ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WARNING It's LOVE ::รักนี้ • อันตราย::(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : ขู่..งั้นเหรอ [ ท่าทางจะแย่ซะแล้วสิ เขาคงทำให้ไอ้เจ้าพวกนี้โกรธซะแล้ว ]

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 52


     

    นายสินะ อิจิโย วายะ

     

    อ๊ะ

    คนถูกเรียกตื่นจากภวังค์

    วายะเบือนสายตาจากใบหน้านั้นทันที

     

     

    ถะ ถึงเวลาแล้วเหรอ นี่เขาจะถูกเอาไปขายจริงๆเหรอนี่..

     

    น นายเป็นใคร..!?

     

    นาย..

    เรียวใช้สายตาอันเย็นเยียบนั้น พินิจพิเคราะห์อิจิโยตั้งแต่หัวจรดเท้า เสียงหัวเราะเครือในลำคอ

    ท่าทางดูไม่ได้เลยนะ

     

    อิจิโยรู้สึกฉุนกับท่าทางเย่อหยิ่งของเขาพลางกัดฟันแน่นขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    อย่างกับว่าอยากจะกัดคนตรงหน้านี่ให้ตายๆไปเลย

     

    แต่ทันทีที่เรียวขยับเท้านั้น วายะก็แทบจะสิ้นฤทธิ์ในทันที

     

    ยะ อย่าเข้ามานะ!! ”

     

    วายะหน้าซีด เขารู้ว่าความหมายของคำว่า สินค้า คืออะไร ..

    ชั้นจะไม่ยอมปล่อยให้นายเอาร่างกายของชั้นไปใช้ทำอะไรบ้าๆแน่

     

     

    รู้ด้วยรึ หูตาไวใช้ได้นี่ชายหนุ่มยังเดินเข้ามาหาเขาอย่างไม่รู้สึกรู้สม

    เรื่องเมื่อคืนนั่น นายทำให้คนของชั้นวุ่นวายไปหมด ชั้นก็เลยมีอะไรอยากถามนายบางอย่างซักหน่อย

     

    วายะขยับตัวจนหลังติดกำแพง เรียวโน้มหน้าลงมา เงามืดของเขาทาบทับอิจิโยจนหมดสิ้น

     

    ไม่ต้องทำหน้ากลัวอย่างนั้นก็ได้  ถ้านายบอกความจริง  ชั้นก็จะไม่ส่งนายไป

    อิจิโยไม่สามารถเบือนหน้าไปทางไหนได้อีก เนื่องจากคางของเขาถูกรั้งไว้จนไม่สามารถขยับเขยื้อนใบหน้าได้เลย

    ใบหน้าของเรียวประชันอยู่กับใบหน้าของวายะแบบระยะประชิด

     

    บอกความจริงอะไร?

     

    ชั้นแค่อยากจะรู้ต้นตอของคนที่ส่งนายมาเท่านั้น

     

    ต้นตออะไร  ชั้นไม่รู้เรื่อง! ”

     

    เรียวหลับตาลง เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อสูทหยิบรูปของวายะออกมา

    อิจิโย วายะสินะ..อายุ18ปี นายออกจากโรงเรียนตอนอายุ16 แล้วก็ทำงานเป็นนักวาดภาพประกอบ..ส่วนพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ..แต่ดูท่าทางนายไม่ใช่เด็กมีปัญหา..ไม่เลวนี่..

     

    นายต้องการอะไรน่ะ! ”

     

      จากประวัติของนายแล้ว นายเป็นหนี้ตระกูลซาเอจิมะไม่ใช่รึไง พวกนั้นส่งนายมาสอดแนมทางน้องชายของชั้นใช่มั้ย

     

    อะไรนะ ซาเอจิมะ? พวกนายพูดเรื่องไร้สาระบ้าบออะไรน่ะ ชั้นไม่เคยรู้จักซาเอจิมะอะไรนั่นซะหน่อยแล้วจะไปเป็นหนี้พวกนั้นได้ยังไง แม้แต่พวกชั่วๆอย่างพวกนายชั้นยังไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ!

     

    พลั่ก!

    ลูกน้องของเรียวซัดหน้าแข้งใส่ใบหน้าของวายะทันที

    เสียงไอ แค่กๆดังขึ้นพร้อมกับเสียงกร่นด่า

    ไอ้เด็กบ้านี่ ปากดีนัก คุราชิคิซามะให้โอกาสแกแล้วยังจะทำแข็งข้ออีก

     

    อิจิโยเงยหน้าขึ้นมองพวกที่อยู่ตรงหน้า ตรงมุมปากมีเลือดแดงๆไหลซิบอยู่

    ไอ้เจ้าพวกบ้านี่ ..พล่ามเรื่องอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ? ใครกัน ?ซาเอจิมะ แล้วยังต้นตอบ้าบองี่เง่าอะไรไม่รู้อีก

     

    ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนี้ ต้องสั่งสอนให้รู้ซะบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร

     

    แต่ก่อนที่หมัดของชายชุดดำจะเหวี่ยงมาถึงตัวเขา  อิจิโยก็ใช้ขาที่ถูกมัดเตะสวนไปที่ลำแข้งของหมอนั่นซะก่อนจนทำให้อีกฝ่ายเสียหลักล้มลง

    อิจิโยพยายามทรงตัวลุกขึ้นและกระเถิบถอยหนี เขารู้สึกว่าเม็ดเหงื่อกำลังเคลือบอยู่บนใบหน้าของเขาไปหมด

     

    ท่าทางจะแย่ซะแล้วสิ

    เขาคงทำให้ไอ้เจ้าพวกนี้โกรธซะแล้ว

     

    หึ พวกนายจะหาว่าชั้นเป็นสายสืบให้พวกซาเอจิมะอะไรนั่นสินะ  

    อิจิโยนึกขำกับเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้

      แต่เสียใจด้วยนะ พวกนายเดาผิดแล้วล่ะ ชั้นเป็นแค่นักวาดรูปธรรมดาๆ เท่านั้นเอง

     

    แก..แสบนักนะ

    พี่ชายชุดดำท่าทางตั้งใจจะสวนกลับแต่ถูกผู้เป็นนายห้ามไว้ก่อน

     

    พวกเขาหันกลับมามองเพราะไม่เคยเห็นผู้เป็นนายห้ามพวกเขาไว้กลางคันแบบนี้

     

     

    นิ้วเรียวยาวของเรียว หยิบรูปอีกใบที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมา..

     

    ทันทีที่วายะสังเกตเห็นถึงกับหน้าถอดสี เสียงของเขาแหบแห้งไปในทันที

    นั่นมัน..

     

    ใช่แล้ว นายรู้จักเขาดีนี่ พี่ชายสุดที่รักของนายไงล่ะ

     

    วายะถึงกับเบิกตาโพลง เขาสบถอย่างห้ามไม่ได้

    ไอ้... อย่าทำอะไรพี่ชั้นนะ! ”

     

    เรียวยิ้มหยัน

    ชั้นอยากจะเตือนความจำอะไรนายบางอย่างนะ บางทีนายอาจจะลืมหรือตั้งใจลืมไปแล้วว่าโรงพยาบาลที่พี่ชายนายกำลังนอนรักษาตัวอยู่นั่น ..เป็นโรงพยาบาลของตระกูลซาเอจิมะไม่รึไง

     

    เอ๊ะ!?

    วายะนึกภาพป้ายชื่อโรงพยาบาลขึ้นมาได้

    เขาลืมไปเลย

     

    เท่าที่ดู พี่ชายของนายรักษาตัวมาถึง2 ปี แต่จากจำนวนค่ารักษาแล้ว ไม่มีทางที่เด็กอย่างนายจะหาเงินจำนวนนั้นมาได้เพียงคนเดียว ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่..

     

    ที่ชั้นจะทำงานให้พวกนั้นแทนเงินค่ารักษาใช่มั้ยล่ะ

     

    “ ….. ”

     

    อิจิโยมองหน้าเรียว แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

    พวกนี้เล่นตลกรึไงนะ ไม่เห็นขำเลยซักนิด

     

    ฮะ ฮะ ..ลูกน้องของนายสืบประวัติประสาอะไร เรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้ยังไงกันเล่า เขาหัวเราะแค่นๆ ทั้งที่ข้างในก็ยังหวาดหวั่นไม่น้อย

    ไอ้พวกบ้านี่ ..

    ทั้งที่สืบเรื่องของเขามาจนถึงขนาดนี้ แต่ทำไมกลับไม่รู้นะ เขาไม่ใช่สายสืบอะไรนั่นซะหน่อย

    ถึงแม้ว่าชั้นจะจนตรอกและต้องการเงินขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่จะทำงานประเภทนั้นเพื่อเอาเงินหรอกนะ

     

    “ ….. ”

    ทั้งห้องเงียบกริบ

     

    ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่ถูกมัดไว้ตรงหน้า

     

    “ ….. ”

     

    แล้วจะให้จัดการยังไงดีครับ?

     

    แก้เชือกซะ ..ส่วนพวกนายออกไปก่อน ชั้นมีธุระกับเด็กคนนี้

    เรียวสั่งลูกน้องเป็นคำตอบ

     

    ครับ

     

    ชายชุดดำพากันเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

    ทั้งที่วายะควรจะหายใจโล่งท้องได้แล้ว

    แต่ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน..

     

    นี่ชั้นพูดอะไรผิดไปรึไง

    ทำไมหมอนี่ถึงได้จ้องชั้นแบบนี้นะ?

     

     

     

     

     

     

    อีกฝั่งหนึ่งของโตเกียว

    ภายในบ้านอันสงบเงียบดูงามสง่าดั่งบ้านเรือนของชนชั้นสูงสมัยเก่าของญี่ปุ่นซึ่งโอบล้อมไปด้วยอาณาบริเวณกว้างขวาง

    ชายชรากำลังนั่งเขียนพู่กันด้วยลายมืออันงดงามและพลิ้วไหวบนกระดาษกะเซ็งชิ แสดงให้เห็นถึงสมาธิอันแน่วแน่ของชายชราผู้นี้ได้เป็นอย่างดี  ภาพที่ปรากฎนี้ทำให้เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง

     

    เสียงคลื่นทะเลในฤดูใบไม้ผลิ  ..อืม ฟังดูน่าสนใจไม่เบานี่..

    ชายชราวางพู่กันที่ใช้เขียนลงบนแป้นฝนหมึก

    เขาส่งสายตาไปยังหลานชายชื่อไคที่นั่งอยู่ตรงหน้า

     

    ซาเอจิมะ ไค อมยิ้มอย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้พลางมองตัวอักษรจีนอันอ่อนช้อยที่ปรากฏอยู่บนกระดาษ

    ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเหมือนดั่งตัวอักษรนั้น

    ดูอ่อนน้อมแต่แฝงด้วยความแข็งแกร่งเอาไว้

     

    คิดว่าไงล่ะ ไค

    คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นสบตาด้วย เขาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง

     

    เสียงคลื่นทะเลฤดูใบไม้ผลิที่แผ่วเบา กลางวันแผ่วเบา กลางคืนยิ่งแผ่วเบา แต่กลับก้องกังวาน..

     

    ชายชราไม่ได้ยิ้ม แต่แววตาบ่งบอกว่าเขาพอใจกับคำตอบที่ได้รับไม่น้อย

     

    เขาจับพู่กันขึ้นจุ่มหมึกอีกครั้งและเขียนถ้อยคำที่รับลงไปในกระดาษอย่างใจเย็น แต่ยังไม่ทันจะเขียนจบเขาก็ต้องถึงกับสะดุดกึกเพราะชายหนุ่มถามแทรกขึ้นมาซะก่อน

     

    ปู่เรียกผมมาเพียงเพื่อเรื่องนี้เหรอครับ?

     

    ชายชราวาดพู่กันต่อเป็นรูปต้นไม้บนกระดาษกะเซ็งชิแผ่นใหม่ และใช้เวลาครู่หนึ่งถึงจะตอบคำถามนั้น

     

    ได้ยินมาว่าแกส่งคนไปเจาะข้อมูลกลุ่มธุรกิจของตระกูลคุราชิคิมาใช่มั้ย แกคิดยังไงถึงได้ทำผลีผลามอย่างนั้น

     

    ถึงคุณปู่จะไม่เห็นด้วย แต่ผมคิดว่าเราไม่ควรรีรอเวลาอีกแล้วล่ะครับ มันถึงเวลาที่เราต้องเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ผมจะไม่ยอมงอมืองอเท้าเหมือนพ่อ แล้วปล่อยโอกาสดีๆหลุดลอยไปเหมือนที่พ่อเคยทำมาแล้วเป็นอันขาด

     

    ความเด็ดเดี่ยวของหลานชายยิ่งสร้างความประทับใจให้ชายชราเพิ่มขึ้น ถ้าใครคนหนึ่งที่จะเป็นคนรับช่วงต่อของตระกูลซาเอจิมะอันเก่าแก่จากเขาล่ะก็  ก็คงไม่พ้นเจ้าไคนี่แหละ ..

    โดยเฉพาะแววตาของมัน เหมือนชั้นไม่มีผิดเพี้ยน..

     

    ได้เรื่องมาว่าไงบ้างล่ะ?

     

    เราได้มาแค่ส่วนหนึ่งครับ คนของผมทำพลาดเอง ฝ่ายนั้นไหวตัวทันซะก่อน เรื่องนั้นผมต้องขอโทษด้วยครับ

    ไคก้มหัวยอมรับผิด

     

    “ …. ”

    หัวหน้าตระกูลซาเอจิมะไม่ได้พูดอะไร

    เขารู้ดีว่าถ้ายังจัดการเรื่องนั้นไม่ได้ หลานชายของเขาคงไม่มานั่งนิ่งๆอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้หรอก

    คนของชั้นรายงานมาว่า เมื่อวาน คุราชิคิ วายะ ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลคุราชิคิหนีออกจากบ้านใช่มั้ย

     

    ครับ.. ”

     

    เกิดอะไรขึ้น

     

    ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะบังเอิญเข้าไปรับรู้ว่ากิจการลับๆที่ครอบครัวตัวเองทำอยู่โดยไม่ได้เตรียมใจ พอรู้เข้าก็เลยตกใจน่ะครับ..

     

    หึ..มันก็น่าอยู่หรอก

     

    ไคยิ้มบางๆ

     

     

    กิจการลับที่ว่าคือการขายสินค้าผ่านตลาดมืดนั่นเอง

    เพียงแต่...สินค้าที่ว่า..มีไว้ใช้งานบนเตียงเท่านั้น..และหนึ่งในนั้น ก็คือทาส..

     

    ตระกูลคุราชิคิดูแลกิจการโรงแรมชื่อดังและไนท์คลับชั้นสูงหลายแห่งในโตเกียว ลูกค้าส่วนใหญ่นั้น เป็นคนใหญ่คนโตและมีชื่อเสียงในญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด

    บางทีก็จะมี ...กิจกรรมใต้ดิน.. เกิดขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้

     

     

    ระหว่างที่ไคกำลังนึกภาพอยู่ ปู่ของเขาก็จบบทสนทนาเรียบๆ

    บอกคนของแก ว่าเริ่มเดินตามแผนได้เลย ถ้าไม่สำเร็จ ก็ปิดปากพวกที่รู้เห็นทั้งหมดซะ

    สายตาคมกริบของหัวหน้าตระกูลซาเอจิมะเผยแววชั่วร้าย ไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการ เข้าใจใช่ไหม

    ไคก้มหมอบเป็นคำตอบก่อนจะปลีกตัวออกมา

     

     

    ไคขยับยูคาตะที่สวมใส่เล็กน้อย ในใจนึกถึงกิจกรรมของตระกูลคุราชิคิที่จะจัดขึ้นในคืนนี้

     

    “…..”

    เขายิ้มจางๆที่มุมปาก และเดินออกไปตามระเบียงทางเดินอันสงบเงียบ

     

     

     

     

     

     

    END CHAPTER 4 :: ขู่..!? [ ท่าทางจะแย่ซะแล้วสิ เขาคงทำให้ไอ้เจ้าพวกนี้โกรธซะแล้ว ]

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×