได้ล็อคเอาไว้ ไม่งั้นเขาคงออกมาไม่ได้แน่ๆ

     

    อาการปวดท้องของเขาหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ายาของหมอนั่นจะได้ผลชะงัดขนาดนี้.. ไม่สิ ไม่ใช่ยา แต่น่าจะเป็นเพราะซุปมิโสะกับคาราเกะมากกว่า

    นี่เขาไม่ได้กินข้าวมากี่มื้อแล้วนะ..

     

     

    อ้าว นั่น  ไอ้หนูที่เพิ่งเข้ามาใหม่นี่

    วายะหันขวับไปทางต้นเสียง เขาหรี่ตามองชายชุดดำสองคนที่เดินสวนกันพอดี

     

    สองคนนั่นหยุดยืนมองดูเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า

    ไง.. นายน่ะอายุเท่าไหร่แล้ว

     

    คนถูกเรียกทำท่าจะตอบ แต่ว่าพาร์ทเนอร์อีกคนพูดดักซะก่อน

    ถามได้ ไอ้หนูนี่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเกินยี่สิบ ท่าทางก็ไม่เอาไหน บอสกับพี่เซโงะคิดยังไงถึงได้ยอมรับเข้ามาง่ายๆกันนะ..  

     

    วายะนึกฉุน

    เลิกเรียกว่าไอ้หนูซักทีเถอะ   ผมชื่ออิจิโย.. อิจิโย วายะ

     

    วายะงั้นเหรอ ไอ้เด็กนี่ชื่อเหมือนนายน้อยเลยว่ะ ชายคนหนึ่งเกาคางเหมือนใช้ความคิดอยู่  ...รู้สึกว่าแกจะเริ่มขับรถให้นายน้อยอาทิตย์หน้าใช่มั้ย?

     

    ใช่.....เอ่อ...ใช่ครับ..

     

    แจ๋ว!..งั้นก็ดีเลย ช่วงนี้คงยังว่างๆอยู่ล่ะสิ   งั้น นายไปช่วยงานชั้นวันมะรืนนี้ซักหน่อยเป็นไร

     

    พี่ชายที่อยู่ด้านขวาเบิกตาโพลงทันทีที่ได้ยินคนข้างๆพูดเรื่องที่คาดไม่ถึงเข้า

    เฮ้ย จะดีเหรอวะ ถ้าพี่เซโงะรู้เข้าพวกเราไม่แย่เรอะไง ไอ้เด็กนี่ยังใหม่อยู่นะ

     

    จะเป็นไรไปเล่า บอสเองก็ไม่ได้ห้ามซักหน่อย แค่ไปยืนคุมเชิงเท่านั้นเอง

     

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...แล้วจะบอกคนดูแลเรื่องนี้ยังไง

     

    เอาน่า.. ชั้นจะจัดการเอง

    พี่ชายอีกคนรีบตัดบท เขาหันหน้ามาทางวายะแล้วยิ้มกว้าง

     

    ไง..ไอ้หนู นายสนใจมั้ย?

     

    ?

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

     

     

    อิจิโยยืนมอง งานใหม่ที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง

     

    เสียงของไวโอลินและเชลโลบรรเลงคลอไปกับบรรยากาศครึกครื้นภายในงาน

    ถึงแม้จะมีcelebrityจากวงการต่างๆอยู่เต็มไปหมด แต่สายตาของเขากลับไปหยุดอยู่ที่กลุ่มของอดีตคณะรัฐมนตรีมากกว่า

     

    งานเลี้ยงนี่ไม่ธรรมดาแฮะ

    สมกับเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งซะจริงๆ

    หน้ากากปลิวว่อนไปทั่ว

     

     

    ชายหนุ่มขยับสูทสีขาวอย่างอึดอัด

    ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะทำงานนี้ซักเท่าไหร่ แต่เพราะว่า  ปฏิเสธไม่ได้  ต่างหาก

     

    ยืนคุมเชิงงั้นเหรอ ฟังดูดีนี่..”

    วายะบ่นพึมพำกับงานใหม่ในลำคอ

    ความจริงเขาถูกหลอกให้มายืนอยู่เฉยๆในงานซะมากกว่ามั้ง

     

    ไอ้โรงแรมนี่ ก็เป็นของตระกูลคุราชิคิอยู่แล้ว แถมยังมีคนของคุราชิคิเดินว่อนไปทั่วงานอีก.. เห็นแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่แฮะ

     

    ถึงแม้ว่าเขาเอง ก็เป็นคนของคุราชิคิคนนึงก็เถอะ!

     

     

    ไม่เกิดอะไรขึ้นมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่แบบนี้มันแย่เกินไป

    เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายพวกนั้นถึงโยนงานมาให้เขาหน้าตาเฉย

     

     

    คงจะเบื่อน่าดู

     

     

     

     

     

    แชมเปญซักแก้วมั้ยครับ

    บริกรหนุ่มท่าทางยิ้มแย้มทักเขาเป็นคนแรก หลังจากที่ร่างเล็กว่างงานได้เกือบสองชั่วโมงแล้ว

     

    คนถูกถามอยากจะยื่นมือไปหยิบแก้วแชมเปญตรงหน้าใจจะขาด แต่ก็นึกได้ว่ากำลังทำงาน อยู่ จึงต้องตัดใจอย่างแสนเสียดาย

    ผมไม่ดีกว่า ..ขอบคุณ

     

    บริกรคนนั้นยิ้มน้อยๆ

    ผมเห็นคุณยืนอยู่ตรงนี้นานแล้ว .. ไม่สบายรึเปล่าครับ

     

    เปล่า ผมสบายดี

    แค่กำลังคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆเท่านั้น..

     

    ตรงฝั่งซ้ายของชั้นนี้มีระเบียงอยู่ ถ้ายังไงรู้สึกไม่ดีก็ออกไปสูดอากาศข้างนอกได้นะครับ

     

    วายะยิ้มอย่างขอบคุณ

    แต่จู่ๆสายตาพลันเหลือบไปเห็นชายแก่กำลังเดินโซซัดโซเซมาทางนี้ด้วยความเมา ไม่ทันที่วายะจะทันได้บอกให้ระวัง บริกรตรงหน้าก็โดนชนไปแล้วเรียบร้อย

    แก้วแชมเปญตกแตกไปหลายใบ พร้อมสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมายังที่เกิดเหตุ

     

    นี่ ระวังหน่อยเซ่! แชมเปญแพงๆพวกนี้แกมีปัญญาจ่ายรึไง ไอ้เซ่อ

     

    ทั้งที่ไม่ผิด แต่คนถูกด่าก็ก้มหัวขอโทษหงึกหงัก เรื่องก็เลยจบไปง่ายๆ

    วายะมองคนตรงหน้าอย่างสงสาร ถ้าเป็นเขาเองล่ะก็ไอ้หมอนั่นคงลงไปนอนกุมท้องอยู่บนพื้นไปแล้วแหงๆ

    อิจิโยก้มลงไปเก็บเศษแก้วเป็นเพื่อนไม่ฟังคำค้านของอีกฝ่าย

     

    เป็นอะไรรึเปล่า?

     

    ขอโทษครับ ทำชุดคุณเลอะไปหมด

     

    เปล่านี่ ไม่ได้เลอะตรงไหนซักหน่อย

     

    นี่ไงเสื้อสูทของคุณ..บริกรเอื้อมมือมาชี้รอยเปื้อนที่อยู่บนเสื้ออย่างรู้สึกผิด ผมจะเอาไปซักให้

     

    ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แห้งแล้ว

    วายะบอกปัดพร้อมกับเลิกแขนเสื้อขึ้นเก็บเศษแก้วเป็นพัลวัน

     

    แววตาของคนที่อยู่ข้างๆสังเกตเห็นรอยช้ำจางๆบนข้อมือของร่างเล็ก พลางใช้ความคิดบางอย่าง

    “….”

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

    ไปเถอะ ผมไม่เป็นไรจริงๆ

    บริกรหนุ่มก้มหน้างุดๆขอโทษวายะอีกทีก่อนจะไป

     

    คนที่มุงดูอยู่ก็เลิกสนไปแล้ว

    ชายหนุ่มถอนหายใจระหว่างเดินไปล้างมือที่ห้องน้ำ

     

     

    ไม่น่ารับงานมาเลย หลวมตัวจนได้นะเรา.. 

    รู้งี้แกล้งบอกว่ามีเรียนยิงปืนกับเซโงะก็ดีหรอก

     

     

     

    จะว่าไป วายะเองก็ไม่เห็นเซโงะอีกเลยตั้งแต่คราวที่ห้องซ้อมปืนวันนั้น

    นี่ก็สามวันแล้ว  เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ..

     

    แต่ก็ดี ถ้าเซโงะรู้ว่าเขายังลับฝีมือไปได้ไม่ถึงไหน คงต้องหลับตาทนฟังเสียงบ่นจนหูชา..  ไม่ก็โดนดูถูกอีกซักรอบสองรอบแน่ๆ

     

     

    อิจิโย วายะล้างมืออย่างเอื่อยเฉื่อย ก่อนจะเดินไปยังฝั่งซ้ายของโรงแรมตามคำบอกเล่าของบริกรหนุ่ม

    ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็แทบจะมองไม่เห็นระเบียงเล็กๆที่อยู่ด้านหลังผ้าม่านทรงยุโรปตรงนั้น

     

    อาจเป็นเพราะว่าขึ้นลิฟท์มา วายะจึงไม่ทันสังเกตว่าตัวเองอยู่สูงจากพื้นข้างล่างถึงขนาดนี้

    แสงไฟระยิบระยับจากตึกสูงทำให้ชายหนุ่มผ่อนคลายลงนิดหน่อย ..เขาได้กลิ่นฝนปะปนมากับลม

     

    ข้างนอกอากาศดีกว่าจริงๆด้วยแฮะ

    ร่างเล็กกางแขนขาออกอย่างเกียจคร้าน รู้สึกไม่อยากกลับเข้าไปข้างในเลย

     

    มาเดินเล่นอะไรอยู่ที่นี่

    เสียงคุ้นหูที่จู่ๆก็ทักขึ้น ทำให้ร่างเล็กตกใจจนเผลอตัวหันไปมอง

    ไม่ทันแล้ว.. แววตาคมกริบนั่นกำลังมองมาที่เขา

     

    ร เรียว!”

     

     นายน่าจะอยู่ที่ตึกไม่ใช่รึไง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้

     

    “…”ไม่มีเวลาให้คิดคำแก้ตัว วายะอึกอัก

    จะบอกได้ไงว่าหลวมตัวมา!

     

    ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไปกับชั้น

     

     

    ข้อมือเล็กถูกลากปราดๆไปยังห้องพักส่วนตัวของเจ้านายคนใหม่ที่อยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น  เรียวเปิดประตูแล้วโยนตัววายะเข้าไปในห้องก่อน

    นายตั้งใจจะทำอะไรน่ะ ปล่อย!”

     

    เหมือนไม่ได้ฟัง..

    เจ้าของแววตาสีน้ำตาลผลักชายหนุ่มหันหน้าไปติดผนังใน ขณะที่ยังมือใหญ่ยังคงล็อคข้อมือของอิจิโยไพล่หลังเอาไว้

     

    อยู่นิ่งๆ..”

     

    อะไรนะ

    ..เขาเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี

    ปล่อย..ยอมแล้ว ชั้นบอกแล้วก็ได้ ชั้นถูกวานให้มาแทนก็เลยมา ไม่ได้ตั้งใจจะ..อุ..

     

    ริมฝีปากถูกมือใหญ่ปิดจนมิด

    เรียวกระซิบข้างๆหู

    นายเป็นพวกไม่ยอมฟังคนใช่มั้ย  แค่อยู่เฉยๆ เงียบ.. แล้วเดี๋ยวชั้นจะปล่อย..

     

    ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ มืออีกข้างของเรียวก็ทำงานอย่างรวดเร็ว

    วัตถุชิ้นเล็กบางๆเท่าแผ่นพลาสติกใสถูกดึงออกมาจากเสื้อสูทของอิจิโย

     

    วายะเบิกตาโพลง

    นั่นอะไรน่ะ!?

     

    “bug..”

     

    “..!”

     

    ร่างสูงปล่อยข้อมือของอิจิโยให้เป็นอิสระ ร่างเล็กหันมามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

    “…เล็กขนาดนั้นน่ะนะ

     

    นั่นไม่ใช่ประเด็น

    เรียวจัดแจงเผาสิ่งที่อยู่ในมือแล้วโยนไปยังที่เขี่ยบุหรี่

    นาย..จำหน้าคนที่จับเสื้อสูทของนายครั้งสุดท้ายได้รึเปล่า

     

     

    ...

     

     

     

    ชายหนุ่มนึกย้อนไป จำได้ เขาจำได้ดี เพียงแต่ว่า

    ..ใช่หมอนั่นจริงๆเหรอ

     

    นี่ไงเสื้อสูทของคุณ..

     

    คนอย่างนั้น น่ะนะ

    จะบอกว่าทุกอย่างที่เขาเจอเมื่อกี้

    ..จัดฉากหมดเลยรึไง!

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

    ไม่มีใครทันสังเกตว่าบริกรชายอีกคนหายไปไหน..

     

    ในรถตู้สีขาวที่จอดอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก

    เสียงสบถอย่างรุนแรงดังขึ้นจากคนที่เพิ่งจะทำงานพลาด

     

    คุราชิคิ เรียว คนนั้นเคี่ยวไม่ใช่เล่นแฮะ

    เหมือนที่ท่านไคบอกไว้ไม่มีผิด

     

    งานแรกพลาดซะแล้ว

    ท่านไคจะว่ายังไงบ้างนะ ที่เครื่องดักฟังของเขาถูกจับได้

     

    แต่อย่างน้อยๆ วันนี้ก็ไม่เสียเปล่าซะทีเดียว

     

     

    นอกจากรอยช้ำที่ข้อมือนั่น และยังเสียงในเครื่องดักฟังก่อนโดนทำลาย

     

     

    เจ้าเด็กที่ชื่อวายะนั่น..

    ดูท่าทางจะไม่ใช่แค่ลูกน้องของคุราชิคิ เรียว ธรรมดาๆซะล่ะมั้ง

     

     

    คงต้องรีบรายงาน

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------

    END CHAPTER 8

     

    ที่เขียนจบตอน..แบบนี้แนวนี้ ..ไม่มีจุดประสงค์อื่นเลย

    เพราะจะทำให้ตอนหน้าดำเนินเรื่องแนว NC ได้ 555+ (ความจริงเป็นความพอใจส่วนตัวของนักเขียนมากกว่า)

    อ้อ..แอบบอกนิดหน่อยว่าตอนหน้าชื่อตอนว่า VIOLENCE

    Warning : เข้ามาอ่านคราวหน้าเตรียมยาดมมาด้วยก็ดีนะคะ

     

    รักษาสุขภาพด้วยนะคะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×