ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (แฟนฟิค บลีช) Baby Pill (อิจิโกะ- ลูเคีย)

    ลำดับตอนที่ #1 : เด็กที่ไม่ตั้งใจให้เกิด ?!?

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 51


    The baby’s pill

    by: renren

    pairing: Ichigo x Lucia

    *..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*

    ที่โซลโซไซตี้ เมืองที่วิญญาณและยมทูตอยู่อาศัย....

    3 ผู้ทรยศจากไป ทิ้งไว้แต่ความกังขาและความไม่ไว้วางใจให้ผู้ที่เหลืออยู่ เศษซากสิ่งก่อสร้างที่ถูกทำลาย รอเวลาบูรณะฟื้นฟูซึ่งรวมไปถึงผู้ที่บาดเจ็บล้มตายจากเหตุการณ์ครั้งนี้

    ความลวงที่เห็นคือความจริง...

    เรียวกะ 4 คนที่บุกเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ คุจิกิ ลูเคีย ถูกหาว่า เป็นฆาตกรที่ลอบสังหาร ไอเซ็น โซสึเกะ และก่อความวุ่นวายทำร้ายเหล่ายมทูตบาดเจ็บมากมาย เป็นตัวอันตราย แต่สิ่งที่เรียวกะพวกนั้นแสดงออกก็ตรงไปตรงมา ไม่มีสิ่งใดเคลือบแฝง

    ความจริงที่เห็นคือความลวง...

    ไอเซ็น โซสึเกะ หัวหน้าหน่วย 5 ที่แสนอบอุ่นใจดี ไม่มีใครคาดถึงว่า จะมีความมุ่งมาดปรารถนา อยากยืนอยู่บนจุดสูงสุดของความสูงส่งอย่างแรงกล้าจนกระทั่งทรยศบ้านเกิดของตน...

    แน่นอน...เช่นเดียวกับ โทเซ็น คานาเมะ หัวหน้าหน่วย 9 ที่รักและนับถือคุณธรรมยิ่งกว่าใครๆก็กลับกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดก่อกบฏร่วมกับไอเซ็น และ อิชิมารุ งิน

    ตอนนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดได้คลี่คลายลงระดับหนึ่ง เรียวกะ 4 คน คือ อิจิโกะ แช้ด อิชิดะ และโอริฮิเมะ พ้นจากข้อสงสัยทั้งหมด และได้รับการต้อนรับจากยมทูตทั้งหลายเป็นอย่างดี ลูเคียก็ถูกปล่อตัวกลับไปเพื่อพักฟื้นให้พลังวิญญาณกลับมาเหมือนเดิม

    วันเดือนก็ผ่านไปตามปกติ

    ณ คฤหาสน์แห่งตระกูลคุจิกิอันสูงศักดิ์ ปลายฤดูร้อนนำความร้อนอบอ้าว สายลมระอุมาสู่ผืนโลก ฝนตกเมื่อวันวานหลงเหลือแอ่งน้ำที่ขังอยู่เป็นบางที่ แต่อากาศวันนี้ก็ปลอดโปร่งแจ่มใสไม่มีเมฆตั้งเค้า ดอกไฮเดรนเยีย ที่ปลูกเอาไว้ในสวนริมสระน้ำเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาหลังจากได้รับน้ำฝนอันเย็นชื่นชูช่อดอกสีม่วงและสีชมพูอ่อนตอนรับยามเช้า ดอกโบตั๋นบริเวณริมน้ำชูช่อดอกสีแดงสดบานสะพรั่งไปทั่ว กลีบดอกบางส่วนร่วงหล่นลงพื้นน้ำแปรเปลี่ยนให้น้ำในสระกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เสียงจักจั่นที่เกาะที่ต้นสนส่งเสียงระงมไปทั่วบริเวณ

    แต่ในขณะที่ฤดูกาลอันแสนวิเศษกำลังเริ่มต้นอย่างแช่มช้า กลับมีคนๆหนึ่งที่ดูจะไม่มีความสุขกับการที่เกิดฤดูกาลเปลี่ยนแปลงเช่นนี้

    “ฮะ...ฮัดเช้ย!!!!” เสียงจามเล็กๆดังขึ้นมาในห้องพักของน้องสาวบุญธรรมเจ้าบ้านคุจิกิคนปัจจุบัน...คุจิกิ ลูเคีย...ที่ยังนอนนิ่งอยู่บนฟูกนอนของตัวเอง ร่างกายหนักอึ้ง ใบหน้ารู้สึกร้อนและแดงเรื่อด้วยพิษไข้ แถมมีเหงื่อออกชุ่มร่างจนรู้สึกเหนียวเหนอะไปหมด

    “แย่จังแฮะ ทั้งๆที่ข้าชอบฤดูร้อนแท้ๆ แต่ดันเป็นหวัดซะได้” ลูเคียถูจมูกไปมา เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เธอจะเป็นหวัดบ่อยๆตอนที่อากาศเปลี่ยนในแต่ละครั้ง

    ทุกทีแค่กินส้มเปรี้ยวๆสัก 2-3 ผล กับนอนพักแต่หัววันก็ทำให้หวัดหายไปได้ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าวิธีแค่นั้นจะไม่ทำให้หายชะงัดถนัดใจได้เหมือนทุกๆครั้งอีก

    “โอ๊ย....ปวดหัวจังเลย” เด็กสาวครางเสียงอ่อยๆ พร้อมเอามือกุมขมับตัวเองไว้ ทำให้เจ้าตัวอยู่ในสภาพตายนึ่งจมฟูกนอนสมบูรณ์แบบ

    แม้ตอนนี้หัวหอมน้อยจะป่วยหนักแค่ไหน เธอก็ไม่อยากให้เบียคุยะต้องห่วงเธอไปมากกว่านี้อีกแล้ว

    ตอนนี้ เบียคุยะ ผู้เป็นพี่ชายจะไม่มีท่าทีที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยเธอจนออกหน้าออกตามากนัก แต่เธอก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเจ้าบ้านหนุ่มที่เปลี่ยนไปทีละน้อยๆโดยไม่มีใครแทบสังเกตเห็น แม้กระทั่ง เร็นจิ รองหัวหน้าที่อยู่ใกล้ชิดเบียคุยะแทบจะตลอดเวลาก็ตาม

    ไม่ได้...เราจะมาทำตัวอ่อนแอให้เป็นภาระของใครๆไม่ได้อีกแล้วนะ คุจิกิ ลูเคีย

    เด็กสาวย้ำเตือนกับตัวเองเช่นนั้น ก่อนจะเหลือบมองไปที่ข้างตัว ซึ่งมีขวดยาที่เธอซื้อมาจากร้านของอุราฮาร่า คิสึเกะ ก่อนหน้าที่จะโดนจับตัวกลับมา และได้รับคืนมาพร้อมๆกับตอนที่เหตุการณ์ร้ายจบลงและเธอถูกปล่อยตัว

    ตอนแรกเจ้าตัวก็ไม่ได้เชื่อถือหรือแม้กระทั่งจะไว้วางใจไอ้ยาพิลึกๆที่อุราฮาร่าเป็นคนปรุงขึ้นมานักหรอก แต่จากปากคำที่ได้มาจาก คุโรซากิ อิจิโกะ ยมทูตนอกคอกผมสีส้มก็เคยยืนยันมาว่า ยาที่อุราฮาร่าทำมาได้ผล และ “ไม่น่า” จะเกิดผลข้างเคียงใดๆ และตัวเธอเองก็เคยลองให้เร็นจิกินไปแล้ว 2-3 เม็ด ก็ยังปกติดี

    “เก็บไว้เถอะน่า ชั้นว่ายานี่ต้องเป็นประโยชน์กับเธอแน่ๆ” เด็กหนุ่มผมส้มว่าไว้เช่นนั้น

    อุราฮาร่าเคยหลอกใช้เธอให้เป็น “ภาชนะ” เก็บโฮเงียคุ และเกือบทำให้เธอต้องสูญเสียพลังกดดันวิญญาณที่มีไปทั้งหมด แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่า ที่คนๆนั้นทำไปก็เพื่อความปลอดภัยของโลกมนุษย์และโซลไซตี้ ดังนั้น จึงไม่เหลือความโกรธแค้นแม้แต่ส่วนเสี้ยว....

    และไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยอมกินยานั้นให้หายไวๆด้วย...

    เพื่อความสบายใจของทุกคน....

    ลูเคียตัดสินใจหยิบยาขึ้นมาหนึ่งเม็ดจากขวดนั้น เม็ดยาสีดำแวววาวรูปไข่ขนาดเล็กถูกสายตากลมโตจ้องมองไปมาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะใส่มันเข้าไปให้ปากพร้อมกับกลืนน้ำตามไปอึกใหญ่

    “อุ...” ฤทธิ์ยานั้นก่อความคลื่นเหียนให้เด็กสาวอยู่พักใหญ่จนเอามือปิดปากไว้ แต่อาการนั้นก็เกิดขึ้นไม่ถึง 3 นาที อาการเหล่านั้นก็หายไป พร้อมกับกำลังวังชาที่กลับคืนมา อาการไข้หวัดที่เคยมีก็หายสิ้น

    “หายจริงๆด้วย ไม่ปวดหัวแล้ว” ลูเคียเบิกตาพร้อมกับเอามืออังที่หน้าผากตัวเองไว้ “ตัวก็ไม่ร้อนด้วย”

    “ยานี่ได้ผลจริงๆแฮะ”

    “ขอบใจนะ อุราฮาร่า” เด็กสาวยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำให้สดชื่น แต่งตัวยูคาตะสีกลีบดอกบัวปักลายด้วยไหมทองที่เธอไม่เคยรู้ว่าพี่ชายของเธอเป็นสั่งตัดชุดนี้ให้อย่างเงียบๆ เพราะรู้ตัวอีกทีมันก็มานอนอยู่หีบใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้ว

    เพื่อไปพบใครคนหนึ่ง...

    เพื่อขอบคุณ...ที่ไม่ให้เธอถืออคติจนเกินไป

    *..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*

    หน่วย 11 / โรงฝึก

    “มาคิมาคิ สู้ตาย!!!!”

    เสียงเล็กๆเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงผมสั้นสีชมพูที่เป็นสมาชิกหญิงเพียงคนเดียวของหน่วยรบที่แข็งแกร่งที่สุดในโซลไซตี้ กำลังส่งเสียงเชียร์ยมทูตคนสนิทที่กำลังทำหน้าเหมือนหมาป่วย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอดีตเรียวกะที่เคยเอาชนะ หัวหน้าหน่วยของตนและหัวหน้าหน่วย 6 อย่างราบคาบมาแล้ว

    //อย่าเชียร์ข้าเลยคร้าบ รองคุซาจิชี้~~~// เจ้าของฉายา “มาคิมาคิ” โอดครวญในใจ ดาบไม้ที่ถือในมือสั่นพั่บๆจนน่าสงสาร

    //แค่นี้ความซวยยังไม่ตามมาจี้ตรูดข้าพออีกเร้อ!!!!//

    “พอเหอะน่า ยาจิรุ แค่นี้เจ้านั่นก็ทำหน้าใกล้ตายจะแย่อยู่แล้ว” อิจิโกะทำหน้าเหนื่อยหน่าย “เอางี้ ไม่ต้องใช้ดาบสู้ เรามาสู้ด้วยมือเปล่าก็แล้วกัน”

    อิจิโกะจัดการโยนดาบไม้ในมือให้อิกคาคุรับไว้ ก่อนจะยืนนิ่ง เตรียมรอรับการการโจมตีต่อจากนี้

    มาคิมาคิแทบเก็บอาการลิงโลดไว้ไม่อยู่ อย่างน้อยเรื่องหมัดมวยก็ใช่ว่าเขาจะเป็นรอง ถ้าเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่มีดาบอยู่ในมือ ก็เหมือนขุนศึกดีไร้อาวุธ พยัคฆาไร้เขี้ยวเล็บดีๆนี่เอง

    “จะดีเหรอครับ เรื่องหมัดมวยข้าเคยเอาชนะพวกในหน่วยมาเยอะนะครับ” ไม่วายยกตนข่มไว้ก่อน

    “เออน่า เข้ามาซะที” อิจิโกะยิ้มร้ายให้

    ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    มาคิมาคิพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูง

    ผลั่ก!!!!!

    แล้วก็ถูกทุ่มลงสู่พื้นอย่างสวยงาม

    “อิปป้ง” อิกคาคุเอ่ย ก่อนจะปรายตาไปยังผู้เคราะห์ร้ายที่นอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นกระดานโรงฝึก “เป็น เซโออิ(ท่าทุ่มข้ามไหล่)ที่ไม่เลวแฮะ”

    “ก็งั้นๆ” อิจิโกะตอบ “ไปแอบครูพักลักจำตอนพวกชมรมยูโดเขาซ้อมน่ะ”

    “งั้นลองพวก จูจิทซึ มั้ยล่ะ?” ชายหัวใสปิ๊งลุกขึ้น ก่อนจะเดินมาหาเด็กหนุ่ม “ทุ่ม ทับ จับ หัก รวมศิลปะการต่อสู้ทุกอย่าง แม้กระทั่งการควักลูกตาคู่ต่อสู้ก็ไม่ถือเป็นการผิดกติกา”

    “ก็เอาสิ” อิจิโกะท้า “ชั้นไม่ได้แตะพวกคาราเต้มานานแล้ว เคาะสนิมออกบ้างก็ไม่เลว”

    “เหรอ?” สายตาคมกริบของอิกคาคุจ้องกลับมา ก่อนร่างนั้นจะหายไปจากครรลองสายตาของอิจิโกะ เด็กหนุ่มรู้ตัวอีกทีอิกคาคุก็เข้ามาประชิดตัว มือแกร่งคว้าคอเสื้อของเขาแน่น “งั้นก็มาเริ่มกันเลย”

    “ชิ” อิจิโกะคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายทันก่อนที่จะทุ่ม รักษาการทรงตัวของตนเองเอาไว้ เมื่อจะถูกอิกคาคุทุ่ม เขาหมุนตัวกลางอากาศลงยืนบนพื้นได้ พร้อมกับใช้แรงที่มีเหวี่ยงอีกฝ่ายให้ลงกับพื้น แต่อิกคาคุก็ทนทายาด ที่ทั้งคู่ทำได้คือต่างฝ่ายต่างยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่ สูสีจนดูไม่ออกว่าใครจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไปครอง

    ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มทั่วโรงฝึก เด็กสาวนางหนึ่งก็ปรากฏตัวตรงหน้าประตู แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น

    “สนุกจริงนะ อิจิโกะ” ลูเคียพึมพำเบาๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มพอใจของเด็กหนุ่มผมส้ม

    ทั้งๆที่อิจิโกะเป็นคนยืนกรานเสียงแข็งแท้ๆ ว่าหัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ขอเหยียบเข้าหน่วย 11 เป็นเด็ดขาด เนื่องจากขี้เกียจจะสู้กับ ซาราคิ เคมปาจิ ที่ประกาศเสียงกร้าวว่าเมื่อไหร่ที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บ จะขอสู้ด้วยอีกครั้ง

    แต่ก็ไม่วายแอบมาตอนที่เคมปาจินอนกลางวัน มาที่โรงฝึกเพื่อออกกำลังเรียกเหงื่ออย่างสนุกสาน กับคนประเภทเดียวกันที่เคยต่อสู้ เคยเป็นศัตรูห้ำหั่นกันมา

    “อ๊ะ!” ลูเคียหน้ามืดไปชั่วขณะหนึ่งเนื่องจากเพิ่งฟื้นไข้ แม้ยานั้นจะดีเพียงใดก็ตาม ร่างเล็กทรุดฮวบใช้ขอบประตูเป็นหลักพิง

    “ท่านหญิงคุจิกิ!” ชินโง เด็กหนุ่มตัวเล็กที่เห็นความผิดปกติของเด็กสาวรีบวิ่งเข้าไปหาลูเคียคนแรก

    “อะไรนะ ลูเคียเหรอ?” อิจิโกะเลิกคิ้ว จนอิกคาคุเห็นช่องโหว่ มือที่จับคอเสื้ออิจิโกะแน่นยกสูงขึ้นทั้งๆที่ยังจับเนื้อผ้าตรงคอเสื้อให้อยู่ในระดับสายตาของยมทูตผมส้ม นิ้วหัวแม่มือที่ว่างพุ่งเข้าหาอิจิโกะทันที

    เป้าหมายคือ...ควักลูกตา....

    “ช้าไปต๋อย” อิจิโกะเบี่ยงตัวหลบได้ทัน ฉวยจังหวะตอนที่อิกคาคุยังคงตกตะลึงอยู่

    โป๊ก!!!!

    โขกหน้าผากตัวเองกับหัวของอิกคาคุเต็มรัก

    “อู๊ยยยย!!!!!! ทำไมนายหัวแข็งงี้ฟะ?”

    คนที่โขกกลับเป็นคนที่เจ็บเสียเอง อิจิโกะลงไปนอนดิ้นพราดเหมือนแมลงสาบโดนไบกอน เอามือกุมหน้าผากด้วยความเจ็บ

    “ถ้าจะเล่นวิธีนี้กับข้า ไปฝึกวิชา ศีรษะเหล็กที่วัดเส้าหลินให้หัวเจ้าแข็งกว่านี้ซะ แล้วค่อยมาว่ากัน” อิกคาคุยิ้มอย่างมีชัย ศีรษะส่งประกายปิ๊งแว๊บการันตีความแข็งและเป็นมันเงาของผู้เป็นเจ้าของ

    ชนะได้เพราะ “เหม่ง” ตัวเองแท้ๆ

    “ว่าแต่ลูเคียจังมาทำไมน่ะ ร่างกายยังไม่แข็งแรงดีแท้ๆ” ยูมิจิกะชะเง้อหน้ามองอย่างสงสัย

    “เออ จริงสิ ลูเคีย!” อิจิโกะลืมเจ็บวิ่งเข้าไปดูอาการเด็กสาวที่ยังนั่งจุ้มปุ๊กที่พื้น “ยัยบ้าเอ๊ย ร่างกายยังจวนเจียนปลิวลมอยู่รอมร่อยังออกมาเดินอีก”

    “เป็นห่วงเขางั้นเหรอ?” อิกคาคุเอ่ยเสียงเรียบๆ มองตามอิจิโกะที่อุ้มเด็กสาวไปนั่งตรงมุมห้องที่ติดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท

    “เปล่าเฟ้ย!!!!” อิจิโกะตวาดแว้ด

    “อือ...”ลูเคียลืมตาขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายข้างหู “พวกเจ้ามาทำอะไรกันเนี่ย?”

    “เธอเป็นลมไปยังมาถามว่าพวกชั้นมาทำอะไรอีกเหรอ?” เด็กหนุ่มกุมขมับ “ยัยปลาทองเอ๊ย”

    “เจ้าว่าใครเป็นปลาทอง!” ลูเคียเถียงๆๆ

    “นี่ไง ตาก็โต แก้มก็เริ่มย้อยหน่อยๆแล้ว” อิจิโกะจิ้มแก้มของลูเคียเบาๆ “ได้ซากุระ เร่งสี เร่งวุ้น เร่งโต หน่อยล่ะก็ ตัวละหลายแสนเยนเลยนะเนี่ย”

    ลูเคียโกรธจนควันออกหู นับหนึ่งถึงร้อยก็เอาไม่อยู่แล้ว

    “เออนี่ ลูเคีย มาก็ดีแล้ว” อิจิโกะโพล่งขึ้นมา

    “อะไร?” ลูเคียกัดฟัน

    “ไปกิน...น้ำแข็งไสกัน”

    “หา????” เด็กสาวตาโต

    “เออน่า ไปเหอะ” อิจิโกะพูดพลางดันหลังลูเคียให้เดินออกไป ท่ามกลางเสียงเป่าปากแซวกันอย่างมันส์ปาก

    “คิกๆ ข้านึกว่าไอ้คนที่อยากสอยดอกฟ้าจะมีแต่อาบาราอิคุงซะอีกแฮะ” ยูมิจิกะหัวเราะกิ๊ก

    “ใครว่า เจ้านี่ไม่ได้คิดสอย แต่มันเด็ดลงมาแล้วล่ะ” อิกคาคุหันไปแซว

    “วี้ดวิ้ว~~ พยายามเข้านะ คุโรซากิ เผด็จศึกให้ได้เลย” ชินเร สมาชิกมีลำดับของหน่วย 11 ป้องปากแซวตาม

    “พวกแก....” อิจิโกะมองตามด้วยสายตาอาฆาต “กลับมาพ่อฆ่าไม่เลี้ยงแน่”

    *..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*

    ทั้งคู่เดินมาถึงร้านขนมคุริยะ ร้านขนมเจ้าอร่อยที่ลูเคียเป็นคนแนะนำ ซึ่งปกติร้านนี้จะขายแต่พวกขนมที่ทานคู่กับน้ำชา อย่างไดฟุกุ โมจิ รวมไปถึงโมนากะไส้กากสาเกหมักที่เป็นของขึ้นชื่อของร้าน แต่เพื่อให้เข้ากับฤดูกาลที่ร้อนสาหัสสากรรจ์ ร้านนี้จึงทำน้ำแข็งไสราดน้ำหวานเย็นชื่นใจให้ลูกค้าคลายร้อนกันอีกด้วย

    “ขอบใจสำหรับข้าวแกงกะหรี่วันก่อนนะ”

    อิจิโกะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนหลังจากที่เขากับลูเคียนั่งละเลียดน้ำแข็งไสรสมะนาวเงียบๆอยู่นาน ซึ่งไม่นับรวมขนมที่สั่งมาจนเกินพิกัดจนแน่นโต๊ะไปหมด

    “เอ๋?”

    ลูเคียพอเดาได้คร่าวๆแล้วว่าเหตุใดอิจิโกะจึงเกิดอยากพาเธอมาเลี้ยงน้ำแข็งไสแบบนี้

    สิ่งที่อิจิโกะพูดถึงคือเรื่องที่ลูเคียทำชิราทามะเซ็นไซไปให้เบียคุยะ แต่เธอเพิ่งนึกได้ว่าพี่ชายของเธอไม่ทานของหวาน เธอจึงกลับไปทำข้าวแกงกะหรี่ แต่ก็ได้รับคำแนะนำจากอุโนะฮานะว่า ตอนนี้สภาพร่างกายของเบียคุยะไม่พร้อมที่จะทานของเผ็ดร้อน ดังนั้นข้าวราดแกงกะหรี่จานนี้จึงตกเป็นลาภปากของเขากับเร็นจิแทน

    “ย...อย่าเข้าใจผิดนะเฟ้ย ชั้นก็แค่ไม่อยากให้เราสองคนมีหนี้ติดค้างกันอีก...ก็เท่านั้น” อิจิโกะพูดพลางจ้วงน้ำแข็งไสคำโตเข้าปาก ความเย็นของน้ำแข็งทำให้จี๊ดตรงต้นคอจนต้องตบแรงๆ

    “คิดเล็กคิดน้อยน่ารำคาญน่า เจ้าเด็กน้อย” ลูเคียทำสีหน้าเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็กเล็กๆ “เรื่องข้าวแกงกะหรี่น่ะ มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้นี่นา ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำไปให้เจ้ากินซะหน่อย”

    “เออๆ ไม่ต้องพูด กินๆไปเถอะ” อิจิโกะหรี่ตามอง ก่อนจะเบิกตามองเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง

    “อะไร? ทำหน้าเป็นปลาคาร์พแบบนั้นทำไม?” ลูเคียเลิกคิ้ว ยิ่งแปลกใจหนักขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มยื่นมือเข้าใกล้ใบหน้าของเธอ

    เศษขนมชิ้นเล็กๆติดมาที่ปลายนิ้วของอิจิโกะมาเมื่อเขาใช้มันเช็ดที่แก้มของลูเคียครู่หนึ่ง

    “อ๋อ...ที่แท้ก็...”

    ลูเคียยังไม่ทันพูดอะไรก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อเห็นอิจิโกะหยิบเศษขนมชิ้นนั้นเข้าปาก

    “เจ้า...”

    “กินขนมติดแก้มเป็นเด็กๆไปได้ ระวังๆหน่อยสิ” อิจิโกะเอ่ยขึ้น

    “เจ้าเองก็เหมือนกันน่ะแหละ กินซะจนขนมติดปากเหมือนเด็กๆเหมือนๆกันน่ะแหละ” ลูเคีย แล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยื่นมือยื่นหน้าไปใกล้เพื่อจะได้หยิบชิ้นขนมนั้นออกมาบ้าง…

    ผลั่ก!

    “ว้าย! ขอโทษค่ะๆ” ทาเอะ เด็กสาวที่เป็นลูกจ้างของร้านรีบร้อนหยิบขนมไปวางหน้าร้านจนชนเข้ากับแผ่นหลังเล็กของลูเคีย “เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

    ทาเอะหันไปดูก็พบว่า ลูเคียอยู่ในสภาพชะงักค้าง....

    พร้อมกับริมฝีปากนั้นสัมผัสเข้ากับริมฝีปากของอิจิโกะ....พอดี...

    “....เอ้ย!” อิจิโกะเองดูท่าจะตกใจไม่แพ้กัน เขาจับหัวไหล่สองข้างของลูเคียแล้วผลักออกมา

    “เอ่อ...”ลูเคียที่หน้าแดงแจ๋ ไม่กล้าแม้กระทั่งสบตากับอิจิโกะเลยแม้แต่น้อย

    “....” เด็กหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า

    “เปรี้ยวๆหวานๆ เย็นๆดีแฮะ”

    ปุ้ง!! อุณหภูมิใบหน้าของลูเคียถึงจุดสูงสุด จนรู้สึกหน้ามันจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ

    “จะ...เจ้าบ้า!!!!!!!!!!!!”

    ............................
    ......................................

    “เจ้าบ้า เจ้าลามก เจ้าหน้าโง่อิจิโกะ!!!!!!” ลูเคียโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนมาลงอารมณ์เอากับตุ๊กตาจั๊ปปี้ที่วางไว้อยู่ตรงมุมฟูกนอน หลังจากเดินหน้างอกลับมาที่บ้าน

    //“เปรี้ยวๆหวานๆเย็นๆดีแฮะ”//

    คำพูดที่ดูเหมือนไม่ได้รับการไตร่ตรองมาก่อนของอิจิโกะเข้ามาในความทรงจำยิ่งทำให้ลูเคียหน้าแดงก่ำจนร่างกายเหมือนจะเป็นไข้

    ทำไมข้าต้องคิดถึงเจ้านั่นด้วยนะ

    เรื่องจูบนั่น...มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญแท้ๆ

    ทำไม...

    ตึก...ตัก!!

    “อึ๊ก...”

    เสียงอัตราหัวใจที่ผิดปกติของลูเคียดังขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุจนต้องเอามือมากุมไว้ ระบบภายในปั่นป่วน เหงื่อเย็นไหลอาบ

    เหมือนวิญญาณจะแยกออกมาเป็นเสี่ยงๆ.....

    “อุ๊บ!” เด็กสาวงอตัวลงด้วยความเจ็บปวด ร่างกายร้อนระอุจนรู้สึกได้ถึงไอระเหยบางๆ รับรู้ได้ถึงความป่วนปั่นภายในร่างกาย เสียงเล็กๆเบาๆดังขึ้นเป็นจังหวะภายในนั้น

    เสียงชีพจร...เสียงหัวใจของมนุษย์....อีกดวงหนึ่ง

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

    รึว่า...เป็นเพราะยาของเจ้านั่น...อุราฮาร่า....

    “อึ๊ก...” สุดท้ายก็หยุดความคิดไว้แค่นั้น ความเจ็บปวดนั้นเอาชนะได้จนร่างเล็กต้องนั่งลง ขาทั้งสองข้างชันขึ้น แขนข้างหนึ่งกอดตัวเองไว้ พยายามคิดว่าเรื่องต่างๆอาจเป็นเพียงอุปทาน

    รู้สึกตัวอีกที ลูเคียก็เห็นแสงสีฟ้าอ่อนๆสาดส่องเข้าตาที่กำลังจะปิดลง ภายในแสงนั้นก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์ ซึ่งมันก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

    “อะไร...กัน?” ลูเคียเบิกตากว้าง เมื่อร่างนั้นชัดเจนขึ้นในสายตาของตน

    เด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่งนั่งจุ้มปุ๊กอยู่เบื้องหน้านาง ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตสะท้อนเข้ากับแสงจันทร์นวลผ่องที่สาดลอดผ่านจากหน้าต่าง....

    และ...ผมที่สั้น...สีส้มสว่าง....

    เหมือนอิจิโกะ....

    -โปรดติดตามตอนต่อไป-

    ดึ่งดึง ดึ่งดึงดึงดึ่งดึ่ง....(กำลังเต้นท่า เท่ง เถิดเทิง ด้วยอารมณ์บ้าบอที่ยังตกค้าง)

    ปล. อ่านแล้วเม้นจะเป็นพระคุณค่ะ =/\=
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×