ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WARNING It's LOVE ::รักนี้ • อันตราย::(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : งานประมูล และสัญญาที่ถูกหยิบยื่น [ คนอะไร.. เอาแต่ได้.. ]

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 52


     

    ซาเอจิมะ ไค ในชุดสูทสีเทาเข้ม สวมแว่นใส เดินอาดๆตรงเข้าไปในคลับของตระกูลคุราชิคิ เขามองไปทางขวายังโต๊ะที่อยู่ริมสุด ตรงนั้นดูเผินๆเหมือนเป็นแค่ช่องทางอเนกประสงค์ธรรมดา นอกจากแขกVIP ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นห้องที่มีไว้ใช้เพื่อการอะไร

     

    การ์ดแพลททินัมสีเงินวาวถูกหยิบยื่นให้ชายหนุ่มร่างกำยำที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ด้านหน้า ทันทีที่เห็นสิ่งแสดงตน อีกฝ่ายหรี่ตามองร่างสูงอย่างไม่คุ้นหน้า

     

    เขาก้มลงมองดูชื่อในlist เทียบกับหมายเลขการ์ด

     

    ชาอินซอง

     

    อ้าว คนเกาหลีเหรอเนี่ย มองไม่รู้เลยแฮะ

    แต่หมอนี่ก็มีบัตรนี่นา

    เอาเถอะ คงเป็นพ่อค้ารายใหม่ซะล่ะมั้ง

     

    คุณชา เชิญด้านในครับ 

    ไค ก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงบอกขอบคุณตามมารยาท เขาตรงเข้าไปยังห้องลับนั้นทันที

     

    ชาอินซอง ก็เป็นแค่ชื่อปลอมในฐานะพ่อค้าข้ามชาติ..

    แน่นอนอยู่แล้ว ว่าภาษาเกาหลีไม่เป็นปัญหาสำหรับคนอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย

    การปลอมตัวแสดงเป็นคนอื่น.. ถึงแม้จะไม่เป็นวิธีที่แยบยลและตัวเขาเองก็ไม่รู้สึกรื่นรมย์กับมันซักเท่าไหร่ แต่วิธีนี้มันก็ใช้ได้ผลมาแล้วในหลายๆครั้ง

     

    พนักงานต้อนรับหญิงหนึ่งในนั้นสังเกตการมาถึงของแขกเจ้าใหม่ ใบหน้ายาวดูหล่อเหลาไม่คุ้นตานั้น ดึงดูดให้เธอเข้าไปหาได้อย่างไม่ยากเย็น

     

    เธอทักทายอย่างร่าเริงเผยอริมฝีปากแดงสดยั่วยวน

    สวัสดีค่ะ มาคนเดียวเหรอคะ เอ่อ ..คุณ..

     

      ชาอินซองครับ

     

    เอ๋ มาจากเกาหลีเหรอคะ?

     

      ผมมาตามจดหมายที่ได้รับน่ะ เห็นว่าจะมีการประมูลกันในคืนนี้ใช่มั้ยครับ

    ชายหนุ่มตอบอย่างคล่องแคล่วตีหน้าใสซื่อ

    บทละครกระจอกกระจอกเช่นนี้ เขาทำมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

     

    อุ้ย ดูคุณสิ! เป็นคนเกาหลีแท้ๆแต่กลับพูดญี่ปุ่นคล่องเชียว

     

    รอยยิ้มจางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มรูปงาม

    ครับ ผมมีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นและเค้าก็ชักชวนให้มาที่นี่

     

    คุณชาคงจะมาครั้งแรกล่ะสิท่า...งั้น.. ให้ฉันแนะนำให้นะคะ

    หญิงสาวพูดแล้วขยับกายเข้าแนบชิด เล็บสีแดงที่เพ้นท์อย่างประณีตสัมผัสลูบไล้ไปบนสูท

     

    คงต้องรบกวนแล้วล่ะครับ

    เขาสบตามองเธออย่างรู้ทัน

    ก่อนจะหาที่นั่งแล้วก็จัดแจงสั่งค็อกเทลหอมหวานมาให้เธอ

     

    บรรยากาศในห้องเป็นไปอย่างที่ไคคาดไว้ไม่มีผิด เสียงดนตรีบรรเลงอื้ออึง แขกเหรื่อในงานก็มีแต่พวกชั้นสูง นักการเมืองบ้างล่ะ นักแสดง หรือแม้กระทั่งนักธุรกิจรายใหญ่..

    ชายหนุ่มนึกขำขัน

    ตอนที่ไอ้เจ้าพวกนี้แสร้งทำเป็นบริจาคเงินให้คนยากจนชาวต่างชาติ ออกทีวีทำตัวซะโด่งดังคับฟ้า ลับหลังกลับต้องลงมาในตลาดมืดซื้อขายมนุษย์กันซะเอง

    เห็นแล้วทุเรศชะมัด

     

     

     

    ทันทีที่ไฟหรี่ลง

    สาวงามคนหนึ่งในชุดวาบหวิวถูกกระชากลากตัวออกมาจากหลังเวที

    ร่างกายของเธอดูอิดโรย ที่แก้มซ้ายมีรอยช้ำสีม่วงปรากฎอยู่

     

    พิธีกรบนเวทีไม่รอช้า เอ่ยแนะนำสินค้านั้น พร้อมบอกราคาทันที

    เธอชื่ออิจิโกะ เพิ่งจะอายุ 18 ปีเท่านั้น เธอเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น ราคาเริ่มที่ เก้าแสนเยนครับ

     

    หนึ่งล้าน!

     

    ชั้นให้ล้านห้า

     

    หนึ่งล้านเจ็ดแสนห้า!

     

    เสียงประมูลเริ่มขึ้นตามมุมโต๊ะต่างๆ

     

    จู่ๆแม่สาวเล็บแดงก็มากระซิบที่ริมหู

     

    แม่นั่นน่ะนะติดหนี้เล่นพนันกับคนของเรา นายหัวส่งคนไปทวงตั้งหลายครั้งก็ไม่มีให้ เลยจัดการลากมาซะเลย

    เธอพูดอธิบายตามที่ได้ยินมา

    คุณสนใจเธอรึเปล่าคะ?

     

    คือ ..ผมไม่ชอบพวกลูกครึ่งซักเท่าไหร่หรอกครับ

    ไคตอบไปตามน้ำ ความจริงเขาแค่ต้องการจะมาสืบข่าวคราวอะไรบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจของตระกูลคุราชิคิซะมากกว่า

     

    งั้นคุณอยากได้แบบไหนคะ..คุณสนใจผู้หญิง หรือว่าผู้ชาย

     

    เอ๊ะ มีผู้ชายด้วยเหรอครับ

    น้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูคล้ายจะตกใจ เขาทำสีหน้างงงวยแบบไม่อยากจะเชื่อส่งไปให้อีกฝ่าย ทั้งๆที่เขารู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

     

    แหม ..คุณชาสนใจผู้ชายเหรอคะ แบบนี้ชั้นก็แห้วน่ะสิ

    พนักงานหญิงพูดเป็นเชิงหยอกล้อ แต่ไคก็สนองตอบทันควัน

     

    ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ถ้าสวยๆอย่างคุณล่ะก็ ผมก็สนใจครับ

     

    เธอยิ้มอย่างรู้ตัวเพราะเจอคำหวานหยอดมานักต่อนัก

    โธ่เอ้ย ถ้าสนใจจริงล่ะก็ถามชื่อชั้นสิ นี่แค่ชื่อยังไม่สนใจจะถามเลย

    แต่ว่าเพราะความหล่อของเค้าหรอกนะ อย่างนี้ถึงไม่ถามชื่อเธอก็คงยอมให้เค้าซบอกเธอได้หรอก

     

    สินค้าหลายรายการถูกประมูลไป ทั้งของเล่น ทั้งมนุษย์ บางทีก็เป็นผู้หญิง บางทีก็เป็นผู้ชาย ซึ่งถูกจับแต่งตัวแบบแปลกหูแปลกตาทั้งนั้น

    ผู้ชายคนที่แล้วก็เหมือนกัน ใส่ชุดหูแมวอะไรไม่เข้าท่า...

    ไคคิดอย่างเซ็งๆ นึกว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาจะให้ข้อมูลอะไรได้มากกว่านี้

    เขาหลอกถามเธอไปหลายครั้ง แต่ยัยโง่นี่ก็ดันตอบไม่ตรงคำถามทุกทีไป

    เสียเวลาจริง!

     

    ซาเอจิมะ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เผื่อหัวจะเย็นลงบ้าง

    เขารู้สึกหงุดหงิดที่เรื่องไม่เป็นไปตามแผนที่เขาคาดไว้

     

    ชายหนุ่มเดินกลับมา แต่พบว่าพนักงานสาวไม่ได้นั่งรอเขาอยู่คนเดียว

    ข้างๆเธอเป็นผู้ชายในชุดบริกร เขากำลังกระซิบกระซาบบอกอะไรเธอบางอย่าง

     

    ไคสังเกตถึงความผิดปกติ เขาจึงก้าวเข้าไปหาสองคนนั่นอย่างระมัดระวัง

    ทันทีที่บริกรหนุ่มสังเกตเห็นเขา ก็รีบลุกและขอตัวเดินจากไปทันที

     

    ไคถามอย่างนุ่มนวล เขายิ้มปกปิดสีหน้าเสแสร้งซะหมดจด

    เป็นอะไรรึเปล่าครับ.. สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีนะ

     

    ไม่มีอะไรค่ะ ชั้นก็แค่...

     

    ครับ?

     

    คือจู่ๆ คุราชิคิซามะก็เปลี่ยนของประมูลชิ้นสุดท้ายกระทันหันน่ะค่ะ .. ปกติคุราชิคิซามะหรือแม้กระทั่งนายหัวไม่เคยยกเลิกกลางคันอย่างนี้มาก่อนเลยนะคะ แล้วยิ่งเป็นไฮไลท์ของงานครั้งนี้ด้วยแล้ว.. แขกคงจะไม่พอใจเอามากๆ

    หญิงสาวรู้สึกฝืดคอ

     

    ชายหนุ่มเห็นอาการผิดสังเกต จึงได้ทีซักต่อ

    ไม่เคยเลยเหรอครับ ..คุณพอจะรู้มั้ยว่าของประมูลชิ้นสุดท้ายเป็นแบบไหนกัน

     

    ก็แค่เด็กผู้ชายอายุ18 เท่านั้นเองล่ะค่ะ แต่ว่าที่ถูกให้ความสำคัญมาก เห็นว่าเพราะเค้าเป็นคนของตระกูลซาเอจิมะน่ะ

     

    เอ๊ะ!?

    ซาเอจิมะ ไค เบิกตาโพลง  ..อะไรนะ

    ชายหนุ่มคิดทบทวน นี่คนของเขาถูกจับได้งั้นเหรอ

    แต่ว่า.. เท่าที่เขารู้ ไม่มีใครอายุต่ำกว่าสามสิบเลยนี่..

     

    หญิงสาวงงงวยกับท่าทีแปลกๆของชายหนุ่ม เลยคิดว่าตัวเองคงพูดอะไรไม่เคลียร์ออกไป

     

    ชั้นลืมบอกไป ตระกูลซาเอจิมะที่เป็นกลุ่มคานอำนาจกับทางเรามาตลอดน่ะค่ะ เมื่อไม่นานมานี้ คุราชิคิซามะ..รู้มาว่าอีกฝ่ายมีการเคลื่อนไหว พอรู้มาว่าเป็นสายสืบจากฝั่งนู้นอะไรทำนองล่ะมั้งคะ ก็เลยถูกจับส่งขาย ตัดไฟแต่ต้นลม ...เห็นว่าหน่วยก้านรูปร่างหน้าตาไม่เลวเลยด้วย.. ..น่าเสียดาย

    ประโยคสุดท้ายหญิงสาวพึมพำในลำคออย่างอดเสียไม่ได้

     

    ส่วนไคที่เป็นคนหัวไว ก็เริ่มมองเห็นภาพอะไรเลือนรางบางอย่าง

    อ้อ รู้แล้วเรอะ ไม่เลวเลยนี่เจ้าคุราชิคิ เรียวอะไรนั่น

    เขาคงประมาทไม่ได้อีกแล้ว

    แต่ว่าเด็กผู้ชายอะไรนั่นน่ะสิ มาจากไหนกัน?

     

     

    แล้วจับเค้ามาได้ยังไงกันล่ะครับ

    พนักงานสาวสวยเหมือนจะเริ่มเอะใจ แต่ไครีบกลบเกลื่อนทันที

     

    อย่างนี้ไม่ต้องเปิดศึกกับอีกฝ่ายเหรอครับ ถ้าเค้ารู้เข้าน่ะ

     

    อ๋อ .. ชั้นจะบอกให้ว่าคุราชิคิซามะน่ะ หวงน้องชายยังกับอะไรดี แต่จู่ๆท่านวายะที่เป็นน้องชายก็ไปอยู่กับคนของซาเอจิมะซะได้ 

     

    “ …..

     

    ตอนแรกชั้นก็งงๆเหมือนกันค่ะ เพราะเท่าที่ชั้นรู้ ..คนของซาเอจิมะน่ะ อายุหลักสามขึ้นทั้งนั้นเลย ..แต่ก็เพิ่งมารู้อีกว่าเด็กคนนั้นติดหนี้ให้ตระกูลนี้อยู่ คุราชิคิซามะเลยสงสัยว่าเด็กนั่นทำงานให้เพื่อชดใช้หนี้น่ะค่ะ

     

    ชายหนุ่มเริ่มประติดประต่อความได้

     

    เขาอยากจะถามต่ออีกซักนิด อย่างน้อยรู้แค่ชื่อของเด็กคนนั้นก็พอ แต่ยัยหน้าโง่นี่ก็เปลี่ยนเรื่องไปแล้ว

     

    คุณอย่าขมวดคิ้วสิคะ ชั้นรู้ว่าเรื่องแบบนี้สำรับคนเกาหลีมันเข้าใจยาก แต่คุณก็ไม่ต้องไปคิดอะไรหรอก มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอยู่แล้วนี่คะ เอาน่า ...แต่ชั้นนี่สิคะกำลังแย่

     

    แม้เขาจะไม่พอใจ แต่ก็เก็บอาการไว้ แล้วแสดงสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยคนตรงหน้า ราวกับนักแสดงมืออาชีพก็ไม่ปาน

     

    คุณเป็นอะไรเหรอครับ

     

    ชั้นก็เลยต้องกลายเป็นสินค้าแก้ขัดไปก่อนน่ะสิ.. หญิงสาวหน้าซีด เธออ้อนวอนชายหนุ่มท่าทางใจดี

    คุณช่วยซื้อชั้นได้มั้ยคะ ชั้นไม่อยากไปกับตาแก่หัวโล้นเลี่ยนพวกนั้น

     

    เธอพยักเพยิดหน้าไปทางนักการเมืองที่จ้องเธอมาได้ครู่หนึ่งแล้ว

    ชั้นมาทำงานที่นี่เตรียมใจไว้แล้วก็จริง แต่ว่าถ้าเป็นคุณล่ะก็..คงจะวิเศษไปเลย นะคะ ถือว่าช่วยชั้นเถอะ

     

    ชายหนุ่มมองเธอแล้วยิ้ม

    ครับ ผมจะช่วยคุณ

     

    จริงๆนะคะ!

    พนักงานสาวร้องอย่างดีใจ เธอนวดต้นขาของไคเป็นเชิงยั่ว ก่อนจะเดินไปหลังเวทีอย่างร่าเริงเพื่อไปทำหน้าที่

    ในใจแทบจะร้องกรี๊ดออกมา

    ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้นะ

     

    ไคมองตามผู้หญิงคนนั้นไป

     

     

    แสงไฟหรี่ลงอีกครั้ง พิธีกรกล่าวด้วยถ้อยคำเดิมๆ

    แม่สาวคนเมื่อกี้เปลี่ยนชุด  เหลือแค่เพียงชั้นในบางๆ

    ถ้าจัดรูปร่างหน้าตาแล้วล่ะก็ เธอก็พอถูๆไถๆเป็นไฮไลท์ของงานได้ไม่เลว

     

    เสียงประมูลเริ่มขึ้น แทบทุกโต๊ะยกราคาสูงลิบลิ่ว

    หญิงสาวรู้สึกใจเต้น มองหาชายหนุ่มผู้ใจดี   เธอสบตากับเขาจากบนข้างบนอย่างมีความหวังเต็มเปี่ยม

     

     

    ไคยิ้มให้เธอก่อนจะลุกออกจากตรงนั้นไปอย่างไม่ใยดี

     

    หญิงสาวเบิกตาโพลง

     

    พิธีกรสรุปการประมูล

    เธอถูกขายให้นักการเมืองหัวงูคนนั้น

     

     

    .

    .

    .

    .

    ซาเอจิมะ ไค ก้าวเท้าขึ้นรถลีมูซีนที่จอดรอไว้ท่ามกลางสายฝน

    เขาถอดแว่นตาออกเช็ดฝ้าก่อนจะขยี้ผมที่ดปียกชื้นไปมา

     

    ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มเหยียดหยามที่มุมปาก

    ผู้หญิงอย่างนั้น เขาเจอมาเยอะแล้ว

    ขืนรับไปขึ้นเตียงด้วยก็คงจะน่าเบื่อพอดู..

     

    หึ

    ยัยหน้าโง่...

    ชั้นเธอช่วยแล้วนะ

     

    ช่วยให้เธอไปสวรรค์กับไอ้แก่โล้นเนี่ยนนั่นไงล่ะ

     

    .

    .

    .

     

     

    แต่จะว่าไป เด็กคนนั้น เป็นใครกันแน่นะ?

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

     

     

    ค่ำคืนไม่ได้เงียบสงัดอย่างที่ควรจะเป็น สายฝนตกลงมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับลมกรรโชกที่ดังอื้ออึงอยู่ภายนอก

    ภายใต้แสงไฟสีเหลืองเรืองรอง

    อิจิโจ วายะลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงใหญ่

    ขณะยันตัวขึ้นนั่งอย่างสะลึมสะลือก็รู้สึกปวดสะโพกแปลบปลาบ

     

    ใบหน้านวลเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ  เมื่อของเหลวอุ่นที่ค้างคาข้างในไหลซึมออกมา

     

    อ..ไอ้บ้านั่น.. ปล่อยข้างในเหรอเนี่ย..

     

    เรือนร่างเปลือยเปล่าและรอยจุดแดงจ้ำตอกย้ำจิตใจของเขาให้เจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าร่างกายเป็นไหนๆ

    เขาสังเกตเห็นรอยช้ำตรงข้อมือซ้ายเป็นสีม่วงคล้ำ

     

    สารเลว ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ 

    วายะสบถออกมาเป็นชุด เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายปู้ยี้ปู้ยำร่างกายเขาซะขนาดนี้

     

    ทั้งๆที่เป็นผู้ชายแท้ๆ กลับถูกผู้ชายด้วยกันข่มขืน

    นึกแล้วก็รู้สึกเจ็บใจที่กลับมีอารมณ์ร่วมไปด้วย

     

    แล้วจู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างนอก อิจิโยจ้องมองไปที่ประตูด้วยหัวใจระส่ำระสายและหวาดหวั่น

    แล้วประตูก็เปิดออกมา

     

    เรียวยืนอยู่ตรงนั้น ข้างๆกายมีชายร่างใหญ่ท่าทางกำยำเป็นลูกน้องคนสนิท ภาพนั้นสำหรับวายะแล้วคล้ายกับฝันร้ายที่คืบคลานใกล้เข้ามา

    ความทรงจำและร่องรอยยังแจ่มชัด

     

    ตื่นจนได้สินะ ชั้นเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าครั้งแรกของนาย..คงจะเพลียได้ถึงขนาดนี้

     

    ถ้อยคำลามกที่พ่นออกจากสีหน้าเรียบราบนั่น.. ทำให้วายะรู้สึกไม่พอใจแต่เขาก็หน้าแดงจนควันแทบออกหู

     

    เซโงะหันไปหาผู้เป็นนาย ก่อนจะยื่นกระเป๋าเอกสารสีดำไปให้อย่างรู้ใจ

    คุราชิคิเรียวเดินตรงเข้าไปยืนอยู่ข้างเตียง แล้วเผยยิ้มให้ร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้าอย่างว่างเปล่า

     

    ชั้นรู้แล้วว่านายไม่ใช่คนของซาเอจิมะ

     

    อิจิโย วายะตวาดกลับอย่างเจ็บแค้น

    เพิ่งจะรู้รึไง! ทำไมไม่ทำกับชั้นแบบเมื่อกี้อีกซักสองสามรอบก่อนแล้วค่อยพูดล่ะ ห๊ะ! นายจะบอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดงั้นสิ แล้วก็มาขอโทษ..

     

    ไม่มีการขอโทษเรื่องอะไรทั้งนั้น มันเป็นเพราะนาย.. หาเรื่องใส่ตัว..

     

    วายะหน้าแดงจัด ไอ้หมอนี่ยังจะหาว่าเขาหาเรื่องใส่ตัวอีกเหรอ

    ความจริงวันนั้น เขาน่าจะปล่อยๆให้น้องชายของไอ้บ้านี่ถูกข่มขืนบนรถไฟไปซะ เหมือนอย่างที่เขาโดนไงล่ะ

     

    ในเมื่อนายไม่ใช่คนของซาเอจิมะ ชั้นก็จะไม่ส่งนายไปเป็นสินค้าแล้ว

     

    เอ๊ะ จริงๆเหรอ ชั้นจะเป็นอิสระแล้วสินะ

    พอได้ยินอย่างนั้น วายะก็หัวใจลิงโลด

    เขาจะได้ออกไปจากที่นี่ซะที

     

    เซโงะเห็นท่าทางดังนั้นจึงรีบแก้ความ

      คุราชิคิซามะยังไม่ได้บอกว่านายจะได้เป็นอิสระ เพราะงั้น..นายจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปอีกระยะนึง เพราะไม่แน่ว่าอนาคตนายอาจจะแว้งกัดเราก็ได้

     

    อ..อะไรนะ!?

    ชายหนุ่มแทบไม่อยากจะเชื่อหู นี่จะขังเขาไปเพื่ออะไรกัน?

     

    ตาโตตวัดสายตาหันกลับมาจ้องมองร่างสูงที่อยู่เบื้องหน้า สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจ

     

    นายคิดจะทำอะไรน่ะ!.. ถ้าไม่คิดจะขอโทษ ชั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ.. แต่การที่นายมากักขังชั้นไว้แบบนี้ มันไม่มากไปหน่อยรึไง

     

    ชั้นไม่ได้ให้นายนั่งกินนอนอยู่ที่นี่เปล่าๆหรอก

     

    เรียวโยนกระเป๋าเอกสารไปที่เตียง แล้วตอนที่มันหล่นมาเกือบจะกระแทกหน้าเขา วายะถึงได้รู้ว่ามันหนักแค่ไหน

     

    ร่างเล็กเปิดกระเป๋าออกดู ข้างในมีเงินหลายล้านเยนส่องประกายวิบวับเจิดจ้า

    นี่มันอะกัน?

     

    ทั้งหมดนั่นจะเป็นของนายถ้านายยอมเซ็นสัญญาทำงานให้ชั้นหนึ่งปี

     

      งานประเภทไหนกันล่ะ..

    วายะมองดูเงินเหล่านั้น แต่แสงประกายเจิดจ้าก็ดูจะสกปรกขึ้นมาทันที

    คนอะไร เอาแต่ได้..

      อย่างนายน่ะ.. ถ้าชั้นต้องรับไอ้เงินโสโครกสกปรกนี่ไว้ล่ะก็ สู้ชั้นออกไปนั่งวาดรูปขายซะยังจะดีกว่า

     

    หึ ไอ้ภาพวาดราคาถูกนั่นน่ะนะ

    เรียวเหยียดยิ้ม เมื่อเห็นคนตรงหน้ากำลังเดือดปุดๆ

     

    ถ ..ถึงมันจะราคาถูก!  แต่มันก็เป็นเงินที่สะอาดกว่าเงินของพวกนายก็แล้วกัน!

     

    คิดให้ดี อิจิโย .. นายก็รู้นี่ว่าทิฐิของนาย จะช่วยรักษาพี่ชายของนายได้รึไง

     

    วายะหน้าแดงเถือก

    ใช่ เขาต้องการเงินพวกนี้ก็จริง

    แต่ว่าถ้าต้องถูกผูกมัดอยู่กับคนคนนี้ล่ะก็... มันคงไม่ต่างอะไรกับตกนรกทั้งเป็นสินะ

     

    ดวงตาสีน้ำตาลใสแวววาวของเรียวจ้องมองมายังวายะ ราวกับเขามองเห็นหัวใจของชายหนุ่มจนทะลุปรุโปร่ง

     

    ร่างบางจิกผ้าห่มแน่นขณะครุ่นคิดหนัก

     

    ถ้าพี่เท็ตสึต้องเป็นอะไรเพราะเขา ..เขาก็คงจะไม่ยอมให้อภัยตัวเองเหมือนกัน

     

    ออกไปได้แล้ว.. ชั้นอยากอยู่คนเดียว

    วายะขึ้นเสียงใส่ร่างสูง

     

    เซโงะที่ได้ยินดังนั้นก็เกิดอาการไม่พอใจที่นายของตนถูกเด็กปอนๆออกคำสั่ง  แต่ถูกเรียวห้ามไว้ก่อน

    อย่าทำให้เสียเรื่องเลย เซโงะ เดี๋ยวชั้นก็จะไปแล้วล่ะ

     

    เขาบอกลูกน้องคนสนิทอย่างใจเย็น ก่อนที่จะหันมาย้ำกับวายะอีกครั้ง

     

    มันไม่ใช่งานนักหนานักหรอกถ้าเทียบกับเงินพวกนั้นแล้ว พอเสร็จงาน นายก็จะได้กลับไปอยู่กับพี่ชายสุดที่รักของนายยังไงล่ะ

     

    ......

    ร่างเล็กไม่ตอบ เขารู้สึกลังเล

     

    งั้น ชั้นไปล่ะ แล้วจะรอคำตอบก็แล้วกัน

     

    คุราชิคิพูดจบ ก็หันหลังกลับออกไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท

     

    ประตูถูกปิดจากด้านนอก

     

     

    อิจิโยถอนหายใจ

    ไอ้หมอนี่ต้องการอะไรกันแน่นะ ถึงได้ให้เงินชั้นเยอะขนาดนี้

    เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง

    ยิ่งคิด ก็ยิ่งหัวเสีย

    ชั้นรู้หรอกน่าว่านายมันร้ายกาจ คนอย่างนายน่ะต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแอบแฝงไว้แน่ๆ.. .. บางอย่างสิน่า..

     

     

    ใบหน้าขาวนวลหันไปมองที่กระจกหน้าต่างบานใหญ่

    สายฝนสาดซัดลงมาอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุด

    เหมือนกับวันที่เขาวิ่งออกจากโรงพยาบาลในวันนั้น..

     

     

    วายะรู้สึกราวกับว่าตัวเองกลายเป็นอลิซที่หล่นเข้าไปในโพรงกระต่าย

    ในเมื่อโพรงกระต่ายมันทั้งลึกและมืดขนาดนี้

    เขาคงถอยไม่ได้ซะแล้ว

     

     

     

    วายะหลับตาลง ดึงกระเป๋าเงินเข้ามากอดไว้แน่น..

     

    พี่ครับ..ผมจะไม่ลังเลอีกแล้วล่ะ

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

    END ..CHAPTER 6  :: งานประมูล และสัญญาที่ถูกหยิบยื่น [ คนอะไร.. เอาแต่ได้.. ]

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×