ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Touken Ranbu ] S H A D E S ( Rewrite )

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue - เหล่าบุรุษจากประวัติศาสตร์

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 61


    Prologue

    เมื่อยามที่โลกใบนั้นได้ถูกความมืดปกคลุมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง

    จะมีประกายแสงที่ซ่อนตัวท่ามกลางรัตติกาลปรากฏขึ้น

    แม้ว่าเป็นเพียงแค่ประกายแสงอันเล็กน้อยแต่กลับเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงใด

    จะส่องสว่างขึ้นมาและนำพาความหวังมาสู่โลกอีกครั้ง

     

    _______________________________________

     

                    ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก

                    เสียงเดินของนาฬิกาโบราณขนาดใหญ่ดังขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับลูกตุ้มเหล็กที่เหวี่ยงไปมาอยู่ข้างในตัวเรือน เบื้องหน้าของนาฬิกามีโทรศัพท์มือถือเครื่องบางวางตั้งอยู่บนโต๊ะโดยเปิดหน้าจอค้างไว้หน้าแอพพลิเคชั่นบันทึกเสียงก่อนที่จะดับไปและสว่างขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงที่บันทึกเล่นขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน

                    “คุณหนูครับ”เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีสว่างผงกหัวขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่คุ้นเคยของชายหนุ่มในโทรศัพท์เรียก...เธอยังคงจำมันได้ดีว่า นี่คือเสียงของบุคคลที่อยู่ข้างเธอมาตลอดสี่ปีนับตั้งแต่วันที่โลกใบเดิมของเธอได้เปลี่ยนอย่างไม่มีทางหวนกลับมา

                    “ผมไม่รู้ว่าคุณจะเข้าใจในสิ่งที่ผมได้เคยบอกไปรึเปล่า”

                    “แต่ผมยังอยากจะยืนยันคำเดิม”

                    ร่างเล็กของเด็กสาวทิ้งตัวลงนอนไปบนโซฟา เส้นผมยาวสยายไปทั่วเบาะหนังตัดกับสีของโซฟาได้อย่างชัดเจน ดวงตาสีสวยมีประกายราวกับละอองของดวงดาวส่องสว่างอยู่ข้างในค่อยหม่นแสงลงทีละนิด นิ้วมือทั้งสิบจิกแน่นลงไปบนหมอนใบเล็กกับคำพูดประโยคสุดท้ายของไฟล์เสียงนี้ก่อนจะยกหมอนขึ้นมาปิดหน้า

                    “...ว่าชีวิตของผมนั้นพร้อมสละให้ท่านได้เสมอ”

                    ...และเธอก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า อนาคตข้างหน้าต่อจากนี้จะต้องสูญเสียอะไรไปอีกกับสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตาที่กำลังผูกมัดเข้าด้วยกันจนกลายเป็นปมขนาดใหญ่ที่ยากจะหาทางแก้

     

    - S H A D E S -

     

                    ในวันที่หิมะกำลังโปรยปรายยามค่ำคืนอันมืดมิดไร้แสงจากดวงจันทร์และดวงดาว ข้างในตรอกแคบระหว่างบ้านเรือนตรงนั้นมีร่างของเด็กสาวนั่งกอดเข่าท่ามกลางความหนาวเย็นของฤดูหนาวที่พัดลงมาแต่เหมือนอุณหภูมิภายนอกกลับไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกหนาวได้เลย

                    เสียงฝีเท้าสองสามคู่ที่ย่ำลงบนหิมะเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับแสงสว่างจากโคมไฟที่คอยส่องนำทางไม่ได้เรียกให้เด็กน้อยที่เอาหน้าซุกกับเข่าเงยหน้ามองแม้แต่น้อย จนกระทั่งมีใครบางคนหยุดลงตรงหน้าเธอ

                    “มีเด็กอยู่ตรงนี้...”

                    “ข้าว่านางดูไม่น่าไว้ใจเลย อย่าเข้า...เดี๋ยวสิ!!”หนึ่งในกลุ่มชายเหล่านั้นได้เอ่ยห้าม เมื่อเห็นคนที่กำลังคุยด้วยถอนเสื้อฮาโอริของตนคลุมร่างให้กับเด็กหญิงที่ไม่เคยแม้แต่รู้จักกันมาก่อน อีกทั้งยังดูแปลกประหลาดเกินกว่าผู้คนที่พวกเขาเคยพบเจออย่างไม่นึกรังเกียจ

                    “เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า”เจ้าของเสียงทุ้มนั้นถามเธอ ก่อนจะจับมือเธอพยุงร่างขึ้นมาพลางกระชับเสื้อฮาโอริให้แน่นปกป้องร่างของเธอจากความหนาว

                    ...สิ่งที่ตราตรึงที่สุดในช่วงเวลาที่เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

                    ก็คงเป็นมือของเขาที่กอบกุมเธอเอาไว้...และความอบอุ่นที่ยากจะลืมเลือนในวันนั้น

          เพราะเขา...คนที่เก็บหัวใจที่พังทลายจนไม่เหลือชิ้นดีของเธอขึ้นมาจากพื้น

     

    - S H A D E S –

     

                    ภายในห้องแคบที่มีเพียงแค่เตียงเหล็กเก่ากับเศษกระดาษจำนวนมากที่ถูกฉีกขาดเละเกลื่อนกระจายไปทั่วห้อง แต่เด็กสาวที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของห้องนี้ก็ยังคงนั่งฉีกกระดาษในมือต่อไปอย่างไม่สนใจ ดวงตาที่ดำคล้ำจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจ้องมองเศษกระดาษนิ่งก่อนจะปามันเข้ากับกำแพงหนาและยกขาตัวเองทั้งสองข้างขึ้นมากอดบนเตียง

                    ไม่รู้ว่าเป็นเวลาที่ผ่านมานานเท่าไหร่ที่เธอได้ถูกจับขังอยู่ในสถานที่แห่งนี้ราวกับนักโทษจนไม่สามารถเห็นแสงเดือนแสงตะวันหรือรับรู้เรื่องราวที่เกิดภายนอกได้ว่า ตอนนี้โลกเป็นอย่างไรบ้าง

                    เธอเกลียดตัวเองที่ต้องมีสภาพเป็นอย่างนี้

                    เกลียด

                    เกลียดที่สุด

                    “กรี้ดดดดด!!

                    มือขาวจับรุมทึ้งเส้นผมกระเซอะกระเซิงตัวเองไม่ต่างจากคนเสียสติ ส่งเสียงกรีดร้องระบายความรู้สึกข้างในทั้งหมดที่ไม่มีวันหมดออกไปแม้ว่าจะไม่มีใครจะได้ยินก็ตาม ทำลายข้าวของทุกอย่างในห้องโดยหวังว่าความรู้สึกเธอนั้นจะดีขึ้นซักนิด

                    แต่ไม่เลย...

    มันไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

    แต่กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างยิ่งแย่ลงกว่าเก่า

                    เด็กสาวค่อยทรุดตัวลงกับพื้นอย่างช้าๆ น้ำสีใสค่อยไหลจากดวงตาบวมช้ำอาบแก้มทั้งสองข้าง ริมฝีปากบางสีซีดกัดเม้มแน่นกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ในลำคอ มือที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงของเลือดจากเล็บทั้งสิบที่หักหลังจากเธอใช้นิ้วมือจิกไว้กับพื้นพยายามดึงตัวไม่ให้ไปตามแรงฉุดลากยกขึ้นมาเสยผมหน้าม้าที่ปรกใบหน้า ก่อนเปลี่ยนมาจับที่ปลอกคอสีดำที่ล็อคไว้อย่างแน่นหนา จนกระทั่งเสียงเคาะประตูเหล็กที่เป็นทางเข้าออกเพียงทางเดียวดังขึ้น

                    โครม!!

                    “ออกไปให้พ้น!!

                    เธอหยิบสมุดที่กระดาษข้างในฉีกจนเหลือแค่ปกแข็งๆที่วางอยู่ข้างตัวโยนใส่ประตูอย่างแรง คนที่อยู่อีกด้านเงียบไปซักพักก่อนจะมีเสียงเหมือนมีใครบางคนกำลังจะไขประตูห้อง

                    “บอกว่าให้ออกไปไม่ได้ยิน-

                    เธอหยิบของขึ้นมาเตรียมขว้างอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็หยุดชะงักลงพร้อมกับคำพูดทั้งหมดกลืนหายเข้าไปเมื่อมองเห็นคนที่เข้ามาเป็นหนึ่งในบุคคลที่เธอยังมีโอกาสก็อยากจะพบกันอีกครั้งมาโดยตลอดหลังจากเกิดเหตุการณ์บ้าๆในวันนั้น

          “ผมมารับเธอแล้ว เรากลับไปด้วยกัน...นะ”

     

    _______________________________________

     

                    Talk :

                  รู้สึกแบบเก่ามันดูแปลกๆ ก็เลยหายไปแก้ไขเนื้อเรื่องใหม่

                    คิดว่าตัวละครของเราในเนื้อเรื่องบางจุดดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

                    ก็เลยตัดสินใจรีใหม่ทั้งเรื่องเลย

                 แล้วก็ขอบคุณ คุณโฮคาบากิที่ส่งตัวละครเข้ามา ตอนนี้เตรียมบทให้อิมากิจังเรียบร้อยแล้ว

    B
    E
    R
    L
    I
    N
                  ติชมได้  คอมเมนต์ให้คำแนะนำเพื่อพัฒนาการเขียนได้

     ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน เจอกันใหม่ตอนหน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×